ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic exo] How to get your (older) boyfriend {Chanyeol x Kai}

    ลำดับตอนที่ #6 : บันทึกคั่นหน้าบทที่ 1 พยอนแบคฮยอน ง้อ โดคยองซู

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ค. 57


    บันทึกคั่นหน้าบทที่ 1

    พยอนแบคฮยอน ง้อ โดคยองซู

     

     

     

    “คยองซู!! รอก่อนสิ” เสียงของแบคฮยอนดังขึ้นข้างหลังทำให้คยองซูต้องหันกลับไปมองด้วยแววตานิ่งๆ ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อไปโดยไม่สนใจคนรักที่วิ่งตามมา

    “คยองโกรธอะไรเราวะ เราทำอะไรผิด” แรงรั้งแขนทำให้คยองซูหันมาปรายตามองอย่างเย็นชาอีกครั้งก่อนจะพยายามสลัดแขนออกจากการเกาะกุม

    “ปล่อยได้แล้ว ไม่เดินหนีแล้วพอใจรึยัง”

    “เป็นอะไรรึเปล่า” แบคฮยอนถามเสียงอ่อนเมื่อเห็นว่าคนรักตัวเล็กของตนยอมอยู่นิ่งๆ เขาใช้ฝ่ามือที่กว้างกว่าของตนคว้าจับเข้าที่มือของอีกคนแล้วบีบเบาๆ

    “ไม่ได้เป็นอะไรหรอก แค่รำคาญแก ไปอยู่เป็นก้างคู่นั้นอยู่ได้”

    “คู่ไหนวะ” คยองซูพรูลมหายใจออกมาช้าๆ ก่อนจะยกมือฟาดหัวแบคฮยอนแรงๆ อย่างเอือมระอา

    “โต๊ะคู่กับเก้าอี้มั้ง คิดหน่อยสิวะจะถามอะไร” ตาโตๆ กับพื้นที่ตาขาวที่มากกว่าคนอื่นของ คยองซูแทบจะถลนออกมานอกเบ้าจนแบคฮยอนที่ร้องโอดโอยอยู่เปลี่ยนมายิ้มและหัวเราะออกมาดังๆ

    “อ๋ออออออออ คึคึ” แบคฮยอนอ้าปากกว้างรูปสี่เหลี่ยมจนคยองซูอดที่จะเอานิ้วแหย่ปากแกล้งไม่ได้ ก่อนที่นิ้วนั้นจะถูกคนรักและเพื่อนสนิทในเวลาเดียวกันดึงไปกุมไว้

    “แก๊ซเฉื่อยแบบคู่นั้นมันต้องมีตัวเร่งปฏิกิริยาบ้างเว่ย ดูไคย่าสิ แค่เห็นขาโก่งๆ หูกางๆ ของไอ้ชยอลก็ทำหน้าเหมือนจะขาดอากาศหายใจตาย อะไรจะเขินขนาดนั้น” คยองซูที่คิดภาพตามอยู่ถึงกับต้องลอบยิ้มเพราะมันจริงแบบที่แบคฮยอนว่า

    “ส่วนไอ้สูงหูกางเป็นจานดาวเทียมนั่นก็ไม่รู้ว่ารู้สึกรู้สาอะไรกับเค้าบ้างไหม เอ หรือว่ามันตายด้านวะคยอง” แรงตีหนักๆ ที่แขนจากคยองซูทำให้เขาต้องบึนปากใส่คนตัวเล็กกว่างอนๆ

    “พูดผิดตรงไหนวะ ขนาดยัยน้องนาอึนนาปรังอะไรนั่นออกตัวแรงจะตาย จีบแล้วจีบอีกอ่อยแล้วอ่อยอีก ไอ้ชยอลยังไม่รู้ตัวเลย”

    “โฟกัสจังเลยนะเรื่องชานยอลน่ะ ถ่านไฟเก่าคุรึไง ?” คยองซูเลิกคิ้วให้แบคฮยอนเป็นเชิงถามพลางกระตุกนิ้วและมือที่ถูกอีกคนกุมไว้เบาๆ เป็นเชิงให้ปล่อยได้แล้ว

    “คยอง อย่าคิดมากดิ่ เรื่องของเรากับไอ้ชยอลมันจบไปตั้งนานแล้ว”

    “เรารู้แต่แกก็อย่าลืมว่าแกกับมันเคยรักกันมากแค่ไหน เวลาแกอยู่กับมัน แกเป็นตัวเองขนาดไหน แม้แต่เรายังเข้าไปแทรกไม่ได้เลยแบค แกน่าจะรู้ดี” แบคฮยอนบีบมือคยองซูอีกครั้ง เขาสบลึกเข้าไปในดวงตาโตคู่สวยนั่นอย่างแน่วแน่

    “ขอโทษว่ะ แต่ตอนนี้มีแค่คยองซูที่เรารัก” เขาก้มลงกระซิลข้างหูคยองซูด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนจะผละออกมามองจ้องคนตัวเล็กกว่าที่แก้มเริ่มขึ้นสีแดงแต้มนิดๆ

    “เอ้ออ เราเชื่อแล้ว พอได้แล้ว ไม่ต้องโชว์แมนมากหรอก” แรงทุบไม่เบานักที่แขน ทำให้แบคฮยอนยิ้มอย่างอารมณ์ดีอีกครั้ง รู้สึกว่าทั้งๆ ที่มันเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่ทำไมคยองซูถึงทำให้เขายิ้มได้บ่อยขนาดนี้นะ

    “กลับบ้านได้แล้ว นี่ก็ดึกมากแล้ว”

    แบคฮยอนจับมือคยองซูแล้วดึงเบาๆให้ออกเดินไปพร้อมกัน เขามองบรรยากาศรอบๆ แล้วกลับมามองหน้าคนที่เดินข้างตัวอีกรอบ ความเงียบที่โรยตัวเข้าปกคลุมรอบคนทั้งสองไม่ได้สร้างความอึดอัดใจแต่อย่างใด มีแต่ทำให้คนทั้งคู่ได้ยินเสียงหัวใจตนเองชัดขึ้น

    “เราถามไรหน่อยดิ่แบค” หลังจากเดินเงียบๆ กันมาสักพัก คยองซูก็เอ่ยขึ้น

    “อ่าฮะ ถามดิ่”

    “ทำไมตอนนั้น.. แกถึงได้เลิกกับชานยอลวะ”

    “ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่รู้สึกว่าเหมาะจะเป็นเพื่อนกันมากกว่า” คำถามของคยองซูทำให้เขาคิดย้อนไปถึงอดีตในวันวาน

    อดีตที่เขาเคยคบกับชานยอล

     

    ย้อนกลับไปเมื่อสมัย 9 ปีที่แล้ว ที่พวกเขายังเป็นแค่เด็กไฮสคูลมัธยม D โรงเรียนชายล้วนชื่อดังและกำลังมีความสุขอยู่ในรั้วโรงเรียนที่ปกป้องพวกเขาจากโลกภายนอกอันโหดร้าย แบคฮยอน เด็กผู้ชายหน้าหวานเหวี่ยงตาคมเฉี่ยวประดุจพรีเซนต์เตอร์อายไลน์เนอร์และชานยอล ไอ้เอ๋อหูกางขาโก่งตาโตไปวันๆ เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เกรด 7 ได้มาพบกับคยองซู เด็กผู้ชายตัวเล็กตาขาวเยอะที่เพิ่งย้ายมาเรียนที่เดียวกันห้องเดียวกันตอนเกรด 10 และได้สนิทสนมกลายเป็นแก๊งเดียวกันในที่สุด หลายๆ คนอาจมองความสัมพันธ์นี้แค่ฉันท์เพื่อน บ้างก็มองว่าสามพี แต่ความจริงมันไม่ใช่เพราะคยองซูก็รู้ว่าเขากับชานยอลน่ะ ลึกซึ้งกันมากกว่าเพื่อน

    ใช่ เขากับชานยอลคบกัน ตั้งแต่เกรด 8 แล้วล่ะ

    ความสัมพันธ์ของเขาสองคนไม่ว่าจะก่อนคบกันหรือหลังคบกันแล้วยังคงเหมือนเดิม เหมือนเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจกันไปซะทุกเรื่อง จึงไม่แปลกที่ไม่มีใครระแคะระคายความสัมพันธ์ของเขาเลย แต่คยองซูรู้เพราะแบคฮยอนเต็มใจบอก เขาไม่อยากให้คยองซูอึดอัดและยังกลัวอีกด้วยว่าคยองซูจะรู้สึกเหมือนโดนตัดขาดและทิ้งให้อยู่เดียวดายในกลุ่ม 3 คน

    แบคฮยอนกับชานยอลรู้จักกันดีเกินไป แค่มองตาก็รู้ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดหรือรู้สึกแบบไหน ไม่จำเป็นต้องพูด ยากเหลือเกินที่จะมีใครแทรกเข้าไประหว่างเขาทั้งสอง

    แต่ก็ใช่ว่าช่องว่างตรงกลางนั้นจะไม่มี

    คบกันแบบคนรักเรื่องความสัมพันธ์ทางกายคงเป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธ (ซึ่งคยองซูแอบเหน็บแนมว่าได้กันเร็วเกินไปตั้งแต่ยังไม่เป็นเยาวชนด้วยซ้ำ) เขากับชานยอลมีเซ็กส์กันครั้งแรกตอนเกรด 10 และมักจะมีเซ็กส์กันบ้างตามสถานการณ์พาไป อาทิ ตอนที่เช่าหนังเอวีมาดูด้วยกันแล้วตั้งเคารพธงชาติกันทั้งคู่ ไม่ก็เมาตอนไปเลี้ยงวันเกิดเพื่อน

    มันก็แปลกดีที่ทั้งเขาและชานยอลไม่ค่อยมีอารมณ์ด้วยกันเท่าไหร่ถ้าหากไม่มีอะไรมากระตุ้น (เช่นหนังเอวีและแอลกอฮอล์) ชานยอลไม่เคยรู้สึกโหยหาร่างกายของเขา ไม่เคยรู้ว่าสัมผัสตรงไหนเขาจึงจะรู้สึกดี เหมือนกับที่แบคฮยอนไม่เคยรู้สึกอยากแต่งชุดคอสเพลย์พยาบาลขึ้นไปคร่อมแล้วยั่วให้ชานยอลรักตนแรงๆ บนเตียง

    มันเป็นแค่จุดจุดหนึ่ง ที่เป็นช่องว่างเล็กๆ ของชีวิตรักที่นำมาซึ่งจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ ความรักที่ไม่หวือหวาอยู่แล้วยิ่งนานวันยิ่งเรียบเฉยเหมือนน้ำนิ่งที่อยู่ในอ่าง ที่ต่อให้ตีน้ำให้หมุนวน เกิดฟองแตกกระจายแค่ไหน สุดท้ายมันก็กลับมานิ่งสงบเหมือนเดิม

    และอีกเหตุผลหนึ่งเพราะโด คยองซู

    คนที่เข้ามาแทรกกลางระหว่างช่องว่างนั้น โดยที่คยองซูเองก็ไม่รู้ตัว

    แบคฮยอนไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่สายตาของเขาต้องคอยมองหาเพื่อนตัวเล็กคนนี้เสมอ คอยไต่ถามเป็นห่วง เล่นหัวหยอกเอิ้น ไม่ใช่แบบที่เล่นล้างผลาญประหนึ่งอยากให้กระดูกคอหักแบบที่เล่นกับชานยอล แต่เป็นการเล่นแบบเอ็นดูทะนุถนอม

    แบคฮยอนเป็นห่วงคยองซู อยากปกป้อง อยากดูแล

    ความรู้สึกนี้มันมากขึ้นจนตีรื้นขึ้นมาเต็มอก สุดท้ายแบคฮยอนหมดความอดทนและเอ่ยปากบอกเรื่องนี้กับชานยอลในที่สุด ชานยอลไม่โกรธและไม่ได้ต่อว่าแต่กลับรับฟังอย่างเข้าใจและอภิปรายเหตุผลต่ออย่างละเอียด(?) ทุกบทสนทนาในหัวข้อที่ว่า แบคฮยอนแฟนของชานยอลแอบชอบคยองซูไม่ได้ดราม่าเคล้าน้ำตาแต่อย่างใด มันเป็นเหมือนการที่เพื่อนคนหนึ่งบอกอีกคนหนึ่งว่าตนแอบชอบใครสักคนและเพื่อนอีกคนก็ช่วยวิเคราะห์และให้คำแนะนำ (แม้มันเอ๋อจนไม่สามารถช่วยอะไรได้มากก็ตาม)

    นั่นทำให้แบคฮยอนรู้ว่าเขากับชานยอลได้มาถึงจุดเปลี่ยนที่แท้จริง

    คำว่า เพื่อนสนิท คงเหมาะกับคู่เขาสองคนมากกว่า ปิดตำนานชานแบคในฟิคเรื่องนี้ไป อวสานแบบสุดๆ ไม่มีขุดมาเล่นแร่ขุดทองใหม่~

     

    เรื่องทั้งหมดมันก็แบบนี้แหละ” แบคฮยอนพูดจบก็หันไปหาแล้วยิ้มให้คนปากรูปหัวใจที่กำลังประมวลผลอยู่ เรื่องเล่าวันวานนี่ยาวพอที่จะให้พวกเขาเดินมาถึงหน้าแฟลชที่พักอยู่ด้วยกันทีเดียว

    “อ่าแล้ว…”

    “หลังจากนั้นเราก็จีบคยองไง ตอนเกรดสุดท้ายเทอมปลาย ช่วงสอบเอนทรานซ์ ฮ่าๆ” แบคฮยอนหันหน้าหาคนรัก เขาวาดแขนไปโอบเอวคยองซูแล้วดึงให้คนตัวเล็กกว่าเข้ามาใกล้ก่อนจะก้มลงหอมแก้มนุ่มนิ่มเบาๆ อย่างเอ็นดู

    “เราคิดมาตลอดเลยดิ้ว่าแกจีบเราเพื่อประชดชานยอลอ่ะแบค” คยองซูผู้มีปากเป็นรูปหัวใจทำหน้าเงิบๆ ให้กับความคิดฝังใจของตนแล้วหันไปมองแฟนหนุ่ม ก่อนจะได้รับเสียงหัวเราะดังลั่นกับปากที่ยิ้มกว้างจนเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า

    “งั้นก็คิดใหม่ได้แล้ว แล้วก็รู้ตัวไว้เลยนะว่าแกนั่นแหละ เป็นสาเหตุให้เราเลิกกับชยอล” แบคฮยอนยักคิ้วอย่างภูมิใจก่อนจะโดนคยองซูฟาดแรงๆ ที่แขนเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน

    “มันน่าภูมิใจไหมวะเนี่ย - -”

    “แต่ก็ขอบคุณนะคยอง ขอบคุณที่เข้ามาทำให้เรารู้ว่าความรักจริงๆ เป็นยังไง” รอยยิ้มบางเบากับกระแสเสียงอบอุ่นที่ส่งมาทำเอาคนตัวเล็ก ตาขาวโตหน้าร้อน แบคฮยอนโหมดปกติน่ะร่าเริงเฮฮาแถมทั้งแรงทั้งเชิ่ด มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าเขาคนนี้น่ะมีมุมอบอุ่นแบบผู้ชายอยู่เต็มเปี่ยม

    ซึ่งคยองซูภาวนาให้มีเพียงตนที่รู้จัก พยอน แบคฮยอนในมุมนี้

    “อย่าพูดจาแบบนี้หรือทำเสียงแบบนี้ใส่ใครคนอื่นนะ…” คยองซูที่กำลังก้มหน้าหาเศษตังค์เพราะความเขินเอ่ยขึ้นมาเบาๆ แต่ก็ดังพอที่ใจให้คนรักของตนได้ยิน

    “รู้ไหมว่าเราหวง เราไม่อยากให้ใครได้เห็นแบคฮยอนคนนี้นอกจากเรา” แรงหยิกไม่น้อยตรงเนื้อแก้มทำให้คยองซูต้องเงยหน้าและอ้าปากเตรียมด่าอีกคนด้วยความไม่พอใจ บ้าบออะไรคนกำลังซึ้ง หยิกแก้มทำไมวะ เจ็บนะว้อย!

    “คยองก็เหมือนกัน อย่าทำตัวน่ารักใส่คนอื่นนะ เราหึงมากเหมือนกัน แค่แกไปยืนจัดโบว์จัดชุดให้น้องไคย่า เราก็หึงจนชานยอลหูกางกว่าเดิมแล้ว รู้ป่ะ” คยองซูเผยยิ้มและต้องหัวเราะออกมาเพราะคำพูดเปรียบเทียบของแบคฮยอน เปรียบเทียบกับหูชานยอล ?

    “งั้นก็บอกชานยอลว่าให้เตรียมหูกางกว่าเดิมได้เลย เพราะเราจะทำแน่ เราหมั่นไส้แก ไอ้หมา!” คยองซูประเคนมะเหงกให้แฟนขี้หึงของตัวเองเบาๆ อย่างไม่จริงจังนะ ก่อนมะเหงกข้างเดิมนั้นจะถูกแบคฮยอนกุมไปจุ๊บซ้ายจุ๊บขวาอยู่นาน

    “ห้ามหึงเรากับไอ้ปารค์เสาไฟมีหูนั่นแล้วนะคยอง เราสยองบอกเลย”

    “แกก็เลิกหึงเรากับน้องไคได้แล้วเหมือนกัน”

    “งั้นต่อไปนี้เราจะมาช่วยกันสร้างสะพานส่งอ้อยเข้าปากช้าง ส่งฟางเข้าปากโคกันเถอะ! เราจะมาช่วยกันทำให้ชานไคอีสเรียล!” แบคฮยอนแย้มยิ้มพรายให้คนรักก่อนจะจูงมือคนรักเดินเข้าไปสอดคีย์การ์ดเข้าตึกและขึ้นลิฟท์ไปยังที่พัก

    “แต่แกรู้หรอแบค ว่าไอ้ชอยลมันมีใจให้น้องรึเปล่า”

    “ของแบบนี้ก็ต้องดูกันต่อไป” แบคฮยอนยิ้มเจ้าเล่ห์ให้คนตาโตที่กำลังจะอ้าปากถามต่อ

    “แล้ว--”

    “ไอ้ชยอลมันรักน้องแบบที่น้องรักมันไหมเราไม่รู้หรอก แต่เรามั่นใจว่าอะไรๆ มันจะไม่สูญเปล่า เซนส์มันบอก”

    “อ่าฮะ”

    “แต่รู้ไว้อย่างนึงนะคยอง”

    “ว่า ?”

    “เรารักคยอง”

    “มันไม่เกี่ยวป่ะแก นี่เราคุยกันเรื่องชานไค”

    “เกี่ยวสิ ก็นี่มันตอนของเรานะเว่ยคยองงงงง!”

    ติ๊ง

    ทันทีประตูลิฟท์เปิดออกคยองซูก็รีบก้าวออกจากลิฟท์ทิ้งให้แบคฮยอนยืนเอ๋ออยู่คนเดียวที่คนรักไม่ตอบรับคำพูดของตน จนคยองซูต้องเดินกลับมาตาม

    “นี่ ถ้ารักเราก็กลับห้องได้แล้ว”

    …”

    “คืนนี้พูดจาดี ให้รางวัลถึงเช้าเลยโอเคป่ะ ?”

    เท่านั้นแหละ พยอน แบคฮยอนแทบจะวิ่งสี่คูณร้อยเข้าห้องจัดที่นอนจุดเทียนเตรียมแส้

    Let me love you จ้ะ คยองซู ~

     

     

     

    *ขออนุญาตตัดภาพไปที่โคมไฟหัวเตียง*

     

     





     

    The end of this part.

     

     








    mr.may

    แบคโด้ เป็นอีกคู่ที่เมย์หลงรักนะคะ ตอนแรกแพลนให้มีบทแค่นิดๆหน่อยๆ แต่สุดท้ายก็เพิ่มบทให้คุณคู่ตัวประกอบเขาสักหน่อย สนองนี๊ดตัวเองล้วนๆครัชชช

    อีพี่โคปาร์คเคยมีซัมติงวรองกับพี่แบคมาก่อนค่ะ

    ถ้านีนี่รู้เรื่องนี้จะว่าไงล่ะเนี่ย ขนาดพี่คยองคนดียังหึง

    นางจะโอเคไหม 555

    วอนพี่ชานช่วยสร้างความมั่นใจให้นีนี่ทีค่ะ

    พูดง่ายๆ ช่วยรู้เรื่องรู้ราวสักทีเถอะว่าหญ้ามาอ่อย กร๊ากกกก

    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

             

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×