ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนยาวเกินไปนิเองมันถึงแฮงค์
มากลับเข้าเรื่องกัน- -
ทางด้านฮิโซกะ
" อืม............... " คุโรโร่ตื่นขึ้นมาพร้อมอาการปวดหัวที่รุนแรง พอไล่ความมึนงงไปได้ก็พบว่าตัวเองนั้นอยู่บนเตียงๆนึง ข้อมือถูกมัดไว้กับเสา แค่เห็นเช่นนั้นก็หน้าซีด พลางทบทวนความจำอีกที และพยายามดิ้นให้หลุด แต่ก็ต้องหยุดเมื่อมีเสียงเปิดประตูมา
" ตื่นแล้วหรอ " ฮิโซกะที่เดินเข้ามายิ้มอย่างไม่ค่อยน่าไว้วางใจนัก
" จ....แกจับชั้นมาทำไม " คุโรโร่เกือบหลุดปากพูดแบบสมัยก่อนไปซะแล้ว แต่ก็รีบเปลี่ยนได้ทัน ตัวตลกตรงหน้ายิ้ม
" .......อีกไม่นานก็รู้เอง หัวหน้าของชั้นนะให้มาลงโทษนายยังไงล่ะ " ได้ยินแค่นั้นคุโรโร่ก็หน้าซีดพลางคิดว่า เจ้าพวกนั้นรู้แล้วหรอที่เค้าอยู่กับแวมไพร์
" หึ.....นายคงรู้อยู่แล้วว่าเรื่องอะไร........เรื่องที่นายปล่อยให้แวมไพร์ฆ่าคนได้ตามใจชอบยังไงล่ะ "
" .....ชั้นไม่ได้ปล่อย........... "
" เห........งั้นหรอ....งั้นคงเป็นว่านายกลัวแวมไพร์ก็เลยหนีไปซ่อนโดยทิ้งหน้าที่ไว้ล่ะสิ " พอได้ยินฮิโซกะพูดแบบนั้นคุโรโร่ก็เลยแกล้งสวมบทบาทต่อไป
" ..............ใช่....ใครจะเอาชีวิตไปเสี่ยง "
" หรอ.......แล้วน้ำมนณ์หน้าห้องนายล่ะ มันหายไปส่วนนึงนะ "
" ......อาจจะเหยียบโดนไม่ก็ระเหยไปก็ได้ "
" งั้นหรอ.........ยังไงก็แล้วแต่ เค้าให้ชั้นมาลงโทษก็คือต้องมาลงโทษ นายน่าจะดีใจนะที่ได้ชั้นมาเป็นคนลงโทษนะ หืม..... " ว่าแล้วฮิโซกะก็ส่งสายตาหื่นๆ มาที่คุโรโร่
" นาย.....ตั้งใจจะลงโทษยังไง " คุโรโร่ถามอย่างไม่ค่อยไว้ใจคนตรงหน้าเท่าใดนัก
" ก็.....นะ...........ยังไงดีแหละ นายก็น่ารักซะด้วย..........ชั้นไม่ชอบทำให้คนน่ารัก(ในสายตาฮิโซกะ)เจ็บตัว.....มากเท่าไร "
" ............เอื้อก... " คุโรโร่เกลือนน้ำลาย
ทางด้านคุรา
" หืม.......เฮ่! นายๆ ตื่นๆ " ชายหนุ่มคนนึงเดินผ่านมาพบคนนอนสลบอยู๋บนพื้นก็พยายามจะปลุกแต่ดูท่าคงจะไม่ตื่นง่ายๆแน่
" เฮ่อ.....ช่วยไม่ได้........ " ว่าแล้วชายหมุ่นคนนั้นก็อุ้มคนที่สลบนั่นเดินเข้าห้องตัวเองไป ด้วยความหวังดี
ผ่านไป 2 ชม.
" อุ......อือ...........ที่นี่ " คุราปิก้าตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนเองไม่ได้อยู๋ในห้องของตน แล้วยังพบว่ามีคนเอาผ้าชุบน้ำมาวางไว้บนศรีษะให้อีก พอมองไปรอบๆก็พบกับคนที่ช่วยเค้ากำลังนั่งดูทีวีอยู่เลยไม่ทันเห็นเค้าตื่น
" นี่........ " คุราปิก้าลองเรียกคนๆนั้น ซึ่งคนๆนั้นหันมาทันทีแล้วรีบเดินตรงมาพร้อมยกเก้าอี้มานั่งข้างๆอีกด้วย
" ตื่นแล้วหรอ ที่นี่บ้านของชั้นเอง........ชั้นเห็นนายล้มอยู่ที่หน้าประตูนะ เลยพาเข้ามา " ชายคนนั้นถือได้ว่าหน้าตาดีพอสมควร ทั้งผมสีทองยาวสลวย นัยตาสีม่วงเข้ม สวมเสื้อสีดำทั้งตัว ดูแล้วยังไงๆก็สมบูรณ์แบบ
" ขอบคุณนายมาก........แต่ชั้นต้องไปแล้ว " พอคุราลุกขึ้นก็แทบจะล้มลงไปถ้าชายคนนั้นไม่มาประคองเอาไว้
" นายจะไปไหน ตอนนี้นายยังไปไหนไม่ได้นะ ร่างกายนายมันไม่พร้อมไม่ใช่หรอ " ตริงอย่างที่เค้าพูด ตอนนี้ถ้าดื่มเลือดสักหน่อยคงจะมีแรงขึ้น พอคิดได้อย่างนั้นก็หันไปมองคนที่ช่วยตนเอาไว้
" .......นี่ขอรบกวนอีกซักอย่างได้ไหม "
" ......อืมเรื่องอะไรล่ะ อ๋อชั้นชื่อ เซริค แล้วนายล่ะ "
" ชั้น คุราปิก้า ชั้นอยากขอเลือดนายสักนิดเพื่อชั้นจะได้ไปช่วย......คนสำคัญ.........ได้ไหมเซริค " พอเค้าเห็นเซริคทำหน้าตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้หัวเราะอะไร นั่นแสดงว่าคนๆนั้นเชื่อเค้า
" ก็ได้อ่ะน่ะ.....แต่ว่า...ชั้นจะกลายเป็นแวมไพร์รึป่าวล่ะ "
" ไม่หรอก.......ถ้าจะกลายเป็นแวมไพร์ จะต้องให้แวมไพร์ถ่ายเลือดให้........ยิ่งแวมไพร์ตนนั้นมีพลังมากคนที่โดนถ่ายเลือดก็จะมีพลังมากเช่นกันแต่แค่1ใน100ของแวมไพร์ตนนั้นเท่านั้นเองแล้วบวกกับพลังของตัวเองเข้าไปอีกก็เยอะแล้ว นายสนใจอยากเป็นแวมไพร์รึไง "
" อ๋อ ก็อยากนะแต่ไม่ล่ะ แต่.....ชั้นอยากเป็นกำลังให้นายได้ไหมอ่ะ ชั้นให้นายดูดเลือดแต่นายก็ต้องให้ชั้นเป็นกำลังเสริมด้วยน้า "
" ไม่ล่ะ......พวกเราเร่ร่อนไปเรื่อยๆ ลำบากนายป่าวๆ "
" ถ้างั้นถ้ามีเรื่องอะไรที่ชั้นช่วยได้ต้องให้ชั้นช่วยน้า ชั้นเก่งทั้งเรื่องคอมพิวเตอร์ ปืน มีใบอนุญาตขับเครื่องบินและรถทุกชนิด นะๆ "
" อืม........ก็ได้ ถ้าชั้นมีปัญหาจะมาให้นายช่วยล่ะกัน "
" ตกลงกันแล้วนะ เอ้าดูดเลือดตามสบายแต่อย่าหมดล่ะ " เซริคเงยหน้าเตรียมให้ดูดเลือดทันที
" เห็นชั้นเป็นใคร ชั้นอยู่มาหลายหมื่นปีแล้วนะ จะควบคุมไม่ได้ได้ยังไง " ว่าแล้วคุราปิก้าก็ก้มลงดูดเลือดจากคอของเซริค แล้วแผละออกมา
" ไม่เห็นเจ็บเลย "
" แน่สิ ชั้นไม่ได้กัดแรงๆเหมือนคนอื่นเค้านิ กัดกันแรงๆทำไมไม่รู้ ยังไงเหยื่อก็หนีไม่รอด "
" เหอๆ ถือว่าชั้นโชคดีที่เจอนายอะสิ ถ้าเจอคนอื่นคงเจ็บมากแน่ๆ "
" ก็ใช่นะๆ ชั้นก็เคยโดยกัด เจ็บเป็นบ้าเลย ตอนนี้ก็เลยไม่กัดใครแรงๆเพราะรู้ว่ามันเจ็บแค่ไหน.............อ่า.....ชั้นต้องไปล่ะเดี๋ยวคนสำคัญรอนาน "
" โชคดีนะ ว่างๆก็แวะมาหาด้วยล่ะ "
" อา.... " ว่าแล้วคุราปิก้าก็กางปีกค้างคาออกแล้วบินออกไปทางหน้าต่าง
" งดงามจริงๆนะ......... " เซริคเอ่ยพลางเหม่อมองออกไปทางหน้าต่าง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กลางคืนแล้วฮับ
" เจอแล้ว " คุราปิก้าที่กำลังบินอยู่บนฟ้าก็บินโฉบลงมาข้างๆ โบสถแห่งนึงที่ตกแต่งสวยงาม แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าเอาเงินที่มาตกแต่งโบสถมาบริจากช่วยคนยากไร้
คุราปิก้าเดินช้าๆ ไปที่หน้าทางเข้าพร้อมกับดวงตาที่ค่อยๆเปลี่ยนจากสีม่วงของแวมไพร์เป็นสีแดงที่แวมไพร์จะแสดงออกมาเมื่อโกรธ เค้าหยุดยืนเมื่อพบนักล่าทั้ง 2 ที่ยืนเฝ้าประตูอยู่
" แกเป็นใคร มาที่นี่ได้ยังไง.......ที่นี่ห้ามคนบุรุก " ชายคนนึงเอ่ยพลางเอาปืนจ่อ
" ......นี่ ดูตามันสิ! แวมไพร์รึป่าว " ชายอีกคนนึงกระซิบกันเบาๆแต่มีหรือที่คุราปิก้าจะไม่ได้ยิน ซึ่งเค้าก็ยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม
" ถ้าข้าเป็นแวมไพร์แล้วจะทำไม " พอคุราปิก้าพูดจบก็มีไอความมืดแผ่ออกมาจากผ่ามือแล้วพุ่งตรงไปที่คน 2 คนนั้นอย่างแม่นยำ ซึ่งทั้งสองไม่มีโอกาสแม้แต่จะขยับตัวด้วยซ้ำ เมื่อทั้งสองโดนแสงสีดำนั่นเข้าร่างกายก็กลายเป็นหินทันที
" มนณ์ดำเมดูซ่า....พวกเจ้าคงต้องอยู่อย่างนี้ไปตลอดชีวิตล่ะนะ เป็นอมตะไงล่ะอยากได้กันนักไม่ใช่หรอ จะตายก็ตายไม่ได้จะทำอะไรก็ทำไม่ได้ 5555555555+ " วินาทีนั้นดวงจันทร์ส่องแสงสีแดง เหมือนกับกระตุ้นความบ้าคลั่งให้แผ่พุ่งออกมา ใช่........ตำนานกล่าวไว้ว่า...เมื่อดวงจันทราเปลี่ยนแปลสีแดงฉาน กิเลสตันหาจักถูกกระตุ้น บอกเป็นมนุษย์แต่แท้จริงก็สัตว์ป่า แล้วมนุษย์จักควรได้ยกย่องตรงไหน?
" อึก!!................เอา...อีกแล้ว? " คุราปิก้าล้มลงแล้วกุมหน้าผาก เค้ามองมองสิ่งที่เค้าทำอย่างเสียใจแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ สันชาติญานของแวมไพร์มักจะกลั่นไม่อยู่เมื่อดวงจันทร์เป็นสีนี้ เค้ากอดตัวเองพลางคิดว่า เมื่อไรถึงจะได้ภูมิคุ้มกันเรื่องนี้ซะที! เค้าเหม่อมองพระจันทร์อย่างใจลอยก่อนจะสะลัดหน้าเพื่อไล่ความคิดบ้าๆออก
" เฮ่อ.........ช่ายเถอะยังไงๆก็ต้องฆ่าหมดนี้อยู๋แล้วจะสงสารไปทำไมกัน..........ทำไมตอนนี้มองพระจันทร์แล้วไม่รูสึกอะไรแล้วนะ..... " คุราปิก้าไม่รูเลยว่านั่นคือสัญญาณบอกว่าเค้าถูกปลดปล่อยจากความบ้าคลั่งแห่งดวงจันทร์สีแดงแล้ว หรือเรียกได้ว่าเค้าได้ภูมิคุ้มกันมาแล้วนั่นเอง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น