คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ความเปลี่ยนแปลง
ในระหว่างที่มายาหมดสติอยู่ ระบบก็ตัดการเชื่อมต่อของมายาไป เขาลืมตาตื่นขึ้นมา เขาบิดขี้เกียจแล้วมองไปรอบๆตัว ผนักห้องของเขาเป็นสีขาวครีม ส่วนของตกแต่งเป็นสีเขียว แล้วลุกไปยังห้องน้ำทำธุระส่วนตัว เขามองนาฬิกา ตอนนี้เวลาเจ็ดโมงกว่าแล้ว เขาเดินออกจากห้องลงไปยังห้องครัวเพื่อหาข้าวเช้ากิน หลังจากที่กินน้ำมะพร้าวประทังชีวิตมาหลายวัน “ป้าศรี ในครัวมีอะไรกินบ้าง”มายาถามป้าศรีที่เป็นแม่บ้านซึ่งตอนนี้กำลังทอดไข่ดาวอยู่
“มีข้าวต้มหมู กับอาหารเช้า คุณหนูจะรับอะไรดีค่ะ”ป้าศรีถามอย่างสุภาพ
“เอาอาหารเช้าก็ได้”มอสตอบแบบขอไปที
ป้าศรียกจานใส่อาหารเช้ามาเสิร์ฟที่โต๊ะอาหาร“อาหารเช้าได้แล้ะค่ะคุณหนู”ป้าสีว่างจานใส่อาหารเช้าตรงหน้าเขา
มอสสำรวจส่วนประกอบของอาหารเช้าของเขา มันมี ไข่ดาว ไส้กรอก แฮม และขนมปัง เขาจัดการกับอาหารเช้าที่อยู่ตรงหน้าจนเรียบ แล้วหยิบกระเป๋าสะพายสีดำที่ใส่หนังสือออกไป วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของเขาแล้ว พรุ่งนี้เข้าก็ปิดเทอมแล้ว เขาจะได้เล่นเกมอย่างมีความสุขซักที
ตอนนี้เวลาเกือบเที่ยงแล้วหลังสอบเสร็จเขาก็ไปกินสุกกี้กับเพื่อนๆ กว่าถึงบ้านก็ห้าโมง เขาเดินไปในครัวบอกป้าศรีว่า”ป้า ตั้งแต่พรุ่งนี้ผมจะเล่นเกมนะ ผมคงกินข้าวไม่ตรงเวลานะป้า”มอสบอกป้าศรีแล้วเขาก็เดินขึ้นห้องไปอาบน้ำ แล้วเข้าสู่เกม
มายาเลือมตาตื่นขึ้นมากลางทุ่งดอกไม้นานาชนิดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับเป็นเวลากลางวันที่มีพระอาทิตย์ส่องแสง“ยินดีต้อนรับค่ะ”แฟรี่เจ้าเก่ากล่าวทักทาย
มายายิ้มให้แฟรี่ แฟรี่ก็ถามขึ้นว่า“ต้องการเข้าเกมเลยหรือเปล่าค่ะ”
“ครับ”มายาตอบ แล้วโลกของมายาก็ดับลง
มายาลืมตาตื่นขึ้นมาบนต้นไม้ไร้ใบ ท้องฟ้าตอนนี้มืดมีเพียงดวงจันทร์เท่านั้น เขาทบทวนความทรงจำ เขาจำได้ลางๆว่าเขาโดนลำแสงสีแดงเพลิงจากผลแอปเปิ้ล แล้วเขาก็หมดสติลง ขณะที่มายากำลังทบทวนความจำนั่นเองเทพารักษ์ก็ปรากฎตัวขึ้น “เป็นไงบ้าง”เทพารักษ์ถามด้วยความเป็นห่วง
“ยังมึนๆอยู่ครับ”มายาตอบ พร้อมสบัดหัวไล่ความงุงงงออกไป
“เจ้าได้รับพลังแห่งไฟไปแล้วแต่ยังไม่ได้หลอมรวบกับร่างกาย เจ้าต้องทำให้จิตใจสงบก่อน ปล่อยให้พลังหมุนวนรอบตัวของเจ้าไปเลื่อยๆ เมื่อร่างกายเจ้าคุ้นเคยแล้ว เจ้าก็จะไม่ทรมาน และ สามารถใช้พลังแห่งไฟได้ด้วย”เทพารักษ์บอกมายา
“แล้วอัคระบนร่างกายของผมจะหายไปไหม”มายาถามเทพารักษ์ เขากลัวว่าจะเป็นตัวประหลาด
“อัคระบนตัวเจ้าเป็นสัญลักษณ์ของผู้สืบทอดของเทพแห่งไฟ”เทพารักษ์บอกถึงความหน้าภูมิใจของรอยอัคระสีแดงเพลิง แต่ในความคิดของมายากลับไม่ได้เป็ยความภาคภูมิใจเลย
“แล้วผมต้องนั่งหลอมรวมพลังธาตุไฟก่อนผมถึงใช้ไฟได้ใช่ปะ” มายาถามแต่เขาไม่ต้องการคำตอบ มายานั่งขัดสมาธิ ปล่อยจิตให่ว่าง คอยให้พลังแห่งไฟหมุนไปเลื่อยๆ มายานั่งจนเวลาล่วงเลยผ่านไปนานแสนนาน เสียงของระบบดังขึ้น“ผู้เล่น มายา สำเร็จภารกิจ ตามหาแอปเปิ้ลทะเลทราย ได้รับทักษะลับ ผู้สืบทอดแห่งไฟ”
มายาเปิดหน้าต่างระบบดูทักษะลับที่ได้มาใหม่ ทักษะลับ ผู้สืบทอดแห่งไฟ สามารถควบคุมไฟได้ คำอธิบายมีเท่านี้ มายาจึงหันไปถามเทพารักษ์แห่งไฟ “ท่านช่วยอธิบายให้หน่อยดิ เกี่ยวกับทักษะ ผู้สืบทอดแห่งไฟ”
“ข้าบอกเจ้าไม่ได้หรอก เรื่องนี้เจ้าต้องไปเรียนรู้ด้วยตัวเอง”แม้เทพารักษ์อยากจะบอกมายาขนาดไหน แต่เรื่องนี้อยู่นอกเหนือหน้าที่“สิ่งที่ข้าจะบอกเจ้าได้เจ้าต้องเดินทางไปทางตะวันออกเจ้าจะพบเขตภูเขาเนบอลที่นั่นจะมีต้นไม้พันปีอยู่ เจ้าไปรับภารกิจต่อที่นั้น เจ้าจงจำไว้ต้นไม้พันปีจะไม่มีวันแตกสลาย”
“และอันนี้เป็นของขวัญจากข้า”เทพารักษ์เอามือแตะที่หัวของมายา เสียงของระบบก็ดังขึ้น “ผู้เล่น มายา ได้ทักษะพิเศษ ตรวจสอบค่ะ” เสียงของระบบหยุดลง เทพารักษ์ก็หายตัวไปโดยไม่ล่ำลา
มายาไม่เข้าใจกับคำพูดของเทพารักษ์ที่ว่า“ต้นไม้พันปีไม่มีวัยแตกสลาย” มายาไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยจึงปล่อยให้มันผ่านไป
มายาได้จุดหมายต่อไปแล้ว เขาก็เดินทางต่อไปทันที มายาหยิบลูกมะพร้าวออกมาเดินไปกินไปชมธรรมชาติไป มายาเดินหลีกสัตว์อสูรกลุ่มต่างๆที่คอยดักรอผู้เล่นที่ผ่านทางมา
มายาใช้เวลาเกือบสามชั่วโมงกว่าเดินทางมาถึงชายแดนของทะเลทรายมาจาที่ติดต่อกับเขตภูเขาเนบอล มายามองไปรอบๆเขตภูเขาเนบอลมีลักษณะเหมือนสวนหินของญี่ปุ่นก้อนหินมีการจัดเรียงอย่างสวยงามผสมผสานระหว่างก้อนหินเล็กใหญ่ มีต้นสนญี่ปุ่นตกแต่งอย่างกลมกลืนระหว่างสีขาวเทา ของก้อนหินกัยสีเขียวของต้นสนญี่ปุ่น ภาพตรงหน้าเหมือนอยู่ในสมัยของจักรพรรดินี ซุยโกะ บนยอดภูเขาหิน มีเมฆลอยประปลาย ช่างงดงามยิ่งนัก มายาเดินชมธรรมชาติรอบๆภูเขา แม้เขตภูเขาเนบอลจะไม่ใหญ่มากแต่ความสวยงามของธรรมชาติที่นี่ติดหนึ่งในสิบของเขตธรรมชาติที่สวยที่สุดในโลก SEVEN STAR
ในขณะที่มายาเดินชมธรรมชาติ แต่เขาก็ไม่ลืมภารกิจของเขา เขามองหาปากถ่ำที่เข้าไปยังใจกลางของภูเขาไปด้วย เขาใช้เวลาไม่นานในที่สุดมายาก็เจอปากถ่ำ เขาไม่รอช้าเดินเข้าไปข้างในถ่ำ มายาเดินตามทางเดินที่มีหินงอกหินย้อย แต่มันก็ไม่ใช่อุปสรรคของมายา เขาผ่านมันมาได้อย่างไม่ยากเย็น มายาเดินไปเลื่อยๆ เขาก็พบทางแยกสองทาง แต่ละทางมีป้ายเขียนข้อความเตือน ทางซ้ายเขียนว่า แม้โลกจะเปลี่ยน แม้กาลเวลาจะผ่าน แต่เราจะไม่แปรผัน เหมือนดั่งพฤษชาติอัคนี (สำหรับผู้ถูกเลือกเท่านั้น) ทางขวาเขียนว่า แม้สุริยันจะยิ่งใหญ่เพียงไรซักวันต้องดับลง แม้ศิลาจะจะมั่นคงเพียงไรซักวันต้องพังทลายลง ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลง สิ่งที่เจ้าตามหาอาจไม่มีแล้วก็ได้ มายาอ่านบทความทั้งสองบทเขานั่งวิเคราะห์บทความทั้งสอง เพื่อหาทางที่เขาได้พบกับต้นไม้พันปี มายานั่งคิด นอนคิด ยืนคิด ตีลังกาคิด ในที่สุดมายาก็นึกถึงคำพูดสุดท้ายของเทพารักษ์ห่งไฟ ต้นไม้พันปีไม่มีวันแตกสลาย มายาตัดสินใจได้ทันทีว่าสิ่งที่เขาตามหานั่นอยู่ทางซ้าย มายาเดินเข้าไปไม่น่นนักเขาก็มาอยู่ใจกลางภูเขา เขามองขึ้นไปด้านบน ด้านบนนั้นโล่ง มองเห็นพระจันทร์ที่ทอดแสงลงมายังต้นไม้หินต้นใหญ่
มายาเดินไปอยู่ใต้ต้นไม้หินมองไปรอบๆดูว่ามีสัตว์อสูรที่สามารถทำเป็นอาหารได้หรือไม่ แต่มายาต้องผิดหวังที่ในเขตภูเขาเนบอลไม่มีสัตว์อสูรซักตัว เขาจึงต้องกินน้ำมะพร้าวประทังชีวิตอีกคร้ง มายานั่งพิงต้นไม้พันปี ด้วยความอ่อนล้าทำให้เขาเผลอหลับไป
เขาหลับไปได้ไม่นานมายาต้องตื่นขึ้นมาเพราะรอบตัวเขาเกิดแสงสีน้ำตาลอมส้ม แล้วเทพารักษ์แห่งดินก็ปรากฎตัว “ไง”คำทักทายที่สั้นแสนสั้นของเทพารักษ์
“สบายดีครับ จนกระทั่งท่านมานี่เหละ”มายากล่าวทักทายตอบ
“อ่าว ไอ้นี่กวนข้าหรอ”เทพารักษ์ทำเสียงเหมือนโมโห แต่ใบหน้ากับอารมย์ดี
“ก็มันเรื่องจริงอะ จริง ผมกำลังหลับสบายเลย”มายาตอบ
“ก็ได้เชิญเจ้านอนต่อไป ข้าไปแหละ ภารกิจก็ไม่ต้องเอานะ”พูดจบเทพารักษ์ก็หันหลังเดินกลับไปยังต้นไม้
“เดี๋ยวสิ ท่างอย่างอนดิ ผมขอโทษ ผมไม่กวนประสาทท่านแล้ว ให้ผมทำภารกิจเถอะนะๆๆๆๆๆๆๆ”มายาอ้อนเทพารักษ์อยู่พักใหญ่แต่เทพารักษ์ก็ไม่ตอบอะไร
“นี่ท่านยังงอนผมอยู่หรอ”มายาถามเทพารักษ์ที่กำลังทำหน้าตาย
“เปล่า หายงอนตั้งแต่เจ้าขอโทษคำแรกแล้ว แต่เห็นเจ้าง้อแล้วตลกดีข้าจึงยังไม่พูดอะไร”เทพารักษ์ตอบอย่างอารมณ์ดี
“โหท่านใจร้ายอะ ปล่อยให้ผมพูดตั้งนาน”
“555 สม กวนประสาทดีนัก เราเข้าเรื่องดีกว่า”เทพารักษ์หัวเราะเยาะ
“ภารกิจของข้าคือ เจ้าต้องขึ้นไปบนยอดภูเขาเนบอลแห่งนี้ แล้วสังหารพญาวิหกเพวาส แล้วนำศิลาโบราณแห่งเผ่าปักษามาให้ข้า เจ้าทำได้หรือไม่”เทพารักษ์ถามความสมัครใจของมายา
“ผมทำได้ครับ”มายาตอบอย่างกระตือรือร้น
“ผู้เล่น มายา ได้รับภารกิจตามล่าหัวใจวิหกเพวาส”เสียงของระบบดังขึ้นหลังจากที่มายาตอบตกลงรับภารกิจ
“ข้าไปแล้วนะ ขอให้เจ้าโชคดี อย่าตายก่อนละ”เทพารักษ์พูดจบก็หายตัวไป
เมื่อเทพารักษ์หายตัวไป มายาก็เดินออกจากภูเขา เขาเดินวนรอบๆเพื่อหาบริเวรที่ปีนขึ้นไปบนยอดเขาง่ายที่สุด
มายาเดินเรียบตีนเขา เขาเดินไปซักสองร้อยเมตร เขาก็พบ ทางที่เขาพอจะปีนขึ้นไปได้ เขาค่อยๆปีนขึ้นไปอย่างระมัดระวัง เพราะลมแรกมาก แรกขนาดถ้าเกาะหน้าผาไว้ไม่ดีสามารถปลิวกระเด็นไปได้
มายาปีขึ้นไปได้เพียงหนึ่งในสี่ของภูเขา เขาเข้าไปหลบแรงลมที่ร่องหินที่มีขนาดไม่ถึงสิบตารางเมตร เขากินน้ำมะพร้าวประทั้งชีวิต แล้วหยิบเต็นท์ในหน้าต่างระบบออกมากางและหยิบคัมภีร์เวทมนต์วิหกอัคคีที่ได้จากงูยักษ์ซาลูนออกมาแล้วใช้คำสั่งติดตั้ง เขามองออกไปที่ปากถ้ำตอนนี้ลมพายุไม่มีแล้ว
มายาเดินออกไปตรงปากถ้ำ เขานั่งห้อยขากับขอบของหน้าผา เขาแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน คืนนี้ไร้ดวงจันทร์ แต่ก็ไม่ได้ไร้ดวงดาว เขาเหม่อมองท้องฟ้า เพลิดเพลินกับเสียงดนตรีของสายลมอ่อนๆที่พัดผ่านร่องหินทำให้เกิดเสียง สุดแสนจะไพเราะ มายาเคลิบเคล้มกับบรรยากาศ เสียงลม และความเหนื่อยที่ปีนภูเขา ทำให้เขาหลับตรงนั้น
แต่ไม่รู้ว่าเขาทำเวรกรรมอะไรมา ในขณะที่เอนตัวนอนนั่นเอง หัวของเขาก็ฟาดเข้ากับก้อนหินก้อนใหญ่ ทำให้เขาสดุงตื่นขึ้นมา เขาเอามือไปลูบหัวที่ปูดขึ้นมา เขาหมดอารมย์ที่จะมองดูดาวแล้ว เขาลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปนอนที่เต็นท์
มายาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บที่หัว เขาเดินออกไปหน้าถ้ำมองขึ้นไปบนยอดภูเขาเพื่อดูพระอาทิตย์ยามเช้าแต่ภาพที่เขาเห็นกลับเป็นภาพของพญาวิหกเพวาสบินวนรอบๆยอดเขามัน ในเมื่อเขาเห็นเป้าหมายแล้วเขาจะรออะไรอีก
มายาเดินเข้าไปเก็บเต็นท์เข้าหน้าต่างระบบแล้วเดินออกไปที่ปากถ้ำ เขามองหาเส้นทางที่ขึ้นไปถึงยอดอีกครั้ง เขาลัดเลอะตามทางที่สูงชัน
มายาปีนขึ้นไปเลื่อยๆ ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากยอดเขาเนบอลเพียงสิบเมตร อยู่ๆก็เกิดมีเมฆขนาดยักษ์ ลอยมาปกคลุมยอดเขา และตัวของมายาเอง
มายามองไปรอบๆเพื่อหาที่พักรอให้เมฆก้อนนี้ผ่านไปแต่เมฆมันหนาจนมองอะไรไม่เห็นเลย เขาใช่มือคลำผนังหินไปรอบๆเพื่อหาดูว่าจะพอมีที่ไหนบ้างให้เข้าหลบ เขาคลำไปเลื่อยๆ มือของเขาก็คลำไปโดนปุ่มอะไรก็ไม่รู้ พลันปรากฏแสงสว่างขึ้นรอบๆตัว
ความคิดเห็น