ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จัดหนักนานาข้อมูลการเขียนนิยาย

    ลำดับตอนที่ #20 : [Writing] สิ่งที่ทำให้นักอ่านเลิกอ่าน By Mr. Pink

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 97
      1
      1 ก.พ. 58

                ผมกำลังติดเกมงอมแงม เลยรีบปลีกตัวมาเขียนบทความให้ไวที่สุดก่อนที่ผมจะไม่ได้กลับมาอีกเลยเป็นเวลาสี่ปี ในตอนที่แล้วผมบอกไว้ว่า มันผ่านมานานเหลือเกินที่ผมจะอ่านนิยายสักเล่มพ้นตอนแรก บางครั้ง หน้าแรกผมก็เลิกอ่านแล้ว ในตอนนี้ ผมก็เลยอยากจะมาเขียนถึงว่า อะไรกันแน่ที่ทำให้ผม และอาจจะคนอ่านหลายๆคน วางนิยายเล่มหนึ่งลงโดยไม่อ่านมันจนจบ

     

                *** ต้องขอบอกไว้ก่อนว่า ทั้งหมดนี้คงจะไม่ตรงกับนักอ่านทุกคน คงมีหลายคนที่ทนของพวกนี้ได้สบายๆ นี่เป็นเหมือนพูดในด้านของผมมากกว่า อาจจะมีคนคิดแบบผม อาจจะไม่มี ใช้วิจารณญาณตัดสินกันเองนะเออ **

     

                1. อีโมติค่อน

     

                ก่อนที่จะโดนปากระทะอัด ผมไม่คิดว่าอีโมติค่อนเป็นสิ่งที่ผิด บางครั้งผมก็ใช้มันด้วยซ้ำ เอาไว้สำหรับเวลาคุยกับคนที่ยังไม่รู้จักกันมากนัก จะได้ไม่ดูหยิ่งเกินไป เวลาคุยแชทกันเนี่ย มันยากที่จะสื่ออารมณ์ของคู่สนทนาของเรา เพราะว่าเราคุยกันผ่านตัวอักษร ไม่มีน้ำเสียงคอยบอกว่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกยังไง บางอย่างก็อาจจะสื่อสารผิดกันได้ และอีโมติค่อนก็ช่วยได้ อย่าง.. เหี้ยไรล่ะ กับ เหี้ยไรล่ะ 55555555 อันหลังจะดูเป็นกันเอง ขำขัน และล้อกันเล่น

     

                ผมคิดว่านั่นคงเป็นเหตุผลที่หลายคนใส่อีโมติค่อนลงไปในนิยายของตัวเอง ให้มันดูเป็นกันเอง ให้มันดูตลก ให้มันดูน่ารัก ผมเห็นแบบนี้เยอะในนิยายแนวขำขัน บางทีก็ใช้ :) เวลาพูดประชดอะไรจิกๆกัดๆ >O< เวลากำลังแหกปากใส่อีตาบ้าพระเอก =////= เวลาเขินแต่ไม่อยากยอมรับ  ... เยอะ พวกเขาคงจะติดกันมาจากแชท ซึ่งก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้

     

                แต่สำหรับผม ผมเกลียดมาก

     

                อย่างที่บอกข้างต้น เราใช้อีโมติค่อนเพื่อสื่ออารมณ์ในแชท แต่ในนิยาย อีโมติค่อนนั้นไม่จำเป็น เราสามารถใช้การบรรยายสื่อสารถึงอารมณ์ในเรื่องตอนนั้นๆด้วย ผมอินกับนิยายไม่ลงเวลาที่มีอีโมติค่อนบอกว่าตัวละครรู้สึกยังไง ผมคงไม่ร้องไห้ถ้าเขา TOT ใส่ผม มันไม่อิน

     

                และมันดูขี้เกียจด้วย เวลาผมเห็นอีโมติค่อน มันบอกผมอยู่สองอย่าง หนึ่ง นักเขียนมันขี้เกียจ ไม่อยากจะบรรยายถึงอารมณ์ของเหตุการณ์นั้นๆ และมันทำให้ผมเซ็ง ถ้าขี้เกียจเขียน ผมก็ขี้เกียจอ่าน ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะต้องอ่าน ถ้าคนเขียนเองยังไม่จริงจังกับการเขียน ทำไมผมจะต้องตั้งใจอ่าน?

     

                อย่างที่สองคือ นักเขียนไม่มีความสามารถมากพอที่จะบรรยายอารมณ์ตัวละคร ไม่มีความสามารถพอที่จะเขียนพรรณนาให้เป็นภาพ และเชื่อเถอะ คุณไม่อยากให้คนอ่านคิดแบบนั้น ผมว่านะ นิยายเป็นสิ่งที่แสดงถึงความสามารถและความฉลาดของคนเขียน และถ้านักอ่านเห็นว่าคนเขียนด้อยกว่าเขา มันก็ไม่มีอะไรให้เรียนจากสิ่งที่คุณเขียน และ น่าเสียดาย ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องอ่าน

     

                แน่นอน มันไม่ผิด ถ้าคุณจะใช้ นักเขียนหลายคนที่ประสบความสำเร็จก็ใช้อีโมติค่อน แต่ถ้าคุณถามผมนะ? ผมจะบอกให้คุณหลีกเลี่ยงอีโมติค่อนสุดชีวิต มันเป็นเชื้อราดีๆนี่เอง

     

               

                2. ย้อนความหลังในอดีตเมื่อร้อยปีที่แล้ว..

     

                ส่วนใหญ่แนวนี้จะเจอในแนวแฟนตาซี เปิดมาถึงตอนแรก (บางทีก็บทนำ เดี๋ยวเราจะพูดถึงเรื่องนี้กันอีกที) ก็ย้อนเลยความหลังในอดีต อาณาจักรนี้เป็นยังไงๆๆ มีเมืองกี่เมือง ผู้ปกครองเป็นใคร ทิศเหนือทิศใต้ บอกมันทุกอย่าง และเอาตามตรง.. ใครสนวะเนี่ย

     

                ผมว่า เสน่ห์ของนิยายเรื่องที่สร้างโลกใหม่ทั้งโลกขึ้นมา คือการที่เราได้เห็นถึงจินตนาการของผู้เขียน การที่เขาสร้างโลกทั้งโลกขึ้นมาใหม่ โลกนี้จะเป็นยังไงหนอ ผู้คนจะเป็นยังไง วัฒนธรรมของพวกเขาล่ะ การปกครอง กฎหมาย การเมือง ศาสนา? ไม่ว่าอะไรก็น่าสนใจไปหมด แต่มันจะหมดความน่าสนใจทันทีถ้ามันเอามาเทพรวดเดียวในหน้าแรก

     

                อย่างแรกเลยคือ มันเยอะเกินไป คนอ่านย่อยไม่หมด และสุดท้ายแล้วก็จะลืม เพราะว่ามันไม่สำคัญ ส่วนมากเวลานิยายเริ่มเรื่องแบบนี้ ย้อนความไปในอดีตล้านปีที่แล้วที่จอมมารทำบ้าอะไรสักอย่าง แล้วก็.. ตัดมาปัจจุบันเฉย อ่ะ สมมุติว่าผมตั้งใจอ่าน ผมจำมาอย่างดี โอ้โห จอมมารเป็นงี้ๆๆนะ ว้าว แล้วอยู่ดีๆก็ อ้าว มาปัจจุบัน แล้วจอมมารเราล่ะ หายไปไหน หา? ไม่มีบท? อ้าว?

     

                แล้วก็ต้องมาจำเรื่องตอนปัจจุบันใหม่อีก แล้วเมื่อกี้บอกความหลังมาทำไมวะเนี่ย เหมือนกับอีโมติค่อน พอเห็นแบบนี้ ไม่ขี้เกียจ ก็ไร้ความสามารถ เพราะนักเขียนที่มีความสามารถและไม่ขี้เกียจ จะค่อยๆแต่งไปทีละนิด ค่อยๆให้เราทำความรู้จักกับโลกของเขา ไม่ใช่เทข้อมูลกรอกปากคนอ่าน และหวังว่าพวกเขาจะแคร์

     

                คือ ผมคนหนึ่งล่ะไม่แคร์ เอาตามตรง ต่อให้อาณาจักรนี้มันจะน่าสนใจแค่ไหน ต่อให้อดีตเมื่อร้อยปีที่แล้วมันจะส่งผลกับเนื้อเรื่องตอนหน้ายังไง ถ้าคุณยัดพรวดมาทีเดียว ผมจะเลิกอ่าน ยกตัวอย่าง ถ้าแฮร์รี่พ็อตเตอร์เริ่มมาหน้าแรกด้วยการพูดถึงประวัติโรงเรียนฮ็อกวอร์ต มันจะเป็นยังไง? ห่วย

     

                พอเริ่มต้นด้วยบทนำย้อนไปพันปีก่อน แล้วมาเริ่มตอนแรกในยุคปัจจุบัน สมมุติว่าสิบหน้าก็แล้วกัน นั่นหมายความว่า.. คุณเสียไปสิบหน้า โดยที่เนื้อเรื่องไม่ไปถึงไหนเลย แค่ในอดีตที่ไม่มีความหมาย และปัจจุบันที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น สิบหน้า และคนอ่านยังไม่ได้อะไรสักอย่าง เนื้อเรื่องวิ่งอยู่กับที่ ไม่มีอะไรเลย

     

                เหมือนกับทุกอย่างที่ผมแนะนำ มันไม่ผิด.. แต่ ถ้าคุณต้องการโชว์ความสามารถในการเขียน ทำให้คนอ่านทำความรู้จักกับโลกของคุณช้าๆ ไปทีละหน้าสองหน้า คุณไม่จำเป็นต้องรีบอะไรอยู่แล้ว เคล็ดลับที่ผมแนะนำได้ก็คือ อย่าบอกคนอ่านในสิ่งที่ยังไม่มีความสำคัญของพล็อทในตอนนั้น บอกเฉพาะสิ่งที่นักอ่านจำเป็นต้องรู้ เช่น คุณคงไม่อยากบอกว่าเมืองแต่ละเมืองในอาณาจักรนี้มีใครเป็นผู้ปกครอง ถ้าตัวเอกของเรายังไม่ไปถึงเมืองนั้นเลยเสียด้วยซ้ำ

     

                3. บทนำ

     

                ผมเกลียดบทนำ

     

                โอเค สคริปท์เดิม มันไม่ผิดที่จะบลาๆๆ มีนักเขียนที่ประสบความสำเร็จบลาๆๆแต่ผมแนะนำว่าบลาๆๆ

               

                ผมเกลียดบทนำ เพราะ คล้ายๆกับเหตุผลข้อที่แล้ว มันทำให้กว่าจะเริ่มเรื่องนั้นช้าแสนช้า แถมบางทีบทนำก็เต็มไปด้วยข้อมูลที่ไม่จำเป็นต่อเนื้อเรื่องอีกต่างหาก หลายคนคิดว่า การเริ่มเรื่องที่ดีเป็นหลังบทนำ หลังจากที่เกริ่นแนะนำเรื่องแล้ว แต่ผมคิดว่านั่นผิด เริ่มเลยเหอะ คุณเกริ่นในตอนแรกเอาก็ได้

     

                ที่ผมเกลียดบทนำส่วนใหญ่เป็นเพราะว่า นักเขียนชอบเขียนบทนำที่มันไม่จำเป็น บอกถึงเรื่องที่ผมไม่จำเป็นต้องรู้ และถ้าตอนแรกมันสนุกเหลือเกินเจ๋งเหลือหลาย ผมก็คงอ่านไม่ถึง เพราะผมวางหนังสือลง/ปิดเบราเซอร์ไปตั้งแต่บทนำแล้ว

     

                ผมเคยอ่านสถิติว่านักอ่านจะเลิกอ่านตอนหน้าที่เท่าไหร่นี่แหละ แต่สำหรับผม หน้าแรกก็เกินพอ และถ้าผมอารมณ์ดี อาจจะสักหนึ่งตอน แต่ส่วนมากแล้วก็ไปไม่ได้ไกลหรอก

     

                แน่นอน มันมีบทนำที่ดี และถ้าคุณจะเขียนบทนำ ก็ขอให้มันดีเถอะ

     

                มีเหตุผลอื่นๆอีกมากมาย แต่ส่วนมาก นีคือสามเหตุผลแรกที่ทำให้ผมเลิกอ่านเร็วที่สุด อาจจะมีตอนสองเพิ่มอีก แต่ตอนนี้ Dragon Age รอผมอยู่ ราตรีสวัสดิ์

     

     

               

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×