ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic exo] รักเขามาก {Tao x Sehun}

    ลำดับตอนที่ #2 : [OS] วิถี(รัก)ทางติ่ง

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ค. 57






    Title. วิถี(รัก)ทางติ่ง

    Author. mr.may

    Paring. Sehun x Tao

     

     

     

     

     

     

     

     

    Dear everyone who have got a same experience

    - Base on true story -

     

     

     

     

     

     

    เวลานี้ 03.00 .

     

    หน้าที่ทำการ Real shop เต็มไปด้วยผู้คนคลาคร่ำ แต่ละคนล้วนสวมเสื้อสกรีนลายกราฟิตี้สัญลักษณ์วงบอยแบนด์ชื่อดังที่กำลังเป็นที่คลั่งไคล้ของกลุ่มวัยรุ่นในขณะนี้

    วง LORDs

    ประกอบด้วยสมาชิกชายหนุ่มหน้าตาดีทั้งหมด 5 คน เรนเดียร์ มิสเตอร์บี ซีวาย แบล็ค และโพนี่

     

    ใช่แล้วนี่คือวันจองบัตรคอนเสิร์ตเอเชียทัวร์ครั้งแรกของห้าหนุ่ม!! ประชากรแฟนคลับถึงได้หลั่งไหลมารวมตัวประหนึ่งการชุมนุมทางการเมืองขนาดย่อมแบบนี้!

     

    ทั้งนี้มีแฟนคลับจำนวนไม่น้อยที่มารอจองคิวซื้อบัตรกันตั้งแต่เช้าตรู่ของเมื่อวาน ซึ่งชายหนุ่มตัวสูง ผมบลอนด์ หน้าคม ตาดุคนนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น นามของเขาคือ หวงจื่อเทา แฟนบอยสัญชาติจีนที่ลงทุนบินข้ามน้ำข้ามทะเลจากแผ่นดินใหญ่มาจองบัตรคอนเสิร์ตที่เกาหลีนี้

    จื่อเทาใช้สายตาสอดส่องดูกลุ่มแฟนคลับซึ่งส่วนมากเป็นผู้หญิง ทั้งที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะหรือที่จูงลูกมาจองด้วยความตื่นเต้น

    น่าปลาบปลื้มแทนหนุ่มๆ ทั้ง 5 คนที่มีคนรักและชื่นชอบพวกเขามากขนาดนี้

    แต่ตอนนี้ นาทีนี้ นี่คือสนามรบ!!! เขาจะไม่ปรานีไม่ว่าชะนีหน้าไหนจนกว่าเขาจะได้บัตร!

    จื่อเทาคิดอย่างมุ่งมั่นพลางมองเลขคิวในมืออย่างเบื่อหน่าย รันคิวเองทุกที สุดท้ายก็วิ่งสี่คูณร้อยทุกทีสิน่า (ประสบการณ์จากการไปคอนเสิร์ตของวงในดวงใจวงอื่นๆ น่ะนะ)

    เขากวาดสายตามองไปรอบๆ พวกแฟนคลับทุกคนนั่งรอมานานพอสมควร บางคนคงรอมาครบ(หรือเกิน) 24 ชั่วโมงแล้ว บ้างก็ฟุบหลับ บ้างก็ก้มหน้าก้มตาจิ้มทวิตเตอร์อัพเดทสถานการณ์กันรัวๆ แต่แล้วสายตาเค้าก็ไปสะดุดกับผู้ชายคนหนึ่ง คนตัวสูงผมสีน้ำตาลทอง กับใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ กำลังยืนพิงผนังทอดอารมณ์อยู่ ดูท่าทางจะแมนเต็มร้อย

    โอ้ มันหายากนะในบรรดาแฟนบอยอันน้อยนิด หายากมากๆ ที่จะเป็น... ผู้ชายแท้ๆ

    แน่นอนจื่อเทาน่ะแมนทั้งแท่งนะ! ที่ชอบน่ะเพราะวงนี้เป็นวงที่มีเพอร์ฟอร์แมนซ์ดีและเซอร์วิสแฟนคลับได้เยี่ยมยอดต่างหาก!!

    นานๆ ทีจะหาเพื่อนแฟนบอยชายแท้เจอ ต้องเข้าไปทักทายสักหน่อย

    ไวเท่าความคิดที่ขายาวๆ พาจื่อเทาก้าวไปหาชายหนุ่มตัวสูงคนนั้น พออยู่ในระยะเดียวกันแล้ว เหมือนหมอนี่จะเตี้ยกว่าเขานิดหน่อยแฮะ

    "เอ่อ... ไง มาจองบัตรเหมือนกันหรอ" ประโยคคำถามที่ดูไม่สมเหตุสมผลว่าถามไปทำไมกับสำเนียงต่างด้าวฟังลำบากของตัวเขาเองทำให้ผู้ชายหน้านิ่งคนนั้นขมวดคิ้ว

    "ใช่" คำตอบห้วนสั้นได้ใจความทำเอาจื่อเทาไปต่อไม่เป็น เขายู่หน้าเล็กน้อย ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่อยากเสวนากับเขาเท่าไหร่นัก

    "ไม่ใช่คนเกาหลี ?"

    "อ่า เป็นคนจีนน่ะ" จื่อเทาตอบคำถามห้วนๆ นั้นหวาดๆ อะไรกันทีแรกเหมือนไม่อยากคุย...

    "ต้องมาจองถึงนี่เลย ?"

    "อยากมาดูที่บ้านเกิดศิลปินน่ะ ฮ่าๆ" จื่อเทาตอบอย่างเป็นธรรมชาติขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกคนเริ่มชวนคุย

     

     

     

     

    "เป็นเกย์หรอ ?"

     

     

    ห่ะ

    ห่ะ

    ห๊ะ!!!!!

     

     

    ไอ้เวรนี่ถามอะไรนะ -___-!!!

     


     

    "แฟนบอยนี่ต้องเป็นเกย์รึไงวะ! ห๊ะ!?" ตาคมดุวาวขึ้นมาทันทีเมื่อโดนจี้จุด ถึงศัพท์เกาหลีบางคำจื่อเทาจะไม่รู้เรื่องแต่คำว่าเกย์นี่มันโดน มันโดน!!!

    เขาจ้องหน้าไอ้คนตัวเตี้ยกว่าผิวขาวจัดราวจะกินเลือดกินเนื้อ

    ไม่คงไม่คุยแม่งละ!

     

    ขอให้น้องทุกคนที่มารอจองบัตรคอนเสิร์ตของวง LORDs นะครับ ขอให้น้องอยู่ในความสงบนะครับ บัตรเปิดขายหกโมงนะครับน้อง รอให้เป็นระเบียบครับ!"

    เสียงการ์ดผู้ชายตะโกนใส่โทรโข่งเป็นประโยคที่จื่อเทาไม่เข้าใจนัก แต่ดูจากสภาพคนที่แตกกระจายออกเป็นย่อมเล็กน้อยคงหมายความว่า ให้ยืนรอดีๆละมั้ง

     

    คือบางทีก็รู้สึกว่าผู้จัดเขาไม่จัดการอะไรให้เรียบร้อยอ่ะนะ กฎก็ไม่เป็นกฎ ไหนบอกว่าห้ามค้างห้ามรันคิวเอง ก็เห็นคนทำกันเยอะแยะ...

    จื่อเทาเบ้ปากน้อยๆ ก่อนจะควักหูฟังมาเสียบฟังเพลง เขายังคงยืนอยู่ที่เดิม ข้างผู้ชายตัวสูงขาวปากหมาคนเดิม แต่เขาไม่สนใจที่จะคุยกับหมอนั่นแล้วก็เท่านั้นเอง

     

    เวลาเลยผ่านไปนานเท่าไหร่จื่อเทาไม่รู้แต่รู้แค่ผู้คนเริ่มหนาตาขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มเกิดการจราจลทุกครั้งที่พนักงาน Real shop ขยับตัว แน่นอนจื่อเทาก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่แห่แหนวิ่งไปดูกับเขาด้วย

    ก็คนมันอยากรู้นี่หว่า...

     

    จื่อเทาหอบหนักๆ ขณะกลับมายืนพิงกำแพงอยู่ที่เดิมข้างๆ ไอ้คนตัวขาวปากหมานั้น เขาสอดส่องสายตาไปทั่วพยายามหาทุกช่องทางที่จะจองบัตรคอนเสิร์ตได้

    "บ้ารึเปล่า วิ่งตามกันอยู่ได้" เสียงทุ้มๆ เอ่ยขึ้นมาลอยๆ จนจื่อเทาต้องหันไปค้อนขวับ ไอ้บ้านี่...คิดอะไรก็ไม่ต้องพูดออกมาก็ได้มั้ง ขวางโลกชะมัด - -

    "เขายังไม่เปิดขายหรอกนะ กว่าพนักงานจะมารันคิวแบบจริงๆ อีก เหนื่อยเปล่า" จื่อเทาปลายตามองคนที่กำลังพูดอยู่ด้วยแววตากินเลือดกินเนื้อ

    เออกูรู้! ย้ำจังนะมึง

     

    อยากตะโกนด่ามันแต่ก็ทำไม่ได้ จื่อเทาจึงทำได้เพียงเปิดเสียงเพลงในโทรศัพท์ให้ดังขึ้นกลบเสียงของชายแปลกหน้าปากไม่ดีคนดังกล่าว

    รอแล้วรอเล่า เพลงในไอโฟนชัฟเฟิลจนวนกลับมาเพลงเดิมแล้วสามรอบ เข็มนาฬิกาก็หมุนวนมายังเวลาตีห้าครึ่ง

    จื่อเทาอ้าปากหาวแล้วค่อยๆ นั่งลง หัวสีบลอนด์ของเขาพิงเข้ากับกำแพงก่อนจะหลับตาลงเบาๆ

    ง่วงจัง

    เขาไม่รู้ว่าเริ่มวูบหลับไปตอนไหนแต่รู้แค่รู้สึกตัวตื่นตอนถูกแรงกระชากให้ลุกขึ้นยืนอย่างแรงและถูกดึงให้ออกวิ่งอย่างรวดเร็ว จื่อเทารู้ดีว่ายังรู้สึกตัวไม่เต็มที่แต่สติครึ่งๆ กลางๆ ก็บอกให้ร่างกายขยับออกวิ่งตามแผ่นหลังกว้างๆ ของคนข้างหน้าไปไม่มีขัดขืน เขาหยุดวิ่งทันทีที่อีกคนหยุดแล้วทรุดตัวลงนั่งยองๆ ขยี้ตาสะบัดหัวไปมาเพื่อเรียกความเต็มร้อยของตนให้คืนมา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและค้อนพบว่าคนที่ลากเขามาคือไอ้คนขาวปากไม่ดี และที่สำคัญไปกว่านั้นหมอนั่นลากเขามาต่อแถวรับคิวบัตรคอนเสิร์ต!! ถึงมันจะไม่ใช่คิวต้นๆ ประเมินจากความยาวของแถว น่าจะได้คิวสักห้าร้อยกว่าๆ

    ก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรนี่

    “เอ่อ ขอบคุณมากนะที่ช่วยพามาเข้าแถว” จื่อเทาลุกขึ้นยืนเพื่อเอ่ยขอบคุณเพื่อนใหม่ในสนามรบ แต่เขากลับได้รับสายตานิ่งๆ กับมา

    “ก็ไม่ได้อยากทำ แค่สงสารเฉยๆ” ประโยคตอบรับจากอีกฝ่ายทำเอาหวงจื่อเทาไฟลุก เขากำมือแน่นพลางท่องบทสวดมนต์ระงับอารมณ์อยากบั่นหัวคนด้วยแข้งช้าๆ หายใจเข้าออกลึกๆ แล้วเงยหน้าขึ้นสบตาผู้ชายคนเดิมอีกครั้ง

    “ก็ขอบคุณตามมารยาทเท่านั้นแหละ!

    ฮึ่ย! ไอ้บ้า ไอ้หน้าวอก ไอ้ติ๋ม!!!!

     

     

     

     

    เวลา 08.00 น.

    สถานการณ์บริเวณหน้า Real shop แม้จะดูเป็นระเบียบขึ้นมากเพราะแจกคิวแล้วแต่ยังคงคุกรุ่นอยู่ ติ่งทุกชีวิตกำลังสร้างโมเม้นสังคมก้มหน้าเนื่องด้วยกำลังเช็คทวิตเตอร์เกี่ยวกับจำนวนที่นั่งในบัตรแต่ละราคาแต่ละโซนว่าบัตรที่ตนต้องการในโซนนั้นๆ ถูกกวาดจองหมดหรือยัง

    หวงจื่อเทาก็กำลังรีทวิตและสกรีมรัวๆ เพราะบัตร 5900 บัตรราคาแพงที่สุดและเห็นศิลปินชัดที่สุดในโซนที่เขาต้องการถูกจองไปเกือบครึ่งแล้ว

    “จะจองทันไหมวะ จะได้ไหมวะ จะทำยังไงดีวะ” เขาพึมพำออกมาเป็นภาษาจีนอย่างกังวลในขณะที่นิ้วยังคงสไลด์อ่านทวิตตามไทม์ไลน์ที่เด้งไม่ขาดสาย

    ประกาศจาก Real shop บัตร 5900 เปิดให้จองเพียง 600 ใบเท่านั้นค่ะ สวัสดี

    คุณพ่อ คุณแม่ มะ-เริงงงงงงงงงงงงงงงง!!!

    จื่อเทากดรีทวิตอย่างแรงจนแม้แต่คนข้างๆ ยังกลัวจอไอโฟนแตกกระเด็นใส่หน้าพลางเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ออร่าสีดำกับใบหน้าคมดุที่ดูโหดขึ้นเรื่อยๆ สร้างแรงดาเมจให้คนต่อคิวข้างหลังเขาได้มากโข

    แต่ไม่ใช่กับผู้ชายตัวขาว ปากหมา หน้ากวนตีนที่อยู่คิวข้างหน้าเขา

    “เครียดอะไรขนาดนั้น ไม่คิดถึงคนที่ได้คิวพันกว่าๆ บ้างล่ะว่าเค้าจะรู้สึกกันยังไง” จื่อเทาค้อนผู้ชายข้างหน้าด้วยสายตาน่ากลัวและโคตรเหวี่ยงวีน

    เผือกอะไรขนาดนี้ พานิคแล้วหนักหัวแกหรออออ!? นี่พานิคเงียบๆ โว้ยไม่ได้ส่งเสียงเลย!!

    “มาจากจีนเพื่อมาจองขนาดนี้ เลิกกังวลสักทีเถอะ บัตรน่ะยังไงก็ได้ ไม่ก็สงสารเด็กผู้หญิงข้างหลังบ้างก็ดี” ไอ้บ้านี่กล้าดียังไงวะ! จื่อเทาค้อนไอ้คนข้างหน้าคนเดิมตาแทบถลนออกมาจากเบ้าแล้วเบนสายตาไปมองคิวข้างหลังตามที่อีกคนบอกแล้วต้องอุทานออกมาอย่างตกใจ

    คิวข้างหลังเขาเป็นเด็กผู้หญิงถักเปีย ดูเรียบร้อย อายุน่าจะสัก 16-17 ปี กำลังยืนตัวสั่นมองเขาอย่างหวาดกลัวร้อนถึงจื่อเทาต้องเอ่ยปลอบอยู่พักใหญ่นางจึงหยุดสั่น

    “แพลนจะจองบัตรเท่าไหร่” ไอ้เสียงไม่พึงประสงค์จากคนๆ เดิมทำให้เขาต้องตวัดสายตามองอย่างหงุดหงิด

    “5900!” จื่อเทาตอบเสียงห้วนก่อนจะก้มลงสนใจทวิตเตอร์ไม่ได้ต่อความกับคนกวนประสาทคนเดิมมอีก

    ไม่ได้สนใจสายตาจากอีกคนที่มองมาที่ตนแม้แต่น้อย

     

     

     

     

    เวลา 10.30 น.

     

    “เชิญคิวที่ 510 – 535 ด้านในค่ะ” เสียงหวานๆ ของพนักงาน Real shop ทำให้จื่อเทาลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปภายในร้านอย่างกระดี๊กระด๊าปิดไม่มิด แต่อันที่จริงก็แค่เปลี่ยนโลเคชั่นการเล่นทวิตเตอร์จากนอกร้านเป็นในร้าน มีแอร์ เปิดเพลงวง LORDs ประกอบ สร้างบรรยากาศการเล่นทวิตเตอร์ให้บันเทิงขึ้นนิดหน่อยเท่านั้น

    “จองโซนไหน” เสียงเดิมของคนน่ารำคาญคนเดิมเรียกให้จื่อเทาเงยหน้าขึ้นมอง

            “จะจอง SD

            “เมนมิสเตอร์บี ?”

            “อืม แล้วนายเมนใครอ่ะ”

            “เอ่อ เมน... เมนเรนเดียร์” คำตอบของหมอนั่นทำเอาจื่อเทาเบิกตากว้าง ไม่ใช่เพราะความดีใจหรอกนะ ก็เรนเดียร์น่ะขึ้นโซนเดียวกับคุณบีเยอะมากน่ะสิ!! ไอ้บ้านี่ต้องมาแย่งเขาจองใช่ไหม...

    “แล้วไปบัตรเท่าไหร่อ่ะ แล้วไปวันไหน แล้วจะไปโซนไหนอ่ะนายน่ะ” จื่อเทาเอ่ยถามรัวๆ อย่างพยายามปกปิดเจตนารมณ์ความหวาดกลัวของตน(ไม่มิด)

    “ไม่ได้คิดหรอก จองได้บัตรไหนก็ไปอันนั้นแหละ จะไปสองวัน” จื่อเทาพยักหน้ารัวๆ อย่างเข้าใจระคนโล่งอก อย่างน้อยๆ หมอนี่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาแย่งบัตรเขาน่ะนะ

    "ไม่ต้องทำหน้าตาตื่นขนาดนั้นก็ได้เวลาถามน่ะ" จื่อเทามุ่ยหน้าใส่คู่สนทนาก่อนจะหันไปสนใจวีดิโอพรีเซนเทชั่นคอนเสิร์ตครั้งนี้ที่ในร้าน Real shop เปิดอยู่

    “คุณบีวิ้งมาก... อุก!" จื่อเทารีบเงยหน้าขึ้นทันที จู่ๆ เห็นหน้ามิสเตอร์บีในวีดิโอ เลือดกำเดาก็ไหลแบบไม่ได้นัดหมาย

    กล้ามคุณบีขาวมาก ชวนวาบหวามจวนเจียนใจแตก...

    อาการที่เลือดเริ่มไหลออกจากจมูกเรื่อยๆ เหมือนเขื่อนแตกของจื่อเทาหนักข้อขึ้นเดือดร้อนถึงหนึ่งพันธมิตรที่ได้มาแบบงงๆ ในวงศัตรูของเขาต้องยื่นผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าอ่อนให้ จื่อเทามองผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นสลับกับเจ้าของอย่างงงงวย

    "เช็ดซะ เดี๋ยวเลือดหยดลงกระดาษคิวหรอก" เขาคว้าหมับเข้าที่ผ้าผืนนั้นแล้วซับมันเข้ากับจมูกที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือด

    "ขอบใจ" น้ำเสียงอู้อี้ที่จื่อเทาใช้เอ่ยขอบคุณนั้นทำให้เขาเห็นสิ่งไม่คาดฝัน

    เพราะอยู่ๆ ไอ้ผู้ชายปากหมาที่เขาเจอตั้งแต่เช้าก็ยิ้มออกมาไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

     

    ...ไม่อยากยอมรับเลยว่า

     

     

     

    หล่อกว่าคุณบีอีก!!!

     

     

    คิดไปพาลทำให้เลือดกำเดาไหลทะลักหนักกว่าเดิม จื่อเทาจึงแหงนหน้าขึ้นจนสุด พยายามให้เลือดไหลลงคอไปให้หมด แต่แรงรั้งไม่มากนักจากคนๆ เดิมทำเอาเขาต้องขืนตัวไว้ แต่สุดท้ายก็โดนผู้ชายปากหมารั้งหัวให้พิงไปกับไหล่ของหมอนั่นจนได้

    "เงยแล้วพิงไว้นิ่งๆ แบบนี้จนกว่าเลือดจะหยุดไหล" จื่อเทาแปลศัพท์บางคำไม่ออกจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลยพิงไหล่อีกคนไปแบบนั้น

     

     

            เวลา 12.00 น.

            เลือดกำเดาของจื่อเทาหยุดไหลไปนานแล้ว และตอนนี้เขาและคนอื่นๆ ก็นั่งรอคิวกันมานานจนเหน็บชากินขาอ่อน ตอนนี้คิวที่ 500 เพิ่งได้กดบัตร อะไรมันจะนานขนาดนี้!!!

            จื่อเทาบ่นในใจพลางใช้มือลูบท้องเพื่อให้กระเพาะที่เริ่มส่งเสียงคำรามสงบ เขาหิวและเริ่มจะปวดท้องแล้ว - -

            โมโห ตื่นเต้น หงุดหงิด รอคิวนาน อยากได้บัตร เครียด อารมณ์เสีย และหิวมากมากมากมาก!!!

            นั่งทำหน้าบูดอยู่ได้ไม่นาน จื่อเทาก็นึกขึ้นได้ว่าเขาซื้อแซนด์วิชมาจากโรงแรมด้วยสองชุด เขารีบเปิดกระเป๋าเป้ลายเสือดาวมีหูของตัวเองแล้วหยิบมันออกมา

            “นี่นายน่ะ กินด้วยกันไหม” เขาสะกิดแขนผู้ชายปากหมาที่นิสัยดี(นิดหน่อย) แล้วยื่นแซนด์วิชชุดหนึ่งไปให้ หมอนั่นไม่ตอบอะไรแค่รับไปเงียบๆ

            ก็ไม่ได้เป็นห่วงอะไรหรอกนะ แค่ไม่อยากจะติดหนี้บุญคุณใคร!

    “ถือว่าเราไม่มีอะไรติดค่างกันแล้วนะ”

    “ติดค่าง ?”

    “ก็ชดใช้ให้ไปแล้วไง แซนด์วิชเนี่ย”

    “เค้าเรียกว่าติดค้างน่ะ ไม่ใช่ติดค่าง”

    “นั่นแหละ! กินไปเลยไป!” จื่อเทารู้สึกอายไม่น้อยที่ออกเสียงผิด ก็เขาไม่ใช่เจ้าของภาษานี่หว่า จะไม่อายขนาดนี้ถ้าไอ้คู่สนทนามันไม่เพิ่มออพชั่นด้วยการหัวเราะเยาะเขาด้วยว่าแล้วก็กัดแซนด์วิชเข้าปากคำใหญ่ๆ

    ขอให้แซนด์วิชติดคอตาย ไอ้ติ๋ม!!!!

    จื่อเทานั่งกินแซนด์วิชไปเงียบๆ พลางสอดส่องสายตาสำรวจไปรอบๆ ก่อนจะมาหยุดสายตาอยู่ที่ชายปากหมาคนเดิมที่ช่วยเขามาตั้งแต่เช้า

    จะว่าไปไอ้หมอนี่ก็หล่อนะ หล่อแบบสำอางๆ ดูสะอาดสะอ้าน

    พอลองมาสังเกตดูดีๆ จื่อเทาถึงได้รู้ตัวว่าเขากับผู้ชายตัวขาวคนเดิมเป็นจุดรวมสายตาของเหล่าแฟนคลับด้วยกันไม่น้อย ก็แน่ล่ะแฟนบอยน่ะหายาก ยิ่งแฟนบอยตัวสูงๆ ใหญ่ๆ เหมือนไททั่นแบบพวกเขาสองคนยิ่งหายากเข้าไปใหญ่

    จื่อเทาไม่รู้ว่าเขานั่งมองเพื่อนใหม่ปากไม่ดีนานเท่าไหร่ แต่รู้แค่ว่าดูแล้วเพลิตา จ้องได้ไม่มีเบื่อกระทั่งหมอนั่นเงยหน้าขึ้นมาและบังเอิญสบตากับเขาเข้า

    เหยยยย นี่เขาคิดอะไรอยู่!

    จื่อเทากระพริบตาแล้วสะบัดหัวตัวเองไปมาแรงๆ แล้วรีบยกไอโฟนขึ้นมาจิ้มเล่นแก้เก้อทันที หวังว่าหมอนั่นจะไม่รู้นะว่าโดนแอบมอง แต่จนแล้วจนรอดจื่อเทาก็อดใจไม่ไหวแอบเอาไอโฟนเครื่องเดิมถ่ายรูปเพื่อนปากเสียที่เขาไม่รู้ชื่อไว้จนได้ ยังไม่ทันที่เขาจะได้ส่องรูปที่ตนถ่ายว่าเป็นอย่างไรก็มีสายเรียกเข้ามา

    เบอร์โทรจากจีน

    “เหวย...”

    อาเทาจะบอกว่าวันอาทิตย์ไปคอนไม่ได้แล้วว่ะแก หม่าม๊าจะพาไปเยี่ยมญาติที่เชจูต่ออ่ะแก เค้าขอโทษ

    เสียงหวานๆ แหลมๆ ที่อยู่ปลายสายเป็นเสียงของเม่งเจีย เพื่อนสนิทของจื่อเทาที่จะมาคอนเสิร์ตด้วยกัน แต่วันนี้สาวเจ้าดันติดสอบบินมาเกาหลีไม่ได้ เลยให้เขาฉายเดี่ยวมาจองคนเดียว

    อืม อาทิตย์มาไม่ได้ อืม.. ห๊ะ! อะไรนะ!?

    “ไม่ขำเลยนะอาเจีย ทำไมหม่าม๊าแกทำแบบนี้อ่ะ” จื่อเทาเบะปากรู้สึกดีเพรสมากถึงมากที่สุดมาจากก้นบึ้งของจิตใจ

    อาเทา เค้าขอโทษจริงๆ นะ ให้เค้าชดใช้ยังไงก็ได้ วันอาทิตย์แกไปคนเดียวก็ได้นะเค้าไม่โกรธหรอก จริงๆ นะอาเทา

    “แกครับหลงหลุมคนเดียวนี่ไม่สนุกสำหรับคนพูดภาษาไม่รู้เรื่องครับ” ใช่ว่าจื่อเทาไม่อยากลงหลุมคนเดียว แต่เขาไม่กล้าพอต่างหาก ถ้ามากับเจีย ยัยนั่นยังพอเขาเอาตัวรอด ทั้งคล่องแคล่วว่องไว แถมภาษาเกาหลีของยัยเจียน่ะดีสุดๆ อีกต่างหาก

    เค้าขอโทษอ่ะแก TT’

    “เอาเหอะๆ วันเสาร์วันเดียวก็ได้ วันอาทิตย์ก็ไปตามรอยวง LORDs แล้วกัน” คิดได้ดังนั้นจื่อเทาก็ถอนหายใจหนักๆ ใช่ว่าเขาไม่เสียดายแต่ไปวันเดียวก็ดีกว่าไม่ได้ไปนี่นะ ที่สำคัญโรงแรมก็จองห้องล่วงหน้าไว้แล้ว ขี้เกียจไปแคนเซิลให้เสียเวลา

    เค้าจะซื้อออฟฟิชเชียลให้แกสองอย่างเลยนะ ไถ่โทษนะอาเทา ขอโทษจริงๆ นะ

    “ครับๆ โอเคๆ พูดแล้วแกห้ามคืนคำนะอาเจีย” จื่อเทาตอบเพื่อนก็จะบอกลากันแล้วตัดสายทิ้งไป เขาถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ จะว่าเซ็งก็ใช่ แต่เข้าใจเพื่อนนั่นก็ถูก สุดท้ายจื่อเทาเลยได้แต่พยายามตัดอกตัดใจอยู่เงียบๆ แล้วหันมานั่งรอเรียกคิวต่อไป

     

    เวลา 13.00 น

     

    “เชิญคิวที่ 530 ค่ะ” จื่อเทาแทบจะกระโดดแล้วเทคตัวขึ้นไปสูงๆ ให้ทะลุตึกเพราะ คิว 530 คือคิวของเพื่อนแฟนบอยตัวขาวปากดีคนข้างหน้าเขาเอง หมอนั่นได้จองแล้ว อีกไม่นาน... คิวที่ 531  อย่างจื่อเทาก็จะถึงฝั่งฝันแล้ว!!!

    ดีใจครับ!!!!

    ทันทีที่คิว 531 โดนเรียก จื่อเทาแทบจะลุกขึ้นแล้วเล่นวูซูผสมมูนวอร์คไปที่เคาท์เตอร์แม้ว่าระหว่างเลือกที่นั่งเขาจะแอบเฟลไม่น้อยเมื่อนึกได้ว่า วันอาทิตย์เขาคงไม่ได้มาดูคอนเสิร์ตนี้ แต่จื่อเทาก็ปัดฟีลลิ่งนั้นทิ้งไปอย่างรวดเร็ว พร้อมจ่ายเงินและรับบัตรอ่อนมาไว้ในมืออย่างรวดเร็ว

    MISSION COMPLETE!!!

    น้ำตาจะไหล

    จื่อเทาคิดพลางเอาบัตรอ่อนสองใบแนบแก้มอย่างหวงแหน เขาเดินจ้ำๆ ออกมาอย่างมีความสุข ในหัวคิดถึงเครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากมิชชั่นจองบัตรมหาโหดครั้งนี้

    “ฮยองเล่นอะไรกันวะ ผมไม่ขำเลยนะ!” น้ำเสียงคุ้นๆ เหมือนได้ยินมาตลอดทั้งวันทำให้จื่อเทาต้องเงี่ยหูฟังและรีบหันไปมอง เพราะมันเป็นน้ำเสียงของเพื่อนแฟนบอยหน้าติ๋มปากปีจอคนเดิม ฟังจากน้ำเสียงและประโยคที่เขาพอแปลออกนิดหน่อยก็พอเดาได้ว่า หมอนั่นคงหัวเสียมาก

    “ถ้าฮยองจะไม่ว่างทำไมไม่เช็คให้ดีกว่านี้ครับ ผมจองเสร็จแล้วจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว” แม้จะงงศัพท์บ้างแต่จื่อเทาก็พยายามเผือกฟังอย่างเต็มที่

    “คือผมต้องมาเสียเวลาประกาศขายอีกใช่ไหมครับ เหอ ดีมากนะ ทิ้งน้องทิ้งภาระไว้ให้น้องชาย แล้วหนีไปเดทกับดโยฮยอง ผมล่ะโคตรรักฮยองเลยครับ ไอ้ซูโฮฮยอง!” หมอนั่นกดตัดสายอย่างแรง (กะจากสายตา) ก่อนจะยืนหายใจฟึดฟัดอยู่คนเดียวเงียบๆ คงพยายามจะสงบสติอารมณ์แน่ๆ

    “เอ่อ เฮ้! ไปกินกาแฟกันหน่อยไหมนายน่ะ”

    แล้วหวงจื่อเทาไปชวนผู้ชายคนนั้นมากินกาแฟด้วยกันทำไม ตอบบบบบบบบบบบบบบ!!! =___=

     

     

     

    “คือ นายซื้อบัตรเสร็จแล้ว แต่พี่ชายของนายที่ว่าจะไปด้วยกันเค้าไม่ว่างแล้วนายก็เลยโฮโมว่างั้น”

    “โมโหน่ะ ไม่ใช่โฮโม” จื่อเทาได้ยินเสียงหน้าตัวเองแตกกระจายละลายลงไปในคาปูชิโน่เย็นของตัวเอง

    “นั่นแหละ มันแปลว่าโกรธ นั่นล่ะ แล้วไปวันไหนหรอ”

    “ตอนนี้บัตรที่ว่างอยู่ของพี่ชายคือ บัตรยืนวันอาทิตย์น่ะ” ฟังจบจื่อเทาแทบอยากจะร้องไห้ตรงนั้น ไม่ว่างไปบัตรยืนวันอาทิตย์ โอ๊ยยย เคสเดียวกัน โคตรเจ็บปวด!

    “ตอนแรกฉันจะไปบัตรยืนวันอาทิตย์เหมือนกัน แต่ว่าเพื่อนไม่ว่างเลยไม่ได้ไปแล้ว ไปแค่วันเสาร์” จื่อเทาเล่าออกมาด้วยความเซ็งพลางคนกาแฟในแก้มด้วยหลอดไปมา

    “ไปด้วยกันไหมล่ะ”

     

    ประโยคที่เพื่อนแฟนบอยชาวเกาหลีเอ่ยออกมาสร้างความตกใจให้หวงจื่อเทามากถึงมากที่สุด เขาเริ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมายื่นให้อีกคนพิมพ์ภาษาเกาหลีแล้วแปลออกมาเป็นภาษาจีนเพื่อความชัดเจนในความหมาย

     “ว่าไงล่ะ ไปด้วยกันไหม” น้ำเสียงนุ่มๆ กับรอยยิ้มที่จู่ๆ อีกคนก็เผยออกมาทำเอาจื่อเทารู้ทำหน้าไม่ถูกขึ้นมาเสียอย่างนั้น

    “เอ่อ แล้วขายต่อเท่าไหร่ล่ะ”

    “ครึ่งราคา”

    อะไรนะ!!!!!!!!!!!!!!

    “ขายแพงขึ้นครึ่งราคา ?”

    “เปล่า ขายให้ครึ่งราคา คือบัตรยืน 4400 จะขายให้นาย 2200”

    ฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสว!!!

    ไอ้หมอนี่ไม่บ้าก็เมากาแฟแล้ว!!!!!!!!!!!!!!

    “คือ เอ่อคือว่า ฉันคงไม่ได้ไป พูดภาษาไม่ค่อยแข็งน่ะ”

    “ก็บอกว่าไปด้วยกันไง ไปยืนข้างๆ กันเลย จะช่วยดูแล” คนเกาหลีนี่น้ำใจงามแบบหมอนี่ทุกคนรึเปล่าครับ จื่อเทาปลื้มปริ่มอยากจะร้องไห้!

    “คนเกาหลีใจดีมากๆ”

    “อย่าเข้าใจผิด ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ใจดีกับนาย มีแค่ฉันต่างหาก” ประโยคที่หมอนั่นพูดออกมาทำให้จื่อเทางง

    “หมายถึงว่าฉันตั้งใจจะขายมันให้นาย ฉันใจดีเฉพาะกับนาย เข้าใจไหม ?” ไม่เข้าใจว้อย! มีเหตุผลอะไรให้มาใจดีด้วยล่ะ!?

    “นายโกหกรึเปล่า จะมาใจดีกับฉันทำไม”

    “ก็ใจดีกับคนที่ชอบ ไม่เห็นจะแปลก” เอ้อ นั่นสินะไม่เห็นจะแปลก

    หืม ?

    หืม ???

    หืม ??????????????

    อะไรคือคนที่ชอบ ???


    “ฉันชอบนายไง เข้าใจรึยัง”

    ...คนเกาหลีนี่หน้าหนาแบบไอ้นี่ทุกคนรึเปล่า!!!!

    จื่อเทาบอกไม่ถูกว่าตอนนี้รู้สึกยังไง ดีใจหรือขนลุก แต่ที่รู้ๆ คือช็อคมากถึงมากที่สุด แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมหน้าเขาถึงได้ร้อนและแดงขนาดนี้ มันแดงของมันเอง!

    “นายเป็นคนที่ฉันชอบ ฉันจะขายบัตรให้นายในราคา 2200 แต่ถ้านายเลื่อนขั้นจากคนที่ชอบมาเป็นคนรักฉันล่ะก็ นายจะได้บัตรยืนวันอาทิตย์ไปฟรีๆ แถมคนดูแลนายตลอดไปด้วย คุ้มใช่ไหมล่ะ” จื่อเทารู้สึกว่าสมองของเขาเริ่มทำงานผิดพลาด ประมวลผลออกมาได้ไม่เต็มร้อย แต่สิ่งที่ทำงานได้ดีเยี่ยมเกินร้อยคือก้อนเนื้อตรงอกซ้ายกับเลือดทั้งตัวที่ไหลมากองอยู่ที่หน้านี่สิ!!! ให้ตายทำไมไอ้คนปากหมาปากหนักพูดน้อยยิ้มยากเมื่อเช้าถึงกลายเป็นไอ้กะล่อนหน้าเป็นคารมจัดแบบนี้วะ สองบุคลิกรึไง!?

    “ตัดสินใจยังไงก็ โทรมานะ ไลน์ฉันก็แอดไปแล้ว เรียบร้อยนะเทาเทา” ไม่รู้ว่าไอ้บ้านี่เอามือถือเขาไปตอนไหน แอดอะไรยังไง รู้แค่ว่าตอนนี้มันกำลังยิ้มทำหน้ากวนประสาทโชว์หน้าจอมือถือที่มีชื่อไลน์ของเขาเด่นหราอยู่ ใช่เทาเทานั่นแหละ!!

    “ติดต่อมาไวๆ นะ ฉันจะรอ” คู่สนทนาของจื่อเทาลุกขึ้นยืนแล้ววางเงินค่ากาแฟไว้ที่โต๊ะก่อนจะเดินออกไป

    “เดี๋ยว!!!!” เขาตะโกนเรียกไอ้ขาวนั่นเสียงดังจนคนครึ่งค่อนร้านหันมามอง แต่คิดว่าหวงจื่อเทาสนรึไง!

    “นายชื่ออะไร”

    “ว่าที่แฟนของนายคือฉัน แฟนของนายชื่อ โอเซฮุน เข้าใจตรงกันนะ”

    รอยยิ้มมุมปากกับการขยับตาน้อยๆ มาให้นี่คืออะไรครับ ตอบผมที!!!!!!!!!

     

     

     

     

     

    แล้วพวกคุณคิดว่าผมควรตัดสินใจยังไงดี ??

    โพสต์บอกไว้นะครับจะมาตามอ่าน ตอนนี้ผมร้อนไปหมดแล้ว ไม่ไหวแล้วตัดสินใจไม่ได้จริงๆ  (//////)

     

     

    ปล. หวงจื่อเทาไม่ใช่เกย์ แค่หวั่นไหวง่าย จริงๆ

     

     

    the end. 

     





     








    mr.may

     

    ฟิคแก้บน ฟิคแก้บน ฟิคแก้บน

    โมเม้นนี้ใครเคยจองบัตรคอนเสิร์ตจะโคตรเข้าใจอ่ะค่ะ ว่ามันแสนสาหัส

    (โดยเฉพาะถ้าจองกับเอสเอ็มทรู)

    ฮุนเทา กันบ้างนะคะนะคะ 555

    เมย์เชื่อว่าเวลาเค้าสลับกัน เค้ายิ่งอร่อยค่ะ สลับไปสลับมาคือดี -..-

    อ่านจบแล้วใครว่าจื่อเทาใจง่ายก็เม้นแซะนางได้นะคะ หมั่นค่ะ! ถถถถถถ

     

     

     

     

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×