คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : -6 กลืนไม่เข้า คายไม่ออก 6-
กลืนไม่เข้า คายไม่ออก
ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั่วกาย วศินลุกขึ้นบิดขี้เกียจอย่างเกียจ คร้านก่อนจะเดินไปอาบน้ำ ก่อนจะเปลี่ยนชุดเป็นชุดexternแล้วหยิบหนังสือเด็กกดลิฟท์ลงไปที่ชั้น1 แม้ว่าเมื่อคืนจะอยู่เวรจนดึกและตอนนี้แสงอาทิตย์ยังไม่ทันส่องเต็มที่ดีเลย แต่งานก็คืองาน
ชายหนุ่มเดินไปถึงตึกเด็กที่อยู่อีกฟากหนึ่งของโรงพยาบาลและกดลิฟท์ขึ้นไป ที่หอผู้ป่วยเด็กแล้วก็เดินเข้าไปดูคนไข้ที่ตนเองรับ วศินตัดสินใจดูเด็กคนที่ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจและต้องพ่นยาถี่ๆก่อนเพราะ คิดว่าหากหายใจได้ไม่ดีก็อาจจะต้องจัดการตั้งแต่ก่อนที่พี่แพทย์ประจำบ้านจะ มาถึง
เป็นอย่างที่คาดไว้ เพราะว่าเด็กหายใจหอบอยู่เนื่องจากยังไม่ได้พ่นยาในช่วงเช้า วศินเลยเดินเข้าไปถามพี่พยาบาลเกี่ยวกับยา
"externต้องผสมยาเองนะ ยาอยู่ที่ตรงตู้นั้น ส่วนหลอดดูดยาก็อยู่ตรงนั้น "พยาบาลชี้ให้ "เด็กคนนี้ต้องพ่นยาสลับกัน2ตัวทุก2ชั่วโมง เพื่อนหมอบอกแล้วใช่ไหม"
วศินผละไปทางตู้ยาแล้วก็เปิดออกดู เขาหยิบหลอดดูดยาออกมาแล้วดูดน้ำยาออกมาใส่กระเปาะสำหรับพ่นยาอย่างระมัด ระวังไม่ให้สัมผัสเข็มโดนกัน
ความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่ายาจะเข้าไปที่ปอดโดยตรง หากไม่ระวังก็อาจจะนำเอาเชื้อโรคเข้าไปอยู่ในตัวยาและเข้าสู่ตัวเด็กได้
วศินกำลังจะวางเข็มแล้ว และเขาก็นึกขึ้นได้
เด็กคนนี้ต้องพ่นยาทุกสองชั่วโมง ดังนั้นเขาต้องผสมยานี้อีก 4 ครั้งในช่วงเช้า ... จะดีไหมถ้าเขาจะผสมรวดเดียวไปเลยแล้วแช่ตู้เย็นไว้จะได้เสร็จเร็วๆและไม่ ต้องมาเสียเวลาอีก
แต่คิดแล้วเขาก็สลัดความคิดดังกล่าวทิ้งไป เพราะว่ารู้อยู่เต็มอกว่าการผสมยากับน้ำเกลือแล้วเก็บไว้ ก็มีความเสี่ยงที่เชื้อโรคจะปนเปื้อนเข้าไปได้
เก็บเครื่องมือแล้วนำกระเปาะพ่นยาไปที่เด็ก วศินครอบที่พ่นยาไปที่เด็กและเปิดออกซิเจนให้ตัวยาพ่นออกมา เสียงออกซิเจนวิ่งผ่านกระเปาะดังว้ดพร้อมกับควันสีขาวที่ลอยออกมา เด็กน้อยบิดตัวหนีให้หลุดจากยา ... วศินไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องคอยจับหน้ากากพ่นยาให้อยู่กับที่เพื่อไม่ ให้เด็กดิ้นหลุดจากยาได้
หมดไป 20 นาทีแล้วสำหรับเช้านี้ แต่วศินเพิ่งดูคนไข้ได้แค่คนเดียวเอง
คนต่อมาคือเด็กที่มีแผลไฟไหม้ทั่วตัว ... วศินเดินไปที่อ่างล้างมือแล้วล้างมือให้สะอาดก่อนที่จะกลับไปตรวจร่างกาย เด็ก คำนวณเรื่องน้ำเกลือที่จะให้ จากนั้นกลับไปล้างมือและเดินไปดูเคสต่อไปต่อ
คนต่อๆมา ทั้งเด็กที่มีฮอร์โมนจากสมองผิดปกติ เด็กโรคเมตาโบลิค เด็กโรคทางระบบประสาท .... วศินถามคนเฝ้าเรื่องอาการที่เป็นในตอนนี้และสิ่งที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้
วศินกำลังตวงปัสสาวะและเอาไปส่องในเครื่องพอดี ตอนที่นวล วรรณ และแก้ว เดินเข้ามาในวอร์ด
"วศินราวน์คนไข้เสร็จหรือยัง" วรรณถาม
"เกือบแล้วแหละ ของเราเหลือตรวจฉี่คนไข้คนนี้แล้วก็ไปตรวจน้ำตาลเด็กคนนั้น" วศินบอก "ถ้าสั่งยาสองคนนี้เสร็จก็หมดแล้วล่ะ"
สามสาวไม่ตอบอะไรแต่ต่างแยกย้ายไปดูคนไข้ของตน วศินจดตัวเลขที่อ่านได้จากนั้นนำเครื่องมือไปล้างก่อนที่จะไปเปิดหนังสือดู ตัวยาที่จะสั่ง
"DDAVP .... สั่งยังไงฟระ" เขารำพึงกับตัวเองก่อนที่จะมีมือมาจับที่บ่า
"ราวน์เสร็จหรือยัง" เสียงทุ้มๆดังขึ้นจากด้านหลัง ... พี่ธราธิปนั่นเอง
"เสร็จแล้วครับพี่ แต่เหลือต้องปรับยาพ่นจมูก" วศินตอบ " ผมไม่รู้จักยาตัวนี้ เลยยังไม่รู้จะสั่งยังไง "
"ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเรามาราวน์รวมกันก่อนแล้วเดี๋ยวดูกันทีละเคส" พี่บอก
จากนั้นก็เริ่มการราวน์ผู้ป่วยที่ละราย ทั้งกลุ่มเดินไปทีละเตียงและดูเด็กที่ป่วยแต่ละคนๆ เคสของวศินทางพี่แพทย์ประจำบ้านออกจะดูผ่านๆเร็วๆหน่อย เพราะส่วนหนึ่งวศินได้มาดูไว้ก่อนแต่เช้าแล้ว จะเหลือก็แต่ปรับยา
อีกส่วนหนึ่งคือ เคสเหล่านี้นอนในตึกมานานแล้ว ทำให้การรักษามีแผนที่วางไว้แล้วชัดเจนไม่ต้องทำอะไร
... จะว่าไปถือเป็นสองด้านที่ถ่วงกันอยู่ ด้านนึงเมื่อวานนี้วศินต้องอ่านประวัติและนั่งหลังขดหลังแข็งวิเคราะห์สรุป ประวัติมากมายสองสามหน้ากระดาษ แต่อีกด้านนึงงานที่วศินได้ทำตอนที่รับคนไข้ไว้ในความดูแลก็น้อยลงตามไปด้วย ...
ถือเป็นโชคดีในโชคร้ายที่สามคนนั้นโยนเคสมาให้วศิน!
"เอ้า ราวน์ไปถึงไหนแล้ว" เสียงดังมาจากทางเดินในขณะที่ทั้งกลุ่มอยู่ในห้องคนไข้ห้องสุดท้าย
ในเมื่อแพทย์ประจำบ้านปี 1 แพทย์ประจำบ้านปี 3 และ นักศึกษาแพทย์ปี6 อยู่กันพร้อมหน้าแล้ว จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจาก
"สวัสดีครับอาจารย์" พี่ธราธิปโค้งให้อาจารย์พร้อมกับน้องคนอื่นๆ
"ไหนใครได้เคสอะไรพรีเซนท์ให้ฟังหน่อยสิ" อาจารย์พรไสวเอ่ยขึ้นพลางหยิบเอาชาร์ทผู้ป่วยห้องดังกล่าวมาดู วรรณซึ่งเป็นเจ้าของเคสเล่าประวัติคนไข้ให้ฟังอย่างไม่ตกหล่น อาจารย์พยักหน้าอย่างพอใจก่อนจะเดินไปที่เตียงอื่นๆ
ถึงเคสของวศินก็ปราศจากปัญหาเช่นกัน เพราะว่าวศินเพิ่งสรุปประวัติผู้ป่วยเมื่อคืนนี้มา
"ทำไมเคสของเธอมีแต่เคสแบบนี้ล่ะ" อาจารย์ทัก "ทำไมมีแต่เคสเรื้อรังทั้งนั้นเลย"
แต่อาจารย์ก็ไม่ได้ว่าอะไร เดินต่อไปยังเคสของนวลและแก้ว
แต่มาถึงนวลกับแก้วปัญหาก็เกิดเพราะทั้งสองยังราวน์คนไข้ไม่เสร็จ และเขียนรับเมื่อคืนนี้ก็ไม่ทันเสร็จดี
"เมื่อเช้าหนูยังทำหัตถการไม่เสร็จเลยค่ะอาจารย์ เคสพวกหนูสองคนมีเจาะเลือดมีแล็ปที่ต้องทำหลายอย่าง" นวลพูดขึ้น
"เธอพูดมีเหตุผล แต่มันฟังไม่ขึ้นนะ" อาจารย์พูด "ยังไงรับเคสไว้แล้วก็ต้องทำให้เรียบร้อย พวกเธอมากันกี่โมงล่ะ รับกันแค่คนละ 6 เคส น่าจะทันนะ"
ทั้งสองคนยืนเงียบไม่พูดอะไร อาจารย์หันมาทางวศิน
"ส่วนเธอ เคสเธอเองก็มีแต่เคสที่ซับซ้อน ถ้าเธอรับเคสแบบนี้ในมือแล้วคนไข้ยังไม่กลับ เธอก็จะไม่ได้คนไข้รายอื่นมาดู การเรียนรู้ก็จะไม่สู้เพื่อนๆ" อาจารย์พูดเสียงเข้ม "คิดยังไงเธอถึงรับแต่เคสแบบนี้ .... เดี๋ยวเธอเอาเคสของเธอไปแลกกับเพื่อนสองคนนี้ กระจายให้เค้าไปแล้วเอาเคสเค้ามา จะได้เรียนรู้เท่าๆกัน"
อาจารย์ไปแล้ว ... ทั้งสี่คนกลับไปที่ห้องพักแพทย์ที่ด้านหน้าวอร์ดแล้วแบ่งเคสกัน
"วศินเอาเคสโรคด้านฮอร์โมน โรคเมตาบอลิกกับเด็กแผลไฟไหม้มาให้เราสองคนแล้วกัน" นวลเอ่ยขึ้นหลังจากเปิดดูชาร์ท "แล้วเดี๋ยวเราแบ่งเคสไปให้สามเคส"
วศินไม่ว่าอะไร ... นึกเสียดายเหมือนกันที่อุตส่าห์นั่งอ่านประวัติไปร่วมๆ 4 ชั่วโมงเมื่อเย็นวาน แต่จะทำอย่างไรได้ ก็อาจารย์สั่งมานี่นา
เขารับเอาเคสของสามสาวมาคนละเคส ... และเปิดออกอ่านดูเพื่อจะพบว่า ทั้งสามเคสยังไม่ได้เขียนรับเลย
"เมื่อวานเราเขียนรับไม่ทันน่ะ" แก้วตอบ
วศินไม่ว่ากระไร นอกจากก้หน้ารับชะตากรรมต่อไป ... นี่เขาต้องมานั่งอ่านประวัติคนไข้ใหม่หมดอีกสามคนเลยหรือนี่
หลังเลิกตอน 4 โมงเย็น วศินเขียนรับเคสทั้งสามเสร็จแล้วและเดินไปล้างมือ
เขามองไปที่ถังขยะตรงนั้น ... และเห็นกระดาษอะไรบางอย่างถูกขยำ
เขาหยิบมันขึ้นมาดู
กระดาษที่มีลายมือของเขา 6 แผ่น ถูกขยำทิ้งไว้ในถังขยะ!
ชายหนุ่มเปิดอ่านดูคร่าวๆ มันคือกระดาษที่เขาเขียนสรุปเคสสามเคสที่เพิ่งยกให้เพื่อนทั้งสามคนไปนี่เอง ... เขาเดินไปหยิบชาร์ทผู้ป่วยของนวลมาดู ... เปิดอ่านหน้ารับคนไข้ ภายในมีใบรับผู้ป่วยที่เขียนไว้ ... ทั้งหมดเป็นสำนวนและสิ่งที่เขาสรุปไว้
นวลแค่ลอกมันลงไป จากนั้นเอาต้นฉบับของเขาทิ้งถังขยะ
....
....
....
ถามว่าผิดไหม
มันไม่ผิดหรอก
แต่ว่าวศินรู้สึกเสียความรู้สึกอยู่บ้าง ... ทำไมต้องดึงของเขาออกด้วยล่ะ ... ปล่อยทิ้งไว้ก็ได้ไม่ใช่หรือ
....
แล้วเขาก็ขยำใบรับผู้ป่วยทั้ง 6 ใบนั้นทิ้งลงถังขยะใบเดิมก่อนจะเดินออกจากวอร์ด
****************
ความคิดเห็น