คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [OS] วิถี(รัก)ทางติ่ง
Title. วิถี(รัก)ทางติ่ง
Author. mr.may
Paring. Sehun x Tao
Dear everyone who have got a same experience
- Base on true story -
เวลานี้ 03.00 น.
หน้าที่ทำการ Real shop เต็มไปด้วยผู้คนคลาคร่ำ แต่ละคนล้วนสวมเสื้อสกรีนลายกราฟิตี้สัญลักษณ์วงบอยแบนด์ชื่อดังที่กำลังเป็นที่คลั่งไคล้ของกลุ่มวัยรุ่นในขณะนี้
วง LORDs
ประกอบด้วยสมาชิกชายหนุ่มหน้าตาดีทั้งหมด 5 คน เรนเดียร์ มิสเตอร์บี ซีวาย แบล็ค และโพนี่
ใช่แล้วนี่คือวันจองบัตรคอนเสิร์ตเอเชียทัวร์ครั้งแรกของห้าหนุ่ม!! ประชากรแฟนคลับถึงได้หลั่งไหลมารวมตัวประหนึ่งการชุมนุมทางการเมืองขนาดย่อมแบบนี้!
ทั้งนี้มีแฟนคลับจำนวนไม่น้อยที่มารอจองคิวซื้อบัตรกันตั้งแต่เช้าตรู่ของเมื่อวาน ซึ่งชายหนุ่มตัวสูง ผมบลอนด์ หน้าคม ตาดุคนนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น นามของเขาคือ หวงจื่อเทา แฟนบอยสัญชาติจีนที่ลงทุนบินข้ามน้ำข้ามทะเลจากแผ่นดินใหญ่มาจองบัตรคอนเสิร์ตที่เกาหลีนี้
จื่อเทาใช้สายตาสอดส่องดูกลุ่มแฟนคลับซึ่งส่วนมากเป็นผู้หญิง ทั้งที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะหรือที่จูงลูกมาจองด้วยความตื่นเต้น
น่าปลาบปลื้มแทนหนุ่มๆ ทั้ง 5 คนที่มีคนรักและชื่นชอบพวกเขามากขนาดนี้
แต่ตอนนี้ นาทีนี้ นี่คือสนามรบ!!! เขาจะไม่ปรานีไม่ว่าชะนีหน้าไหนจนกว่าเขาจะได้บัตร!
จื่อเทาคิดอย่างมุ่งมั่นพลางมองเลขคิวในมืออย่างเบื่อหน่าย รันคิวเองทุกที สุดท้ายก็วิ่งสี่คูณร้อยทุกทีสิน่า (ประสบการณ์จากการไปคอนเสิร์ตของวงในดวงใจวงอื่นๆ น่ะนะ)
เขากวาดสายตามองไปรอบๆ พวกแฟนคลับทุกคนนั่งรอมานานพอสมควร บางคนคงรอมาครบ(หรือเกิน) 24 ชั่วโมงแล้ว บ้างก็ฟุบหลับ บ้างก็ก้มหน้าก้มตาจิ้มทวิตเตอร์อัพเดทสถานการณ์กันรัวๆ แต่แล้วสายตาเค้าก็ไปสะดุดกับผู้ชายคนหนึ่ง คนตัวสูงผมสีน้ำตาลทอง กับใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ กำลังยืนพิงผนังทอดอารมณ์อยู่ ดูท่าทางจะแมนเต็มร้อย
โอ้ มันหายากนะในบรรดาแฟนบอยอันน้อยนิด หายากมากๆ ที่จะเป็น... ผู้ชายแท้ๆ
แน่นอนจื่อเทาน่ะแมนทั้งแท่งนะ! ที่ชอบน่ะเพราะวงนี้เป็นวงที่มีเพอร์ฟอร์แมนซ์ดีและเซอร์วิสแฟนคลับได้เยี่ยมยอดต่างหาก!!
นานๆ ทีจะหาเพื่อนแฟนบอยชายแท้เจอ ต้องเข้าไปทักทายสักหน่อย
ไวเท่าความคิดที่ขายาวๆ พาจื่อเทาก้าวไปหาชายหนุ่มตัวสูงคนนั้น พออยู่ในระยะเดียวกันแล้ว เหมือนหมอนี่จะเตี้ยกว่าเขานิดหน่อยแฮะ
"เอ่อ... ไง มาจองบัตรเหมือนกันหรอ" ประโยคคำถามที่ดูไม่สมเหตุสมผลว่าถามไปทำไมกับสำเนียงต่างด้าวฟังลำบากของตัวเขาเองทำให้ผู้ชายหน้านิ่งคนนั้นขมวดคิ้ว
"ใช่" คำตอบห้วนสั้นได้ใจความทำเอาจื่อเทาไปต่อไม่เป็น เขายู่หน้าเล็กน้อย ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่อยากเสวนากับเขาเท่าไหร่นัก
"ไม่ใช่คนเกาหลี ?"
"อ่า เป็นคนจีนน่ะ" จื่อเทาตอบคำถามห้วนๆ นั้นหวาดๆ อะไรกันทีแรกเหมือนไม่อยากคุย...
"ต้องมาจองถึงนี่เลย ?"
"อยากมาดูที่บ้านเกิดศิลปินน่ะ ฮ่าๆ" จื่อเทาตอบอย่างเป็นธรรมชาติขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกคนเริ่มชวนคุย
"เป็นเกย์หรอ ?"
ห่ะ
ห่ะ
ห๊ะ!!!!!
ไอ้เวรนี่ถามอะไรนะ -___-!!!
"แฟนบอยนี่ต้องเป็นเกย์รึไงวะ! ห๊ะ!?" ตาคมดุวาวขึ้นมาทันทีเมื่อโดนจี้จุด ถึงศัพท์เกาหลีบางคำจื่อเทาจะไม่รู้เรื่องแต่คำว่าเกย์นี่มันโดน มันโดน!!!
เขาจ้องหน้าไอ้คนตัวเตี้ยกว่าผิวขาวจัดราวจะกินเลือดกินเนื้อ
ไม่คงไม่คุยแม่งละ!
“ขอให้น้องทุกคนที่มารอจองบัตรคอนเสิร์ตของวง LORDs นะครับ ขอให้น้องอยู่ในความสงบนะครับ บัตรเปิดขายหกโมงนะครับน้อง รอให้เป็นระเบียบครับ!"
เสียงการ์ดผู้ชายตะโกนใส่โทรโข่งเป็นประโยคที่จื่อเทาไม่เข้าใจนัก แต่ดูจากสภาพคนที่แตกกระจายออกเป็นย่อมเล็กน้อยคงหมายความว่า ให้ยืนรอดีๆละมั้ง
คือบางทีก็รู้สึกว่าผู้จัดเขาไม่จัดการอะไรให้เรียบร้อยอ่ะนะ กฎก็ไม่เป็นกฎ ไหนบอกว่าห้ามค้างห้ามรันคิวเอง ก็เห็นคนทำกันเยอะแยะ...
จื่อเทาเบ้ปากน้อยๆ ก่อนจะควักหูฟังมาเสียบฟังเพลง เขายังคงยืนอยู่ที่เดิม ข้างผู้ชายตัวสูงขาวปากหมาคนเดิม แต่เขาไม่สนใจที่จะคุยกับหมอนั่นแล้วก็เท่านั้นเอง
เวลาเลยผ่านไปนานเท่าไหร่จื่อเทาไม่รู้แต่รู้แค่ผู้คนเริ่มหนาตาขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มเกิดการจราจลทุกครั้งที่พนักงาน Real shop ขยับตัว แน่นอนจื่อเทาก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่แห่แหนวิ่งไปดูกับเขาด้วย
ก็คนมันอยากรู้นี่หว่า...
จื่อเทาหอบหนักๆ ขณะกลับมายืนพิงกำแพงอยู่ที่เดิมข้างๆ ไอ้คนตัวขาวปากหมานั้น เขาสอดส่องสายตาไปทั่วพยายามหาทุกช่องทางที่จะจองบัตรคอนเสิร์ตได้
"บ้ารึเปล่า วิ่งตามกันอยู่ได้" เสียงทุ้มๆ เอ่ยขึ้นมาลอยๆ จนจื่อเทาต้องหันไปค้อนขวับ ไอ้บ้านี่...คิดอะไรก็ไม่ต้องพูดออกมาก็ได้มั้ง ขวางโลกชะมัด - -
"เขายังไม่เปิดขายหรอกนะ กว่าพนักงานจะมารันคิวแบบจริงๆ อีก เหนื่อยเปล่า" จื่อเทาปลายตามองคนที่กำลังพูดอยู่ด้วยแววตากินเลือดกินเนื้อ
เออกูรู้! ย้ำจังนะมึง
อยากตะโกนด่ามันแต่ก็ทำไม่ได้ จื่อเทาจึงทำได้เพียงเปิดเสียงเพลงในโทรศัพท์ให้ดังขึ้นกลบเสียงของชายแปลกหน้าปากไม่ดีคนดังกล่าว
รอแล้วรอเล่า เพลงในไอโฟนชัฟเฟิลจนวนกลับมาเพลงเดิมแล้วสามรอบ เข็มนาฬิกาก็หมุนวนมายังเวลาตีห้าครึ่ง
จื่อเทาอ้าปากหาวแล้วค่อยๆ นั่งลง หัวสีบลอนด์ของเขาพิงเข้ากับกำแพงก่อนจะหลับตาลงเบาๆ
ง่วงจัง
เขาไม่รู้ว่าเริ่มวูบหลับไปตอนไหนแต่รู้แค่รู้สึกตัวตื่นตอนถูกแรงกระชากให้ลุกขึ้นยืนอย่างแรงและถูกดึงให้ออกวิ่งอย่างรวดเร็ว จื่อเทารู้ดีว่ายังรู้สึกตัวไม่เต็มที่แต่สติครึ่งๆ กลางๆ ก็บอกให้ร่างกายขยับออกวิ่งตามแผ่นหลังกว้างๆ ของคนข้างหน้าไปไม่มีขัดขืน เขาหยุดวิ่งทันทีที่อีกคนหยุดแล้วทรุดตัวลงนั่งยองๆ ขยี้ตาสะบัดหัวไปมาเพื่อเรียกความเต็มร้อยของตนให้คืนมา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและค้อนพบว่าคนที่ลากเขามาคือไอ้คนขาวปากไม่ดี และที่สำคัญไปกว่านั้นหมอนั่นลากเขามาต่อแถวรับคิวบัตรคอนเสิร์ต!! ถึงมันจะไม่ใช่คิวต้นๆ ประเมินจากความยาวของแถว น่าจะได้คิวสักห้าร้อยกว่าๆ
ก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรนี่
“เอ่อ ขอบคุณมากนะที่ช่วยพามาเข้าแถว” จื่อเทาลุกขึ้นยืนเพื่อเอ่ยขอบคุณเพื่อนใหม่ในสนามรบ แต่เขากลับได้รับสายตานิ่งๆ กับมา
“ก็ไม่ได้อยากทำ แค่สงสารเฉยๆ” ประโยคตอบรับจากอีกฝ่ายทำเอาหวงจื่อเทาไฟลุก เขากำมือแน่นพลางท่องบทสวดมนต์ระงับอารมณ์อยากบั่นหัวคนด้วยแข้งช้าๆ หายใจเข้าออกลึกๆ แล้วเงยหน้าขึ้นสบตาผู้ชายคนเดิมอีกครั้ง
“ก็ขอบคุณตามมารยาทเท่านั้นแหละ!”
ฮึ่ย! ไอ้บ้า ไอ้หน้าวอก ไอ้ติ๋ม!!!!
เวลา 08.00 น.
สถานการณ์บริเวณหน้า Real shop แม้จะดูเป็นระเบียบขึ้นมากเพราะแจกคิวแล้วแต่ยังคงคุกรุ่นอยู่ ติ่งทุกชีวิตกำลังสร้างโมเม้นสังคมก้มหน้าเนื่องด้วยกำลังเช็คทวิตเตอร์เกี่ยวกับจำนวนที่นั่งในบัตรแต่ละราคาแต่ละโซนว่าบัตรที่ตนต้องการในโซนนั้นๆ ถูกกวาดจองหมดหรือยัง
หวงจื่อเทาก็กำลังรีทวิตและสกรีมรัวๆ เพราะบัตร 5900 บัตรราคาแพงที่สุดและเห็นศิลปินชัดที่สุดในโซนที่เขาต้องการถูกจองไปเกือบครึ่งแล้ว
“จะจองทันไหมวะ จะได้ไหมวะ จะทำยังไงดีวะ” เขาพึมพำออกมาเป็นภาษาจีนอย่างกังวลในขณะที่นิ้วยังคงสไลด์อ่านทวิตตามไทม์ไลน์ที่เด้งไม่ขาดสาย
ประกาศจาก Real shop บัตร 5900 เปิดให้จองเพียง 600 ใบเท่านั้นค่ะ สวัสดี
คุณพ่อ คุณแม่ มะ-เริงงงงงงงงงงงงงงงง!!!
จื่อเทากดรีทวิตอย่างแรงจนแม้แต่คนข้างๆ ยังกลัวจอไอโฟนแตกกระเด็นใส่หน้าพลางเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ออร่าสีดำกับใบหน้าคมดุที่ดูโหดขึ้นเรื่อยๆ สร้างแรงดาเมจให้คนต่อคิวข้างหลังเขาได้มากโข
แต่ไม่ใช่กับผู้ชายตัวขาว ปากหมา หน้ากวนตีนที่อยู่คิวข้างหน้าเขา
“เครียดอะไรขนาดนั้น ไม่คิดถึงคนที่ได้คิวพันกว่าๆ บ้างล่ะว่าเค้าจะรู้สึกกันยังไง” จื่อเทาค้อนผู้ชายข้างหน้าด้วยสายตาน่ากลัวและโคตรเหวี่ยงวีน
เผือกอะไรขนาดนี้ พานิคแล้วหนักหัวแกหรออออ!? นี่พานิคเงียบๆ โว้ยไม่ได้ส่งเสียงเลย!!
“มาจากจีนเพื่อมาจองขนาดนี้ เลิกกังวลสักทีเถอะ บัตรน่ะยังไงก็ได้ ไม่ก็สงสารเด็กผู้หญิงข้างหลังบ้างก็ดี” ไอ้บ้านี่กล้าดียังไงวะ! จื่อเทาค้อนไอ้คนข้างหน้าคนเดิมตาแทบถลนออกมาจากเบ้าแล้วเบนสายตาไปมองคิวข้างหลังตามที่อีกคนบอกแล้วต้องอุทานออกมาอย่างตกใจ
คิวข้างหลังเขาเป็นเด็กผู้หญิงถักเปีย ดูเรียบร้อย อายุน่าจะสัก 16-17 ปี กำลังยืนตัวสั่นมองเขาอย่างหวาดกลัวร้อนถึงจื่อเทาต้องเอ่ยปลอบอยู่พักใหญ่นางจึงหยุดสั่น
“แพลนจะจองบัตรเท่าไหร่” ไอ้เสียงไม่พึงประสงค์จากคนๆ เดิมทำให้เขาต้องตวัดสายตามองอย่างหงุดหงิด
“5900!” จื่อเทาตอบเสียงห้วนก่อนจะก้มลงสนใจทวิตเตอร์ไม่ได้ต่อความกับคนกวนประสาทคนเดิมมอีก
ไม่ได้สนใจสายตาจากอีกคนที่มองมาที่ตนแม้แต่น้อย
เวลา 10.30 น.
“เชิญคิวที่ 510 – 535 ด้านในค่ะ” เสียงหวานๆ ของพนักงาน Real shop ทำให้จื่อเทาลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปภายในร้านอย่างกระดี๊กระด๊าปิดไม่มิด แต่อันที่จริงก็แค่เปลี่ยนโลเคชั่นการเล่นทวิตเตอร์จากนอกร้านเป็นในร้าน มีแอร์ เปิดเพลงวง LORDs ประกอบ สร้างบรรยากาศการเล่นทวิตเตอร์ให้บันเทิงขึ้นนิดหน่อยเท่านั้น
“จองโซนไหน” เสียงเดิมของคนน่ารำคาญคนเดิมเรียกให้จื่อเทาเงยหน้าขึ้นมอง
“จะจอง SD”
“เมนมิสเตอร์บี ?”
“อืม แล้วนายเมนใครอ่ะ”
“เอ่อ เมน... เมนเรนเดียร์” คำตอบของหมอนั่นทำเอาจื่อเทาเบิกตากว้าง ไม่ใช่เพราะความดีใจหรอกนะ ก็เรนเดียร์น่ะขึ้นโซนเดียวกับคุณบีเยอะมากน่ะสิ!! ไอ้บ้านี่ต้องมาแย่งเขาจองใช่ไหม...
“แล้วไปบัตรเท่าไหร่อ่ะ แล้วไปวันไหน แล้วจะไปโซนไหนอ่ะนายน่ะ” จื่อเทาเอ่ยถามรัวๆ อย่างพยายามปกปิดเจตนารมณ์ความหวาดกลัวของตน(ไม่มิด)
“ไม่ได้คิดหรอก จองได้บัตรไหนก็ไปอันนั้นแหละ จะไปสองวัน” จื่อเทาพยักหน้ารัวๆ อย่างเข้าใจระคนโล่งอก อย่างน้อยๆ หมอนี่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาแย่งบัตรเขาน่ะนะ
"ไม่ต้องทำหน้าตาตื่นขนาดนั้นก็ได้เวลาถามน่ะ" จื่อเทามุ่ยหน้าใส่คู่สนทนาก่อนจะหันไปสนใจวีดิโอพรีเซนเทชั่นคอนเสิร์ตครั้งนี้ที่ในร้าน Real shop เปิดอยู่
“คุณบีวิ้งมาก... อุก!" จื่อเทารีบเงยหน้าขึ้นทันที จู่ๆ เห็นหน้ามิสเตอร์บีในวีดิโอ เลือดกำเดาก็ไหลแบบไม่ได้นัดหมาย
กล้ามคุณบีขาวมาก ชวนวาบหวามจวนเจียนใจแตก...
อาการที่เลือดเริ่มไหลออกจากจมูกเรื่อยๆ เหมือนเขื่อนแตกของจื่อเทาหนักข้อขึ้นเดือดร้อนถึงหนึ่งพันธมิตรที่ได้มาแบบงงๆ ในวงศัตรูของเขาต้องยื่นผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าอ่อนให้ จื่อเทามองผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นสลับกับเจ้าของอย่างงงงวย
"เช็ดซะ เดี๋ยวเลือดหยดลงกระดาษคิวหรอก" เขาคว้าหมับเข้าที่ผ้าผืนนั้นแล้วซับมันเข้ากับจมูกที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือด
"ขอบใจ" น้ำเสียงอู้อี้ที่จื่อเทาใช้เอ่ยขอบคุณนั้นทำให้เขาเห็นสิ่งไม่คาดฝัน
เพราะอยู่ๆ ไอ้ผู้ชายปากหมาที่เขาเจอตั้งแต่เช้าก็ยิ้มออกมาไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
...ไม่อยากยอมรับเลยว่า
หล่อกว่าคุณบีอีก!!!
คิดไปพาลทำให้เลือดกำเดาไหลทะลักหนักกว่าเดิม จื่อเทาจึงแหงนหน้าขึ้นจนสุด พยายามให้เลือดไหลลงคอไปให้หมด แต่แรงรั้งไม่มากนักจากคนๆ เดิมทำเอาเขาต้องขืนตัวไว้ แต่สุดท้ายก็โดนผู้ชายปากหมารั้งหัวให้พิงไปกับไหล่ของหมอนั่นจนได้
"เงยแล้วพิงไว้นิ่งๆ แบบนี้จนกว่าเลือดจะหยุดไหล" จื่อเทาแปลศัพท์บางคำไม่ออกจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลยพิงไหล่อีกคนไปแบบนั้น
เวลา 12.00 น.
เลือดกำเดาของจื่อเทาหยุดไหลไปนานแล้ว และตอนนี้เขาและคนอื่นๆ ก็นั่งรอคิวกันมานานจนเหน็บชากินขาอ่อน ตอนนี้คิวที่ 500 เพิ่งได้กดบัตร อะไรมันจะนานขนาดนี้!!!
จื่อเทาบ่นในใจพลางใช้มือลูบท้องเพื่อให้กระเพาะที่เริ่มส่งเสียงคำรามสงบ เขาหิวและเริ่มจะปวดท้องแล้ว - -
โมโห ตื่นเต้น หงุดหงิด รอคิวนาน อยากได้บัตร เครียด อารมณ์เสีย และหิวมากมากมากมาก!!!
นั่งทำหน้าบูดอยู่ได้ไม่นาน จื่อเทาก็นึกขึ้นได้ว่าเขาซื้อแซนด์วิชมาจากโรงแรมด้วยสองชุด เขารีบเปิดกระเป๋าเป้ลายเสือดาวมีหูของตัวเองแล้วหยิบมันออกมา
“นี่นายน่ะ กินด้วยกันไหม” เขาสะกิดแขนผู้ชายปากหมาที่นิสัยดี(นิดหน่อย) แล้วยื่นแซนด์วิชชุดหนึ่งไปให้ หมอนั่นไม่ตอบอะไรแค่รับไปเงียบๆ
ก็ไม่ได้เป็นห่วงอะไรหรอกนะ แค่ไม่อยากจะติดหนี้บุญคุณใคร!
“ถือว่าเราไม่มีอะไรติดค่างกันแล้วนะ”
“ติดค่าง ?”
“ก็ชดใช้ให้ไปแล้วไง แซนด์วิชเนี่ย”
“เค้าเรียกว่าติดค้างน่ะ ไม่ใช่ติดค่าง”
“นั่นแหละ! กินไปเลยไป!” จื่อเทารู้สึกอายไม่น้อยที่ออกเสียงผิด ก็เขาไม่ใช่เจ้าของภาษานี่หว่า จะไม่อายขนาดนี้ถ้าไอ้คู่สนทนามันไม่เพิ่มออพชั่นด้วยการหัวเราะเยาะเขาด้วยว่าแล้วก็กัดแซนด์วิชเข้าปากคำใหญ่ๆ
ขอให้แซนด์วิชติดคอตาย ไอ้ติ๋ม!!!!
จื่อเทานั่งกินแซนด์วิชไปเงียบๆ พลางสอดส่องสายตาสำรวจไปรอบๆ ก่อนจะมาหยุดสายตาอยู่ที่ชายปากหมาคนเดิมที่ช่วยเขามาตั้งแต่เช้า
จะว่าไปไอ้หมอนี่ก็หล่อนะ หล่อแบบสำอางๆ ดูสะอาดสะอ้าน
พอลองมาสังเกตดูดีๆ จื่อเทาถึงได้รู้ตัวว่าเขากับผู้ชายตัวขาวคนเดิมเป็นจุดรวมสายตาของเหล่าแฟนคลับด้วยกันไม่น้อย ก็แน่ล่ะแฟนบอยน่ะหายาก ยิ่งแฟนบอยตัวสูงๆ ใหญ่ๆ เหมือนไททั่นแบบพวกเขาสองคนยิ่งหายากเข้าไปใหญ่
จื่อเทาไม่รู้ว่าเขานั่งมองเพื่อนใหม่ปากไม่ดีนานเท่าไหร่ แต่รู้แค่ว่าดูแล้วเพลิตา จ้องได้ไม่มีเบื่อกระทั่งหมอนั่นเงยหน้าขึ้นมาและบังเอิญสบตากับเขาเข้า
เหยยยย นี่เขาคิดอะไรอยู่!
จื่อเทากระพริบตาแล้วสะบัดหัวตัวเองไปมาแรงๆ แล้วรีบยกไอโฟนขึ้นมาจิ้มเล่นแก้เก้อทันที หวังว่าหมอนั่นจะไม่รู้นะว่าโดนแอบมอง แต่จนแล้วจนรอดจื่อเทาก็อดใจไม่ไหวแอบเอาไอโฟนเครื่องเดิมถ่ายรูปเพื่อนปากเสียที่เขาไม่รู้ชื่อไว้จนได้ ยังไม่ทันที่เขาจะได้ส่องรูปที่ตนถ่ายว่าเป็นอย่างไรก็มีสายเรียกเข้ามา
เบอร์โทรจากจีน
“เหวย...”
‘อาเทาจะบอกว่าวันอาทิตย์ไปคอนไม่ได้แล้วว่ะแก หม่าม๊าจะพาไปเยี่ยมญาติที่เชจูต่ออ่ะแก เค้าขอโทษ’
เสียงหวานๆ แหลมๆ ที่อยู่ปลายสายเป็นเสียงของเม่งเจีย เพื่อนสนิทของจื่อเทาที่จะมาคอนเสิร์ตด้วยกัน แต่วันนี้สาวเจ้าดันติดสอบบินมาเกาหลีไม่ได้ เลยให้เขาฉายเดี่ยวมาจองคนเดียว
อืม อาทิตย์มาไม่ได้ อืม.. ห๊ะ! อะไรนะ!?
“ไม่ขำเลยนะอาเจีย ทำไมหม่าม๊าแกทำแบบนี้อ่ะ” จื่อเทาเบะปากรู้สึกดีเพรสมากถึงมากที่สุดมาจากก้นบึ้งของจิตใจ
‘อาเทา เค้าขอโทษจริงๆ นะ ให้เค้าชดใช้ยังไงก็ได้ วันอาทิตย์แกไปคนเดียวก็ได้นะเค้าไม่โกรธหรอก จริงๆ นะอาเทา’
“แกครับหลงหลุมคนเดียวนี่ไม่สนุกสำหรับคนพูดภาษาไม่รู้เรื่องครับ” ใช่ว่าจื่อเทาไม่อยากลงหลุมคนเดียว แต่เขาไม่กล้าพอต่างหาก ถ้ามากับเจีย ยัยนั่นยังพอเขาเอาตัวรอด ทั้งคล่องแคล่วว่องไว แถมภาษาเกาหลีของยัยเจียน่ะดีสุดๆ อีกต่างหาก
‘เค้าขอโทษอ่ะแก TT’
“เอาเหอะๆ วันเสาร์วันเดียวก็ได้ วันอาทิตย์ก็ไปตามรอยวง LORDs แล้วกัน” คิดได้ดังนั้นจื่อเทาก็ถอนหายใจหนักๆ ใช่ว่าเขาไม่เสียดายแต่ไปวันเดียวก็ดีกว่าไม่ได้ไปนี่นะ ที่สำคัญโรงแรมก็จองห้องล่วงหน้าไว้แล้ว ขี้เกียจไปแคนเซิลให้เสียเวลา
‘เค้าจะซื้อออฟฟิชเชียลให้แกสองอย่างเลยนะ ไถ่โทษนะอาเทา ขอโทษจริงๆ นะ’
“ครับๆ โอเคๆ พูดแล้วแกห้ามคืนคำนะอาเจีย” จื่อเทาตอบเพื่อนก็จะบอกลากันแล้วตัดสายทิ้งไป เขาถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ จะว่าเซ็งก็ใช่ แต่เข้าใจเพื่อนนั่นก็ถูก สุดท้ายจื่อเทาเลยได้แต่พยายามตัดอกตัดใจอยู่เงียบๆ แล้วหันมานั่งรอเรียกคิวต่อไป
เวลา 13.00 น
“เชิญคิวที่ 530 ค่ะ” จื่อเทาแทบจะกระโดดแล้วเทคตัวขึ้นไปสูงๆ ให้ทะลุตึกเพราะ คิว 530 คือคิวของเพื่อนแฟนบอยตัวขาวปากดีคนข้างหน้าเขาเอง หมอนั่นได้จองแล้ว อีกไม่นาน... คิวที่ 531 อย่างจื่อเทาก็จะถึงฝั่งฝันแล้ว!!!
ดีใจครับ!!!!
ทันทีที่คิว 531 โดนเรียก จื่อเทาแทบจะลุกขึ้นแล้วเล่นวูซูผสมมูนวอร์คไปที่เคาท์เตอร์แม้ว่าระหว่างเลือกที่นั่งเขาจะแอบเฟลไม่น้อยเมื่อนึกได้ว่า วันอาทิตย์เขาคงไม่ได้มาดูคอนเสิร์ตนี้ แต่จื่อเทาก็ปัดฟีลลิ่งนั้นทิ้งไปอย่างรวดเร็ว พร้อมจ่ายเงินและรับบัตรอ่อนมาไว้ในมืออย่างรวดเร็ว
MISSION COMPLETE!!!
น้ำตาจะไหล
จื่อเทาคิดพลางเอาบัตรอ่อนสองใบแนบแก้มอย่างหวงแหน เขาเดินจ้ำๆ ออกมาอย่างมีความสุข ในหัวคิดถึงเครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากมิชชั่นจองบัตรมหาโหดครั้งนี้
“ฮยองเล่นอะไรกันวะ ผมไม่ขำเลยนะ!” น้ำเสียงคุ้นๆ เหมือนได้ยินมาตลอดทั้งวันทำให้จื่อเทาต้องเงี่ยหูฟังและรีบหันไปมอง เพราะมันเป็นน้ำเสียงของเพื่อนแฟนบอยหน้าติ๋มปากปีจอคนเดิม ฟังจากน้ำเสียงและประโยคที่เขาพอแปลออกนิดหน่อยก็พอเดาได้ว่า หมอนั่นคงหัวเสียมาก
“ถ้าฮยองจะไม่ว่างทำไมไม่เช็คให้ดีกว่านี้ครับ ผมจองเสร็จแล้วจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว” แม้จะงงศัพท์บ้างแต่จื่อเทาก็พยายามเผือกฟังอย่างเต็มที่
“คือผมต้องมาเสียเวลาประกาศขายอีกใช่ไหมครับ เหอ ดีมากนะ ทิ้งน้องทิ้งภาระไว้ให้น้องชาย แล้วหนีไปเดทกับดโยฮยอง ผมล่ะโคตรรักฮยองเลยครับ ไอ้ซูโฮฮยอง!” หมอนั่นกดตัดสายอย่างแรง (กะจากสายตา) ก่อนจะยืนหายใจฟึดฟัดอยู่คนเดียวเงียบๆ คงพยายามจะสงบสติอารมณ์แน่ๆ
“เอ่อ เฮ้! ไปกินกาแฟกันหน่อยไหมนายน่ะ”
แล้วหวงจื่อเทาไปชวนผู้ชายคนนั้นมากินกาแฟด้วยกันทำไม ตอบบบบบบบบบบบบบบ!!! =___=
“คือ นายซื้อบัตรเสร็จแล้ว แต่พี่ชายของนายที่ว่าจะไปด้วยกันเค้าไม่ว่างแล้วนายก็เลยโฮโมว่างั้น”
“โมโหน่ะ ไม่ใช่โฮโม” จื่อเทาได้ยินเสียงหน้าตัวเองแตกกระจายละลายลงไปในคาปูชิโน่เย็นของตัวเอง
“นั่นแหละ มันแปลว่าโกรธ นั่นล่ะ แล้วไปวันไหนหรอ”
“ตอนนี้บัตรที่ว่างอยู่ของพี่ชายคือ บัตรยืนวันอาทิตย์น่ะ” ฟังจบจื่อเทาแทบอยากจะร้องไห้ตรงนั้น ไม่ว่างไปบัตรยืนวันอาทิตย์ โอ๊ยยย เคสเดียวกัน โคตรเจ็บปวด!
“ตอนแรกฉันจะไปบัตรยืนวันอาทิตย์เหมือนกัน แต่ว่าเพื่อนไม่ว่างเลยไม่ได้ไปแล้ว ไปแค่วันเสาร์” จื่อเทาเล่าออกมาด้วยความเซ็งพลางคนกาแฟในแก้มด้วยหลอดไปมา
“ไปด้วยกันไหมล่ะ”
ประโยคที่เพื่อนแฟนบอยชาวเกาหลีเอ่ยออกมาสร้างความตกใจให้หวงจื่อเทามากถึงมากที่สุด เขาเริ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมายื่นให้อีกคนพิมพ์ภาษาเกาหลีแล้วแปลออกมาเป็นภาษาจีนเพื่อความชัดเจนในความหมาย
“ว่าไงล่ะ ไปด้วยกันไหม” น้ำเสียงนุ่มๆ กับรอยยิ้มที่จู่ๆ อีกคนก็เผยออกมาทำเอาจื่อเทารู้ทำหน้าไม่ถูกขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“เอ่อ แล้วขายต่อเท่าไหร่ล่ะ”
“ครึ่งราคา”
อะไรนะ!!!!!!!!!!!!!!
“ขายแพงขึ้นครึ่งราคา ?”
“เปล่า ขายให้ครึ่งราคา คือบัตรยืน 4400 จะขายให้นาย 2200”
ฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสวฟหกด่าสว!!!
ไอ้หมอนี่ไม่บ้าก็เมากาแฟแล้ว!!!!!!!!!!!!!!
“คือ เอ่อคือว่า ฉันคงไม่ได้ไป พูดภาษาไม่ค่อยแข็งน่ะ”
“ก็บอกว่าไปด้วยกันไง ไปยืนข้างๆ กันเลย จะช่วยดูแล” คนเกาหลีนี่น้ำใจงามแบบหมอนี่ทุกคนรึเปล่าครับ จื่อเทาปลื้มปริ่มอยากจะร้องไห้!
“คนเกาหลีใจดีมากๆ”
“อย่าเข้าใจผิด ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ใจดีกับนาย มีแค่ฉันต่างหาก” ประโยคที่หมอนั่นพูดออกมาทำให้จื่อเทางง
“หมายถึงว่าฉันตั้งใจจะขายมันให้นาย ฉันใจดีเฉพาะกับนาย เข้าใจไหม ?” ไม่เข้าใจว้อย! มีเหตุผลอะไรให้มาใจดีด้วยล่ะ!?
“นายโกหกรึเปล่า จะมาใจดีกับฉันทำไม”
“ก็ใจดีกับคนที่ชอบ ไม่เห็นจะแปลก” เอ้อ นั่นสินะไม่เห็นจะแปลก
หืม ?
หืม ???
หืม ??????????????
อะไรคือคนที่ชอบ ???
“ฉันชอบนายไง เข้าใจรึยัง”
...คนเกาหลีนี่หน้าหนาแบบไอ้นี่ทุกคนรึเปล่า!!!!
จื่อเทาบอกไม่ถูกว่าตอนนี้รู้สึกยังไง ดีใจหรือขนลุก แต่ที่รู้ๆ คือช็อคมากถึงมากที่สุด แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมหน้าเขาถึงได้ร้อนและแดงขนาดนี้ มันแดงของมันเอง!
“นายเป็นคนที่ฉันชอบ ฉันจะขายบัตรให้นายในราคา 2200 แต่ถ้านายเลื่อนขั้นจากคนที่ชอบมาเป็นคนรักฉันล่ะก็ นายจะได้บัตรยืนวันอาทิตย์ไปฟรีๆ แถมคนดูแลนายตลอดไปด้วย คุ้มใช่ไหมล่ะ” จื่อเทารู้สึกว่าสมองของเขาเริ่มทำงานผิดพลาด ประมวลผลออกมาได้ไม่เต็มร้อย แต่สิ่งที่ทำงานได้ดีเยี่ยมเกินร้อยคือก้อนเนื้อตรงอกซ้ายกับเลือดทั้งตัวที่ไหลมากองอยู่ที่หน้านี่สิ!!! ให้ตายทำไมไอ้คนปากหมาปากหนักพูดน้อยยิ้มยากเมื่อเช้าถึงกลายเป็นไอ้กะล่อนหน้าเป็นคารมจัดแบบนี้วะ สองบุคลิกรึไง!?
“ตัดสินใจยังไงก็ โทรมานะ ไลน์ฉันก็แอดไปแล้ว เรียบร้อยนะเทาเทา” ไม่รู้ว่าไอ้บ้านี่เอามือถือเขาไปตอนไหน แอดอะไรยังไง รู้แค่ว่าตอนนี้มันกำลังยิ้มทำหน้ากวนประสาทโชว์หน้าจอมือถือที่มีชื่อไลน์ของเขาเด่นหราอยู่ ใช่เทาเทานั่นแหละ!!
“ติดต่อมาไวๆ นะ ฉันจะรอ” คู่สนทนาของจื่อเทาลุกขึ้นยืนแล้ววางเงินค่ากาแฟไว้ที่โต๊ะก่อนจะเดินออกไป
“เดี๋ยว!!!!” เขาตะโกนเรียกไอ้ขาวนั่นเสียงดังจนคนครึ่งค่อนร้านหันมามอง แต่คิดว่าหวงจื่อเทาสนรึไง!
“นายชื่ออะไร”
“ว่าที่แฟนของนายคือฉัน แฟนของนายชื่อ โอเซฮุน เข้าใจตรงกันนะ”
รอยยิ้มมุมปากกับการขยับตาน้อยๆ มาให้นี่คืออะไรครับ ตอบผมที!!!!!!!!!
แล้วพวกคุณคิดว่าผมควรตัดสินใจยังไงดี ??
โพสต์บอกไว้นะครับจะมาตามอ่าน ตอนนี้ผมร้อนไปหมดแล้ว ไม่ไหวแล้วตัดสินใจไม่ได้จริงๆ (///▽///)
ปล. หวงจื่อเทาไม่ใช่เกย์ แค่หวั่นไหวง่าย จริงๆ
the end.
mr.may
ฟิคแก้บน ฟิคแก้บน ฟิคแก้บน
โมเม้นนี้ใครเคยจองบัตรคอนเสิร์ตจะโคตรเข้าใจอ่ะค่ะ ว่ามันแสนสาหัส
(โดยเฉพาะถ้าจองกับเอสเอ็มทรู)
ฮุนเทา กันบ้างนะคะนะคะ 555
เมย์เชื่อว่าเวลาเค้าสลับกัน เค้ายิ่งอร่อยค่ะ สลับไปสลับมาคือดี -..-
อ่านจบแล้วใครว่าจื่อเทาใจง่ายก็เม้นแซะนางได้นะคะ หมั่นค่ะ! ถถถถถถ
ความคิดเห็น