ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ลิลิตตะเลงพ่าย
ตอนที่ ๑ เริ่มต้นบทกวี
ศรีสวัสดิเดชะ ชนะราชอรินทร์ ยินพระยศเกริกเกรียง เพียงพกแผ่นฟากฟ้าหล้าล่มเลื่องชัยเชวง เกรงพระเกียรติระย่อ ฝ่อใจห้าวบมิหาญ ลาญใจแกล้วบมิกล้าบค้าอาตม์ออกรงค์ บคงอาตม์ออกฤทธิ์ ท้าวทั่วทิศทั่วเทศ ไท้ทุกเขตทุกด้าวน้าวมกุฎมานบ น้อมพิภพมานอบ มอบบัวบาทวิบุล อดุลยานุภาพ ปราบดัสกรแกลนกลัวหัวหั่นหายกายกลาด ดาษเต็มท่งเต็มดอน พม่ามอญพ่ายหนี ศรีอโยธยารมเยศ พิเศษสุขบำเทิงสำเริงราชสถาน สำราญราชสถิต พิพิธโภคสมบัติ พิพัฒน์โภคสมบูรณ์ พูนพิภพดับเข็ญเย็นพิภพดับทุกข์ สนุกสบสีมา ส่ำเสนานอบเกล้า ส่ำสนมเฝ้าฝ่ายใน ส่ำพลไกรเกริกหาญส่ำพลสารสินธพ สบศาสศรเพลิง เถลิงพระเกียรติฟุ้งฟ้า ลือตรลบแหล่งหล้าโลกล้วนสดุดี
๏บุญเจ้าจอมภพพื้น | แผ่นสยาม |
แสยงพระยศยินขาม | ขาดแกล้ว |
พระฤทธิ์ดังฤทธิ์ราม | รอนราพณ์ |
แลฤๅ ราญอริราชแผ้ว | แผกแพ้ทุกภาย |
๏ไพรินทรนาศเพี้ยง | พลมาร |
พระดั่งองค์อวตาร | แต่กี้ |
แสนเศิกห่อนหาญราญ | รอฤทธิ์ พระฤๅ |
ดาลตระดกเดชลี้ | ประหลาดเหล้าแหล่งสถาน |
๏เสร็จเสวยศวรรเยศอ้าง | ไอยศูรย์ สรวงฤๅ |
เย็นพระยศปูนเดือน | เด่นฟ้า |
เกษมสุขส่องสมบูรณ์ | บานทวีป |
สว่างทุกข์ทุกธเรศหล้า | แหล่งล้วนสรรเสริญ ฯลฯ |
ตอนที่ ๒ เหตุการณ์ทางเมืองมอญ
ร่าย ๕/๖ฝ่ายพระนครรามัญ ขัณฑ์เขตด้าวอัสดง หงสาวดีบุเรศรั่วรู้เหตุบริหึง แห่งเอิกอึงกิดาการ ฝ่ายพสุธารออกทิศ ว่าอดิศวรกษัตรามหาธรรมราชนรินทร์ เจ้าปถพินทร์ผ่านทวีป ดับชนมชีพพิราลัย เอารสไทนฤเบศนเรศวรเสวยศวรรยา แจ้งกิจจาตระหนัก จึ่งพระปิ่นปักธาษตรี บุรีรัตนหงสาธก็บัญชาพิภาษ ด้วยมวลมาตยากร ว่านครรามินทร์ ผลัดแผ่นดินเปลี่ยนราชเยียววิวาทชิงฉัตร เพื่อกษัตริย์สองสู้ บร้างรู้เหตุผล ควรยาตรพลไปเยือนเตือนประยุทธ์เอาเปรียบ แม้นไป่เรียบเป็นที โจมจู่ยี่ย่ำภพ เสนีนบนึกชอบระบอบเบื้องบรรหาร ธก็เอื้อนสารเสาวพจน์ แต่เอารสยศเยศ องค์อิศเรศอุปราชให้ยกยาตราทัพ กับนครเชียงใหม่ เป็นพยุหใหญ่ห้าแสน ไปเหยียบแดนปราจินบุตรท่านยินถ้อถ้อย ข้อยผู้ข้าบาทบงสุ์ โหรควรคงทำนาย ทายพระเคราะห์ถึงฆาตฟังสารราชเอารส ธก็ผะชดบัญชา เจ้าอยุธยามีบุตร ล้วนยงยุทธ์เชี่ยวชาญหาญหักศึกบมิย่อ ต่อสู้ศึกบมิหยอน ไปพักวอนว่าใช้ ให้ธหวงธห้ามแม้นเจ้าคร้ามเคราะห์กาจ จงอย่ายาตรยุทธนา เอาพัสตราสตรี สวมอินทรีย์สร่างเคราะห์ธตรัสเยาะเยี่ยงขลาด องค์อุปราชยินสาร แสนอัประมาณมาตย์มวล นวลพระพักตร์ผ่องเผือดเลือดสลดหมดคล้ำ ช้ำกมลหมองมัว กลัวพระอาชญายอบ นอบประณตบทมูล ทูลลาไท้ลีลาศธก็ประกาศเกณฑ์พล บอกยุบลบ่มิหึง ถึงเชียงใหม่ตระบัด เร่งแจงจัดจตุรงค์ ลงมาสู่หงสาแล้วธให้หาเมืองออก บอกทุกแดนทุกด้าว บอกทุกท้าวทุกเทศ ทั่วทุกเขตทุกขอบรอบสีมามณฑล ทราบนุสนธิ์ทุกแห่ง ต่างตกแต่งแสะสาร แสนยาหาญมหิมา คลาบรรลุเวียงราชแลสระพราศสระพรั่ง คั่งคับนับเหลือตรา ต่างภาษาต่างเพศ พิเศษสรรพแต่งตนข้าศึกยลแสยงฤทธิ์ บพิตรธเทียบทัพหลวง โดยกระทรวงพยุบาตร จักยาตราตรู่เช้าเสด็จเข้านิเวศไท้ เกรียมอุระราชไหม้ หม่นเศร้าศรีสลาย อยู่นา
๖/๗ โคลง๒ | ๏พระผาดผายสู่ห้อง | หาอนุชนวลน้อง | |
หนุ่มหน้าพระสนม | |||
๗/๘ | ๏ปวงประนมนบเกล้า | งามเสงี่ยมเฟื้ยมเฝ้า | |
อยู่ถ้าทูลสนอง | |||
๘/๙ | ๏กรตระกองกอดแก้ว | เรียมจักร้างรสแคล้ว | |
คลาดเคล้าคลาสมร | |||
๙/๑๐ | ๏จำใจจรจากสร้อย | อยู่แม่อย่าละห้อย | |
ห่อนช้าคืนสม | แม่แล ฯลฯ | ||
ร่าย ๑๐/๒๓เสร็จเสาวนีย์สั่งสนม เนืองบังคมคำราช พระบาททันนิทราจวนเวลาล่วงสาง พื้นนภางค์เผือดดาว แสงเงินขาวขอบฟ้า แสงทองจ้าจับเมฆรังสีเฉกฉายฉัน ไก่แก้วขันเจื้อยแจ้ว ดุเหว่าแหว้วเสียงใส จึ่งบรมไทธิราชยุรยาตรยังที่สรง ชำระองค์บนาน ทรงสุคนธ์ธารกลิ่นตรลบ หอมอวลอบอายขจร ทรงบวรวิภูษิตสนับเพลาพิศพรายพร้อย ชายไหวย้อยยะยาบ ชายแครงทาบเครือวัลย์ รัตพัสตร์พรรณยรรยงฉลองพระองค์เพริศแพร้ว มกรแก้วเกยูร ตาบไพฑูรย์เรืองจรัส สะอิ้งรัตนประพาฬสอดสังวาลเฉวียงองค์ มกุฎทรงเทริดเกศ อย่างอิศเรศรามัญ สรรเป็นรูปอุรเคนทร์เพญพะพานแผ่เศรียร แสงวิเชียรช่อช่วง ธำมรงค์ร่วงรุ้งพราย รายนพรัตน์ชัชวาลเครื่องอลงการโอ่อ่า งามสง่าขัตติเยศ พระแสดงเดชผังผาย กุมแสงกรายกรนาดยุรยาตรอย่างไกรสร จากศีขรคูหา ลีลายังวังราช ไหว้บัวบาทบิตุรงค์ ขอลาองค์ท่านไท้ไปเผด็จดัสกรให้ เหือดเสี้ยนศึกสยาม สิ้นนา
๑๑/๒๔ โคลง๒ | ๏พระฟังความลูกท้าว | ลาเสด็จศึกด้าว | |
ดั่งเบื้องบรรหาร | |||
๑๒/๒๕ โคลง๓ | ๏ภูบาลอื้นอำนวย | อวยพระพรเลิศล้น | |
จงอยุธย์อย่าพ้น | แห่งเงื้อมมือเทอญ พ่อนา | ||
๑๓/๒๖ โคลง๔ | ๏จงเจริญชเยศด้วย | เดชะ | |
ชาวอยุธย์อย่าพะ | พ่อได้ | ||
จงแพ้พินาศพระ | วิริยภาพ พ่อนา | ||
ชนะแด่สองท่านไท้ | ธิราชเจ้าจอมสยาม | ||
๑๔/๒๗ | ๏สงครามความเศิกซึ้ง | แสนกล | |
จงพ่ออย่ายินยล | แต่ตื้น | ||
อย่าลองคะนองตน | ตาชอบทำนา | ||
การศึกลึกเล่ห์พื้น | ล่อเลี้ยวหลอกหลอน | ||
๑๕/๒๘ | ๏จงแจ้งแห่งเหตุเบื้อง | โบราณ | |
เป็นประโยชน์ยุทธการ | กล่าวไว้ | ||
เอาใจทหารหาญ | เริงรื่น อยู่นา | ||
อย่าระคนปนใกล้ | เกลือกกลั้วขลาดเขลา | ||
๑๖/๒๘ | ๏หนึ่งรู้พยุหเศิกไสร้ | สบสถาน | |
เจนจิตวิทยาการ | กาจแกล้ว | ||
รู้เชิงพิชัยชาญ | ชุมค่าย ควรนา | ||
อาจจักรอนรณแผ้ว | แผกแพ้พังหนี | ||
๑๗/๓๐ | ๏หนึ่งรู้บำเหน็จให้ | ขุนพล | |
อันสมรรถมือผจญ | จืดเสี้ยน | ||
อย่าหย่อนวิริยะยล | อย่างเกียจ | ||
แปดประการกลเที้ยร | ถ่องแท้ทางแถลง | ||
๑๘/๓๑ | ๏จงจำคำพ่อไซร้ | สั่งสอน | |
จงประสิทธิ์สมพร | พ่อให้ | ||
จงเรืองพระฤทธิ์รอน | อริราช | ||
จงพ่อลุลาภได้ | เผด็จด้าวแดนสยาม | ||
ร่าย ๑๙/๓๒เสด็จสั่งความโอวาท ไท้ธประสาทพระพร แต่ภูธรเอารสธก็ประณตรับคำ อำลาท้าวลีลาศ ยุรยาตรยังเกยชัย เสนาในเตรียมทัพ สรรพพลห้าสิบหมื่นขุนคชหื่นหาญแกล้ว ขับช้างแก้วพัทธกอ รอรับราชริมเกย ควาญเคยคัดท้ายเทียบเสด็จย่างเหยียบหลังสาร ทรงคชาธารยรรยง อลงกตแก้วแกมกาญจน์ เครื่องพุดตานตกแต่งแข่งสีทองทอเนตร ปักเศวตฉัตรฉานฉาย คลายคชบาทยาตรา คลี่พยุหคลาดแคล้วคล้ายนายทแกล้ว ย่างเยื้องธงทอง แลนา ฯลฯ
๒๐/๔๑ โคลง๒ | ๏ถับถึงทวารกรุงแก้ว | เดียรดาษพลคลาดแคล้ว | |
คล่ำคล้ายคลาขบวน | |||
๒๑/๔๒ โคลง๓ | ๏ด่วนเดินโดยโขลนทวาร | พวกพลหาญแห่หน้า | |
ล้วนทแกล้วทกล้า | กลาดกลุ้มเกลื่อนสถล มารคนา ฯลฯ |
ตอนที่ ๔สมเด็จพระนเรศวรทรงปรารภเรื่องตีเมืองเขมร
๕๑/๑๕๙ โคลง๔ | ๏ ปางนั้นนฤเบศเบื้อง | บูรพา ภพแฮ |
เฉลิมพิภพอโยธยา | ยิ่งผู้ | |
พระเดชดั่งรามรา- | ฆพเข่น เข็ญเฮย | |
ออกอเรนทร์รั่วรู้ | เร่งร้าวราญสมร | |
๕๒/๑๖๐ | ๏ ภูธรสถิตท้อง | โรงธาร ท่านฤๅ |
เถลิงภิมุขพิมาน | มาศแต้ม | |
มนตรีชุลีกราน | กราบแน่น เนืองนา | |
บัดบดีศวรแย้ม | โอษฐ์เอื้อนปราศรัย | |
๕๓/๑๖๑ | ๏ ไต่ถามถึงทุกข์ถ้อย | ทวยชน |
ต่างสนองเสนอกล | แก่ท้าว | |
พระดัดคดีผล | ใดเยี่ยง ยุกดิ์นา | |
เย็นอุระฤๅร้าว | ราษฎร์ร้อนห่อนมี | |
๕๔/๑๖๒ โคลง๔ | ๏ นฤบดีดำรัสด้วย | การยุทธ์ |
ซึ่งจักยอกัมพุช | แผ่นโพ้น | |
พลบกยกเอาอุต- | ดมโชค ชัยนา | |
นับดฤษถีนี้โน้น | แน่นั้นวันเมือ | |
๕๕/๑๖๓ โคลง๔ | ๏ พลเรือพลรบท้อง | ทางชลา |
เกณฑ์แต่พลพารา | ปักษ์ใต้ | |
ไปตีพุทไธธา- | นีมาศ เมืองเฮย | |
ตีป่าสักเสร็จให้ | เร่งล้อมขอมหลวง | |
๕๖/๑๖๔ โคลง๔ | ๏ พระห่วงแต่เสี้ยน | อัสดง |
เกรงกระลับก่อรงค์ | รั่วหล้า | |
คือใครจักคุมคง | ควรคู่ เข็ญแฮ | |
อาจประกันกรุงถ้า | ทัพข้อยคืนถึง | |
๕๗/๑๖๕ โคลง๔ | ๏ พระพึงพิเคราะห์ผู้ | ภักดี ท่านนา |
คือพระยาจักรี | กาจแกล้ว | |
พระตรัสแด่มนตรี | มอบมิ่ง เมืองเฮย | |
กูจักไกลกรุงแก้ว | เกลือกช้าคลาคืน | |
๕๘/๑๖๖ | ๏ เยียวพื้นภพแผ่นด้าว | ตกไถง |
ริพิบัติพูนภัย | เพิ่มพ้อง | |
สูกันนครใจ | ครอเคร่า กูเฮย | |
กูจักพลันคืนป้อง | ปกหล้าแหล่งสยาม | |
๕๙/๑๖๗ | ๏ สงครามพึ่งแผกแพ้ | เสียที |
แตกเมื่อต้นปีไป | ห่อนช้า | |
บร้างกระลับมี | มาขวบ นี้เลย | |
มีก็มีปีหน้า | แน่แท้กูทาย | |
๖๐/๑๖๘ | ๏ ทั้งหลายสดับถ้อยท่าน | บรรหาร หนเฮย |
ยังบ่เยื้อนสนองสาร | ใส่เกล้า | |
บัดทูตนครกาญ- | จนถับ ถึงแฮ | |
พระยาอามาตย์นำเฝ้า | บอกเบื้องเคืองเข็ญ ฯลฯ | |
๖๑/๑๗๐ โคลง๒ | ๏ พระเปรมปราโมทย์ไซร้ | ซึ่งบดินทร์ดาลได้ |
สดับเบื้องบอกรงค์ | ||
๖๒/๑๗๑ | ๏ ธให้หาองค์น้องท้าว | แถลงยุบลเหตุห้าว |
ท่านแจ้งทุกอัน แลนา |
ตอนที่ ๕สมเด็จพระนเรศวรทรงเตรียมการสู้ศึกมอญ
ร่าย ๖๓/๑๗๒ แล้วธบรรหารตระบัด ว่าเราจัดจตุรงค์ จะไปยงยอยุทธ์ ยังกัมพุชพาราศึกมอญมาชิงควัน กันบให้ไปออก บอกให้เต้าโดยตก ควรจักยกไปยุทธ์ เป็นมหุสสวมหันต์ปันเอาชัยชิงชื่น แล้วธก็อื้นออกพจน์ พระราชกฎประกาศ แก่เมืองราชบุรีเกณฑ์โยธีห้าร้อย คะค้อยไปซุ่มซ่อน ดูศึกผ่อนพลเดิน ผ่านลำกระเพินโดยสะพานเพ่งพลหาญเห็นเสร็จ ให้ระเห็จเข้าหั่น บั่นเรือกขาดเป็นท่อน ค่อนพวนขาดเป็นทุ่นเถกิงกรานกรุ่นพลวกเผา อย่าให้เขาจับได้ เขากระดั่งไท้ ธิราชเอื้อนโองการสั่งนา
๖๔/๑๗๓ โคลง๔
นฤบาลสารเสร็จอ้าง ไป่ทัน หึงแฮ ถับทูตทุกเขตขัณฑ์ ด่านด้าวสิงห์สรรค์สุพรรณบรร- ลุถิ่น ท่านนา เขาเร่งนำเฝ้าท้าว ถั่งถ้อยแถลงทูล
๖๕/๑๗๔
บดีศูรสั่งให้อ่าน สารา พระราชรับบัญชา ท่านไซร้ แถลงลักษณะทุกธา- นีบอก มานาเสนอยุบลข่าวใกล้ ศึกตั้งในแดน
๖๖/๑๗๕
บัดมอญแล่นม้าลาด เลยแขวง วิเศษชัยชาญแสดง ข่าวซ้ำ เขานำอักษรแถลง ถวายดับนั้นนา พระเร่งชื่นฤๅช้ำ ที่ข้อเข็ญความ
๖๘/๑๗๗
จอมสยามขามศึกไซร้ ไป่มี บานกลเปรมปรีดิ์ ปราบเสี้ยน สองสุริยกษัตริย์ ตรัสต่อกันแฮ หาเลศมลายศึกxxx;น หั่นห้าวหายคม
๖๙/๑๗๘
สมเด็จเผยโอษฐ์อื้น ปรึกษา แด่ภิมุขมาตยา ทั่วผู้ จักโรมอริรา- มัญเมื่อ นี้แฮรับที่ถิ่นฤๅสู้ นอกไซร้ไหนควร
๖๗/๑๗๖
ทั้งมวลหมู่มาตย์ซ้อง สารพลัน ทูลพระจอมจรรโลง เลื่องหล้า แถลงลักษณะปางบรรพ์มาเทียบ ถวายแฮ แนะที่ควรเสด็จค้า เศิกไซร้ไกลกรุง ฯลฯ
๗๐/๑๘๐
โทไท้ทรงสดับถ้อย ทูลถวาย ถูกหฤทัยท่านผาย โอษฐ์พร้อง สูตริก็ตรงหมาย เหมือนตริตูนา ตริบ่ต่างกันต้อง ต่อน้ำใจตู
๗๑/๑๘๑
ภูธรสั่งให้เทียบ โยธี ทัพแฮ ห้าหมื่นหมายบัญชี เรียกได้ เกณฑ์เมืองจัตวาตรีไตรตรวจ เอานา ยี่สิบสามเมืองใต้ เตรียบตั้งต่อฉาน
๗๒/๑๘๒
บรรหารให้จัดผู้ อาจอง เอาพระศรีไสยณรงค์ ฤทธิ์ห้าว เป็นจอมพยุหยง ไปยั่ว ยุทธแฮนำนิกรทัพท้าว ออกร้ารอนเข็ญ
๗๓/๑๘๓
พระเห็นจักเปลี่ยวข้าง ขุนพล เยียวบ่มีเพื่อนผจญ จึ่งใช้ พระราชฤทธานนท์หนึ่งช่วย กันนา เป็นปลัดทัพให้ ศึกสู้ทั้งสอง
๗๔/๑๘๔
กองหน้านฤนาทตั้ง เสร็จสาร สั่งแฮ เร็วเร่งห้ำหั่นหาญ หักกล้า บ่แตกต้านทานมันรอด ไซร้ฤๅ กูจักออกโรมร้า ศึกร้ายภายหลัง
๗๕/๑๘๕
ทั้งสองรับถ้อยท่าน ทูลลา แลเฮย ยกพยุหแสนยา ย่างย้าย โดนแดนทุกราธวา วายถิ่นถึงนี่หนองสาหร่ายท้าย ทุ่งกว้างทางหลวง
๗๖/๑๘๖
ปวงทัพปลูกค่ายสร้าง กลางสมร ภูมิพยุหไกรสร ศึกตั้ง เสนาพลากร ต่างรื่น เริงแฮคอยจักยอยุทธ์ยั้ง อยู่ถ้าทางเข็ญ
ตอนที่ ๖พระนเรศวรทรงตรวจเตรียมทัพ
ร่าย ๗๗/๑๘๗ กษณะนั้นนเรนทร์ไท้ ธให้โหรหามมหุติฤกษ์ ซึ่งจะเบิกพยุหบาตราจึ่งพระโหราผู้รู้โศลก หลวงญาณโยคโลกทีป รีบคำนวณทำนาย ถวายพยากรณ์แก่ไท้ท้าวธได้จัตุรงคโชค อาจปราบโลกลาญรงค์ เชิญบาทบงสุ์เสด็จคลา จากอโยธยายามเช้าเข้ารวิวารมหันต์ วันสิบเอ็ดขึ้นค่ำย่ำรุ่งสองนาฬิกา เศษสังขยาห้าบาทในบุษยมาสดฤษถี ศรีสวัสดิ์ฤกษ์อุดม บรมนรินทร์ดาลสดับ ธให้ตรวจทัพเตรียมพลโดยชลมารคพยู่ห์ สู่ตำบลปากโมก ครั้นณวันโชควันยาม พยุหสงครามเขาตรวจทุกหมู่หมวดสรรพเสร็จ จึ่งสมเด็จภูวนาถ กับบรมราชอนุชา ธก็สรงธาราเสาวรภย์ตรลบสุคนธกำจร ทรงบวรวิภูษา รัตพัสตราครูเนตร ชายแครงเทศเถือกพร้อยชายไหวห้อยเห็นเพรา พิศสนับพลายรรยง ฉลองพระองค์แลเลิศ ทับทรวงเพริศพรายพริ้งสะอิ้งรัตนไพฑูรย์ แก้วเกยูรสวมหัตถ์ แสงนพรัตน์มลังเมลือง เรืองธำมรงค์รุ้งร่วงช่วงพรรเหาเก้าแก้ว แพร้วพรายนิ้วอัษฎางค์ พลางสองกษัตริย์สวมทรง อลงกตกาญจนมกุฎแสงเพชรผุดพุ่งแพร้ว แก้เก้ากอบแกมมาศ นาดกรกรายทายธนู ดูสองเจ้าจอมสยามเฉกลักษณ์รามรอนราพณ์ ปราบอเรนทร์ทุกด้าว พลางบพิตรไทท้าว ท่านเยื้องยังฉนวนน้ำนา
ฯลฯ
๗๘/๑๙๗ โคลง๔
ครั้นควรพิชัยฤกษ์พร้อม เพรียงสมัย โหรคระหึมฆ้องชัย กึกก้องพฤฒิพราหมณ์พรอกมนตร์ไสย สังข์เป่า ถวายนา แตรตรลบเสียงซ้อง แซ่ซั้นบรรสาน ฯลฯ
ร่าย ๗๙/๒๐๐ พลันขยายพยุหบาตรา คลาเข้าโขลนทวาเรศ สงฆ์สวดชเยศพุทธมนต์ ปรายประชลเฉลิมทัพ ตามตำรับราชรณยุทธ์ โบกกบี่ธุชคลาพล ยลนาวาดาดาษ ดูสระพราศสระพรั่ง คั่งคับขอบคงคา แลมเหาฬาร์พันลึก อธึกท้องแถวธาร ถับถึงสถานปากโมก จึ่งพระจอมโลกลือเดช เสด็จเถลิงนิเวศวังทาง พลางธให้ตรวจเตรียมพล โดยสถลพยุหบาตร บอกพระราชกำหนด กฎแก่ขุนทัพขุนพล จักยกหพลยาตรา ในเวลาล่วงค่ำ ย่ำสิบเอ็ดสามบาท ครั้นเข้าราษตรีสมัย ภูวไนยตรัสตริการ ซึ่งจะรอนราญอริราช ด้วยภิมุขมาตยากร จนจันทรลับเลื่อน เคลื่อนเข้าตติยยาม เจ้าจอมสยามไสยาสน์ เหนือบรมอาสน์ก่องแก้ว คล้ายคล้ายสิบทุ่มแคล้ว ท่านเคลิ้มหลับฝัน ใฝ่นา
๘๐/๒๐๑ โคลง๔
เทวัญแสดงเหตุให้ สังหรณ์ เห็นแฮ เห็นกระแสสาคร หลั่งล้น ไหลลบวนาดอน แดนตกทิศนา พระแต่เพ่งฤๅพ้น ที่น้ำหนองสาย
๘๑/๒๐๒
พระกรายกรย่างเยื้อง จรลี ลุยมหาวารี เรี่ยวกว้าง พอพานพะกุมภีล์ หนึ่งใหญ่ไสร้นา โถมปะทะเจ้าช้าง จักเคี้ยวขบองค์
๘๒/๒๐๓
พระทรงแสงดาบแก้ว กับกร โจมประจักฟันฟอน เฟื่องน้ำ ต่างฤทธิ์ต่างรบรอบ ราญชีพกันแฮ สระท้านทุกถิ่นท่าถ้ำ ท่งท้องชลธี
๘๓/๒๐๔
นฤบดีโถมถีบสู้ ศึกธาร ฟอนฟาดสุงสุมาร มอดม้วย สายสินธุ์ซึ่งนองพนานต์ หายเหือดแห้งแฮ พระเร่งปรีดาด้วย เผด็จเสี้ยนเศิกกษัย
๘๔/๒๐๕
ทันใดดิลกเจ้า จอมถวัลย์ สร่างผทมถวิลฝัน ห่อนรู้ พระหาพระโหรพลัน พลางบอก ฝันนาเร็วเร่งทายโดยกระทู้ ที่ถ้อยตูแถลง
๘๕/๒๐๖
พระโหรเห็นแจ้งจบ ในมูล ฝันแฮ ถวายพยากรณ์ทูล แต่ไท้ สุบินบดินทร์สูร ฝันใฝ่นั้นฤๅ หากเทพสังหรณ์ให้ ธิราชรู้เป็นกล
๘๖/๒๐๗
นุสนธิ์ซึ่งน่านน้ำ นองพนา สณฑ์เฮย หนปัจฉิมทิศา ท่วมไซร้ คือทัพอริรา- มัญหมู่นี้นา สมดั่งลักษณ์ฝันไท้ ธเรศนั้นอย่าแหนง
๘๗/๒๐๘
เหตุแสดงแห่งราชพ้อง ภัยชลา ได้แก่อุปราชา เชษฐ์ผู้ สงครามซึ่งเสด็จครา นี้ใหญ่หลวงแฮ แท้จักถึงยุทธ์สู้ ศึกช้างสองชน
๘๘/๒๐๙
ซึ่งผจญอริราชด้วย เดชะ เพื่อพระเดโชชนะ ศึกน้ำ คือองค์อมิตรพระ จักมอด เมือเฮยเพราะพระหัตถ์หากห้ำ หั่นด้วยขอคม
๘๙/๒๑๐
เบื้องบรมขัตติย์ท่องท้อง แถวธาร พระจักไล่ลุยลาญ เศิกไสร้ ริปูบ่รอราญ ฤทธิ์ราชเลยพ่อ พระจักชาญชเยศได้ ดั่งท้าวใฝ่ฝัน
๙๐/๒๑๑ โคลง๒
ครั้นบดินทร์ดาลได้ สดับพยากรณ์ไท้ ธิราชแผ้วพูนเกษม
๙๑/๒๑๒
เปรมปรีดิ์ปราโมทย์แท้ เพราะพระโหรหากแก้ กล่าวต้องตามฝัน
๙๒/๒๑๓
พระพลันทรงเครื่องต้น งามประเสริฐเลิศล้น แหล่งหล้าควรชม ชื่นนา
๙๓/๒๑๔
สมเด็จอนุชน้องแก้ว ทรงสุภาภรณ์แพร้ว เพริศพร้อมเพราตา ยิ่งแฮ
ร่าย ๙๔/๒๑๕ สองขัติยายุรยาตรา ยังเกยราชหอทัพ ขุนคชขับช้างเทียบ ทวยหาญเพียบแผ่นภู ดูมหิมาดาดาษ สระพราศพร้อมโดยขบวน องค์อดิศวรสองกษัตริย์ คอยนฤขัตรพิชัย บัดเดี๋ยวไททฤษฎี พระศรีสารีริกบรมธาตุ ไขโอภาสโศภิต ช่วงชวลิตพ่างยล ส้มเกลี้ยงกลลุก่อง ฟ่องฟ้าฝ่ายทักษิณ ผินแวดวงตรงทัพ นับคำรบสามครา เป็นทักษิณาวรรตเวียน ว่ายฉวัดเฉวียนอัมพร ผ่านไปอุดรโดยด้าว พลางบพิตรโทท้าว ท่านตั้งสดุดี อยู่นา
ฯลฯ
๙๕/๒๑๘ โคลง๔
พระเปรมปราโมทย์น้อม วันทนา พลางพระทรงไอยรา ฤทธิ์แกล้ว พระคเชนทร์ชื่อไชยา-นุภาพ พ้นแฮ อาจเข่นคชศึกแผ้ว แผกแพ้ทุกภาย
๙๖/๒๑๙
พลายปราบไตรจักรอ้าง เอิกฤทธิ์ อาจปราบคชทุกทิศ ทั่วไซร้ เอกาทศรถอิศ- วรเสด็จทรงนา นำคเชนทเรศไท้ ธิราชเจ้าจอมสยาม ฯลฯ
ตอนที่ ๗พระมหาอุปราชทรงปรึกษาการศึกแล้วยกทัพเข้าปะทะทัพหน้าของไทย
ร่าย ๙๗/๒๒๘ฝ่ายกองตระเวนรามัญ อันขุนศึกธใช้ ให้เอาม้ามาลาดคอยข่าวราชริปู ดูทัพชาวพระนคร จักออกรอนออกรบ จักออกทบออกทาน เอากาการมาบอกแม้บออกต่อติด จักประชิดเมืองถึง จึงสมิงอะคร้านขุนกอง รองสมิงเป่อปลัดทัพกับสมิงซายม่วน ทั้งสามด่วนเดินพล พวกพหลหมู่ม้า ห้าร้อยมามองความ ยลสยามยาตราทัพอยู่ท่ารับรายค่าย ขอบหนองสหร่ายเรียบพยูห์ ดูกองหน้ากองหลวง แลทั้งปวงทราบเสร็จเร็วระเห็จไปทูล แด่นเรศรอุปราช ครั้นพระบาทได้สดับ ธ ก็ทราบสรรพโดยควรว่านเรศวรกษัตรา กับเอกาทศรุถ ยกมาแย่งรงค์ แล้วพระองค์ตรัสถาม สามสมิงนายกองถ้าจักประมาณพลไกร สักเท่าใดดูตระหนัก ตรัสซ้ำซักเขาสนอง ว่าพลผองทั้งเสร็จประมาณสิบเจ็ดสิบแปดหมื่น ดูดาษดื่นท่งกว้าง ครั้นเจ้าช้างทรงสดับธก็ตรัสแก่ขุนทัพขุนกอง ว่าซึ่งสองกษัตริย์กล้า ออกมาถ้ารอรับ เป็นพยุหทัพใหญ่ยงคงเขาน้อยกว่าเรา มากกว่าเขาหลายส่วน จำเราด่วนจู่โจม โหมหักเอาแต่แรกตีให้แยกย่นย่อย ค่อยเบาแรงเบามือ เร็วเร่งฮือเข้าห้อม ล้อมกรุงเทพทวารัติชิงเอาฉัตรตัดเข็ญ เห็นได้เวียงโดยสะดวก แล้วธสั่งพวกขุนพล เทียบพหลทุกทัพสรรพแต่ยามเสร็จ ตีสิบเอ็ดนาฬิกา จักยาตราทัพขันธ์ กันเอารุ่งไว้หน้าเร็วเร่งจัดอย่าช้า พรุ่งนี้เช้าเราตี เทอญนา
๙๘/๒๖๘ โคลง๔ | ๏ เสนีรับถ้อยท่าน | ทุกตน |
ต่างเร่งตรวจเตรียมพล | ทุกผู้ | |
พลหาญหื่นหนรณ | เริงxxx อยู่แฮ | |
คอยจักขับเคี่ยวสู้ | เข่นเสี้ยนศึกสยาม | |
๙๙/๒๓๐ | ๏ ครั้นยามสิบเอ็ดแล้ว | เวลา ลุเอย |
องค์อัครอุปราชา | หน่อไท้ | |
โสรจสรงรสธารา | รวยรื่น ฉมนา | |
เฉลิมวิเลปน์ลูบไล้ | เฟื่องฟุ้งเสาวคนธ์ ฯลฯ | |
๑๐๐/๒๓๘ | ๏ ภูเบนทร์บ่ายบาทขึ้น | เกยหอ |
ขี่คชชื่อพัทธกอ | กาจกล้า | |
บ่เข็ดบ่ขามขอ | เขาเงือด เงื้อแฮ | |
มันตกติดหลังหน้า | จุ้นเสื้องส่ายเสย ฯลฯ |
ร่าย ๑๐๑/๒๖๗ส่วนพระยาศรีไสยณรงค์ สองขุนคงควบทัพ กับพระราชฤทธานนท์ทราบอนุสนธิสั่งไท้ ธให้ยาตรยกโยธี ออกโจมตีตัดศึก แต่ยามดึกเดินพลเร่งขวายขวนเตรียมทัพ สรรพห้าหมื่นโดยมี ตนพระยาศรีขี่คช ปรากฏชื่อมาตงค์พลายสุรงคเดชะ เมืองสิงหะปีกขวา ออกญาสรรค์ปีกซ้าย เห็จคชผ้ายทุกมูล ขุนผู้คู่กำกับเป็นทัพหลั่งพรั่งพฤนท์ ขี่คชินทรพาหะ นามชนะจำบัง รังปีกป้องกองขวาพระยาวิเศษชัยชาญ ขุนหาญปีกอุดร เจ้านครชัยนาท กองหน้าอาจโจมประจัญให้พระยาสุพรรณผ้ายพยู่ห์ ผู้ปีกซ้ายเมืองธน ทัพเมืองนนท์ปีกขวา ตรีเสนาเก้ากองลำลองเหล่าอาสา ส่ำศาสตราครบมือ ถือกระลับกระลอก หอกดาบปืนและสาร แสนยาหาญแน่นขนัดรัดเร่งเท้าเร่งเทา โดยลำเนาลำดับ ถับถึงโคกเผาเข้า พอยามเช้ายังสายหมายประมาณโมงครบ ประทบทัพรามัญ ประทันทัพพม่า ขับทวยกล้าเข้าแทง ขับทวยแขงเข้าฟันสองฝ่ายยันยืนยุทธ์ อุดอึงโห่เอาฤกษ์ เอิกอึงโห่เอาชัย สาดปืนไฟยะแย้งแผลงปืนพิษยะยุ่ง พุ่งหอกใหญ่คะคว้าง ขว้างหอกชักคะไขว่ ไล่คะคลุกบุกบันเงื้อดาบฟันฉะฉาด ง่าง้าวฟาดฉะฉับ ขับปีกซ้ายเข้าดา ขับปีกขวาเข้าแดกแยกกันออกโรมรัน ปักกันออกโรมรณ ทนสู้ศึกบ่มิลด อดสู้ศึกบ่มิลาด อาจต่ออาจเข้ารุกอุกต่ออุกเข้าร่า กล้าต่อกล้าชิงบั่น กลั่นต่อกลั่นชิงรอน ศรต่อศรยิงยืนปืนต่อปืนยิงยัน กุทัณฑ์ต่างตอบโต้ โล่ต่อโล่ต่อตั้ง ดั้งต่อดั้งต่อติดเขนประชิดเขนสู้ ต่าวคู่คู่ต่าวต่อ หอกหันร่อหอกรับ ง้าวง่าจับง้าวประจัญทวนผัดผันทวนทบ รบอลวนอลเวง ต่างบเกรงบกลัว ตัวต่อตัวชิงมล้าง ช้างต่อช้างชิงชนคนต่อคนต่อรบ ของ้าวทบทะกัน ต่างฟันต่างป้องปัด วางเสนัดหลังสาร ขานเสียงศึกกึกก้องว่องต่อว่องชิงชัย ไวต่อไวชิงชนะ ม้าไทยพะม้ามอญ ต่างเข้ารอนเข้าโหม ทวนแทงโถมทวนทบหอกเข้ารบรอหอก หลอกล่อไขว่แคล้ว แย้งธนูเหนี่ยวน้าว ห้าวต่อห้าวหักหาญชาญต่อชาญหักเชี่ยว เรี่ยวต่อเรี่ยวหักแรง แขนต่อแขนหักฤทธิ์ ต่างประชิดฟอนฟันต่างประชันฟอนฟาด ล้วนสามารถมือทัด ล้วนสมรรถมือทาน ผลาญกันกันลงเต็มหล้าผร้ากันลงเต็มแหล่ง แบ่งกันตายลงครัน ปันกันตายลงมาก ตากเต็มท่งเต็มเถื่อนตากเต็มเผื่อนเต็มพง ที่ยังคงบมิยู่ ที่ยังอยู่บมิหย่อน ต่างต่อกรฮึดฮือต่างต่อมือฮึกฮัก หนักหนุนแน่นมาหนา ดาหนุนแน่นมาดาษ บ่รู้ขยาดย่อทัพบ่รู้ขยับย่อศึก คะศึกเข้าต่อแกล้ว คะแคล้วเข้าต่อกล้า ต่างชิงฆ่าชิงหั่นต่างชิงบั่นชิงฟัน ปันกันยิงกันแผลง ปันกันแทงกันพุ่ง ยอยุทธ์ยุ่งบ่มิแตกแยกยุทธ์แย้งบ่มิพัง ทวยหน้าหลังต้อนผ้าย ทวยขวาซ้ายต้อนพล เข้าผจญจู่โจมโหมหักหาญราญรบ ต่างท่าวทบระนับ ต่างท่าวทับระนาด บ้างตนขาดหัวหวิ้นบ้างขาดิ้นแขกเด็ด บอยากกระหนาบหน้าหลัง ไทยประนังน้อยแง่ แผออกรลบมิรอดถอดถอยท้อรอรับ มอญขยับยกตาม หลากเหลือล้นพลเต้า เสียงปืนตึงตื่นเร้าเร่งครื้นเครงครึก อยู่นา
๑๐๒/๒๖๘ โคลง๒ | ๏ พันลึกล่มลั่นฟ้า | เฉกอสุนีผ่าหล้า |
แหล่งเพี้ยงพก แลนา | ||
๑๐๓/๒๖๙ | ๏ ดังตรลบโลกแล้ | ฤๅบ่ร้างรู้แพ้ |
ชนะผู้ใดดาล ฉงนนา | ||
๑๐๔/๒๗๐ | ๏ สองฝ่ายหาญใช่ช้า | คือสีหสู้สีหกล้า |
ต่อแกล้วในกลาง สมรนา |
ตอนที่ ๘พระนเรศวรทรงปรึกษายุทธวิธีเอาชนะศึก
๑๐๕/๒๗๑ โคลง๔
ปางอุภัยภูเบศเบื้อง บูรพ์ถวัลย ราชย์แฮ เรียบพิริยพลพรรค์ พรั่งพร้อมเจียนจวบรวิวรรณ ร่างเรื่อ แลฤๅ ทวยทิชากรน้อม นอบนิ้วเสนอทูล ฯลฯ
๑๐๖/๒๗๒
เชิญไท้ยูรยาตรเต้า เตียงสนาน ถวายมุทธาภิสิตธาร เพรียกพร้อง ศิวเวทวิษณุบรรสานสังข์โสรจ สรงแฮ มหรทึกครึกเครงก้อง เกริกหล้าหวั่นไหว ฯลฯ
ร่าย ๑๐๗/๒๗๗ ฝ่ายชีพ่อทวิชาชาติ ราชปุริโสดม พรหมพิทยาจารย์ เบิกโขลนทวารโดยกระทรวง ปวงละว้าเช่นไก่ ไขว่สรวงพลีผีสาง พลางธส่งแสงอาชญา แต่หลวงมหาวิชัย ใจทระนงองอาจ ยาตรตัดไม้ข่มนาม ตามตำรับไสยเพท บัดนฤเบศทรงสดับ เสียงปืนทัพแย้งยุทธ์ สุดอำเภอเลอไสต โปรดโองการธใช้ ให้หมื่นทิพเสนา เห็จอาชาเร็วรีบ ถีบไปสืบเอาการ เขารับสารขึ้นม้า ควบบช้าบหึง ถึงที่ทวยพลทัพ รับพลางถอยพลางล่ามอญพม่าตามติด ประชิดไล่อลวน ผจญรับอลหม่าน ผ่านท้องท่งท้องนา ดามาโดยแดนผลู ดูคะคลาคะคล่ำ บ่รู้กี่ส่ำสับสน เขาเอาตนหมื่นหนึ่งมา ซึ่งเนาในกองทัพ กลับม้านำมาเฝ้า จึ่งพระพุทธเจ้าอยู่หัว ตรัสถามตัวหมื่นพล เยียใดกลจึ่งพ่าย เขาจำหน่ายเหตุสนอง ว่าเผือผองผาดผ้าย ท้ายดอนเผาธัญญา พอนาฬิกาหนึ่งนับ ปะทะทับดัสกร เข้าราญรอมรุมรุก คลุกคลีกันหนักหนา ปวงปัจจามิตรมาก หลากทุกคราทุกครั้ง ตั้งตนต่อบมิคง ตรงตนต่อบมิหยุด เหลือจักยุทธ์จึ่งลาด ครั้นพระบาทยินสาร ธก็บรรหารตระบัด ตรัสปรึกษาหาเลศ แห่งเหตุเพโทบาย ถ้วนทุกนายทุกมุล ทั่วทุกขุนหมู่มาตย์ คาดความคิดทั้งมวล ควรยศใดใครเห็น จักเข่นเข็ญให้มอด จักขอดเข็ญให้ม้วย ด้วยถ่ายเทเล่ห์ไหน วานเขือไขอย่าอำ เขาขานคำท่านถาม สงครามครานี้หนัก เชิญเสด็จพักพลหมั้น แต่งทัพซั้นไปหน่วง ถ่วงศึกไว้จงหนา รามือลงก่อนไสร้ ไว้สักครั้งรั้งรอ พอได้ทีจึ่งยาตร ยกพยุหบาตรออกราญ เห็นควรการชัยชอบ ธก็ตรัสตอบมนตรี ตรองคดีดูแผก ฝ่ายเราแตกย่นยับ จักส่งทัพไปทาน พอพลอยฉานสองซ้ำ ค้ำบอยู่บหยุด ชอบถอยทรุดอย่ารั้ง ให้ศึกพลั้งเสียเชิง โดยละเลิงใจอาจ ยาตรตามติดผิดขบวน ควรเรายกออกโรม โหมหักหาญราญรงค์ คงชำนะเศิกไสร้ ได้ด้วยง่ายด้วยงาม เขายินความยลชอบ นอบประณตแด่ไท้ ธให้หมื่นทิพเสนา กับหมื่นราชามาตย์ เหินหัยราชรีบร้อน ไปเตือนต้อนกองนา เร็วเร่งล่าอย่ารั้ง ทวยพหลทั่วทั้ง ทราบข้อบรรหาร ท่านนา
๑๐๘/๒๗๘ โคลง๒
บนานต่างตนผ้าย ไปบ่รอรั้งท้าย ถี่เท้าผาดผัง มานา
๑๐๙/๒๗๙
ผันหลังแล่นแผ่ผ้าน บมีผู้อยู่ต้าน ต่อสู้สักตน หนึ่งนา ฯลฯ
๑๑๐/๒๘๐ โคลง๓
พวกพลทัพรามัญ เห็นไทยผันหนีหน้า ไปบ่หยุดยั้งช้า ตื่นต้อนแตกฉาน น่านนา
๑๑๑/๒๘๑
ไป่แจ้งการแห่งเล่ห์ เท่ห์กลไทยใช่น้อย ต่างเร่งติดเร่งต้อย เร่งเต้าตีนตามมานา
๑๑๒/๒๘๒
แลหลังหลามเหลือนับ บเป็นทัพเป็นขบวนแท้ ถวิลว่าพ่ายจริงแล้ ไล่ล้ำระส่ำระสายยิ่งนา
๑๑๓/๒๘๓
หมายละเลิงใจอาจ ประมาทประมาณหมิ่นหมั้น เบาเร่งเบาเชิงชั้น ชื่นหน้ามาสรลมสรลอนนา
ตอนที่ ๙ ทัพหลวงเคลื่อนพลช้างทรงพระนเรศวรและพระเอกาทศรถฝ่าเข้าไปในกองทัพข้าศึก
๑๑๔/๒๘๔ โคลง๔ เบื้องบรมจักรพรรดิเกล้า กษัตรา เถลิงพิภพทวารา เกริ่นแกล้วสถิตเกยรัตนราชา อาสน์โอ่ องค์เอย คอยฤกษ์เบิกยุทธ์แผ้ว แผ่นพื้นหาวหน
๑๑๕/๒๘๕
บัดดลวลาหกซื้อ ชระอับ อยู่แฮ แห่งทิศพายัพยล เยือกฟ้า มลักแลกระลายกระลับลิวล่งไปเฮย เผยผ่องภาณุเมศจ้า แจ่มแจ้งแสงฉาน
tr> ๑๑๖/๒๘๖ คัคนานต์นฤราสร้าง ราคิน คือระเบียบรัตนอินทนิล คาดไว้บริสุทธิ์สร่างมลทิน ถ่องโทษ อยู่นา นักษัตรสวัสดิเดชได้ โชคชี้ศุภผล ฯลฯ
ร่าย ๑๑๗/๒๘๙ เคลื่อนพลตามเกล็ดนาค ตามเต็มท่งแถวเถื่อน เกลื่อนกล่นแสนยาทัพ ถับปะทะไพรินทร์ ส่วนหัสดินอุภัย เจ้าพระยาไชยานุภาพ เจ้าพระยาปราบไตรจักร ตรับตระหนักสำเนียง เสียงฆ้องกลองปืนศึก อึกเอิกก้องกาหลง เร่งคำรนเรียกมัน ชันหูชูหางแล่น แปร้นแปร๋แลคะไขว่ บาทย่างใหญ่ดุ่มด่วน ป่วนกิริยาร่าเริง บำเทิงมันครั่นครึก เข้าสู้ศึกโรมราญ ควาญคัดท้ายบมิอยู่ วู่วางวิ่งฉับฉิว ปลิวประเล่ห์สมพาน ส่ำแสะสารแสนยา ขวาซ้ายแซงหน้าหลัง ทั้งทวยพลตนขุน ถ้วนทุกมุลมวลมาตย์ ยาตรบทันโทท้าว ด้าวศึกสู้สองสาร ราญศึกสู้สองไท้ ไร้พิริยะแห่ห้อม พร้อมแต่กลางควาญคช กำหนดสี่โดยเสร็จ เห็จเข้าใกล้กองหน้า ข้าศึกดูดาษเดียร ธระเมียรหมู่ดัสกร มอญพม่าดาดื่น เดินดุจคลื่นคลาฟอง นองน่านในอรรณเวศ ตรัสทอดพระเนตรเนืองบร โล่โรมรอนทวยสยาม หลามเหลือหลั่งคั่งคับ ซับซ้อนแทรกสับสน ยลบเป็นทัพเป็นกอง ธก็ไสสองสารทรง ตรงเข้าถีบเข้าแทง ด้วยแรงมันแรงกาย หงายงาเสยสารเศิก เพิกพังพ่ายบ่ายตน ปนปะไปไขว่คว้าง ช้างศึกได้กลิ่นมัน หันหัวหกตกกระหม่า บ่ากันเลี่ยงกันหลบ ประทบประทะอลวน สองคชชนชาญเชี่ยว เรี่ยวรณรงค์เริงแรง แทงถืบฉัดตะลุมบอน พม่ามอญตายกลาด ข้าศึกสาดปืนโซรม โรมกุฑัณฑ์ธนู ดูดั่งพรรษาซ้อง ไป่ตกต้องตนสาร ธุมาการเกิดกระลบ อบอลเวงฟากฟ้า ดูบ่รู้จักหน้า หนึ่งสิ้นแสงไถง แลนา
๑๑๘/๒๙๐ โคลง๔
จึ่งไทเทเวศอ้าง สมมุติ มิ่งมหิศวรมกุฎ เกศหล้า เถลิงภพแผ่นอยุธย- ยายิ่ง ยศแฮแสดงพระเดชฟุ้งฟ้า เฟื่องด้าวดินไหว
๑๑๙/๒๙๑
ภูวไนยผายโอษฐ์อื้น โชยงการ แก่เทพทุกถิ่นสถาน ฉชั้น โสฬสพรหมพิมาน กมลาสน์ แลนาเชิญช่วยชุมโสตซั้น สดับถ้อยตูแถลง
๑๒๐/๒๙๒
ซึ่งแสร้งรังสฤษฏ์ให้ มาอุบัติ ในประยูรเศวตฉัตร สืบเชื้อ หวังผดุงบวรรัตนตรัสเยศ ยืนนา ทำนุกพระศาสน์เกื้อ ก่อสร้างแสวงผล
๑๒๑/๒๙๓
กลใดไป่ช่วยแผ้ว นภา ดลฤๅ ใสสรว่างธุมา มืดม้วย มลักเล็งเหล่าพาธา ทวยเศิก สมรแฮเห็นตระหนักเนตรด้วย ดั่งนี้แหนงฉงาย
๑๒๒/๒๙๔
พอถวายวรวากย์อ้าง โอษฐ์พระ ดาลมหาวาตะ ตื่นฟ้า ทรหึงทรหวลพะ- พานพัด หาวแฮหอบธุมางค์จางเจ้า จรัสด้าวแดนสมร
๑๒๓/๒๙๕
ภูธรเมิลอมิตรไท้ ธำรง สารแฮ ครบสิบหกฉัตรทรง เทริดเกล้า บ่จวนบ่จวบองค์ อุปราชแลฤๅ พลางเร่งขับคชเต้า แต่ตั้งตาแสวง
๑๒๔/๒๙๖
โดนแขวงขวาทิศท้าว ทฤษฎี แลนา บัด ธ เห็นขุนกรี หนึ่งไสร้ เถลิงฉัตรจัตุรพิรีย์เรียงคั่ง ขูเฮย หนแห่งฉายาไม้ ข่อยชี้เณอนาม
๑๒๕/๒๙๗
ปิ่นสยามยลแท้ท่าน คะเนนึก อยู่นา ถวิลว่าขุนศึกสำ- นักโน้น ทวยทัพเทียบพันลึกแลหลาก หลายแฮ ครบเครื่องอุปโภคโพ้น เพ่งเพี้ยงพิศวง
๑๒๖/๒๙๘
สองสุริยพงศ์ผ่านหล้า ขับคเชนทร์บ่ายหน้า แขกเจ้าจอมตะเลง แลนา
๑๒๗/๒๙๙
ไป่เกรงประภาพเท่าเผ้า พักตร์ท่านผ่องฤๅเศร้า สู้เสี้ยนไป่หนี หน้านา
๑๒๘/๓๐๐
ไพรีเร่งสาดซ้อง โซรมปืนไฟไป่ต้อง ตื่นเต้าแตกฉาน ผ้านนา
ตอนที่ ๑๐ ยุทธหัตถีและชัยชนะของไทย
๑๒๙/๓๐๑ โคลง๔ นฤบาลบพิตรเผ้า ภูวนา ยกแฮ ผายสิหนาทกถา ท่านพร้อง ไพเราะราชสุภา-ษิตสื่อ สารนา เสนอบ่มีข้อข้อง ขุ่นแค้นคำไข
๑๓๐/๓๐๒
อ้าไทภูธเรศหล้า แหล่งตะเลง โลกฤๅ เผยพระยศยินเยง ย่านแกล้ว สิบทิศทั่วลือละเวงหวั่นเดช ท่านนา ไป่เริ่มรอฤทธิ์แผ้ว เผือดกล้าแกลนหนี
tr> ๑๓๑/๓๐๓ พระพี่พระผู้ผ่าน ภพอุต- ดมเอย ไป่ชอบเชษฐ์ยืนหยุด ร่มไม้เชิญราชร่วมคชยุทธิ์ เผยยอเกียรติ ไว้แฮ สืบกว่าสองเราไสร้ สุดสิ้นฤๅมี
๑๓๒/๓๐๔
หัสดีรณเรศอ้าง อวสาน นี้นา นับอนาคตกาล ห่อนพ้อง ขัตติยายุทธ์บรรหาร คชคู่กันแฮ คงแต่เผือพี่น้อง ตราบฟ้าดินกษัย
๑๓๓/๓๐๕
ไว้เป็นมหรสพซ้อง สุขศานติ์ สำหรับราชสำราญ เริ่มรั้ง บำเทิงหฤทัยบาน ประดิยุทธ์นั้นนา เสนอเนตรมนุษย์ตั้ง แต่หล้าเลอสรวง
๑๓๔/๓๐๖
ป่วงไท้เทเวศทั้ง พรหมมาน เชิญประชุมในสถาน ที่นี้ ชมชื่นคชบำราญ ตูต่อ กันแฮใครเชี่ยวใครชาญชี้ ชเยศอ้างอวยเฉลิม
๑๓๕/๓๐๗
หวันเริ่มคุณเกียรติก้อง กลางรงค์ ยืนพระยศอยู่คง คู่หล้า สงครามกษัตริย์ทรงภพแผ่น สองฤๅ สองราชรอนฤทธิ์ร้า เรื่องรู้สรเสริญ
๑๓๖/๓๐๘
ดำเนินพจน์พากย์พร้อง พรรณนา องค์อัครอุปราชา ท่านแจ้ง กอบเกิดขัตติยมา- นะนึกหาญเฮย ขับคชเข้ายุทธ์แย้ง ด่วนด้วยโดยถวิล
๑๓๗/๓๐๙
หัสดินปิ่นธเรศไท้ โททรง คือสมิทธิมาตงค์ หนึ่งอ้าง หนึ่งคือศิริเมขล์มง คลอาสน์มารเอย เศียรส่ายหงายงาคว้าง ไขว่แคว้งแทงโถม
๑๓๘/๓๑๐
สองโจมสองจู่จ้วง บำรู สองขัตติยสองขอชู เชิดด้ำ กระลึงกระลอกดู ไวว่อง นักนาควาญขับคชแข่งค้ำ เข่นเขี้ยวในสนาม
๑๓๙/๓๑๑
งามสองสุริยราชล้ำ เลอพิศ นาพ่อ พ่างพัชรินทรไพจิตร ศึกสร้าง ฤๅรามเริ่มรณฤทธิ์รบราพณ์ แลฤๅ ทุกเทศทุกทิศอ้าง อื่นไท้ไป่เทียม
๑๔๐/๓๑๒
ขุนเสียมสามรรถต้าน ขุนตะเลง ขุนต่อขุนไป่เยง หย่อนห้าว ยอหัตถ์เทิดลบองเลบงอังกุศ ไกวแฮ งามเร่งงามโทท้าว ท่านสู้ศึกสาร
๑๔๑/๓๑๓
คชยานขัตติเยศเบื้อง ออกถวัลย์ โถมปะทะไป่ทัน เหยียบยั้ง สารทรงราชรามัญ ลงล่างแลนา เสยส่ายท้ายทันต์ทั้ง คู้ค้ำคางเขิน
๑๔๒/๓๑๔
ดำเนินหนุนถนัดได้ เชิงชิด หน่อนเรนทรทิศ ตกด้าว เสด็จวราฤทธิ์ รำร่อน ขอแฮฟอนฟาดแสงของ้าว อยู่เพี้ยงจักรผัน
๑๔๓/๓๑๕
เบื้องนั้นนฤนาถผู้ สยามมินทร์ เบี่ยงพระมาลาผิน ห่อนพ้อง ศัสตราวุธอรินทร์ฤๅถูก องค์เอย เพราะพระหัตถ์หากป้อง ปัดด้วยขอทรง
๑๔๔/๓๑๖
บัดมงคลพ่าห์ไท้ ทวารัติ แว้งเหวี่ยงเบี่ยงเศียรสะบัด ตกใต้ อุกคลุกพลุกเงยงัดคอคช เศิกแฮ เบนบ่ายหงายแหงนให้ ท่วงท้อทีถอย
๑๔๕/๓๑๗
พลอยพล้ำเพลียกถ้าท่าน ในรณ บัดราชฟาดแสงพล- พ่ายฟ้อน พระเดชพระแสดงดล เผด็จคู่เข็ญแฮ ถนัดพระอังสางข้อน ขาดด้าวโดยขวา
๑๔๖/๓๑๘
อุรารานร้าวแยก ยลสยบ เยนพระองค์ลงทบ ท่าวดิ้น เหนือคอคชซอนซบ สังเวชวายชิวาตม์สิ้นสุด สู่ฟ้าเสวยสวรรค์
๑๔๗/๓๑๙
บั้นท้ายคชาเรศท้าว ไทยไผท ถึงพิราลัยลาญ ชีพมล้าง เพราะเพื่อพิพิธไพ- รีราชแลนา โซรมสาดตราดปืนขว้าง ตอกต้องตนสลาย
๑๔๘/๓๒๐
ฝ่ายองค์อิศวรนาถน้อง นฤบาล แสดงยศคชยุทธยาน ยาตรเต้า มางจาชโรราญ ฤทธิ์ราช แลฤๅเร็วเร่งคเชนทรเข้า เข่นค้ำบำรู
๑๔๙/๓๒๑
บัดภูธเรศพ่าห์ได้ เชิงชน ลงล่างง้างโททนต์ เทิดใต้ พัชเนียงเบี่ยงเบนตน เซซวนไปแฮ หัวปั่นหันข้างให้ เพลี่ยงพลั้งเสียที
๑๕๐/๓๒๒
ภูมีมือง่าง้าว ของอน ฟันฟาดขาดคอบร บั่นเกล้า อินทรีย์ซบกุญชร เมือชีพ แลเฮยเผลพระเกียรติผ่านเผ้า พี่น้องสองไท
๑๕๑/๓๒๓
ทันใดกลางคชเจ้า จุลจักร มลายชิพิตลาญทัก ท่าวซ้ำ เหลือหลามเหล่าปรปักษ์ ปืนป่ายเอาเฮย ตรึงอกพกตกขว้ำ อยู่เบื้องบนสาร
๑๕๒/๓๒๔
พระราญอริราชด้วย เดโช สี่ทาสสนองบาทโท ท่านท้าว พระยศยิ่งภิยโย ผ่านแผ่ ภพนาสองรอดโดยเสด็จด้าว ศึกสู้เสียสอง
ร่าย ๑๕๓/๓๒๕ จึ่งกองพยุหทวยทัพ สรรพหลังหน้าขวาซ้าย ผ้ายทันธิบดินทร์ ขณะอรินทรพินาศ ขาดคอคชสองเสร็จ ต่างรีบระเห็จเข้าโรม โหมหักหาญราญรุก บุกบั่นฟันแทงฆ่า พม่ามอญไทยใหญ่ ไล่ล้างลาวดาษดวน ไล่มล้างยวนดาษดื่น ตื่นกันแตกกันตายหลายเหลือนับเนืองนอง กองก่ายกายรายหัว ตัวขาแขนเด็ดดาษ กลาดกลางท่งกลางเถื่อน เกลื่อนกลางดงกลางดอน แล่นซอกซอนซนซุก บุกทุกภายพ่ายแพ้ เพราะพระเดชท่านแท้ หากให้ขาดเข็ญ แลนา
๑๕๔/๓๒๖ โคลง๒
เห็นประภาพเจ้าช้าง เชี่ยวกว่าเชี่ยวเหลืออ้าง เอิกอื้ออัศจรรย์ ยิ่งนา
๑๕๕/๓๒๗
ขวัญหนีดีฝ่อพ้น พวกอเรนทร์ด่วนด้น ดัดดั้นทางทวน ไปนา ฯลฯ
ตอนที่ ๑๑พระนเรศวรทรงสร้างสถูปและปูนบำเหน็จทหาร
๑๕๖/๓๓๒ โคลง๔ ราชาชัเยศอื้น โองการ รังสฤษฏ์พระสถูปสถาน ทึ่มล้างขุนเข็ญคู่รำบาญ สวมศพ ไว้แฮ หนตระพังตรุสร้าง สืบหล้าแหล่งเฉลิม
ร่าย ๑๕๗/๓๓๓ เสร็จเริ่มรณแล้วไสร้ ธให้เจ้าเมืองมล่วน ถ้วนทั้งคชหมอควาญ จำทูลสารเสียรงค์ องค์อุปราชเอารส ขาดคชลาญชีพ รีบเร็วยาตรอย่าหึง ไปแจ้งอึงกฤษฎาการ แด่มหิบาลผู้เผ้า เจ้าแผ่นภพหงสา แล้วธให้คลาพยุหทัพ กลับคืนครองครอบเหล้า เถลิงอยุธยเย็นเกล้า ทั่วทวยสยาม สิ้นนา
๑๕๘/๓๓๔ โคลง๔
กรุงรามฤทธิ์เฟื่องฟ้า ฟู่ภพ ตระบัดบพิตรปรารภ ชอบพ้น เจ้ารามราฆพ คงคู่ เสด็จนาตำแหน่งกลางช้างต้น ต่อด้วยดัสกร
๑๕๙/๓๓๕
กุญชรวรพ่าห์ท้าย เถลิงงาน องค์อนุชนฤบาล บั่นเสี้ยน ขุนศรีคชคงชาญ ชเยศ ยิ่งนาสนองบาทยาตรยุทธ์เที้ยน เพื่อนไท้ในรณ
๑๖๐/๓๓๖
สองผจญอริราชด้วย โดยเสด็จ คุณขอบตอบบำเหน็จ ท่านให้ ครบเครื่องอุปโภคเสร็จทุกสิ่ง สรรพแฮ เงินและทองทาสใช้ อีกทั้งทวยเชลย
๑๖๑/๓๓๗
แล้วเผยพจนารถชั้น บรรหาร ยกชอบกอบบำนาญ ที่ม้วย นายมหานุภาพควาญ กลางคช หนี่งนาหมื่นภักดีศวรด้วย ศึกสู้เสียตน
๑๖๒/๓๓๘
นบัดดลดำรัสให้ ปูนยศ ทรัพย์สิ่งศรีสำรด ทั่วทั้ง บุตรทารท่านแทนทด ความชอบเขานา สมที่ภักดีตั้ง ต่อเหง้าเผ่าเฉลิม
ร่าย ๑๖๓/๓๓๙ เพิ่มบำเหน็จเสร็จไซร้ ธให้เชิญพระอัยการศึก ปรึกษาโทษขุนทัพ สรรพทั้งมวลหมู่มาตย์ ว่าอริราชริปู ยกพยูหเหยียบเขต ประเวศชานเวียงชัย พระบาทไทธทั้งสอง ปองพระศาสน์อำรุง ผดุงชุมชีทวิชาติ ทั่วทวยราษฎร์ประชา ไป่ระอาออกท้อ ข้อลำเค็ญพระองค์ ทรงพระอุตสาหภาพ เสด็จปราบราชอรี ปวงมนตรีนายทัพ สรรพทุกตนทุกตัว กลัวอเรนทร์เหลือล้น พ้นยิ่งพระราชอาชญา ไป่ยาตราพลขันธ์ ทันเสด็จด้าวรณรงค์ มละสารทรงสองเต้า เข้าท่ามกลางปัจนึก ถึงสู้ศึกหัสดี มีชเยศเสร็จสรรพ โทษขุนทัพทั้งมวล ควรประการใดไสร้ โดยระบอบแบบไว้ แต่เบื้องโบราณ รีตนา
ฯลฯ
๑๖๔/๓๔๓ โคลง๓
ถวายพิพากษาชั้น ดำรัสโดยเหตุหั้น แห่งเบื้องบันทึก โทษนา
๑๖๕/๓๔๔
คำนึงนึกบาปใกล้ วันบัณรสีไซร้ จวบเข้าควรงด หน่อยนา
๑๖๖/๓๔๕
กำหนดพรุกเพ็ญแท้ พันธนาไว้แล้ ตรุตรึ้งตรากขัง มั่นนา
๑๖๗/๓๔๖ โคลง๓
ตั้งแต่ปาฏิบท ล่วงอุโบสถเสด็จแล้ว เร่งสฤษฏ์โทษอย่าแคล้ว คลาดด้าวดำเนินบทนา
ตอนที่ ๑๒สมเด็จพระวันรัตขอพระราชทานอภัยโทษ
ร่าย ๑๖๘/๓๔๗ ไป่เกินกาลท่านสั่ง กระทั่งแรมสิบห้าค่ำ ย่ำสองนาฬิกาปลายทำงนงายพอเสร็จ จึ่งสมเด็จพระวันรัต วัดป่าแก้วแคล้วคลา กับราชาคณะสงฆ์ยี่สิบห้าองค์สองแผนก แฉกงาสานสรล้าย ผ้ายลุยังวังราช พระบาทธให้นิมนต์ดลเรือนรัตนมาฬก ตกแต่งอาสน์ลาดเจียม เตรียมเสร็จสงฆ์สู่สถิต บพิตรกรกรรมพุมชุมบรรพชิตแช่มชื่น ขุนชีอื้นอวยพร ถามข่าวจรจอมภพ ซึ่งเสด็จรบพารณ จนอเรนทรพินาศขาดคอคชในรงค์ จึ่งพระองค์อิศเรศ บรรหารเหตุจำบัง จอมสงฆ์ฟังซั้นขานพระราชสมภารมีชัย ใดทวยบาทมูลิกา ต้องอาชญายินแหนง ตรัสแสดงโดยดับ ว่านายทัพทั้งผองเกณฑ์เข้ากองพยูห์ โยมสองตูต่อเข็ญ มันเห็นเศิกสระทก ตระดกดาระรัวยิ่งกว่ากลัวสวามิศ บเต้าติดตูต้อย มละแต่ข้อยสองคน เข้าโรมรณราวิศ ในอมิตรหมู่กลางแสนเสนางค์เนืองบร จนราญรอนไอยเรศ ลุชเยศมฤตยู จึ่งได้ดูหน้ามัน เพื่อมหันตบารเมศเบื้องบุเรศบำรุง ผดุงเดชเผือพี่น้อง ผิบพ้องบุญบูรพ์ ไอยศูรย์เสียมภพตรลบเลื่องขามนามตะเลง ลือละเวงธาษตรี เป็นธรณีหงสา เสื่อมกฤตยาสยามยศสาหสสหากมากมวล ควรลงทัณฑ์ถึงม้วย ด้วยพระอัยการศึก จารึกชื่อชั่วฟ้าไว้เป็นขนบภายหน้า อย่าให้ใครยลเยี่ยงนา
๑๖๙/๓๔๘ โคลง๔
สมเด็จพนรัตเจ้า จอมชี ฉลองพจน์ราชวาที ท่านให้ ทวยทูลละอองธุลี บัวบาท พระนาพื้นภักดีต่อใต้ บทเบื้องเรณู
๑๗๐/๓๔๙
ดูผิดไป่รักท้าว ไป่เกรง แผกระบอบแต่เพรง ห่อนพ้อง พระเดชหากแสดงเอง อำนาจ พระนาเสนอทุกทวยธเรศก้อง เกียรติอ้างอัศจรรย์ ฯลฯ
๑๗๑/๓๕๗
พระตรีโลกนาถแผ้ว เผด็จมาร เฉกพระราชสมภาร พี่น้อง เสด็จไร้พิริยะราญ อรินาศลงนา เสนอพระยศยิ่งยินก้อง เกียรติท้าวทุกภาย
๑๗๒/๓๕๘
ผิวหลายพยุหยุทธ์ร้า โรมรอน ชนะอมิตรมวลมอญ มั่วมล้าง พระเดชบ่ดาลขจร เจริญฤทธิ์พระนา ไปทั่วธเรศออกอ้าง เอิกฟ้าดินไหว
๑๗๓/๓๕๙
อย่าไทโทมนัสน้อย หฤทยา เพื่อพระราชกฤษฏา แต่กี้ ทุกทวยเทพคณา ซุมซ่วย พระเอยแสดงพระเดโชชี้ ชเยศไว้ในสนาม
๑๗๔/๓๖๐ โคลง๓
สมดั่งความตูพร้อง ขอบพิตรอย่าข้อง ขุ่นแค้นเคืองกมล ท่านนา
๑๗๕/๓๖๑
โดยยุบลถ่องแท้ ฤๅสนเท่ห์เล่ห์แล้ ถูกถ้อยแถลงการณ์ นี้นา
ร่าย ๑๗๖/๓๖๒ ปางนฤบาลบดินทร์ ยินสมเด็จพระวันรัต จำแนกอรรถบรรยาย ถวายวิสัชนาสาร โดยพิสดารพรรณนา เสนอสมญายศโยค พระบรมโลกโมลี ด้วยวิธีอุปมาแห่งกฤษฎาภินิหาร ดาลมนัสชุ่มชื้น ตื้นเต็มปรีดิ์ปราโมทย์ โอษฐ์ออกื้นสาธู ชูพระกรกรรพุม ชุมทศนัขเหนือผาก เพื่อยินมลากเลอมาน เจ้ากูขานคำขอบ ชอบทุกสิ่งจริงถ้อย ถวิลบ่แหนงหนึ่งน้อย แน่แท้แถลง แลนา
๑๗๗/๓๖๓
แจ้งเหตุแห่งเหือดขึ้ง ในมนัส จึ่งพระวันรัตวัด ป่าแก้ว ถวายพรบวรศรีสวัสดิ์สว่างโทษ ท่านนา นฤทุกข์นฤภัยแผ้ว ผ่องพ้นอันตราย
๑๗๘/๓๖๔
ทั้งหลายทวยบาทเบื้อง บงกช ควรโคตรโทษสาหส อะคร้าว แต่ทูลธุลีบท สนองบาท มานาเพรงพระอัยกาท้าว ตราบไท้พระเจ้าหลวง
๑๗๙/๓๖๕
ล่วงถึงบพิตรผู้ เถลิงถวัลย- ราชย์ฤๅ คือพุทธบรรษัทสรรพ์ สืบสร้างเชิญดอดอวยทัณฑ์ ทวยโทษ นี้นา เลยอย่าลาญชีพมล้าง หนึ่งครั้งขอเผือ
๑๘๐/๓๖๖
ไว้เพื่อผดุงเดชเจ้า จอมปราณ ก่อเกิดราชรำบาญ ใหม่แม้ พูนเพิ่มพระสมภาร เพ็ญภพพระนา วายบ่หวังตนแก้ ชอบได้ไป่มี
ร่าย ๑๘๑/๓๖๗ นฤบดีดาลสดับอรรถ ซึ่งพระวันรัตอภิปราย ถวายพระพรอาจายน์ โทษมวลมาตย์ทุกมุล เพื่อการุญบริรักษ์ ภักดีในบาทบงสุ์ จึ่งพระองค์อนุญาต พระราชทานโทษทั้งผอง โดยอันครองยศ บรรหารพจนพาที ซึ่งเจ้าชีขานขอ ข้อยยกยอโทษให้ แต่ชอบใช้ไปรอน เอานครตะนาวศรี บุรีทวายมริด ถ่ายหนผิดหาชอบ ขุนสงฆ์ตอบคำขาน ข้อโรมราญราวิศ ไป่เป็นกิจตูตาม ใช่เงื่อนงามบรรพชิต โดยพิตรอัธยา เบื้องบัญชาเชิงใช้ ขอลาไท้ลีลาศ ยังอาวาสเวียงวัด ตระบัดท่านจรลี พาเพื่อนชีอะคร้าว คืนสู่ด้าวอาราม เจ้าจอมสยามเสาวนีย์ เนืองมนตรีพ้นโทษ โปรดให้เนาตำแหน่ง แห่งฐานันดรยศ พระราชกำหนดโดยดับ ทัพเจ้าพระยาคลัง รังพลห้าหมื่นเสร็จ เห็จโหมเวียงทวาย หมายเจ้าพระยาจักรี พรักพิรีย์เทียบทัด รัดไปโรมตะนาวศรี ตีมริดเวียงชัย จึ่งชไมมาตยา บัลคลลายาตรพยู่ห์ สู่แดนเศิกโดยปอง ปิ่นเสียมสองสุริยชาติ ตรัสพิภาษพจนา ซึ่งอุตรานคเรศ เขตสีมาเมืองออก เลิกครัวครอกมาหลาย หมายบ่หมดทั้งผอง ตริไตรครองคราวศึก เสื่อมหาญฮึดแบ่งเบา จักโรมเราฤๅย่าน ฝีมือม่านมอญมวล ควรผดุงชนบท ปรากฏเกียรติยืนยง คงคู่กัลป์ประลัย เฉลิมแหล่งไผททั่วด้าว แสดงพระยศไทท้าว ธิราชไว้ไป่วาย นามนา
ฯลฯ
๑๘๒/๔๒๖ โคลง๔
เสร็จแสดงพระยศเจ้า จอมอยุธ- ยาแฮ องค์อดิศรสมมุติ เทพไท้ นเรศวรรัตนมกุฎเกศกษัตริย์ สยามฤๅ หวังอยู่คู่ธเรศไว้ ฟากฟ้าดินเฉลิม
๑๘๓/๔๒๗
รังเริ่มรจเรขอ้าง อรรถา แถลงเอย เสมอทิพย์มาลย์ผกา เก็บร้อย ฉลองบทรัชนรา-ธิปผ่าน ภพฤๅ โดยบ่เชี่ยวเชลงถ้อย ถ่องแท้แลฉลาย
๑๘๔/๔๒๘
บรรยายกลกาพย์แสร้ง สมญา ไว้แฮ สมลักษณ์เล่ห์เสาวนา เรื่องรู้ “ตะเลงพ่าย”เพื่อตะเลงปรา- ชเยศ พระเอย เสนอฤทธิ์สองราชสู้ ศึกช้างกลางสมร
๑๘๕/๔๒๙
อวยพรคณะปราชญ์พร้อม พิจารณ์ เทอญพ่อ ใดวิรุธบรรหาร เหตุด้วย จงเฉลิมแหล่งพสุธารเจริญรอด หึงแฮ มลายโลกอย่ามลายม้วย อรรถอื้นอัญขยม
๑๘๖/๔๓๐
กรมหมื่นนุชิต เชื้อ กวีวร ชิโนรส มิ่งมหิศร เสกให้ ศรีสุคต พจนสุนทรเถลิงลักษณ์ นี้นา ขัตติยวงศ์ ผจงโอษฐ์ไว้ สืบหล้าอย่าศูนย์ ฯลฯ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น