คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #30 : Wakareru[ลาจาก]100%
เจ็บเหลือเกิน...ปวดร้าวไปทั่วทั้งกาย แต่ทว่ากลับโล่งใจเป็นที่สุด
โล่งใจที่คนสำคัญของเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ โล่งใจที่สามารถปกป้องคนสำคัญได้...
นี่...โทชิโร่คุง รู้อะไรมั้ย?
หากว่า....ผมตายไปจริงๆล่ะก็
ผมไม่เคยนึกเสียดายเลยสักนิดนะ
เพราะการต้องมองเธอจากไปต่อหน้า คงเจ็บปวดกว่านี้หลายเท่านัก
นี่....โทชิโร่คุง
ถ้าหากว่าผมไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลยล่ะก็
เธอจะช่วยยิ้มให้ผมอีกสักครั้งจะได้มั้ย....
เพราะรอยยิ้มของหิมะแรกผู้แสนงดงามและแลดูบางเบาจนเกินเอื้อมนั้น คือสิ่งที่จิ้งจอกบนพื้นดินได้แต่แหงนหน้าเฝ้ามองมันโปรยปรายลงมาตลอด....
--21--
別れる
ลมอ่อนๆที่แฝงความชื้นจากฝนที่เพิ่งจะหยุดตกนั้นโชยพัดลอดหน้าต่างที่ถูกแง้มเปิดเพียงเล็กน้อย
ทำให้เส้นผมสีเงินลู่ไหว คลอใบหน้าคมคายขาวซีดซึ่งดูสงบจนราวกับแค่คนที่กำลังนอนหลับ
หากไม่ติดว่า...คนๆนั้นจะเป็นคนที่นอนไร้สติมากว่าสองอาทิตย์แล้ว
นัยน์ตาสีฟ้าเจือเขียวดุงห้วงสมุทรมองดูร่างสูงบนเตียงโดยไม่ส่งสุ่มเสียงใดๆ
ไม่แม้แต่จะเดินเข้าไปนั่งข้างเตียงนั้น ไม่แม้กระทั้งจะเดินเฉียดเข้าไปใกล้
ได้แต่เพียงยืนมองโดยที่แผนหลังนั้นเกือบชิดกับบานประตูห้อง
เมื่อไหร่จะตื่นซะทีนะ...
ยิ่งคิดก็ยิ่งกระวนกระวายใจ
ยิ่งคิด...ก็ยิ่งต้องรู้สึกผิด
ฮิซึกายะหลับตาลง ในใจอยากเดินเข้าไปดูให้ใกล้กว่านี้ แต่ก็ทำไมได้....
เพราะตั้งใจเอาไว้แล้ว เพราะได้ลงมือขีดมันไว้แล้ว
เส้นกัน....ที่จะจำต้องถอยห่าง จำต้องอยู่ออกไปให้ไกล
ไม่ใช่เพราะอยากทำตัวเหินห่าง แต่ก็เพื่อจะได้ไม่ต้องทำร้ายเขาอีกต่อไปแล้ว...
หัวหน้าหน่วยที่สิบถอนหายใจเบาดังเช่นทุกวันที่เข้ามาในห้องและไม่เห็นวี่แววที่ว่าคนบนเตียงจะตื่นขึ้นมา
"เมื่อไหร่จะตื่นซะที คิดจะนอนไปทั้งปีเลยหรือไง"พึมพำกับตนเองด้วยน้ำเสียงอันแสนแผ่วเบา พร้อมลืมตาขึ้นมองไปยังเตียงขาว
ในแววตานั้น....คือความห่วงใย
"เจ้านอนนิ่งไปแบบนั้นน่ะ....ข้า..."สะกดกลั้นเสียงตนไม่ให้สั่น เช่นที่กลั้นน้ำตาไม่ให้ใหลออกมาจากห้วงสมุทรสีฟ้าใส
"ข้าเป็นห่วงนะ รู้มั้ย"ว่าพลางหันหลังกลับ แผ่นหลังเล็กๆนั้น ช่างแลดูเหนื่อยล้าและหมองเศร้า
โดยไม่พูดอะไรอีก ฮิซึกายะก็เดินออกจากห้องไป
ได้เพียงเฝ้ามอง...
ได้เพียงแค่อธิษฐาน...
แต่อีกใจหนึ่ง กลับไม่อยากให้สุนัขจิ้งจอกเงินนั้นตื่นขึ้นมาเลย...
เพราะเมื่อใดที่ดวงตาสีแดงนั้นปรือเปิดขึ้นมา ก็คือเวลาที่เขาต้องกล่าวคำลาเสียที....
*****************
"เป็นยังไงบ้างคะหัวหน้า"
เมื่อกลับมาถึงที่ทำการหน่วย สิ่งแรกที่พบคือรองหัวหน้าหน่วยของตนซึ่งนั่งหน้าเครียดอยู่บนโซฟาตัวเดิม
"ก็ยังหลับอยู่เหมือนเดิม"เขาตอบพลางทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานซึ่งเต็มไปด้วยกองเอกสารที่ถูกจัดการอย่างเรียบร้อยเช่นทุกที
คำตอบที่เรียกรอยยิ้มเจือนๆจากยมทูตสาว รันงิคุส่ายหน้าช้าๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น
"ไม่ได้หมายถึงหัวหน้าอิชิมารุ แต่หมายถึงหัวหน้าน่ะค่ะ...."นัยน์ตาสีเงินนั้นทอแววเป็นห่วงเด่นชัด
เพราะตั้งแต่กลับมาโซล โซลไซตี้ เธอก็ไม่เคยเห็นฮิซึกายะยิ้มหรือพูดคุยกับใครได้เกินสองประโยคเลย
ไม่สิ... เธอแทบจะไม่ได้เห็นหัวหน้าตัวน้อยพักเลยด้วยซ้ำ
"ถ้าไม่พักสักหน่อย เดี๋ยวพอเจ้าหมอนั่นตื่นมาคงต้องบ่นข้าใหญ่แน่เลย"
ประโยคทีเล่นทีจริงที่หวังว่าจะทำให้อีกฝ่ายร่าเริงขึ้นสักนิด กลับเรียกได้เพียงรอยยิ้มฝืนๆจากร่างเพรียว
"ขอบคุณเจ้ามากที่เป็นห่วง แต่ถ้าเจ้าจะเป็นห่วงข้าก็ช่วยกันทำงานหน่อยก็ดีนะ มัตสึโมโตะ"
ว่าพลางหลับตาลงอย่างอ่อนล้า เนื่องจากไม่ได้นอนติดต่อกันมาหลายคืน
รันงิคุหัวเราะแห้งๆเมื่อโดนเหน็บแหนม เพราะไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นเธอคนเดิมที่ขี้เกียจทำงานเอกสารพวกนี้เป็นชีวิตจิตใจ จึงได้แต่ขอตัวออกไปข้างนอก
ประการหนึ่ง...ก็เพื่อหลบเลี่ยงเจ้าเอกสารกองพะเนินใต้โต๊ะ และอีกประการหนึ่ง ก็เพราะว่าเธอรู้ว่าหัวหน้าหน่วยของตนนั้น เวลานี้ต้องการอยู่เงียบๆคนเดียวมากกว่าคอยมีคนอยู่ด้วย
คล้อยหลังที่ยมทูตสาวเดินออกไป ทั้งห้องก็ตกอยู่ภายใต้ความเงียบ....
ฮิซึกายะยกกองเอกสารที่ยังไม่ทำออกมาปึกหนึ่ง มือเรียวเล็กจับพู่กันขึ้นมา จุ่มลงบนหมึกสีดำสนิท
แว่วเสียงเปาะแปะของสายฝนที่เริ่มโรยตัวลงมาจากหมู่เมฆสีทมิฬ ก่อนจะปแรเปลี่ยนเป็นตกแรงภายในเวลาไม่ถึงนาที
เขาได้แต่จุ่มพู่กันค้างไว้ในน้ำหมึกอย่างเหม่อลอย.... ก่อนจะค่อยๆเลื่อนมาจรดลงบนกระดาษอย่างเชื่องช้า
ซ่าาาาาา....
ฝนตกหนักเหลือเกิน....
เหมือนเช่นฤดูฝนของปีที่แล้วไม่มีผิด...
หยดหมึกเริ่มซึมและแผ่กระจายเป็นวงกว้าง เมื่อเขายังคงจรดมันค้างไว้โดยมิได้เริ่มขีดเขียนสักที
ตอนนั้นก็ฝนตกเหมือนกันสินะ....
เพราะโชคชะตา...หรือเพราะอะไรกันที่ทำให้เขาได้พบกับจิ้งจอกเงินท่ามกลางสายฝนที่เทลงมาราวกับพายุเข้า
แปลก...
แปลกเหลือเกินนะ ทั้งที่เวลาผ่านมาครบปีแล้ว และในตอนนั้นเขาก็กำลังหงุดหงิด
แต่ทำไม...ถึงยังจำได้ดี ถึงประโยค ถึงคำพูด ถึงสัมผัส และความรู้สึก....
'ก็แค่รู้ว่ามีใครบางคนมาตากฝนอยู่ตรงนี้'
แค่คิด รอยยิ้มบางเบาก็ผุดขึ้นมาบนเรียวปากโดยไม่รู้ตัว
เป็นรอยยิ้มที่แฝงความเศร้าบางเบา...
ฮิซึกาะยะวางพู่กันลงเมื่อรู้ว่าถึงทำงานไปตอนนี้ก็คงจะไม่รู้เรื่อง ก่อนที่เอกสารแผ่นนี้จะเสียไปทั้งแผ่น
ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาหลายวันนั้นทำให้สมองนั้นพร่าเลือน
อยากหลับ.... แต่ก็นอนไม่หลับเสียที
เพราะทุกครั้งที่หลับตา ภาพของร่างสูงซึ่งอาบไปด้วยเลือดก็จะฉายชัดขึ้นในมโนภาพ
เวลา...ใหลผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้
รับรู้เพียงเสียงของสายฝนซึ่งไม่มีทีท่าว่าจะตกเบาลงเลยสักนิด และความมืดที่เริ่มโรยตัวลงมาพร้อมกับความหนาวเย็น
หนึ่งปีที่ผ่านมานี้....เกิดอะไรขึ้นบ้างนะ....
เหตุการณ์ตอนตากฝนจนไม่สบาย....
กวีที่แสนมีมนต์ขลังยามอาบไล่อยู่กลางแสงจันทราสีเงินยวง
ดอกไม้ไฟที่แม้จะผิดฤดู แต่กลับช่างสวยงามกว่าดอกไม้ไฟของฤดูร้อนปีไหนๆที่เขาเคยได้พบเห็น
ทั้งคำสัญญา ภาพที่เลือนรางในความทรงจำ
การเข้าใจผิด และความอ่อนโยนจริงจังของคนที่เคยแต่เจ้าเล่ห์เสมอซึ่งเขานั้นได้รับมามากมายเหลือเกินตลอดเวลาที่ผ่านมานี้
เกิดเรื่องราวมากมายเหลือเกิน.... ที่ทำให้เขาทั้งมีความสุขและปวดหัว
เปลือกตาเริ่มหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ...เมื่อร่างกายเริ่มจะแบกรับความเหนื่อยล้าที่สะสมมาหลายวันนี่ไม่ไหว
หากแต่... คราวนี้ สิ่งที่ปรากฏตามสติอันพร่ามัวหาใช่ภาพร่างโชคเลือดสีชาดฉานอีกแล้ว
หากแต่คือภาพของรอยยิ้ม....
ราวกับว่า เป็นความรู้สึกของใครบางคนที่ขับกล่อมหิมะแรกให้ผ่านพ้นไปได้หนึ่งนิทรา....
******************
เขากำลังเดินไปตามเส้นทางที่ไร้จุดหมาย....
รอบข้างนั้น ราวกับเป็นจอหนังขนาดใหญ่ที่ฉายภาพซ้ำไปซ้ำมา ภาพความทรงจำของเขา
ความทรงจำที่แสนสำคัญ....
ดวงตาสีแดงคู่สวยมองดูภาพเหล่านั้น
ความทรงจำแสนล้ำค่า....ที่เต็มไปด้วยภาพของร่างเล็กของคนผมสีเงิน
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ที่เขาคอยเฝ้ามองแผ่นหลังเล็กๆที่ขยันขันแข็งทำงาน และเปี่ยมไปด้วยความพยายามและมุ่งมั่น
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ... ที่ว่าเมื่อรู้ตัวอีกที ก็ชอบโผล่ไปกวนประสาทคนตัวเล็กเสมอ
รอยยิ้มบางฉาบลงบนเรียวปาก
แม้ไม่รู้ว่าเส้นทางนี้จะทอดยาวไปที่ไหนก็ตาม...
ร่างสูงนั้นหยุดเดินลง ก่อนจะค่อยๆปรือตาปิด
หากแต่... เขาไม่ได้ต้องการไปยังสุดปลายทางของถนนเส้นนี้เลยสักนิด
ที่ที่เขาอยากไปน่ะ... มีเพียงที่เดียว...
คือการกลับไปหาคนที่เขารักมากยิ่งกว่าใครๆ...
รู้สึกได้ถึงกลิ่นไอของสายฝน....
เปลือกตาบางขยับเล็กน้อย ก่อนที่จะค่อยๆปรือเปิดขึ้นช้าๆ เผยให้เห็นดวงตาสีแดงสดคู่เรียวซึ่งถูกซุกซ่อนอยู่ภายใน
กระพริบตาอีกครั้งสองครั้งเมื่อยังไม่ชินกับแสงแดดอ่อนจางของยามเช้า หลังจากที่สลบไร้สติอยู่หนึ่งเดือนเต็มๆ แล้วจึงค่อยกวาดมองไปรอบๆห้อง
มันคือห้องพักผู้ป่วยของหน่วยที่สี่ ห้องเดิมกับที่เมื่อคราวก่อนเขามานอนหยอดน้ำข้าวต้มเมื่อครั้งก่อน
งินเบือนสายตาจากเพดานสูง ไปยังประตู ที่ซึ่งร่างเพรียวซึ่งแสนคุ้นเคยยืนนิ่งอยู่
“โทชิโร่คุง....”
เสียงนั้นแหบพร่าและแผ่วเบาตามประสาคนป่วยเพิ่งฟื้น
ฮิซึกายะมองลึกลงไปในดวงตาที่เคยเกลียดแสนเกลียดคู่นั้น
ดีใจเหลือเกิน.... ที่คนตรงหน้าฟื้นขึ้นมา
หากแม้จะดีใจแค่ไหน ก็ได้แต่นิ่งเงียบ และแสร้งทำเป็นนิ่งเฉย แม้ในใจอยากจะโผเข้าไปเช็คว่า ร่างสูงซึ่งฟื้นตื่นขึ้นมานั้น เป็นเรื่องจริงหาใช่เพียงภาพลวง
“ตื่นซะที”กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เช่นเดียวกับแววตาที่ไร้ความรู้สึกใดๆ
เก็บซ่อนไว้อย่างแนบเนียน.... จนนึกสมเพชตนเองขึ้นมา
“ข้าจะไปตามหัวหน้าอุโนะฮานะ”โดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดอะไรอีก เขาก็รีบหันหลังกลับ แล้วสาวเท้าเร็วๆจากไป
รอยยิ้มฉาบขึ้นบนเรียวปาก
เป็นรอยยิ้มที่แสนโล่งใจ...
นิ่งไว้นะ...
อย่าได้เผลอพูดอะไรออกไปเด็ดขาด...
กล่าวย้ำกับตนเองเช่นนั้น
สิ่งที่เขาจะพูดได้ต่อจากนี้ คงจะมีเพียงแค่คำขอโทษ และเอ่ยลาเพียงเท่านั้น....
งินมองตามแผ่นหลังของฮิซึกายะไป
รับรู้ได้... ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ถึงความเหินห่างอย่างเห็นได้ชัด
นี่มัน...เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ
"นอกจากอาการอ่อนเพลีย ร่างกายก็ปกติดีแล้วค่ะ แค่พักอีกสักหน่อยก็กลับไปทำงานได้แล้ว"น้ำเสียงอ่อนโยนเป็นเอกลักษณ์ของอุโนะฮานะพูดขึ้น ดวงตาซึ่งฉายประกายอบอุ่นนั้นมองมาที่ร่างสูงของยมทูตหนุ่มซึ่งดูราวกับไม่มีใจจะฟังเธอเลยสักนิด
"ฟ้ามืดจังเลยนะคะ"ทอดมองไปยังผืนฟ้าที่เต็มไปด้วยกลุ่มเมฆสีทึมทึบ มองอย่างไรก็ชวนให้อึดอัดใจ แล้วจึงหันมาสบดวงตาสีแดงของอีกฝ่าย
"หวังว่ามันจะสว่างเร็วๆนี้"พูดจบ รอยยิ้มอบอุ่นก็ปรากฏบนเรียวปากก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้องไป
ทิ้งเพียงคนที่ในใจยังสบสน...
มือขาวกำแน่น เช่นเดียวกับเรียวปากซึ่งเม้มเข้าหากัน
มันคืออะไรกันนะ...
แววตานั่น...
ดวงตาสีชาดปรือปิดลง ยามเมื่อนึกถึงดวงตาสีฟ้าเฉยเมยนั้น ก็ยิ่งทวีความสงสัยอยู่ในใจ
สงสัย...และเจ็บปวด
เพราะอะไรกันนะ...
เพียงแค่ฟื้นตื่นขึ้นมา ใยหิมะนั้นจึงเปลี่ยนแปรไปถึงเพียงนี้
เขา...ทำอะไรผิดไปรึเปล่า?
เฝ้าย้ำถามตัวเองเรื่อยมาอย่างเงียบงัน โดยไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ที่เขานั่งนิ่งครุ่นคิดไม่ขยับอยู่เช่นนั้น
งินเบือนสายตาออกไปยังท้องฟ้าด้านนอก
ฝน....กำลังตก
ในฤดูนี้...ฝนมาจากไหนกันนะ...
ฤ เพียงกำลังตกต้องลงมาเพื่อเยาะเย้ยซ้ำจิ้งจอกเงินผู้สูญเสียเกล็ดหิมะในฝ่ามือไป...
"ไม่ได้..."
ริมฝีปากแห้งผาก เอื้อนเอ่ยแผ่วเบาด้วยน้ำเสียงที่แแหบแห้งไม่แพ้กัน
ต้องไปถาม...
ยันกายขึ้นจากเตียง ในดวงตาทั้งสองนั้นฉายประกายบางอย่าง
ไม่ว่าจะเพราะอะไร...
แต่... เขาไม่อาจลืมกริยาแปลกประหลาดของอีกฝ่ายได้...
ร่างสูงลุกขึ้นยืน คว้าเสื้อคลุมหัวหน้าหน่วยมาสวมแม้ดวงหน้านั้นจะยังติดซีดเซียวอยู่ หากว่าในใจกลับร้อนรุ่มจนไม่อาจสงบลงได้
ต้องไปถามตอนนี้ให้รู้เรื่อง...
ไม่ว่าเพราะอะไร..
ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม แต่ว่า...
เขา....ยังไม่อยากสูญเสียหิมะในฝ่ามือนี้ไป
และในเวลานั้นเอง... สุนัขจิ้งจอกสีเงินก็ร่อนแร่ออกไปกลางสายฝนหลงฤดูที่ดูจะกระหน่ำซาซัดลงมาอย่างไร้ปราณี...
*******************************
ฝน...
ฝนตก...
เขา...ไม่เคยชอบฝนเลย
ร่างเพรียวนั้นเดินออกไปเรื่อยๆ แม้จะไม่รู้ว่าตนกำลังเดินไปที่ไหน
แค่...อยากเดินต่อไปเท่านั้น...ไปเรื่อยๆโดยไม่ต้องหยุดคิดถึงอะไร
ฝนที่ทำให้ร่างเปียกปอน กลับไม่ได้ทำให้เขารู้สึกหนาวหรืออะไรเลยสักนิด มีเพียงความเฉยชามึนงงที่อื้ออึงในจิตใจ
นี่เขาทำถูกแล้วใช่มั้ย...
ทำถูกแล้วใช่มั้ยที่ถอยห่างออกมา หมอนั่นจะได้ไม่ต้องมาเจ็บตัวเฉียดตายเพราะเขาอีก
หลับตาลง ทำให้หยาดน้ำฝนใหลผ่านเปลือกตาจนแลดูราวกับเป็นหยดน้ำตาที่หลั่งรินสู่พื้น
เจ็บใจตัวเองที่อ่อนแอในตอนนี้เสียหลือเกิน
กระทั่งที่มาเดินตากฝนแบบนี้... ก็แค่หวังว่าจะพบเขายืนกางร่มรออยู่ที่ปลายทางข้างหน้าใช่มั้ย...
รอยยิ้มบางเหยียดบนเรียวปาก ในดวงตาสีฟ้านั้นปรากฏแววเศร้าล้ำลึก
ทั้งที่รู้ว่ายังไงไอ้คนที่นอนป่วยอยู่นั่นไม่มีทางมาตากฝนแบบนี้อยู่แล้ว...
ยกมือขึ้นปิดใบหน้า เก็บกลั้นเสียงสะอื้นไว้ให้หยุดอยู่เพียงในลำคอ
บ้าเอ๊ย....
หยุดตกซะทีสิ....
เขา....ไม่ชอบฝน
ไม่ชอบพิรุณที่หยาดหยดซึ่งทำให้เปียกปอน...
เกลียดเหลือเกิน.... ราวกับว่า....
สายน้ำเย็นเฉียบที่ร่วงหล่นจากฟากฟ้านั้นกำลังเยาะเย้ยผู้ที่เดินอยู่เบื้องล่าง...
TBC.
มาอัพแล้ว มาอัพแล้วววววว
สั้นไปหน่อย ลวกไปหน่อย ขออภัยคร้าบบบบTT[]TT
หลังจากตะลอนไปดูอนิเมบ้าง เล่นเกมบ้าง ไพรเวทบ้าง บลาๆๆ เพื่อหลบหนีความจริงมาหลายชาติ ผมก็กลับมาแล้วคร้าบบบT[]T
คิดถึงทุกคนเลย ฮือๆ(เรื่องเข้าบทเศร้าอีกแล้ว คนแต่งก็ปวดใจจจจจจจจจ)
เจอกันตอนหน้านะครับ(เกดเน่าสุดขั้ว อันดับ8 โฮกกกก อันดับตกกกกกกTwT)
ความคิดเห็น