ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : MY PARENT ..*
เหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น แล้วลบเลือนหายออกไปจากจิตใจ
แต่สำหรับบางเหตุการณ์ มันก็เกิดขึ้นเพื่อให้จดจำซ้ำๆ ย้ำๆ
ยังคงตรึงตราอยู่ แม้เราจะไม่ต้องการ ..
.
.
.
“อ้าว คีบอม มานั่งเหม่อออะไรตรงนี้จ๊ะ?”
ซอนอา เลขาสาวของจงฮยอน ผู้เป็นอาของร่างบางเดินเข้ามาทักทาย เมื่อเห็นว่าคีย์มานั่งหลบมุมอยู่คนเดียวเงียบๆ ทั้งๆที่ปกติเด็กชายตัวบางคนนี้จะเป็นเด็กอัธยาศัยดีคนหนึ่งที่มีคนรุมล้อมอยู่ตลอดเวลา ..
แต่จะว่าไปแล้ว เธอก็พอจะสังเกตเห็นได้อยู่หลายครั้งแล้วว่าคีย์แปลกๆไป ช่วงหลังๆนี้เธอไม่ค่อยเห็นร่างเล็กบอบบางนี้เล่น หรือยิ้มร่าเริงเหมือนเก่า แม้แต่เรื่องเล่าชวนหัว คีย์ก็ยังยิ้มบางเพื่อรักษาบรรยากาศของวงสนทนาเท่านั้น ..
นานแล้วนะ ..ที่น้องชายคนนี้ไม่เคยยิ้มออกมาจากหัวใจเลย
“อ๋อ ..คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะฮะ”
คีย์ฝืนยิ้มแห้งๆตอบเธอไป รู้สึกแย่นิดหน่อยที่ในใจสั่งให้หาทางหลบเลี่ยงบทสนทนากับพี่สาวใจดีคนนี้ ทั้งๆที่ปกติแล้วคีย์ชอบคุยกับเธอมาก คงเป็นเพราะเธอมีลักษณะท่าทางอ่อนโยนแบบที่คีย์ชอบ ใจดี สดใสร่าเริง เหมือนแม่ของเขาที่เสียไปแล้ว ..
ดวงตาเลื่อนลอย เหม่อมองอย่างไร้จุดหมายที่ซอนอาแอบมองอยู่เป็นเวลานาน ทำให้เธอสะท้อนใจ
อะไรกันนะที่ทำให้คีบอม หนูน้อยน่ารักของเธอเป็นไปได้ขนาดนี้..
“เอ้อ คีย์ ..แล้วมินโฮล่ะจ๊ะ? หมู่นี้ไม่ค่อยเห็นเดินด้วยกันเลย ไปไหนซะล่ะรายนั้น?”
คีย์ไม่ตอบคำถามนี้ ไม่มีวันจะตอบ คีย์บอกใครไม่ได้หรอกว่าผู้ชายคนนั้นไปอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ หรือเป็นอย่างไร ..
คีย์ไม่ต้องการรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับคนคนนั้นอีก ..ตลอดไป
ซอนอาไม่ผิด ..
เธอไม่ผิดหรอก ที่เธอไม่รู้ ..
คนที่ผิดคงจะเป็นคีย์ ..ที่ยังกระตุกในหัวใจทุกคราวที่ได้ยินชื่อนั้น ที่ยังทำใจให้ชินไม่ได้สักที ที่ไม่เคยลืมความเจ็บปวดเมื่อครั้งนั้น ยังคงยอมให้มันกลับมาทำร้ายจิตใจอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างนี้
หรือบางทีอาจจะเป็นมินโฮ ..ที่กระทำย่ำยีคนที่ตัวเองเฝ้าพร่ำบอกว่ารักนักรักหนา แต่การกระทำกลับชี้ชัดให้เห็นว่ามีเพียงความใคร่เท่านั้นที่คนคนนั้นมี ที่คนคนนั้นเฝ้ามองด้วยแววตาวาดหวังว่าสักวันคีย์คงจะหายโกรธและกลับไปรักเขา
ซึ่ ง มั น ไ ม่ มี วั น . .
.
.
.
เรื่องของโชคลาง ไม่เข้าใครออกใคร ..
แต่เรื่องของโชคลาง ไม่เคยเข้าข้างคนอย่างคีย์
นับจากวันนั้น ..
วันที่น่าสะพรึงกลัว ..
วันที่แม้ไม่อยากจะจดจำมันให้จิตใจต้องบอบช้ำยิ่งไปกว่าเดิม ..แต่ก็ต้องจำ
ทำไม ..
ทำไมมันไม่ลบเลือนไปสักที ?
ชเว มินโฮ ..
ทำไมนายไม่ออกไปจากชีวิตของชั้นสักที ..?
“เอาล่ะ ..เรามาว่ากันเรื่องของสงครามโลกครั้งที่ 2 กันนะจ๊ะ ”
พี่ซอนอา เลขาคนเดิมที่ควบตำแหน่งคุณครูเพียงคนเดียวของบ้านหลังนี้เริ่มการเรียนการสอนขึ้นในชั้นเรียนที่ครึกครื้น เต็มไปด้วยนักเรียนหลากวัย ตั้งแต่อายุสามขวบ ถึงสิบเก้าปีก็มานั่งเรียนร่วมกันที่นี่..
เธอเห็นมันอีกแล้ว แววตาสิ้นหวังจากดวงตาคู่นั้นดึงดูดเธอให้จมลึกลงไปในวังวนดำมืดของอารมณ์อย่างที่เด็กคนนั้นเป็น ย้ำให้เธอสัมผัสถึงความบอบช้ำในจิตใจได้อย่างชัดเจน
หวังว่าเธอคงไม่เป็นแบบเดียวกับที่พี่เป็น ..
บางครั้งก็กลับกลายเหมือนเหตุการณ์เส้นผมบังภูเขา ..
สิ่งที่ซอนอาสังเกตเห็นมีเพีงความเศร้าสร้อยที่เธอใคร่รู้ถึงสาเหตุของมัน ทั้งๆที่สิ่งที่เธอตามหานั้นอยู่ไม่ไกลกัน แต่ซอนอาก็กลับมองไม่เห็น ..
คีย์ยังคงรวบรวมสมาธิ จดจ่อกับสิ่งที่คุณครูซอนอาพูด เช่นเดียวกับชเวมินโฮยังนิ่ง ยังจ้องมอง และรอคอยว่าเมื่อไรที่คนคนนั้นจะยอมให้อภัย ..
ทำไมต้องโมโหโกรธากับการกระทำของเขานัก ทั้งๆที่เขาก็เฝ้าทำเพื่อคีย์มาตลอด แต่ความผิดเพียงครั้งร่างบางกลับไม่ยอมให้อภัย
ทั้งๆที่เขาเฝ้าตามง้องอน ข่มอารมณ์โกรธแม้จะยากลำบาก อดทนให้คีย์ว่ากล่าวต่างๆนานา แม้ในใจจะขัดแย้งและอยากจะโต้เถียงเพียงใด
ทั้งๆที่เขาช่างแตกต่างกับคนที่ทำให้คีย์เสียใจซ้ำซากอยู่เรื่อยไป แต่คีย์ก็ยังรักมัน และจงเกลียดจงชังเขา กล่าวหาเอาว่าเขาทำลายชีวิตทั้งชีวิตของคีย์
ทำไมต้องโกรธ จนไม่แม้แต่จะเหลียวแล ..
ทำไมกัน ..คีย์ ?
.
.
.
เย็นแล้ว ..
ร่างบางพาตัวเองเข้าไปภายในห้องทำงานของคุณอาจงฮยอน เพื่อไปทำงานด้านบัญชีที่ตนเองถนัด และคอยรับใช้คุณอาหากท่านต้องการอะไรเพิ่มเติมระหว่างการทำงาน ..
“คีย์ ..ฝากบอกซอนอาว่าขอกาแฟด้วยนะ แล้วก็มาจัดการบัญชีเดือนนี้ที อ้อ..ถ้าเสร็จแล้วก็มานวดให้อาเหมือนทุกทีด้วยแล้วกัน ช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้ เมื่อยมาก ..สงสัยแก่แล้วมั้งเนี่ย”
คุณคิมผู้เป็นอาสั่งงานยาวเหยียดเหมือนทุกครั้ง เมื่อเห็นหลานชายพยักหน้ารับจึงหันไปสนใจงานที่ตนเองทำค้างไว้ต่อไป ปล่อยให้คีย์ทำงานตามที่ตัวเองสั่งไว้ให้เสร็จสิ้น ..
“เราคงอยู่ด้วยกันต่อไปไม่ได้แล้วหละค่ะ ..”
คีย์ได้ยินเสียงผู้หญิงเสียงหนึ่งที่คล้ายซอนอามากๆ ดังขึ้นภายในห้องทำงานของจงฮยอน แต่ก็ไม่เข้าใจในเนื้อความที่คนทั้งสองพูดคุยกันนัก แม้จะพอคาดเดาได้เล็กน้อยว่าพี่ซอนอากับคุณอาคบหาดูใจกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่คุณอาก็ยังไม่เคยเปิดเผยสักที ถามกี่ครั้งกี่คราวก็เอาแต่บอกว่ารอให้พร้อมก่อนแล้วจึงจะบอก ..
“ทำไม?”
เสียงเรียบเฉยของคุณอาตอบกลับคำพูดเมื่อครู่นั้น ทำให้คีย์ต้องแนบใบหูขาวเข้ากับประตูไม้บานโต เพื่อรอฟังสิ่งที่ทั้งสองพูดคุยกัน แม้จะรู้ว่าเป็นสิ่งไม่ดีนัก แต่ความอยากรู้มันมีมากกว่า ..
“ชั้นหมายความว่า เราคงแต่งงานกันไม่ได้แล้วหละค่ะ ..ชั้นไม่ต้องการใช้ชีวิตคู่ร่วมกับคุณอีกแล้ว”
คิม จงฮยอนชะงักมือที่กำลังเขียนแผนผังงานลง เช่นเดียวกับคีย์ที่ชะงักลง แต่สาเหตุภายนอกห้องกลับเป็นเพราะมีใครบางคนบังเอิญเข้ามาเห็นร่างบางแอบฟังบทสนทนาอยู่ ..
“ไปแอบฟังเค้าทำไมเนี่ย? สอดรู้!”
เสียงทุ้มกล่าวว่าเบาๆ แต่ส่งผลให้ร่างบางหมั่นไส้จนเผลอหยิกเข้าที่เอวของคนตัวโต
“ว่าแต่คนอื่น ..ตัวเองก็แอบฟังเหมือนกันแหละน่า แทมินเอ๊ย”
หากแต่ยังไม่ทันจะพูดจาอะไรกันไปมากกว่านั้น ร่างสูงก็รีบดึงตัวร่างบางให้ออกมาพ้นจากสภาพการแอบฟังบทสนทนาของคนในห้องได้ทันท่วงทีที่หญิงสาวกระชากประตูออกมาอย่างอารมณ์ไม่ใคร่จะดีนัก ทั้งคราบน้ำตาที่เปรอะเปื้อนใบหน้าขาวนั้น ยิ่งทำให้เธอดูเศร้าหมองลงไปอีก ..
“เพราะแทมินคนเดียว แอบฟังไม่รู้เรื่องเลยดูดิ๊!”
เสียงใสบ่นว่าเอากับคนตัวโตเมื่อหญิงสาวเดินผ่านไปแล้ว ..
.
.
.
“คีบอมฮยอง~ คุณจงฮยอนสั่งว่าเย็นนี้ให้ไปหาที่ห้องทำงานให้ได้เลยนะ มีเรื่องจะคุยด้วย”
จินจิน เด็กชายรุ่นน้องวัยกระเตาะเพียงคนเดียวที่เรียกคีย์ด้วยชื่อนี้ตะโกนเสียงดังบอกร่างบางขณะที่เดินสวนกันบริเวณสวนหย่อมหน้าบ้าน
แม้จะสงสัยเล็กน้อยว่าเป็นเรื่องอะไรกันที่จำเป็นต้องพูดกับเขาขนาดนั้น แต่ร่างบางก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย ร่างบางยังคงเดินตรวจตราแปลงดอกไม้ที่เพิ่งลงฟอร์เกทมีน็อตไว้เมื่อสองสามวันก่อน ไม่ได้สังหรณ์ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนเองเลยแม้สักนิด ..
เสียงคุณครูซอนอาคนสวยบอกเลิกคาบเรียนสุดท้ายของวัน ร่างบางรีบกระโดดผลุงไปทางปีกซ้ายของตัวอาคาร สถานที่ๆเป็นบริเวณห้องทำงานของคุณอาจงฮยอน แต่ก็ถูกขัดจังหวะด้วยกระดาษโพสท์อิทสองแผ่นที่ถูกส่งมาจากคนละฝั่งของห้อง ..
ใบแรก ..
.. รอด้วย เดี๋ยวขอไปช่วยดูอาการคุณคิมด้วยคน ..
แทมแทม^^
ใบที่สอง ..
.. ขอโทษ ชั้นจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว..
ชมฮ.
กระดาษสีเดียวกัน แบบเดียวกันสองใบ
แต่ช่างให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันเหลือเกิน ..
แม้โชคชะตาจะหลอกให้ร่างบางดีใจได้ชั่วครู่ชั่วยาม แต่สุดท้าย อี แทมินก็ต้องถูกคุณครูคนสวยเรียกให้ไปช่วยงาน จำเป็นต้องปล่อยให้คีย์มาหาคุณอาเองตามลำพัง
“มาแล้วฮะคุณอา ..”
เสียงใสทักทายเจื้อยแจ้ว ก่อนจะชะงักลงในทันทีที่เห็นขวดเครื่องดื่มแอลกลอฮอลล์ดีกรีสูงหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายชนิดที่วางระเกะระกะอยู่รายรอบห้องทำงานที่สะอาดเรียบร้อยอยู่เสมอของคุณคิมผู้เป็นอา ..
“อ้า ..คีย์ มาแล้วหรอ มานั่งนี่สิ อามีอะไรจะคุยด้วย”
เสียงอ้อแอ้ฟังไม่ชัดเจนนักเรียกให้คีย์เข้าไปหาร่างหนาที่โซฟาตัวเดียวกันกับที่เจ้าตัวนั่งรออยู่ก่อนแล้ว คีย์จึงพยักหน้ารับคำแล้วก้าวข้ามขวดไวน์นานาชนิดไปยังที่หมายนั้น
จงฮยอนหยิบแก้วไวน์ทรงสูงอีกแก้วมายื่นจ่อให้ตรงหน้าร่างบาง แม้คีย์จะปฏิเสธเท่าไรก็ยังคงไม่เป็นผลให้คนไร้สติจากน้ำเมาได้ฟังแม้แต่น้อย ร่างหนาคะยั้นคะยอให้คีย์ต้องดื่มจนหมดแก้วแล้วเล่าเรื่องราวที่ไม่สบายใจให้ฟังอย่างหมดเปลือก ..
แต่ก็เป็นอย่างที่คีย์ได้ยินเมื่อวาน จงฮยอนถูกซอนอาบอกเลิกหลังจากคบหาดูใจกันมานานถึง 6 ปี แต่จะด้วยสาเหตุอะไรนั้น เจ้าหล่อนก็ไม่ยอมปริปากบอก แม้คุณอาของเขาจะกดดัน บีบบังคับ หรืออ้อนวอนขอร้องสักเท่าไรก็ตาม ..
คีย์เองก็จนปัญญา ไม่รู้จะปลอบผู้มีศักดิ์เป็นอาของตนเองว่าอย่างไร ..
แม้จะคบกันมาเนิ่นานเพียงไร รักมากสักเพียงใดก็ไม่มีความหมาย ...
อนาคตที่เคยราวมฝันด้วยกัน หลายสิ่งอย่างที่เคยทำและทุ่มเท จบลงง่ายๆเพียงคำพูดตัดเยื่อใยที่หลุดออกจากปากบางนั้น ไม่มีเหตุผล ไม่มีที่มาที่ไป และไม่อาจทำใจได้ และแม้แต่ตอนนี้ก็ยังคงนึกไม่ออกว่าต้องทำเช่นไร
ทำได้เพียงเสียใจ เจ็บปวด เท่านั้น
สิ่งที่คิดขึ้นได้ ณ เวลานี้ทำให้จงฮยอนยิ่งเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ คิมจงฮยอนรินน้ำสีอำพันเต็มแก้วสูงอีกครั้ง แล้วดื่มจนหมดภายในอึกเดียว สติที่มีน้อยอยู่แล้ว ก็ยิ่งน้อยลงจนแทบจะไม่มีเหลืออยู่เลย ..
ไม่มีสติ จนเห็นใบหน้าหวานๆของหลานชายตนเองเป็นผู้หญิงคนนั้น ..
ซอนอา..
เธอจะได้รู้ว่าการปฏิเสธไมตรีที่ คิม จงฮยอน คนนี้ตั้งใจหยิบยื่นให้ มันจะได้รับผลอย่างไร ..
ร่างหนาตรงเข้าหาคนตัวเล็กกว่า ถอดเข็มขัดเส้นยาวออกอย่างรวดเร็วแล้วนำมันไปมัดไว้ที่ข้อมือของเด็กชายอย่างแน่นหนาจนข้อมือขาวบางนั้นเป็นรอยแดงขึ้นมา แต่นั่นก็ไม่ทำให้เขาหยุดการกระทำป่าเถื่อนที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้
เจ้าของสถานที่ผลักอีกคนลงไปนอนกองอยู่บนโซฟาหนังโดยที่เจ้าตัวไม่สามารถขัดขืนใดๆได้ด้วยเครื่องพันธนาการที่ตรึงตราไว้อยู่ นั่นยิ่งเป็นการสะดวกต่อร่างหนาให้ตรงเข้ามอบจูบหนักหน่วงให้หับคนที่นอนอยู่ใต้ร่าง..
ความหอมหวานยิ่งกว่าที่คาดไว้นั้นลอยอวลอยู่ภายในปาก ..ริมฝีปากบางนั้น ยิ่งพยายามขัดขืนก็ยิ่งทำให้เขาสนุกสนานในการไล่ปล้ำจูบไปเรื่อยๆ มือหนาบีบคางคีย์ให้ร่างบางเปิดปากออก โดยไม่ทันได้คาดคิด ร่างบางอ้าปากออกอย่างตั้งใจมอบจูบหวานหอมให้จงฮยอน
คีย์กำลังรอโอกาสเหมาะ ..
เมื่ออีกฝ่ายพลั้งเผลอ คิดว่าร่างบางจะยินยอมมอบกายให้เขาได้เชยชมตามใจต้องการแล้ว คีย์จึงเรี่ยวแรงทั้งหมดที่ตนมี กัดฟันคมลงไปยังก้อนเนื้อสีสดที่ลามเลียอยู่ภายในโพรงปากจนอีกฝ่ายร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวด
เมื่อนั้น.. ร่างบางจึงรีบออกวิ่งเต็มฝีเท้า แต่ขวดและแก้วไวน์จำนวนมากมายที่กองระเกะระกะอยู่เต็มทางเดิน ทำให้จงฮยอนตามมารวบตัวไว้ได้แม้จะยังเจ็บปวดภายในปากที่ถูกอีกฝ่ายกัดลิ้นไปเมื่อครู่
โชคดีของจงฮยอน ..โชคร้ายของคีย์
โชคดีที่ไม่เคยเข้าข้างคีย์เลยแม้สักครั้งเดียว ..
หลังจากถูกร่างหนาทำร้ายร่างกายจนสิ้นฤทธิ์ ร่างบางยิ่งถูกมัดแน่นหนาด้วยเชือก และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ..โทสะของจงฮยอนที่คีย์เผอิญไปปลุกมันเข้า
จงฮยอนกระชากเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนออกจากกายบางก่อนที่เสื้อผ้าชิ้นอื่นๆจะถูกถอดออกตามๆกันไปในระยะเวลาอันสั้น ร่างกายขาวนวล ผิวเนื้อสีน้ำนมยิ่งทำให้จงฮยอนตาพร่า เด็กชายตัวน้อยที่งอตัวจนขดเป็นก้อนกลมด้วยความอับอายยิ่งเป็นเหมือนสิ่งยั่วยุ ที่คอยกระตุ้นให้ คิม จงฮยอนตรงเข้าสัมผัสมากยิ่งกว่าริมฝีปาก แต่เป็นทั้งหมดทุกส่วนของร่างกายงดงามนั้น ..
ความจริงที่ไม่ต้องมองเห็นก็รับรู้ได้ ..
ส่วนกลางลำตัวที่โป่งนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด..
แสดงความต้องการของร่างหนาอย่างชัดแจ้งและไม่ปิดบัง ..
ร่างกายแข็งแกร่งจัดการไขว้แขนบอบบางของอีกฝ่ายไว้ที่แผ่นหลังขาวนวล แล้วจึงกดขาเรียวของคนข้างใต้ด้วยขาของตนเอง ยิ่งทำให้คีย์ไม่สามารถดิ้นหนีไปได้ รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากของร่างหนาพร้อมๆกับที่แท่งเนื้อร้อนสอดใส่เข้าไปยังช่องทางด้านหลังของร่างบางที่บีบแน่นเพราะไม่ได้รับการเปิดทางก่อน ..
แต่นั่นยิ่งสร้างความสุขให้จงฮยอน แม้จะอึดอัดเล็กน้อยแต่เขาสนุกสนานกับมัน มือหนาฟอนเฟ้นไปทั่วร่างบาง โดยที่ส่วนล่างนั้นก็ไม่หยุดสอดใส่ กระแทกกระทั้นเข้าออกอย่างรุนแรงและรวดเร็วตามอารมณ์ความใคร่ที่เพิ่มสูงขึ้น ..
เสียงครางแผ่วเบาจากการถูกกระตุ้นโดยการเสียดสีกับจุดอ่อนไหวของร่างกายทั้งสอง แต่เนื่องจากถูกสะกดกลั้นให้อยู่เพียงภายใน เสียงหวานจึงหลุดรอดออกจากปากบางเพียงเล็กน้อย แต่นั่นก็ช่วยกระตุ้นอารมณ์ของอีกฝ่ายได้มาก ..
ร่างกายทรยศ ..
กับคุณอาแท้ๆ ก็ยังรู้สึกงั้นหรือ ..?
เสียงครางครึมเครือค่อยๆเพิ่มระดับความดังขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบจะกลายเป็นกรีดร้องดังๆ เมื่อทั้งจงฮยอนและคีย์ไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวกันในระยะเวลาพร้อมๆกัน ..
สำหรับจงฮยอน ..มันคือความสุขสมพร้อมเสียงครางและเสียงหัวเราะ
แต่สำหรับคีบอมคนนี้ ..มันไม่ใช่ความสุขสมอย่างแน่นอน เพราะน้ำเมือกขาวขุ่นนั้นถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมๆกับน้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุด ..
ต้องเสียใจ ..ต้องร้องไห้อีกกี่ครั้งกันนะ?
อีกกี่ครั้ง ..ฟ้าจึงจะพอใจ
Qsiar's talk
ดีไม่ดียังไงก็ช่วยติชมกันนะฮะ
ขอบคุณสำหรับการติดตาม..
เจอกันพาร์ทหน้า!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น