[Fic]Zone-00 Scarlet Peony [Kiyoami x Konnosuke]
ความสัมพันธ์นี้ดั่งวงกลมแห่งความรวดร้าวที่แต่งแต้มด้วยโบตั๋นสีชาด คิโยอามิ เมื่อเจ้ารักนาง ใยจึงมิปล่อยข้าไป... แล้วข้าเล่า ใยจึงมิยอมปล่อยวาง...
ผู้เข้าชมรวม
417
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
สวัสดีค่ะ...
จากสเตตัสเวิ่นเว้อยามดึก ก็กลายมาเป็น(เศษ)ฟิคเรื่องนี้
ชอบคู่นี้มาก ชอบมานาน แต่ไม่มีคนแต่ง ก็เลยจิ้นเองแต่งเองฟินเองค่ะ ฮาา
เป็น(เศษ)ฟิคเรื่องที่สองของคู่นี้ที่เคยแต่ง ระยะห่างของการแต่งฟิคสองเรื่องนี้เป็นปีๆ แม้ผ่านไปนานแต่ก็ยังชอบคู่นี้อยู่ และก็ยังคงคอนเซปเดิมๆของความสัมพันธ์คู่นี้ที่เรามโนเอาล้วนๆ
ไม่รู้จะมีคนอ่านมั้ย ถ้ามี แค่คอมเม้นท์สักนิดก็ดีใจแล้วค่ะ
ปล.ย้ำว่ามันเกิดจากเวิ่นเว้อเพ้อละเทอในสตต.เฟส ดังนั้นถ้ามึนๆขออภัย ไรท์เตอร์เมายาสูบ(ว้อท?!)
ปลล.อยากแต่งฟิคยาวดีๆมั่ง แต่รู้ชะตากรรมว่าอิฉันชอบคู่นี้อยู่คนเดียว คงไม่มีคนอ่าน ดังนั้นไม่เขียน55
"คอมเม้นท์สักนิดก็ดีใจแล้ว จริงๆนะคะ"
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Author: MiniRin [OujiKitsu]
Fandom: Zone-OO
Pairing: Kiyoami x Konnosuke
Rate: R (?)
พบเจอกันกี่ชาติภพแล้วนะ... แล้วกี่ครั้งแล้วที่เราจากกัน...
มือแกร่งแตะสัมผัสบนใบหน้าคมคาย ไล่ไปตามโครงแก้ม เปลือกตา และสอดใต้เส้นผมสีเงินสลวย แววตาสีเทาที่มองมาเหมือนจะรักไคร่... หากก็ไม่...
มือเรียวปัดมือที่รุ่มร่ามกับใบหน้าของตนออก การกระทำนั้นเหมือนจะทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ ที่ตามมาจึงเป็นมือที่บีบปลายคางเขาจนเจ็บและจุมพิตจาบจ้วง
จูบนั้นตะกละตะกราม ดึงดัน และบังคับ... เหมือนเช่นตัวตนของอีกฝ่าย
คาวโลหิตคละฟุ้งไปทั่วโพรงปาก ความเจ็บที่ปลายลิ้นทำให้คิ้วเข้มกดเข้าหากันอย่างขัดใจ แต่กลับไม่ยอมผละห่าง ตรงข้ามกลับยิ่งกดจูบหนัก เรียวลิ้นร้อนกวาดวน บังคับช่วงชิงลมหายใจและรสชาติมัวเมานั้นอย่างลุ่มหลง
“อะ...อึก”กระทั่งเมื่ออากาศถูกช่วงชิงไปจนหมด อีกฝ่ายถึงได้ยอมปล่อย เป็นวินาทีเดียวกับที่ฝ่ามือเรียวตบฉาดเข้าที่ใบหน้าคม
เขาหอบหายใจ... อีกฝ่ายก็เช่นกัน มือที่เพิ่งใช้ประทุษร้ายใบหน้าคมค่อยๆลดระดับลง หากสังเกตุดีๆจึพบว่ามันสั่น...
ไม่ใช่เพราะกลัว... ไม่ใกล้เคียงกับเกลียดชัง แต่เป็นโทสะ...
“ข้าไม่ใช่ของเล่นของเจ้า”เขาเอ่ย หากนัยน์ตาสีเทากลับปรายมองอย่างเกลียดคร้าน ไม่ใส่ใจ
“ต่างกันตรงไหน”ยักษ์ร้ายเอ่ย ลูบผิวหน้าของตนที่ถูกตบจนชา หากเป็นมือของผู้อื่นก็คงไม่ได้ระคายหนังเขา หากนี่อย่างไรก็เป็นมือของจิ้งจอกเก้าหาง...
“เจ้า...!”โทสะยิ่งฉายชัดในดวงตาสีฟ้าเมื่อได้ยินประโยคนั้นของอีกฝ่าย ร่างสูงเพรียวเดินหนีไปอีกทางอย่างคร้านจะต่อปากต่อคำด้วย หากยังไม่มันก้าวพ้นจากห้อง ท่อนแขนแกร่งก็ตวัดโอบรอบเอว ดึงร่างเขาไปโอบรัดโดยแรง
“จะหนีไปไหน หรือยอมรับความจริงไม่ได้”เสียงเข้มกลั้วหัวเราะกระซิบริมหู มือลูบเอวแคบ ไล่มาถึงแผ่นอก เลยไปยังลำคอ
“ข้าบอกเจ้าแล้ว เจ้าจะนอนกับผู้หญิงกี่คนข้าก็ไม่สน แต่อย่าได้รัก...”ออกแรงบีบบนลำคอนั้นจนอีกฝ่ายหายใจไม่ออก ร่างเพรียวออกแรงดิ้น แต่ก็มิอาจหลุดพ้นจากพันธนาการของยักษ์ได้
ขี้โกงนัก...
เจ้ารักนางได้ แล้วใยข้าจึงจะรักผู้อื่นไม่ได้
เจ้ารักนาง... แล้วใยทั้งๆที่รักนาง ถึงยังทำกับข้าเช่นนี้
พวกยักษ์ล้วนเห็นแก่ตัวเหมือนเจ้าหรือไม่ คิโยอามิ...
“ปล่อย!”เขากระชากเสียง แม้จะลำบากอยู่บ้างในสภาพที่ถูกบีบคออยู่เช่นนี้
เรียวปากบางขยับขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนเหวี่ยงร่างในอ้อมแขนลงกับพื้น
“เจ้านี่นะ หัดทำตัวดีๆบ้างสิ เวลาขอร้องคนใครให้ทำเสียงแบบนั้นกัน”เสียงเข้มว่า มือแกร่งแตะลงบนปลายเท้าขาวปรอด ก่อนยกขึ้นจรดเรียวปาก จูบไล่ไปตามข้อกระดูกและบนรอยสักรูปเปลวเพลิงสีฟ้า
สัมผัสแผ่วเบาชวนวาบหวามเช่นนั้น ทำให้จิ้งจอกหนุ่มอยากยันเท้าถีบอีกฝ่าย แต่ก็ต้องผวาเฮือกเมื่อลิ้นร้อนๆเริ่มลากเลียผ่านปลายนิ้ว
คิดแล้วก็น่าขำนัก ที่คนตรงหน้ารู้จักร่างกายเขาดีกว่าตัวเขาเองเสียอีก
“ปล่อย...”เขาเอ่ยย้ำอีกครั้ง เสียงนั้นสั่นเล็กน้อยด้วยพยายามข่มกลั้นอารมณ์ที่ถูกจุดขึ้นอย่างช้าๆ
ดวงตาสีเทามองดูใบหน้างดงามนั้นแล้วยิ้ม รอยยิ้มอันตรายเช่นเดียวกับดวงตาที่ดูราวกับบ่อพิษ
ใช่... คนตรงหน้านั้นงดงาม แม้จะรู้จักกันมาร้อยพันปี ความงดงามนั้นก็ยังคงมองได้ไม่มีเบื่อ โดยเฉพาะยามอยู่บนเตียง...
คิโยอามิเอื้อมมือไปแตะใบหน้าของคนที่เบือนหนีไปอีกทาง บังคับนัยน์ตาสีฟ้าให้หันมาสบตา
“เจ้าก็รู้ว่าข้าเอาแต่ใจ”เอ่ยจบ จูบร้อนก็บังคับยัดเยียดลงมาอีกครั้ง คนผมเงินมิได้ดึงดันปฏิเสธ หากก็ไม่ได้ตอบรับ
มือใหญ่รวบข้อมือของอีกฝ่ายไว้ บีบแน่นดั่งคีมเหล็ก ตัดสิ้นซึ่งการขัดขืนใดๆที่พึงทำได้
ยักษ์แดงยังคงลิ้มรสหวานและกลิ่นอายเบาบางชวนมัวเมานั้นอย่างกระหาย กลิ่นนั้นหอมจาง ไม่อาจอธิบายได้ว่าหอมอย่างไร มิได้หวานเอียนอย่างสตรี เป็นกลิ่นที่ทำให้ผู้คนขาดสติยามได้สัมผัส
ดังนั้นเขาจึงได้หวงแหน...
เรียวปากไล่ไปตามลำคอ ขบย้ำแรงๆเพื่อทิ้งรอยไว้ บางคราเขี้ยวคมก็กัดลงบนผิวขาวเพื่อลิ้มรสโลหิต
บรรยากาศในห้องมอมเมาด้วยควันจากกล้องยาสูบที่ถูกปัดทิ้งไปอีกทางและกลิ่นอายของราคะ มือแกร่งกระชากอาภรณ์หลุดรุ่ยของร่างเพรียวออกไปให้พ้นทาง พิศมองร่างกายสวยงามที่ราวกับเชื้อเชิญให้ลิ้มลอง
จิ้งจอกหนุ่มอาศัยจังหวะที่มือถูกปล่อยให้เป็นอิสระข่วนลงบนอกแกร่ง โลหิตไหลออกมาจากบาดแผล อาบย้อมเล็บยาว แผลนั้นไม่นับว่าเล็ก แต่ไม่รู้เพราะอีกฝ่ายหนังหนาหรือไร จึงได้เพียงชะงัก แต่ไม่ยอมผละห่างเช่นเขาหวัง
คิโยะอามิคว้าข้อมือเรียว ไว้บีบแน่น แล้วเลียหยาดเลือดของตนตามเล็บยาวและปลายนิ้วขาว
ภาพตรงหน้าทำให้เจ้าของมือหน้าร้อนวูบ เขากระชากมือกลับ อยากจะหนีไปให้พ้นๆจากตรงนี้ แต่ก็ติดร่างที่ราวกับกำแพงขวางกั้นเขากับอิสระ
“เมื่อไหร่เจ้าจะพอซะที หยุดมายุ่งกับข้าได้แล้ว”เขาเอ่ย แต่ก็เป็นอีกครั้งที่คิโยอามิไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเขา
“ทำไมข้าจะยุ่งกับเจ้าไม่ได้”พูดพลางกระชากเส้นผมสีเงินยาวๆ บังคับให้ใบหน้างามต้องแหงนขึ้นมองเขาตรงๆ
“ในเมื่อตัวเจ้าเป็นของข้า...”ปลายนิ้วไล่ไปตามโครงหน้างดงาม เรื่อยไปถึงแผ่นอก
“ใจเจ้าก็เป็นของข้า เจ้าเป็นของข้า...”
ประโยคนั้นทะลุผ่านหัวใจคนฟังอย่างจัง เรี่ยวแรงทั้งร่างเหมือนจะหายไปจนเขาหาอย่างไรก็ไม่เจอ
ไม่ปฏิเสธว่ารัก...
หากรักแล้วอย่างไรเล่า ในเมื่อมิอาจได้รักตอบ เจ้ารักนาง ไม่ได้รักข้า ไม่เลย...
ดวงตาสีฟ้าปรือปิดลงอย่างนึกสมเพชในตน การขัดขืนดูไร้ประโยชน์สิ้นดี เมื่อสุดท้ายแล้วเขาก็ไม่อาจต้านทานอีกฝ่ายได้
ปล่อยให้อีกฝ่ายกัดกินร่างตนอย่างละโมบ ปล่อยให้ทั้งกายและใจถูกนัยน์ตาสีเทานั้นกัดกร่อน...
ร่างเพรียวบางนิ่งงัน ไม่ได้ขัดขืน หากก็มิตอบรับ เรียวปากบางเม้มเน้นจนคมเขี้ยวก่อให้เกิดแผล สะกดกลั้นเสียงอันน่าละอายในยามที่อารมณ์ถูกอีกฝ่ายปั่นป่วน ข่มกลั้นความเจ็บปวดในยามที่อีกฝ่ายโหมเข้ามาในกาย
เขาไม่เคยร้อง... ไม่เคยส่งเสียง ในยามที่ร่างถูกอีกฝ่ายครอบครองอย่างดึงดัน เพราะรังเกียจเสียงแหบพร่าของตนซึ่งนอกจากจะไม่อาจหยุดยั้งการกระทำน่าละอายนี้ลงได้ ยังจะทำให้อีกฝ่ายชอบใจมากขึ้น
ระรอกแห่งกามารมณ์อันดุดันและฝืนใจอย่างยิ่งผ่านพ้นไปพร้อมกับการมาเยือนของราตรี เขาลืมตาขึ้นอย่างอ่อนล้า ผลักมืออีกฝ่ายให้พ้นไปจากตัว แล้วลุกขึ้นด้วยเรียวขาสั่นระริก
เจ็บปวด... ไม่เพียงกาย แต่ร้าวรานไปถึงหัวใจ...
กล้องยาสูบที่อยู่บนพื้นถูกเก็บขึ้นมา จุดไฟขึ้นอีกครั้ง และส่งผ่านเข้าเรียวปาก
ร่างสูงเพรียวเดินกลับไปยังห้องของตน ทิ้งกายนั่งลงบนขอบหน้าต่าง ปล่อยให้ควันสีขมุกขมัวลอยไปทั่วห้องอย่างอ้อยอิ่ง
จุดจบของความสัมพันธ์เช่นนี้จะเป็นเช่นไร... เขาเองก็ไม่รู้
หากก็มั่นใจว่ามันคงไม่ได้สวยงาม ก็เหมือนกับตัวเขานั่นแหละ... สกปรกสิ้นดี
คิโยอามิ... พวกยักษ์ละโมมเช่นเจ้าทุกตนรึเปล่า
*************
สีแเดง เส้นผมนั้นเป็นสีแดง โบตั๋นที่เบ่งบานบนแผ่นหลังนั้นเป็นสีแดง เช่นเดียวกับหยาดหยดเหนียวเหนอะที่เปรอะเปื้อนมือเขาเมื่อตอนประครองศรีษะนั้นขึ้นมาก็ยังคงเป็นสีแดง...
อา... มือนี่ เปื้อนเลือดมากี่ครั้งแล้ว
"คอนโนะสุเกะ"
เสียงนั้นที่เอ่ยนามเขายังคงแสดงถึงความถือดี แม้ในวาระสุดท้ายของชีวิต...
ทำไมไม่ห้าม... ใยต้องทำหน้าเช่นนั้น อยากตายขนาดนั้นเลยหรือ ไม่สิ... 'รักนาง' ถึงเพียงนี้เชียวหรือ...
ความรู้สึกรวดร้าวแผ่ไปทั่วทั้งในอก มือแตะลงไปบนใบหน้าคมที่ไร้ซึ่งลมหายใจ เลือดสดๆที่ยังคงระอุร้อนย้อมมือเขาให้แดงฉาน
...คิโยอามิ ข้าเกลียดชังเจ้านัก...
ด้วยปากที่เอื้อนเอ่ยนามของนางอย่างรักไคร่... อย่าได้ใช้มันเรียกนามของข้า
ด้วยมือที่โอบประครองนาง...อย่าได้สัมผัสแตะต้องข้า
คิโยอามิ ข้าแค้นเจ้านัก...
เหตุใดจึงต้องเป็นข้าที่แปดเปื้อนโลหิตเจ้า เป็นข้าที่ต้องมองดวงตาสีเทาที่ไม่เคยมีข้าอยู่ในนั้น
ข้านึกสงสัย เมื่อเจ้ารักนาง เหตุใดจึงมิยอมปล่อยข้าไป...
หากครานี้ข้ากลับสงสัยตนเอง ว่าเหตุใดใจจึงยึดติดมิยอมปล่อยวาง...
พบเจอและพรากจาก อีกครั้ง และอีกครั้ง...
"อาเฮีย"
นัยน์ตาเรียวรีหันไปตามเสียงเรียก มองดูเสี้ยวหน้าอ่อนวัยของเด็กหนุ่ม
แม้รูปลักษณ์จะเปลี่ยนไป น้ำเสียงและแววตาไม่เหมือนในอดีต แต่เส้นผมนั้นยังคงเป็นสีแดงเพลิง... แดงเหมือนโบตั๋นพิษที่ล่อลวงหัวใจเขาให้ติดกับซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนพวกแมลงโง่ๆ
เรียวปากยกขึ้นเป็นเส้นโค้งบางๆ กึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม ควันจากกล้องยาสูบลอยอบอวนไปทั่วร้านเล็กๆ
เกลียดชัง... แต่ยิ่งเกลียดเพียงไรก็ยิ่งสะท้อนใจว่ารักมากเพียงนั้น
จากจุดจบที่พรากจาก นำสู่การพบหน้ากันอีกครั้ง และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะต้องจากกันอีก ไม่รู้ว่าจะเป็นอีกครั้งมั้ยที่มือเขาต้องเปื้อนเลือด
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร... พวกเขาก็ยังอยู่ด้วยกัน...
End?
ผลงานอื่นๆ ของ ReignOverME ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ReignOverME
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น