ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Extern เราจะข้ามผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน

    ลำดับตอนที่ #4 : -6 วันเวลาที่รอคอย 6-

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ย. 52


    ตอนที่ 4 
    วันเวลาที่รอคอย

     

    "ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกส์ ...." เสียงดังมาจากระเบียงชั้นบน วศินที่นอนฟังเพลงอยู่ตรงระเบียงเลื่อนหน้าออกไปดู ... ก่อนจะกลับมากลับมาสนใจเพลงที่กำลังฟังอยู่ต่อ
    ห้องที่เสียงร้องดังออกมาเป็นห้องของเพื่อนร่วมรุ่นเขาเอง
    วันนี้คือคืนวันเสาร์  หากแต่ว่าบรรยากาศเหมือนคืนวันอาทิตย์อันซึมเซา เนื่องจากหลายๆคนกำลังเตรียมตัวเพื่อการขึ้นแผนกวันแรกแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ศัลยกรรม อายุรกรรม และเด็ก ที่จะต้องไปรับส่งเวรจากพี่ปี6ที่กำลังจะจบการทำงานบนตึกผู้ป่วยเป็นวันสุด ท้ายในเย็นวันเสาร์ .....

    ตั้งแต่เย็นมาวศินเห็นความเครียดของเพื่อนๆร่วมรุ่นหลายคน ....
    เริ่มจากกลุ่มไหนไม่รู้ที่เล่นบอลตรงระเบียงทางเดินจนรองเท้ากระจายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
    สักพักก็มีเพื่อนกลุ่มนึงเดินมาเคาะประตูชวนไปกินเหล้า ... วศิน โกวิท สุรศักดิ์ และ ชาย ปฏิเสธอย่างแข็งขันเพราะกำลังอ่านหนังสือ
    สักพักใหญ่ๆ ทุกคนในห้องก็ได้ยินเสียงคนตะโกนมาจากสระน้ำก่อนจะได้ยินเสียงโดดน้ำในสระ น้ำที่อยู่ถัดไปจากหอพัก (โอเค สระปิดแล้ว แต่คงปีนลงไปกัน)
    และถ้าใครที่ว่างสักหน่อย หากลองนั่งรอฟังดีๆจะได้ยินเสียงคนร้องตะโกนปลดปล่อยอารมณ์ออกมาจากห้องๆ หนึ่ง แล้วก็จะมีคนตะโกนแบบเดียวกันรับต่อไปเป็นทอดๆ 

    จะว่าเว่อร์เกินเหตุก็คงไม่ใช่ ถ้าหากจะลองคิดดีๆแล้วความเครียดตรงส่วนนี้อาจจะมากกว่าตอนที่เข้ามาเรียนปีหนึ่งเสียอีก 
    ตอนปีหนึ่งอาจจะเครียดเรื่องการปรับตัวมาเรียนในระดับมหาวิทยาลัย แต่ว่าเมื่อเข้ามาเรียนได้สักระยะหนึ่งความรู้สึกก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเมื่อสมัยที่เป็นนักเรียนมัธยมมากนัก แม้กระทั่งเมื่อเรียนมาถึงชั้นปี 4-5 แล้วก็ตาม ได้ขึ้นตึกผู้ป่วยก็แล้ว แต่ความรับผิดชอบในงานก็ขึ้นกับพี่แพทย์ประจำบ้านและพี่ปี6

    พรุ่งนี้จะเป็นวันที่หลายๆคนจะต้องเปลี่ยนจากเด็กที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร มาเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบเต็มที่แล้ว ...
    ชีวิตการเรียนแพทย์ที่ฝันไว้เมื่อตอนอยู่ม.ปลาย กำลังจะเริ่มจริงๆพรุ่งนี้!

    "เฮ้ย กูนอนก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ต้องไปแต่เช้า" ชายพูดก่อนจะปีนขึ้นเตียงชั้นบน แล้วก็คลุมโปงอย่างรวดเร็วโดยไม่รอให้เพื่อนคนอื่นปิดไฟห้อง ... ชายต้องขึ้นตึกอายุรกรรมพรุ่งนี้แล้ว

    วศิน โกวิท และสุรศักดิ์ มองหน้ากัน ... ทั้งสามไม่ต้องรีบนอนเนื่องจากแผนกที่ต้องขึ้นคือแผนกจิตเวชซึ่งจะเปิดสอน ตอนเช้าวันจันทร์ หากแต่ว่าวศินก็เดินไปปิดไฟเพดานห้องเพื่อให้ชายได้นอนอย่างเต็มที่

    "เอาไงดี" สุรศักดิ์พูดขึ้น ... นั่งมองเพื่อนทั้งสองคนที่นั่งกันตรงกลางห้องมืดๆ "เล่นไพ่?"
    "อย่าเลย เล่นแบบเงียบๆไม่สนุกหรอก" โกวิทส่ายหน้า
    "งั้นไปสนามหลวง" วศินเอ่ยขึ้นในที่สุด
    ...
    ...
    ...
    ...
    ความเงียบเข้าครอบคลุมทั่วไปทั้งห้อง มีเพียงเสียงเรือข้ามฟากที่ลอยมาจากทางระเบียง
    " ไม่มีทั้งทีวี ซีดี เครื่องเล่น .... แล้วจะไปยังไงวะ " สุรศักดิ์ส่ายหน้าก่อนจะโดนวศินตบหัว
    " สนามหลวงจริงโว้ย ... ไม่ใช่ดูAV ... ตกลงจะไปไม่ไป" วศินกระซิบ " รีบไปหน่อยเรือข้ามฟากยังไม่ทันปิดหรอก " 

    ทั้งสามออกจากห้องแล้วเดินลงบันได ที่ชั้นสองยังมีบางคนเล่นพูลหรือดูทีวีกันอยู่ประปราย  ... ลงไปที่ชั้นล่าง ร้านขายของใต้หอก็ปิดไฟเงียบเชียบพร้อมป้าย"หยุดหนึ่งวัน"ที่แปะไว้ตรงกระจก

    เดินเรื่อยๆตามทางเดินที่มีแสงสลัว ผ่านตึกอำนวยการก่อนที่จะเดินไปถึงที่ท่าน้ำ วศินควักตั๋วออกมาสามใบยื่นให้ที่ท่าก่อนจะเดินไปลงเรือ ... ลงจากเรือแล้วก็เดินเลียบไปทางกำแพงเก่าก่อนจะไปโผล่ใกล้ๆกับสนามหลวง
    หลังจากที่เดินไปดูที่นั่นที่นี่จนเบื่อแล้วทั้งสามก็เดินเข้าไปในพื้นที่สนามหญ้าก่อนที่จะหาที่เหมาะนั่งลง

    "ตอนเด็กๆเราเคยมาเที่ยวที่นี่กับพ่อแม่ตอนดึกๆ" วศินเอ่ย "ตอนนั้นงานวันที่ 5 ธันวาคม จำได้ว่าไฟสวยมาก คนเต็มไปหมด"
    "ดูไฟเหรอ ตอนเด็กๆเราก็เคยมาดู ... แต่มันนานจนจำไม่ได้แล้วว่ามาดูครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ " สุรศักดิ์พูด " แต่ก่อนนายสองคนชอบถ่ายรูปไม่ใช่เหรอ ไม่ได้แวะมาเลยหรือไง"
    "จะมาได้ยังไง ก็อยู่เวรพร้อมๆกัน" โกวิทตอบ

    นึกดูดีๆ ปีที่ผ่านๆมาทั้งสามคนแทบจะไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเป็นชิ้นเป็นอัน เพราะพอลงจากตึกก็มักจะมืดแล้วหรือไม่ก็มีงานที่ต้องส่งในวันรุ่งขึ้นจนไม่ มีเวลาไปไหนไกลๆ ... เทศกาลปีใหม่ คริสต์มาส หรือวันหยุดราชการหลายๆครั้งที่ผ่านมาก็มักจะต้องอยู่เวรยาวๆกัน

    และนั่นคือชีวิตนักศึกษาแพทย์ปี 4-5 ... ซึ่งพรุ่งนี้ไปเขาจะเป็นปี 6 เต็มตัวแล้ว

    "นายเคยเสียใจที่มาเรียนหมอไหม" วศินถามขึ้น "เสียดายไหมที่มาเรียนแบบนี้แล้วช่วงชีวิตมหาลัยแบบคนอื่นๆหายไป"
    "แต่ก่อนผิดหวังว่ะ" โกวิทตอบ " นายก็รู้ว่าตอนสอบสัมภาษณ์เราบอกอะไรอาจารย์ไป ... ถ้าตอนนั้นรู้มาก่อนว่าเรียนแล้วเป็นยังไง เราอาจจะไม่เลือกคณะนี้แล้วก็ได้" 

    ทั้งสามรู้ดีว่าคำพูดตอนสัมภาษณ์ของโกวิทคืออะไร ... เพราะเมื่อตอนที่อาจารย์ถามโกวิทว่าทำไมเขาถึงอยากเรียนแพทย์ คำตอบที่โกวิทให้อาจารย์คือ

    "ผมคิดว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่มั่นคงที่สุด และทำเงินดีที่สุดครับ"

    "ตอนนั้นเราคิดผิดว่ะ ... ถ้าจะหาอาชีพทำเงินต้องไปหาอาชีพอื่น ... เห็นเพื่อนๆสมัยมัธยมตั้งหลายคนมันทำงานแล้วอิจฉา เวลาว่างมันมากกว่าเราเรียนอีก" โกวิทบอก "ถ้าตอนสอบเรารู้ว่าเป็นอย่างนี้นะ เราเปลี่ยนไปสอบเนติแล้ว"

    "แล้วถ้าให้ย้อนเวลาได้ตอนนี้เลย ... นายจะยังมาสอบหมอไหม" สุรศักดิ์เอ่ยขึ้น ตายังจับจ้องไปที่แสงไฟข้างหน้า

    "ถ้าให้ย้อนกลับไปได้เหรอ " โกวิทพูดทวนประโยคที่ถูกถาม " ถ้าย้อนกลับไปได้ จะกี่ครั้งเราก็จะเอนท์หมอ"
    " แต่ก่อนเราเคยคิดว่าอาชีพนี้มั่นคงและทำเงินนะ แต่พอมาเรียนแล้ว เห็นพี่ๆที่ไปทำงานแล้ว เราก็รู้ว่ามันไม่ใช่เลย" เขาบอกต่อ " อาชีพนี้โดนฟ้องก็ง่าย รายได้คิดเป็นต่อชั่วโมงยังน้อยกว่าลูกจ้างของแม่เราเสียอีก"

    "ถ้ามันแย่อย่างนั้นจะยังมาเรียนทำไมวะ" สุรศักดิ์หัวเราะใส่ โกวิทหันมามองหน้าเพื่อนทั้งสองแวบนึงก่อนที่จะมองไปเบื้องหน้า
    " พอเราได้มาเรียนที่นี่ เราเพิ่งรู้ว่าเราอยากเป็นหมอออกไปช่วยเหลือผู้คนว่ะ"

    ทั้งสามคนเงียบไม่พูดอะไรต่อ และรับรู้ถึงคำตอบดังกล่าวที่เหมือนกันทั้งสามคน
    คำตอบที่ควรจะพูดออกไปในวันสอบสัมภาษณ์ หากไม่ได้พูดออกไปเพราะวันนั้นไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น
    แต่เป็นคำตอบที่ได้กล่าวออกมาเฉพาะต่อหน้าเพื่อนในวันนี้ ที่คำพูดที่ดูดีไม่ได้เป็นคะแนนใดๆทั้งสิ้น
    เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

    "กลับเหอะ" วศินลุกขึ้นยืน "เดี๋ยวนายสองคนออกค่ารถเมล์ให้ด้วยนะเว้ย เมื่อกี้เราออกค่าเรือไปแล้ว"
    "อ้าว แล้วไม่กลับเรือล่ะ มีตั๋วคูปองไม่ใช่เหรอ" สุรศักดิ์ถามกลับก่อนจะชะงักเมื่อวศินชี้ให้ดูนาฬิกาข้อมือที่ชี้เข็มไปที่ เวลาเที่ยงคืนห้านาที
    "ไม่มีว่ะ" โกวิทปลิ้นกระเป๋ากางเกงออก
    สุรศักดิ์ปลิ้นกระเป๋าเสื้อและกางเกงให้เพื่อนทั้งสองดู"เราก็ไม่มีเหมือนกัน .... ตะกี้นึกว่านายสองคนพกกระเป๋าตังค์มาซะอีก"
    ....
    ....
    ....
    เอาเหอะ ถือซะว่าเราสามคนตั้งใจมาดูวิวโรงพยาบาลจากสะพานแล้วกัน
    -_-'  แต่เดินตั้งสามกิโลแถมต้องข้ามสะพานตอนเที่ยงคืนเนี่ยนะ -_-'

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×