คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : .:: Big Boss ::. บทนำ [rewrite]
Big Boss เจ้าพ่อฝึกหัด
บทนำ
ปึ่ก!!!
“โอ๊ย!!! ไอ้ชานยอลเล่นอะไรของมึงวะ เจ็บนะเว้ย”
เสียงทุ้มร้องลั่นก่อนจะโยนถังขยะลายดอกไม้น่ารักอันเป็นของประจำห้องเรียนกลับไปที่คนปา มือแกร่งยกขึ้นคลำศีรษะตัวเองป้อยๆ ใบหน้าคมคายบอกบุญไม่รับทว่าคนทำกำลังหัวเราะร่วนพลางเดินเอาถังชยะใบเปล่านั้นไปไว้ที่มุมห้อง
“แหมมม...สำออยเจ็บซะเหมือนจริงเลยนะมึง”
“มึงมาโดนมั่งมั้ยล่ะ!? เดี๋ยวพ่อยิงทิ้งซะเลย”
“กร๊าก! กลัวแล้วคร้าบบบบบ เจ้าพ่อจงอินนนนนนนน ปาร์ค ชานยอลผู้นี้ผิดไปแล้วคร้าบบบบบ ฮ่าๆๆๆ มึงยังไม่เลิกเพ้อเจ้อเรื่องตัวเองเป็นลูกเจ้าพ่ออีกรึไง?” ร่างสูงหัวเราะร่วนขณะที่คนฟังเบ้ปากอย่างเซ็งจิต! มือแกร่งคว้ากระเป๋าเป้ก่อนจะยกมันขึ้นพาดบ่า
“เอ้า! แค่นี้งอนซะแล้ว เฮ้ย!!! กูล้อเล่นน่า”
“เออ...กูไม่ได้คิดอะไร”
“งั้นพรุ่งนี้เจอกันเว้ย!!!” เสียงของชานยอลตะโกนไล่หลังก่อนที่จงอินจะโบกมือรับไปมาบ่งบอกว่ารับรู้ประโยคนั้น
ร่างสูงสมส่วนกับผิวสีน้ำผึ้งที่เป็นผลจากการเล่นกีฬากลางแจ้งกำลังเดินทอดน่องประหนึ่งก้าวอยู่บนแคทวอล์ก มือข้างหนึ่งถูกยกขึ้นเสยผมที่เลื่อนมาปรกใบหน้า ส่วนอีกข้างหนึ่งยังคงจับกระเป๋าพาดบ่าไว้อย่างนั้น ท่าทางนั้นเรียกสายตาจากนักเรียนคนอื่นๆ ให้มองมาได้ไม่ยากเย็นนัก
“เธอๆ ดูนั่นสิ! รุ่นพี่คิม จงอินล่ะ หล๊อหล่อ...”
“ได้ข่าวว่าพี่เค้าสติไม่ดีนะเธอ”
“ทำไมล่ะ?”
“ก็พี่เค้าชอบคิดว่าตัวเองเป็นลูกเจ้าพ่อไงล่ะแก”
“จริงเหรอ! โถ่...รุ่นพี่จงอิน มามะๆ คริสตัลคนนี้จะช่วยปลอบประโลมหัวใจพี่เองนะคะ”
“บ้าไปแล้วคริสตัล! …แต่รุ่นพี่เค้าก็หล่อจริงๆ น้า!”
ผู้เป็นหัวข้อสนทนาได้ยินทุกประโยคชัดเจน ลอบถอนหายใจน้อยๆ ก่อนจะเดินผละออกมาให้ห่างจากกลุ่มนักเรียนสาว เสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องชาติกำเนิดของตัวเขาเองนั้นดูจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปเสียแล้ว คงต้องโทษตัวเองที่ดันเผลอหลุดปากตะโกนอะไรที่สิ้นความคิดอย่างนั้นออกไป
...
..
.
“ปล่อยเพื่อนกูนะ! พวกมึงไม่รู้รึไงว่าพ่อกูเป็นใคร!!!”
“เป็นใครล่ะไอ้จงอิน!? พ่อมึงตายในสงครามกลางเมืองไม่ใช่รึไง?”
เสียงเย้ยหยันดังขึ้นท่ามกลางเสียงหัวเราะ เขากับชานยอลและเพื่อนอีกสามสี่คนกำลังตกอยู่ในวงล้อมของคู่อริต่างโรงเรียน มือแกร่งกำเข้าหากันแน่นขณะที่เสียงของมารดาผู้ล่วงลับยังคงดังก้องขึ้นในหัวสมอง
“ไหนล่ะไอ้ลูกหมาจงอิน พ่อแกเป็นใครนะ?”
“...” ร่างสูงขบกรามแน่น เสียงของมารดาที่ยังดังก้องราวกับเครื่องเตือนสติและระเบิดเวลาในคราวเดียวกัน
“มึงมันไม่มีพ่อคิม จงอิน! ไอ้ลูกไม่มีพ่อ!!!”
“มี!!! กูมีพ่อ!!!”
“ไหนล่ะ? บอกมาให้คังอินคนนี้ฟังหน่อยซิว่าพ่อมึงเป็นใคร?”
“...”
“เงียบทำไมเล่า! ไอ้ลูกไม่มีพ่อ!!!”
“พ่อกู...”
“หืมม์” ร่างใหญ่นั้นออกเสียงในลำคอพลางทำหน้าตั้งอกตั้งใจฟังอีกคนเสียเต็มประดา คิม จงอินกำลังลังเล...เขาไม่สมควรพูด...แต่...เขาไม่ใช่ลูกที่ไม่มีพ่อ!...เขาเป็นลูกของ...เขาเป็นลูกชายของ...
...
“พ่อกูชื่อหวางยี่!!!”
...
ทุกสรรพสิ่งเงียบลงแทบจะทันทีเมื่อชื่อเจ้าพ่อใหญ่สัญชาติจีน-เกาหลีที่กำลังครอบคลุมอิทธิพลทั่วเอเชียถูกเอ่ยออกมา ร่างใหญ่ของคังอินสั่น...ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาภายหลัง พร้อมๆ กับเหล่าลูกสมุนที่หัวเราะประสานออกมาเช่นกัน
“ถุ๊ย!!! ถ้าพ่อมึงเป็นเจ้าพ่อ พ่อกูก็เป็นประธานาธิบดีแล้ว ฮ่าๆๆๆ”
“กูพูดจริง!”
“ท่าทางแม่งจะเพ้อว่ะ เอ้าพวกเรานวดหน้าด้วยฝ่าเท้ารักษาอาการเพ้อเจ้อของมันหน่อยเว้ย!!!”
.
..
...
แม้เรื่องนั้นจะผ่านมาเกือบสามปี แต่จนถึงทุกวันนี้เขาก็ยังถูกล้อไม่เลิก
ท่านแม่...โกหก...!
ร่างสูงโปร่งนั้นหยุดยืนอยู่หน้าหลุมศพของผู้เป็นมารดา ภาพหญิงสาวที่ยิ้มด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุขบนแผ่นหินสลักชื่อเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขาจดจำทุกคำสั่งสอนของเธอได้ ดอกคาเน่ชั่นสีขาวถูกวางลงก่อนที่ร่างสูงโปร่งนั้นจะขยับตัวนั่งลงบนพื้นหญ้า
“ท่านแม่มีความสุขดีหรือเปล่าครับ?”
นัยน์ตาคมทอดมองรอยยิ้มเปี่ยมสุขแล้วเผยรอยยิ้มอ่อนจางที่มุมปาก
“ตอนนี้ไคอยู่ม.ปลายปีสุดท้ายแล้วนะครับ...ท่านแม่ไม่ต้องห่วงนะ ไคโตพอที่จะดูแลตัวเองได้ ดูสิ! วันนี้ไคเอาดอกคาเนชั่นที่ท่านแม่ชอบมาด้วยนะ...”
รอยยิ้มฝืดเฝื่อนยังคงอยู่ใบหน้าที่หมองลงเมื่อคิดถึงความโดดเดี่ยวที่โอบล้อมอยู่รอบกาย “คนที่ไครักชอบทิ้งให้ไคอยู่คนเดียวตลอดเลย แม้แต่ท่านแม่...” ร่างสูงระบายลมหายใจบางเบาก่อนที่เขาจะยกยิ้มกว้างขึ้นเมื่อคิดได้ว่าเขาไม่ควรอยู่ในความเศร้าหรือเผยความเงียบเหงาในหัวใจยามที่อยู่ต่อหน้าท่านแม่ ไม่ว่าตอนนี้ท่านมองเขามาจากที่ใดก็ควรจะได้เห็นลูกชายเติบโตขึ้นมาอย่างเข้มแข็ง
“ไครักท่านแม่มากนะครับ”
.:: BIG BOSS เจ้าพ่อฝึกหัด ::.
ห้องพักผู้ป่วยระดับวีไอพีที่เคยกว้างขวางบัดนี้กลับเล็กลงถนัดตาเมื่อถูกจับจองพื้นที่เกือบทุกจุดด้วยเหล่าชายชุดดำ เสื้อสูทสีดำสนิทรับกับเสื้อเชิ้ตสีเดียวกันที่ด้านในพร้อมกับเน็คไทน์สีนิลปักลายมังกรสีทองอันเป็นสัญลักษณ์ที่แม้แต่รัฐมนตรีเมื่อเห็นสิ่งนี้ก็ต้องยอมอ่อนข้อให้อย่างไม่มีข้อแม้
“คยองซู”
เสียงทรงอำนาจทว่าแผ่วเบาเอ่ยเรียกคนสนิท นั้นทำให้ความเงียบปกคลุมไปทั่วทั้งห้องจนได้ยินแม้เสียงลมหายใจ
“ครับนายท่าน” ร่างเล็กที่อยู่ใกล้น้อมรับก่อนจะขยับตัวเข้าไปใกล้ขึ้นอีกเมื่อผู้เป็นนายเอ่ยบางสิ่งบางอย่างที่เขาเองฟังมันไม่ถนัดนัก ความเงียบที่มีอยู่ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อใบหน้าเนียนใสที่ก้มลงฟังคำสั่งนั้นฉายแววเคร่งเครียดอย่างที่ผู้ติดตามใกล้ชิดสังเกตเห็นได้ชัด
“ครับ ถ้านั่นเป็นความต้องการของนายท่าน ผมจะทำให้ดีที่สุด”
คยองซูค้อมตัวลงรับคำสั่งก่อนจะหันออกมาประกาศกร้าว
“หัวหน้าเขตพรรคมังกรทุกคนฟังคำสั่ง!”
“ครับ!!!” เสียงตอบรับพร้อมเพรียงดังขึ้นก่อนที่บอดี้การ์ดคนสนิทของนายใหญ่แห่งพรรคจะเอ่ยต่อ
“พรรคของเราจะมีการเปลี่ยนนายใหญ่”
“ท่านหวางยี่!!! พวกเราไม่ขอรับนายอื่นนอกจากท่าน!!!”
“ใช่ๆๆๆ เราไม่ต้องการ”
เสียวต่อต้านที่ดังขึ้นทำให้คยองซูจำต้องยกมือขึ้นปราม สายตาดุดันเรียบเฉยแค่เพียงกวาดมองทุกอย่างก็เข้าสู่สภาวะปกติ ไม่มีใครกล้าเอ่ยเสียงต่อต้านออกมาอีก คนตัวเล็กก้าวเท้าออกมาหนึ่งก้าวก่อนจะประกาศเจตนารมณ์ของนายท่าน
“นายใหญ่หวางนี่ตอนนี้สุขภาพไม่สู้ดีนัก ท่านอยากจะให้พวกเรายังมีที่พึ่งแล้วท่านก็ได้เล็งเห็นคนที่มีความสามารถจะสืบทอดตำแหน่งนี้ต่อจากท่าน”
“ท่านคยองซูครับ...คนๆ นั้นเป็นใครครับ?”
“นับจากนี้อีกสามเดือนผมจะกลับมายังสาขาใหญ่อีกครั้งพร้อมกับผู้สืบทอดที่ท่านหวางยี่ได้เลือกไว้”
“สามเดือน? ทำไมต้องสามเดือน ตอนนี้เลยไม่ได้หรือไง! เวลาขนาดนั้นพวกพรรคอินทรีได้บุกพวกเราเละไปก่อนแน่ๆ” เสียงกร้าวของชายวัยกลางคนผู้ถืออำนาจแห่งมณฑลยูนนานเอ่ยประท้วงก่อนที่คยองซูจะค้อมตัวลงอย่างนอบน้อมแล้วเอ่ยแจงเหตุผล
“ขออภัยครับท่านไท่ ผมมีความจำเป็นบางอย่างที่บอกให้ท่านทราบไม่ได้ครับ”
“เอาเถอะๆ แค่สามเดือนใช่มั้ยล่ะคยองซู...งั้นระหว่างนี้ฉันจะคอยดูแลสาขาใหญ่ให้อย่างดี”
“นั่นเป็นความต้องการของท่านหวางยี่อยู่พอดีเลยครับท่านเฉิน” เรียวปากสวยยิ้มรับก่อนที่ชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันนั้นจะโบกมือไปมาเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร การประกาศสิ้นสุดลงก่อนที่ทุกคนจะทยอยออกไปจากห้อง จนหมดเหลือเพียงเฉินกับคยองซูและคนสนิทอีกห้าหกคนที่ยังไม่ได้ก้าวออกไปไหน
“ระหว่างนี้ฝากด้วยนะเฉิน”
คนที่มีสีหน้าเรียบเฉยตลอดเวลาเอ่ยบอก ความกังวลที่ฉายในแววตานั้นมีเพียงเฉินเท่านั้นที่สังเกตเห็น
“คิม จงแดต่างหาก บอกแล้วว่าอยู่ด้วยกันให้เรียกชื่อเกาหลี”
“เอ่อ...ขอโทษนะ พอดีมีเรื่องให้คิดเยอะน่ะ”
“ทำไมวะ? หรือว่าเรื่องผู้สืบทอด?”
“ลูกชายท่านหวางยี่...ตอนนี้อยู่ที่เกาหลี”
“...”
“นายดูไม่ตกใจ?”
คิม จงแดไหวไหล่น้อยๆ
“มันก็ไม่แปลกนี่ ท่านหวางยี่ก็ต้องมีความลับไว้บ้าง เป็นลูกชายเจ้าพ่อถ้าไม่ได้อยู่ในพรรคล่ะก็เป็นลูกกำพร้าไปเลยดีกว่า” คยองซูพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย โลกของพวกเขานั้นไม่ได้มีแสงสว่างอบอุ่น ทั้งยังเต็มไปด้วยอันตรายทุกฝีก้าว แม้ว่าเขายังไม่เข้าใจในการตัดสินใจนำคนจากโลกภายนอกก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงขนาดนี้ของท่านหวางยี่ แต่เขาก็ไม่ได้ขัดด้วยรู้ดีว่านายท่านคงไตร่ตรองอย่างดีแล้ว
“แล้วสามเดือนนั่นคืออะไร?”
“...”
“คยองซู! นายอย่าบอกนะว่า...”
...
“ฉันต้องไปเป็นครูฝึกให้เจ้าพ่อวัยมัธยมคนนั้นไงล่ะ”
...
ความคิดเห็น