ดา เผยสัมพันธ์รัก แน็ป เรทโทรสเปค

เนื้อเรื่อง

"ดา" เผยสัมพันธ์รัก "แน็ป เรโทรสเปก” เหมือนเพลง "ที่เห็นและเป็นอยู่"

ส่งเพลงจากอัลบั้ม“ภาพลวงตา”ออกมาให้แฟนเพลงฟังกันตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว จนวันนี้เพลงในอัลบั้มไม่ว่าจะเป็นคืนข้ามปี, คำขอสุดท้ายหรือภาพลวงตาก็ยังฮิตติดชาร์ตเพลงอย่างต่อเนื่องล่าสุด ธนิดา ธรรมวิมล หรือ“ดา เอ็นโดรฟิน”ก็ออกมาเผยถึงความรักระหว่าง“แน็ป เรโทรสเปก” นักร้องร่วมชายคาจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ว่า ตรงกับเพลง“ที่เห็นและเป็นอยู่”ซึ่งเป็นเพลงที่“ดา” ชอบมากที่สุดในอัลบั้ม“ภาพลวงตา”



นักร้องสาวร่างเล็กเผยว่า "เพลง'ที่เห็นและเป็นอยู่'เป็นเพลงที่ดาชอบมากที่สุดในอัลบั้มนี้เลยค่ะ เพราะเป็นเพลงรักที่ไม่หนักเกินดนตรีก็เข้มกำลังดี ซึ่งแน็ปฟังครั้งแรกก็ชมพี่เอก (ผาเรือง ยั่งยืน)ก่อนเลยว่าพี่เอกเขียนเนื้อดีมากๆ เพลงโดนคนอย่างเราอีกแล้วซึ่งเนื้อหามันก็ไม่ห่างจากตัวดามาก มันเป็นเรื่องที่หลายๆ คนเป็นอยู่จริงการมีความรักมันเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้วแต่บางคนที่มีความรักมักจะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคนรักไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว การใช้ชีวิต รวมไปถึงนิสัยใจคอ แต่จริงๆแล้วการเป็นตัวเองนั่นแหละดีที่สุด ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรมากมาย ไม่ต้องฝืนตัวเองไม่จำเป็นต้องดูดีตลอดเวลาก็ได้ เพราะการคบกันมันเป็นเรื่องของหัวใจบางครั้งเราหน้ามัน ผมกระเซอะกระเซิง แต่เชื่อเถอะว่าแฟนเราก็ยังรักเราอยู่ยังไงเค้าก็ยังเห็นว่าเราน่ารัก เพราะเขารักเราจากข้างใน รักในความเป็นเรา"สาวดากล่าวอย่างคนมีประสบการณ์ก่อนจะเผยมุมมองต่อไปว่า

"บางทีการเปลี่ยนตัวเองมันก็เป็นผลเสียนะเพราะเมื่อวันนึงเรากลับมาเป็นตัวเองจริงๆ แล้ว แฟนเราอาจจะรับเราไม่ได้ก็ได้ซึ่งความรักของดาก็เป็นอย่างเพลงนี้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แฟนดาไม่ต้องหล่อ ไม่ต้องรวยดาจะดูที่การใช้ชีวิตมากกว่าว่าเค้าจะอยู่กับเราได้จนถึงสุดปลายทางหรือเปล่าสิ่งที่ดาเลือกเขาและเขาเลือกดา อยู่ที่ความเป็นตัวของตัวเองการมองโลกของแน็ปกับการมองโลกของดาใกล้เคียงกันมากๆ เราคบกันแบบเพื่อนมากกว่าบางคู่อาจจะต่างคนต่างมีโลกของตัวเอง แต่สำหรับดากับแน็ป ไม่เราเปิดโลกส่วนตัวต่อกันได้ โลกของเราเข้ากันได้หมดเลยค่ะสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ของเราเหมือนกัน"

“ดา เอ็นโดรฟิน”ฝากทิ้งท้ายถึงแฟนเพลงว่า "ขอฝากเพลงที่เห็นและเป็นอยู่ ด้วยนะคะ ก็หวังว่าแฟนเพลงของดาจะชอบเพลงนี้เช่นกันเพราะมันเป็นสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่จริงในโลกปัจจุบันและดาเชื่อว่าเพลงนี้สามารถนำไปขยายความคิดของคนฟังได้ด้วยค่ะ”