คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : .:: Big Boss ::. ตอนที่ 5
Big Boss เจ้าพ่อฝึกหัด
5
“ฮ้าววววววว”
ร่างสูงเปิดปากหาวหวอดพลางบิดขี้เกียจไปมาบนเตียงอุ่น วันนี้วันหยุดแรกในรอบหนึ่งเดือนที่เขาต้องทนฝึกแบบทรหดกับตาแก่หลงไป๋ นอนเต็มอิ่มที่กินเวลาจนบ่าย ก่อนจะซุกหน้ากลับลงไปที่หมอนไปโปรดอีกครั้ง กลิ่นหอมจากน้ำยาปรับผ้านุ่มที่เมื่อไหร่เขาก็ยังไม่ชินซักที บอกให้โด คยองซูเลิกเข้ามาวุ่นวายกับเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้เป็นสิบครั้งแต่ดูเหมือนคำพูดของเขาจะเข้าหูซ้ายทะลุไปหูขวา คยองซูไม่ได้ใส่ใจจะฟังและยังคอยส่งแม่บ้านมาทำความสะอาดแมนชั่นเก่าๆ จนมันดูดีมีระดับขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ
“กลิ่นลาเวนเดอร์...”
จงอินเอ่ยเดากับตัวเองเบาๆ เมื่อสูดกลิ่นหอมๆ ของปลอกหมอนใบใหม่นั้นอีกครั้ง และถ้าเขารู้ว่ามันคือน้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นลาเวนเดอร์จริงๆ เขาคงจะเจอพรสวรรค์ในการดมกลิ่น(!)ของตัวเองเป็นแน่ จมูกโด่งสันค่อยๆ ละออกจากปลอกหมอนก่อนจะไพล่ความคิดไปถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เขาเคยได้สัมผัสเมื่อสองสามวันก่อน
...ผิวขาวๆ...ริมฝีปากสีเรื่อ...กับกลิ่นหอมอ่อนๆ...
โด คยองซู...ยัยทอมเตี้ย...
...
I need you and you want me, 지구란 이 별에서 오~ 오~
...
เสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้นทำให้ร่างสูงละความคิดไร้สาระออกไปจากสมอง เจ้าของเบอร์ที่โทรเข้ามาทำให้เรียวปากได้รูปยกยิ้มกว้าง ‘เจสสิก้า’ จะว่าไป...ตั้งแต่เจอกับคยองซูเขาก็ไม่ได้เจอกับเจสสิก้าเลย เพราะถูกหมอนั่นกับอาจารย์จงอางเฒ่าขโมยเวลาไปจนไม่มีเวลาจะไปทำอะไรซักนิด
“ครับ สิก้า”
((สิก้าคิดถึงจงอินจังเลยค่ะ ทำไมหายไปนานขนาดนี้คะ? ไม่รักสิก้าแล้วเหรอ))
“เปล่านะครับ! ผมน่ะรักสิก้ามาก” ...ถึงยอมให้ตาเฒ่านั่นฝึกโหดทุกวันไงล่ะ!
((วันนี้จงอินว่างมั้ยคะ? สิก้าคิดถึงอยากเจอจงอินจัง))
“ว่างครับ! ว่างสิๆ สำหรับสิก้าผมว่างเสมอ”
((งั้นเจอกันร้านเดิมนะคะ จุ๊บ!))
ปลายสายถูกตัดไปแล้วก่อนที่จงอินจะกระเด้งตัวลุกจากที่นอนอย่างสดชื่น เช้านี้...เอ่อ...บ่ายนี้ช่างแสนจะสดใส ร่างสูงหายเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะออกมาในชุดลำลอง นึกไปถึงคนเจ้ากี้เจ้าการที่จัดการที่ยัดเสื้อกับกางเกงเซ็ทใหม่ทั้งหมดนี่เอาไว้ในตู้
“ดีนะที่ไม่เปลี่ยนแม้แต่กางเกงใน”
นั่นล่ะ...สิ่งเดียวที่คิม จงอินยังมีสิทธิ์ขาดอยู่
ประตูหน้าห้องถูกเปิดออกก่อนที่เขาจะต้องถอนหายใจยาวเหยียดเมื่อร่างเล็กที่เขาคิดว่าน่าจะมีงานมีการอย่างอื่นทำนอกจากการเฝ้าเขาอยู่ทุกหนทุกแห่งกำลังยืนพิงกำแพงฝั่งตรงข้ามแล้วอ่านหนังสือเล่มเล็กในมือ หนังสือถูกปิดลงเพราะเขาที่เปิดประตูออกมา
“คุณชายจะไปไหนครับ?”
“ฉันต้องรายงานเธอด้วยรึไง!?”
“เปล่าครับ ผมแค่ถามเผื่อคุณชายจะมีเรื่องให้ผมช่วย”
“ช่วยไปไกลๆ” ตอบเสียงเย็นขณะที่คนหน้าตายค้อมตัวลงแล้วเดินผละจากไปนั่นทำให้คิ้วเข้มขมวดมุ่น
อ้าว...ไปดื้อๆ เลยเว้ย! ปกติมันต้องทำหน้านิ่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้นี่หว่า!...รึว่าอยู่ในช่วงนั้นของเดือน?
“เอาว่ะถือว่าทางโล่งโปร่งสะดวก!” ยกยิ้มให้ตัวเองอย่างดีใจก่อนที่จะก้าวเท้าออกมานอกห้องแล้วสะดุดเข้ากับวัตถุสีดำสนิทที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นทางเดิน ดีที่จงอินทรงตัวไว้ได้ทันไม่อย่างนั้นคงได้นอนวัดพื้นเป็นเกียรติแก่แมนชั่นแห่งนี้แน่ๆ
มือแกร่งหยิบมันขึ้นมาพลิกไปพลิกมา...กระเป๋าตังค์กับกุญแจรถ? ใครทำตกไว้วะ?
ไม่ได้ข้องใจนานนักเมื่อโน้ตเล็กๆ ที่โผล่พ้นมาจากช่องใส่ธนบัตรทำให้เขาต้องคลี่ออกดู
...
นี่กระเป๋าสตางค์ของคุณกับกุญแจรถของคุณ รถสีดำจอดอยู่ล็อคสองใต้แมนชั่น
...
ไม่มีลงชื่อก็รู้ว่าไม่พ้นเป็นโด คยองซูจอมเผด็จการเป็นแน่ แรกทีเดียวจงอินคิดจะโยนของสองสิ่งนี้ทิ้งไปไกลๆ แต่...เงินในกระเป๋าก็มากอยู่แถมมีรถอีก คราวนี้เจสสิก้าคงไม่บ่นเรื่องขึ้นแท็กซี่แล้ว คิดได้อย่างนั้นก็เดินควงกุญแจผิวปากอารมณ์ดีไปที่จอดรถด้านล่าง สอดส่ายสายตาไปทั่วก่อนจะพบเป้าหมายรถยนต์สีดำล็อคสอง
แหม...นึกว่าจะเป็นเฟอร์รารี่ซะอีกเว้ย! แค่รถเก๋งธรรมดานี่หว่า....แต่ก็ดีกว่าไม่มีใช้ละนะ
นิ้วเรียวกดปลดล็อคก่อนที่ไฟสีเหลืองจะสว่างวาบขึ้นจาก...ด้านหลัง!?
“เฮ้ย! เอาจริงดิ!!!”
เสียงทุ้มร้องลั่นเมื่อมาเซราติรุ่น Maserati GranTurismo MC Stradale สีดำขลับกำลังอวดโฉมอยู่ตรงนั้น
มีโน้ตเล็กๆ แปะอยู่ที่กระจกฝั่งคนขับ
...
ถ้าขับชนโทรเข้าเบอร์นี้...หวังว่าโทรศัพท์ของคุณคงยังมีเงินพอที่จะโทรออก
...
“ขนาดเขียนโน้ตยังจะกวนประสาทอีกนะแม่คุณ!”
.:: Big Boss เจ้าพ่อฝึกหัด ::.
“มาช้าจังนะคะ!” เสียงหวานเอ่ยขึ้นแกมน้อยใจเล็กน้อยเมื่อร่างสูงของจงอินมาถึง
“ขอโทษนะครับสิก้า ผมยังไม่ค่อยชินกับรถเท่าไหร่”
“ปกติก็มารถไฟฟ้าไม่ใช่เหรอคะ?” หล่อนเอ่ยถามขณะที่นัยน์ตาสวยฉายชัดว่ากำลังงงอยู่ไม่น้อย แต่ไม่ทันที่จงอินจะอธิบายบริกรหนุ่มก็ก้าวเข้ามาพร้อมกับค้อมตัวลงอย่างนอบน้อมพลางเอ่ยบอก
“รถของคุณผู้ชายผมจอดให้เรียบร้อยแล้วครับ เมื่อคุณผู้ชายเช็คบิลผมจะนำรถไปรอที่ด้านหน้านะครับ”
พูดจบบริกรหนุ่มก็เดินออกไปทันที
“รถ!? จงอินคุณซื้อรถเหรอคะ?”
“ครับ...เอ่อ...ไม่เชิงน่ะ มีคนให้ผมยืมมาขับน่ะครับ”
“จริงเหรอคะ!? งั้นเราก็ไปที่ริมแม่น้ำฮันกันโดยที่สิก้าไม่ต้องยืนรอเรียกแท็กซี่แล้วสินะคะ!” หล่อนว่าเสียงหวานพลางย้ายตัวเองจากนั่งฝั่งตรงข้ามให้มาอยู่ฝั่งเดียวกัน มือเล็กโอบรอบต้นคอหนาก่อนจะบรรจงสัมผัสแผ่วเบาที่เรียวปากได้รูปนั้นอย่างเอาอกเอาใจ
“สิก้า!”
“แหม...ตกใจอะไรคะ? เราเคยกันมากกว่านี้อีกนะ”
“แต่...”
“ฮิฮิ สิก้าว่าเรามาทานกันดีกว่าค่ะ สิก้าสั่งแต่ของโปรดของจงอินทั้งนั้นเลยนะ” ร่างสูงพยักหน้ารับก่อนที่มื้ออาหารแสนหวานจะผ่านพ้นไป วันนี้เจสสิก้าเอาอกเอาใจจงอินเป็นพิเศษ ทั้งตักให้ทั้งป้อนให้ทำเอาหลายๆ คนอิจฉาไปกับหนุ่มสาวหน้าตาดีสองคนที่กำลังสวีทหวาน
“สิก้าอยากไปไหนต่อครับ?”
“แม่น้ำฮันค่ะ! สิก้าชอบแม่น้ำฮันตอนกลางคืนแบบนี้ที่สุดเลยนะรู้มั้ย?”
“อ่า...สิก้าครับทำแบบนี้ใครเห็นเข้าเค้าจะว่าเอาได้นะครับ” มือแกร่งรวบมือเล็กนั้นให้หยุดซุกซนก่อนจะหันไปเรียกเช็คบิลอาหารมื้อนี้ กระเป๋าสตางค์สีดำที่ถูกเปิดอ้าออกให้เห็นเงินจำนวนไม่น้อยทำให้เจสสิก้าขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ หล่อนจับคางได้รูปให้หันมาเผชิญหน้าก่อนจะเอ่ยถาม
“ทำไมจงอินเงินเยอะจังเลยคะ? จงอินไม่ได้ไปทำเรื่องไม่ดีมาใช่มั้ย?”
“เปล่านะครับสิก้า! มีคนให้ผมยืมมาใช้น่ะ”
“ยืมเหรอคะ? คนๆ นั้นเป็นใครคะ?”
“เพื่อนผมน่ะ”
“สิก้ารู้จักมั้ย?”
“ผมคิดว่าไม่นะครับ”
“แต่สิก้าอยากรู้จ...”
“ผมว่าเราไปแม่น้ำฮันกันเถอะครับ เดี๋ยวสิก้าจะกลับบ้านดึก” ร่างสูงเอ่ยตัดบทก่อนจะเดินนำหญิงสาวให้ไปที่ด้านหน้าของร้านอาหาร มาเซราติสีดำสนิทที่อวดโฉมอยู่ด้านหน้าทำให้เจ้าหล่อนถึงกับตาค้าง และเมื่อบริกรลงมาจากรถแล้วจงอินขึ้นนั่งที่คนขับเจสสิก้าจึงมั่นใจว่ารถคันนี้เป็นของจงอินจริงๆ
“เพื่อนจงอินนี่ใจดีจังนะคะ”
“ครับ...เอ่อ...ใจดีมั้งครับ” หน้าหวานๆ ของใครบางคนที่ลอยขึ้นมาในความคิดขัดบทสนทนาจนจงอินได้แต่ขมวดคิ้วมุ่น ...ใจดีงั้นเหรอ?...ถ้าคนอย่างโด คยองซูใจดี คนอย่างคิม จงอินก็เป็นพ่อพระที่กระทำแต่ความดีงามซะละมั้ง!... เรียวปากได้รูปยกยิ้มขำเมื่อเขากำลังคิดว่าถ้าคยองซูได้ยินที่เขาคิดจะทำหน้ายังไงกันแน่
“ยิ้มอะไรน่ะคะ?”
“อ่า...เปล่าครับ”
“เพื่อนจงอินนี่เยี่ยมไปเลยนะคะ บ้านต้องรวยมากแน่ๆ”
“ครับ คงรวยมาก”
“จอดตรงนี้เลยค่ะจงอิน! สิก้าอยากลงไปสัมผัสบรรยากาศสวยๆ นี่ใจจะขาดแล้วค่ะ”
“แต่ว่า...”
“นะคะนะ...” นัยน์ตาหวานเชื่อมออดอ้อนเป็นอันว่าจงอินทำอะไรไม่ได้นอกจากเลี้ยวรถเข้าไปจอดตรงที่เจสสิก้าต้องการ แต่มาเซราติคันงามกลับเตะตานักเลงประจำถิ่นเข้าอย่างจัง ร่างใหญ่ก้าวเร็วๆ เข้าไปยังเจ้าของรถคันหรูเพื่อหวังเจรจา
“เฮ้ย! ไอ้หน้าอ่อน...รถสวยนี่ ยืมขับหน่อยดิ! อ้าว...ว่าไงครับลูกเจ้าพ่อ โอ้ววว กระหม่อมขอประทานอภัยที่เคยล่วงเกิน พระบิดามารับกลับพระราชวังแล้วหรือกระหม่อม ฮ่าๆๆๆๆๆ” คังอินหัวเราะร่วนก่อนจะหันไปทางกลุ่มชายวัยรุ่นที่อยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่ไม่ไกลนัก
“เฮ้ยพวกเรา! ลูกท่านเจ้าพ่อหวางยี่มาเยี่ยมเว้ย!”
“’โทษทีนะ ฉันไม่ว่างจะคุยกับพวกนาย”
“โถ่ๆๆๆ คุณชายครับ ผมขออภัยอย่างสูงที่เคยล่วงเกิน” ชายร่างใหญ่ตีสีหน้าสลดก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา กลุ่มชายวัยรุ่นค่อยๆ ก้าวเข้ามาล้อมจงอินเอาไว้โดยรอบ นัยน์ตาคมกล้ากวาดมองหาเจสสิก้าแต่หล่อนหายไปจากตรงนั้นเสียแล้ว แต่นั่นถือเป็นเรื่องดีที่เขาจะไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
“คราวก่อนปากแตกไปท่าทางจะไม่เข็ดนะมึง”
“คราวก่อนก็ส่วนคราวก่อน เรื่องในอดีตเอามาคิดให้รกสมองทำไมคังอิน”
“ปากดีเหมือนเดิมเลยนะมึง!”
“ปากกูดีเท้ากูก็ไวด้วย”
ผลั่ก!
ขายาวยกขึ้นถีบยอดอกจนคังอินล้มคว่ำและนั่นก็เป็นการเปิดฉากการต่อสู้ หนึ่ง ต่อ ยี่สิบ!
...
“ท่านคยองซู! คุณชายกำลังเสียเปรียบนะครับ”
“ชู่วว์...ฉันบอกว่าไม่เป็นไรยังไงล่ะ”
ร่างเล็กที่อยู่บนดาดฟ้าตึกออกเสียงปรามลูกน้องที่ดูท่าจะไม่ค่อยเชื่อฟังนักเมื่อคุณชายกำลังตกอยู่ในวงล้อม กล้องส่องทางไกลถูกลดลงจากนัยน์ตากลมโตก่อนตวัดมองเหล่าคนที่ไม่เชื่อฟัง แค่เพียงสบตาทุกคนก็หยุดนิ่ง ละเลิกสิ่งที่คิดจะทำแต่โดยดี
...คนที่จะเป็นถึงนายใหญ่แห่งพรรคมังกร ถ้าวัยรุ่นกระจอกๆ แค่ยี่สิบคนยังจัดการไม่ได้ก็สมควรที่เขาจะเลิกล้มความคิดแล้วสรรหาคนใหม่...
“ทุกคนรอดูสถานการณ์อยู่ที่นี่ ถ้าไม่มีคำสั่งจากผมห้ามใครลงมือเด็ดขาด”
ร่างเล็กผละออกไปจากดาดฟ้าก่อนที่เรียวปากอิ่มจะยกยิ้มขึ้นอย่างคนที่กำลังเจอเรื่องสนุก
...
“ขอดูผลของการฝึกหน่อยนะครับ”
...
TBC.
ความคิดเห็น