Amazing เพราะรักมันไม่ธรรมดา
เรื่องราวการตามหาเพื่อนหรือความรักของหนูเครียสซ์(คีตา)สาวตัวน้อยที่พูดไม่ได้และไม่ได้ยินเสียงจะเป็นยังไง ฝากติดตามด้วยนะคะ
ผู้เข้าชมรวม
743
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
กลับมาแล้วคะ(มั่ง) จำไรท์เตอร์ชื่อแปลก MoS2upsin คนนี้ได้ไหมเอ่ย
ถ้าจำไม่ได้....เก็บเอาชื่อนี้ไว้ในหัวใจของนักอ่านทั้งหลายด้วย(อ้อนเชียว >///<)
ไม่ได้วางมือลงแป้นพิมพ์นาน พล็อตยังมีอีกเยอะ แต่เรื่องนี้เพิ่งวางพล็อตใหม่
55555 วางทิ้งไว้ เผื่อจะว่างมาแต่ง ยังไงก็ของฝากตัว+นิยายไว้ด้วยนะคะ
..................................................................................................................................
เรื่องบังเอิญมันเป็นแค่ความบังเอิญหรือว่ามันถูกฟ้าลิขิตเอาไว้กันแน่นะ สิ่งมหัศจรรย์ภายในโลกมันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจนไม่อาจจะคาดคิดว่ามันจะเป็นความจริงไปได้ปาฏิหาริย์เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้บ่อยแต่มันไม่ใช่กับฉัน ถ้าปาฏิหาริย์มีจริงฉันอยากจะให้สักวันหนึ่งฉันได้ในสิ่งๆนั้น ฉันอยากจะพูดกับคนทุกคน อยากจะยิ้มและหัวเราะไปกับพวกเขา รับฟังเสียงหัวเราะที่สดใส ไม่ใช่อยู่ในโลกที่ไร้เสียงแบบนี้.....!
เมื่อสามปีก่อนหน้านี้ ในความฝันฉันได้ยินเพียงแค่เสียงนุ่มแผ่วเบาของผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่เห็นหน้าตา เสียงของเขามันทำให้หัวใจที่บอบช้ำได้รับการเยียวยา หัวใจของฉันมันจะเต้นไม่เป็นจังหวะได้ยินเสียงหัวใจเต้นระรัว สองแก้มร้อนผ่าวเลยไปถึงหูทั้งสองข้าง แค่ได้ยินเสียงของเขาฉันก็รู้สึกว่ามันอบอุ่นยินกว่าเสียงไหนๆ ฉันเริ่มไม่สนใจเสียงคนรอบข้าง เพลงไหนๆที่ไพเราะจับใจมันไม่ได้ทำให้หัวใจฉันรู้สึกใดๆ น้ำเสียงของชายที่แอบชอบก็ไม่ได้ทำให้หัวใจฉันหวั่นไหว เสียงหัวเราะหรือเสียงสนทนาใดๆกลายเป็นเป็นเพียงความเงียบในไม่ช้า สองตาของฉันยังคงทำงานปกติ ฉันมองเห็นทุกการเคลื่อนไหวของคนทุกคน แต่ฉันไม่สามารถเอ่ยออกเสียงใดๆมาสื่อสารกับใครได้ แม้แต่พ่อแม่ พวกเขาทั้งสองคนจึงพาฉันไปรักษาถึงสองปี คุณหมอร่างท้วมถึงกับต้องส่ายหน้าเมื่อไม่สามารถรักษาฉันได้อย่างที่หวัง ฉันกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติอีกครั้งในโลกเงียบ การมองเห็นของฉันทำงานได้ดียิ่งขึ้นเมื่อฉันไม่สามารถรับรู้ทางเสียงได้ แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ฉันจะไม่ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะเย้ยที่ไม่น่าฟังของผู้คนนิสัยน่าขยะแขยงชอบเหยียดหยามคนอื่น ฉันมีความสุขนะ แม้จะอยู่ในโลกเงียบแบบนี้ =]
“ยัยหูหนวก! หูหนวกแล้วยังมีหน้ามาเรียนอีกหรอ กลับบ้านไปรักษาไป”
ฉันอาจจะฟังเสียงไม่ได้ แต่มันไม่ได้แปลกว่าฉันจะอ่านปากคนไม่ได้นะ -_-+ ฉันอ่านออก และฉันเข้าใจว่ายัยผู้หญิงสติไม่ได้ นิสัยเสียคนนี้พูดว่าอะไร คุณคิดว่ายัยหูหนวกอย่างฉันจะทำยังไงดีนะ ร้องไห้ขี้มูกโป่งแล้ววิ่งหนีกลับไปฟ้องพ่อแม่ หรือทำหูทวนลมล่ะ.....ไม่ใช่ทั้งสองล่ะ ฉันยื่นมือไปจับมือยัยคนสวยปากเสียแล้วส่งเหยียดยิ้มให้น้อยๆ
“แหนะ ด่าแล้วยังจะมาทำหน้ายิ้มอีก ปล่อยนะยัยใบ้หูหนวก!!”
เธอทำท่ารังเกียจเหมือนฉันเป็นหนอนก็ไม่ปาน แต่ขอโทษนะ คนอย่าง เครียสซ์ (คีตา ) ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้นะจะบอกให้ ขอโทษนะพอดีฉันยอมใครไม่เป็น ฉันจับมือยัยนั้นแล้วลงมือเขียนยุกยิกเป็นคำสั้นๆง่ายๆแต่ได้ใจความยิ่ง
‘น่ารังเกียจ’
ยัยนั้นทำท่ากรี๊ดร้องเชื่อว่าเสียงของยัยนี่ทำร้ายประสาทหูฉันแน่นอน แต่ก็นะบังเอิญฉันหูหนวก =’p ฉันยิ้มส่งท้ายให้ยัยนั้นอีกครั้งก่อนจะเดินหลีกทางไปอีกทางหนึ่งแทน
หลังจากวันนั้นคิดว่าชีวิตในมหาวิทยาลัยของฉันจะราบรื่นไหมล่ะ ขอบอกก่อนเลยนะมันไม่น่าสนุกเลย แต่ฉันแอบสะใจเบาๆนะ >_<// ขอบอกไว้ก่อนเลยฉันไม่ทำอะไรพวกเขาเล่านั้นเลยไม่เลยสักนิด.....อย่างเช่นวันนี้ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรเลย มันเป็นแค่ปฏิกิริยาตอบสนองนิดหน่อย พอดีเจ้าจักรยานคันเก๋าของมหาวิทยาลัยที่ฉันใช้อยู่มันเกิดยางแตกไปโดยไม่รู้สาเหตุ ในเมื่อฉันหาที่มาไม่ได้ฉันก็ไม่คิดจะโทษใคร แต่ความบังเอิญมันไม่มีอยู่จริง ฉันเห็นว่าใครเป็นคนกระทำการย่ำแย่นั้นกับจักรยานฉัน!! และฉันก็ยอมไม่ได้ที่จะเป็นฝ่ายถูกรังแกฝ่ายเดียว ฉันไม่ได้ทำอะไรมาก ก็แค่เอากุญแจมา ล็อกล้อรถมอเตอร์ไซด์ของพวกนั้นซะแถมด้วยการเจาะลมยางนิดหน่อย ไม่แปลกเลยที่นับวันฉันจะยิ่งเจออะไรที่มันดูจะทวีคูณความรุนแรงมากขึ้นไปอีก
และวันต่อมาฉันยังถูกกระหน่ำกลั่นแกล้งไม่เลิก ผู้หญิงมากกว่าสิบคนเดินรายล้อมเข้ามาหาฉัน ฉันถอยหลังจนมันสุดทางไม่สามารถขยับไปทางไหนได้อีก พวกเธอเข้ามาพูดๆจนฉันไม่สามารถอ่านปากของคนทุกคนได้ทัน ฉันไม่รู้ว่าพวกเธอพูดอะไรพวกเธอพูดๆและเริ่มลงไม้ลงมือมาที่ฉัน วินาทีนั้นฉันกลัว กลัวเหลือเกินว่าจะไม่สามารถมีลมหายใจจนกระทั่งเรียนจบ ในขณะที่ฉันกำลังเดินระหว่างทางเดินเพื่อจะไปเข้าเรียน น้ำถูพื้นของแม่บ้านก็สาดมาที่ฉันเต็มๆ คงไม่มีใครคิดว่ามันเป็นความบังเอิญหลอกนะ แต่เพราะฉันยังอยากที่จะไปเรียน ฉันก็เดินตัวเปียกไปเข้าห้องเรียนทั้งแบบนั้นแหละ บนโต๊ะที่ฉันนั่งประจำมีข้อความที่เขียนด้วยเลือดหมูเขียนไว้ว่า
‘พิการแล้วยังอยากจะมาเรียน’
ฉันไม่อยากจะเก็บเอามาคิดเลยจริงๆ แต่คำๆนี้มันเจ็บจนฉันต้องหลั่งน้ำตา ฉันจะไม่โกรธไม่ว่าและตอบโต้คืน เพราะยิ่งตอบโต้มันก็เป็นฉันเองนั้นแหละที่เจ็บปวด ฉันรู้ว่าฉันไม่ผิดที่อยากจะเรียน ฉันเข้าใจดีว่าการเรียนไม่ได้แบ่งคนพิการกับคนปกติทุกคนสามารถเข้าเรียนได้ทุกวัยไม่ว่าจะเด็กหรือชรา สังคมต่างหากล่ะที่เป็นตัวกำหนด สิ่งที่ฉันทำได้คงมีแต่ทำให้ดีที่สุดตั้งใจเรียนเพื่อปริญญา เหตุการณ์ต่างๆทำให้ฉันกลายเป็นคนยอมคนไปโดยปริยาย เพราะฉันไม่มีเพื่อนละมั่งที่ทำให้ฉันรู้สึกโดดเดี่ยวแบบนี้ บางทีถ้าฉันมีเพื่อนสักคนฉันอาจจะรู้สึกอุ่นใจมากกว่านี้ก็เป็นได้....แต่จะมีใครล่ะ ที่จะยอมเป็นเพื่อนกับฉัน ฉันอยากจะวิงวอนต่อพระเจ้า ขอให้ฉันมีเพื่อนเร็วๆ
........................................................................................................................................
อย่าลืมเม้นท์ให้เราบ้างนร้าาาาาาา
ผลงานอื่นๆ ของ // ROSEMOSS // ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ // ROSEMOSS //
ความคิดเห็น