คนรักที่ฉัน..ไม่มีสิทธิ์แล้ว
คนรักที่ฉัน..ไม่มีสิทธิ์แล้ว
ผู้เข้าชมรวม
290
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
คนรักที่ฉัน..ไม่มีสิทธิ์แล้ว
สิ่งที่จะเขียนต่อจากนี้ไป เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับฉัน ในครั้งหนึ่งของกาลเวลา และคงเป็นเหตุการณ์ที่ฉัน..คงไม่มีวันที่จะ..ลบลืม.
ภายใต้ลมเย็นหน้าลานกว้างแห่งหนึ่ง..ในวันที่ความรักได้แปรเปลี่ยนไปแล้วโดยสิ้นเชิง ฉันและเธอมาพบกันอีกครั้ง การได้พบกันในวันนั้น..มันย่อมมีที่มาที่ไปซึ่งจะเขียนทีหลัง วันนั้น..เราพูดคุยกันประมาณว่า เราต่างเสียดายความสัมพันธ์ดีๆที่มีร่วมกันมา เพราะก่อนหน้าที่เราจะคบกันเราก็เป็นเพื่อนกันมาก่อน ที่สำคัญคือความเข้าใจกัน ความรู้ใจกันและกัน เป็นสิ่งที่มีค่าและใช้เวลาสะสมมานาน เราจึงตกลงกันว่าจะรักษามันไว้ด้วยการสนิทกันแทน และเราก็จับมือกันแบบเพื่อน ฉันตกลงรับปากไปเพียงเพื่อที่จะได้มีเธออยู่เคียงข้างบ้าง..ในบางครั้ง แต่ฉันก็ทำใจยอมรับฐานะ *เพื่อน*..ที่เธอหยิบยื่นให้ไม่เคยได้เลยจริงๆ.
ความจริงตอนที่ฉันและเธอเลิกกัน ฉันไม่มีโอกาศได้เจอหน้าเธอด้วยซ้ำ แค่คุยโทรศัพท์กันเท่านั้นเอง แต่พอเลิกกันแล้วทำให้ฉันนึกย้อนขึ้นมาว่า "ฉันเคยโกหกเธอเพื่อไปหาใครคนอื่นได้ มันก็คงไม่แปลกอะไรเลยที่เธอจะโกหกฉันเพื่อไปหาใครคนอื่น"..บาปกรรมมันมีจริง แล้วก็ตามทันเร็วโครตๆ ฉันนึกรู้สึกผิดที่ครั้งหนึ่งเคยโกหกแฟนเก่าเพื่อจะมาอยู่กับใครอีกคน..ที่ไม่ใช่เธอ ไอ้ข้ออ้างที่ว่าไม่ว่าง ไปหาไม่ได้ ติดงาน เธอก็ใช้ข้ออ้างเหล่านั้น มาแก้ตัวสนองคืนกับฉันทั้งหมดในเวลาเพียงแค่ 3 เดือน เหตุการณ์เหมือนกันแทบทุกอย่าง เพียงแต่ครั้งนี้คนที่เจ็บ..คือตัวฉันเอง.
ช่วงนั้นวงจรชีวิตฉันเละเทะไปหมด วันๆนั่งซึมเป็นชั่วโมงๆโดยคิดอะไรไม่ออกนอกจากเรื่องที่เราต้องเลิกกัน..ว่ามันเป็นเพราะฉัน หรือ เพราะอะไร?
ฉันคิดว่าจากนี้ไปเราคงไม่มีวันจะได้เจอกันอีกแล้ว เชื่อมั้ยตั้งแต่เลิกกับเธอ..ฉันไม่เคยรักใครได้อย่างสนิทใจอีกเลย มันเหมือนคนโดนหมากัดจนทำให้กลัวหมาไปตลอดชีวิตนั่นเอง ฉันเลิกเชื่อในเรื่องเนื้อคู่ หรือ พรหมลิขิตตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา เรื่องนี้ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตสำหรับเรื่องความรักเลยก็ว่าได้.
"มานั่งเป็นเพื่อนเราก่อนสิ เรานัดเจอเพื่อนๆไว้แถวๆนี้ตอนค่ำน่ะ"...สิ้นเสียงเธอทางโทรศัพท์ไปไม่กี่อึดใจ..โดยไม่ทันคาดฝัน แฟนเก่าของฉันก็มายืนอยู่ตรงหน้าเสียแล้ว "ความรู้สึก"..ข้างในมันบอกไม่ถูกว่าดีใจหรือเปล่า จะเรียกว่าสับสนก็คงไม่ใช่ เพียงแต่ความรู้สึกนี้ฉันไม่เคยพบเจอมาก่อน..ในชีวิต.
คลับคล้ายการถูกรถชนกะทันหัน และ ความเจ็บปวดยังไม่ทำงาน แต่ที่แน่ๆคือฉันไม่กล้าสบตาเธอเหมือนเก่า ไม่แสดงตนใกล้ชิดเธอเหมือนที่พยายามจะทำก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ว่าเกลียด หรือ กลัวเธอ...แต่ระยะห่างที่ว่ามันเกิดขึ้นเอง.
เราคุยกันในเรื่องสารทุกข์สุขดิบเหมือนเพื่อนเก่าที่คุ้นเคยกัน หยอกล้อกันบ้าง ภายนอกแล้วเธอยังคงเหมือนเดิม แต่ทัศนคติบางอย่างในหัวที่ฉันชอบเรียกว่า "ของเหลว"..นั้นมันเปลี่ยนสีไปแล้ว..รวมถึงภาชนะที่ใส่มันด้วย ซึ่งเธอน่าจะซึมซับมาจากคนรักใหม่ของเธอ คนเคยรักกันเมื่อมาเจอกันอีกครั้ง ส่วนใหญ่ก็ยังคงคาดหวังความเป็นตัวตนแบบเดิมไว้ แต่เมื่อฝ่ายหนึ่งเปลี่ยนแปลงไป..อีกฝ่ายก็จะมองด้วยสายตาแง่ลบ แต่บางทีก็ลืมคิดไปว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว จะผิดหรือถูกนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะคนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้คิดเรื่องนี้จริงจังด้วยซ้ำ..ตัดสินกันแค่ว่าเธอเปลี่ยนไปในทางที่ถูกใจฉันไหมมากกว่า ฉันจึงพยายามไม่ตัดสินเธอ แต่มันก็ยากยิ่งขึ้นเมื่อฉันถลำตัวมาร่วมวงกับเพื่อนๆของเธอในค่ำนั้น ได้ยินสิ่งที่พวกเธอคุยกัน ทั้งความคิด เป้าหมายชีวิต แล้วมันขัดแย้งใจชอบกล ซึ่งก็น่าแปลก..เพราะก่อนหน้านี้ฉันก็เคยอยู่ในวงเพื่อนกลุ่มนี้ แต่ไม่เคยสะดุดหูกับสิ่งที่เคยได้ยินมาก่อนเลย หรือเพราะฉันเป็นคนนอกไปแล้ว พวกเธอจึกกล้าเปิดเผยความต้องการที่ชัดเจนมากขึ้นโดยไม่ต้องแคร์ว่าฉันจะชอบหรือไม่.
ขากลับฉันไปส่งแฟนเก่าที่หอ ฉันจับมือเธอ แต่เธอก็ค่อยๆชักมือกลับอย่างช้าๆ และนั่นคงเป็นเหตุที่ทำให้ฉันต้องกลับมานอนร้องไห้คนเดียวอีกครั้ง.
TO BE CONTINUE / โปรดติดตามตอนต่อไป
นัท morgusso@hotmail.com
ผลงานอื่นๆ ของ Nut Innocent ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Nut Innocent
ความคิดเห็น