ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Extern เราจะข้ามผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน

    ลำดับตอนที่ #2 : -6 บางสิ่งที่สำคัญกว่าทฤษฎี 6-

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 52


    ตอนที่ 2

    บางสิ่งที่สำคัญกว่าทฤษฎี  

    สามวันผ่านไปแล้ว สำหรับการใช้ชีวิตในเสื้อสามารถ
    สัปดาห์แรกเป็นสัปดาห์ที่พวกเขาทุกคนจะต้องเรียนรู้วิชาการพื้นฐานของแพทย์ซ้ำอีกครั้ง เมื่อวานนี้เขาเพิ่งได้เรียนเรื่องของการช่วยเหลือผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้นไป
    น่าแปลกที่เมื่อตอนสมัยปี4-5 พวกเขาสามารถท่องจำขั้นตอนในการCPRได้อย่างขึ้นใจ เวลาที่อยู่บนตึกผู้ป่วย พวกเขาก็สามารถทำตามขั้นตอนตามที่พี่สั่งได้อย่างแคล่วคล่อง
    แต่พออาจารย์ให้ทดสอบเคสจำลองและทำกับหุ่นจริงกลับยากเย็นเหลือเกิน  วศินหลงๆลืมๆขั้นตอนและตกหล่นบางอย่างไป


    นึกย้อนไปเมื่อวานนี้
    "คุณทำขั้นตอนถูกหมดทุกอย่าง นวดหัวใจถูกต้อง จับหน้ากากหายใจได้ถูกวิธี ให้ยาได้ถูกต้องทุกอย่าง ขั้นตอนตรงนี้ยอดเยี่ยมกว่าทุกคน แต่รู้ไหมว่าทำไมคนไข้ไม่ฟื้น" อาจารย์บอกสุรศักดิ์หลังจากทดสอบเสร็จ  ก่อนจะเดินไปที่หุ่นแล้วง้างปากล้วงบางอย่างออกมา"คุณไม่ได้ตรวจในปาก ซึ่งในนั้นมีฟันปลอมกับข้าวเหนียวคาอยู่"

    "เอ้า นวดเข้าไป ... ซี่โครงหักซี่ที่หนึ่ง ซี่โครงหักซี่ที่สอง ซี่โครงหักซี่ที่สาม ซี่โครงหักซี่ที่สี่ เอ้า พอก่อน"อาจารย์ลุกเข้าไปนั่งข้างๆนักศึกษาแพทย์สาวที่นวดหัวใจหุ่นอยู่ "ไหนคุณเอามือออก จากนั้นวางมือให้ผมดูในตำแหน่งที่ถูกต้องซิ"

    "ช๊อตครั้งที่ 3 360จูลล์ ถูกต้อง คนไข้หัวใจเต้น ถูกต้อง แต่คุณเห็นมือผมหรือเปล่า" อาจารย์บอกและชี้ไปที่มือที่จับตรงขาคนไข้ "ผมยังจับเท้าคนไข้อยู่ระหว่างที่คุณช๊อตไฟฟ้า อย่าลืมสิว่าก่อนจะช่วยคนไข้คุณต้องระวังอันตรายที่จะเกิดกับคุณและเพื่อนร่วมงาน ถ้าเป็นของจริงคุณต้องมานวดหัวใจผมต่อแล้ว"

    เมื่อวานนี้หลังจากสอนเรื่องการCPR หรือการช่วยเหลือผู้ที่หยุดหายใจหัวใจหยุดเต้น แทบจะไม่มีใครเลยที่ผ่านได้ตั้งแต่ครั้งแรก  แม้ทุกคนจะรุ้เรื่องทฤษฎีดี แต่เมื่อมาถึงการปฏิบัติจริงในสถานการณ์ที่อยู่นอกตำรา เขาจึงได้รู้ว่าการตัดสินใจมันต้องมองคำนึงถึงหลายสิ่งหลายอย่างมากกว่าที่คิด 

    เช้านี้มีการเรียนต่อภาคทฤษฎี อาจจะเนื่องด้วยเป็นวันที่สามของการเรียนแล้ว ความตื่นเต้นที่คลายลงไปทำให้หลายๆคนกลับไปสู่สภาวะปกติเหมือนตอนเป็นปี 5 เช้านี้หลายๆคนจึงมาสายกันกว่าปกติ ...แม้ว่าตอนนี้อาจารย์จะมารอได้สักพักนึงแล้วก็ยังมีคนที่ไม่มาอีกถึงหนึ่งในสาม

    "ผมให้เวลาอีก 10 นาที ถ้าหลังจากนี้ผมจะปิดห้องไม่ให้เข้าแล้ว" อาจารย์ประกาศ

    แต่ละคนที่เห็นว่าเพื่อนของตนยังไม่มารีบโทรตามเพื่อนๆ  ระหว่างนั้นก็มีคนทยอยเข้ามาในห้องทีละคนสองคน
    "เฮ้ยวศิน โกวิทไปไหนวะ" สุรศักดิ์กระซิบถาม "โทรแล้วไม่มีสัญญาณ"
    "เห็นมันว่าจะไปซื้อของที่โรงอาหารน่ะ" วศินตอบสั้นๆ เพราะเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโกวิทไปไหน แต่เนื่องจากโกวิทใช้PCTซึ่งอับสัญญาณในโรงพยาบาลมาก ดังนั้นเป็นไปได้ว่าโกวิทอาจจะกำลังเดินอยู่ตรงถนนระหว่างตึกซึ่งสัญญาณเข้าไม่ถึง

    อาจารย์มองนาฬิกาก่อนจะเดินไปเลื่อนปิดประตู พอดีกับที่โกวิทแทรกมือเข้ามาพอดี
    "ขอโทษครับอาจารย์" โกวิทพูดขึ้น
    "ทำไมมาสาย" อาจารย์ถาม "เมื่อสักครู่นี้ผมบอกเพื่อนๆคุณไปแล้วว่าถ้าใครมาสายกว่านี้ 10 นาที ผมจะไม่ให้เข้าห้อง คุณมีคำอธิบายดีๆที่จะให้ผมให้คุณเข้ามาเรียนไหม"
    โกวิทยืนเงียบแป๊บนึง ก่อนที่จะตอบไป "ผมท้องเสียครับอาจารย์"
    บางคนเงยหน้าขึ้นมองนิดนึง คำว่าท้องเสียเป็นการแก้ตัวขั้นโบราณที่นักศึกษาใช้กันทุกคณะ เป็นเหมือนคำแก้ตัวว่ารถติด ซึ่งปกติแล้วเวลาอ้างแบบนี้ไปอาจารย์ก็จะให้นั่งรอข้างหน้าห้อง ไม่ให้เข้าอยู่ดี

    "งั้นเข้ามาได้ มีเหตุผล ... ธรรมชาติเรียกร้องเป็นใครก็ต้องทนไม่ไหว" อาจารย์ปล่อยให้โกวิทเข้าห้องก่อนที่จะปิดประตู จากนั้นอาจารย์ก็ให้เจ้าหน้าที่ประจำห้องไปหยิบอุปกรณ์การสอนบางอย่างมา  ... โกวิทเดินเข้ามาอย่างงงๆก่อนที่จะไปนั่งที่นั่งข้างวศินและสุรศักดิ์
    "ทำไมอาจารย์ให้เข้าวะ เรากะว่าพอแก้ตัวเสร็จอาจารย์จะให้นั่งนอกห้อง" โกวิทกระซิบ
    สุรศักดิ์เขยิบเข้าไปใกล้ๆ "ก็ดีแล้วนี่หว่า เงียบๆไปเหอะ"
    "แต่นี่มันโกหกอาจารย์นะเว้ย" โกวิทกระซิบตอบอีกครั้งก่อนจะโดนขัดจังหวะจากอาจารย์

    "มีปัญหาอะไรหรือเปล่า โกวิท" อาจารย์ถาม ... ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าแต่ว่าทุกคนในห้องรู้สึกว่าอาจารย์ยิ้มกว่าปกติ"
    "......เอ่อ ....." โกวิททำท่าลังเลอยู่ชั่วขณะ " อาจารย์ครับ เมื่อกี้ที่ผมบอกว่าท้องเสีย จริงๆผมไม่ได้ท้องเสียครับ "

    ในห้องเงียบกริบจะแต่มีเสียงเบาๆจากบางกลุ่มพูดว่า'โง่'ลอยมา  กับเสียงพึมพัม ... การพูดความจริงสารภาพทั้งที่อาจารย์ให้เข้าห้องมาแบบนี้มันดูโง่จริงๆ
    "งั้นผมคงต้องลงโทษคุณโทษฐานโกหกผม และให้คุณนั่งหน้าห้องเนื่องจากมาสาย คุณตกลงไหม"
    "ครับอาจารย์"โกวิทพยักหน้ารับ ...แม้ว่าจะโดนบอกว่าจะหักคะแนน แต่ก็สบายใจกว่าเมื่อครู่ ... ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่การศึกษาก็เปิดประตูแล้วหยิบอุปกรณ์มาส่งให้อาจารย์

    "ตอนนี้คุณเป้นPseudoexternหรือพูดง่ายๆว่าอีกไม่กี่วันคุณจะกลายเป็นextern นักศึกษาแพทย์ปี6ชั้นปีสูงสุดของโรงพยาบาล  ... อีกเพียงปีเดียวคุณก็จะกลายเป็นแพทย์เต็มตัว" อาจารย์พูด "สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งคือเรื่องของความซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับแพทย์ ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม"
    " ในฐานะแพทย์ การพูดไม่จริงหรือโกหกแม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจจะส่งผลต่อผู้อื่นได้ อย่างเมื่อครู่การโกหกของคุณ......"  นิ้วอาจารย์ชี้ไปที่โกวิท   "......ทำให้ผมอนุญาตให้คุณเข้ามาในห้องได้โดยเพื่อนคนอื่นๆต้องรออยู่นอกห้อง ดังนั้นแม้ว่าคุณจะสารภาพแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ผิด" 

    อาจารย์สวมถุงมือแล้วเปิดฝาอุปกรณ์ที่เจ้าหน้าที่นำมาให้เมื่อสักครู่ ก่อนจะชูให้เห็นนิ้วที่มีวาสลีนเคลือบอยู่
    "เมื่อสักครู่หากเค้าไม่สารภาพออกมา สิ่งที่ผมจะทำคือให้ไปเก็บอุจจาระมาพิสูจน์ว่าเหลวจริง หรือถ้าไม่มีอุจจาระ ผมจะล้วงก้นพิสูจน์ว่าอุจจาระแข็งหรือไม่ ด้วยถุงมือข้างนี้" อาจารย์กล่าวกับทั้งห้อง "ใครที่พูดขึ้นว่าโง่ ผมคงต้องขอบอกคุณว่าเค้าฉลาดมากกว่าที่ยอมสารภาพก่อนที่จะโดนแบบนี้" 

    ว่าแล้วอาจารย์ก็กระดิกนิ้วดุกดิก!

     

    "เอาล่ะ คุณโกวิท ...เชิญ" อาจารย์ผายมือเชิญนักศึกษาหนุ่มออกจากห้อง ...

    หลังเลิกชั่วโมงโกวิทเดินมาสมทบกับเพื่อนทั้งสอง
    "มีใครว่าอะไรหรือเปล่าวะ" โกวิทถาม
    "อย่างเคยแหละ มีบางคนคุยกันว่าหมั่นไส้นาย ทำเป็นเท่เอาหน้า" วสินว่า "แต่ไม่เยอะหรอก พวกเดิมๆ"
    "ไม่ต้องไปสนใจหรอก นายสารภาพเพราะความสบายใจของนายเองแค่นั้นพอแล้ว" สุรศักดิ์ปลอบ

    "เอาเหอะ ช่างหัวมันเถอะ... ตอนนี้ขอแค่ไม่โดนล้วงก้นก็ถือเป็นกำไรแล้ว ยังเสียวก้นไม่หายเลย"  โกวิทตอบพลางคลำก้นตัวเองเบาๆ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×