ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : The Chronicle Of Gaia Chapter I
The Chronicle Of Gaia Chapter I
ปราสาทลอเรนซ์ ปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นมาพร้อมๆกับอาณาจักรเอเมโรด หนึ่งในเจ็ดอาณาจักรบนโลกใบนี้ ปราสาทลอเรนซ์จะถูกใช้เป็นที่ประทับของเจ้าหญิงทุกพระองค์ในราชวงศ์ของอาณาจักรเอเมโรด
เมื่อครั้งในยุคสมัยของคิงแวนเดอลินที่หกแห่งเอเมโรด ปราสาทลอเรนซ์ได้ถูกใช้เป็นที่ประทับของเจ้าหญิงเซซิเลีย ธิดาเพียงคนเดียวของคิงแวนเดอลิน
ด้วยความงดงามของเจ้าหญิงเซซิเลีย ทำให้ผู้คนมากมายต้องการตัวของเจ้าหญิง จนทำให้เกิดสงครามแย่งชิงเจ้าหญิงเซซิเลีย สงครามนั้นกินเวลายาวนานมากและไม่มีทีท่าว่าจะจบสิ้น สร้างความลำบากใจให้กับคิงแวนเดอลินเป็นอย่างมาก ทำให้พระองค์ทรงพระประชวรและสิ้นพระชนย์ไปในที่สุด
เหตุการณ์การสิ้นพระชนย์ของคิงแวนเดอลินก็ไม่ได้ทำให้ความต้องการของผู้ที่ทำสงครามแย่งชิงตัวเจ้าหญิงเซซิเลียลดลงแม้แต่น้อย
เมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนที่ทำสงครามต่างก็พากันล้มตายไปเป็นจำนวนมาก เหลือเพียงพ่อมดหนุ่มและอัศวินเกราะดำเพียงแค่สองคนที่ยืนตะหง่านอยู่ท่ามกลางร่างไร้วิญญาณมากมายที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่บนผืนหญ้าสีเขียวที่บัดนี้เอ่อนองไปด้วยเลือดสีแดงฉาน
พ่อมดได้รวบรวมพลังเวทย์ทั้งหมดที่มีอยู่สร้างอุกกาบาตขนาดยักษ์เพื่อจะปลิดชีวิตอัศวินเกราะดำในการโจมตีครั้งสุดท้ายเพียงครั้งเดียว
อัศวินเกราะดำเห็นท่าไม่ค่อยจะดีจึงใช้พลังเฮือกสุดท้ายที่เหลืออยู่วิ่งตรงไปหาพ่อมดหนุ่มอย่างรวดเร็ว อัศวินหนุ่มวาดดาบเป็นวงกลมเพื่อที่จะตัดอุกกาบาตให้แตกเป็นสองเสี่ยง แต่การกระทำของเขาในครั้งนั้นทำให้อุกกาบาตที่ยังสร้างไม่เสร็จระเบิดเข้าอย่างจัง
แรงระเบิดทำให้เขาทั้งสองและร่างไร้วิญญาณมากมายที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่บนผืนหญ้าอาบเลือดถูกเผาผลาญจนกลายเป็นเถ้าธุลี และแรงระเบิดยังทำให้ปราสาทลอเรนซ์ถูกทำลาย
ประชาชนในอาณาจักรเอเมโรดพากันมาขุดซากปราสาทลอเรนซ์เพื่อจะนำร่างของเจ้าหญิงเซซิเลียไปทำพิธีพร้อมกับคิงแวนเดอลิน แต่หาอย่างไรก็หาไม่พบ ประชาชนจึงพากันบูรณะปราสาทลอเรนซ์ขึ้นมาใหม่เพื่อสร้างเป็นอนุสรณ์สถานให้กับเจ้าหญิงเซซิเลีย
----------------------------------------------------------------------------------------------------
แสงแดดยามเช้าของดวงตะวันยามอรุณรุ่งที่เล็ดลอดผ่านกระจกหน้าต่างราชรถคณะเสด็จของพระราชวงศ์วัยเยาว์แห่งอาณาจักรอควาเรียสที่เสด็จเดินทางมาเยี่ยมเยียนพระสหายเก่าที่อาณาจักรเอเมโรดได้ปลุกเจ้าชายให้ตื่นจากการบรรทม เจ้าชายทรงเปิดหน้าต่างออก สายลมอ่อนๆพัดมาปะทะกับพระพักตร์ของพระองค์ หิมะสีขาวบริสุทธิ์โปรยปรายลงจากฟากฟ้ามาบรรจบกับผืนดินเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าฤดูหนาวมาถึงแล้ว
เมื่อราชรถแล่นผ่านปราสาทลอเรนซ์ เจ้าชายทรงเพ่งพระเนตรไปที่ปราสาทลอเรนซ์ ก่อนจะทรงหยิบฉลองพระเนตรกรอบสีขาวของพระองค์ขึ้นมาสวมแล้วมองไปที่ปราสาทลอเรนซ์อีกครั้ง
“เซ็น” เจ้าชายทรงยื่นพระพักตร์ออกไปจากหน้าต่างราชรถเพื่อเรียกสารถี เกศาสีขาวยาวสลวยของพระองค์ปลิวไปตามสายลมที่พัดมา
“ขอรับ” เซ็นขานรับ
“หยุดรถก่อนซิ”
“ขอรับ”
เซ็นฟาดแส้ให้ม้าที่เทียมราชรถหยุด จากนั้นเซ้นก็เดินลงมาจากตำแหน่งที่นั่งของสารถีเพื่อเดินไปหาเจ้าชาย
“มีอะไรหรือขอรับ ?”
“เมื่อสักครู่ข้าเห็นผู้หญิงคนหนึ่งในห้องบนชั้นสุดของปราสาทนั่นน่ะ” เจ้าชายตรัสพร้อมกับทรงชี้ไปที่ห้องชั้นบนสุดบนของปราสาท
“ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่ขอรับ” เซ็นมองไปที่ห้องชั้นบนสุดของปราสาทแล้วก็เกาศรีษะเล็กน้อยก่อนจะหันไปพูดกับเจ้าชาย
“ทำไมจะไม่มีก็ข้าเห็นมากับตา” เจ้าชายตรัสสวนไปกับพร้อมกับมีพระอาการกริ้วเล็กน้อย
“ขอรับ เห็นก็เห็นขอรับ”
“นี่เซ็น” เจ้าชายทรงเรียกเซ็นแต่พระองค์ก็ยังไม่เลิกที่จะเพ่งพระเนตรไปที่ชั้นบนสุดของปราสาท
“ขอรับ”
“เจ้าลองไปดูซิว่าในปราสาทมีใครอยู่รึเปล่า”
พระปุจฉาของเจ้าชายทำให้เซ็นชะงักแล้วหันขวับมาหาพระองค์
“เจ้าชายทรงตรัสว่าอย่างไรนะขอรับ”
“นี่อย่าให้ข้าต้องพูดซ้ำสองได้รึเปล่าข้าไม่ชอบ ข้าบอกให้เจ้าลองไปดูซิว่าในปราสาทมีใครอยู่รึเปล่า”
“แต่...”
“ไม่มีแต่ ข้าบอกให้ไปเจ้าก็ต้องไป ไม่งั้นข้าจะเอาเรื่องนี้ไปบอกเสด็จพ่อ” เจ้าชายทรงละพระเนตรจากห้องชั้นบนสุดของปราสาทแล้วหันมาดำรัสสั่งสารถีคนสนิทของพระองค์แทน
“ขอรับ”
เซ็นรีบเดินจ้ำอ้าวไปที่ปราสาทจนในไม่ช้าเซ็นก็ไปอยู่หน้าประตูปราสาทขนาดใหญ่ที่ถูกสลักด้วยลวดลายที่สวยงามอันประณีตและบรรจงยิ่งอย่างรวดเร็ว
เซ็นใช้สายตาสำรวจบนประตูและบริเวณรอบๆอย่างละเอียดถี่ถ้วน จนเขาไปพบเข้ากับรอยเท้าคนบริเวณใต้ประตู ถึงแม้ว่ามันจะถูกประตูทับอยู่ก็ยังคงมองเห็นส่วนหนึ่งของมันที่บ่งบอกและแสดงให้เห็นว่าเป็นรอยเท้าคน
“เจ้าชาย ทรงระวังพระวรกายให้ดีนะขอรับ” เซ็นตะโกนบอกเจ้าชายแล้วชักดาบออกมาจากฝักเพื่อเตรียมป้องกันตัว ก่อนจะค่อยๆถอยกลับออกมาหาเจ้าชาย
ในจังหวะนั้นเอง...
つづく
ปราสาทลอเรนซ์ ปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นมาพร้อมๆกับอาณาจักรเอเมโรด หนึ่งในเจ็ดอาณาจักรบนโลกใบนี้ ปราสาทลอเรนซ์จะถูกใช้เป็นที่ประทับของเจ้าหญิงทุกพระองค์ในราชวงศ์ของอาณาจักรเอเมโรด
เมื่อครั้งในยุคสมัยของคิงแวนเดอลินที่หกแห่งเอเมโรด ปราสาทลอเรนซ์ได้ถูกใช้เป็นที่ประทับของเจ้าหญิงเซซิเลีย ธิดาเพียงคนเดียวของคิงแวนเดอลิน
ด้วยความงดงามของเจ้าหญิงเซซิเลีย ทำให้ผู้คนมากมายต้องการตัวของเจ้าหญิง จนทำให้เกิดสงครามแย่งชิงเจ้าหญิงเซซิเลีย สงครามนั้นกินเวลายาวนานมากและไม่มีทีท่าว่าจะจบสิ้น สร้างความลำบากใจให้กับคิงแวนเดอลินเป็นอย่างมาก ทำให้พระองค์ทรงพระประชวรและสิ้นพระชนย์ไปในที่สุด
เหตุการณ์การสิ้นพระชนย์ของคิงแวนเดอลินก็ไม่ได้ทำให้ความต้องการของผู้ที่ทำสงครามแย่งชิงตัวเจ้าหญิงเซซิเลียลดลงแม้แต่น้อย
เมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนที่ทำสงครามต่างก็พากันล้มตายไปเป็นจำนวนมาก เหลือเพียงพ่อมดหนุ่มและอัศวินเกราะดำเพียงแค่สองคนที่ยืนตะหง่านอยู่ท่ามกลางร่างไร้วิญญาณมากมายที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่บนผืนหญ้าสีเขียวที่บัดนี้เอ่อนองไปด้วยเลือดสีแดงฉาน
พ่อมดได้รวบรวมพลังเวทย์ทั้งหมดที่มีอยู่สร้างอุกกาบาตขนาดยักษ์เพื่อจะปลิดชีวิตอัศวินเกราะดำในการโจมตีครั้งสุดท้ายเพียงครั้งเดียว
อัศวินเกราะดำเห็นท่าไม่ค่อยจะดีจึงใช้พลังเฮือกสุดท้ายที่เหลืออยู่วิ่งตรงไปหาพ่อมดหนุ่มอย่างรวดเร็ว อัศวินหนุ่มวาดดาบเป็นวงกลมเพื่อที่จะตัดอุกกาบาตให้แตกเป็นสองเสี่ยง แต่การกระทำของเขาในครั้งนั้นทำให้อุกกาบาตที่ยังสร้างไม่เสร็จระเบิดเข้าอย่างจัง
แรงระเบิดทำให้เขาทั้งสองและร่างไร้วิญญาณมากมายที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่บนผืนหญ้าอาบเลือดถูกเผาผลาญจนกลายเป็นเถ้าธุลี และแรงระเบิดยังทำให้ปราสาทลอเรนซ์ถูกทำลาย
ประชาชนในอาณาจักรเอเมโรดพากันมาขุดซากปราสาทลอเรนซ์เพื่อจะนำร่างของเจ้าหญิงเซซิเลียไปทำพิธีพร้อมกับคิงแวนเดอลิน แต่หาอย่างไรก็หาไม่พบ ประชาชนจึงพากันบูรณะปราสาทลอเรนซ์ขึ้นมาใหม่เพื่อสร้างเป็นอนุสรณ์สถานให้กับเจ้าหญิงเซซิเลีย
----------------------------------------------------------------------------------------------------
แสงแดดยามเช้าของดวงตะวันยามอรุณรุ่งที่เล็ดลอดผ่านกระจกหน้าต่างราชรถคณะเสด็จของพระราชวงศ์วัยเยาว์แห่งอาณาจักรอควาเรียสที่เสด็จเดินทางมาเยี่ยมเยียนพระสหายเก่าที่อาณาจักรเอเมโรดได้ปลุกเจ้าชายให้ตื่นจากการบรรทม เจ้าชายทรงเปิดหน้าต่างออก สายลมอ่อนๆพัดมาปะทะกับพระพักตร์ของพระองค์ หิมะสีขาวบริสุทธิ์โปรยปรายลงจากฟากฟ้ามาบรรจบกับผืนดินเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าฤดูหนาวมาถึงแล้ว
เมื่อราชรถแล่นผ่านปราสาทลอเรนซ์ เจ้าชายทรงเพ่งพระเนตรไปที่ปราสาทลอเรนซ์ ก่อนจะทรงหยิบฉลองพระเนตรกรอบสีขาวของพระองค์ขึ้นมาสวมแล้วมองไปที่ปราสาทลอเรนซ์อีกครั้ง
“เซ็น” เจ้าชายทรงยื่นพระพักตร์ออกไปจากหน้าต่างราชรถเพื่อเรียกสารถี เกศาสีขาวยาวสลวยของพระองค์ปลิวไปตามสายลมที่พัดมา
“ขอรับ” เซ็นขานรับ
“หยุดรถก่อนซิ”
“ขอรับ”
เซ็นฟาดแส้ให้ม้าที่เทียมราชรถหยุด จากนั้นเซ้นก็เดินลงมาจากตำแหน่งที่นั่งของสารถีเพื่อเดินไปหาเจ้าชาย
“มีอะไรหรือขอรับ ?”
“เมื่อสักครู่ข้าเห็นผู้หญิงคนหนึ่งในห้องบนชั้นสุดของปราสาทนั่นน่ะ” เจ้าชายตรัสพร้อมกับทรงชี้ไปที่ห้องชั้นบนสุดบนของปราสาท
“ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่ขอรับ” เซ็นมองไปที่ห้องชั้นบนสุดของปราสาทแล้วก็เกาศรีษะเล็กน้อยก่อนจะหันไปพูดกับเจ้าชาย
“ทำไมจะไม่มีก็ข้าเห็นมากับตา” เจ้าชายตรัสสวนไปกับพร้อมกับมีพระอาการกริ้วเล็กน้อย
“ขอรับ เห็นก็เห็นขอรับ”
“นี่เซ็น” เจ้าชายทรงเรียกเซ็นแต่พระองค์ก็ยังไม่เลิกที่จะเพ่งพระเนตรไปที่ชั้นบนสุดของปราสาท
“ขอรับ”
“เจ้าลองไปดูซิว่าในปราสาทมีใครอยู่รึเปล่า”
พระปุจฉาของเจ้าชายทำให้เซ็นชะงักแล้วหันขวับมาหาพระองค์
“เจ้าชายทรงตรัสว่าอย่างไรนะขอรับ”
“นี่อย่าให้ข้าต้องพูดซ้ำสองได้รึเปล่าข้าไม่ชอบ ข้าบอกให้เจ้าลองไปดูซิว่าในปราสาทมีใครอยู่รึเปล่า”
“แต่...”
“ไม่มีแต่ ข้าบอกให้ไปเจ้าก็ต้องไป ไม่งั้นข้าจะเอาเรื่องนี้ไปบอกเสด็จพ่อ” เจ้าชายทรงละพระเนตรจากห้องชั้นบนสุดของปราสาทแล้วหันมาดำรัสสั่งสารถีคนสนิทของพระองค์แทน
“ขอรับ”
เซ็นรีบเดินจ้ำอ้าวไปที่ปราสาทจนในไม่ช้าเซ็นก็ไปอยู่หน้าประตูปราสาทขนาดใหญ่ที่ถูกสลักด้วยลวดลายที่สวยงามอันประณีตและบรรจงยิ่งอย่างรวดเร็ว
เซ็นใช้สายตาสำรวจบนประตูและบริเวณรอบๆอย่างละเอียดถี่ถ้วน จนเขาไปพบเข้ากับรอยเท้าคนบริเวณใต้ประตู ถึงแม้ว่ามันจะถูกประตูทับอยู่ก็ยังคงมองเห็นส่วนหนึ่งของมันที่บ่งบอกและแสดงให้เห็นว่าเป็นรอยเท้าคน
“เจ้าชาย ทรงระวังพระวรกายให้ดีนะขอรับ” เซ็นตะโกนบอกเจ้าชายแล้วชักดาบออกมาจากฝักเพื่อเตรียมป้องกันตัว ก่อนจะค่อยๆถอยกลับออกมาหาเจ้าชาย
ในจังหวะนั้นเอง...
つづく
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น