ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Extern เราจะข้ามผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน

    ลำดับตอนที่ #3 : -6 โรคประสาท? โรคแกล้งทำ? 6-

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ย. 52


    ตอนที่ 3 
    โรคประสาท? โรคแกล้งทำ?

    'ถ้ารู้ว่าต้องมานั่งตรงนี้ น่าจะลองใส่เสื้อคลุมมาก่อนดีไหมนะ' วศินคิดในใจขณะนั่งพัดให้หญิงสาวที่นอนอยู่ตรงหน้า

    1 ชั่วโมงก่อนหน้านี้
    "เฮ้ย วศิน เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วไปซื้อเทปกัน" โกวิทเรียก
    "ไม่ไปตอนเย็นดีกว่าเหรอ เดี๋ยวกลับมาไม่ทันล่ะยุ่งเลยนะเว้ย" วศินตอบ
    "เอาเหอะ ไปซื้อแล้วก็กลับเลย ทันอยู่แล้ว"
    วศินมองดูชุดตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจว่าแค่ข้ามไปฝั่งตรงข้ามไม่ใช่กลับบ้าน คงไม่ต้องใส่เสื้อคลุมก็ได้มั้ง ไปทั้งชุดนี้แล้วกัน

    เรื่องแรกที่ผิดพลาดเลยก็คือ แทนที่จะขึ้นเรือไปทางท่าพระจันทร์ เขาทั้งสองคนดันขึ้นเรือไปทางท่าช้างแทน
    เรื่องที่สองที่ผิดพลาดคือ เขาดันไปเสียเวลาเดินหาเทปในร้านแรกอยู่นาน ก่อนที่รู้ว่าเทปใต้ดินชุดที่ว่าไม่มีในร้านนี้ ต้องไปตรงร้านที่อยู่ตรงท่าน้ำ
    เรื่องที่สามที่ผิดพลาด ... นั่นคือพวกเขาตัดสินใจมาซื้อเทปตอนกลางวัน ! ! !

    "ทำไมคนเยอะวะ" โกวิทถาม "ไหนนายว่าเทปมันออกนานแล้วไม่ใช่เหรอ"
    "สงสัยวันนี้มีเทปชุดใหม่ออกล่ะมั้ง" วศินพูดพลางมองคนที่มุงกันจนเต็มหน้าร้านเทปจนล้นออกมาพลางกังวลใจว่าถ้าคนมากขนาดนี้จะซื้อเทปได้ทันกลับไปเรียนหรือไม่ แต่น่าแปลกที่คนที่ออกันอยู่เปิดทางให้เขาทั้งสองเดินเข้าไปได้โดยง่าย
    แล้วความแปลกใจก็หายไปทันทีที่เดินเข้าไปในร้านแล้วมีร่างหญิงสาวคนนึงนอนอยู่ ทันทีที่ก้าวเข้าไปเจ้าของร้านก็เรียกขึ้นทันที
    "น้องมาพอดีเลย ช่วยพี่หน่อย " เจ้าของร้านว่า "น้องผู้หญิงคนนี้เข้ามาในร้านแล้วจู่ๆก็เป็นลม พี่ไม่รู้จะช่วยยังไงเหมือนกัน"

    โกวิทเข้าไปนั่งลงข้างๆโดยวศินเดินตามติดเข้าไป หญิงสาวผมยาวในชุดนักศึกษานอนอยู่ที่พื้นโดยศีรษะพิงอยู่ที่ผนัง ข้างๆนั้นคือเพื่อนนักศึกษาผู้หยิงที่ยืนอยู่
    "เป็นยังไงบ้างครับ" โกวิทถาม เป็นคำถามที่ถามทั้งคนที่นอนอยู่และเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆ
    " หนะ.... หนะ.... เหนื่อย...." หญิงสาวที่นอนอยู่พูดอย่างตะกุกตะกัก ทรวงอกที่เคลื่อนขึ้นลงอย่างเร็วเป็นจังหวะแสดงให้เห็นว่าเธอต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการหายใจเข้าออก วศินจับชีพจรของหญิงสาวดู

    "เป็นอย่างนี้หลายครั้งแล้ว ไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวเอาถุงครอบแป๊บนึงก็หาย" เพื่อนที่ยืนอยู่กล่าวขึ้น คนที่นอนอยู่ก็พยักหน้า
    "มีชามือชาเท้าหรือยัง" วศินถาม นักศึกษาสาวพยักหน้ารับโดยไม่ลืมตา โกวิทร้องขอถุงกระดาษ ซึ่งมีคนเดินไปขอถุงกระดาษจากร้านขายของข้างนอกมา
    "หายใจเข้าออกช้าๆนะครับ" โกวิทครอบถุงลงไปให้แล้วให้เธอจับถุงเอง  "น่าจะhyperventนะ"

    จากนั้นโกวิทก็สอบถามทั้งเรื่องว่ามีไข้ไม่สบายหรือว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า เพื่อหาว่ามีอาการใดที่จะทำให้เป็นได้บ้าง นอกจากนั้นก็พูดคุยเพื่อจะบีบกลายๆให้เธอต้องคุย จะได้ไม่หายใจเร็ว
    สาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดน่าจะเป็นว่าเธอเดินมาอากาศร้อนๆเหนื่อยๆ พอหายใจเร็วขึ้นจากอากาศที่ร้อนระอุ สักพักก็เกิดอาการหายใจเร็วขึ้นมาและแน่นหน้าอกขึ้น

    คนป่วยเริ่มหายใจช้าลงแล้ว วศินให้เอากระดาษที่ครอบออกและเตรียมให้ลองลุกนั่ง ทันใดนั้นเพื่อนเธอก็พูดขึ้นมา
    "บอกแล้วว่าไม่เป็นอะไร เป็นแค่โรคประสาทธรรมดา บอกหลายครั้งแล้วว่าให้ไปหาจิตแพทย์ก็ไม่ยอมไป"
    พลันนั้นเองหญิงสาวก็ทำท่าจะร้องไห้แล้วก็เกิดอาการหายใจเร็วขึ้นมาอีก โกวิทเอาถุงกระดาษครอบไปใหม่อีกครั้งแล้วปลอบให้หายใจช้าลงใหม่ ส่วนวศินก็ลุกขึ้นแล้วก็พยาบามอธิบาย
    "เรื่องหายใจเร็วแบบนี้ตัวคนป่วยเค้าไม่ได้แกล้งทำนะครับ ถึงมันจะเป็นโรคที่ไม่ได้มีความผิดปกติรุนแรงอะไร แต่ว่าอาการพวกนี้เค้าไม่สามารถควบคุมได้ไม่ได้ตั้งใจให้เป็น"

    "แล้วถ้าร่างกายไม่ได้เป็นอะไร มันก็แปลว่าเป็นโรคประสาทไม่ใช่เหรอ" นักศึกษาชายคนนึงพูดแทรกมาจากด้านหลัง "แต่งตัวอย่างนี้แต่ไม่รู้เรื่องอะไร อย่างนี้คงจะเป็นแค่นักศึกษาแพทย์ใช่ไม๊"

    "วศิน ไม่ต้องไปคุยด้วยหรอก อธิบายไปก็ไม่เข้าใจหรอก" โกวิทโบกมือ ก่อนจะลองเอาถุงกระดาษออกอีกครั้ง
    "อาการหายใจเร็วแบบนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ บางคนเกิดจากมีอาการเหนื่อยด้วยสาเหตุอื่นแล้วหายใจเร็ว พอหายใจเร็วขึ้นระบบประสาทก็จะแปลผลผิดปกติไปแล้วกระตุ้นให้หายใจเร็วขึ้นเอง" โกวิทบอกทั้งเพื่อนและคนป่วย " เวลาเป็นแล้วจะเกิดอาการเหมือนคนที่เหนื่อย จะมีอาการแน่นหน้าอกมาก และชามือชาเท้า ความรู้สึกเหมือนจะจมน้ำ ... ซึ่งเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริงไม่ได้แกล้งทำ"
    "ดังนั้นผมว่าถ้ามีอาการแบบนี้บ่อยน่าจะลองหาเวลาไปตรวจที่โรงพยาบาลครับ เราต้องแยกโรคที่ผิดปกติทางร้างกายให้ได้ก่อน ถ้าไม่เจอแล้วค่อยว่ากันอีกที " โกวิทอธิบายต่อไปตาเหลือบไปทางนักศึกษาชายกลุ่มนั้น " อาการนี้ส่วนนึงเกิดจากความเครียดได้ก็จริง แต่มีไม่น้อยเกิดจากเหตุอื่นๆซึ่งการตรวจร่างกายหรือฟังอาการเฉยๆไม่สามารถแยกได้ ดังนั้นไม่ว่าใครจะว่าอย่างไรผมว่าคุณหาเวลาว่างไปตรวจดูสักครั้งจะดีกว่าครับ"

    นักศึกษาคนนั้นพอจะลุกขึ้นได้บ้างแล้ว เพื่อนของเธอก็ดูเข้าใจขึ้นบ้างและบอกกับวศินว่าแต่ก่อนเธอไม่เคยทราบเลยว่าอาการที่ว่านี้มันเป็นอย่างไร จากความเข้าใจทางสื่อต่างๆที่ได้ยินมา เธอเข้าใจมาตลอดว่าเพื่อนของเธอทำเพื่อเรียกร้องความสนใจ
    วศินและโกวิทคิดในใจเหมือนกันว่าเพื่อนคนนี้น่าจะเป็นเพื่อนที่ดีคนนึง เพราะว่าแม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจและพูดสิ่งที่ทำให้อาการแย่ลง แต่ขนาดเธอคิดอย่างนั้น เธอยังคอยดูแลเพื่อนคนนี้อย่างดี ...
    อย่างไรก็ตาม แม้การรักและเป็นห่วงจะเป็นสิ่งที่ดี แต่นักศึกษาแพทย์ทั้งสองเชื่อว่าความเข้าใจที่ถูกต้องจะช่วยให้การเป็นห่วงหรือดูแลดียิ่งขึ้น

    "เฮ้ย กี่โมงแล้ววศิน"    โกวิทร้องอย่างตกใจ ก่อนจะเหลือบไปเห็นนาฬิกาบอกเวลา บ่ายโมงครึ่ง  .... สายขนาดนี้อาจารย์ไม่ให้เข้าแน่ๆ

    "พี่ครับ งั้นผมขอนามบัตรร้านพี่หน่อยนะครับ" วศินรีบบอกพี่เจ้าของร้าน

    "ขอทำไมวะ"   โกวิทท้วง   "ช้าขนาดนี้แล้วเนี่ยนะ"

    "ก็เดี๋ยวไปถึงห้องเรียน จะได้ให้อาจารย์โทรมาเช็คไงว่าตกลงเราไม่ได้อู้"

     


    ปล. แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ไม่ได้เข้าห้องอยู่ดี -_-' กลัวเข้าไปแล้วอาจารย์กินหัว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×