ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Exo fx} A Story We Will Never Tell > Kaistal

    ลำดับตอนที่ #4 : ASWWNT ; dairy by Soojung - 15/01/2014

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ย. 56








     


    วันที่15/01/2014

     
     

              12.00 น.

     

              กรี๊ดดดดดด~ กรี๊ดดดดดดดดดดดดด~

     

              เราอยากจะกรี๊ดให้ลั่นบ้านเลย กรี๊ดๆๆๆๆ แต่ทำไม่ได้ไง เกรงใจพ่อกับแม่ เราเลยต้องมาลงกับสมุดแทน  5555 วันนี้วันที่สองแล้วที่เราจะเขียนไดอารี่ อยากจะบอกว่าวันนี้มีเรื่องใหญ่มากกกก~ มาเล่าให้ฟังล่ะ

     

    คือว่าเมื่อคืนนี้เราไปงานวันเกิดน้องของเพื่อนของเพื่อนพี่ซูยอนใช่ม๊า รู้มั้ยว่าเราเจอใคร...เซฮุนไงล่ะ เราเกือบดีใจแล้วที่เราจะได้อยู่กับเพื่อนสองต่อสองบ้าง แต่ที่ไหนได้เซฮุนดันควงยัยริดสี(?) มาด้วยน่ะสิ เซ็งเลย -_-

     

              เซฮุนบอกเราว่าเขากับเจ้าของงานวันเกิดเป็นเพื่อนกัน ชื่อจงอินน่ะ...คิมจงอิน อยู่มหาลัยเดียวกับเราด้วย เราเจอเขาเมื่อคืนด้วย แต่ทำเราอับอายมากกกกกกกก และนี่คือสาเหตุที่ทำให้เราอยากจะกรี๊ดออกมา เขาทำยังงั้นกับเราได้ยังไงงงงงงงงงงง!!!!

     

              ก็ตอนนั้นเราเบื่อๆ งานวันเกิดใช่ม๊า เพราะเราไม่รู้จักเจ้าของงาน และก็ไม่รู้จักใครเป็นพิเศษด้วย (นอกจากพี่สาวและเพื่อนพี่สาวบางคน) ก็เลยเลี่ยงงานเลี้ยงริมสระว่ายน้ำเข้ามาในตัวบ้านแทน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าของบ้านหลังนี้โคตรรวย นี่บ้านหรือคฤหาสถ์เนี่ย -_- เราเดินไปเดินมาราวกับที่นี่เป็นบ้านของตัวเองอยู่สักพัก แล้วก็ตัดสินใจไปนั่งเล่นในห้องๆ หนึ่ง ซึ่งดูเหมือนจะเป็นห้องนั่งเล่น อ่ะ ลืมบอกไปว่าตอนนั้นเรายังไม่เห็นหน้าเจ้าของงานวันเกิดหรอกนะ

     

              ตอนนั้นเรารู้สึกเบื่อเซฮุนมากเลย ไม่รู้ทำไมเราต้องโกรธที่เขาพายัยริดสีมาด้วย เราก็ว่างทำไมไม่พาเรามา ถ้าไม่มากับพี่ซูยอน เราก็คงไม่รู้ว่าเซฮุนมางานนี้ด้วย และเราก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเริ่มไม่มีเหตุผลแล้ว เซฮุนกับยัยรุ่นพี่ริดสีเขาเป็นแฟนกันก็ไม่เห็นแปลกถ้าจะมาด้วยกัน นี่เราเป็นอะไรไป อย่าบอกนะว่าเราแอบชอบเพื่อนตัวเอง ไม่นะๆๆ เป็นไปไม่ได้~

     

    ตอนที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นคนเดียวเราคิดทบทวนเรื่องนี้จนหัวแทบระเบิด เลยไม่ได้สังเกตว่ามีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในห้องจนกระทั่งเขาทักขึ้น อ้าว โชคดีจังเจอสาวสวยในนี้พอดีเลยน้ำเสียงยานๆ ของเขาทำเอาแล้วย่นหน้าด้วยความไม่ชอบใจ ขนาดเราก็อยู่ไกลพอสมควรเรายังได้กลิ่นเหล้าจากตัวเขาเลย เราเตรียมตัวจะลุก แต่เขากลับไวกว่า คว้าข้อศอกเราแล้วกระชากให้เรานั่งลงที่เดิม กลายเป็นว่าเราสองคนนั่งอยู่บนโซฟาข้างกัน โดยที่มีเขากางแขนเท้าไว้กับพนักพิงแขนและหลังเหมือนขังเราไว้ ทำให้เราขยับไปไหนไม่ได้

     

              มาจนถึงตอนนี้เรามั่นใจแล้วว่าเขาเมาจริงๆ ดูท่าจะเมามากด้วย เราสำรวจใบหน้าของคนตรงหน้าช้าๆ มั่นใจว่าชาตินี้ไม่เคยเจอแน่ๆ แต่หัวใจก็เต้นวูบวาบๆ อย่างน่าประหลาด ใบหน้าหล่อเหลาของเขายังคงดูดีแม้ว่าตาจะปรือๆ แก้มแดงๆ หรือแม้กระทั่งกลิ่นเหล้าที่ออกจากปากจะเหม็นหึ่งก็ตาม เราจำได้ว่าเขาหล่อมาก...มากกว่าเซฮุนเสียอีก ทั้งจมูกโด่งคมสัน ริมฝีปากหนาอย่างผู้ชาย ผิวสีออกแทนและดวงตาคมกริบที่มองมาที่เราราวกับจะกลืนกิน ให้ตายเถอะ แค่คิดถึงสายตาของเขา ขนกายก็ลุกซู่ขึ้นมาทันที

     

              เขาขยับใบหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้น...มากขึ้นจนลมหายใจร้อนๆ รดอยู่บนปลายจมูกเรา ตอนนั้นเราขยับไปไหนไม่ได้เลย รู้สึกเหมือนกับตัวเองโดยมนตร์สะกดให้อยู่เฉยๆ แม้สมองจะสั่งการให้เราผลักไสเขาออกไป แต่ร่างกายกลับไม่ฟัง จนในที่สุด...คนหล่อขี้เมาก็ประทับริมฝีปากของเขาลงบนที่เดียวกับของเรา

     

    กรี๊ดดดดดดดดดดด~

     

    ฮือ T_T เราโดยคนขโมยจูบแรก แงงงงงง แถมคนขโมยยังเป็นคนหล่อขี้เมาอีกด้วย ซูจองจะบ้าตาย~

     

    จูบแรกของราววววววววววววววว T______T

     

    อุตส่าห์รักษาริมฝีปากของตัวเองมาตลอด 18 ปีเพื่อรอวันที่เจ้าบ่าวในอนาคตจะมาจุมพิตรับขวัญ แต่ดันโดยไอ้ขี้เมาที่ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อมาฉกไปหน้าตาเฉย ฮือ TT แล้วรู้มั้ยหลังจากนั้นเราทำยังไง เรา...เรา...เราก็ปล่อยให้เขาจูบต่อไปอย่างนั้นโดยไม่เอ่ยปากห้ามเลยน่ะสิ T__T

     

    เขียนมาถึงตรงนี้แล้วเราอยากจะร้องไห้ ทำไมน้า ทำไมตอนนั้นเราถึงไม่ห้าม แถมยังปล่อยให้เขาโอบเอวไปประชิดกับร่างกายเขาอีก ที่ซวยที่สุดคือเราขึ้นไปนั่งบนตักไอ้ขี้เมาได้ยังไงก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนั้นริมฝีปากของคนเมามันพาไป สมองและร่างกายไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น

     

    ทุกอย่างมันเบลอไปหมด ไม่มีแรงแม้แต่จะส่งเสียงออกมา เราปล่อยให้คนแปลกหน้าดูดกลืนริมฝีปากเราอย่างดุเดือด เราเพิ่งรู้ ณ ตอนนั้นเองว่าเวลาคนจูบกันมันไม่ใช่แค่เอาริมฝีปากมาแตะกันเฉยๆ มันลึกซึ้งยิ่งกว่านั้นมาก! ลิ้นของเขาที่เข้ามาหยอกล้อกับลิ้นของเรามันทำให้เราละลายไปในอ้อมกอดเขา และเริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่กำลังตื่นตัวในร่างกายของตัวเอง มันวูบวาบไปทุกที่ที่เขาสัมผัส ทั้งหลัง เอวและสะโพก เราร้องครางอย่างลืมตัวและเกือบจะปล่อยให้มือใหญ่ทั้งสองข้างจับเข้าที่หน้าอกแล้ว ถ้า...หน้าของเซฮุนไม่ลอยขึ้นมาซะก่อน

     

    เราได้สติอีกครั้ง เลยผลักคนขี้เมาออกไปในจังหวะเดียวกับที่เขาถลกกระโปรงสั้นของเราขึ้น คนเมาดูเหมือนจะตกใจนิดหน่อย แต่ก็เพราะเมานั่นแหละร่างสูงถึงได้เอนนอนราบไปกับโซฟาทั้งที่เรายังนั่งอยู่บนตักเขาเหมือนเดิม เมื่อเรียกสติของตัวเองได้ เราก็รีบลุกขึ้นจากตักเขา แล้วจัดการเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อย ให้ตายเถอะสายเดี่ยวของเราหล่นมาอยู่ข้างไหล่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้!

     

    เราหยิบกระจกขึ้นมาแล้วสำรวจเครื่องสำอางบนใบหน้าก็พบว่าลิปสติกสีชมพูเข้มที่ทามาแทบไม่หลงเหลืออยู่เลยสักนิด แถมมันยังเลอะขอบปากจนดูเป็นยัยบ้าด้วยซ้ำ โอ้ย ซูจองนะซูจอง ปล่อยให้ไอ้คนเมาจูบได้ไงเนี่ย! ที่สำคัญไม่รู้จักกันอีกต่างหาก

     

    ตอนนั้นเราโมโหตัวเองและโมโหผู้ชายคนนี้มาก! แต่คู่กรณีกลับหลับสนิทอยู่บนโซฟา เราเลยได้แต่ต่อว่าตัวเองอยู่ในใจ แถมริมฝีปากของเขายังมีลิปติกสีเดียวกับของเราไปติดอยู่บนริมฝีปากของอีก ให้ตายสิ น่าอายชะมัด ตอนนั้นเราคิดอยู่อย่างเดียวว่าเราต้องหนี...เราไม่มีหน้าเจอใครอีกแล้ว จูบแรกที่เราเก็บไว้ให้สามีในอนาคตมันหมดไปแล้ว เราเสียใจมาก เสียใจจนน้ำตาไหลเลย แต่ก่อนเราไป เราขอแก้แค้นไอ้ผู้ชายมักมากคนนี้หน่อยเถอะ!

     

    เราเปิดกระเป๋าหยิบลิปสติกสีแดงที่พกติดกระเป๋าไว้ขึ้นมา ก่อนจะจัดการลากเป็นตัวอักษรสองคำที่แก้มเขาอย่างล่ะฝั่ง ด้านขาวเขียนว่า ไอ้และด้านซ้ายเขียนว่า เลว!’ รวมกันเป็น ไอ้เลว!’

     

    จากนั้นเราก็รีบออกจากห้องนั้นไปจัดการแต่งหน้าใหม่ แล้วก็รีบขอกุญแจรถจากพี่ซูยอน ก่อนจะเข้าไปนั่งรอพี่สาวอยู่ในรถโดยไม่ได้ออกมาร่วมงานอีกเลย

     

    หลังจากนั้นเราก็มารู้จากพี่ซูยอนว่าคนที่เราเพิ่งไปเขียนด่าเขาที่หน้ามาคือคนเดียวกับเจ้าของงานวันเกิด เพราะพี่สาวเอารูปที่แอบถ่ายเก็บไว้ล้อเจ้าตัวมาให้ดู เป็นรูปที่เขากำลังหลับสนิท ข้างแก้มมีตัวอักษรที่เราฝากไว้อยู่ และริมฝีปากของเขาก็มีสีเดียวกับลิปสติกของเราทิ้งรอยไว้ให้เห็นจางๆ

     

    พี่ซูยอนบอกว่าน่าเสียดายที่เราไม่ได้เห็นจงอินโกรธ รายนั้นหัวฟัดหัวเหวี่ยงจนประกาศออกมาเลยว่าจะตามหาตัวคนทำอย่างนี้กับเขาให้ได้! พี่ซูยอนบอกว่าจงอินเมามากๆ เลยจำอะไรก่อนหน้านั้นไม่ได้สักนิด พอเราได้ยินอย่างนั้นเราหายใจทั่วท้องเลย

     

    ไม่ได้กลัวที่เขาจะมาหาเรื่องเราหรอกนะ แต่ตอนแรกเรากลัวว่าเขาจะจำเราได้ แล้วมาตอแยเรา เราไม่อยากจำเรื่องเมื่อคืนนี้ เราจะถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น ยิ่งถ้าจงอินลืม เราก็โล่งใจ...

     

    เพราะเราไม่อยากให้เซฮุนรู้...

     

    แล้วทำไมเราต้องกลัวเซฮุนรู้...?

     

    เซฮุนกับเราเป็นเพื่อนกัน ถ้าเราไปจูบกับคนอื่นก็ไม่เห็นแปลกอะไร...

     

    นั่นสิ ไม่แปลก...แล้วทำไมเราต้องไม่อยากให้เซฮุนรู้ ?

     

    เฮ้อ วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ เราขอไปหาคำตอบให้ตัวเองก่อนแล้วกัน

     

     

    Bye-Bye

     

     

     

     

    --------------------------------------

     

    ขอบคุณนักอ่านและทุกกำลังใจค่ะ ^^

     


    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×