คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : .:: Big Boss ::. ตอนที่ 17
Big Boss เจ้าพ่อฝึกหัด
17
พรึ่บ!
เว้นเพียงชั่วอึดใจให้คนที่อยู่ภายในได้ตื่นตะลึงก่อนที่เหล่าชายชุดดำจะตั้งปราการมนุษย์ป้องกันผู้เป็นนายเอาไว้ตามสัญชาติญาณที่บ่งบอกว่านายกำลังมีอันตราย ทั้งๆ ที่อันตรายที่ว่าเป็นเพียงผู้ชายตัวเล็ก ใบหน้าหวานในชุดยูนิฟอร์มของนักเรียนชั้นมัธยมเพียงเท่านั้น
“มาเร็วดีนี่คยองซู”
“ถ้าตามมาตรฐานของตระกูลชเวละก็เรียกว่าเร็วครับ แต่สำหรับผมยังคงต้องพิจารณาตัวเองอีกมาก”
แปะ...แปะ...แปะ
“เยี่ยม!!!” ซีวอนปรบมือให้กับนัยน์ตาเรียบเฉยราวกับผืนมหาสมุทรที่เขาไม่อาจหยั่งถึงนั้นอย่างชื่นชม
คงจะดีถ้าได้คนตรงหน้านี้มาเป็นบอร์ดี้การ์ดส่วนตัว!
“...”
“นายนี่เหมือนตัวเร่งปฏิกิริยาให้ฉันรุ่มร้อนซะจริง”
“ผมมารับตัวคุณชานยอลกับคุณแบคฮยอนกลับครับ หวังว่าท่านซีวอนจะเข้าใจนะครับ”
“ฉันเข้าใจ ได้สิ!!! วันนี้ฉันอารมณ์ดี” เสียงทุ้มเอ่ยบอกแล้วส่งสัญญาณให้ลูกน้องแก้มัดทั้งสองคนแล้วออกแรงผลักคืนไปยังผู้มาเยือน ง่ายดายจนปาร์ค ชานยอลนึกกลัว พายุอารมณ์ของชเว ซีวอนแค่ไม่กี่นาทีเขาก็รู้ซึ้งดีว่า มันคงเป็นทอร์นาโดขนาดย่อมที่หากพัดผ่านไปที่ดี ที่ตรงนั้นก็จักไม่มีวันรอดพ้นจากคำว่า...หายนะ...!
“เชิญ! กลับไปสิ”
“ง่ายไปเปล่าวะ!?” ชานยอลอดสบถความคิดของตัวเองไม่ได้ ขณะที่แบคฮยอนก็เห็นด้วยว่ามันง่ายเกินไปจริงๆ
“ขอบคุณครับท่านซีวอน” เมื่อตัวประกันที่เขาต้องการพ้นจากรัศมีฆ่าฟันของซีวอน คยองซูก็เลือกที่จะเอ่ยขอบคุณและค้อมตัวลง แบคฮยอนรีบดึงให้คนหน้าเฉยตามหลังมาทว่าโด คยองซูกลับไม่ขยับแม้แต่น้อย จนคนลากต้องเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
“ทำไมนายไม่มาด้วยกันเล่า!?”
“คุณแบคฮยอนกับคุณชานยอลเชิญออกไปก่อนเถอะครับ ผมให้คนขับรถรออยู่ที่ด้านนอกแล้ว”
“ไม่เอาอ่ะ! นายไม่ไปฉันก็ไม่ไป!”
“จุ๊ๆ! โถๆ เด็กน้อยจริงๆ นะไอ้หน้าใส! นี่นายไม่รู้ ‘กฏ’ อะไรเลยสินะ” เสียงทุ้มที่ดังขัดขึ้นทำให้คนตัวเล็กนึกโมโห บยอน แบคฮยอนถลกแขนเสื้อขึ้นพร้อมเอาเรื่องกับวาจาระคายหูที่ซีวอนพ่นออกมา “บ้านขายเหล้า ไม่ได้ทำโรงงานฆ่าสัตว์! ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่ากฎอะไรของนายห๊ะ!!!”
ปาร์ค ชานยอลโคลงศีรษะไปมาอย่างระอาใจ...เก่งจ้า! แม่คุณ!!! เก่งเลยทีนี้! =_=!!!
“กลับไปก่อนเถอะครับคุณแบคฮยอน”
นัยน์ตาใสฉายแววรั้นยิ่งทำให้คนพูดไม่เก่งอย่างโด คยองซูนึกหนักใจอย่างบอกไม่ถูก
“ฮ่าๆ ฉันจะบอกอะไรให้ฟังก็ได้นะ...ในโลกของฉัน เวลาที่ลูกน้องมาขอคืนตัวประกัน แล้วบังเอิญว่าอีกฝ่ายใจดี๊ใจดีที่จะปล่อยไปโดยไม่ทำอะไรเลย” แบคฮยอนกับชานยอลพร้อมใจกันเบ้ปากอย่างอดไม่ได้ ...คนบ้าอะไรวะ! แม่งชมตัวเองก็เป็น!/แม่งกล้าบอกตัวเองใจดี! โอ้ย!!! อยากจะอ้วก!!!...
“กลับไปก่อนเถอะครับ”
เสียงหวานแม้ไม่ได้ทอดอ่อน แต่แค่เพียงกึ่งขอร้องอยู่ในทีนั้นแม้แต่คิม จงอินยังใจอ่อนและประสาอะไรกับเขาสองคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ก็จำต้องยอมทำตามแต่โดยดี แต่ไม่ทันที่จะก้าวออกไปคนที่วางเกมส์กีฬามหาสนุกอย่างซีวอนกลับดีดนิ้วขึ้นเสียก่อน และนั่นทำให้ชายชุดดำอีกไม่ต่ำกว่าห้าสิบคนมาล้อมผู้บุกรุกทั้งสามเอาไว้อย่างแน่นหนา
“เล่นไปซื่อนี่หว่า!”
“ฉันเคยบอกเหรอว่าฉันเป็นคนถือคำสัตย์”
“เหอะ! ฉันไม่แปลกใจที่นายถือไม่ได้หรอกชเว ซีวอน...ก็นาย ‘เป็น’ อยู่นี่”
“ไอ้!” ใบหน้าคมคายกัดฟันกรอดก่อนจะเข้ามายืนเผชิญหน้ากับคนที่กำลังตกเป็นรองแต่ยังปากกล้าอย่างแบคฮยอน ใบหน้าใสที่ลอยเด่นไปมารั้งให้ฝ่ามือหนากระตุกวืด ทว่าเป็นคยองซูที่ดึงให้แบคฮยอนถอยพ้นรัศมีท่อนแขนนั้นได้อย่างทันท่วงที
“ขออภัยครับท่านซีวอน คุณแบคฮยอนเป็นเพื่อนของท่านจงอิน ผมคงให้ท่านทำแบบนั้นไม่ได้”
“งั้น...”
“...”
“ฉันทำกับนายได้สินะ!”
เพี๊ยะ!!!
เสียงที่ดังขึ้นยิ่งทำให้รอบกายดูเงียบลงโดยทันที
รวดเร็ว...จนมองไม่เห็นการเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย! ใบหน้าหวานที่หันไปตามแรงฝ่ามือนั้น เลือดสีแดงสดไหลซึมออกจากมุมปากเล็กแต่คยองซูกลับไม่ได้ปาดมันทิ้งแต่อย่างใด นึกชื่นชมคุณชายของตระกูลใหญ่ที่ศิลปะป้องกันด้วยนั้นเก่งกาจจนไม่อาจมองข้าม ...ถ้าสู้กันตัวต่อตัว...เขาอาจจะแพ้ก็เป็นได้
“หน้านายนี่...นิ่มดีนะ”
“ไอ้เชรี่ย! มึงนี่มันโรคจิตนี่หว่า!!!”
“หึ! ฉันไม่ได้พูดกับนายไอ้ชานยอล!...ฉันพูดกับ...คยองซูต่างหาก”
“...ไอ้เลวเอ้ย!!!”
ร่างสูงสมส่วนนั้นไม่ได้สนใจสิ่งใดนอกไปเสียจากว่า กำลังคิด...คิดว่าจะทำยังไงให้ผิวขาใสนั้นเป็นรอยริ้วแดงดั่งเช่นแก้มนิ่มเมื่อครู่...ถ้าได้...ทั้งตัวก็จะยิ่งดี... รอยยิ้มที่กดมุมปากทำให้โด คยองซูจำต้องระวังภัยให้กับปาร์ค ชานยอลและบยอน แบคฮยอนอย่างช่วยไม่ได้
“ผมจะกันคนพวกนี้ให้ คุณสองคนรีบออกไปเถอะครับ”
“นายไม่ไหวหรอกคยองซู”
“นั่นสิเจ๊! แล้วไอ้จงอินมันไปไหนเนี่ย”
...
“กูก็อยู่นี่ไง!”
...
..
.
ความเงียบที่โรยตัวเข้ามาในคราแรกนั้นยังเทียบไม่ได้กับตอนนี้แม้แต่น้อย เมื่อร่างสูงคุ้นตายืนอยู่ไม่ไกลจากวงล้อมนั้นนัก นัยน์ตาคมกริบทอดมองนิ่งไปยังคู่อริเก่า สองมือยังคงซุกไปในกระเป๋ากางเกงเหมือนทุกที ทว่า...มีบางอย่างนั้นแปลกไป... ปาร์ค ชานยอลลอบกลืนน้ำลายเล็กน้อย หรือเขาจะตาฝาดที่เห็นว่ารอบๆ ตัวเพื่อนรักมีรังสีดำทะมึนแผ่ออกมา เพียงย่างก้าวก็ทำให้วงล้อมของลูกน้องซีวอนล่าถอย
“ไงซีวอน กูไม่เจอมึงมานานมาก ยังไม่ตายเหรอวะ?”
“มึงไม่เจอกู...หรือหนีกูกันแน่ไอ้จงอิน”
“กูเนี่ยนะ...หนีมึง?”
“หนีไปซบขาพ่อหวางยี่ของมึงไง ฮ่าๆๆๆ”
“โอ๊ะ! ฉลาดนี่! กูเลยไม่ได้ใช้ประโยคคลาสสิคเลย”
“...”
“อุตส่าห์เตรียมจะมาถามเลยนะเนี่ยว่า ‘มึงไม่รู้เหรอว่าพ่อกูเป็นใคร’...ดันแสนรู้ซะได้”
ซีวอนขบกรามแน่นจนเป็นสันนูนในขณะที่ก้าวสุดของของคิม จงอินก้าวขึ้นมากันคนของตัวเองไปที่ด้านหลังแล้วหยุดอยู่ตรงหน้าของเขาพอดี ตาคมตวัดมองไปยังลูกน้องที่ไม่ได้เรื่องที่พากันหดหัวมาอยู่ด้านหลังของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วอย่างคาดโทษ
“ไอ้พวกไม่เอาไหน! พวกมึงจะกลัวอะไรไอ้เด็กนี่มันนักหนาวะ!!!?”
“เค้าไม่ได้เรียกว่ากลัวหรอก...เค้าเรียกกันว่าสัญชาติญาณน่ะ...”
“...”
“เวลาที่หมา มันเจอราชสีห์...มันคงไม่สามารถเห่าหรือหอนได้หรอกนะ”
“ปากดีขึ้นเยอะนะมึง”
คิม จงอินออกเสียง ‘หึ’ ในลำคออย่างไม่สนใจคำพูดของชเว ซีวอนแม้แต่น้อย อย่าว่าแต่ซีวอนที่นึกโมโหเหล่าชายชุดดำ เขาเองก็นึกโมโหยัยทอมนี่เหมือนกัน! ยิ่งเห็นริ้วแดงบนแก้มนุ่มยิ่งนึกโกรธ คยองซูทำท่าจะพูดอะไรกับเขาซักอย่างทว่าเขาเลือกที่จะปรามเสียงใสนั้นไปด้วยสายตา
“ไอ้ชานยอล มึงพาแบคฮยอนกับยัยทอมนี่ออกไปก่อนไป”
“เฮ้ย!!! ได้ไง!!! กูไม่ใช่พระรองนะได้ไล่กูออกจากฉากสำคัญเนี่ย”
“ยังจะตลกอีกนะมึง!”
“แหะๆ”
“พวกมึงคิดว่ากูจะปล่อยไปรึไง เหยียบจมูกกูถึงที่มึงยังคิดว่าจ...”
...
“ใครให้มึงพูดสอดชเว ซีวอน?”
...
ตึก...ตึก...ตึก...
เป็นไปไม่ได้!!! ซีวอนปฏิเสธลั่นอยู่ในใจ เมื่อรู้สึกถึงจังหวะหัวใจที่เต้นเร่าอย่างตื่นกลัว ไอ้เด็กนี่มันไม่ได้ต่างไปจากแต่ก่อน แต่เขากลับกำลังตื่นกลัว! น้ำเสียงที่ไม่ได้ตวาด ไม่ได้ส่งสายตากดดัน เพียงแต่เรียบเฉยจนเหมือนจะดึงให้คนสบกับนัยน์ตานั้นดำดิ่งสู่ความมืดมิดอันไม่รู้จักสิ้นสุด
มันเป็นไปไม่ได้!!! เขาไม่ได้เจอมันแค่เดือนกว่าๆ มันเปลี่ยนไปถึงเท่านี้ ...ทำไม!?
“กูไม่รู้หรอกนะว่าโลกของมึงหรือพรรคของกูเค้ามีวิธีจัดการกับหมาที่มาเห่าให้รำคาญหูยังไง”
คนที่ผูกขาดการสนทนาทั้งหมดไว้ที่ตัวเองขยับศีรษะไปมา
แล้วกระตุกยิ้มเย็น
“กูก็ไม่ชอบวิธีพวกหมาหมู่ซะด้วยสิ...เพราะกูว่า...”
ปึง...!
ปึง...!
ปึง...!
“มันคงจะเป็นการรังแกเด็กไปหน่อย”
ประตูทุกด้านของโกดังถูกแรงกระแทกจากภายนอกจนมันร่วงหล่นเผยให้เห็นคนสนิทของโด คยองซูที่อยู่หลังประตูที่ล้มระเนระนาดเหล่านั้น จำนวนที่เห็นน้อยกว่าคนของซีวอนเป็นสิบเท่าทว่า ลูกชายของผู้ทรงอิทธิพลอย่างชเว ซีวอนรับรู้ได้ว่า แค่ปริมาณมันเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้!
“แล้วมึงจะเอายังไง?”
“...”
“...สู้กับกู...ตัวต่อตัว”
“...”
...
“จนกว่ามึงหรือกูจะก้มกราบอีกฝ่ายแล้วพูดคำว่ายอมแพ้”
...
TBC.
ป๊าดดดดดด ลูกสาวเท่ห์แล้วจะปล่อยให้ลูกชายน้อยหน้าได้ยังไง
เอิ๊กๆๆๆๆๆๆๆๆ
พระเอกขอบู๊เองค่าา **หัวเราะ**
แอบเอามาโปรโมทนิดหน่อย ฮิ้ววววววว
ความคิดเห็น