คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Intro
.......
ณ แหลมที่ยื่นออกไปเป็นหน้าผาริมทะเล...
หมู่ดาวที่กระจายอยู่เต็มฟากฟ้ากำลังจะเข้าสู่ช่วงเวลาที่สมควรนิทราลับไป อาทิตย์แรกส่องมาจากทางทิศตะวันออก สว่างเรืองรองราวกับลำแสงเจิดจรัส ..นกกาเริ่มตื่นตัวและบินออกหากิน แต่ถึงแม้ว่าแสงแห่งดวงอาทิตย์จะช่วยขจัดความรู้สึกเดียวดาย อ้างว้าง และเงียบเหงาของที่แห่งนี้ไปได้ แต่ก็มิอาจลบมันให้หายไปได้อย่างถาวร ด้วยว่า ริมฝั่งทะเล เขตนํ้าตื้นที่ริมฝั่งหน้าผา มีซากเรือมากมายอับปางลงกว่า สิบลำ ไม้ที่ผุพังและเต็มไปด้วยคราบสีกระดำกระด่างทำให้มันดูอึมครึม ชวนขนลุกชันทุกครั้งที่มอง
แต่วันนี้ ท่ามกลางลำเรือที่ดูเก่าเก็บ มีอยู่เพียงลำหนึ่งที่ที่ยังดูใหม่และสะอาดกว่าลำอื่น... แต่สภาพอื่นๆก็แย่พอกัน..
บนเรือลำที่ว่า...
ตึ่ก ! ตึ่ก! ตึ่ก !
เสียงรองเท้าบูทหนักๆยํ่าไปบนไม้กระดานที่ใช้ปูพื้นเรือ ... เด็กหนุ่มอายุราว 17 - 18 ผู้เป็นเจ้าของเสียงเดินนั้น เดินผ่านร่างโชกเลือดไร้วิญญาณของลูกเรือที่นอนเกะกะอยู่แทบเท้าไปอย่างไม่ใยดี ทั้งศีรษะก็ชุ่มโชกไปด้วยนํ้า เส้นผมสีเทาเหลือบนํ้าตาลถูกปล่อยให้ยุ่งไม่เป็นทรง ทิ้งตัวลงมาคลอเคลียไหล่กว้าง คิ้วคมขมวดมุ่นเล็กน้อยขณะกวาดสายตาไปตามรายทาง นัยน์ตาสีแดงเดือดไล่สำรวจไปรอบๆ ใช้เท้าเตะร่างของผู้ที่นอนขวางทางอยู่อย่างไม่ปราณี ทำแม้กระทั่งก้าวผ่านหรือยํ่าลงไปอย่างไม่ให้เกียรติแก่ผู้ตายที่ดูจากลักษณะภายนอกแล้วจะมีความอาวุโสกว่าหลายสิบปีไม่น้อยกว่านั้น ..ก่อนจะหยุดยืนมองร่างของชายหัวขาดซึ่งรอยเฉือนที่คอยังไม่แห้งสนิทเลยด้วยซํ้านอนเอาหลังพิงประตูที่ใช้ลงไปในท้องเรือไว้ ใช้เวลาคิดไม่นานไม่นานก็ตัดสินใจถีบโครมจนประตูไม้หลุดร่วงเข้าไปด้านใน!ก่อนจะก้าวข้ามร่างนั้นลงไปตามบันไดด้านล่าง ยํ่าโครมๆโดยไม่สนว่าอาจจะทำให้บันไดนั้นหักหรือพังเสียหาย!
" ...... "
ห้องด้านล่างเก่าเก็บซะยิ่งกว่ารองเท้าเน่าๆที่ถูกทิ้งให้ร้างมากว่าห้าปี .... แต่ดูท่าผู้มาเยือนจะไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้น ก้อนขนมปังแข็งๆแถมยังขึ้นราก็ถูกทิ้งให้กระจัดกระจายอยู่บนพื้นต่อไป ลูกระเบิด กระสุนปืน ดินปืน มีดดาบ ... สิ่งเหล่านี้ก็ถูกเมินเฉยเช่นเดียวกัน ผลักประตูบานเก่าเข้าไปอีกห้องก็ขมวดคิ้ว นี่ท่าทางจะเป็นห้องของกัปตันเรือ ... แต่สภาพห้องด้านในนี้ต่างกับข้างนอกราวฟ้ากับเหว ในห้องนี้ทุกอย่างสะอาดสะอ้าน พรมหนังเสือโคร่งถูกปูไว้ตั้งแต่หน้าประตู มีขวดไวน์ชั้นเลิศ 4 ขวดตั้งอยู่ข้างๆถ้วยที่ทำจากทองคำบนโต๊ะไม้เนื้อทองแกะสลักลายอย่างประณีต เตียงนอนเดียวที่ตั้งอยู่ถัดไป ปูด้วยฟูกที่ทำจากวัสดุเนื้อดี บุด้วยขนสัตว์สีทองอมนํ้าตาลราคาแพงหูฉี่.. ใต้เตียงมีหีบใบใหญ่อยู่สองใบ เมื่อลากออกมาดูก็พบกับของมีค่าทั้งทองคำแท่ง เงิน ไข่มุก สร้อย และเหรียญทองเต็มหีบ ....
ท่าทางว่าเรือลำนี้จะมีกัปตันที่รํ่ารวยเอาการ... แต่เหตุใดห้องด้านนอกนั้นจึงได้โสโครกซะยิ่งกว่ารังหนู ? ช่างน่าสงสัย
แต่เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้สอดรู้สอดเห็นขนาดต้องไปขบคิดถึงคำตอบนั้น... เพราะสิ่งที่เขาหา...
" สี่ขวดเองเรอะ... "
น่าผิดหวังจริงๆ..
สบถเล็กน้อยพอเป็นพิธีก่อนจะคว้าขวดไวน์ทั้งสี่แล้วเดินกลับออกจากห้องไป
" เป็นยังไง เจออะไรมั่งละ อามี่ "
พอขึ้นมาถึงริมฝั่ง ก็เห็นเงาของชายสองคนซึ่งยืนพิงอยู่หลังเงาของต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งขึ้นอยู่ริมชายป่า คนพูดเป็นชายหนุ่มผมดำสนิท นัยน์ตาแสนซุกซนทว่าไร้ซึ่งแววตาของคนเป็นเฉกเช่นเดียวกับคนอีกคนที่เป็นชายหนุ่มผมทองนัยน์ตาฟ้า ใบหูของเขาชี้เฉียง และมีเขี้ยวที่มุมปากทั้งสองข้าง " ทอม มิเชลลันซ์และเคาท์คริส โฟรเดอรัส "
อามี่ชะงักมือไปนิดหน่อย ก่อนจะเริ่มออกเดินใหม่อีกรอบ...
" ยังไม่ไสหัวลงหลุมไปอีกรึไง ตะวันขึ้นแล้วนี่ " เอ่ยเสียงเรียบขณะเดินชนรางทั้งสองร่างที่ยืนขวางอยู่ไปอย่างเอาเรื่อง
" ขอเพียงแค่มีเงาต้นไม้หรือที่มืดๆ ที่แสงส่องไม่ถึง เราก็อยู่ได้ทุกที่ทุกเวลา ก็น่าจะรู้ๆอยู่ " คริสว่าพลางเคลื่อนย้ายร่างนั้นตามหลังผู้ที่ก้าวฉับๆนำหน้าไปโดยไม่เหลียวหลัง แม้เพียงหางตา
" เฮ้! ไอ้โจรปล้นเรือ " ทอมเอ่ยอีกครั้งด้วยเสียงเซ็งๆ " สุสานมันเริ่มแออัดไปด้วยวิญญาณที่นายฆ่าจนฉันหายใจไม่ออกแล้วนะเฟ้ย "
" แกหายใจได้เรอะ ? " คริสหันไปมองอย่างสงสัย เลยโดนสายตาคมวับค้อนกลับมา " ฉันเปรียบเทียบเฟ้ย " ทอมคำรามตํ่าๆ
" ก็ไสหัวไปเกิดซะสิ " อามี่ว่าพลางทิ้งตัวลงนั่งเอาหลังพิงโคนต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านสาขาผลิดอกออกผลเพราะได้ปุ๋ยอย่างดีที่ฝังอยู่ใกล้ๆโคนต้น เปิดไวน์ที่นำติดตัวมาด้วยแล้วกระดกเข้าปากลิ้มรสชาติของมันให้เต็มที่ สมเป็นของชั้นเลิศที่หาได้ยากยิ่ง...
" ไปได้ง่ายๆก็ดีสิเฟ้ย ไอ้เด็กยมทูตฮาร์ทเน็ต มันบอกว่าฉันตายก่อนหมดอายุขัย ต้องรออีก 9 ปีถึงจะหมด โฮกกกก.... เพื่ออะไรเนี่ย " ทอมคราง " ตื้อเป็นสิบๆรอบมันก็บอกว่าไม่ได้ๆ "
" ทำใจซะเหอะ " คริสตบบ่า " ส่วนฉันต้องรอให้มีคนไปขุดศพแล้วแกะหมุดที่ตรึงอกไว้ออกก่อนถึงจะไปได้ ..... เฮ้อออ... ไอ้คนแถวนี้ก็ใจดำซะ.. ขอให้ช่วยก็ทำเมินตลอด "
นัยน์ตาคมกริบสีฟ้าจางไร้แววเหลือบมองคนที่นั่งสบายๆกระดกขวดไวน์ขวดที่สองไปอย่างไม่สนใจ
" นายนี่ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ก็เอาแต่สร้างปัญหาตลอด ฉันชักทนไม่ไหวแล้วนะเว้ยเฮ้ย " ทอมเชิดหน้าขึ้นแล้วหรี่ตามอง ขณะที่อีกฝ่ายก็ตวัดนัยน์ตาสีแดงเดือดมาจ้องตอบเช่นกัน
" ฉันก็ชักจะทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน... " อามี่เอ่ยเสียงเย็นๆ ก่อนจะตะคอกด้วยเสียงดังลั่น!! " รีบไสหัวไป ก่อนที่ฉันจะทำให้วิญญาณพวกแกแหลกคามือ ไป๊ !!!! "
" หยาบคายและสถุลเหลือเกินนะ " คริสเลิกคิ้ว ขณะที่ทอมกอดอกมอง " เฮ้ คริส.. " ทอมเรียก
" หืม ? "
" ฉันรู้สึกอยากต่อยมันจริงๆเลยว่ะ.. "
" เย็นไว้น่า.. เพื่อชีวิตหลังความตายที่ยังเหลืออยู่ของเรา " คริสเหมือนจะกำลังพยายามห้าม.. " ฉันว่าเราไปดีกว่า... ก่อนที่มันจะเอาขวดในมือนั่นปาหัวเรา " เขามองไปยังอามี่ที่มองหน้าเขากับทอมแล้วกำขวดในมือแน่นจนเริ่มร้าว
" กลัวอะไรวะ เราตายแล้วนะเฟ้ย " ทอมสงสัย แต่คริสส่ายหน้าน้อยๆอย่างระอา " เพราะมันเป็นขวดที่อยู่ในมือเจ้านี่น่ะสิฉันถึงกลัว .. " คริสว่าพลางดันไหล่ทอม " แดดก็เริ่มแรงแล้วด้วย.. ไปเหอะ "
ทอมมองคริสอย่างไม่พอใจนิดๆ สลับกับใบหน้ากวนส้นของไอ้โจรปล้นเรือที่กำลังจ้องหน้าเขาเขม็ง
" เออ.. ไปก็ได้ฟะ " ทอมสบถเล็กน้อยอย่างหงุดหงิด ก่อนที่ทั้งสองจะหายไปในเงาดำๆใต้ร่มไม้ ปล่อยให้เจ้าคนตาขวางนั่งอยู่ที่ใต้ร่มไม้คนเดียวต่อไป..
หลังจากผีสองตนนั้นหายไป... อะไรบางอย่างก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง
คิ้วคมถึงคราวขมวดมันลงอีกครา เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างงงๆเล็กน้อย เมื่อนภากาศเริ่มแปรเปลี่ยน มวลเมฆาสีดำทะมึนก่อตัวแล้วเคลื่อนเข้าบดบังแสงอาทิตย์ยามสาย ต่อมาก็มืดสนิท และ สุดท้าย
ซ่าาา !!!
ฝนไล่ช้างตกลงมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย สาดกระหนํ่าอย่างไร้ปราณีลงสู่เบื้องล่าง
" .... " อามี่นั่งมองสายฝนที่ตกลงมาไม่ขาดสาย แค่เปียกนิดๆหน่อยมันไม่ใช่ปัญหา เพราะผมเขามันก็เปียกชุ่มตลอดเวลาอยู่แล้ว ปัญหาคือ .. ทำไมมันมาตกเอาตอนนี้!!
" ไม่สบอารมณ์เลยเฟ้ย " เจ้าตัวกัดฟันกรอด ปาขวดไวน์ที่ยังเหลืออยู่ทิ้งไป ลุกขึ้นยืนแล้วเริ่มสาวเท้าฝ่าสายฝนออกไปทั้งๆอย่างนั้น มุ่งหน้าไปยังที่ๆแหลมริมทะเล ลัดเลาะไปทางร่องแตกๆของหน้าผาเข้าไปด้านใน ...
บริเวณโซนลึกเข้าไป เป็นเสมือนห้องลับที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างตั้งใจของฝีมือมนุษย์ ใช้เท้าเตะโครงกระดูกผุๆที่นอนขวางอยู่ให้พ้นทาง กวาดสายตามองผ่านความมืดสลัวไปรอบๆห้อง ผนังหินสูงชันถูกกัดกร่อนด้วยสายลมทะเลที่พัดผ่านเข้ามาเยี่ยมเยียนเป็นบางครั้ง กลิ่นเกลือจางๆให้ความรู้สึกประหลาด แต่เขาไม่สนใจ ตัดสินใจปักหลักหลบฝนมันในนี้แหละ ....
" บ้าเอ๊ย ฝนงี่เง่า ทำไมมาตกเอาตอนนี้วะเนี่ยยย "
และขณะที่กำลังตะแคงรองเท้าให้นํ้าที่ขังอยู่ไหลออกอยู่นั่นเอง ก็มีแขกโผล่เข้ามาพร้อมกับเสียงบ่น. อามี่ตวัดสายตาขวับ ก่อนจะขมวดคิ้วคำรามตํ่าๆ
" ฮาร์ทเน็ต "
" ว่าไง อามี่ " เด็กหนุ่มผมยาวยุ่งๆสีทองสว่างโบกมือทักทายอย่างเป็นกันเอง " เซ็งสุดยอด " ฮาร์ทเน็ตบ่นพลางปักสามง่ามลงกับพื้นทรายแล้วถอดผ้าคลุมยมทูตสีดำทมิฬของตนออกสะบัดๆขณะเดียวกันปากก็ยังขยับไม่ยอมหยุด " สภาพของสะสมอันล่าสุดของนายน่าดูชมทีเดียวนะ หึๆ " ริมฝีปากแต้มสีดำขยับยิ้มบางๆ ขณะเหลือบนัยน์ตาสีเงินมอง "เจ้าของของสะสม" คนดังกล่าวที่กำลังบิดนํ้าออกจากเสื้อยืดสีดำพลางทำหน้าบอกบุญไม่รับ
" นายคิดจะอยู่แบบนี้ไปตลอดชีวิตเลยรึไง "
คำพูดเริ่มหัวข้อที่ฟังดูแปลกๆของยมทูตทำให้อามี่ขมวดคิ้ว
" ปล้นฆ่า สูบเลือดเนื้อ .. ฉันเห็นนายทำอย่างงี้มาเป็นปีๆ ไม่เบื่อบ้างรึไง " ฮาร์ทเน็ต อเล็กซานเดอร์ หัวเราะเบาๆ
" แล้วแกล่ะ " อามี่พึมพำ
" ฉันเลือกไม่ได้นี่หว่า ดันเกิดมาแบบนี้ ต้องเป็นยมทูตตลอดชาติ โคตรเซ็ง " ยมทูตผมทองถอนหายใจเฮือก " แต่แกเลือกได้ "
" ยุ่งน่า " นัยน์ตาสีโลหิตมองอีกฝ่ายนิ่งๆ " แกอยากจะพูดอะไรกันแน่ "
ฮาร์ทเน็ตชะงัก ทำตาโตแล้วกระพริบตาถี่ๆพูดด้วยเสียงที่ดูประหลาดใจ " โอ้วว ฉลาดดด รู้ได้ไงเนี่ย ปกติโคตรโง่ "
" แกอยากตายรึไงหา! " อามี่จ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยท่าทางที่พร้อมมีเรื่องได้ทุกเมื่อ
" ฉันชมนะเฟ้ย ฮะๆๆ " ฮาร์ทเน็ตหัวเราะ ทั้งๆที่ฟังยังไงก็หลอกด่าชัดๆ แต่เมื่อเห็นว่าถ้ายังขืนเล่นต่อละก็ กำปั้นหนักๆของอสูรโลหิตคงมาเยือนเป็นแน่จึงหันมาพูดให้ดูเป็นจริงเป็นจังขึ้น
" ไอ้นี่น่ะ... "
" ? " กระดาษแผ่นนึงถูกยื่นมาตรงหน้า มันคือ.. ใบประกาศที่เปียกไปแล้วพอสมควร ตัวอักษรเด่นหราเขียนว่า " การประลอง... Forever War รับสมัครผู้เข้าแข่งขัน "
" นายลงนะ " ยมทูตผมทองฉีกยิ้มกว้างโชว์ฟันซี่แหลมเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ นัยน์ตาสีเงินเป็นประกายวิบวับ
" ..... " อามี่มองหน้ากวนโอ๊ยนั่นสลับกับกระดาษในมือ.. แล้วทำไมแกไม่ลงเองฟะ ?
" ฉันโดนสั่งพักงานชั่วคราวว่ะสงสัยหัวหน้าจะกลัวว่าฉันจะรวยเกินหน้าเกินตา.. ก็เลยว่าง กะว่าจะชวนนายไปเที่ยวเล่นซักหน่อย บริหารตังค์ในธนาคารหน่อย "
มันก็ยังมองไม่เห็นคำตอบอยู่ดีว่าทำไมแกไม่ลง... อามี่ยังสงสัย
" นะ.... นะ... นะ.... น๊าาาา " ฮาร์ทเน็ต อเล็กซานเดอร์ส่งเสียงอ้อน... " ฉันจะเป็นพี่เลี้ยงให้เอง "
Forever War งั้นเหรอ ?
นัยน์ตาสีแดงเดือดทอดมองกระดาษในมือและข้อความในนั้นนิ่ง...
มันจะทำให้ชีวิตแบบนี้ของเขาเปลี่ยนไปรึเปล่านะ...
การต่อสู้งั้นเหรอ...
ตกลงนี่เขาต้องลงให้มันใช่มั๊ยนี่?
ความคิดเห็น