ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : อะไรน่ะ?
ณ กรุงลอนดอนปี 1860 มีร้านเหล้าที่เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งผู้คนในสมัยนั้นนิยมที่นี่เป็นพิเศษ ตอนนั้นเองมีคู่หนุ่มสาวคู่หนึ่งออกมา พวกเขาคิดจะแอบเข้าไปในซอกมุมมืดๆด้วยเหตุผลบางอย่าง จู่ๆก็มีชายคนหนึ่งเดินออกมาจากซอกนั้น หนุ่มสาวร้องตกใจอย่างสุดเสียง แล้วหนุ่มก็ถูกชายคนนั้นจับตัวแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนที่อยู่ในร้านได้ออกมาดูกัน เจ้าของร้านมาถามหญิงสาว แต่เธอกลับจำไม่ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วเธอก็ร้องตะโกนหาผู้เป็นคู่ชีวิตของเธอที่หายไป ชาวเมืองต่างพากันสงสัย เพราะไม่นานมานี้มีผู้คนหายสาปสูญจำนวนมากและญาติพี่น้องของพวกเขาที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็จำไม่ได้เช่นกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันเพราะอะไรกันแน่ และบนหลังคาบ้านคนนึงจะมีชายคนเดิมมองดูข้างล่าง เตรียมชิงเหล่าผู้คนไปอย่างลึกลับ
ทาร์ดิสกระตุกขึ้นลงไปมาแรงสั่นสะเทือนกระจายไปทั่วห้อง มอสเกือบร่วงลงมาด้านล่าง โต้งนอนราบกับพื้น มอสสเซไปมาอย่างเวียนหัว เกมพยายามจับเสา ด็อกเตอร์พยายามจะไปที่แท่นควบคุมแต่ก็ไม่ถึงซะที
มอส : โอย ด็อก เมื่อไหร่มันจะหยุดสั่นไปมาซักทีล่ะ
ด็อกเตอร์ : รอเดี๋ยวสิ ฉันยังเอื้อมไปไม่ถึงเลย พูดจบด็อกเตอร์ก็กระเด็นมาที่แท่นควบคุมแล้วทำการสับสวิตย์จนในที่สุดทาร์ดิสก็ลอยแบบนิ่งๆ
มอสส : ผมขอไปอ๊วกแป๊บนะพี่ มอสสที่เซมานานเวียนหัวจึงขอไปเข้าห้องน้ำ
เกมบอย : เราอยู่ไหนแล้วอ่ะด็อก?
ด็อกเตอร์ : ประมาณช่วงๆ ค.ศ. 2007 น่ะนะ คงย้อนมาผิดเวลาไปหน่อย
มอส : ไหนๆก็ไหนแล้วนะด็อก ลองย้อนไปอดีตบ้างสิ ไปอนาคตบ่อยแล้วอ่ะ
โต้ง : อ่ะ อ่ะ เอาอดีตมากๆเลยนะด็อกเตอร์ โต้งพูดติดอ่าง
ด็อกเตอร์ : จัดให้ เกาะดีๆนะหนูๆทั้งหลาย ด็อกเตอร์กดที่สวิตย์ ทาร์ดิสเริ่มบินเร็วขึ้นและเริ่มหมุนไปมา การย้อนเวลาเริ่มขึ้นแล้ว ดูเหมือนว่าด็อกเตอร์จะกดปุ่มโน้นทีนี้ที (ท่าเป็นคนอื่นจะว่า "มั่วๆ") ป้ายบอกเวลาและวันที่ค่อยๆหมุนถอยกลับไปเรื่อยๆ
โต้ง : ทะ ทะ ทำไมเวลามันถอยหลังอ่ะ
เกมบอย : ถามไม่คิดเลยยย ย้อนเวลาเวลาก็ต้องหมุนกลับจิ
มอสส : แบบนั้นมันก็มึนตายเลยซิคับ ลุง
เกมบอย : เงียบไป ไอ้เคะ เกมล้อมอสสแวบนึงก่อนจะหันมาพูดกับมอสที่กำลังมาช่วยด็อกเตอร์คุมทาร์ดิส
มอส : ผมอยากไปประมาณกรุงลอนดอน ที่ยังใช้รถม้าอยู่อ่ะด็อก มอสเสนอ
ด็อกเตอร์ : อืม... ก็เข้าท่าดี ไปที่นั่นละกัน ด็อกเตอร์ทำสีหน้าเปลี่ยนไป
โต้ง : มะ มะ มีอาไยเหรอ ด็อกเตอร์? โต้งเข้ามาถาม
ด็อกเอตร์ : เปล่าหรอกไม่มีอะไร แค่เผลอนึกถึงผู้ร่วมทางคนเก่าน่ะ ฉันเจอเธอรอบที่ 2 ก็ที่นั่นแหละ ด็อกเอตร์พูดปัดๆ แล้วคุมเครื่องให้ลงจอด เมื่อเปิดประตูออกมา พวกเขาได้เห็น กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ์ ปี 1860 ที่นี่ค่อนข้างเย็นมาอยู่เนื่องจากเข้าฤดูหนาวแล้ว (ควรเรียกฤดูหิมะมากกว่า)
มอส : โอ้แม่เจ้า สุดยอด บรรเจิดจ้า Fantastic!!! (ช่างน่าอัศจรรย์) ดูเหมือนจากที่ทาร์ดิสกระตุกทำให้เครื่องแปลภาษารวนนิดๆ
มอสส : ไว้กลับมาซ่อมแล้วกันครับพี่ พวกเขาเข้าไปเดินในเมืองและหมู่บ้านต่างๆ วัฒนธรรมต่างประเทศและผู้คนที่พวกกเขาไม่เคยสัมผัสนอกตำราเรียนมาก่อน ทำให้ดูน่าตื่นเต้นมาก จนกระทั่ง
??? : เฮ้ย!! กลุ่มคนแปลกหน้า ชาวเมืองเข้ามารุมล้อมพวกเขาและเหมือนจะถืออาวุธครบมือซะด้วย เกมกับโต้งกะจะชักไขควงคลื่นเสียงขึ้นมาป้องกัน แต่ด็อกเตอร์ห้ามไว้เพราะอาจมีผลต่อประวัติศาสตร์ได้ มีชายคนนึงก้าวออกมา ดูเหมือนเขามาในฐานะตัวแทนชาวบ้าน
ตัวแทน : พวกเจ้าเป็นใคร แล้วมาจากไหนกัน ข้าไม่คุ้นหน้าพวกเจ้าเลย ด็อกเตอร์ก้าวออกไปประจัญหน้ากับตัวแทนชาวบ้าน
ด็อกเตอร์ : พวกเราเป็นคณะราชสำนักเดินทางมาเมืองนี้ ด็อกเตอร์อ้าง
เกมบอย : แบบนี้จะไหวหรามอส เล่นแถศักดิ์สูงๆแบบนั้นน่ะ เกมกระซิบ
มอส : ปกติเขาแถได้ทุกครั้งน่ะแหละ แต่คราวนี้ดูชักไม่แน่ใจเท่าไหร่ มอสกังวลนิดๆ เขารู้สึกกลัวมากเพราะหากพลาดขึ้นมาพวกเขาได้เหลือแต่ชื่อแน่แล้ว
ตัวแทน : ไหน ขอดูใบการอนุญาติเข้าเมืองของเจ้าซิ ด็อกเตอร์ยื่นกระเป๋านามบัตรของเขาไป พวกมอสหน้าถอดสีกับการกระทำของด็อกเตอร์ (ยกเว้นมอสแต่เขาก็ยังไม่หายกังวล) ดัวแทนชาวบ้านได้นำมาตรวจดูให้ละเอียดและแน่ชัด
ตัวแทน : สำเนาถูกต้อง ไม่เป็นไรทุกคน คนกลุ่มนี้ไม่ใช่พวกเขา ชาวบ้านกลับไปดำเนินชีวิตตามปกติ แล้วชายคนนั้นก็เดินเข้ามาใกล้ๆ
ตัวแทน : ขออภัยที่ทำให้ตกใจ ผม 'มิเชล ไมเอกเคอร์' เป็นผู้ว่าของเมืองนี้
ด็อกเตอร์ : ยินดีที่ได้รู้จักครับ ด็อกเตอร์ทักทายประมาณแบบคนกันเอง แต่พวกมอสพยาทำตัวให้เคารพต่อเขา
ผู้ว่า มิเชล : โอ้ ไม่ต้องพิถีพิถันขนาดนั้นก็ได้ เฮอะๆคนกันเอง แต่ก็ขอขอบใจจิตใจที่เคารพผู้อาวุโสของพวกเธอนะเด็กๆ มิเชลพาทุกคนไปดูสถานที่ต่างๆ ภายในเมืองแห่งนี้
มอสส : เอ่อออ...ทำไมชาวเมืองบางคนมองพวกเราด้วยสายตาแบบนั้นละคับ มอสสสังเกตเห็นสายตาอันเย้ายวย เอ้ยผิด!!! สายตาอันรังเกียจจากชาวบ้านบางคนมาที่พวกเขา
ผู้วา มิเชล : บางคนเขาไม่ค่อยชอบคนแปลกหน้ามาเข้าเมืองเท่าไหร่หรอก ยิ่งเฉพาะมีข่าวลือของเดี๋ยวนี้ด้วยน่ะ
มอส : ข่าวลือ? อะไรเหรอครับ
ผู้ว่า มิเชล : ช่วงนี่มีคนหายสาปสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ญาติพี่น้องก็ไม่รู้เห็นด้วย เขาลือกันว่า ในกลุ่มคนแปลกหน้าจะมีชายคนนึง แอบแฝงตัวมาด้วย เวลาใครเจอเขาจะจำไม่ได้เลยว่าเขาอยู่ตรงนี้ แล้วเขาชอบลักพาตัวคนไป ส่วนมากจะประมาณพวกวัยรุ่นหรือเด็กกำลังโตน่ะแหละ แต่เอาพวกเขาไปด้วยจุดประสงค์อันใดก็ไม่ทราบ ไม่เรียกค่าไถ่ก็เอามาฆ่าหรือไม่ก็อาจจะเอาไปเป็นทาสก็ได้ ใครจะรู้
โต้ง : ฟังดูน่ากลัวจัง...
ผู้ว่า มิเชล : เฮอะๆ ก็แค่ข่าวลือน่ะอย่าไปเชื่อมันมากเลย เอาล่ะผมคงต้องกลับสภาแล้ว ขอให้พวกคุณโชคดีกันนะ ผมไปล่ะ มิเชลแยกตัวออกไป
มอส : ...หาอะไรน่ะเกม? มอสเห็นเกมมองหันไปหันมาตั้งแต่ตะกี้แล้ว
เกมบอย : ที่คุยกันอยู่ จู่ๆไอ้แว่นเคะก็หายไปเฉยๆเลย
โต้ง : นั่นไงมอสสแว่น โต้งชี้ไปทางมอสสที่ดูเหมือนยืนคุยกับใครอยู่ พอเข้าไปหาเจ้าตัว
เกมบอย : มายืนอะไรอยู่ตรงนี้ แล้วตะกี้นี้คุยกับใครหา?
มอสส : หา อะไรใคร ผมยังไม่ได้คุยกับใครเลย จนพี่เข้ามาคุยเนี่ยแหละคับ มอสสพูด ดูเหมือนเขาจะลืมไปแล้วว่าที่ยืนอยู่ตะกี้นี้ทำอะไร มอสมองมาที่ด็อกเตอร์แล้วด็อกเตอร์ก็หันหน้ามาหาแล้วพวกเขาก็คิดอะไรบางอย่างออก
มอส : สงสัยนายติดเชื้อขี้ลืมของฉันแน่ๆเลย ช่างเถอะ ไปเดินดูรอบๆดีกว่าอาจจะมีอะไรดีๆ มอสพูดตัดบท แล้วพากันเดินเที่ยวต่อ มอสแอบเข้ามากระซิบใกล้ๆด็อกเตอร์ แต่แล้วจู่ๆพอมอสหันไปก็พบกับ
เกม,โต้งและมอสสเดินเข้ามาถาม แต่พวกเขาก็จำไม่ได้ว่าทำอะไรกัน ด็อกเตอร์ได้หยิบเครื่องบันทึกเสียงที่เขาใช้ก่อนหน้านี้ แล้วก็มีเสียงบันทึกจากเหตุการณ์ตะกี้นี้ด้วย
มอส : มันเป็นอย่างที่คิดไว้รึเปล่าด็อก?
ด็อกเตอร์ : ที่เธอคิดมันอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้นะ
มอส : ผมว่ามันเป็นฝีมือของเอ่อ.....จ๊าก!!!
ด็อกเตอร์ : ...เจอกันพอดีเลย
??? : ...
มอส : นี่มัน THE SILENC ไม่ใช่เหรอด็อกเตอร์
ด็อกเตอร์ : โอ้ เธอรู้จักมันด้วย 555+ เอเลี่ยนที่อยู่มาก่อนมนุษย์เกิด พลังอันลึกลับที่มีใครเห็นหน้าเขาแล้วจะหลงลืมอะไรหลายๆอย่างไป แต่นี่ถึงขั้นขโมยมนุษย์ไปนี่ต้องมีเหตุผลอะไรแน่นอน
The silenc : พวกเจ้า...ไม่จำเป็น...ต้องรู้หรอก เสียงที่ออกมาราวกับว่าเป็นเสียงลมที่พยายามสะกดเป็นคำพูด
The silenc : เรา...จะไม่ให้ใคร...มาหยุดยั้ง...พวกเราได้ บันทึกจบอยู่แค่นั้น ไม่มีใครรู้ว่าพวกมันต้องการอะไร แต่ที่แน่ๆในตอนนี้ การเผชิญหน้ากับพวกมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆซะแล้ว
มอส : ผมว่างานนี้ซวยซะแล้วล่ะด็อก
ด็อกเตอร์ : ฉันว่าเรารีบไปกันต่อดีกว่า ตอนนั้นเองมีหนุ่มสาวคู่นึงผ่านมา
สาว : เฮ้พวกนาย รู้เรื่องคนหายตัวไปด้วย พวกด็อกเตอร์หันไปก็พบว่า
มอส & เกมบอย : เกอร์!! O_O O_o
มอสส & โต้ง : พี่/หมวย 0_0 o_O ดูเหมือนจะมีคนหน้าเหมือนเพื่อนพวกเขาในอนาคตอีกแล้ว แต่ด้วยเผอิญมีคนนึงดันเป็นชื่อนี้ ก็เลยถูกสงสัย พวกด็อกเตอร์โดนไล่ล่าจากพวกคนกลุ่มนึงที่สงสับว่าพวกเขาคือคนที่ลักพาตัวเพื่อนๆของเขาไป และตอนนั้นเอง ... ดูเหมือนในกลุ่มของเขาจะเจอพวก silenc เข้า เลยหายตัวไปบางส่วน สาวคนนั้นที่เจอตอนแรกก็หายไปด้วย พวกเขาหยุกล่าแล้วหันมาพูดคุยกันหลังรู้ตัวแล้ว พวกเขาอาสาไปช่วยด้วย พวกด็อกเตอร์บอกสถานที่นัดเจอแล้วจะตามไป พวกด็อกเตอร์ย้อนกลับเข้าไปในทาร์ดิส ด็อกเตอร์เข้าไปในห้องเก็บของเพื่อเอาอะไรบางอย่าง ส่วนพวกมอสก็กำลังจับสัญญาณพวกมันทั้งหมดว่าอยู่ที่ไหนกัน ด็อกเตอร์ออกมาพร้อมกับเครื่องบันทึกเสียงแบบฝังเนื้อ
มอสไม่ค่อยชอบเอาซะเลยที่ต้องใช้มันเพราะนอกจากต้องเจ็บตัวแล้วมันยังดูน่ากลัวนิดๆด้วย
เพราะมันฝังลงตรงมือ หลังจากติดตั้งอุปกรณ์เสร็จ พวกเขาได้เข้าไปยังปราสาทร้างแห่งนึง ลึกเข้าไปเรื่อยๆ ด็อกเตอร์บอกให้แยกทางกันเพราะไม่รู้ต้องเจออะไรบ้าง แต่ละคนก็เจอกับ the silenc กับคำพูดที่ลืมไป
มอส : เจ้า silenc มันแสบจริงๆแฮะ จับตัวไม่ได้เลย
โต้ง : เอ้ยๆ มอสสกับคนที่เหมือนเกอร์หายไปไหนไม่รู้อ่ะ เจอแต่ นี่ โต้งยื่นมือให้ดู มันคือเครื่องบันทึกที่ด็อกเตอร์ฝังเอาไว้ในมือมอสส เมื่อเปิดฟังข้อความที่บันทึกไว้ ก็พบว่ามอสสถูกจับตัวไปเป็นแรงงานทาสแล้ว แผนการของพวกมันคือการทำให้โลกเกิดไฟบรรลัยกรรล์ล้างโลก แต่ไม่รู้มันจะทำได้ยังไง ซักพักด็อกเตอร์เข้ามาและบอกว่ารู้ที่อยู่แล้ว เมื่อมาถึงจุดหมายที่เป็นอุโมงค์ลึกมาก แล้วพวกเขาพบอะไรซักอย่างเป็นเตาปฏิกรณ์ขนาดยักษ์
ด็อกเตอร์ : เข้าใจแล้ว
โต้ง : อะไรหรอด็อกเตอร์
ด็อกเตอร์ : นั่นคือเตารังสีขนาดใหญ่ทีมีรังสีที่รุนแรงมาก หากเอาเข้าใกล้แกนโลกอาจจะเกิดไฟมหาศาลได้
มอส : ใช่แล้ว!! นั่นไงเหตุผล พวกมันนำเจ้าเตานั่นเพื่อที่จะให้แกนโลกร้อนมากจนเกิดเป็นไฟบรรลัยกัณล์ล้างโลก เพื่อสร้างใหม่ของพวกมันขึ้นมา แต่ด้วยจำนวนของพวกมันที่น้อยนิดลงทุกทีจึงได้นำตัวมนุษย์มาใช้แรงงานสร้างมันขึ้นมา
เกมบอย : มันเป็นอย่างนี้นี่เอง...
โต้ง : งั้นจะมัว..มัว รอให้โลกแตกทำไมล่ะ ไปดิ พวกด็อกเตอร์ลงไปด้านล่างเพื่อหยุดยั้งแผนการนี้ ด็อกเตอร์ไปจัดการวางโปรแกรมใหม่ มอสวุ่นวายอยู่กับการทำลายวงจรให้เครื่องหยุดทำงาน โต้งกับมอสสพาคนงานออกไป ส่วนเกมคอยต้านพวก silenc ออกไห่างๆ
ด็อกเตอร์ : บ้าชะมัด เครื่องมันทำงานไปแล้ว มันกำลังจะยิงรังสีแล้ว พวก silenc เข้ามาใกล้เรื่อยๆ
เกมบอย : ด็อกเตอร์!!! เร็วหน่อยจิ ผมจะต้านไม่ไหวแล้วนะ
ด็อกเตอร์ : ไม่มีทางอื่นแล้ว แก้ระบบไม่ได้ เครื่องก็ไม่ยอมหยุดด้วย
มอส : ถ้ามัน 'เมลดาวน์' ได้ ได้ล่ะก็คงจะดีแต่นี้มันเครื่องจักรใกล้เแกนโลกด้วยอ่ะ คำพูดของมอสทำให้ด็อกเตอร์ฉุดคิดขึ้นมาได้
ด็อกเตอร์ : อ่าฮ่า ใช่เลย ทำให้เครื่องเมลดาวน์กับรังสีที่มากจำเป็นจะให้เครื่องระเบิดเป็นรัศมีวงกว้างทำให้ไม่ถูกแกนโลกด้วย ความคิดดีเยี่ยม มอสทำลายวงจรซะ มันจำทำให้เครื่องบรรจุรังสีเกินพิกัด มอสจัดการทำลายวงจรรังสีจำนวนมาก ด็อกเตอร์วางโปรแกรมอรกนิดหน่อยแล้วพาทุกคนออกไป ทิ้งไว้แต่เสียงโหยหวนของพวก silenc
มอส : แล้วจะเอายังไงต่อล่ะด็อกเตอร์ ลึกอย่างนี้หนีออกไม่ทันแน่ มอสสวิ่งมาบอกหลังจากอพยบคนออกไปหมดแล้ว
ด็อกเตอร์ : ไม่เป็นไรหรอก ขึ้นมาบนแผ่นเหล็กนี่ เดี๋ยวจะได้เจอโชว์สนุกๆแล้ว เตาปฏิกรณ์ได้ระเบิดด้วยแรงระเบิดทำให้แผ่นเหล็กที่พวกด็อกเตอร์นั่งปลิวขึ้นไป
ด็อกเตอร์ : GERONIMO!!!! แรงระเบิดพุ่งออกมาจากหลุม ชาวเมืองแตกตื่นกันเล็กน้อย แล้วก็มีอะไรตกลงมาดัง ปึง!! พวกด็อกเตอร์น่ะเอง แต่อยู่ในสภาพเกรียมจากขี้เถ้าที่ปลิวมาด้วย
ด็อกเตอร์ : โอเค ดูเหมือนมันไม่ใช่แผนดีเท่าไหร่นะ ด็อกเตอร์พูดแบบปนขำ
มอส : แค่กๆ มากเลยแหละด็อก แค่กๆ มอสพูดไปไอไป พร้อมด้วยเสียงหัวเราะของชาวเมือง พวกเขาได้จัดปาร์ตี้ฉลองกับโลกที่สงบสุขในที่สุด พวกเขาได้เล่ากล่าวขานพวกเขาที่ช่วยโลกกัน เหล่าชาวเมืองต่างพากันขอบคุณพวกเขา ก่อนทีพวกเขาจะหายไปในตู้สีฟ้าแล้วค่อยๆจางหายไป
มอสส : ช่างเป็นวันที่ดีมากๆเลยล่ะด็อกเตอร์
ด็อกเตอร์ : อืม ก็จิงน่ะแหละ ก็มันใกล้คริสต์มาสแล้วนี่นา
มอส : พูดไปแล้วผมชักอยากกลับไปฉลองคริสมาสบนโลกเดิมแล้วซิ
ด็อกเตอร์ : จริงซินะ เดินทางมานานพอสมควรและ กลับเวลาเดิมไปฉลองกับคนอื่นเขาบ้างแล้วล่ะนะ
โต้ง : ไปกันหมดนี่เลยยย ด็อกเตอร์เดินเครื่องเดินทางข้ามกาลเวลาต่อไป
ทาร์ดิสกระตุกขึ้นลงไปมาแรงสั่นสะเทือนกระจายไปทั่วห้อง มอสเกือบร่วงลงมาด้านล่าง โต้งนอนราบกับพื้น มอสสเซไปมาอย่างเวียนหัว เกมพยายามจับเสา ด็อกเตอร์พยายามจะไปที่แท่นควบคุมแต่ก็ไม่ถึงซะที
มอส : โอย ด็อก เมื่อไหร่มันจะหยุดสั่นไปมาซักทีล่ะ
ด็อกเตอร์ : รอเดี๋ยวสิ ฉันยังเอื้อมไปไม่ถึงเลย พูดจบด็อกเตอร์ก็กระเด็นมาที่แท่นควบคุมแล้วทำการสับสวิตย์จนในที่สุดทาร์ดิสก็ลอยแบบนิ่งๆ
มอสส : ผมขอไปอ๊วกแป๊บนะพี่ มอสสที่เซมานานเวียนหัวจึงขอไปเข้าห้องน้ำ
เกมบอย : เราอยู่ไหนแล้วอ่ะด็อก?
ด็อกเตอร์ : ประมาณช่วงๆ ค.ศ. 2007 น่ะนะ คงย้อนมาผิดเวลาไปหน่อย
มอส : ไหนๆก็ไหนแล้วนะด็อก ลองย้อนไปอดีตบ้างสิ ไปอนาคตบ่อยแล้วอ่ะ
โต้ง : อ่ะ อ่ะ เอาอดีตมากๆเลยนะด็อกเตอร์ โต้งพูดติดอ่าง
ด็อกเตอร์ : จัดให้ เกาะดีๆนะหนูๆทั้งหลาย ด็อกเตอร์กดที่สวิตย์ ทาร์ดิสเริ่มบินเร็วขึ้นและเริ่มหมุนไปมา การย้อนเวลาเริ่มขึ้นแล้ว ดูเหมือนว่าด็อกเตอร์จะกดปุ่มโน้นทีนี้ที (ท่าเป็นคนอื่นจะว่า "มั่วๆ") ป้ายบอกเวลาและวันที่ค่อยๆหมุนถอยกลับไปเรื่อยๆ
โต้ง : ทะ ทะ ทำไมเวลามันถอยหลังอ่ะ
เกมบอย : ถามไม่คิดเลยยย ย้อนเวลาเวลาก็ต้องหมุนกลับจิ
มอสส : แบบนั้นมันก็มึนตายเลยซิคับ ลุง
เกมบอย : เงียบไป ไอ้เคะ เกมล้อมอสสแวบนึงก่อนจะหันมาพูดกับมอสที่กำลังมาช่วยด็อกเตอร์คุมทาร์ดิส
มอส : ผมอยากไปประมาณกรุงลอนดอน ที่ยังใช้รถม้าอยู่อ่ะด็อก มอสเสนอ
ด็อกเตอร์ : อืม... ก็เข้าท่าดี ไปที่นั่นละกัน ด็อกเตอร์ทำสีหน้าเปลี่ยนไป
โต้ง : มะ มะ มีอาไยเหรอ ด็อกเตอร์? โต้งเข้ามาถาม
ด็อกเอตร์ : เปล่าหรอกไม่มีอะไร แค่เผลอนึกถึงผู้ร่วมทางคนเก่าน่ะ ฉันเจอเธอรอบที่ 2 ก็ที่นั่นแหละ ด็อกเอตร์พูดปัดๆ แล้วคุมเครื่องให้ลงจอด เมื่อเปิดประตูออกมา พวกเขาได้เห็น กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ์ ปี 1860 ที่นี่ค่อนข้างเย็นมาอยู่เนื่องจากเข้าฤดูหนาวแล้ว (ควรเรียกฤดูหิมะมากกว่า)
มอส : โอ้แม่เจ้า สุดยอด บรรเจิดจ้า Fantastic!!! (ช่างน่าอัศจรรย์) ดูเหมือนจากที่ทาร์ดิสกระตุกทำให้เครื่องแปลภาษารวนนิดๆ
มอสส : ไว้กลับมาซ่อมแล้วกันครับพี่ พวกเขาเข้าไปเดินในเมืองและหมู่บ้านต่างๆ วัฒนธรรมต่างประเทศและผู้คนที่พวกกเขาไม่เคยสัมผัสนอกตำราเรียนมาก่อน ทำให้ดูน่าตื่นเต้นมาก จนกระทั่ง
??? : เฮ้ย!! กลุ่มคนแปลกหน้า ชาวเมืองเข้ามารุมล้อมพวกเขาและเหมือนจะถืออาวุธครบมือซะด้วย เกมกับโต้งกะจะชักไขควงคลื่นเสียงขึ้นมาป้องกัน แต่ด็อกเตอร์ห้ามไว้เพราะอาจมีผลต่อประวัติศาสตร์ได้ มีชายคนนึงก้าวออกมา ดูเหมือนเขามาในฐานะตัวแทนชาวบ้าน
ตัวแทน : พวกเจ้าเป็นใคร แล้วมาจากไหนกัน ข้าไม่คุ้นหน้าพวกเจ้าเลย ด็อกเตอร์ก้าวออกไปประจัญหน้ากับตัวแทนชาวบ้าน
ด็อกเตอร์ : พวกเราเป็นคณะราชสำนักเดินทางมาเมืองนี้ ด็อกเตอร์อ้าง
เกมบอย : แบบนี้จะไหวหรามอส เล่นแถศักดิ์สูงๆแบบนั้นน่ะ เกมกระซิบ
มอส : ปกติเขาแถได้ทุกครั้งน่ะแหละ แต่คราวนี้ดูชักไม่แน่ใจเท่าไหร่ มอสกังวลนิดๆ เขารู้สึกกลัวมากเพราะหากพลาดขึ้นมาพวกเขาได้เหลือแต่ชื่อแน่แล้ว
ตัวแทน : ไหน ขอดูใบการอนุญาติเข้าเมืองของเจ้าซิ ด็อกเตอร์ยื่นกระเป๋านามบัตรของเขาไป พวกมอสหน้าถอดสีกับการกระทำของด็อกเตอร์ (ยกเว้นมอสแต่เขาก็ยังไม่หายกังวล) ดัวแทนชาวบ้านได้นำมาตรวจดูให้ละเอียดและแน่ชัด
ตัวแทน : สำเนาถูกต้อง ไม่เป็นไรทุกคน คนกลุ่มนี้ไม่ใช่พวกเขา ชาวบ้านกลับไปดำเนินชีวิตตามปกติ แล้วชายคนนั้นก็เดินเข้ามาใกล้ๆ
ตัวแทน : ขออภัยที่ทำให้ตกใจ ผม 'มิเชล ไมเอกเคอร์' เป็นผู้ว่าของเมืองนี้
ด็อกเตอร์ : ยินดีที่ได้รู้จักครับ ด็อกเตอร์ทักทายประมาณแบบคนกันเอง แต่พวกมอสพยาทำตัวให้เคารพต่อเขา
ผู้ว่า มิเชล : โอ้ ไม่ต้องพิถีพิถันขนาดนั้นก็ได้ เฮอะๆคนกันเอง แต่ก็ขอขอบใจจิตใจที่เคารพผู้อาวุโสของพวกเธอนะเด็กๆ มิเชลพาทุกคนไปดูสถานที่ต่างๆ ภายในเมืองแห่งนี้
มอสส : เอ่อออ...ทำไมชาวเมืองบางคนมองพวกเราด้วยสายตาแบบนั้นละคับ มอสสสังเกตเห็นสายตาอันเย้ายวย เอ้ยผิด!!! สายตาอันรังเกียจจากชาวบ้านบางคนมาที่พวกเขา
ผู้วา มิเชล : บางคนเขาไม่ค่อยชอบคนแปลกหน้ามาเข้าเมืองเท่าไหร่หรอก ยิ่งเฉพาะมีข่าวลือของเดี๋ยวนี้ด้วยน่ะ
มอส : ข่าวลือ? อะไรเหรอครับ
ผู้ว่า มิเชล : ช่วงนี่มีคนหายสาปสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ญาติพี่น้องก็ไม่รู้เห็นด้วย เขาลือกันว่า ในกลุ่มคนแปลกหน้าจะมีชายคนนึง แอบแฝงตัวมาด้วย เวลาใครเจอเขาจะจำไม่ได้เลยว่าเขาอยู่ตรงนี้ แล้วเขาชอบลักพาตัวคนไป ส่วนมากจะประมาณพวกวัยรุ่นหรือเด็กกำลังโตน่ะแหละ แต่เอาพวกเขาไปด้วยจุดประสงค์อันใดก็ไม่ทราบ ไม่เรียกค่าไถ่ก็เอามาฆ่าหรือไม่ก็อาจจะเอาไปเป็นทาสก็ได้ ใครจะรู้
โต้ง : ฟังดูน่ากลัวจัง...
ผู้ว่า มิเชล : เฮอะๆ ก็แค่ข่าวลือน่ะอย่าไปเชื่อมันมากเลย เอาล่ะผมคงต้องกลับสภาแล้ว ขอให้พวกคุณโชคดีกันนะ ผมไปล่ะ มิเชลแยกตัวออกไป
มอส : ...หาอะไรน่ะเกม? มอสเห็นเกมมองหันไปหันมาตั้งแต่ตะกี้แล้ว
เกมบอย : ที่คุยกันอยู่ จู่ๆไอ้แว่นเคะก็หายไปเฉยๆเลย
โต้ง : นั่นไงมอสสแว่น โต้งชี้ไปทางมอสสที่ดูเหมือนยืนคุยกับใครอยู่ พอเข้าไปหาเจ้าตัว
เกมบอย : มายืนอะไรอยู่ตรงนี้ แล้วตะกี้นี้คุยกับใครหา?
มอสส : หา อะไรใคร ผมยังไม่ได้คุยกับใครเลย จนพี่เข้ามาคุยเนี่ยแหละคับ มอสสพูด ดูเหมือนเขาจะลืมไปแล้วว่าที่ยืนอยู่ตะกี้นี้ทำอะไร มอสมองมาที่ด็อกเตอร์แล้วด็อกเตอร์ก็หันหน้ามาหาแล้วพวกเขาก็คิดอะไรบางอย่างออก
มอส : สงสัยนายติดเชื้อขี้ลืมของฉันแน่ๆเลย ช่างเถอะ ไปเดินดูรอบๆดีกว่าอาจจะมีอะไรดีๆ มอสพูดตัดบท แล้วพากันเดินเที่ยวต่อ มอสแอบเข้ามากระซิบใกล้ๆด็อกเตอร์ แต่แล้วจู่ๆพอมอสหันไปก็พบกับ
เกม,โต้งและมอสสเดินเข้ามาถาม แต่พวกเขาก็จำไม่ได้ว่าทำอะไรกัน ด็อกเตอร์ได้หยิบเครื่องบันทึกเสียงที่เขาใช้ก่อนหน้านี้ แล้วก็มีเสียงบันทึกจากเหตุการณ์ตะกี้นี้ด้วย
มอส : มันเป็นอย่างที่คิดไว้รึเปล่าด็อก?
ด็อกเตอร์ : ที่เธอคิดมันอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้นะ
มอส : ผมว่ามันเป็นฝีมือของเอ่อ.....จ๊าก!!!
ด็อกเตอร์ : ...เจอกันพอดีเลย
??? : ...
มอส : นี่มัน THE SILENC ไม่ใช่เหรอด็อกเตอร์
ด็อกเตอร์ : โอ้ เธอรู้จักมันด้วย 555+ เอเลี่ยนที่อยู่มาก่อนมนุษย์เกิด พลังอันลึกลับที่มีใครเห็นหน้าเขาแล้วจะหลงลืมอะไรหลายๆอย่างไป แต่นี่ถึงขั้นขโมยมนุษย์ไปนี่ต้องมีเหตุผลอะไรแน่นอน
The silenc : พวกเจ้า...ไม่จำเป็น...ต้องรู้หรอก เสียงที่ออกมาราวกับว่าเป็นเสียงลมที่พยายามสะกดเป็นคำพูด
The silenc : เรา...จะไม่ให้ใคร...มาหยุดยั้ง...พวกเราได้ บันทึกจบอยู่แค่นั้น ไม่มีใครรู้ว่าพวกมันต้องการอะไร แต่ที่แน่ๆในตอนนี้ การเผชิญหน้ากับพวกมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆซะแล้ว
มอส : ผมว่างานนี้ซวยซะแล้วล่ะด็อก
ด็อกเตอร์ : ฉันว่าเรารีบไปกันต่อดีกว่า ตอนนั้นเองมีหนุ่มสาวคู่นึงผ่านมา
สาว : เฮ้พวกนาย รู้เรื่องคนหายตัวไปด้วย พวกด็อกเตอร์หันไปก็พบว่า
มอส & เกมบอย : เกอร์!! O_O O_o
มอสส & โต้ง : พี่/หมวย 0_0 o_O ดูเหมือนจะมีคนหน้าเหมือนเพื่อนพวกเขาในอนาคตอีกแล้ว แต่ด้วยเผอิญมีคนนึงดันเป็นชื่อนี้ ก็เลยถูกสงสัย พวกด็อกเตอร์โดนไล่ล่าจากพวกคนกลุ่มนึงที่สงสับว่าพวกเขาคือคนที่ลักพาตัวเพื่อนๆของเขาไป และตอนนั้นเอง ... ดูเหมือนในกลุ่มของเขาจะเจอพวก silenc เข้า เลยหายตัวไปบางส่วน สาวคนนั้นที่เจอตอนแรกก็หายไปด้วย พวกเขาหยุกล่าแล้วหันมาพูดคุยกันหลังรู้ตัวแล้ว พวกเขาอาสาไปช่วยด้วย พวกด็อกเตอร์บอกสถานที่นัดเจอแล้วจะตามไป พวกด็อกเตอร์ย้อนกลับเข้าไปในทาร์ดิส ด็อกเตอร์เข้าไปในห้องเก็บของเพื่อเอาอะไรบางอย่าง ส่วนพวกมอสก็กำลังจับสัญญาณพวกมันทั้งหมดว่าอยู่ที่ไหนกัน ด็อกเตอร์ออกมาพร้อมกับเครื่องบันทึกเสียงแบบฝังเนื้อ
มอสไม่ค่อยชอบเอาซะเลยที่ต้องใช้มันเพราะนอกจากต้องเจ็บตัวแล้วมันยังดูน่ากลัวนิดๆด้วย
เพราะมันฝังลงตรงมือ หลังจากติดตั้งอุปกรณ์เสร็จ พวกเขาได้เข้าไปยังปราสาทร้างแห่งนึง ลึกเข้าไปเรื่อยๆ ด็อกเตอร์บอกให้แยกทางกันเพราะไม่รู้ต้องเจออะไรบ้าง แต่ละคนก็เจอกับ the silenc กับคำพูดที่ลืมไป
มอส : เจ้า silenc มันแสบจริงๆแฮะ จับตัวไม่ได้เลย
โต้ง : เอ้ยๆ มอสสกับคนที่เหมือนเกอร์หายไปไหนไม่รู้อ่ะ เจอแต่ นี่ โต้งยื่นมือให้ดู มันคือเครื่องบันทึกที่ด็อกเตอร์ฝังเอาไว้ในมือมอสส เมื่อเปิดฟังข้อความที่บันทึกไว้ ก็พบว่ามอสสถูกจับตัวไปเป็นแรงงานทาสแล้ว แผนการของพวกมันคือการทำให้โลกเกิดไฟบรรลัยกรรล์ล้างโลก แต่ไม่รู้มันจะทำได้ยังไง ซักพักด็อกเตอร์เข้ามาและบอกว่ารู้ที่อยู่แล้ว เมื่อมาถึงจุดหมายที่เป็นอุโมงค์ลึกมาก แล้วพวกเขาพบอะไรซักอย่างเป็นเตาปฏิกรณ์ขนาดยักษ์
ด็อกเตอร์ : เข้าใจแล้ว
โต้ง : อะไรหรอด็อกเตอร์
ด็อกเตอร์ : นั่นคือเตารังสีขนาดใหญ่ทีมีรังสีที่รุนแรงมาก หากเอาเข้าใกล้แกนโลกอาจจะเกิดไฟมหาศาลได้
มอส : ใช่แล้ว!! นั่นไงเหตุผล พวกมันนำเจ้าเตานั่นเพื่อที่จะให้แกนโลกร้อนมากจนเกิดเป็นไฟบรรลัยกัณล์ล้างโลก เพื่อสร้างใหม่ของพวกมันขึ้นมา แต่ด้วยจำนวนของพวกมันที่น้อยนิดลงทุกทีจึงได้นำตัวมนุษย์มาใช้แรงงานสร้างมันขึ้นมา
เกมบอย : มันเป็นอย่างนี้นี่เอง...
โต้ง : งั้นจะมัว..มัว รอให้โลกแตกทำไมล่ะ ไปดิ พวกด็อกเตอร์ลงไปด้านล่างเพื่อหยุดยั้งแผนการนี้ ด็อกเตอร์ไปจัดการวางโปรแกรมใหม่ มอสวุ่นวายอยู่กับการทำลายวงจรให้เครื่องหยุดทำงาน โต้งกับมอสสพาคนงานออกไป ส่วนเกมคอยต้านพวก silenc ออกไห่างๆ
ด็อกเตอร์ : บ้าชะมัด เครื่องมันทำงานไปแล้ว มันกำลังจะยิงรังสีแล้ว พวก silenc เข้ามาใกล้เรื่อยๆ
เกมบอย : ด็อกเตอร์!!! เร็วหน่อยจิ ผมจะต้านไม่ไหวแล้วนะ
ด็อกเตอร์ : ไม่มีทางอื่นแล้ว แก้ระบบไม่ได้ เครื่องก็ไม่ยอมหยุดด้วย
มอส : ถ้ามัน 'เมลดาวน์' ได้ ได้ล่ะก็คงจะดีแต่นี้มันเครื่องจักรใกล้เแกนโลกด้วยอ่ะ คำพูดของมอสทำให้ด็อกเตอร์ฉุดคิดขึ้นมาได้
ด็อกเตอร์ : อ่าฮ่า ใช่เลย ทำให้เครื่องเมลดาวน์กับรังสีที่มากจำเป็นจะให้เครื่องระเบิดเป็นรัศมีวงกว้างทำให้ไม่ถูกแกนโลกด้วย ความคิดดีเยี่ยม มอสทำลายวงจรซะ มันจำทำให้เครื่องบรรจุรังสีเกินพิกัด มอสจัดการทำลายวงจรรังสีจำนวนมาก ด็อกเตอร์วางโปรแกรมอรกนิดหน่อยแล้วพาทุกคนออกไป ทิ้งไว้แต่เสียงโหยหวนของพวก silenc
มอส : แล้วจะเอายังไงต่อล่ะด็อกเตอร์ ลึกอย่างนี้หนีออกไม่ทันแน่ มอสสวิ่งมาบอกหลังจากอพยบคนออกไปหมดแล้ว
ด็อกเตอร์ : ไม่เป็นไรหรอก ขึ้นมาบนแผ่นเหล็กนี่ เดี๋ยวจะได้เจอโชว์สนุกๆแล้ว เตาปฏิกรณ์ได้ระเบิดด้วยแรงระเบิดทำให้แผ่นเหล็กที่พวกด็อกเตอร์นั่งปลิวขึ้นไป
ด็อกเตอร์ : GERONIMO!!!! แรงระเบิดพุ่งออกมาจากหลุม ชาวเมืองแตกตื่นกันเล็กน้อย แล้วก็มีอะไรตกลงมาดัง ปึง!! พวกด็อกเตอร์น่ะเอง แต่อยู่ในสภาพเกรียมจากขี้เถ้าที่ปลิวมาด้วย
ด็อกเตอร์ : โอเค ดูเหมือนมันไม่ใช่แผนดีเท่าไหร่นะ ด็อกเตอร์พูดแบบปนขำ
มอส : แค่กๆ มากเลยแหละด็อก แค่กๆ มอสพูดไปไอไป พร้อมด้วยเสียงหัวเราะของชาวเมือง พวกเขาได้จัดปาร์ตี้ฉลองกับโลกที่สงบสุขในที่สุด พวกเขาได้เล่ากล่าวขานพวกเขาที่ช่วยโลกกัน เหล่าชาวเมืองต่างพากันขอบคุณพวกเขา ก่อนทีพวกเขาจะหายไปในตู้สีฟ้าแล้วค่อยๆจางหายไป
มอสส : ช่างเป็นวันที่ดีมากๆเลยล่ะด็อกเตอร์
ด็อกเตอร์ : อืม ก็จิงน่ะแหละ ก็มันใกล้คริสต์มาสแล้วนี่นา
มอส : พูดไปแล้วผมชักอยากกลับไปฉลองคริสมาสบนโลกเดิมแล้วซิ
ด็อกเตอร์ : จริงซินะ เดินทางมานานพอสมควรและ กลับเวลาเดิมไปฉลองกับคนอื่นเขาบ้างแล้วล่ะนะ
โต้ง : ไปกันหมดนี่เลยยย ด็อกเตอร์เดินเครื่องเดินทางข้ามกาลเวลาต่อไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น