คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บันทึกคั่นหน้าบทที่ 1 พยอนแบคฮยอน ง้อ โดคยองซู
บันทึกคั่นหน้าบทที่ 1
พยอนแบคฮยอน ง้อ โดคยองซู
“คยองซู!! รอก่อนสิ” เสียงของแบคฮยอนดังขึ้นข้างหลังทำให้คยองซูต้องหันกลับไปมองด้วยแววตานิ่งๆ ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อไปโดยไม่สนใจคนรักที่วิ่งตามมา
“คยองโกรธอะไรเราวะ เราทำอะไรผิด” แรงรั้งแขนทำให้คยองซูหันมาปรายตามองอย่างเย็นชาอีกครั้งก่อนจะพยายามสลัดแขนออกจากการเกาะกุม
“ปล่อยได้แล้ว ไม่เดินหนีแล้วพอใจรึยัง”
“เป็นอะไรรึเปล่า” แบคฮยอนถามเสียงอ่อนเมื่อเห็นว่าคนรักตัวเล็กของตนยอมอยู่นิ่งๆ เขาใช้ฝ่ามือที่กว้างกว่าของตนคว้าจับเข้าที่มือของอีกคนแล้วบีบเบาๆ
“ไม่ได้เป็นอะไรหรอก แค่รำคาญแก ไปอยู่เป็นก้างคู่นั้นอยู่ได้”
“คู่ไหนวะ” คยองซูพรูลมหายใจออกมาช้าๆ ก่อนจะยกมือฟาดหัวแบคฮยอนแรงๆ อย่างเอือมระอา
“โต๊ะคู่กับเก้าอี้มั้ง คิดหน่อยสิวะจะถามอะไร” ตาโตๆ กับพื้นที่ตาขาวที่มากกว่าคนอื่นของ คยองซูแทบจะถลนออกมานอกเบ้าจนแบคฮยอนที่ร้องโอดโอยอยู่เปลี่ยนมายิ้มและหัวเราะออกมาดังๆ
“อ๋ออออออออ คึคึ” แบคฮยอนอ้าปากกว้างรูปสี่เหลี่ยมจนคยองซูอดที่จะเอานิ้วแหย่ปากแกล้งไม่ได้ ก่อนที่นิ้วนั้นจะถูกคนรักและเพื่อนสนิทในเวลาเดียวกันดึงไปกุมไว้
“แก๊ซเฉื่อยแบบคู่นั้นมันต้องมีตัวเร่งปฏิกิริยาบ้างเว่ย ดูไคย่าสิ แค่เห็นขาโก่งๆ หูกางๆ ของไอ้ชยอลก็ทำหน้าเหมือนจะขาดอากาศหายใจตาย อะไรจะเขินขนาดนั้น” คยองซูที่คิดภาพตามอยู่ถึงกับต้องลอบยิ้มเพราะมันจริงแบบที่แบคฮยอนว่า
“ส่วนไอ้สูงหูกางเป็นจานดาวเทียมนั่นก็ไม่รู้ว่ารู้สึกรู้สาอะไรกับเค้าบ้างไหม เอ หรือว่ามันตายด้านวะคยอง” แรงตีหนักๆ ที่แขนจากคยองซูทำให้เขาต้องบึนปากใส่คนตัวเล็กกว่างอนๆ
“พูดผิดตรงไหนวะ ขนาดยัยน้องนาอึนนาปรังอะไรนั่นออกตัวแรงจะตาย จีบแล้วจีบอีกอ่อยแล้วอ่อยอีก ไอ้ชยอลยังไม่รู้ตัวเลย”
“โฟกัสจังเลยนะเรื่องชานยอลน่ะ ถ่านไฟเก่าคุรึไง ?” คยองซูเลิกคิ้วให้แบคฮยอนเป็นเชิงถามพลางกระตุกนิ้วและมือที่ถูกอีกคนกุมไว้เบาๆ เป็นเชิงให้ปล่อยได้แล้ว
“คยอง อย่าคิดมากดิ่ เรื่องของเรากับไอ้ชยอลมันจบไปตั้งนานแล้ว”
“เรารู้… แต่แกก็อย่าลืมว่าแกกับมันเคยรักกันมากแค่ไหน เวลาแกอยู่กับมัน แกเป็นตัวเองขนาดไหน แม้แต่เรายังเข้าไปแทรกไม่ได้เลยแบค แกน่าจะรู้ดี” แบคฮยอนบีบมือคยองซูอีกครั้ง เขาสบลึกเข้าไปในดวงตาโตคู่สวยนั่นอย่างแน่วแน่
“ขอโทษว่ะ แต่ตอนนี้มีแค่คยองซูที่เรารัก” เขาก้มลงกระซิลข้างหูคยองซูด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนจะผละออกมามองจ้องคนตัวเล็กกว่าที่แก้มเริ่มขึ้นสีแดงแต้มนิดๆ
“เอ้ออ เราเชื่อแล้ว พอได้แล้ว ไม่ต้องโชว์แมนมากหรอก” แรงทุบไม่เบานักที่แขน ทำให้แบคฮยอนยิ้มอย่างอารมณ์ดีอีกครั้ง รู้สึกว่าทั้งๆ ที่มันเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่ทำไมคยองซูถึงทำให้เขายิ้มได้บ่อยขนาดนี้นะ
“กลับบ้านได้แล้ว นี่ก็ดึกมากแล้ว”
แบคฮยอนจับมือคยองซูแล้วดึงเบาๆให้ออกเดินไปพร้อมกัน เขามองบรรยากาศรอบๆ แล้วกลับมามองหน้าคนที่เดินข้างตัวอีกรอบ ความเงียบที่โรยตัวเข้าปกคลุมรอบคนทั้งสองไม่ได้สร้างความอึดอัดใจแต่อย่างใด มีแต่ทำให้คนทั้งคู่ได้ยินเสียงหัวใจตนเองชัดขึ้น
“เราถามไรหน่อยดิ่แบค” หลังจากเดินเงียบๆ กันมาสักพัก คยองซูก็เอ่ยขึ้น
“อ่าฮะ ถามดิ่”
“ทำไมตอนนั้น.. แกถึงได้เลิกกับชานยอลวะ”
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่รู้สึกว่าเหมาะจะเป็นเพื่อนกันมากกว่า” คำถามของคยองซูทำให้เขาคิดย้อนไปถึงอดีตในวันวาน
อดีตที่เขาเคยคบกับชานยอล
ย้อนกลับไปเมื่อสมัย 9 ปีที่แล้ว ที่พวกเขายังเป็นแค่เด็กไฮสคูลมัธยม D โรงเรียนชายล้วนชื่อดังและกำลังมีความสุขอยู่ในรั้วโรงเรียนที่ปกป้องพวกเขาจากโลกภายนอกอันโหดร้าย แบคฮยอน เด็กผู้ชายหน้าหวานเหวี่ยงตาคมเฉี่ยวประดุจพรีเซนต์เตอร์อายไลน์เนอร์และชานยอล ไอ้เอ๋อหูกางขาโก่งตาโตไปวันๆ เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เกรด 7 ได้มาพบกับคยองซู เด็กผู้ชายตัวเล็กตาขาวเยอะที่เพิ่งย้ายมาเรียนที่เดียวกันห้องเดียวกันตอนเกรด 10 และได้สนิทสนมกลายเป็นแก๊งเดียวกันในที่สุด หลายๆ คนอาจมองความสัมพันธ์นี้แค่ฉันท์เพื่อน บ้างก็มองว่าสามพี แต่ความจริงมันไม่ใช่เพราะคยองซูก็รู้ว่าเขากับชานยอลน่ะ ‘ลึกซึ้งกันมากกว่าเพื่อน’
ใช่ เขากับชานยอลคบกัน ตั้งแต่เกรด 8 แล้วล่ะ
ความสัมพันธ์ของเขาสองคนไม่ว่าจะก่อนคบกันหรือหลังคบกันแล้วยังคงเหมือนเดิม เหมือนเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจกันไปซะทุกเรื่อง จึงไม่แปลกที่ไม่มีใครระแคะระคายความสัมพันธ์ของเขาเลย แต่คยองซูรู้เพราะแบคฮยอนเต็มใจบอก เขาไม่อยากให้คยองซูอึดอัดและยังกลัวอีกด้วยว่าคยองซูจะรู้สึกเหมือนโดนตัดขาดและทิ้งให้อยู่เดียวดายในกลุ่ม 3 คน
แบคฮยอนกับชานยอลรู้จักกันดีเกินไป แค่มองตาก็รู้ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดหรือรู้สึกแบบไหน ไม่จำเป็นต้องพูด ยากเหลือเกินที่จะมีใครแทรกเข้าไประหว่างเขาทั้งสอง
แต่ก็ใช่ว่าช่องว่างตรงกลางนั้นจะไม่มี…
คบกันแบบคนรักเรื่องความสัมพันธ์ทางกายคงเป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธ (ซึ่งคยองซูแอบเหน็บแนมว่าได้กันเร็วเกินไปตั้งแต่ยังไม่เป็นเยาวชนด้วยซ้ำ) เขากับชานยอลมีเซ็กส์กันครั้งแรกตอนเกรด 10 และมักจะมีเซ็กส์กันบ้างตามสถานการณ์พาไป อาทิ ตอนที่เช่าหนังเอวีมาดูด้วยกันแล้วตั้งเคารพธงชาติกันทั้งคู่ ไม่ก็เมาตอนไปเลี้ยงวันเกิดเพื่อน
มันก็แปลกดีที่ทั้งเขาและชานยอลไม่ค่อยมีอารมณ์ด้วยกันเท่าไหร่ถ้าหากไม่มีอะไรมากระตุ้น (เช่นหนังเอวีและแอลกอฮอล์) ชานยอลไม่เคยรู้สึกโหยหาร่างกายของเขา ไม่เคยรู้ว่าสัมผัสตรงไหนเขาจึงจะรู้สึกดี เหมือนกับที่แบคฮยอนไม่เคยรู้สึกอยากแต่งชุดคอสเพลย์พยาบาลขึ้นไปคร่อมแล้วยั่วให้ชานยอลรักตนแรงๆ บนเตียง
มันเป็นแค่จุดจุดหนึ่ง ที่เป็นช่องว่างเล็กๆ ของชีวิตรักที่นำมาซึ่งจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ ความรักที่ไม่หวือหวาอยู่แล้วยิ่งนานวันยิ่งเรียบเฉยเหมือนน้ำนิ่งที่อยู่ในอ่าง ที่ต่อให้ตีน้ำให้หมุนวน เกิดฟองแตกกระจายแค่ไหน สุดท้ายมันก็กลับมานิ่งสงบเหมือนเดิม
และอีกเหตุผลหนึ่ง… เพราะโด คยองซู
คนที่เข้ามาแทรกกลางระหว่างช่องว่างนั้น โดยที่คยองซูเองก็ไม่รู้ตัว
แบคฮยอนไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่สายตาของเขาต้องคอยมองหาเพื่อนตัวเล็กคนนี้เสมอ คอยไต่ถามเป็นห่วง เล่นหัวหยอกเอิ้น ไม่ใช่แบบที่เล่นล้างผลาญประหนึ่งอยากให้กระดูกคอหักแบบที่เล่นกับชานยอล แต่เป็นการเล่นแบบเอ็นดูทะนุถนอม
แบคฮยอนเป็นห่วงคยองซู อยากปกป้อง อยากดูแล
ความรู้สึกนี้มันมากขึ้นจนตีรื้นขึ้นมาเต็มอก สุดท้ายแบคฮยอนหมดความอดทนและเอ่ยปากบอกเรื่องนี้กับชานยอลในที่สุด ชานยอลไม่โกรธและไม่ได้ต่อว่าแต่กลับรับฟังอย่างเข้าใจและอภิปรายเหตุผลต่ออย่างละเอียด(?) ทุกบทสนทนาในหัวข้อที่ว่า ‘แบคฮยอนแฟนของชานยอลแอบชอบคยองซู’ ไม่ได้ดราม่าเคล้าน้ำตาแต่อย่างใด มันเป็นเหมือนการที่เพื่อนคนหนึ่งบอกอีกคนหนึ่งว่าตนแอบชอบใครสักคนและเพื่อนอีกคนก็ช่วยวิเคราะห์และให้คำแนะนำ (แม้มันเอ๋อจนไม่สามารถช่วยอะไรได้มากก็ตาม)
นั่นทำให้แบคฮยอนรู้ว่าเขากับชานยอลได้มาถึงจุดเปลี่ยนที่แท้จริง
คำว่า เพื่อนสนิท คงเหมาะกับคู่เขาสองคนมากกว่า ปิดตำนานชานแบคในฟิคเรื่องนี้ไป อวสานแบบสุดๆ ไม่มีขุดมาเล่นแร่ขุดทองใหม่~
“…เรื่องทั้งหมดมันก็แบบนี้แหละ” แบคฮยอนพูดจบก็หันไปหาแล้วยิ้มให้คนปากรูปหัวใจที่กำลังประมวลผลอยู่ เรื่องเล่าวันวานนี่ยาวพอที่จะให้พวกเขาเดินมาถึงหน้าแฟลชที่พักอยู่ด้วยกันทีเดียว
“อ่าแล้ว…”
“หลังจากนั้นเราก็จีบคยองไง ตอนเกรดสุดท้ายเทอมปลาย ช่วงสอบเอนทรานซ์ ฮ่าๆ” แบคฮยอนหันหน้าหาคนรัก เขาวาดแขนไปโอบเอวคยองซูแล้วดึงให้คนตัวเล็กกว่าเข้ามาใกล้ก่อนจะก้มลงหอมแก้มนุ่มนิ่มเบาๆ อย่างเอ็นดู
“เราคิดมาตลอดเลยดิ้ว่าแกจีบเราเพื่อประชดชานยอลอ่ะแบค” คยองซูผู้มีปากเป็นรูปหัวใจทำหน้าเงิบๆ ให้กับความคิดฝังใจของตนแล้วหันไปมองแฟนหนุ่ม ก่อนจะได้รับเสียงหัวเราะดังลั่นกับปากที่ยิ้มกว้างจนเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
“งั้นก็คิดใหม่ได้แล้ว แล้วก็รู้ตัวไว้เลยนะว่าแกนั่นแหละ เป็นสาเหตุให้เราเลิกกับชยอล” แบคฮยอนยักคิ้วอย่างภูมิใจก่อนจะโดนคยองซูฟาดแรงๆ ที่แขนเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน
“มันน่าภูมิใจไหมวะเนี่ย - -”
“แต่ก็ขอบคุณนะคยอง ขอบคุณที่เข้ามาทำให้เรารู้ว่าความรักจริงๆ เป็นยังไง” รอยยิ้มบางเบากับกระแสเสียงอบอุ่นที่ส่งมาทำเอาคนตัวเล็ก ตาขาวโตหน้าร้อน แบคฮยอนโหมดปกติน่ะร่าเริงเฮฮาแถมทั้งแรงทั้งเชิ่ด มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าเขาคนนี้น่ะมีมุมอบอุ่นแบบผู้ชายอยู่เต็มเปี่ยม
ซึ่งคยองซูภาวนาให้มีเพียงตนที่รู้จัก พยอน แบคฮยอนในมุมนี้
“อย่าพูดจาแบบนี้หรือทำเสียงแบบนี้ใส่ใครคนอื่นนะ…” คยองซูที่กำลังก้มหน้าหาเศษตังค์เพราะความเขินเอ่ยขึ้นมาเบาๆ แต่ก็ดังพอที่ใจให้คนรักของตนได้ยิน
“รู้ไหมว่าเราหวง เราไม่อยากให้ใครได้เห็นแบคฮยอนคนนี้นอกจากเรา” แรงหยิกไม่น้อยตรงเนื้อแก้มทำให้คยองซูต้องเงยหน้าและอ้าปากเตรียมด่าอีกคนด้วยความไม่พอใจ บ้าบออะไรคนกำลังซึ้ง หยิกแก้มทำไมวะ เจ็บนะว้อย!
“คยองก็เหมือนกัน อย่าทำตัวน่ารักใส่คนอื่นนะ เราหึงมากเหมือนกัน แค่แกไปยืนจัดโบว์จัดชุดให้น้องไคย่า เราก็หึงจนชานยอลหูกางกว่าเดิมแล้ว รู้ป่ะ” คยองซูเผยยิ้มและต้องหัวเราะออกมาเพราะคำพูดเปรียบเทียบของแบคฮยอน เปรียบเทียบกับหูชานยอล ?
“งั้นก็บอกชานยอลว่าให้เตรียมหูกางกว่าเดิมได้เลย เพราะเราจะทำแน่ เราหมั่นไส้แก ไอ้หมา!” คยองซูประเคนมะเหงกให้แฟนขี้หึงของตัวเองเบาๆ อย่างไม่จริงจังนะ ก่อนมะเหงกข้างเดิมนั้นจะถูกแบคฮยอนกุมไปจุ๊บซ้ายจุ๊บขวาอยู่นาน
“ห้ามหึงเรากับไอ้ปารค์เสาไฟมีหูนั่นแล้วนะคยอง เราสยองบอกเลย”
“แกก็เลิกหึงเรากับน้องไคได้แล้วเหมือนกัน”
“งั้นต่อไปนี้เราจะมาช่วยกันสร้างสะพานส่งอ้อยเข้าปากช้าง ส่งฟางเข้าปากโคกันเถอะ! เราจะมาช่วยกันทำให้ชานไคอีสเรียล!” แบคฮยอนแย้มยิ้มพรายให้คนรักก่อนจะจูงมือคนรักเดินเข้าไปสอดคีย์การ์ดเข้าตึกและขึ้นลิฟท์ไปยังที่พัก
“แต่แกรู้หรอแบค ว่าไอ้ชอยลมันมีใจให้น้องรึเปล่า”
“ของแบบนี้ก็ต้องดูกันต่อไป” แบคฮยอนยิ้มเจ้าเล่ห์ให้คนตาโตที่กำลังจะอ้าปากถามต่อ
“แล้ว--”
“ไอ้ชยอลมันรักน้องแบบที่น้องรักมันไหมเราไม่รู้หรอก แต่เรามั่นใจว่าอะไรๆ มันจะไม่สูญเปล่า เซนส์มันบอก”
“อ่าฮะ”
“แต่รู้ไว้อย่างนึงนะคยอง”
“ว่า ?”
“เรารักคยอง”
“มันไม่เกี่ยวป่ะแก นี่เราคุยกันเรื่องชานไค”
“เกี่ยวสิ ก็นี่มันตอนของเรานะเว่ยคยองงงงง!”
ติ๊ง…
ทันทีประตูลิฟท์เปิดออกคยองซูก็รีบก้าวออกจากลิฟท์ทิ้งให้แบคฮยอนยืนเอ๋ออยู่คนเดียวที่คนรักไม่ตอบรับคำพูดของตน จนคยองซูต้องเดินกลับมาตาม
“นี่ ถ้ารักเราก็กลับห้องได้แล้ว”
“…”
“คืนนี้พูดจาดี ให้รางวัลถึงเช้าเลยโอเคป่ะ ?”
…เท่านั้นแหละ พยอน แบคฮยอนแทบจะวิ่งสี่คูณร้อยเข้าห้องจัดที่นอนจุดเทียนเตรียมแส้
Let me love you จ้ะ คยองซู ~
*ขออนุญาตตัดภาพไปที่โคมไฟหัวเตียง*
The end of this part.
mr.may
แบคโด้ เป็นอีกคู่ที่เมย์หลงรักนะคะ ตอนแรกแพลนให้มีบทแค่นิดๆหน่อยๆ แต่สุดท้ายก็เพิ่มบทให้คุณคู่ตัวประกอบเขาสักหน่อย สนองนี๊ดตัวเองล้วนๆครัชชช
อีพี่โคปาร์คเคยมีซัมติงวรองกับพี่แบคมาก่อนค่ะ
ถ้านีนี่รู้เรื่องนี้จะว่าไงล่ะเนี่ย ขนาดพี่คยองคนดียังหึง
นางจะโอเคไหม 555
วอนพี่ชานช่วยสร้างความมั่นใจให้นีนี่ทีค่ะ
พูดง่ายๆ ช่วยรู้เรื่องรู้ราวสักทีเถอะว่าหญ้ามาอ่อย กร๊ากกกก
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ
ความคิดเห็น