เกิดมาทำไม? - เกิดมาทำไม? นิยาย เกิดมาทำไม? : Dek-D.com - Writer

    เกิดมาทำไม?

    คุณเคยสงสัยและคิดถามตัวเองบ้างไหมว่า "คุณเกิดมาทำไมบนโลกใบนี้" และอะไรคือจุดมุ่งหมายสูงสุดในชีวิตคุณ...ความสำเร็จ ความดี หรือความพ้นทุกข์...

    ผู้เข้าชมรวม

    2,038

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    2.03K

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  14 พ.ค. 49 / 16:41 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                หลายครั้งในยามที่ฉันรู้สึกท้อแท้  สิ้นหวัง  หมดกำลังใจใดๆ  ฉันมักจะจมอยู่กับน้ำตา  ภายในห้องที่มืดมิดเพียงเดียวดาย  พร้อมกับตั้งคำถามให้กับตัวเองเสมอว่า ฉันเกิดมาทำไม  ทำไมฉันจึงต้องเป็นเช่นนี้  ฉันพยายามค้นหาคำตอบของคำถามเหล่านี้ตลอดเวลา  แต่ทุกครั้งฉันก็มักจะได้คำตอบเพียงแค่ว่า  ชีวิตคือการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อวันข้างหน้า  ฉันไม่เคยทราบว่าทำไมคนเราต้องเกิดมา  หรือทำไมบางคนจึงเกิดมามีชีวิตที่เพียบพร้อมไปทุกสิ่ง  ไม่ต้องแสวงหาสิ่งใดๆ  ใช้ชีวิตอยู่อย่างเป็นปกติสุขด้วยทรัพย์สินมากมาย  ในขณะที่ยังมีอีกหลายชีวิตที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด  ให้พ้นจากหายนะของความหิว  ความหนาวและความตาย  อะไรเป็นสาเหตุให้ชีวิตของมนุษย์มีความแตกต่างได้อย่างสิ้นเชิงเพียงนี้  และจากประสบการณ์ที่ฉันได้เรียนรู้มาตลอดชีวิตของฉันแม้จะเพียงน้อยนิดนัก  มันทำให้ฉันค้นพบหลายสิ่งที่เป็นคำตอบของปัญหาเหล่านี้ซึ่งล้วนแต่เป็นคำตอบที่มีลักษณะคล้ายกัน  เช่น  สาเหตุที่มนุษย์เราเกิดมาเพราะเป็นความต้องการของบิดามารดา  เป็นความต้องการของมนุษย์ในการสร้างครอบครัว  สร้างสังคมและสร้างอารยธรรมใหม่ของความเป็นมนุษย์ซึ่งจะต้องดำรงเผ่าพันธุ์ต่อไป  บางประสบการณ์ทำให้ฉันทราบว่ามนุษย์เกิดมาเพราะเพื่อเป็นส่วนประกอบของสังคม  และเพื่อสร้างสรรค์สังคมมนุษย์ให้เจริญรุ่งเรือง  รวมทั้งเพื่อสร้างนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ที่แสดงถึงภูมิปัญญาพัฒนาการของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน  เป็นต้น  โดยส่วนตัวของฉันแล้ว  ฉันเชื่อเรื่องของผลกรรมซึ่งอาจเป็นสาเหตุประการหนึ่งที่เป็นผลให้มนุษย์เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้  มนุษย์ทุกคนต่างมีกรรมด้วยกันทั้งสิ้นและเป็นไปตามหลักธรรมที่ว่า  ทุกคนเกิดมาเพื่อชดใช้กรรมที่ตนเองได้กระทำไว้ในชาติปางก่อนซึ่งเป็นเรื่องที่มนุษย์เองไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าตนเองนั้นแท้จริงแล้วได้ทำกรรมใดไว้บ้าง  และเนื่องด้วยมนุษย์ไม่สามารถแก้ไขต้นกำเนิดของชีวิตได้จึงจำเป็นต้องดำเนินชีวิตของตนบนพื้นฐานของความถูกต้องดีงามตามที่ได้ถูกอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่วัยเยาว์  คุณธรรมและจริยธรรมจะเป็นเครื่องมือที่คอยตัดสินความดีงาม  ความถูกผิดและส่งผลให้มนุษย์ปฏิบัติตนผนวกประสบการณ์ที่เคยได้เรียนรู้มา  พฤติกรรมของมนุษย์ที่เกิดขึ้นจึงแตกต่างกัน  จึงเกิดเป็นมนุษย์ที่ดีและไม่ดีปะปนกันในสังคมปัจจุบัน

                จุดมุ่งหมายในการดำรงชีวิตของมนุษย์ย่อมแตกต่างกันเนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่เป็นตัวกำหนดชีวิตและวิถีทางของมนุษย์  บางคนต้องการมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย  แต่บางคนต้องการเพียงแค่ชีวิตที่เป็นปกติสุขบนหลักของความพอเพียง  หลายคนเชื่อว่าชีวิตคนเรานั้นได้ถูกชะตาฟ้าลิขิตไว้แล้ว  ต้องเป็นไปตามทางของชะตากรรมของตน  ต้องประสบกับสภาวะ การณ์ต่างๆเป็นเหตุให้ผลที่เกิดขึ้นมีทั้งดีและร้าย  จึงเกิดเป็นคำกล่าวที่ว่า  นั่นคือการชดใช้กรรม  ฉันเชื่อว่ากรรมเป็นสิ่งที่กำหนดให้ฉันต้องเป็นเช่นตัวฉันในปัจจุบัน  แม้อาจไม่มีเหตุผลมากพอที่จะสนับสนุน  แต่หากมองโลกในแง่ดี  นั่นคือการเลิกสนใจถึงสาเหตุของการเป็นตัวฉัน  ฉันไม่ต้องวิตกกังวลกับสิ่งที่ฉันไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจริงหรือเท็จ  ขณะเดียวกันฉันมีความคิดที่อยากจะทำให้ชีวิตในอนาคตเป็นปกติสุข  ดังนั้นการดำเนินชีวิตในปัจจุบันจึงเป็นสิ่งสำคัญ  การดำเนินชีวิตที่ปราศจากเหตุผลและไร้จุดมุ่งหมาย  นั่นหมายถึงอนาคตที่ไร้ความสว่าง  มนุษย์ควรดำรงชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความดีงามตามหลักจริยธรรมที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาตลอด  และศาสนาจะเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของมนุษย์ไว้ไม่ให้ตกต่ำ  สัญชาติญาณของมนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่เกิดจากความต้องการส่วนลึกภายในจิตใจซึ่งจะแสดงออกมาโดยปราศจากความยั้งคิดใดๆ  หากไร้ซึ่งศาสนาและวัฒนธรรมแล้ว  มนุษย์อาจไม่แตกต่างอะไรกับสัตว์เดรัจฉาน  มนุษย์บางคนเกิดความโลภซึ่งนั่นเป็นกิเลส  เป็นตัวการที่สำคัญที่ทำให้มนุษย์ตกต่ำ  จิตใจเสื่อมโทรม  มนุษย์สามารถทำได้ทุกอย่างให้ได้มาซึ่งสิ่งพึงประสงค์  นั่นเกิดเป็นกรรมขึ้นแล้ว  มนุษย์แตกต่างจากสัตว์เพียงแค่มีความรู้สึกนึกคิด  รู้จักผิดชอบชั่วดี  หากไร้สิ่งเหล่านี้  มนุษย์นั้นไม่สมควรที่จะถูกเรียกว่าเป็นมนุษย์อีกต่อไป  การเกิดมาเป็นมนุษย์นั้นยาก  แต่การเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์พร้อมนั้นยากยิ่งกว่าสิ่งใดๆ  ตราบใดที่มนุษย์ยังตกเป็นทาสของกิเลสและความทะเยอทะยามอยากในทุกๆสิ่ง  มนุษย์นั้นยังไม่สามารถถึงพร้อมในสิ่งที่เรียกว่า  บรมธรรม

                บรมธรรม  เป็นสิ่งที่มนุษย์พึงได้  พึงมีและพึงปฏิบัติ  ประการแรก  มนุษย์มีความสุขที่แท้จริงได้ด้วยความสะอาด  ความสว่างและความสงบทั้งทางกายกรรม  วจีกรรมและมโนกรรม  ความสุขทางโลกเป็นเพียงแค่ความสุขชั่วคราวซึ่งไม่จีรังยั่งยืน  ประการที่สอง  มนุษย์ควรมีความเต็มทางจิตวิญญาณ  กล่าวคือมีความสมบูรณ์พร้อมด้วยคุณธรรมแห่งความเป็นมนุษย์  มีจิตใจสูงส่ง  ไร้ความกระหายและความทะเยอทะยานใดๆ  ประการที่สาม  มนุษย์ควรทำหน้าที่ของตนเพื่อหน้าที่  เพื่อคนอื่นรอบๆตัว  เพื่อสังคมและประเทศชาติที่พึงได้รับ  ประการสุดท้าย  มนุษย์พึงมีความรักที่เป็นสากล  คือ  ความมีใจกว้าง  ไม่คิดถึงตนเองฝ่ายเดียวและคิดถึงคนอื่นให้มาก  การเป็นผู้ให้ย่อมสุขใจมากกว่าเป็นผู้รับ  นั่นเป็นสัจธรรมที่มนุษย์จะได้รับเมื่อได้ลองปฏิบัติด้วยตนเอง  แท้จริงแล้วบรมธรรมเป็นสิ่งเดียวกัน  เมื่อมนุษย์ปฏิบัติสิ่งหนึ่ง  อีกหลายสิ่งจะเกิดขึ้นตามมา  ฉันเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนต้องการเป็นมนุษย์ที่ดี  ไม่มีใครอยากเป็นคนร้ายให้ผู้อื่นประณาม  ความเข้าใจจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้สังคมมนุษย์หมดความสับสนวุ่นวาย  ความสัมพันธ์ที่ดีย่อมเกิดขึ้นได้เสมอตราบเท่าที่มนุษย์ยังใช้จิตใจในการสานสัมพันธ์  ไม่ใช่ความต้องการดังจะเห็นได้จากสังคมในปัจจุบันที่มนุษย์ต่างพยายามเสแสร้ง  ลวงหลอกกันเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ปรารถนา

                มนุษย์ทุกคนถูกหล่อหลอมภายใต้อิทธิพลที่แตกต่างกัน  มีความคิดความเห็นและจุดมุ่งหมายปลายทางในชีวิตที่แตกต่างกัน  การเป็นมนุษย์ย่อมไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน  มนุษย์ที่ดีพึงปฏิบัติสิ่งที่มนุษย์สามารถแยกแยะความถูกผิดได้ด้วยตนเอง  ในทางกลับกัน  มนุษย์อีกประเภทกลับทำตามความต้องการของกิเลสตัณหา  ไร้ซึ่งอารยธรรมแห่งความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์พร้อม   บรมธรรมจึงเป็นทางสว่างที่จะชี้ให้มนุษย์เห็นหนทางแห่งความสงบภายในจิตใจ  ฉันเป็นคนหนึ่งที่ต้องการไปถึงนิพพานนั้น  ฉันไม่ต้องการความอยาก  ความทะเยอทะยานใดๆอีกต่อไป  แต่ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิต  เป็นมนุษย์คนหนึ่งในโลกนี้  ฉันจึงดำเนินชีวิตด้วยความพอเพียงบนหลักของจริยธรรมที่พึงปฏิบัติ  มีจุดมุ่งหมายปลายทางในชีวิต  ฉันต้องการความสงบ  ฉันเคยคิดว่า  หากชาติหน้ามีจริง  อย่าให้ฉันได้เกิดเป็นมนุษย์อีกเลย  ฉันต้องการให้วัฏจักรชีวิตของฉันหยุดอยู่แค่นั้น  เป็นดวงวิญญาณดวงหนึ่งที่สงบและปราศจากสิ่งใดๆทั้งปวง  อยู่ในที่ๆไกลจากกิเลสและการเวียนว่ายตายเกิด  นั่นก็เพียงพอแล้ว  ฉันไม่ทราบว่าผู้คิดต้องการสิ่งใด  แต่สำหรับตัวฉันเองแล้ว  นั่นคือสิ่งสำคัญที่ฉันต้องการมากที่สุด  นั่นคือบรมธรรมของฉัน...

      ************************

      ป.ล. บทความนี้ได้รับแนวคิดมาจากการเรียนการสอนวิชา มน102 มนุษย์กับการใช้เหตุผลและจริยธรรม

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×