แชร์ประสบการณ์เด็กกากอยากเข้าจุฬา//แก้บน

ลำดับตอนที่ #5 : ก้าวที่ 5 เตรียมพร้อมในทุกสนามสอบ

5

สนามสอบ

ตอนนี้พี่จะมาบอกเกี่ยวกับการสอบแต่ละที่นะคะ

มศว

เป็นสนามแรกของพี่เลยค่ะ ตื่นเต้น พี่สอบที่อิมแพค คนเยอะมาก ถ้าใครสะดวก ไปกับพ่อกับแม่จะดีนะคะ ไม่ต้องห่วงเรื่องการฝากสัมภาระ เรื่องอาหารการกิน เพราะคนเยอะ วุ่นวายมากๆเลยค่ะ ตอนสอบพี่ดุคนข้างด้วยๆค่ะ คือเขาฝนข้อสอบแรงมาก แล้วต้องใช้โต๊ะเดียวกัน โต๊ะมันก็สั่น สะเทือนมาถึงพี่ พี่ไม่มีสมาธิเลย เลยบอกเขาแบบสุภาพค่ะ เขาเลยฝนข้อสอบเบาขึ้น ถ้าคนข้างๆน้องรบกวนสมาธิ น้องบอกเขาเลยนะคะ อย่าให้ความเกรงใจ มาทำลายโอกาสการเข้ามหาลัยของเราค่ะ  เอาล่ะ มาดูแต่ละวิชาที่พี่สอบกัน

ไทย – ออกหลักภาษา คิดวิเคราะห์ ตีความกลอน บทความ ข้อสอบง่ายค่ะ แต่การที่ข้อสอบง่ายนั่นหมายถึงคนอื่นก็ทำได้ เพราะฉะนั้นควรจะแม่นจริงๆ อย่างเช่น ถามว่า ข้อใดมีคำวิเศษณ์ บทความต่อไปนี้แสดงสิ่งใด น้องควรรู้คำศัพท์พวกความรู้สึกด้วยค่ะ เช่น แดกดัน ประชดประชัน น้อยใจ อิจฉา เพราะในข้อสอบพี่ทำจุดนี้ไม่ได้ค่ะ ถถถ

อังกฤษ – คล้ายๆข้อสอบโอเน็ต มีทั้งส่วนแกรมม่า รีดดิ้ง ไม่ยากมาก แต่คนทำไม่ทันเยอะค่ะ คำศัพท์ก็ไม่ยากเกินไป ถ้าน้องเตรียมตัวไปดี ทำได้อยู่แล้วค่ะ

ความถนัดทางการเรียน – เป็นคล้ายๆข้อสอบวัดไอคิว ยากอยู่เหมือนกันเพราะพี่หัดทำข้อสอบไปนิดเดียว เป็นแบบจำลองรูปภาพค่ะ แล้วก็มีการจำลองเหตุกาณ์ ให้เราคิดด้วยค่ะ ยากสำหรับคนไม่เตรียมตัวเลย แต่น้องๆสามารถหาข้อสอบเก่าจากในเนตได้นะคะ มีอยู่ๆ

ความถนัดทางวิชาชีพครู – ชิวๆค่ะ ถามประมาณว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้จะทำอย่างไร คิดอย่างไร ชอบแบบไหนมากกว่ากัน สบายมากค่ะ แค่มันมีหลายข้อไปหน่อย

สนาม 7 วิชาสามัญ

สนามนี้พี่เครียดค่ะ บอกได้เลย เพราะต้องเอาคะแนนไปใช้ทั้งของ มก. มธ. ศิลปากร และจุฬา (ไว้อธิบายการสอบสัมภาษณ์พวกนี้เนาะ) โชคดีหน่อยที่ได้สอบที่โรงเรียนตัวเองค่ะ เลยลดความตื่นเต้นไปหน่อย

ไทย – สอบวิชาแรก ออกพวกการวิเคราะห์เยอะมากกก น้องต้องตีความให้เป็นว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร ความคิดของผู้แต่งเป็นยังไง เจตนาในการเขียน เรียนอาจารย์ปิง แล้วน้องจะคะแนน 80 อัพชิวๆค่ะ แล้วก็ต้องไปดูเรื่องลักษณะนาม แล้วก็สำนวนด้วย การเขียนคำผิดก็ควรดู วิชานี้คนส่วนใหญ่ได้คะแนนเยอะ เพราะฉะนั้นน้องอย่าพลาดนะคะ พี่อาศัยหนังสือจากคอร์สเทอโบ ของ อ.ปิง แล้วก็มินิไทยบุ๊ค แล้วก็ข้อสอบเก่าย้อนหลังค่ะ ได้มา 86 คะแนนค่ะ

อังกฤษ – ออกรีดดิ้งเยอะมาก โหดมาก ศัพท์ยาก บทสนทนามีสำนวนแปลกๆด้วย แนะนำให้อ่าน CU-TEP แล้วก็พวกเทคนิคพิชิตอ่าน พยายามอ่านข่าวอังกฤษบ่อยๆ รีดดิ้งนี่โหดจริงๆ คำศัพท์ก็ท่องเยอะๆ มีเรียงประโยคด้วย ไม่ยากมากแต่น้องต้องแม่นหลักการทำ เอาข้อสอบเก่าๆของปีก่อนๆมาทำ แล้วน้องจะได้รู้ว่าจะได้สักกี่คะแนน พี่ลองเอาของปี 55 กะ56 มาทำ ได้อยู่ประมาณ 50-60 คะแนนจาก 100 คือพี่กากอังกฤษพี่เลยบอกน้องเลยว่า วิชานี้ ยากเหี้ยๆ สำหรับพี่ค่ะ ตอนสอบบอกเลยว่าพี่ลนมากๆ ไม่มีสมาธิเลย มัวแต่กังวลจะทำไม่ทัน คิดนู่นนี่เยอะมากๆ สรุปคือทำไม่ทันค่ะ มั่วไป 7ข้อ โถวววววววว ลูกแม่ ตอนสอบเสร็จคิดเลยว่า โอยย ขอให้เกิน 30 คะแนนเหอะ กรี๊ดดดด ฮรืออ จะร้องไห้ละ พี่รู้สึกแย่มากจริงๆ แต่ตอนประกาศคะแนนพี่เงิบค่ะ พี่ได้ 67.5 สูงสุดที่เคยทำมาเลย ปรื้มปริ่ม น้ำตาไหลค่ะ 5555555555 น้องๆสู้ๆน้า พี่ว่าถ้าน้องพอไหวกับอิ๊งอยู่แล้ว ทวนรีดดิ้งอ่านศัพท์เยอะๆ น้องน่าจะได้ 75 อัพขึ้นไปด้วยซ้ำ แต่พี่กาก พี่ได้เท่านี้พี่พอใจค่ะ มิอาจเอื้อมม 5555555

***** ที่สำคัญ ทำใจร่มๆนะลูก จะไม่ต้องลน ไม่ต้องกังวลเรื่องอื่น จะได้ไม่พลาดเหมือนพี่

สังคม – เนื่องจากพี่ลนจากอังกฤษ พอสังคมเลยพยายามไม่คิดอะไร ทำไปเรื่อยๆค่ะ คนหลับเยอะมากกก พี่ก็นั่งทำทวนไปหลายๆรอบ โอเค ทำได้อยู่ ออกแต่ละสาระเท่าๆกันเลย น้องควรจะมีเรื่องที่ถนัดแล้วเก็บให้ได้นะ อันไหนไม่ได้ปล่อยมันไป สังคม รู้คือรู้ตอบได้ ไม่รู้คือไม่รู้เดาไม่ได้เลย อย่างพี่ถนัดเศรษฐศาสตร์ กับพวกกฎหมายหน้าที่พลเมือง พี่จะอ่านพวกนี้ให้เข้าใจทุกเม็ด จะได้ทำได้ทุกข้อ ก็จะได้ไปละ 20ข้อ แล้วพวกศาสนา ประวัติศาสตร์ พี่ก็อ่านๆให้พอจำได้ เข้าใจหลักธรรม เหตุการณ์สำคัญ แต่ภูมิศาสตร์ที่พี่ไม่เก่งจะเน้นเฉพาะจุดที่อาจารย์ปิงบอก เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ที่เหลือของภูมิศาสตร์พี่ทิ้งค่ะ 5555 พี่จาก 50 ข้อ มั่นใจว่าถูกชัว 28 ข้อค่ะ ทีเหลือก็มั่วๆ เดาๆ สรุปได้มา 68 คะแนนค่ะ แนะนำอาจารย์ปิงค่ะ ตรงแบบ ตรงที่สุด ตรงกว่านี้ไม่มีแล้ว ต้องเรียนนะ คอร์สเทอโบ ทำข้อสอบเยอะๆด้วย ดีมากๆจริงๆ

ฟิสิกส์ – พี่ได้สอบวิชานี้ด้วยค่ะ เพราะมันสอบหลังสอบสังคมเสร็จ ข้อสอบจะเป็นพวกให้โจทย์ให้รูปมา แล้วคำตอบจะเป็นสูตรค่ะ ออกกลศาสตร์เยอะมากๆ เลนส์ คลื่น แล้วก็เรื่องอื่นๆอีกนิดหน่อย แทบจะไม่มีตัวเลขให้เลย น้องๆต้องแม่นมากๆเลยนะคะ sin cos เรื่องมุมหักเหอะไรดูให้ดี ย้ายข้างแทนสูตรต้องระวังมากๆเลยคะ คำตอบมันคล้ายกันมากๆ ใครย้ายข้างผิดแทนสูตรผิด มีคำตอบหมดเลยค่ะ โหดมากจริงๆ พี่ที่ไม่ได้อ่านไปก็ชิว พี่บอกน้องๆได้เลยว่า พี่เข้าไปดิ่งข้อ 1 แล้วหลับค่ะ 555555 ปล่อยมันไป ได้มา 20 คะแนนค่ะ 55555555

สนาม แกท แพท

สนามนี้รอบแรกพี่ลงสอบ แกท แพท 1 2 5 7 แต่พี่ไปสอบแค่นิดเดียว ที่เหลือโดดค่ะ

แกทเชื่อมโยง – แนะนำให้เรียนคอร์สแกทของออนดีมานส์ น้องจะเข้าใจทะลุปรุโปร่ง อย่าซื้อหนังสือมาอ่านและทำเอง มันไม่ดี มันมั่ว พี่ทำแค่ของออนดีมานส์นะ ก็ตอนสอบก็ใช้หลักการนั้นเลย 150 ชิวๆค่ะ มันง่ายนะ ควรเก็บ 150 ให้ได้ทั้งสองรอบเพราะหลักการจริงๆมีนิดเดียวเอง ทีสำคัญคือต้องจับคำพูดให้ได้ คำแทน การฝนคำตอบ ทวนดีดีอย่าฝนผิด น้องอาจจะทำเสร็จตั้งแต่15 นาทีแรก แต่ก็ควรทวนซ้ำนะ ไปเรียนคอร์สแกท ออนดีมานส์ จบค่ะ

แกทอังกฤษ – ยากกว่าโอเน็ตนิดหน่อย แต่ง่ายกว่า 7 วิชาสามัญเยอะมาก ถ้าน้องทำ AX หรือข้อสอบเอนทรานซ์เก่าๆ น้องก็จะทำได้สบายๆนะ สนทนาง่าย คำศัพท์ก็ไม่ยากมาก รีดดิ้งง่าย แต่ระวังการเรียงประโยค ดูดีๆ พี่ไม่ได้อ่านไปสอบ อาศัยบุญเก่าช่วงที่อ่านสอบ 7 วิชาสามัญกะ ที่เรียนคอร์สแกทของพี่แนน ก่อนสอบมศว ได้ไป 117.5 เพราะพี่พลาดเรื่องเรียงประโยคกะคำศัพท์ค่ะ
 

แพท 1 – แพทเลขพี่ก็ชิว เข้าไปดิ่งแล้วก็หลับพักผ่อน 5555555 ยากนะบอกเลย เพื่อนพี่ที่ติดบัญชี ฬ เคยบอกว่าให้อ่านหนังสือของ ณัฐ อุดมพาณิชย์ ไปทำโจทย์เยอะๆ พี่เข้าไปดิ่ง 1 ได้มา 44 คะแนนจ้า 55555

แพท 7 – แพทเยอรมัน เป็นวิชาเดียวที่พี่อ่านไปสอบ 55555ตอนสอบห้องโล่งมากถึงมากที่สุด แถมคนที่เข้าไปสอบ ทำไปแปบเดียวก็หลับด้วย พี่ก็ค่อยๆนั่งทำไปทวนๆซ้ำๆจนหมดเวลาล่ะ แนะนำให้น้องไปหาข้อสอบเก่าๆทำ แนวนั้นเลยค่ะ แต่ของปี 57 ปีมันเปลี่ยนรูปแบบด้วย มีเรียงประโยคจากเรื่อง เรียงเหตุการณ์ แต่เรื่องแกรมม่า คำศัพท์ก็แนวเดิม เปลี่ยนแค่วิธีถามของรีดดิ้งมากกว่า แกรมม่ามีทุกเรื่องของม.ปลายเลย น้องต้องแม่นคำเชื่อมมากๆนะ การผัน การก คำช่วยต่างๆ เหตุการณ์บ้านเมืองปีพี่ไม่มีนะ คำศัพท์ก็ไม่ได้ยากมาก ดีที่มันออกตรงกะที่พี่อ่านไป เลยพอทำได้จ้า ได้มา 243 คะแนนค่ะ

โอเน็ต

บอกเลยว่าตอนนั้นพี่อ่านโอเน็ตก่อนสอบแค่ 1 อาทิตย์เพราะขี้เกียจมากค่ะ เบื่ออ่ะ 55

เลข – พี่ไม่ได้อ่านจริงจังเลย ที่พี่ทำคือ เอาข้อสอบเก่ามาแล้วมานั่งเดาทั้งฉบับ ไม่ได้คิดเลย ได้มาประมาณ 20 กว่าคะแนนตอนลองทำข้อสอบเก่า แล้วก็เพิ่งจะให้เพื่อนติวจริงจังก่อนเข้าห้องสอบ ตอนสอบก็ตั้งใจทำนะ เดาบ้าง ได้มา 47.5 คะแนน พี่กากเลข พี่เฉยๆค่ะ วิชานี้ 55555 เรื่องที่ออกมีเรื่องเซตเยอะนะ แล้วพวกสมการ พีชคณิต ไม่ได้ยากมากขนาดแพท 1 น้องน่าจะได้มากกว่าพี่แบบชิวๆ 5555

ไทย – มีแต่หลักภาษารัวๆ วิเคราะห์ไม่เยอะมาก พี่ก็ไม่ได้อ่านไปสอบค่ะ ได้มา 86.5คะแนน อาศัยบุญเก่าตอนอ่านสอบ 7 วิชาสามัญ กะตอนสอบ มศว จบ ออกง่ายค่ะ ถ้าท่องหลักภาษาได้ น้องจิได้คะแนนชิวๆ

อังกฤษ – วิชานี้พี่ก็ไม่อ่านไปสอบค่ะ อาศัยบุญเก่าเช่นกัน ข้อสอบง่ายนะ สนทนาก็ง่าย รีดดิ้งยิ่งง่ายใหญ่ คือพอเจอรีดดิ้ง7วิชาแล้ว รีดดิ้งโอเน็ตเป็นอะไรที่กระจอกไปเลยค่ะ คำศัพท์ไม่ยากมาก แต่พี่ไม่ได้อ่านไป พี่เลยพลาดตรงนี้ แล้วก็แกรมม่าออกเยอะเหมือนกัน ตรง error อ่ะ มีหลายคนพลาดมาก เพราะมันจะเป็นโจทย์ 1 ข้อ มีตัวเลือก 4 ข้อ แล้วตัวเลือกแต่ละข้อ ก็มีคำตอบที่ต้องแก้ ให้ถูกอีก 4 ตัวเลือก น้องต้องไปศึกษาการทำดีๆ แต่วิธีที่ถูกอ่ะ ตามลิ้งนี้เลย
 

http://www.dek-d.com/admission/27645/

ถ้าน้องเข้าไปในห้องสอบแล้วอาจารย์บอกให้แก้ทุกข้อ น้องก็เฉยๆ ไม่ต้องสนใจ ทำวิธีที่ถูกตามที่ครูพี่แนนบอกไว้ เพราะครูบางคน ท่านก็ไม่เข้าวิธีทำอ่ะเนาะ น้องจะอธิบายหรือไม่ต้องอธิบายให้ครูเข้าใจใหม่ก็ได้ เป็นสิทธิ์การตัดสินใจของน้องเอง แต่ตอนที่พี่สอบก็มีครูบอกให้แก้ทั้งหมดเหมือนกัน คนที่ไม่รู้ก็จะทำตามครูแล้วเสียคะแนนทั้งหมด พี่รู้พี่ก็ไม่สนใจ ทำตามวิธีที่พี่รู้ว่าถูก สรุปได้มา 85 คะแนนค่ะ บอกแล้วโอเน็ตอิ๊งเป็นสนามที่ชิวที่สุดแล้ว สำหรับคนกากอิ๊งแบบพี่ ได้เท่านี้พอใจค่ะ ถถถ

วิทย์ – คือพี่อ่ะ ถือว่าพี่เรียนวิทย์ห้องกิฟต์ โอเน็ตวิทย์เป็นอะไรที่ชิวสำหรับพี่มากกก คือข้อสอบโอเน็ตพี่ก่อนๆมันง่ายมากอ่ะ เพราะคงต้องให้เด็กศิลป์ภาษาสอบด้วย เพราะพี่เคยลองทำโอเน็ตวิทย์ปีก่อนๆ ปีก็ 75-80 อัพ พี่เลยไม่คิดจะทวนวิชานี้ซ้ำเลยค่ะ แต่พอเข้าห้องสอบ เงิบมากกกกกกกกกก ไอ่ห่านน ไรวะ ยากสาสสส คือเพื่อนพี่ที่มันติดหมอ มันเก่งวิทย์กว่าพี่มันยังบ่นแล้วบ่นอีกว่าปีนี้วิทย์ยากมากกว่าที่ผ่านมาก พี่ยังอดคิดไม่ได้ว่าขนาดเด็กวิทย์ห้องกิฟต์ยังบ่นว่ายาก แล้วเด็กศิลป์ภาษาจะเหลือหรอครัชชช พี่เลยได้มาแค่ 66 คะแนนค่ะ 55555555 เป็นบทเรียนให้น้องเลยนะว่าอย่าประมาท อะไรก็เกิดขึ้นได้ เหมือนพี่กะโอเน็ตวิทย์ไง อิอิ

สังคม – ยากค่ะ ออกแต่ความจำล้วนๆ วิเคราะห์น้อยมากก ถามไรก็ไม่รู้ แบบ มันควรหรอถามคำถามนี้ แล้วฉันจะรู้ป่ะ ยากจริงๆ ความจำทั้งนั้นเลยพี่ได้มา 66.25 ค่ะ ไม่ได้อ่านไปสอบ อาศัยบุญเก่าเช่นกัน บอกเลยพี่ขี้เกียจกะโอเน็ตมาก

ศิลปะ – พี่ขอบ่นเลย ไอ่เหี้ย ยากสัส คือยากที่สุดแล้วกับศิลปะ พี่ตั้งใจอ่านมากนะวิชานี้ พี่เอาหนังสือกระทรวงไปอ่านอ่ะ ทั้งดนตรี นาฏศิล ศิลปะ พี่อ่านหมดเลย แต่สุดท้ายได้มา 53.5 ค่ะ ถถถ ยากจริงๆ ยิ่งหลังๆที่มีจับคู่พวกวงดนตรี ประเภทศิลปะ พี่ทำไม่ได้เลยค่ะ น้องคนไหนทำศิลปะได้ 80 พี่ชาบูมากค่ะ 5555 คือมันเป็นวิชาที่ได้คะแนนยาก โหดฟุดๆ

การงาน เทคโนโลยี – ออกพวกอินเตอร์เน็ต การงานอาชีพ เรื่องทำสวน แล้วห้องพี่ไม่ได้เรียนวิชานี้ พี่เลยต้องหาอ่านเอง พี่ตั้งใจอ่านวิชานี้นะ เกี่ยวกับเรื่องคอมกับอินเตอร์เน็ตอ่ะ ออกเยอะ พี่ได้มา 74 คะแนน พอใจค่ะ 5555

สุขศึกษา – พี่ตั้งใจอ่านวิชามากเหมือนกัน เพราะว่าสุขะคล้ายๆชีวะ ถนัดค่ะ เลยอ่านเยอะ ส่วนพละที่เป็นพวกกติกา กีฬาอะไรก็อ่านบ้างให้พอจำได้ ว่ากีฬาแต่ละอย่างผู้เล่นกี่คน ข้อสอบออกสุขะเยอะนะ พวกต่อมต่างๆ เรื่องเพศออกเยอะสุด กีฬาไม่มากเท่าไหร่ แล้วก็ออกเยอะพวกบุหรี่ การออกกำลังกาย  พี่ได้มา 92.5 ค่ะ กรี๊ดมากกกก บอกเลย 5555555 แม่นทฤษฎีค่า เขิลลล เลอค่าเท่สวดด

 สนามแกทแพทรอบ 2

 

บอกเลยว่าพี่ไม่ได้อ่านไปสอบเลย เพราะพี่ไม่คิดจะใช้อยู่แล้ว แต่น้องๆอย่าประมาทแบบพี่นะ ถ้าเกิดคะแนนรอบแรกไม่ดีแล้วพลาดรับตรงจะแย่เอา รอบสองพี่คิดว่ามันก็ยากขึ้นนะ แต่ว่าพี่กลับได้คะแนนเท่ารอบแรกเลย ทั้งที่ไม่ได้อ่านไรไปสอบ งงเหมือนกัน

แกท เชื่อมโยง – ก็มึนๆหน่อย สำคัญที่สุดน้องต้องอ่านพารากราฟสุดท้ายให้ดีนะ มีคนพลาดเยอะมาก โชคดีที่พี่อาศัยหลักของออนดีมานส์ก็เลย 150 จ้า

 แกท อังกฤษ – ก็มึนๆ ตอนสอบพี่คิดถึงแต่เรื่องเกมส์ค่ะ ก็ไม่ได้ซีเรียสมาก ยากไหม ก็ยากพอๆกะรอบแรกนะ พี่ก็งงเหมือนกันว่าได้ 117.5 มาได้ไง คำศัพท์ยากกว่าเดิมนะ แต่เพราะรอบนี้พี่ทำเรียงประโยคได้ เลยคงมาชดเชยกัน

แพท 1 – พี่ก็ดิ่งแล้วหลับ ชิวๆ ได้มา 42 ค่ะ คราวนี้ไม่ได้ดูข้อสอบเลย เลยบอกอะไรไม่ได้ โทดนะคะน้อง 5555 พี่หลับเก็บแรงไว้เล่นเกมส์ค่ะ ถถถ

แพท 7 เยอรมัน – เป็นอะไรที่พี่รู้สึกว่ายากขึ้นเยอะมากกกกกกกกกกก ศัพท์ก็ยาก แกรมม่าก็ยาก รีดดิ้งก็ยากกก ถถถ ตอนสอบพี่คิดอ่ะว่าคง 180 อ่ะ ยากจริงๆ แต่พอคะแนนออก 243 เท่าเดิมอ่ะ ก็งงๆเหมือนกัน แถมคนสอบก็น้อยมากกก น้อยกว่ารอบแรกอีก คะแนนสูงสุดของแพทเยอรอบนี้ 258 เองค่ะ น้อยมากเลย สงสัยไอ้พวกเก่งๆมันไม่มาสอบกันละ 5555

จบไปแล้วกับการสอบแต่ละอย่าง น้องจะเห็นได้ว่าพี่เลือกทุ่มอันที่พี่ใช้เท่านั้น อันไหนพี่ไม่ใช้พี่ก็ชิวมาก ที่พี่ทำแบบนี้แล้วไม่พลาดรับตรงจุฬา เพราะว่าพี่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ว่าพี่จะเข้าอักษร ฬ รอบรับตรงนะ จะใช้ 7 วิชาสามัญกะ แพท7 รอบแรกนะ มันทำให้พี่วางแผนได้ว่าควรจะทุ่มกับอะไรให้สุดๆ ควรจะปล่อยอะไรให้ผ่านไป นี่ล่ะคือความสำคัญของเป้าหมาย ถ้าน้องมีเป้าหมายชัดเจน ทุ่มเทให้เต็มที่ น้องก็จะทำได้อย่างที่พี่ทำได้ แต่ถ้าน้องยังลังเล ไม่รู้จะเข้าอะไรแน่ จะเอารอบแอดหรือรอบรับตรง น้องก็ต้องทุ่มมันทั้งหมด แต่ทำได้แต่ละอย่างได้ไม่เต็มที่ เพราะฉะนั้น การตั้งเป้าหมายจึงสำคัญมากๆเลยนะคะ น้องต้องมองให้ชัด อย่าไขว้เขว พี่เอาใจช่วยค่ะ

พอน้องๆผ่านสนามสอบมาแล้ว ลองมาดูสนามที่พี่ติด และที่พี่สัมภาษณ์กันหน่อยดีกว่า

ตลอด ม.6 ของพี่ เท่าที่พี่จำได้นะ พี่สมัครไป 5 ที่ค่ะ

ที่แรกเลยคือ มศว พี่ว่าน้องๆควรสมัครนะ มันเป็นสนามแรกเลย อยากให้ไปลอง จะได้รู้รู้สนามจริง ว่าการแข่งขันจริงๆเป็นยังไง ถ้าใครประกาศผลออกมาแล้วติดก็ดีใจด้วยนะ แต่อย่าเพิ่งได้ใจ คอยกดดันตัวเองไว้ อย่าลืมเป้าหมายที่แท้จริงของตัวเอง ส่วนใครที่ไม่ได้ ไม่เป็นไรน้อง อันนี้มันสนามแรก จำไว้เป็นบทเรียนว่าน้องพลาดอะไร ไม่ต้องเสียใจ ให้พยายามต่อไป เพราะก็มีหลายคนที่ไม่ติดมศว  แต่ก็ติดแพทย์ ฬ ติดอักษร ติดคณะในฝันที่เขาอยากเรียน สิ่งสำคัญคือ เมื่อน้องพลาดมศว น้องจะแก้ไขพยายามใหม่เพื่อให้ได้มหาลัยในฝันไหม หรือน้องจะเสียใจ จะท้อ จะทำตัวแบบเดิม แล้วพลาดอีก อันนี้น้องเลือกเองค่ะ

การสัมภาษณ์ – สัมภาษณ์ที่ มศว ก็ดีนะคะ รุ่นพี่น่ารักดี แล้วของพี่เขารับ 20 คน ประกาศสัมภาษณ์มา 23 คน แต่วันจริง ก็มีไปไม่ถึงจำนวณหรอกค่ะ คำถามของอาจารย์ที่น้องจะเจอแล้วแต่ดวงเลยค่ะ บางคนเจอโหดมาก ถามหลักภาษารัวๆ ของพี่ที่เจอก็มีแบบ อาจารย์ถามว่า ทำไมอยากเรียนที่นี่ ภาษาเยอรมันต่างกับภาษาไทยยังไง คิดยังไงกับการที่ผู้หญิงจีบผู้ชายก่อน ถ้าเป็นครูจะแนะนำยังไง แล้วมีคำถามเงิบๆด้วยค่ะ คืออาจารย์ถามพี่ว่า เคยมีคนมาจีบแล้วล่าถอยไปก่อนไหม คือ ขรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรมค่ะ 55555 เลยรู้เลยว่า การสัมภาษณ์อาจารย์มีสิทธิ์ที่จะถามอะไรเราก็ได้ 555 พี่โดนอาจารย์รุมตั้ง 4 คนแน่ะ ถามพี่เยอะมากกกก อาจจะเป็นเพราะนี่เป็นการสอบสัมภาษณ์แรกของพี่ พี่เลยค่อนข้างตื่นเต้น แต่พี่บอกได้เลย สอบสัมภาษณ์ มศว โหดที่สุดในการสอบสัมทั้งหมดของพี่แล้วค่ะ ถถถ ไว้อาลัย 3 วิ แพรบบ

ที่ที่ 2 น่าจะเป็น มธ. พี่สมัครไปเพราะแม่บอกให้สมัครค่ะ พี่สมัครศิลปะศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ ใช้คะแนน ไทย สังคม อังกฤษ ของ7วิชาสามัญค่ะ พี่กากอังกฤษพี่เลยสมัครเล่นๆ เพราะไม่ได้คิดว่าจะติดอยู่แล้ว แต่มันมีเรื่องฮาคือ ตอนที่สมัคร แล้วต้องกรอกคำนำหน้า ของพ่อ แม่ มันจะมีคำนำหน้าอย่างเช่น เจ้าชาย เจ้าหญิง ด้วย 55555555555 คือมันมีคำนำหน้าเยอะมาก ไม่ได้มีแค่ นาย กับ นาง อย่างเดียว พี่ก็สมัครไปขำไป

แล้วพี่ก็ลืมค่ะ

จนพอเพื่อนมาบอกว่าพี่ติดเอกอังกฤษ มธ. เท่านั้นล่ะ พี่ก็แบบ ห๊ะ?? เค้าสมัครด้วยหรอ??? แล้วเพื่อนก็เลยหาเว็บ เอารายชื่อคนมีสิทธิ์สัมภาษณ์มาให้ดู แต่ว่าวันที่พี่รู้เนี่ย มันเลยวันสัมภาษณ์มาแล้ว เรื่องนี้จึงอยากจะเตือนน้องๆเลยนะคะว่า อย่าลืมว่าได้สมัครที่ไหนไปบ้าง มันประกาศผลวันไหน คอยเช็คให้ดี จะได้ไม่พลาดรู้ทีหลังแบบพี่

ที่ต่อไป มก.

ของม.เกษตรนี่ดีมากเลยนะคะ สมัครรับทั่วประเทศ มีเอกเยอรมันที่พี่ต้องการ แล้วยังอนุญาตให้เด็กวิทย์สมัครได้ด้วย ใจดีมาก จุ๊บบบ เอกเยอรมันของพี่ใช้คะแนนเหมือนที่อักษรจุฬาเลยค่ะ คือ ไทย สังคม อังกฤษ ของ7วิชาสามัญ แล้วก็แพท 7 แต่ตอนที่มก.ประกาศผลเนี่ย แกทแพทมีการเลื่อนสอบ ตอนที่ประกาศมาเลยใช้เป็นคะแนนของ 3 วิชาจากการสอบ 7 วิชาสามัญแค่นั้น ของพี่คะแนนต่ำสุด ไม่แน่ใจว่า 190ปลายๆ หรือ 200 นิดๆ รับตามประกาศจริงเลยค่ะ 25 คน แต่มีคนจ่ายตังแค่ 13 คนเอง แล้วยังจะมีคนที่จ่ายเงินแล้วไม่ได้ยืนยันสิทธิ์อีก บอกเลยว่าเหลือจริงๆแค่ไม่กี่คนอ่ะค่ะ ม.เกษตรเศร้ารับตรง อย่างที่มีดราม่าบอกจริงๆเลยนะ โถววววววว คือมันไม่ดีอย่างเดียวที่มันให้จ่ายตังก่อนอ่ะค่ะ อย่างพี่เสียไปหมื่นสองนิดๆ สุดท้ายจ่ายไป แต่ก็ไม่ได้ยืนยันอยู่ดี เสียดายตังค์มากกก ฮรืออออออ//บ่นบ่น

มาดูเรื่องสัมภาษณ์กันดีกว่า

พี่ก็นั่งรอหน้าห้องสัมภาษณ์ ฟังคนอื่นคุยกันมีเด็กศิลป์เยอะเหมือน แต่ก็มีเด็กวิทย์ที่ติดมาด้วย เด็กศิลป์ อาจารย์ท่านจะถามคำถามไม่โหดนะ ถามภาษาไทยด้วยชิวๆ สบายใจได้เลย แต่เด็กวิทย์ที่เปลี่ยนสายมา เตรียมตัวตายค่ะ โถวววววววววว 555 คือเพื่อนแต่ละคนที่เป็นเด็กวิทย์เข้าไปสัมภาษณ์เนี่ย โดนฟัน โดนไซโค น่าฉงฉานมาก จะเจอคำถามแบบ จะเรียนไหวหรอ เรียนวิทย์มาทำไมไม่ไปสอบคณะสายวิทย์ ภาษาเรียนยากนะ อันที่คือที่เพื่อนๆคนอื่นเจอมา ส่วนของพี่เจอไม่ค่อยหนักนะคะ ตอนแรกอาจารย์ถามพี่เป็นภาษาไทย ว่าทำไมเรียนวิทย์มาแล้วมาเรียนเยอรมัน พอพี่บอกว่าพี่ไปแลกเปลี่ยนมาเท่านั้นล่ะ อาจารย์เปลี่ยนมาสัมภาษณ์เป็นภาษาเยอรมันกับพี่เลยค่ะ 555 แต่ไม่โหดนะ พี่ชินสำเนียงคนเยอรมันมากกว่าแต่สำเนียงอาจารย์ก็ฟังเข้าใจง่ายนะคะ ก็ให้แนะนำตัว ถามว่าอยู่เยอรมันเป็นไงมั่ง ไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง อะไรแบบนี้ ไม่ได้รู้สึกว่าโหดขนาด มศว เรียกว่าระดับกลางๆค่ะ

ที่ที่ 4 น่าจะเป็น ศิลปากร

มันจะมีโควตา 28 จังหวัด ของม.ศิลปากรเข้ามาที่โรงเรียน ตอนแรกพี่ไม่รู้เลยว่ามีโครงการนี้ แต่คุณครูแนะแนวท่านบอก พี่ก็สมัครเพราะมันมีคณะอักษรด้วย ใช้ 3 วิชา คือ ไทย สังคม อังกฤษ ของ7วิชาสามัญ น้องๆหมั่นไปดูที่ห้องแนะแนวของโรงเรียนด้วยนะคะ เผื่อจะเจอโครงการดีๆที่ตรงกับคณะที่อยากเรียน

ของปี 57 จากการเอาคะแนนดิบของ 3 วิชาข้างต้นมารวมกัน คะแนนเต็ม 300 พี่ไม่แน่ใจว่าคะแนนต่ำสุดอยู่ที่ 170 นิดๆ หรืออาจจะมากกว่านั้นนิดนึง แต่น่าจะประมาณนี้ แล้วกำหนดการที่ประกาศผลเนี่ย ความจริงตรงกับวันประกาศผลของจุฬาเลย แต่ศิลปากรก็เลื่อนมาประกาศก่อนค่ะ พี่ก็ลังเลว่าเอาไงดีไปสัมภาษณ์ดีไหม แต่เขาประกาศรายชื่อมีสิทธิ์สัมภาษณ์รับเกินจำนวนจริงค่ะ ด้วยความที่พี่คะแนน 221.5 ถ้าพี่ไปสัมภาษณ์ก็จะกันที่คนอื่นที่เขาอยากเรียนจริงๆ  พี่เลยไม่ไปสัมภาษณ์ค่ะ คือไม่ได้เป็นคนดีนะ แต่ขี้เกียจไป55555555 ไม่หรอกๆ คือพี่จะบอกน้องว่า

ในสถานการณ์ที่น้องรู้อยู่แล้วว่าเขาประกาศออกมาเผื่อเกินจำนวน

น้องรู้อยู่แล้วว่าเขาจะคัดอีกทีตอนไปสัมภาษณ์

น้องรู้อยู่แล้วว่าคะแนนน้องมันสูง น้องติดสัมภาษณ์แน่ๆ

แต่น้องก็รู้อยู่แล้วว่าไม่เอาที่นั่นแน่ๆ

น้องรู้อยู่แล้วว่าคะแนนอย่างน้อง ถ้าไปแล้วน้องจะไปกันที่คนอื่นที่เขาอยากเรียนจริงๆ

ถ้าน้องรู้อยู่แล้วแบบนี้

อย่าไปเลยนะคะ

ถึงมันจะเป็นสิทธิ์ของคนคะแนนสูงที่สามารถเข้าเรียนที่ไหนก็ได้

แต่ได้โปรด  ให้โอกาสคนอื่นบ้างเถอะเนาะ อย่าเป็นหมาหวงก้าง หวงในสิ่งที่เราไม่ได้ใช้ประโยชน์เลย รู้จักแบ่งปันบ้าง

พวกกระทู้ต่อว่าคนที่เก่งๆเห็นแก่ตัวกันสิทธิ์คนอื่น จะได้น้อยลง

อ้าวๆ กำๆ ผิดประเด็นหรอ ท่ดๆ 555555555555555555555555555555

ที่ที่ 5 ที่สุดท้ายที่พี่สมัคร และที่สุดท้ายที่ติดด้วยค่ะ ปิดท้ายอย่างสวย ด้วย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 ตอนก่อนสอบสัมภาษณ์ พี่เขาจะให้มานั่งเรียงเป็นแถวตามแพทภาษาที่ยื่นเข้ามา พี่เกร็งๆนิดนึงนะ เพราะไม่รู้จักใครเลย มองไปทางไหนมีแต่เด็กเตรียมค่ะ เด็กเตรียมเต็มไปโหมดดดดดดเบยย พี่ก็นั่งแบบสงบเสงี่ยมเรียบร้อยเจียมเนื้อเจียมตัว มีแต่เด็กผู้หญิงและกระเทยและตุ๊ดค่ะ โถ่วว55555555 แล้วก็ให้เข้าไปนั่งฟังพวกระเบียบการต่างๆ จากนั้นพอตรวจเอกสารอะไรเสร็จก็เข้าไปรอในห้องพักก่อนที่จะเรียกสัมภาษณ์ค่ะ บอกเลยพี่เกร็งมากกกก แต่เพื่อนพี่ที่มันติดปีที่แล้วมันก็บอกว่าสอบสัมภาษณ์ชิวๆ พอร์ทไม่ดู มันเป็นแบบนั้นจริงค่ะ คือพอเข้าไปอาจารย์ก็ถามว่าชื่ออะไร ทำไมอยากเรียนอักษร จะเรียนเอกอะไร โทอะไร( อักษร ฬ เข้าไปปีแรกเป็นเอกรวม ตอนปี 2 ถึงจะมีวิชาเอกวิชาโท) พี่ก็ตอบไปเอกเยอรมันค่ะ แล้วอาจารย์ก็ถามว่าถ้าไม่ได้ทำยังไง คือปกติคำถามพวกนี้ พี่รู้สึกว่ามันเป็นคำถามที่เอาไว้ไซโคกดดันเด็กนะ แต่อาจารย์ท่านถามแบบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ไซโคอ่ะ คือถามแบบ “ถ้าไม่ได้หนูจะทำยังไงหรอคะ รู้จักสาขาอื่นที่อยากเรียนอีกไหม คืออาจารย์ไม่ได้คิดว่าหนูจะไม่ได้นะลูก แต่อาจารย์อยากรู้เฉยๆ” แล้วน้ำเสียงนี่นุ่มมากกกกก น้ำเสียงใจดีมากกกก คือเลอค่า พี่ก็หายเกร็งไปเลยยย อาจารย์แผ่ออร่าใจดี ออร่าอบอุ่นเก่งมากอ่ะ พี่บอกเลย ดูแบบน่าร๊ากกกกกกก ใจดีฟรุ้งฟริ้ง อ่อนโยน นุ่มละมุน 55555 พี่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆนะ คือผ่อนคลายมากๆ แฟ้มพอร์ทอะไรไม่ดูเลยค่ะ ชวนคุยชิวๆ คืออาจารย์ใจดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่โหดเลย คือพี่ไปสัมภาษณ์มาแค่ 3 ที่ แต่ที่จุฬาคือสบายสุดละ ใจดีสุดละ ไม่กดดัน ไม่อะไรเลย มีแต่ความสบายใจ อบอุ่น อ่อนโยนน ใจดีมาก ชิวมากจริงๆ พี่ก็คุยเพลินกะอาจารย์ เพลินจนลืมพอร์ทเลยครัช 555555555555 คือพี่เดินไปเที่ยวสยามกับรุ่นพี่อักษรอ่ะล่ะ ถึงนึกขึ้นได้ว่าลืมพอร์ทไว้ที่ห้องสัมภาษณ์ 5555 ก็รีบวิ่งกลับไปเอาเลย โถวว บางทีสบายไปมันก็ลืมเนื้อลืมตัวลืมข้าวของ 55555 น้องๆก็อย่าลืมอะไรแบบพี่นะคะ ถถถ พอออกมาก็เจอรุ่นพี่และเพื่อนๆที่ขายเสื้อจุฬา ขายรองเท้า น้องจะซื้อวันนั้นเลยหรือจะซื้อทีหลังก็ได้ ตามสะดวกเลยจ้า แล้วพี่ก็ไปลั้ลลา จบค่ะ 555 ไม่มีที่ไหนสัมภาษณ์ชิวได้เท่าที่จุฬาอีกแล้วค่า ปรบมือ แปะๆ

#Moyaki