ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [DRRR!]Stop! You're mine [Shizaya]

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter2

    • อัปเดตล่าสุด 31 ส.ค. 54


     

    ทำไมกันนะ....

    ทำไมกัน

    ทั้งที่ก็ไม่ได้ทำอะไรให้

    ทั้งที่ตั้งใจว่าจะลองคุยดีๆด้วย

    ทว่าทุกครั้งที่เห็นหน้า...

    ทำไม....ฉันถึงหยุดเกลียดแกไม่ได้สักที

     

    Fic Durarara!

    Stop! You're mine

     

    Author:: OujiKitsu

    Pairing:: Shizaya(Shizuo x Izaya)

    Warning:: Yaoi

    Rate:: PG in this chapter

     

      ฝัน...?

    ไม่ใช่สิ ในเมื่อเขายังมีสติ จะเรียกว่าฝันได้ยังไง

    นั่นคือความคิดของคนที่ไม่ถนัดใช้ความคิด โปรโตซัวตัวเขื่องกำลังมองไปรอบๆตัวที่แสนจะดูแปลกตา

    ที่แน่ๆมันไม่ใช่อิคิเคบุโระ

    ไม่สิ มันไม่น่าจะใช่ญี่ปุ่นด้วยซ้ำ

    นัยน์ตาสีทองใต้แว่นกันแดดสีน้ำเงินจับจ้องไปยังแชงเดอเรียช่อยักษ์ แจกันดอกไม้ แหละเหล่าผู้คนในชุดฟูฟ่องไสตล์วิคตอเรียซึ่งดูจะมองไม่เห็นเขา ทั้งยังพูดคุยเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน

    นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย!?

    "อ๊ะ! ขอโทษ"เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างแผ่วเบา พร้อมร่างเพรียวบางใต้ชุดขาวซึ่งเซไปหลายก้าวทั้งๆที่เจ้าตัวเป็นคนเดินมาชน

    เดี๋ยวก่อนนะ ชนงั้นหรอ

    สมองที่ถูกใครบางคนปรามาสว่าโปรโตซัวประมวลผลอย่างรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พร้อมเสียงเข้มที่เอ่ยถามดังลั่นจนร่างบางผงะด้วยความตกใจ

    "เธอมองเห็นฉัน?!"

    หากแต่ยังไม่ทันตอบ ทุกสิ่งรอบกายก็เริ่มหลุดเป็นชิ้นราวจิ๊กซอที่โดนรื้อ

    สิ่งสุดท้ายที่เขาเห็นก็มีเพียงนัยน์ตาสีแดงที่แสนคุ้นเคยเท่านั้น....

     

    โครมมม!!

    เสียงดังสนั่นที่ทำให้คนที่เผอิญเดินอยู่แถวนั้นสะดุ้งสุดตัว เมื่อจู่ๆชายในชุดบาร์เทนเดอร์ก็เดินไปชนเสาไฟฟ้าที่น่าสงสารจนมันบุบลงตามรูปทรงหัวของชิสึโอะอย่างสวยงาม

    "อะ...เอ่อ เป็นอะไรมากมั้ยครับ"เสียงที่ทักขึ้น ทำให้คนที่กำลังเหม่อหันมามอง

    และเมื่อเห็นว่าเป็นเด็กหนุ่มสาวสามคนใต้เครื่องแบบมัธยมไรระ คิ้วที่ขมวดเข้าหากันจึงได้คลายออก

    "พวกเธอ... กำลังจะไปไหนหรอ"เอ่ยตามประสาคนรู้จัก ซึ่งเด็กหนุ่มผมสีดำเป็นคนตอบ

    "กำลังจะกลับบ้านน่ะครับ"

    ดวงตาสีทองมองดูท้องฟ้าซึ่งกลายเป็นสีส้มของยามเย็น พลางพยัคหน้าเนิบๆ

    "กลับดีๆล่ะ"

    เมื่อร่ำรากันพอเป็นมารยาทเสร็จ ชายหนุ่มผู้ถูกขนานนามว่าแข็งแกร่งที่สุดก็จุดบุหรี่ขึ้นสูบ

    ภาพที่เห็นมันคืออะไรกัน...

    ควันสีขาวปนเทาถูกระบายออกมาจากเรียวปากบาง ร่างสูงเอนหลังพิงรั้วของสวนสาธารณะไร้ผู้คน

    แล้วยังตาสีแดงที่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหนอีก

    คิดไปก็หาคำตอบไม่ได้แถมปวดหัวอีก คนไมถนัดคิดจึงตัดสินใจเลิกคิดซะ

    ชิสึโอะเบนส่ายหน้าไล่สิ่งที่ติดค้างในสมองออกไป ก่อนจะชะงักเมื่อหางตาเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่ทำให้ต่อมความหงุดหงิดของเขาลั่นเปรี๊ยะๆ

     

    ********

     ร่างเพรียวบางใต้เสื้อกันหนาวตัวเก่งทอดสายตามองเหล่ามนุษย์ที่เขารักอย่างเหม่อลอยจากดาดฟ้าตึก

    ฝันเมื่อคืนทำให้ภาพเก่าๆฉายชัดขึ้นมา

    ทั้งที่ผ่านไปแสนนาน แต่ยังคงแจ่มชัดราวเพิ่งเกิดขึ้น

    อิซายะปิดปากหาวหวอด เพราะหลับไม่เต็มตามาหลายคืน ความง่วงงุ่นจึงสะสมมาจนร่างกายเริ่มประท้วง

    อยากกลับไปนอน... แต่ยังก่อน

    นัยน์ตาสีแดงสดหรี่ลงมองท้องฟ้ายามตะวันโพล้เพล้ ก่อนที่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จะปรากฏขึ้นบนเรียวปาก

    "กำลังรออยู่พอดีเลย~"กล่าวอย่างอารมณ์ดียามหันหลังไปมองกลุ่มวัยรุ่นนับสิบซึ่งถืออาวุธมาครบมือ ยังคงมีท่าทีสบายๆเหมือนกับที่เห็นตรงหน้าเป็นเพียงเด็กอนุบาลถือไม้ลูกโป่ง

    "แต่นึกไม่ถึงว่าจะส่งลูกกระจ๊อกแบบนี้มานะเนี่ย มนุษย์นี่น่าสนใจจริงๆแหละ"พ่อค้าข่าวว่า หากแต่ดูเหมือนจะพูดกับตัวเองมากกว่า มือขาวตวัดเอามีดพกคู่ใจมาถือไว้ ก่อนจะหัวเราะอย่างชวนขนหัวลุก

    "หึหึ เอาล่ะ...ใครอยากตายมั่ง~?"

    ท่าทางที่ทำให้พวกวัยรุ่นบางคนเริ่มผงะถอยด้วยสัมผัสได้ถึงการคุกคาม แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีคนเดียวแถมรูปร่างผอมบางขนาดนั้นก็ตาม

    แม้อิซายะจะไม่ได้มีเรี่ยวแรงมหาศาลหรือร่างกายแข็งแกร่งผิดมนุษย์มนาอย่างชิสึโอะ แต่สิ่งที่ทำให้พ่อค้าข่าวเป็นบุคคลอันตรายคือข้อมูลข่าวสารที่สามารถนำมาพลิกสถานการณ์และสมองที่รู้จักหาเอาตัวรอด

    เมื่อเห็นว่าพวกพ้องของตนเริ่มหวาดกลัว คนเดินนำก็ตะโกนขึ้นว่า

    "เฮ้ย! จะกลัวทำไมวะแค่คนคนเดียว ลุยมันเลย!"

    สิ้นเสียง ทุกคนก็ต่างเฮโลเข้ามาหาคนที่ยังคงยืนนิ่ง

    "เฮ้อ... พวกเธอนี่ไม่ฉลาดเอาซะเลยนะ"

    *********

    เจ็บ....

    จำไม่ได้แล้วว่าเคยเจ็บขนาดนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่

    บางทีอาจเป็นตอนที่เขาฆ่าตัวตายโดยฮาราคีรีละมั้ง

    อิซายะกุมท้องของตัวเองที่ถูกแทงจนเลือดไหล ในขณะที่พาร่างของตนเดินเหยียบผ่านพวกลูกจ๊อกของมาเฟียซึ่งนอนหมอบอยู่กับพื้นไป

    แต่ทั้งที่เจ็บขนาดนี้ เขาก็ยังไม่ตาย...

    สมองพลันนึกไปถึงเกมคำสาปซึ่งโดนบังคับให้เล่น ท่าทางมันคงไม่ยอมให้เขาชิงตายไปก่อนง่ายๆ

    แลบลิ้นเลียเลือดที่มุมปาก หลังจากที่ลากร่างของตนลงมาจากอาคารสูงได้ ร่างเพรียวก็เอนหลังพิงกำแพง นัยน์ตาคู่สวยปิดลงเพื่อสะกดกลั้นความเจ็บปวดบริเวณขา

    สภาพแบบนี้คงใช้เวลานานใช่เล่นกว่าจะถึงบ้านชินระ

    คิดพลางออกเดินอีกครั้งก่อนจะชะงักกึก

    ไอ้คำสาปงี่เง่า!

    พ่อค้าข่าวสบถลั่นในใจ เมื่อเห็นร่างสูงของใครบางคนอยู่เบื้องหน้า

    ไม่รู้ว่าเขาดวงซวยเองหรือเพราะอะไรหรอกนะ ถึงได้มาเจอชิสึโอะในสภาพบาดเจ็บติดกันถึงสองครั้ง!

    บ้าเอ๊ย... เขาต้องไม่มาตายเพราะคนสมองโปรโตซัวแบบนั้น

    เขาไม่เคยแพ้ใคร และจะไม่ยอมแพ้คำสาปนั่นด้วย

    ไม่ว่าจะอีกกี่ชาติ เขาก็ต้องไม่ตายเพราะเฮวาจิมะ ชิสึโอะ!

    "อิ...ซา...ยะ"เมื่อหูแว่วเสียงคำรามต่ำๆอันคุ้นเคย ร่างเพรียวก็หันหลังกลับ เตรียมโกยแน่บเหมือนทุกครั้ง

    "หวา...ชิสึจัง"

    หากแต่ด้วยสภาพตอนนี้มันเหมือนทุกครั้งซะเมื่อไหร่ ยังไม่ทันจะได้ออกวิ่ง ไหล่บางก็ถูกมือใหญ่คว้าหมับ

    "แกไปทำอะไรมา!?"

    หากแต่ประโยคที่อีกฝ่ายพูดกับไม่ใช่ "ฉันจะฆ่าแก" หรือ "แกมาทำอะไรแถวนี้" อะไรเทือกนั้น ทำให้คนถูกถามกระพริบตาปริบๆ

    เมื่อเห็นว่านักขายข่าวไม่ตอบสักที ความหงุดหงิดจึงแล่นเป็นริ้วๆก่อนที่มือขาวจะช้อนร่างบางขึ้นอุ้ม

    "เฮ้ยยย! จะทำอะไรน่ะชิสึจัง"คราวนี้คนที่เงียบอยู่ก็ได้ร้องเสียงหลง พร้อมดิ้นไปมาด้วยความตกใจ

    "ไปหาชินระ"

    ประโยคคุ้นๆเหมือนเพิ่งได้ยินมาไม่นานมานี้ หากแต่คราวนี้เขาไม่ได้ปฏิเสธเพราะตั้งใจจะไปอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ในสภาพถูกอุ้มแบบนี้!

    "ชิสึจัง ปล่อยฉันลงน่า ฉันเดินเองได้"พูดพลางทุบอกแข็งๆของอีกฝ่ายเต็มแรง แม้ว่ามันจะไม่ได้สะเทือนอีกฝ่ายสักนิด แถมยังเป็นเขาเสียอีกที่เจ็บมือจนน้ำตาแทบเล็ด

    คนความอดทนต่ำขมวดคิ้วเข้าหากัน ตาสีทองใต้เลนส์แว่นเริ่มทอประกายกรุ่นๆก่อนจะจัดการเหวี่ยงอีกฝ่ายพาดบ่า เปลี่ยนจากอุ้มกลายมาแบกข้าวสารแทนเพราะรำคาญร่างที่ดิ้นไปมาเต็มที

    ส่วนคนโดนเหวี่ยงก็จุกจนพูดไม่ออก แผลที่ท้องฉีกกว้างขึ้นจนเลือดสดๆเปื้อนเสื้อของอีกฝ่าย

    "ชิสึจังบ้า! ไอ้สมองโปรโตซัว ฉันจะตายเพราะชิสึจังนั่นแหละ!"เสียงเหวลั่นที่ไม่ได้ทำให้คนโดนว่ารู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิด

    "เออ สักวันแกต้องตายด้วยมือฉันแน่ แต่ตอนนี้หุบปากซะ!"

    ภาพของสองคู่หูคู่อาฆาตที่คนหนึ่งโดนแบก ส่วนอีกคนกำลังกัดฟันกรอดๆแถมยังด่ากันไปมาเสียงดังสนั่น ทำให้คนที่พอเห็นต้องมองจนเหลียวหลัง บางคนก็ซุบซิบกับเพื่อนถึงสภาพผิดปกติของทั้งคู่ที่ดีแต่วิ่งไล่จับพร้อมทำลายของสาธารณะไปวันๆ แต่ก็ไม่มีใครเข้าไปถาม

    แหม... ก็นั่นโอริฮาระ อิซายะ กับ เฮย์วาจิมะ ชิสึโอะเชียวนะ

    ถ้ารักชีวิตละก็... รอดูอยู่เงียบๆก็พอแล้ว

    **********

    ประตูบ้านของหมอเถื่อนถูกเคาะ...ไม่สิ เรียกว่าแทบจะถูกทำลายเลยดีกว่า ทำให้รู้แทบจะในทันทีว่าใครมา

    "คร้าบ~ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ"ชายหนุ่มพูดอย่างอารมณ์ดี ตวัดเสื้อกราวด์ตัวเก่งคลุมร่างก่อนจะเปิดประตูออก ทว่าภาพที่เห็นก็ทำให้เขาอึ้งไปเล็กน้อย

    ประการแรกคือการที่เขาเห็นว่าผู้มาเยือนไม่ได้มีคนเดียว แต่มีถึงสอง แถมเป็นสองคนที่เรียกได้ว่าไม่น่าจะอยู่ด้วยกันได้

    ประการที่สอง คือสภาพพิลึกๆที่ชิสึโอะแบกอิซายะมา

    และประการสุดท้าย คือร่างโชกเลือดของชายหนุ่มชุดบาร์เทนเดอร์ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เลือดเจ้าตัว แต่เป็นของคนโดนแบกต่างหาก

    เมื่อเห็นดังนั้น ชินระรีบจึงหลีกทางให้เพื่อนทั้งสองเข้ามาในห้องก่อนจะปิดประตูลง

    ชิสึโอะจัดการโยนร่างเพรียวลงบนโซฟาอย่างไม่สนใจว่าอีกฝ่ายเป็นคนเจ็บสักนิด ทำเอาคนเป็นหมอต้องรีบไล่ก่อนที่คนไข้ของเขาจะอาการหนักไปกว่านี้

    "ฉันว่านายไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดให้เรียบร้อยก่อนดีกว่านะ"ว่าพลางหันไปมมองเซลดี้ซึ่งพยัคหน้าน้อยๆก่อนจะพิมพ์ข้อความอย่างรวดเร็ว

    'ตามมาสิ'

    เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยอมทำตามอย่างว่าง่าย หมอเถื่อนก็หันมามองร่างเพรียวบนโซฟา

    "อาการหนักใช่เล่นเลยนะ นี่พวกนายจะตีกันแรงไปมั้ยเนี่ย"ชินระว่าพร้อมก้มๆเงยๆสำหรวดแผลตามที่ต่างๆ

    "ฉันไม่ได้ตีกับชิสึจังหรอก~ แค่มีเรื่องนิดหน่อยน่ะ"อิซายะยิ้มระรื่นแม้หน้าติดจะซีดเซียวเพราะเสียเลือดมากชนิดคนธรรมดาคงช็อคหมดสติไปนานแล้ว

    "เรื่องนิดหน่อยของนายมันก็เป็นเรื่องใหญ่ทุกที"คนฟังบ่นอุบก่อนจะเดินไปหยิบเครื่องมือแพทย์

    "แผลที่ท้องไม่ถูกอวัยวะภายใน แต่เสียเลือดไปมาก ส่วนที่ขาถึงไม่ลึกมากแต่กล้ามเนื้อก็เสียหายมากพอดู ไม่นับพวกแผลเล็กน้อย ถ้าพักมากๆไม่ไปก่อเรื่อง อย่างนายสักอาทิตย์เดียวก็หาย"

    ไม่ไปก่อเรื่องงั้นหรอ...

    รอยยิ้มผุดพรายขึ้นบนเรียวปากบาง

    อีกฝ่ายก็รู้ดีว่าเขาคงไม่ทำตามหรอก แต่ก็ยังสั่งไปอย่างนั้น

    ถ้าอยู่เฉยๆเขาก็ไม่ใช่โอริฮาระ อิซายะแล้ว!

    "ชิสึโอะ เดี๋ยวนายช่วยแบกอิซายะคุงไปพักข้างบนด้วยนะ"หมอเถื่อนหันไปพูดกับคนที่เพิ่งเปลี่ยนชุดเสร็จ ชิสึโอะขยี้หัวที่เปียกหมาดๆของตน พยัคหน้าส่งๆไปพร้อมกระดกนมที่ภูติสาวเอามาให้ดื่มดับอารมณ์

    "ไม่เอา ฉันจะกลับบ้าน"คนโดนสั่งให้ค้างโวยขึ้นหลังจากที่อีกฝ่ายเย็บแผลให้ตนเสร็จอย่างรวดเร็ว

    "ไม่ได้ ฉันไม่อยากรักษาผู้ป่วยเคสเดิมซ้ำๆหรอกนะ แล้วอีกอย่าง...มันไม่ทันแล้วด้วย"

    ยังไม่ทันได้ถามถึงความหมายของประโยคนั้น คำตอบก็บินมาหาถึงที่ เมื่อจู่ๆภาพเบื้องหน้าก็เริ่มพร่ามัว

    "ชินระ นายวางยาฉัน"

    ต้องเป็นเข็มที่เขานึกว่าเป็นยาแก้ปวดแหง!

    "ก็แค่กันนายหนีน่ะ เอ้า!ยกไปได้เลย"

    อิซายะกระพริบตา พยายามประครองสติไว้แม้มันจะทำได้ยากเหลือเกิน โดยเฉพาะในยามที่หลังสัมผัสกับเบาะนุ่มๆ

    "นี่...ชิสึจัง"เอ่ยเรียกคนที่ตอนนี้เขาเห็นหน้าเพียงลางๆ ก่อนจะปรือตาลงเมื่อรู้สึกว่าเปลือกตาหนักอึ้งเหลือเกิน

    "ชิสึจัง...เกลียดฉันมั้ย"ถามด้วยเสียงอันแผ่วเบา รับรู้ถึงอีกฝ่ายที่เดินเข้ามาใกล้

    "เออ"

    คำตอบที่ไม่ผิดไปจากที่คิดสักนิด ทำให้เขายิ้มออกมาแม้จะฝืนเต็มที

    "อืม...ฉันก็เกลียดชิสึจังเหมือนกัน"

    ชายหนุ่มนักทวงหนี้มองดูคนที่หลับไปแล้วเพราะฤธิ์ยานิ่ง

    เสี้ยวหน้ายามหลับใหลนั้น ช่างดูไร้พิษสงจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นคนเดียวกับยามตื่น

    ทำไมกันนะ...

    ทำไมถึงได้เกลียดมากมายขนาดนี้

    ชิสึโอะถอนหายใจยาว นิ้วเรียวเกลี่ยเส้นผมสีดำสนิทนั้นเล่นยามครุ่นคิด

    แล้วยังภาพแปลกๆที่เขามักเห็นบ่อยๆราวกับฝันทั้งที่ยังตื่นอยู่นั่นอีก...

    "เรื่องนั้นจะเกี่ยวกับแกมั้ยนะ"เอ่ยเบาๆกับตนเอง ก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างเพรียว ก่อนผละจากไป

    "ราตรีสวัสดิ์..."

     

    TBC.

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×