คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : [[ It's over ]]: C T 4 //Up
“ตัลเมื่อไหร่แกจะเริ่มซ้อมอ่ะ” จงออบถามขณะที่เราสองคนกำลังเดินไปยังรถฉันหลังเลิกเรียน
“ไม่รู้สิ คงอาทิตย์หน้ามั้ง”
“งั้นก็ต้องรีบอ่านหนังสือเผื่อไว้ก่อนน่ะสิ เดี๋ยวซ้อมแล้วคงไม่มีเวลาอ่าน”
“คงงั้น”
บรื้นนนนน~
เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นเรียกสายตาทุกคนให้หันมามองรวมทั้งฉันด้วย...และที่น่าตกใจไปกว่านั้นก็คือรถคันหรูกำลังพุ่งตัวมาทางนี้
!!!
เฮ้ย!!
เอี๊ยดดดดดดดดดด!!
เสียงเบรกดังสนั่นอย่างน่าหวาดเสียวจนกลัวว่ามันจะฉุดรถคันที่พุ่งตรงมายังฉันไม่อยู่
“กรี๊ดดดด!!”
ฉันกรีดร้องอย่างตกใจเมื่อรถยนต์คันนั้นแทรกตัดหน้าฉันที่กำลังจะเดินไปขึ้นรถตัวเองที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้าม เสียงเบรกรถยนต์ดังแสบแก้วหูเป็นครั้งสุดท้ายพอดีกับที่รถคันนั้นหยุดลงตรงหน้าฉัน
ฉันมองรถหรูที่คุ้นตาด้วยความตกใจ แม้ว่ากระจกนั่นจะติดฟิล์มสีดำสนิทชั้นดีแต่เพราะฉันเคยขึ้นไปนั่งรถเขามาแล้วครั้งหนึ่งเลยจำได้แม่นว่าใครคือเจ้าของรถ...ไค
“!!!”
ฉันใช้สายตาจิกไคทั้งที่มองไม่เห็นตำแหน่งที่เขานั่งแม้แต่น้อยแต่เดาได้ว่าเขาต้องนั่งอยู่บนรถและกำลังมองฉันอยู่เป็นแน่
“ไอ้เวร! ขับรถภาษาอะไรฟะ” จงออบที่อยู่ข้างๆ ฉันตะโกนด่าเจ้าของรถที่ดูท่าจะไม่ได้ยินและก่อนที่จงออบจะได้เข้าไปเคาะกระจกเพื่อเรียกเจ้าของรถลงมาคุย รถหรูคันนั้นก็พุ่งตัวออกไปเสียก่อน
“...”
“เฮ้ย! แม่งใครวะ ขับรถได้ห่วยบรม ตัลแกรู้จักป่ะ”
“ฉัน...ไม่รู้จัก” ฉันโกหกจงออบแล้วเดินต่อไปเพื่อที่จะขึ้นไปยังรถตัวเอง ไม่นานประตูรถฝั่งข้างๆ ก็ถูกเปิดออก ฉันไม่สนใจจงออบที่ก่นด่าเจ้าของรถคันเมื่อกี้ได้แต่นิ่งเงียบขับรถไปอย่างเดียวโดยที่ในหัวมีคำถามหนึ่งอยู่ในหัว
เขาต้องการจะทำอะไร...ขู่ฉันงั้นเหรอ ?
“ซอลลี่วันนี้แกได้ไปเรียนหรือเปล่า” ฉันถามยัยตัวแสบที่ตอนนี้ใส่กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดสีขาวซึ่งดูยังไงก็เป็นชุดอยู่บ้านชัดๆ
เมื่อเช้าซอลลี่บอกว่าขอออกไปทำธุระแป๊บหนึ่งแล้วจะตรงไปมหาลัยเลย ค่อยเจอกันตอนเย็น ซึ่งฉันก็เข้าใจว่ายัยนี้คงกลับไปคอนโดว่าทีสามีเพื่อเอาของจำเป็นเนื่องจากโดนทิ้งกะทันหันซอลลี่เลยไม่มีของใช้ส่วนตัวเลยสักอย่างแต่ดูจากท่าทางสบายๆ ของเธอแล้วคงเป็นไปไม่ได้
“เหอะ ไม่อ่ะ พอดี...ใจมันสุขเกินกว่าจะไปเรียน” พูดแค่นั้นยัยซอลลี่ก็ฉีกยิ้มกว้างอย่างเจ้าเล่ห์และขำอยู่คนเดียวเหมือนกับว่าเรื่องที่ทำให้เธอเป็นสุขนั้นมันตลกมาก
“พรุ่งนี้วันเสาร์ คืนนี้ไปเที่ยวกันมั้ย ?”
“หืม...ไหนบอกว่าไม่อยากไปแล้วไง”
“ก็ใช่แต่อยู่ที่ห้องมันก็เบื่อ”
“ไปสิๆ เดี๋ยวฉันโทรนัดคนอื่นก่อน”
ฉันพยักหน้าแล้วขอตัวเข้ามาอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปท่องราตรีในคืนนี้ สายน้ำทุกหยดหยาดชำระความสกปรกมาตลอดวันแต่เหมือนว่าน้ำเย็นๆ นั่นจะไม่ช่วยให้เธอลืมเรื่องรถยนต์คันหรูเมื่อตอนเย็นเลยสักนิด
ทั้งที่เธอไม่เห็นหน้าคนขับแต่กลับรู้สึกว่าเขาโกรธเธอมากยังไงยังงั้น...
บางทีเธออาจจะคิดมากไปเอง ไม่มีอะไรหรอก...
ปิ๊งป่อง ปิ๊งป่อง
เสียงออดที่ดังขึ้นเรียกให้ฉันที่กำลังแต่งตัวอยู่วางชุดสวยลงบนเตียง เสียงน้ำไหลจากทางห้องน้ำเตือนให้รู้ว่าซอลลี่ยังคงอาบน้ำอยู่ด้านใน ฉันกระชับเสื้อคลุมสีขาวให้เข้าที่เข้าทางก่อนที่จะเดินออกไปยังประตูและเมื่อมองที่หน้าจอมอนิเตอร์เล็กๆ ข้างๆ ประตู ฉันก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ
ผู้ชายหน้าเฉี่ยวดูท่าทางร้ายกาจแต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงเค้าความหล่อด้วยดวงตาคมและสันจมูกโด่งที่บ่งบอกว่าไม่ใช่คนเกาหลี หน้าเขาออกแนวไปทางชาวจีนอะไรเทือกนั้นเสียมากกว่า
ฉันกระชับสายเสื้อคลุมในแน่นและดูเรียบร้อยพอที่จะเปิดประตูคุยกับผู้ชาย แม้ว่าสภาพแบบนี้ไม่ควรจะทำแต่ดูเหมือนว่าเขาจะมีเรื่องสำคัญที่จะคุยกับฉัน
“สวัสดีค่ะ” ฉันเปิดประตูทักโดยที่ทั้งตัวแทบจะยืนหลบอยู่หลังประตู
ผู้ชายตรงหน้าโค้งเก้าสิบองศาให้นั่นทำให้ฉันต้องเขยิบออกมาจากหลังประตูและโค้งให้เขากลับอย่างช่วยไม่ได้
“สวัสดีครับ ผมจื่อเถาเรียกสั้นๆ ว่าเทาก็ได้ครับ....คุณคริสตัล”
“คะ ?” กล่าวรับเสียงสูงอย่างงงๆ ว่าเขาไปรู้ชื่อฉันได้ยังไง
“ขอโทษนะครับที่มารบกวนแต่พอดีผมมีเรื่องสำคัญ”
“คะ ?”
ร่างสูงไม่ตอบแต่ยิ้มเบาๆ ที่มุมปากก่อนที่เขาจะละสายตาจากฉันไปด้านหลังและเป็นจังหวะเดียวกับที่ซอลลี่เปิดประตูออกมาจากห้องนอนฉัน
ฉันหันไปมองตามสายตาคนที่แนะนำตัวเองว่าชื่อเทาก็พบว่า...ซอลลี่อยู่ในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำเช่นเดียวกับฉันและกำลังยืนใช้ผ้าผืนเล็กเช็ดหัวที่เปียกหมาดๆ อยู่
“นาย O_O” ซอลลี่กล่าวออกมาด้วยความตกใจพร้อมด้วยมือที่ชี้ไปยังคนตรงหน้าฉัน
“...”
“ผมขอโทษนะครับคุณคริสตัล...แต่ผมมาตามว่าที่ภรรยาผมกลับบ้านคุณคงไม่ว่าอะไร”
“!!!”
ทั้งฉันและซอลลี่มองผู้ชายตรงหน้าด้วยความตกใจเมื่อเขาใช้จังหวะที่เราสองคนเผลอผลักประตูให้เปิดกว้างแล้วตรงไปประชิดตัวซอลลี่และอุ้มเธอขึ้นพาดบ่าอย่างรวดเร็ว
“กรี๊ดดดด!!!”
ซอลลี่ที่โดยอุ้มพาดบ่าร้องโวยวายและใช้มือทุบตีร่างสูงอย่างแรงแต่ดูเหมือนว่าแรงของซอลลี่จะไม่ได้ทำให้เทาเจ็บเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าเฉี่ยวยังคงนิ่งราวกับว่าซอลลี่แรงเท่ามด
“ลาล่ะครับ”
“กรี๊ด!! ไอ้เลวเทา ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ ไอ้บ้า!!”
“ผมขออนุญาตพาตัวว่าที่ภรรยากลับนะครับ”
เชื่อมั้ย...ว่าฉันเหมือนโดนมนตร์สะกดเพียงแค่สบตาคมหน้าของฉันก็พยักขึ้นลงราวกับว่าตัวเองเต็มใจอนุญาตให้เขาพาเพื่อนฉันไปได้
ผู้ชายคนนั้นเป็นว่าที่สามีซอลลี่แน่ๆ
ประตูที่เปิดค้างไว้อยู่ทำให้ฉันได้ยืนเสียงกรีดร้องของเพื่อนตัวเอง ไม่นานนักเสียงนั้นก็หายไป คงเข้าลิฟต์ไปแล้วสินะ ฉันเผยรอยยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยเมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
ผู้ชายคนนั้นเหมาะกับซอลลี่แล้วจริงๆ นั่นแหละ
ฉันว่าแล้วว่าคุณลุงต้องดูคนไม่ผิด…
ฉันก้มลงเก็บผ้าผืนเล็กที่ซอลลี่ทำหล่นก่อนจะ...ปลายเท้าใคร ?
ฉันรีบเงยหน้าขึ้นจากพื้นและทันทีที่เห็นแขกหน้าประตู ไม่สิเขาเข้ามาในห้องฉันแล้วต่างหาก รีบยืนตัวตรงมองหน้าคนตัวสูงด้วยความไม่พอใจ
“คุณนี่...ใหญ่...ใช่ย่อยนะครับ”
!!
เมื่อมองตามสายตาเขาก็เห็นว่าผู้ชายตัวสูงคนนี้กำลังมองหน้าอกภายใต้เสื้อคลุมอาบน้ำอย่างหน้าไม่อาย ฉันที่เห็นว่าสาบเสื้อตัวเองเปิดออกกว้างจนเผยให้เห็นเนินอกอวบอิ่มของตัวเองก็ต้องรีบคว้าหมับเข้าที่สาบเสื้อแล้วรวบมันไว้ด้วยมือเดียว
“ไอ้ทุเรศ! นายเข้ามาได้ยังไง”
“ก็ประตูมันเปิดไว้ทำไมจะเข้ามาไม่ได้ล่ะครับ”
สีหน้ายียวนกวนประสาทของเขาทำเอาฉันอยากจะใช้เล็บยาวๆ ของตัวเองเข้าไปข่วนใบหน้าคมให้เกิดแผลซักแผลสองแผลแต่ก็ทำได้แค่คิดเมื่อในตอนนี้สภาพตัวเองเป็นรองอยู่มาก
“ออกไป” ฉันกดเสียงต่ำพลางส่งสายตาไล่เขาแต่ดูเหมือนไคจะไม่รู้สึกอะไร เขายักไหล่และเดินไปเปิดประตูห้องพร้อมทั้งกดล็อคให้อย่างเรียบร้อยก่อนที่เจ้าตัวจะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาหรูและพาดแขนยาวๆ กับพนักพิงราวกับว่าตัวเองเป็นเจ้าของห้อง
“ไม่ออก” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นมีมากพอๆ กับน้ำเสียง สายตาคมไล่มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าจนฉันถึงกลับต้องเดินถอยหลัง “...หึ คุณอยู่ในชุดนี้ก็ดูเซ็กซี่ไปอีกแบบนะครับ”
“!!”
“ไม่ต้องทำหน้าตกใจหรอกครับ...ผมแค่คิดถึงคู่นอนก็เลยมาหาถึงห้องเท่านั้นเอง”
“ฉัน-ไม่-ได้-เป็น-อะ-ไร-กับ-นาย” ฉันเน้นย้ำแต่ละคำอย่างเสียงดังฟังชัด
“แล้วใครกันบอกว่าของผมเล็ก รู้มั้ยตอนนี้คนทั้งประเทศเขาคิดว่าน้องชายผมเล็กกว่านิ้วก้อยอย่างที่คุณว่าจริงๆ”
“แล้วไง”
“คุณพูดอย่างนี้แล้วยังมีหน้ามาบอกอีกเหรอครับว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน คนทั้งประเทศเข้ารับรู้ว่าเราสองคนนะไปถึงขั้นนั้นกันแล้วมีแต่ตัวคุณเองนั่นแหละปฏิเสธผมอยู่ได้”
“ฉันไม่สนว่าใครจะว่ายังไง ความจริงมันเป็นยังไงนายน่าจะรู้ดีที่สุด ออกไปจากห้องฉันซะ!!”
ผู้ชายคนนี้พูดจากได้กวนอารมณ์เป็นที่สุด!
“ไม่...เพราะผมยังไม่ได้ทำให้คุณรู้ความจริงเลย” ร่างสูงหยัดยืนเต็มกำลังแล้วเดินตรงมายังฉันช้าๆ มือสองข้างล่วงกระเป๋าพร้อมกับใบหน้าร้ายกาจที่เข้ามาใกล้มากเรื่อยๆ
“หมายความว่าไง”
“ก็หมายความว่า...ความจริง น้องชายผมน่ะไม่เล็กหรอกนะครับ”
“นี่!!”
“มันเป็นความจริงที่คุณไม่รู้แต่ดันพูดออกมาเหมือนคุณเคยลองผมแล้ว”
ฉันจะไม่ไหวกับผู้ชายคนนี้แล้วจริงๆ ทุกคำพูดของเขาช่างกวนประสาทฉันได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ไคเดินมาหยุดยืนตรงหน้าแล้วมองฉันด้วยท่าทีนิ่งๆ แต่ดูน่ากลัวอยู่ในที นัยน์ตาสีดำสนิท ไม่สิ...น้ำตาลเข้มกำลังจ้องฉันโดยที่ไม่สื่อถึงอารมณ์ใดๆ
“ผมเกลียดผู้หญิงจองหองและปากดีเป็นที่สุด”
“...”
“...อีกอย่างผมเกลียดคนขี้โกหกมากเป็นที่หนึ่ง”
ฉันไม่เข้าใจว่าไคต้องการจะสื่ออะไรและไม่เข้าใจท่าทีที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของเขา แม้ว่าจะรู้สึกตกใจกับใบหน้านิ่งๆ นั่นแต่ฉันก็ไม่แสดงให้เขารู้ ยิ่งเห็นเขาทำท่าทางเหมือนตัวเองเป็นผู้คุมเกมส์ฉันก็ยิ่งไม่ชอบใจและเชิดหน้ากลับไปอย่างไม่เกรงกลัว
“เหรอ...ต่างกับฉันที่เกลียดนายมากเป็นที่หนึ่ง”
“!!”
“ทุกอย่างที่เป็นนายฉันเกลียดมันหมด”
ฉันตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ แม้ว่าใจจริงฉันจะไม่ได้เกลียดเขาอย่างที่ปากว่า ความรู้สึกที่มีต่อเขาอาจจะอยู่ที่ขั้น ‘ไม่ชอบหน้า’ แต่ก็นึกคำพูดอะไรไม่ออกที่จะทำให้คนตรงหน้ารู้สึกตัวสักทีว่าฉันไม่อยากยุ่งกับเขา
ความคิดที่ว่าเขาเป็นคนดีจบไปตั้งแต่เห็นเขาเอาผู้หญิงไม่เลือกที่นั่นแล้วล่ะ!
“เธอรู้จักฉันแล้วเหรอถึงมาบอกว่า...เกลียดฉัน”
“ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาแค่มองหน้านายฉันก็รู้แล้วว่านายมันเลวแค่ไหน”
“...”
“ได้ยินว่านายเป็นคนดังหนิ”
“...”
“ขอโทษนะที่ทำให้คนดังอย่างนายเสียเกียรติ์ ฉันล่ะสงสัยจริงๆ ว่าต่อจากนี้ผู้หญิงที่เห็นคลิปพวกนั้นจะยังชื่นชอบนายอยู่หรือเปล่า...หึ” ฉันแสยะยิ้มแล้วแตะบ่าแกร่งเบาๆ บีบเน้นแสร้งทำเป็นให้กำลังใจและยิ้มฉีกยิ้มกว้างมากขึ้นเมื่อเห็นว่าคนตัวสูงกำลังกัดฟันกรอด
ฉันผละออกมาจากเขาแล้วเดินกอดออกไปทางประตูห้องนอนแต่เพียงแค่มือแตะลูกบิดไหล่ข้างหนึ่งก็ถูกคนกระชากให้กลับไปหา
“คุณไม่มีสิทธิ์เดินหนีผม”
ไอ้ผู้ชายคนนี้อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ จริงๆ เลย เดี๋ยวก็คุณ เดี๋ยวก็ผม สักพักก็กลายเป็นฉันกับเธอ!
“ที่นี่มันห้องฉัน ฉันมีสิทธิ์ทำทุกอย่าง นายนั่นแหละไม่มีสิทธิ์” ฉันปัดมือที่จับไหล่ฉันอยู่ออกแล้วจ้องหน้าไคเป็นเชิงขู่ “...ถ้านายโดยตัวฉันอีกครั้งเดียวฉันจะโทรเรียกตำรวจ”
“ถ้าเรียกได้ก็ลองดูสิ”
ไคไม่ปล่อยโอกาสให้ฉันพูดเขาใช้มือข้างหนึ่งรั้งเอวบางเข้าไปใกล้จนหน้าท้องของฉันแนบอยู่กับหน้าท้องของเขา ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เสื้อคลุมของฉันมันจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ จนฉันต้องจับสาบเสื้อคลุมให้เข้าหากันอีกครั้ง อีกทั้งยังใช้แขนตัวเองกลั้นระหว่างหน้าอกเราสองคนไว้ด้วย
“นี่!! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”
“ไม่ปล่อย” คนตัวสูงพูดและรั้งให้ฉันเข้ามาใกล้มากกว่าเดิมทั้งที่มันก็ใกล้กันมากอยู่แล้ว
ขณะที่ฉันกำลังดิ้นอยู่นั้น ไคก็ทำสิ่งที่ฉันไม่คาดคิด...
“หอมจัง”
เขาพูดหลังจากที่ผละออกจากเส้นผมฉัน เมื่อกี้นี้เขา...หอมผมฉันกลางกระหม่อมเลย
O_O
“คุณใช้แชมพูยี่ห้ออะไรทำไมหอมจัง”
“...”
นี่เขายังมีหน้ามาพูดเล่นอีกหรือไง!
“ปล่อยนะ ไอ้บ้า!”
“ไม่ปล่อยจนกว่าคุณจะยอมตกลงกับผม”
“ไม่ตกลงอะไรทั้งนั้น!” ฉันพูดพลางดิ้นตัวไปมาอยู่ในอ้อมแขนที่รัดเอวฉันแน่น
“ยิ่งคุณดิ้นผมก็ยิ่งเห็นอะไรที่คุณพยายามจะปิดนะ”
!!!
ร่างกายที่เคยดิ้นหยุดนิ่งและก้มลงมองสภาพตัวเองที่แม้จะมีมือกุมไว้แต่ก็ดูเหมือนมันไม่ช่วยอะไรเพราะเนินอกขาวผ่องยังคงรอดออกมาจากสาบเสื้อที่เป็นผลมาจากการดิ้นของฉัน เมื่อเห็นอย่างนั้นฉันถึงกับตัวแข็งทื่อและค่อยๆ ช้อนสายตามองร่างสูงที่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
นี่เขาเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้วเนี่ย!
“คุยมีอะไรก็รีบพูดมา” เสียงอ่อนลงเพราะคิดว่าต่อให้ดิ้นและทุบตีร่างกายเขามากแค่ไหนหากคนตรงหน้าไม่คิดจะปล่อยก็คงไปไหนไม่ได้
“ยอมพูดกับผมแล้วเหรอ” ไคเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างกวนประสาท
“ถ้าไม่พูดก็ปล่อยฉันและกลับไปซะ”
“โอเคๆ ผมแค่อยากหาเพื่อนไปนั่งดริ้งด้วยเท่านั้นเอง”
ฉันขมวดคิ้วมองไคด้วยความแปลกใจ ไม่คิดว่าเขาจะพูดประโยคประหลาดๆ พวกนี้ อย่าบอกนะว่าเขามาหาฉันเพื่อต้องการแค่นั่งดริ้ง ฉันไม่เชื่อเด็ดขาด
“ฉันมีนัดกับแฟนแล้ว ขอโทษด้วย โอ้ย!” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อไครัดเอวฉันแน่นเกินไปจนฉันรู้สึกเจ็บกระดูก เชื่อสิว่ามันต้องมีรอยแดงตรงมือที่เขาบีบเอวฉันอยู่แน่นอน
บ้าชะมัด!
“แฟน ? ...ใช่แฟนที่คุณแต่งขึ้นมาเองหรือเปล่า”
นี่เขา…
“ผมรู้แล้วล่ะว่าคุณโกหก...แล้วผมไม่ชอบเลยรู้มั้ย ไม่น่ารักเลย” ไคไม่พูดเปล่าเขายังกวนประสาทฉันด้วยการจับปลายผมของฉันไปสูดดอมใกล้จมูดโด่งแล้วทำหน้าซะอย่างกับว่าผมฉันนั้นหอมน่ากิน
“นายไม่มีเพื่อนคนอื่นหรือไง!” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องแล้วรวบผมตัวเองออกจากมือเขา
“มีแต่เพื่อนผู้ชาย...ผมอยากหาผู้หญิงสวยๆ สักคนไปนั่งเป็นเพื่อนแล้วผมก็เลือกคุณ”
“ฉันไม่ใช่ตัวเลือกของใคร”
“ผมก็ไม่มีตัวเลือกอื่น...นอกจากคุณ”
“...”
“จะไปไม่ไปครับ ถ้าไม่ไปก็ยืนอยู่ในห้องนี้มันทั้งคืนโอเคมั้ยครับ”
หึ้ย! ฉันล่ะหมั่นไส้เขาจริงๆ เลย
“ปล่อย ฉันจะไปแต่งตัว!”
ไคเหยียดมุมปากขึ้นยิ้มเมื่อได้ฟังคำตอบที่น่าพอใจจากนั้นเขาก็ปล่อยฉันให้เป็นอิสระ ไม่รอช้าฉันรีบวิ่งเขาห้องนอนตัวเองจัดการกดล็อคอย่างรวดเร็ว
บ้าชะมัด...ผู้ชายคนนั้นกำลังยั่วโมโหฉันอยู่และฉันก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมให้เขาป่วนประสาท
ผับ K
“แต่งตัวซะสวยทำไมไม่ยิ้มหน่อยล่ะครับ”
“ไปตายซะ”
“หึ” ไคหัวเราะในลำคอราวกับว่าคำพูดของฉันเป็นเรื่องตลก เขาดึงแขนฉันเข้าไปใกล้แล้วสอดแขนเข้ามาควงฉันอย่างรวดเร็ว
“ปล่อย” ฉันกัดฟันพูดเสียงต่ำพยายามดึงแขนตัวเองออกจากเขาแต่ก็ทำไม่ได้ ยิ่งเห็นใบหน้าหล่อที่ทำเป็นหูทวนลมฉันยิ่งโมโห
ฉันอยากจะบ้าตาย
บริกรที่เหมือนจะคุ้นหน้าคุ้นตากับคนข้างกายเดินนำไปยังโซน VVIP ฉันมองเขาด้วยความแปลกใจนิดหน่อยเพราะโซนที่ขึ้นชื่อว่า VVIP นั่นหมายถึงลูกค้าโคตรจะสำคัญมาก~ ถ้าหากเขาสามารถเข้ามาโซนนี้ได้โดยที่ไม่ต้องเอ่ยปากอะไรนั่นคงเป็นเพราะเขาเป็นแขกประจำและพิเศษมากของที่นี่นั่นเอง
โชคดีที่ฉันเลือกเสื้อสายเดี่ยวผ้ากำมะหยี่ครึ่งตัวสีน้ำเงินมาใส่ อีกทั้งมันยังโชว์สะดือและเอวบางเล็กน้อยเพราะว่าส่วนอื่นถูกปิดด้วยกางกางขายาวสีดำเอวสูงที่เป็นผ้าสบายๆ แต่ดูหรูตามแนวที่ฉันชอบ ส่วนรองเท้าก็เลือกเป็นส้นสูงสีแดงสดจาก Andrew Kayla มาใส่เสริมความมั่นใจ
“คุณเอาอะไรมั้ย ?” หลังจากที่เราสองคนนั่งลง เขาก็หันมาถามฉัน “...น้ำส้มหรือเปล่า ?”
แววตาล้อเลียนราวกับเห็นฉันเป็นเด็กน้อยนั่นทำให้ฉันโมโหจนต้องตอบกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้
“วอดก้า”
“งั้นเอาวอดก้าอย่างเดียว”
พนักงานรับออเดอร์จากไคแล้วเดินจากไป บรรยากาศระหว่างฉันกับเขายังคงดูเหมือนจะคลุกรุ่นตั้งแต่อยู่ในรถจนมาถึงตอนนี้ หากไคถามฉันก็จะตอบ หากไคไม่ถามฉันก็ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น
“ดื่มวอดก้าอย่างเดียวไหวเหรอ ? ผมคอแข็งนะ”
“เรื่องของฉัน” ฉันตวัดเสียงใส่หน้าเขาอย่างรำคาญพลางกอดอกให้หน้าไปอีกทาง
โซนนี้แทบจะไม่มีคนเลยด้วยซ้ำ เสียงเพลงก็คนละแนวจากชั้นหนึ่งที่เต็มไปด้วยผู้คนเมื่อตอนที่ฉันเดินผ่าน โต๊ะแต่ละโต๊ะในโซนนี้ก็อยู่ห่างกันจนไม่สามารถได้ยินบทสนทนาของอีกฝ่ายได้ซึ่งมันให้ความเป็นส่วนตัวดี ยิ่งการตกแต่งอย่างมีระดับด้วยสีดำตัดกับสีน้ำเงินเข้มก็ทำให้ที่นี้ดูหรูหราแต่ยังคงแสดงออกถึงความร้อนแรงของผับได้เป็นอย่างดี
“เรามาพูดเรื่องของเรากันต่อดีกว่า”
“...”
เสียงขยับจากคนข้างกายเข้ามากใกล้มากขึ้น เนื่องจากที่นั่งเป็นโซฟายาวเป็นรูปวงกลมเหลือพื้นที่เล็กน้อยให้เดินเข้าออก ฉันจะขยับหนีเขาแต่ก็ไม่ทันซะแล้วแขนกว้างของไคพาดมายังบ่าบางและกันไม่ให้ฉันหนีไปไหน
“ถ้านายยังแตะตัวฉันอีก ฉันจะกลับ”
“ผมชอบเวลาคุณใส่สายเดี่ยวจัง”
“!!”
ฉันถึงกับต้องรีบผลักหน้าเขาออกเมื่อไคใช้ปลายนิ้วเรียวรูดสายเดี่ยวของฉันออกจนมันตกลงมาที่ไหล่เพราะใส่เสื้ออย่างนี้ฉันเลยเลือกใส่เสื้อในไร้สายเพื่อความดูดีแต่ตาบ้านี่ดันมาทำทะลึ่งใส่
“อย่ามาทะลึ่ง มีอะไรก็รีบพูดมา”
“...หึ” ไคกลับมานั่งอย่างเดิมแต่ไม่ได้เข้ามาเจ๊าะแจ๊ะเหมือนก่อน มีแต่แขนเขานั่นแหละที่ยังคงพาดบ่าฉันไว้
“เอาแขนนายออกไป ฉันไม่ใช่ผู้หญิงของนาย” ว่าแล้วฉันก็จับแขนเขาออกแต่ดูเหมือนเขาจะไม่อยากปล่อยจนต้องออกแรงจิกเข้าที่ข้อมือนั่นจนในที่สุดเขาก็ต้องยอมปล่อยและชักแขนตัวเองกลับไปยังข้างลำตัว
“โอเค ผมไม่แกล้งคุณแล้วก็ได้”
“มีอะไรก็ว่ามา”
“...เนื่องจากคุณทำผมไว้เจ็บมาก ตอนนี้ทั้งมหาลัย ไม่สิ คนข้างนอกต่างก็คิดว่าผมกับคุณมีอะไรกันแล้ว”
แล้วยังไง เขาจะมาเรียกร้องค่าเสียหายจากฉันหรือไง
“ผมไม่ถือหรอก...เพราะว่าการที่คนเข้าใจว่าผมได้หลับนอนกับผู้หญิงสวยๆ อย่างคุณมันเป็นเรื่องดีเลยล่ะ”
“...”
“แต่...ผมไม่พอใจนักที่คุณมาว่าน้องชายผม”
“นายต้องการอะไรพูดมาเลยดีกว่า...”
ไคเผยยิ้มมุมปากก่อนที่จะเข้ามาใกล้ใบหน้าฉันแล้วกระซิบเบาๆ เข้าที่ข้างหู “...ผมต้องการศึกษาคุณ”
!!!
ไม่ทันที่ฉันจะได้ตอบโต้บริกรก็นำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟเข้าซะก่อน ไคยอมผละออกไปนั่งเฉยๆ แต่ก็ยังมิวายเขยิบตัวมาอยู่ข้างฉันซะเกินงาม
เมื่อพนักงานเดินจากไปแล้วฉันก็เขยิบห่างออกจากเขาแล้วหันไปถาม...
“หมายความว่าไง ?”
“ผมอยากลองรู้จักคุณ...”
“ฉันไม่เชื่อ”
“ฮ่าๆ ผมก็ไม่ได้หวังให้คุณเชื่ออยู่แล้ว...แค่เห็นว่าคุณน่าสนใจดีก็เลยอย่างลองจีบดูบ้าง”
“...”
“ถ้าหากคุณอนุญาต...ผมก็จะเดินหน้าเต็มที่”
‘ฉันเตือนแกนะตัล...ห้ามยุ่งกับผู้ชายคนนี้เด็ดขาดไม่ว่ายังไงก็ตาม เขามีผู้หญิงรายล้อมมากมาย ถ้าเกิดวันหนึ่งแกพลาดขึ้นมา ฉันไม่อยากเห็นแกเสียใจ’
คำพูดเมื่อวานของซูจีลอยเข้ามาในหัว ฉันมองคนตรงหน้าอย่างประเมินก็เห็นว่าดวงตาคมนั่นมีแต่แววแห่งความสนุกสนานอยู่เต็มไปหมด
เขาเองก็แค่อยากจะลองฉันสินะ...หึ
“ไม่” ฉันปฏิเสธอย่างไม่ใยดีแล้วคว้าวอดก้าขึ้นมากระดกจนหมดแก้วด้วยท่าทางไม่ใส่ใจ
“...”
“ดื่มสิ” ฉันเหยียดยิ้มมุมปากแล้วหยิบแก้วอีกแก้วที่ยังเต็มไปด้วยน้ำเมาให้คนข้างกาย ไครับมันไปถือไว้แล้วกระตุกยิ้มเบาๆ
“เอางี้ดีกว่า...ถ้าคุณดื่มแพ้ผม คุณต้องยอมให้ผมนอนกับคุณ”
“หือ ? ตอนแรกนายบอกว่าศึกษาหนิ”
“ฮ่าๆ คุณนี่อย่าแกล้งทำเป็นไร้เดียงสาเลยครับ...” ไคเอื้อมมือมาลูบแก้มฉันเบาๆ แต่ก็เจอฉันปัดมือนั่นออกอย่างรวดเร็ว “...ศึกษาที่ผมว่า...หมายถึงทางกายต่างหากล่ะ”
“...”
“หรือว่าคุณกลัว...จะหลงเสน่ห์ผม” น้ำเสียงทรงเสน่ห์ของเขาถูกงัดขึ้นมาเพื่อใช้หว่านล้อมฉัน
“อย่ามาหลงตัวเอง” ฉันปรายตามองเขาอย่างนึกรำคาญแต่ก็มีแฝงไปด้วยความสนุก เมื่อคิดว่าบางทีตัวเองควรจะหาอะไรเล่นแก้เซ็งในชีวิตช่วงนี้
“ผู้หญิงก็ต่างหลงผมทั้งนั้น”
“...”
“รวมทั้งคุณด้วย...อย่าปฏิเสธเลย”
การที่ผู้ชายได้อะไรไปง่ายๆ มันจะสนุกตรงไหนล่ะ...จริงมั้ย
“ถ้าคุณสลบ...ทุกอย่างเป็นไปตามที่ผมต้องการ”
“แล้วถ้านายแพ้ ?”
“ผมจะยอมไปจากชีวิตคุณ”
ฉันกรีดยิ้มอย่างนึกตลกกับสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำ รู้ทั้งรู้ว่าถ้าหากตัวเองเมาและจะกลายเป็นอีกคน...แต่ฉันก็ไม่ใช่คนเมาง่ายๆ หากแต่เมาแล้วฉันคงกู่ไม่กลับจริงๆ พวกเพื่อนเลยไม่ค่อยอยากให้ฉันไปดื่มคนเดียว
แต่ก็นะ...มันก็น่าสนุกดีไม่ใช่เหรอ ?
--------------------------------------------
Sulli’s part
“ทานสิ”
ฉันมองหน้าเทาด้วยความรู้สึกทั้งโกรธและเกลียดปะปนจนไม่รู้ว่าอันไหนมีมากกว่ากัน อาหารราคาแพงตรงหน้ามีมากมายจนเลือกไม่ถูกว่าจะทานอะไรดีก่อนหากฉันอยู่ในอารมณ์ปกติแต่ตอนนี้ฉันโกรธเขาจนกระเดือกอะไรไม่ลงซะอย่างเพราะฉะนั้นอาหารพวกนี้ไม่มีความหมายเลยสักนิด
“...”
ฉันยังคงจ้องเทาโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ โกรธนักที่เขาอุ้มฉันอกมาจากห้องเพื่อนโดยไม่มีความเกรงใจเลยสักนิด ยิ่งไปกว่านั้น เขายังอุ้มฉันเข้ามายังร้านอาหารในโรงแรมหรูกลางกรุงโซลทั้งที่ทั้งเนื้อทั้งตัวฉันมีแค่เสื้อคลุมอาบน้ำปกปิดร่างกาย แม้แต่รองเท้าฉันก็ไม่ได้ใส่ ผมก็ยังไม่แห้งแต่เขาก็ไม่สนใจอุ้มฉันลงจากรถแล้วพาเข้ามายังที่นี่ท่ามกลางสายตาแขกนับร้อยที่มาใช้บริการ อีกทั้งเจ้าตัวไม่ได้มาคนเดียวลูกน้องชุดดำต่างล้อมหน้าล้อมหลังราวกับว่าเขาเป็นคนสำคัญระดับชาติ!
ความอับอายที่ฉันเจอแค่นั้นยังไม่พอ...นายคนนี้ยังพาฉันมานั่งรับลมบนดาดฟ้าของโรงแรมที่เปิดเป็นร้านอาหารโดยไม่สนเลยว่าตัวฉันนั่นจะมีแค่ผ้าบางๆ คลุมกาย ยิ่งไปกว่านั้นรอบข้างก็ยังมีแขกมากมายมาใช้บริการด้วยชุดราตรีและชุดสูทมันทำให้ฉันรู้สึกอับอายยิ่งนัก
“พวกนายออกไปก่อนไป” เทาบอกพวกลูกน้องของเขา ไม่นานรอบโต๊ะเราก็เหลือแค่ฉันกับเขา
“...”
“ทานสิจะได้รีบกลับ” เขาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วกอดอกด้วยท่าทางสบายๆ ต่างจากฉันที่ตอนนี้จิกเล็บเข้ากลับเบาะนุ่มเนื้อดีของเก้าอี้อย่างแรง
ฉันเกลียดหน้าเขาจนอยากจะจับเขาโยนไปข้างล่างซะเดี๋ยวนี้!
“ฉันไม่กิน”
“กินซะมันเสียของ”
“ฉันไม่กิน!” ฉันปรับระดับเสียงตัวเองให้ดังขึ้นตามอารมณ์โดยที่สายตายังคงจ้องเขาด้วยความโกรธและเกลียดเช่นเดิม
“ไม่กิน ? ผมอุตส่าห์พาคุณมาทานอาหารดีๆ”
“เหอะ! อาหารดีงั้นเหรอ” ฉันสะบัดเสียงอย่างหมดความอดทนลุกขึ้นยกอาหารจานหนึ่งขึ้นแล้วสาดใส่หน้าเทาอย่างโมโห “...ถ้าดีมากก็กินเองสิ!”
เสียงฮือฮาดังขึ้นเมื่อเห็นว่าโต๊ะฉันเกิดอะไรขึ้น คังแกรี่ลูกน้องคนสนิทของเทาเข้ามาหาเจ้านายในทันทีและส่งผ้าเช็ดหน้าเหมือรู้งาน เทารับมันไปก่อนจะค่อยเช็ดครีมซอสจากพาสต้าไวท์ซอสออกช้าๆ
ปึก
ฉันวางจานลงเสียงดังและมองเขาด้วยความโกรธและเกลียดที่วิ่งแล่นไปทั่วสายเลือดอย่างเดือดดาล แค่นี้ยังสาสมกับที่เขาปฏิบัติกับฉันเหมือนไม่ใช่คนเลยด้วยซ้ำ
“เลว” ความหนาวเล่นงานฉันจนปากสั่นจึงพูดได้แค่คำสั้นเมื่อกลัวว่าหากพูดอะไรไปมากเขาจะรู้ว่าฉันกำลังอ่อนแอ ฉันทำเป็นลืมความหนาวที่เกาะกุมอยู่ทั่วร่างแล้วพูดต่อ “...จะไปตายที่ไหนก็ไป!”
“...”
สายตาคมนั่นที่เคยนิ่งอยู่แทบตลอดเวลาตอนนี้กลับแปรเปลี่ยนมาเป็นพลุ่งพล่าน เขาใช้มือข้างหนึ่งปาดเอาเส้นพาสต้าออกจากหน้าแล้วใช้ผ้าเช็ดตาม
“เอากระเป๋าเธอมา” เทาเหมือนจะพูดกลับลูกน้องมากกว่าฉัน แกรี่ผงกหัวรับอย่างเข้าใจแล้วส่งกระเป๋าสตางค์ใบหนึ่งที่คุ้นตาให้เขา
นั่นมันของฉัน!
เขาเอามาได้ยังไง ?
หรือว่า...ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ เขาต้องส่งคนไปที่ห้องคริสตัลแล้วบอกให้คริสตัลเอาของๆ ฉันให้หน่อยซึ่งถ้าคริสตัลรู้ว่าเป็นว่าที่สามีฉันสั่งมา เธอก็คงยอมส่งคืนโดยง่ายหากแต่ถ้าคนของเขาไม่ได้ขอคริสตัลดีๆ นั่นก็เท่ากับว่า...เขาต้องมีเพื่อนคอยช่วยพาคริสตัลออกไปข้างนอกเพื่อใช้จังหวะนั้นเข้ามาหยิบของของฉันไป
เอาเถอะเรื่องนั้นค่อยว่ากัน...เขาเอากระเป๋าสตางค์ฉันไปทำไม!
“ตอนแรกกะว่าจะตกลงกันดีๆ”
“...” เทาหยิบบัตรสี่เหลี่ยมเล็กๆ ขึ้นมาแล้วชูมันต่อหน้าฉันก่อนที่จะส่งกระเป๋าคืนเลขาคนสนิท
นั่นมัน…บัตรเครดิตฉัน!
“เห็นทีว่าจะทำได้ยาก...คงต้องใช้วิธีขั้นเด็ดขาดสินะเธอถึงจะยอมสงบ”
แปะ
“O_O!!”
เทาชูบัตรเครดิตที่หักเป็นสองเท่าโยนมันมาทางฉันจนกระแทกเขากับไหล่ ฉันก้มลงมาบัตรเครดิตที่ถูกหักโดยผู้ชายใจร้ายด้วยสายตาตกตะลึง
บัตรนี้แทบจะเป็นทุกๆ อย่างในชีวิตฉันเลยด้วยซ้ำ
“โทรไปบอกคุณลุงซึงโฮว่าให้อายัดบัตรผู้หญิงคนนี้ซะแล้วเล่าเรื่องที่ลูกสาวเขาทำกับฉันให้คุณลุงทราบด้วย อีกเดี๋ยวฉันจะโทรไปหาท่านเอง”
“ครับ”
คังแกรี่และลูกน้องคนอื่นเดินจากเราสองคนไป เทาตวัดสายตามายังฉันและยิ้มอย่างเป็นต่อ ไม่มีแววตาแห่งความสำนึกผิดเลยสักนิด หางตาเหลือบมองรอบข้างก็เห็นว่าทุกคนต่างให้ความสนใจเราจนลืมอาหารบนโต๊ะไปแล้วเสียล่ะมั้ง
“เธอหาเรื่องตัวเองนะ”
“...”
“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ ถือซะว่าเป็นค่าซ้อมรถซะแล้วกัน” มุมปากหนาเหยียดยิ้มอย่างสะใจที่เห็นสีหน้าตกใจของฉัน มือสองข้างข้างลำตัวกำเข้าหากันแน่นจนฉันรู้สึกเจ็บที่ผ่ามือ
“...ไปตายซะจื่อเทา” ฉันคว้าแก้วน้ำบนโต๊ะแล้วปาไปทางร่างสูงที่นั่งอยู่
เพล้ง!
เสียงแก้วแตกดังขึ้นเนื่องจากเป้าหมายที่ฉันอยากให้โดนไหวตัวทันลุกขึ้นหลบได้ทันท่วงทีมันจึงกระทบกับพนักเก้าอี้ตัวนั้นแทนจนเศษแก้วแตกกระจายและแม้ว่าเขาจะเร็วแค่ไหนเทาก็ยังหลบไม่พ้นเศษแก้วที่แตกกระเด็นมาบาดหางคิ้วเขา
“!!!”
เสียงคนรอบข้างเริ่มเสียงดังและต่างลุกขึ้นมาดู พนักงานเองก็เข้ามาคุมสถานการณ์แต่เมื่อแต่ล่ะคนสัมผัสได้ถึงบรรยากาศมาคุระหว่างฉันกับเขาก็ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้ามายุ่ง
“ธะ เธอ...” เทาจับหางคิ้วตัวเองที่เปื้อนเลือดเป็นทางยาวแล้วผละออกมาดูเลือดที่ติดอยู่ตรงปลายนิ้วตัวเองก่อนที่จะตวัดสายตามาทางฉันราวกับอยากเข้ามาบีบคอฉันให้ตายเสียตรงนี้ “ตั้งใจจะฆ่าฉันเหรอ”
ฉันยักไหล่ไม่รู้สึกผิดสักนิดที่ทำแบบนั้น ยิ่งเห็นเขามีแผลเลือดออกฉันยิ่งสะใจที่อย่างน้อยตัวเองก็ทำให้คนใจร้ายอย่างเขามีแผลและเจ็บได้บ้าง...เสียดายด้วยซ้ำที่เขาลุกทัน เมื่ออย่างงั้นล่ะก็หน้าเขาคงเละไปแล้วล่ะ
“คุณจื่อเถา!!” ลูกน้องของที่เพิ่งกลับมาตะโกนเรียกเสียงดังด้วยความเป็นห่วงก่อนที่จะเข้ามาหาเจ้านายตัวเองแต่เทากับยกมือขึ้นห้าม
“จับยัยนี่ขึ้นรถแล้วไปส่งคอนโด!! ล็อคประตูห้องอย่าให้ออกไปไหนเด็ดขาด ยึดมือถือยัยนี่ด้วย อย่าให้เธอแตะเครื่องมือสื่อสารแม้แต่ปลายนิ้วและอย่าให้เธอติดต่อใครนอกจากฉัน!!”
“!!!”
สิ้นคำสั่งของเขาลูกน้องของเทาก็เขามาล็อคตัวฉันไว้ ฉันพยายามสะบัดให้หลุดแต่ก็ทำได้ยากเหลือเกินเมื่อลูกน้องทั้งสองคนของเทาหิ้วปีกฉันจนฉันแทบไม่ต้องเดินเองก็มาถึงรถเขาเสียเฉยๆ
เชื่อมั้ย...ฉันไม่เคยอับอายเท่านี้มาก่อนเลย
ตลอดทางที่ฉันถูกลูกน้องเขาหิ้วมาเต็มไปด้วยสายตาผู้คนที่มองมาอย่างให้ความสนใจ สภาพครึ่งเปลือยของฉันนั้นทำให้ตัวเองรู้สึกน่าสมเพชอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่สนใจเลยสักนิดว่าเสื้อคลุมที่ฉันใส่จะล่นไปจนเกือบหลุดออกจากไหล่ ยิ่งฉันดิ้นมันก็ยิ่งเผยให้เห็นเนื้อตัวฉันมากขึ้นเรื่อยๆ
เทาเพียงแค่เดินตามหลังฉันมาเรื่อยๆ โดยไม่ได้สละเสื้อตัวเองเหมือนผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษชอบทำกัน ฉันยังโชคดีอยู่บ้างที่ลูกน้องเขาไม่ได้รุนแรงและมีหนึ่งในนั้นยอมถอดสูทตัวเองมาปิดช่วงบนให้ฉัน แม้กระทั้งเข้ามาในรถเทาก็ไม่เอ่ยปากขอโทษฉันสักคำ
แต่ก็ดีแล้วเพราะฉันเองก็จะไม่มีวันขอโทษเขาเช่นเดียวกัน!!
----------------------------------------
ไคมองร่างบางที่เริ่มไม่ได้สติด้วยแววตากรุ้มกริ่ม หญิงสาวที่เคยออกตัวว่าจะไม่มีทางยอมแพ้เขาตอนนี้คอพับแทบไม่ได้สติ แต่ก็ถือว่าเธอยังเจ๋งมากทีเดียวเล่นล่อดื่มไปเกินสิบช็อตแต่ก็ยังพอมีสติหาไม่ค่อยนักในผู้หญิงแต่สำหรับผู้ชายแล้ว...มันน้อยเกินไปเสียด้วยซ้ำยิ่งเป็นผู้ชายนักเที่ยวอย่างเขาคงไม่ต้องพูดถึงต่อให้มากกว่านี้สักเท่าหนึ่งก็ยังไหว
ความจริงอีกอย่างที่เธอไม่รู้นั่นคือเขากับไอ้เทาวางแผนร่วมกันเพราะมันต้องการเอาของเล็กๆ น้อยจากซอลลี่ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรและไม่คิดจะถาม เทาแค่บอกให้เขาพาคริสตัลออกมาจากห้องสักสิบนาทีเดี๋ยวมันจะให้ลูกน้องเข้าไปเอาเอง
ไม่รู้ป่านี้จะเป็นยังไงบ้าง...แต่ช่างเรื่องของคนอื่นเถอะ
มีอีกเรื่องนั่นคือผมได้ประวัติของคริสตัลจากไอ้เทาแล้ว หึ ผู้หญิงคนนี้ใช่ย่อยเหมือนกัน ชอบเข้าผับและคบผู้ชายไปทั่ว ไม่สิตามข้อมูลแค่บอกว่าเธอมักจะเป็นฝ่ายเข้าหาผู้ชายหลังจากนั้นก็จะผละออกมาเมื่อผู้ชายคนนั้นหมดสนุกแล้ว อีกอย่างผู้ชายที่สนิทกับเธอมีเพียงคนเดียวและเป็นเพียงแค่เพื่อนสนิทเท่านั้น
“หึ” ไคหัวเราะในลำคอก่อนที่จะเข้าไปหยิบคลัตช์ผ้าซาตินของเธอขึ้นมาถือไว้ก่อนจะจับร่างบางเข้ามาใกล้แล้วพยุงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมแขนเตรียมตัวจะพากับบ้าน
ใช่...บ้าน บ้านเขานั่นเอง
“อือ~ คุณเป็นคายยยคะ”
“หือ ?” ไคเบิ่งตาอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ผู้หญิงนี้เมาแล้วจำอะไรไม่ได้เลยหรือไง
“ทำไมคุณหล่อจางงงงงอ่า~”
“หึ”
ท่าทางเธอจะเมาจริงๆ เพราะหากเป็นสภาพปกติเธอคงไม่ยอมพูดอะไรแบบนี้ ไคส่ายหัวกลับท่าทางที่เปลี่ยนไปของเธอก่อนจะออกแรงรั้งร่างบางให้ยืนขึ้นแต่เธอกับไม่ยอมให้ความร่วมมือ คริสตัสที่ไม่ได้สติผลักไคให้นอนราบไปกับเบาะนุ่มอย่างรวดเร็วแล้วขึ้นไปคร่อมฝ่ายชายโดยที่ไคไม่ทันตั้งตัว
O_O
ไคไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยสักนิดว่าผู้หญิงที่คุยกับเขาก่อนหน้านี่ไม่ถึงชั่วโมงและคอยไล่เขาให้ปล่อยเธอไป แถมยังผลักไสเขาทุกครั้งที่แตะเนื้อต้องตัวเธอจะเปลี่ยนมาเป็นผลักเขาและขึ้นคร่อมอยู่ด้านบนอย่างในตอนนี้
“คุณ!” ไคเรียกเธอและแตะใบหน้าสวยนั่นเบาๆ เหมือนเรียกสติแต่คริสตัลกลับปัดมือนั่นออกและรวบมือหนาข้างนั่นด้วยมือบาง
“คุณหล่อจางเลยยยยย~” สายตาหวานหยาดเยิ้มที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนสะกดให้เขาขยับไปไหนไม่ได้ ใบหน้าหวานเองก็ค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้และหยุดลงเมื่อปลายจมูกของเราแตะกัน
ยิ่งมองใกล้ๆ เธอยิ่งสวย...ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ผมเคยผ่านสวยสู้ได้สักคน
“ฉันชื่อ จอง...คริสตัลนะคะ คุณชื่ออะไรเหรอสุดหล่อ~” ปลายเสียงที่ลากยาวบ่งบอกให้รู้ว่าเธอนั่นไม่มีสติและนั่นก็ทำให้ผมได้สติละออกจากใบหน้าเธอแต่เหมือนจะยิ่งแย่เมื่อมองต่ำลง...
เสื้อสายเดี่ยวตัวเล็กของเธอแทบจะปิดอะไรไว้ไม่ได้เมื่ออยู่ในมุมแบบนี้
คัพ C ชัวร์
“หือ...คุณชื่ออะไรค้า~”
“คิมไคครับ” ไคตอบอย่างลืมตัวและเผลอมองเนินอกขาวนั่นอย่างกับผู้ชายที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก
บ้าเอ้ย...เธอกำลังจะยั่วผม
“ชื่อเพราะจางงงง~ หล่ออย่างนี้มีแฟนยังเอ่ยยยย~”
“อือ...” ผมครางอย่างลืมตัวมือใบหน้าหวานก้มลงมากัดที่คางผมอย่างเบาๆ นั่นทำให้เขาแทบคลั่ง
เธอกำลังทำให้เขาหมดความอดทน
“คนสวยครับ คุณไม่ควรยั่วผมด้วยวิธีนี้นะครับ...เพราะต่อให้คุณเมาผมก็ไม่สน”
“พูดมากจัง”
“อุ๊บ”
ไคจำเป็นต้องเก็บคำพูดของตัวเองไว้เมื่อริมฝีปากบางที่เขาเคยหวังว่าจะได้สัมผัสมาตั้งแต่วันแรกที่เห็นประกบลงเข้าที่ริมฝีปากหยักอย่างรวดเร็ว เขาที่ไม่ทันตั้งตัวได้แต่อึ้งในการกระทำที่ไม่คาดฝันของเธอแต่แล้วเมื่อริมฝีปากบางเริ่มขยับไคก็เริ่มมีสติและเปิดปากให้เธอได้จูบเขาอย่างเต็มที่
ไม่อยากเชื่อเลยว่าเวลาเธอเมาแล้วจะเป็นแบบนี้...รู้อย่างนี้เขาชวนเธอดื่มตั้งแต่วันแรกก็คงดี
“อื้อ~” เสียงครางแหบพร่าจากคนใต้ร่างดังขึ้นอย่างพอใจในรสจูบของคริสตัล แม้ว่าเธอจะไม่ได้จูบเก่งเท่าผู้หญิงที่เขาเคยผ่านกลับกันเธอดูเหมือนจะจูบไม่ค่อยเป็นด้วยซ้ำหากแต่ความไม่ประสีประสานั่นทำให้เขาพอใจเป็นอย่างมาก
ไคจำเป็นต้องหักห้ามใจตัวเองเก็บปลายนุ่มชื้นของตนเข้าที่เดิม ก่อนจะถอนริมฝีปากของตนออกมาออกจากริมฝีปากหวานอย่างอ้อยอิ่ง
“อื้อ” คริสตัลครางอย่างไม่พอใจและทำหน้าหงุดหงิดทั้งที่ยังไม่ลืมตานั่นทำให้เขาหัวเราะเบาๆ กับท่าทางน่ารักของเธอ
“รอก่อนนะครับ...คนดี เราไปหาที่เหมาะๆ กว่านี้เถอะ” ไคกระชิบข้างหูคริสตัลด้วยน้ำเสียงทรงเสน่ห์ก่อนจะดันร่างเธอให้ลงไปนั่งเป็นปกติก่อนจะช้อนตัวหญิงสาวขึ้นในอ้อมแขนและอุ้มเธอที่เมาไม่ได้สติออกจากผับโดยไม่สนใจสายตาคนที่มองเราอย่างสนใจ
ณ เวลานี้ เขาไม่สนใจอะไรอีกแล้วนอกจากตัวคริสตัล...
-------------------------------------
“หืม...คุณสนใจเพื่อนผมเหรอครับ มองไม่วางตาเชียว”
“!!!”
แอลยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นว่าเธอผงะตัวออกจากเขาที่เข้ามากระซิบใกล้ใบหู ผู้หญิงสวยคนนั้นมองเขาอย่างตกใจ
“คะ คุณ...”
“ดูท่าคุณจะชอบเพื่อนผมสินะมองไม่วางตาเชียว”
“!!!”
“ตกใจอย่างนี้ท่าจะจริงแฮะ”
แอลยิ้มกว้างมากกว่าเดิมเมื่อคิดว่าเขาคงมีอะไรสนุกๆ เล่นระหว่างนี้เพราะหลายวันมานี้ โลกของเขาช่างน่าเบื่อยิ่งนัก…และดูท่าว่าหญิงสาวหน้าตาน่ารักคนนี้จะพอช่วยให้เขารู้สึกสนุกกับชีวิตมากขึ้น
มันเป็นความบังเอิญที่เขากับไคมาผับในวันเดียวกันโดยที่ไม่ได้นัดแต่ก็ไม่แปลกที่เราจะเจอกันที่นี่เพราะว่าผับ K คือที่ประจำของพวกเราทั้งห้าอยู่แล้ว เขาเห็นไคตั้งแต่ตอนเข้ามาแล้วล่ะเพียงแต่ไม่ได้เข้าไปทักเพราะเห็นมันพาแขกคนสำคัญมาด้วย ไม่ใช่ใครที่ไหนของเล่นใหม่ที่เคยด่าน้องชายมันว่าเล็กพริกขี้หนูนั่นเองและตอนที่มันกำลังจะกลับเขาก็แค่จะเดินไปทักตามประสาเพื่อนสนิทแต่กลับเห็นอะไรที่มันน่าสนุกเข้าซะก่อน...
สายตาที่ผู้หญิงคนนี้มองเพื่อนเขาไม่ใช่เล่นๆ เลย...หึ
“ว่าไง...คุณชอบเพื่อนผมใช่มั้ยล่ะ”
“...”
“ผมมีวิธีที่จะช่วยคุณนะ...คุณก็น่าจะรู้หนิว่าผมเป็นเพื่อนสนิทไค”
“คุณแอล”
“คุณอยากให้ผมช่วยมั้ยล่ะ”
“...”
แน่นอนว่าไม่มีทางที่เธอจะปฏิเสธ...ผู้หญิงตรงหน้าพยักหน้าเบาๆ อย่างกล้าๆ กลัวๆ ราวกับว่าเธอกลัวว่าผมจะหลอกเธอ
หลอกเหรอ...ไม่หรอกน่า เขาแค่ชอบปั่นหัวพวกที่อ่อนแอกว่าเล่นเท่านั้นเอง...หึ
-----------------------------------------
Sulli’s part
ฟุบ
ฉันถูกเหวี่ยงลงบนเตียงโดยฝีมือคนที่เกลียดเพราะเมื่อกี้ฉันคิดจะหนีในตอนที่ลูกน้องเขาปล่อยแขนฉัน
เจ็บ!
เมื่อกี้ข้อเท้าต้องกระแทกขอบเตียงแน่ๆ
“จื่อเถา!!!!” ฉันตะโกนชื่อเขาอย่างหมดความอดทนและตวัดสายตามองเขาด้วยโทสะ
คนตัวสูงเพียงแค่ปรายตามองฉันราวกับเห็นว่าฉันเป็นตัวน่ารำคาญก่อนที่เขาจะหันไปออกคำสั่งเสียงแข็งกับแกรี่
“ล็อคประตูห้องนอนไว้และไม่ต้องให้ใครมายุ่งกับยัยนี่”
ฉันมองคนตรงหน้าด้วยความไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนแบบนี้อยู่บนโลก...เลือดที่ไหลอยู่ตรงหางคิ้วไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอะไรบ้างเลยใช่มั้ย ?
“เธอทำตัวเอง!”
นั่นเป็นคำสุดท้ายก่อนที่เขาและลูกน้องจะปิดประตู...และขังฉันไว้ในห้องนอนกว้างใหญ่นี้แต่เพียงคนเดียว
ปัง!
---------------------------------
นักอ่านอย่าหายเพิ่งไปไหนน้า~ อยู่รอดูความร้ายกาจกันก่อน~
ขอบคุณทุกเม้นและนักอ่านทุกท่านค่ะ
ความคิดเห็น