ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] .:: Big Boss เจ้าพ่อฝึกหัด ::. [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #1 : .:: Big Boss ::. บทนำ [rewrite]

    • อัปเดตล่าสุด 5 ต.ค. 59






    Big Boss เจ้าพ่อฝึกหัด

    บทนำ

     


                    ปึ่ก!!!


                    “โอ๊ย!!! ไอ้ชานยอลเล่นอะไรของมึงวะ เจ็บนะเว้ย”


                    เสียงทุ้มร้องลั่นก่อนจะโยนถังขยะลายดอกไม้น่ารักอันเป็นของประจำห้องเรียนกลับไปที่คนปา มือแกร่งยกขึ้นคลำศีรษะตัวเองป้อยๆ ใบหน้าคมคายบอกบุญไม่รับทว่าคนทำกำลังหัวเราะร่วนพลางเดินเอาถังชยะใบเปล่านั้นไปไว้ที่มุมห้อง


                    “แหมมม...สำออยเจ็บซะเหมือนจริงเลยนะมึง”


                    “มึงมาโดนมั่งมั้ยล่ะ!? เดี๋ยวพ่อยิงทิ้งซะเลย”


                    “กร๊าก! กลัวแล้วคร้าบบบบบ เจ้าพ่อจงอินนนนนนนน ปาร์ค ชานยอลผู้นี้ผิดไปแล้วคร้าบบบบบ ฮ่าๆๆๆ มึงยังไม่เลิกเพ้อเจ้อเรื่องตัวเองเป็นลูกเจ้าพ่ออีกรึไง?” ร่างสูงหัวเราะร่วนขณะที่คนฟังเบ้ปากอย่างเซ็งจิต! มือแกร่งคว้ากระเป๋าเป้ก่อนจะยกมันขึ้นพาดบ่า


                    “เอ้า! แค่นี้งอนซะแล้ว เฮ้ย!!! กูล้อเล่นน่า”


                    “เออ...กูไม่ได้คิดอะไร”


                    “งั้นพรุ่งนี้เจอกันเว้ย!!!” เสียงของชานยอลตะโกนไล่หลังก่อนที่จงอินจะโบกมือรับไปมาบ่งบอกว่ารับรู้ประโยคนั้น


                    ร่างสูงสมส่วนกับผิวสีน้ำผึ้งที่เป็นผลจากการเล่นกีฬากลางแจ้งกำลังเดินทอดน่องประหนึ่งก้าวอยู่บนแคทวอล์ก มือข้างหนึ่งถูกยกขึ้นเสยผมที่เลื่อนมาปรกใบหน้า ส่วนอีกข้างหนึ่งยังคงจับกระเป๋าพาดบ่าไว้อย่างนั้น ท่าทางนั้นเรียกสายตาจากนักเรียนคนอื่นๆ ให้มองมาได้ไม่ยากเย็นนัก


                    “เธอๆ ดูนั่นสิ! รุ่นพี่คิม จงอินล่ะ หล๊อหล่อ...”


                    “ได้ข่าวว่าพี่เค้าสติไม่ดีนะเธอ”


                    “ทำไมล่ะ?


                    “ก็พี่เค้าชอบคิดว่าตัวเองเป็นลูกเจ้าพ่อไงล่ะแก”


                    “จริงเหรอ! โถ่...รุ่นพี่จงอิน มามะๆ คริสตัลคนนี้จะช่วยปลอบประโลมหัวใจพี่เองนะคะ”


                    “บ้าไปแล้วคริสตัล! …แต่รุ่นพี่เค้าก็หล่อจริงๆ น้า!


                    ผู้เป็นหัวข้อสนทนาได้ยินทุกประโยคชัดเจน ลอบถอนหายใจน้อยๆ ก่อนจะเดินผละออกมาให้ห่างจากกลุ่มนักเรียนสาว เสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องชาติกำเนิดของตัวเขาเองนั้นดูจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปเสียแล้ว คงต้องโทษตัวเองที่ดันเผลอหลุดปากตะโกนอะไรที่สิ้นความคิดอย่างนั้นออกไป


                    ...


                    ..


                    .


                “ปล่อยเพื่อนกูนะ! พวกมึงไม่รู้รึไงว่าพ่อกูเป็นใคร!!!


                “เป็นใครล่ะไอ้จงอิน!? พ่อมึงตายในสงครามกลางเมืองไม่ใช่รึไง?


                เสียงเย้ยหยันดังขึ้นท่ามกลางเสียงหัวเราะ เขากับชานยอลและเพื่อนอีกสามสี่คนกำลังตกอยู่ในวงล้อมของคู่อริต่างโรงเรียน มือแกร่งกำเข้าหากันแน่นขณะที่เสียงของมารดาผู้ล่วงลับยังคงดังก้องขึ้นในหัวสมอง


                “ไหนล่ะไอ้ลูกหมาจงอิน พ่อแกเป็นใครนะ?


                “...” ร่างสูงขบกรามแน่น เสียงของมารดาที่ยังดังก้องราวกับเครื่องเตือนสติและระเบิดเวลาในคราวเดียวกัน


                “มึงมันไม่มีพ่อคิม จงอิน! ไอ้ลูกไม่มีพ่อ!!!


                “มี!!! กูมีพ่อ!!!


                “ไหนล่ะ? บอกมาให้คังอินคนนี้ฟังหน่อยซิว่าพ่อมึงเป็นใคร?


                “...”


                “เงียบทำไมเล่า! ไอ้ลูกไม่มีพ่อ!!!


                “พ่อกู...”


                “หืมม์” ร่างใหญ่นั้นออกเสียงในลำคอพลางทำหน้าตั้งอกตั้งใจฟังอีกคนเสียเต็มประดา คิม จงอินกำลังลังเล...เขาไม่สมควรพูด...แต่...เขาไม่ใช่ลูกที่ไม่มีพ่อ!...เขาเป็นลูกของ...เขาเป็นลูกชายของ...


                ...


                    “พ่อกูชื่อหวางยี่!!!


                ...


                ทุกสรรพสิ่งเงียบลงแทบจะทันทีเมื่อชื่อเจ้าพ่อใหญ่สัญชาติจีน-เกาหลีที่กำลังครอบคลุมอิทธิพลทั่วเอเชียถูกเอ่ยออกมา ร่างใหญ่ของคังอินสั่น...ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาภายหลัง พร้อมๆ กับเหล่าลูกสมุนที่หัวเราะประสานออกมาเช่นกัน


                “ถุ๊ย!!! ถ้าพ่อมึงเป็นเจ้าพ่อ พ่อกูก็เป็นประธานาธิบดีแล้ว ฮ่าๆๆๆ”


                “กูพูดจริง!


                “ท่าทางแม่งจะเพ้อว่ะ เอ้าพวกเรานวดหน้าด้วยฝ่าเท้ารักษาอาการเพ้อเจ้อของมันหน่อยเว้ย!!!


                .


                    ..


                    ...


                    แม้เรื่องนั้นจะผ่านมาเกือบสามปี แต่จนถึงทุกวันนี้เขาก็ยังถูกล้อไม่เลิก


                    ท่านแม่...โกหก...!


                    ร่างสูงโปร่งนั้นหยุดยืนอยู่หน้าหลุมศพของผู้เป็นมารดา ภาพหญิงสาวที่ยิ้มด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุขบนแผ่นหินสลักชื่อเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขาจดจำทุกคำสั่งสอนของเธอได้ ดอกคาเน่ชั่นสีขาวถูกวางลงก่อนที่ร่างสูงโปร่งนั้นจะขยับตัวนั่งลงบนพื้นหญ้า


                    “ท่านแม่มีความสุขดีหรือเปล่าครับ?


                    นัยน์ตาคมทอดมองรอยยิ้มเปี่ยมสุขแล้วเผยรอยยิ้มอ่อนจางที่มุมปาก


                    “ตอนนี้ไคอยู่ม.ปลายปีสุดท้ายแล้วนะครับ...ท่านแม่ไม่ต้องห่วงนะ ไคโตพอที่จะดูแลตัวเองได้ ดูสิ! วันนี้ไคเอาดอกคาเนชั่นที่ท่านแม่ชอบมาด้วยนะ...”


                    รอยยิ้มฝืดเฝื่อนยังคงอยู่ใบหน้าที่หมองลงเมื่อคิดถึงความโดดเดี่ยวที่โอบล้อมอยู่รอบกาย “คนที่ไครักชอบทิ้งให้ไคอยู่คนเดียวตลอดเลย แม้แต่ท่านแม่...” ร่างสูงระบายลมหายใจบางเบาก่อนที่เขาจะยกยิ้มกว้างขึ้นเมื่อคิดได้ว่าเขาไม่ควรอยู่ในความเศร้าหรือเผยความเงียบเหงาในหัวใจยามที่อยู่ต่อหน้าท่านแม่ ไม่ว่าตอนนี้ท่านมองเขามาจากที่ใดก็ควรจะได้เห็นลูกชายเติบโตขึ้นมาอย่างเข้มแข็ง


                    “ไครักท่านแม่มากนะครับ”


     



    .:: BIG BOSS เจ้าพ่อฝึกหัด ::.


     



                    ห้องพักผู้ป่วยระดับวีไอพีที่เคยกว้างขวางบัดนี้กลับเล็กลงถนัดตาเมื่อถูกจับจองพื้นที่เกือบทุกจุดด้วยเหล่าชายชุดดำ เสื้อสูทสีดำสนิทรับกับเสื้อเชิ้ตสีเดียวกันที่ด้านในพร้อมกับเน็คไทน์สีนิลปักลายมังกรสีทองอันเป็นสัญลักษณ์ที่แม้แต่รัฐมนตรีเมื่อเห็นสิ่งนี้ก็ต้องยอมอ่อนข้อให้อย่างไม่มีข้อแม้


                    “คยองซู”


                    เสียงทรงอำนาจทว่าแผ่วเบาเอ่ยเรียกคนสนิท นั้นทำให้ความเงียบปกคลุมไปทั่วทั้งห้องจนได้ยินแม้เสียงลมหายใจ


                    “ครับนายท่าน” ร่างเล็กที่อยู่ใกล้น้อมรับก่อนจะขยับตัวเข้าไปใกล้ขึ้นอีกเมื่อผู้เป็นนายเอ่ยบางสิ่งบางอย่างที่เขาเองฟังมันไม่ถนัดนัก ความเงียบที่มีอยู่ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อใบหน้าเนียนใสที่ก้มลงฟังคำสั่งนั้นฉายแววเคร่งเครียดอย่างที่ผู้ติดตามใกล้ชิดสังเกตเห็นได้ชัด


                    “ครับ ถ้านั่นเป็นความต้องการของนายท่าน ผมจะทำให้ดีที่สุด”


                    คยองซูค้อมตัวลงรับคำสั่งก่อนจะหันออกมาประกาศกร้าว


                    “หัวหน้าเขตพรรคมังกรทุกคนฟังคำสั่ง!


                    “ครับ!!!” เสียงตอบรับพร้อมเพรียงดังขึ้นก่อนที่บอดี้การ์ดคนสนิทของนายใหญ่แห่งพรรคจะเอ่ยต่อ


                    “พรรคของเราจะมีการเปลี่ยนนายใหญ่”


                    “ท่านหวางยี่!!! พวกเราไม่ขอรับนายอื่นนอกจากท่าน!!!


                    “ใช่ๆๆๆ เราไม่ต้องการ”


                    เสียวต่อต้านที่ดังขึ้นทำให้คยองซูจำต้องยกมือขึ้นปราม สายตาดุดันเรียบเฉยแค่เพียงกวาดมองทุกอย่างก็เข้าสู่สภาวะปกติ ไม่มีใครกล้าเอ่ยเสียงต่อต้านออกมาอีก คนตัวเล็กก้าวเท้าออกมาหนึ่งก้าวก่อนจะประกาศเจตนารมณ์ของนายท่าน


                    “นายใหญ่หวางนี่ตอนนี้สุขภาพไม่สู้ดีนัก ท่านอยากจะให้พวกเรายังมีที่พึ่งแล้วท่านก็ได้เล็งเห็นคนที่มีความสามารถจะสืบทอดตำแหน่งนี้ต่อจากท่าน”


                    “ท่านคยองซูครับ...คนๆ นั้นเป็นใครครับ?


                    “นับจากนี้อีกสามเดือนผมจะกลับมายังสาขาใหญ่อีกครั้งพร้อมกับผู้สืบทอดที่ท่านหวางยี่ได้เลือกไว้”


                    “สามเดือน? ทำไมต้องสามเดือน ตอนนี้เลยไม่ได้หรือไง! เวลาขนาดนั้นพวกพรรคอินทรีได้บุกพวกเราเละไปก่อนแน่ๆ” เสียงกร้าวของชายวัยกลางคนผู้ถืออำนาจแห่งมณฑลยูนนานเอ่ยประท้วงก่อนที่คยองซูจะค้อมตัวลงอย่างนอบน้อมแล้วเอ่ยแจงเหตุผล


                    “ขออภัยครับท่านไท่ ผมมีความจำเป็นบางอย่างที่บอกให้ท่านทราบไม่ได้ครับ”


                    “เอาเถอะๆ แค่สามเดือนใช่มั้ยล่ะคยองซู...งั้นระหว่างนี้ฉันจะคอยดูแลสาขาใหญ่ให้อย่างดี”


                    “นั่นเป็นความต้องการของท่านหวางยี่อยู่พอดีเลยครับท่านเฉิน” เรียวปากสวยยิ้มรับก่อนที่ชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันนั้นจะโบกมือไปมาเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร การประกาศสิ้นสุดลงก่อนที่ทุกคนจะทยอยออกไปจากห้อง จนหมดเหลือเพียงเฉินกับคยองซูและคนสนิทอีกห้าหกคนที่ยังไม่ได้ก้าวออกไปไหน


                    “ระหว่างนี้ฝากด้วยนะเฉิน”


                    คนที่มีสีหน้าเรียบเฉยตลอดเวลาเอ่ยบอก ความกังวลที่ฉายในแววตานั้นมีเพียงเฉินเท่านั้นที่สังเกตเห็น


                    “คิม จงแดต่างหาก บอกแล้วว่าอยู่ด้วยกันให้เรียกชื่อเกาหลี”


                    “เอ่อ...ขอโทษนะ พอดีมีเรื่องให้คิดเยอะน่ะ”


                    “ทำไมวะ? หรือว่าเรื่องผู้สืบทอด?


                    “ลูกชายท่านหวางยี่...ตอนนี้อยู่ที่เกาหลี”


                    “...”


                    “นายดูไม่ตกใจ?


                    คิม จงแดไหวไหล่น้อยๆ


    “มันก็ไม่แปลกนี่ ท่านหวางยี่ก็ต้องมีความลับไว้บ้าง เป็นลูกชายเจ้าพ่อถ้าไม่ได้อยู่ในพรรคล่ะก็เป็นลูกกำพร้าไปเลยดีกว่า” คยองซูพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย โลกของพวกเขานั้นไม่ได้มีแสงสว่างอบอุ่น ทั้งยังเต็มไปด้วยอันตรายทุกฝีก้าว แม้ว่าเขายังไม่เข้าใจในการตัดสินใจนำคนจากโลกภายนอกก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงขนาดนี้ของท่านหวางยี่ แต่เขาก็ไม่ได้ขัดด้วยรู้ดีว่านายท่านคงไตร่ตรองอย่างดีแล้ว


    “แล้วสามเดือนนั่นคืออะไร?


    “...”


    “คยองซู! นายอย่าบอกนะว่า...”


    ...


    “ฉันต้องไปเป็นครูฝึกให้เจ้าพ่อวัยมัธยมคนนั้นไงล่ะ”


    ...


     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×