[Fic]Zone-00 Scarlet Peony [Kiyoami x Konnosuke] - [Fic]Zone-00 Scarlet Peony [Kiyoami x Konnosuke] นิยาย [Fic]Zone-00 Scarlet Peony [Kiyoami x Konnosuke] : Dek-D.com - Writer

    [Fic]Zone-00 Scarlet Peony [Kiyoami x Konnosuke]

    โดย ReignOverME

    ความสัมพันธ์นี้ดั่งวงกลมแห่งความรวดร้าวที่แต่งแต้มด้วยโบตั๋นสีชาด คิโยอามิ เมื่อเจ้ารักนาง ใยจึงมิปล่อยข้าไป... แล้วข้าเล่า ใยจึงมิยอมปล่อยวาง...

    ผู้เข้าชมรวม

    417

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    417

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 ก.พ. 57 / 01:11 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    สวัสดีค่ะ...

    จากสเตตัสเวิ่นเว้อยามดึก ก็กลายมาเป็น(เศษ)ฟิคเรื่องนี้

    ชอบคู่นี้มาก ชอบมานาน แต่ไม่มีคนแต่ง ก็เลยจิ้นเองแต่งเองฟินเองค่ะ ฮาา

    เป็น(เศษ)ฟิคเรื่องที่สองของคู่นี้ที่เคยแต่ง ระยะห่างของการแต่งฟิคสองเรื่องนี้เป็นปีๆ แม้ผ่านไปนานแต่ก็ยังชอบคู่นี้อยู่ และก็ยังคงคอนเซปเดิมๆของความสัมพันธ์คู่นี้ที่เรามโนเอาล้วนๆ

    ไม่รู้จะมีคนอ่านมั้ย ถ้ามี แค่คอมเม้นท์สักนิดก็ดีใจแล้วค่ะ

    ปล.ย้ำว่ามันเกิดจากเวิ่นเว้อเพ้อละเทอในสตต.เฟส ดังนั้นถ้ามึนๆขออภัย ไรท์เตอร์เมายาสูบ(ว้อท?!)

    ปลล.อยากแต่งฟิคยาวดีๆมั่ง แต่รู้ชะตากรรมว่าอิฉันชอบคู่นี้อยู่คนเดียว คงไม่มีคนอ่าน ดังนั้นไม่เขียน55




     

    "คอมเม้นท์สักนิดก็ดีใจแล้ว จริงๆนะคะ"

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



      Author: MiniRin [OujiKitsu]

      Fandom: Zone-OO

      Pairing: Kiyoami x Konnosuke

      Rate: R (?)

       


       

      พบเจอกันกี่ชาติภพแล้วนะ... แล้วกี่ครั้งแล้วที่เราจากกัน...

      มือแกร่งแตะสัมผัสบนใบหน้าคมคาย ไล่ไปตามโครงแก้ม เปลือกตา และสอดใต้เส้นผมสีเงินสลวย แววตาสีเทาที่มองมาเหมือนจะรักไคร่... หากก็ไม่...

      มือเรียวปัดมือที่รุ่มร่ามกับใบหน้าของตนออก การกระทำนั้นเหมือนจะทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ ที่ตามมาจึงเป็นมือที่บีบปลายคางเขาจนเจ็บและจุมพิตจาบจ้วง

      จูบนั้นตะกละตะกราม ดึงดัน และบังคับ... เหมือนเช่นตัวตนของอีกฝ่าย

      คาวโลหิตคละฟุ้งไปทั่วโพรงปาก ความเจ็บที่ปลายลิ้นทำให้คิ้วเข้มกดเข้าหากันอย่างขัดใจ แต่กลับไม่ยอมผละห่าง ตรงข้ามกลับยิ่งกดจูบหนัก เรียวลิ้นร้อนกวาดวน บังคับช่วงชิงลมหายใจและรสชาติมัวเมานั้นอย่างลุ่มหลง

      “อะ...อึก”กระทั่งเมื่ออากาศถูกช่วงชิงไปจนหมด อีกฝ่ายถึงได้ยอมปล่อย เป็นวินาทีเดียวกับที่ฝ่ามือเรียวตบฉาดเข้าที่ใบหน้าคม

      เขาหอบหายใจ... อีกฝ่ายก็เช่นกัน มือที่เพิ่งใช้ประทุษร้ายใบหน้าคมค่อยๆลดระดับลง หากสังเกตุดีๆจึพบว่ามันสั่น...

      ไม่ใช่เพราะกลัว... ไม่ใกล้เคียงกับเกลียดชัง แต่เป็นโทสะ...

      “ข้าไม่ใช่ของเล่นของเจ้า”เขาเอ่ย หากนัยน์ตาสีเทากลับปรายมองอย่างเกลียดคร้าน ไม่ใส่ใจ

      “ต่างกันตรงไหน”ยักษ์ร้ายเอ่ย ลูบผิวหน้าของตนที่ถูกตบจนชา หากเป็นมือของผู้อื่นก็คงไม่ได้ระคายหนังเขา หากนี่อย่างไรก็เป็นมือของจิ้งจอกเก้าหาง...

      “เจ้า...!”โทสะยิ่งฉายชัดในดวงตาสีฟ้าเมื่อได้ยินประโยคนั้นของอีกฝ่าย ร่างสูงเพรียวเดินหนีไปอีกทางอย่างคร้านจะต่อปากต่อคำด้วย หากยังไม่มันก้าวพ้นจากห้อง ท่อนแขนแกร่งก็ตวัดโอบรอบเอว ดึงร่างเขาไปโอบรัดโดยแรง

      “จะหนีไปไหน หรือยอมรับความจริงไม่ได้”เสียงเข้มกลั้วหัวเราะกระซิบริมหู มือลูบเอวแคบ ไล่มาถึงแผ่นอก เลยไปยังลำคอ

      “ข้าบอกเจ้าแล้ว เจ้าจะนอนกับผู้หญิงกี่คนข้าก็ไม่สน แต่อย่าได้รัก...”ออกแรงบีบบนลำคอนั้นจนอีกฝ่ายหายใจไม่ออก ร่างเพรียวออกแรงดิ้น แต่ก็มิอาจหลุดพ้นจากพันธนาการของยักษ์ได้

      ขี้โกงนัก...

      เจ้ารักนางได้ แล้วใยข้าจึงจะรักผู้อื่นไม่ได้

      เจ้ารักนาง... แล้วใยทั้งๆที่รักนาง ถึงยังทำกับข้าเช่นนี้

      พวกยักษ์ล้วนเห็นแก่ตัวเหมือนเจ้าหรือไม่ คิโยอามิ...

      “ปล่อย!”เขากระชากเสียง แม้จะลำบากอยู่บ้างในสภาพที่ถูกบีบคออยู่เช่นนี้

      เรียวปากบางขยับขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนเหวี่ยงร่างในอ้อมแขนลงกับพื้น

      “เจ้านี่นะ หัดทำตัวดีๆบ้างสิ เวลาขอร้องคนใครให้ทำเสียงแบบนั้นกัน”เสียงเข้มว่า มือแกร่งแตะลงบนปลายเท้าขาวปรอด ก่อนยกขึ้นจรดเรียวปาก จูบไล่ไปตามข้อกระดูกและบนรอยสักรูปเปลวเพลิงสีฟ้า

      สัมผัสแผ่วเบาชวนวาบหวามเช่นนั้น ทำให้จิ้งจอกหนุ่มอยากยันเท้าถีบอีกฝ่าย แต่ก็ต้องผวาเฮือกเมื่อลิ้นร้อนๆเริ่มลากเลียผ่านปลายนิ้ว

      คิดแล้วก็น่าขำนัก ที่คนตรงหน้ารู้จักร่างกายเขาดีกว่าตัวเขาเองเสียอีก

      “ปล่อย...”เขาเอ่ยย้ำอีกครั้ง เสียงนั้นสั่นเล็กน้อยด้วยพยายามข่มกลั้นอารมณ์ที่ถูกจุดขึ้นอย่างช้าๆ

      ดวงตาสีเทามองดูใบหน้างดงามนั้นแล้วยิ้ม รอยยิ้มอันตรายเช่นเดียวกับดวงตาที่ดูราวกับบ่อพิษ

      ใช่... คนตรงหน้านั้นงดงาม แม้จะรู้จักกันมาร้อยพันปี ความงดงามนั้นก็ยังคงมองได้ไม่มีเบื่อ โดยเฉพาะยามอยู่บนเตียง...

      คิโยอามิเอื้อมมือไปแตะใบหน้าของคนที่เบือนหนีไปอีกทาง บังคับนัยน์ตาสีฟ้าให้หันมาสบตา

      “เจ้าก็รู้ว่าข้าเอาแต่ใจ”เอ่ยจบ จูบร้อนก็บังคับยัดเยียดลงมาอีกครั้ง คนผมเงินมิได้ดึงดันปฏิเสธ หากก็ไม่ได้ตอบรับ

      มือใหญ่รวบข้อมือของอีกฝ่ายไว้ บีบแน่นดั่งคีมเหล็ก ตัดสิ้นซึ่งการขัดขืนใดๆที่พึงทำได้

      ยักษ์แดงยังคงลิ้มรสหวานและกลิ่นอายเบาบางชวนมัวเมานั้นอย่างกระหาย กลิ่นนั้นหอมจาง ไม่อาจอธิบายได้ว่าหอมอย่างไร มิได้หวานเอียนอย่างสตรี เป็นกลิ่นที่ทำให้ผู้คนขาดสติยามได้สัมผัส

      ดังนั้นเขาจึงได้หวงแหน...

      เรียวปากไล่ไปตามลำคอ ขบย้ำแรงๆเพื่อทิ้งรอยไว้ บางคราเขี้ยวคมก็กัดลงบนผิวขาวเพื่อลิ้มรสโลหิต

      บรรยากาศในห้องมอมเมาด้วยควันจากกล้องยาสูบที่ถูกปัดทิ้งไปอีกทางและกลิ่นอายของราคะ มือแกร่งกระชากอาภรณ์หลุดรุ่ยของร่างเพรียวออกไปให้พ้นทาง พิศมองร่างกายสวยงามที่ราวกับเชื้อเชิญให้ลิ้มลอง

      จิ้งจอกหนุ่มอาศัยจังหวะที่มือถูกปล่อยให้เป็นอิสระข่วนลงบนอกแกร่ง โลหิตไหลออกมาจากบาดแผล อาบย้อมเล็บยาว แผลนั้นไม่นับว่าเล็ก แต่ไม่รู้เพราะอีกฝ่ายหนังหนาหรือไร จึงได้เพียงชะงัก แต่ไม่ยอมผละห่างเช่นเขาหวัง

      คิโยะอามิคว้าข้อมือเรียว ไว้บีบแน่น แล้วเลียหยาดเลือดของตนตามเล็บยาวและปลายนิ้วขาว

      ภาพตรงหน้าทำให้เจ้าของมือหน้าร้อนวูบ เขากระชากมือกลับ อยากจะหนีไปให้พ้นๆจากตรงนี้ แต่ก็ติดร่างที่ราวกับกำแพงขวางกั้นเขากับอิสระ

      “เมื่อไหร่เจ้าจะพอซะที หยุดมายุ่งกับข้าได้แล้ว”เขาเอ่ย แต่ก็เป็นอีกครั้งที่คิโยอามิไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเขา

      “ทำไมข้าจะยุ่งกับเจ้าไม่ได้”พูดพลางกระชากเส้นผมสีเงินยาวๆ บังคับให้ใบหน้างามต้องแหงนขึ้นมองเขาตรงๆ

      “ในเมื่อตัวเจ้าเป็นของข้า...”ปลายนิ้วไล่ไปตามโครงหน้างดงาม เรื่อยไปถึงแผ่นอก

       “ใจเจ้าก็เป็นของข้า เจ้าเป็นของข้า...”

      ประโยคนั้นทะลุผ่านหัวใจคนฟังอย่างจัง เรี่ยวแรงทั้งร่างเหมือนจะหายไปจนเขาหาอย่างไรก็ไม่เจอ

      ไม่ปฏิเสธว่ารัก...

      หากรักแล้วอย่างไรเล่า ในเมื่อมิอาจได้รักตอบ เจ้ารักนาง ไม่ได้รักข้า ไม่เลย...

      ดวงตาสีฟ้าปรือปิดลงอย่างนึกสมเพชในตน การขัดขืนดูไร้ประโยชน์สิ้นดี เมื่อสุดท้ายแล้วเขาก็ไม่อาจต้านทานอีกฝ่ายได้

      ปล่อยให้อีกฝ่ายกัดกินร่างตนอย่างละโมบ ปล่อยให้ทั้งกายและใจถูกนัยน์ตาสีเทานั้นกัดกร่อน...

      ร่างเพรียวบางนิ่งงัน ไม่ได้ขัดขืน หากก็มิตอบรับ เรียวปากบางเม้มเน้นจนคมเขี้ยวก่อให้เกิดแผล สะกดกลั้นเสียงอันน่าละอายในยามที่อารมณ์ถูกอีกฝ่ายปั่นป่วน ข่มกลั้นความเจ็บปวดในยามที่อีกฝ่ายโหมเข้ามาในกาย

      เขาไม่เคยร้อง... ไม่เคยส่งเสียง ในยามที่ร่างถูกอีกฝ่ายครอบครองอย่างดึงดัน เพราะรังเกียจเสียงแหบพร่าของตนซึ่งนอกจากจะไม่อาจหยุดยั้งการกระทำน่าละอายนี้ลงได้ ยังจะทำให้อีกฝ่ายชอบใจมากขึ้น

      ระรอกแห่งกามารมณ์อันดุดันและฝืนใจอย่างยิ่งผ่านพ้นไปพร้อมกับการมาเยือนของราตรี เขาลืมตาขึ้นอย่างอ่อนล้า ผลักมืออีกฝ่ายให้พ้นไปจากตัว แล้วลุกขึ้นด้วยเรียวขาสั่นระริก

      เจ็บปวด... ไม่เพียงกาย แต่ร้าวรานไปถึงหัวใจ...

      กล้องยาสูบที่อยู่บนพื้นถูกเก็บขึ้นมา จุดไฟขึ้นอีกครั้ง และส่งผ่านเข้าเรียวปาก

      ร่างสูงเพรียวเดินกลับไปยังห้องของตน ทิ้งกายนั่งลงบนขอบหน้าต่าง ปล่อยให้ควันสีขมุกขมัวลอยไปทั่วห้องอย่างอ้อยอิ่ง

      จุดจบของความสัมพันธ์เช่นนี้จะเป็นเช่นไร... เขาเองก็ไม่รู้

      หากก็มั่นใจว่ามันคงไม่ได้สวยงาม ก็เหมือนกับตัวเขานั่นแหละ... สกปรกสิ้นดี

      คิโยอามิ... พวกยักษ์ละโมมเช่นเจ้าทุกตนรึเปล่า

      *************

                      สีแเดง เส้นผมนั้นเป็นสีแดง โบตั๋นที่เบ่งบานบนแผ่นหลังนั้นเป็นสีแดง เช่นเดียวกับหยาดหยดเหนียวเหนอะที่เปรอะเปื้อนมือเขาเมื่อตอนประครองศรีษะนั้นขึ้นมาก็ยังคงเป็นสีแดง...

      อา... มือนี่ เปื้อนเลือดมากี่ครั้งแล้ว

      "คอนโนะสุเกะ"

      เสียงนั้นที่เอ่ยนามเขายังคงแสดงถึงความถือดี แม้ในวาระสุดท้ายของชีวิต...

      ทำไมไม่ห้าม... ใยต้องทำหน้าเช่นนั้น อยากตายขนาดนั้นเลยหรือ ไม่สิ... 'รักนาง' ถึงเพียงนี้เชียวหรือ...

      ความรู้สึกรวดร้าวแผ่ไปทั่วทั้งในอก มือแตะลงไปบนใบหน้าคมที่ไร้ซึ่งลมหายใจ เลือดสดๆที่ยังคงระอุร้อนย้อมมือเขาให้แดงฉาน

      ...คิโยอามิ ข้าเกลียดชังเจ้านัก...

      ด้วยปากที่เอื้อนเอ่ยนามของนางอย่างรักไคร่... อย่าได้ใช้มันเรียกนามของข้า

      ด้วยมือที่โอบประครองนาง...อย่าได้สัมผัสแตะต้องข้า

      คิโยอามิ ข้าแค้นเจ้านัก...

      เหตุใดจึงต้องเป็นข้าที่แปดเปื้อนโลหิตเจ้า เป็นข้าที่ต้องมองดวงตาสีเทาที่ไม่เคยมีข้าอยู่ในนั้น

      ข้านึกสงสัย เมื่อเจ้ารักนาง เหตุใดจึงมิยอมปล่อยข้าไป...

      หากครานี้ข้ากลับสงสัยตนเอง ว่าเหตุใดใจจึงยึดติดมิยอมปล่อยวาง...

      พบเจอและพรากจาก อีกครั้ง และอีกครั้ง...

      "อาเฮีย"

      นัยน์ตาเรียวรีหันไปตามเสียงเรียก มองดูเสี้ยวหน้าอ่อนวัยของเด็กหนุ่ม

      แม้รูปลักษณ์จะเปลี่ยนไป น้ำเสียงและแววตาไม่เหมือนในอดีต แต่เส้นผมนั้นยังคงเป็นสีแดงเพลิง... แดงเหมือนโบตั๋นพิษที่ล่อลวงหัวใจเขาให้ติดกับซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนพวกแมลงโง่ๆ

      เรียวปากยกขึ้นเป็นเส้นโค้งบางๆ กึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม ควันจากกล้องยาสูบลอยอบอวนไปทั่วร้านเล็กๆ

      เกลียดชัง... แต่ยิ่งเกลียดเพียงไรก็ยิ่งสะท้อนใจว่ารักมากเพียงนั้น

      จากจุดจบที่พรากจาก นำสู่การพบหน้ากันอีกครั้ง และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะต้องจากกันอีก ไม่รู้ว่าจะเป็นอีกครั้งมั้ยที่มือเขาต้องเปื้อนเลือด

      แต่ไม่ว่าจะอย่างไร... พวกเขาก็ยังอยู่ด้วยกัน...

       

      End?

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×