คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : .:: Time ::. Part I
ความรัก...สำหรับผม มันเป็นเรื่องน่าหัวเราะ
ผมไม่คิดว่าความรักระหว่างเพศเดียวกันนั้นเป็นเรื่องสวยงาม น่าจดจำ
ผมมองมันเป็นเพียงความสนุก หฤหรรษ์ ที่หาไม่ได้จากผู้หญิงที่ผมรัก
จนเมื่อ...ผมได้เรียนรู้ ได้เข้าใจ
และยอมรับมันทั้งหัวใจว่า มันความรักของ ‘เขา’ สวยงามเพียงใด
แต่...มันก็สายเกินไปกว่าที่ผมจะได้เอ่ยบอก
...
...ฉันเอง...ก็รักนาย...
...
“แฮ่ก...แฮ่ก...อ่ะนี่! ผ้าเย็น...อึก...แฮ่ก...แฮ่ก...แล้วก็...”
ผมเลือกที่จะไม่ฟังคำต่อไป นึกรำคาญคนที่ทำอะไรชักช้าไม่ได้ดั่งใจจนอดตำหนิไปทางสายตาไม่ได้ พวงแก้มนิ่มที่ซับสีแดงปลั่งชวนมองสำหรับใครๆ ไม่ทำให้ผมนึกอยากจะสัมผัส เพียงเอื้อมมือไปรับผ้าเย็นกับกระติกน้ำส่วนตัวมาจากคนน่ารำคาญแค่นั้น หมอนั่นก็ยิ้มเหมือนกับได้เหรียญทองในการแข่งระดับเขตก็ไม่ปาน
...ยิ้มพร่ำเพรื่อ...จนดูไร้ค่า!
“ไปไหนก็ไป”
“วันนี้ฉันใส่น้ำหอมลงในผ้าเย็นด้วยนะ แฮ่ก...แฮ่ก...จงอินชอบร...”
พรึ่บ!
ทันทีที่ได้ฟังเสียงหอบปนกับที่ผมรู้สึกเหนื่อยเป็นทุนเดิมจากการซ้อมทำให้ปาผ้าเย็นที่เจ้าตัวอวดสรรพคุณนั้นลงบนพื้นข้างสนามอย่างไม่ใยดี หมอนั่นดูเหมือนจะตกใจแต่ก็เปลี่ยนเป็นยิ้มได้ตามเคย ผมอดคิดไม่ได้ว่าหมอนี่มันคงจะไม่เคยโกรธใครมาก่อนในชีวิต
“แฮ่ก...แฮ่ก...จงอิน...เอาผืนใหม่มั้ย?...ฉัน...รับประกันว่าไม่มีน้ำหอม”
“แล้วจะยืนอยู่ทำไม”
“งั้นรอเดี๋ยวนะ!”
ผมเบ้ปากเซ็งๆ ก่อนจะกระดกน้ำเข้าไปอีกอึกใหญ่ส่วนที่เหลือผมเลือกที่จะราดดับความร้อนในหัวจนปวดชุ่ม
“มึงก็พูดดีๆ กับดีโอมันบ้างไม่ได้รึไงวะ?”
“กูว่ากูก็ไม่ได้ด่าอะไร ทั้งๆ ที่อยากจะทำอยู่เหมือนกัน”
“เอาน่า...มึงก็...ทีกับสาวๆ ที่เอาแต่ยืนกรี๊ดๆๆ มึงยังยิ้มให้ได้ กับดีโอมึงก็เซอร์วิสหน่อยสิวะ”
“กูควรจะให้ความหวังกับผู้ชายที่มาชอบกูงั้นสินะ!?”
ผมถามกลับแล้วปิดกระติกน้ำขนาดพอดีมือนั้นก่อนจะโยนไปยังตะกร้าของชมรมอย่างแม่นยำ คนที่เอ่ยเสนออย่างไอ้ชานยอลเลือกที่จะไหวไหล่น้อยๆ แล้วลงนั่งพักข้างๆ กัน ก่อนที่มันจะเสนอความคิดเห็นส่วนตัวที่ผมไม่ได้ร้องขอผ่านโสตประสาทของผมอีกรอบ
“มึงก็พูดดีๆ กับมันแค่นี้จะตายเหรอวะ?”
“ไม่ตาย แต่กูไม่อยากทำ”
“แฮ่ก...แฮ่ก...มาแล้ว...”
คนที่เป็นหัวข้อสนทนานั้นวิ่งกลับมาที่ผมอีกรอบ ไม่เข้าใจว่าวิ่งแค่ระยะสนามบาสมันจะเหนื่อยอะไรนักหนา! คนแบบนี้ให้ผมมองยังไงก็เกะกะสำหรับชมรมมากกว่าจะช่วยอะไรได้ ผมยื่นมือไปรับผ้าเย็นนั้นก่อนจะปิดเปลือกตาแล้ววางผ้าลงบนหน้า กลิ่นหอมกรุ่นอ่อนๆ ทำให้เผลอสูดลมหายใจจนเต็มปอด
“นี่...เย็นนี้...จ...”
“ฉันไม่ว่าง”
ตอบเสียงห้วนเพราะผมมีนัดแล้ว และไม่นึกจะมีเรื่องอะไรที่สำคัญไปกว่าการไปเดทกับ ‘โบรา’ ว่าที่คนรักของผม ผมไม่รู้ว่าคนพูดจะทำหน้าแบบไหน จะรู้สึกยังไง และผมก็ไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ผมจำเป็นที่จะต้องให้ความสนใจ แค่ยอมทำตามคำขอของแบคฮยอนแฟนของชานยอลเรื่องที่ให้หมอนี่มาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการชมรมก็มากเกินพอแล้ว ให้ต้องมานั่งพูดหวานขานเพราะผมคงจะต้องกลั้นใจตายซะมากกว่า
“เอาน้ำเพิ่มมั้ย?”
“ไม่”
“ฉันทำขนมมาด้วยชิมหน่อยสิ”
“ไม่”
ผมตอบทั้งๆ ที่ไม่ได้เอาผ้าเย็นออกแต่อย่างใด จากที่หมอนี่เป็นผู้ช่วยผู้จัดการชมรมมาได้สองสัปดาห์ผมพอจะเดาได้ว่า คงไม่พ้นก้มหน้าทำตาเศร้าเรียกคะแนนสงสารจากคนรอบข้าง แล้วทำให้ผมต้องโดนตำหนิแน่ๆ โดยเฉพาะจากแบคฮยอนนั่นแหละ
แค่คิดขี้หูผมยังสะเทือนเลย!
“จงอิน!!! กูบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้มึงพูดดีๆ กับดีโอมันหน่อย!!!”
นั่นไงล่ะ! นอกจากเสียงแปดสิบล้านเดซิเบลแล้วยังจะเอาผ้าเย็นออกจากหน้าผมอย่างไม่มีความเกรงใจอีก
บยอน แบคฮยอน!!! - -!!!
เหลือบมองไปรอบตัวก็รู้ว่าตัวต้นเหตุที่ทำให้ขี้หูผมเต้นระบำอยู่ตอนนี้หายออกไปจากโรงยิมเสียแล้ว ซึ่งนั่นทำให้ผมนึกเบาใจขึ้นมาได้อย่างประหลาด อย่างน้อยก็ไม่ต้องเห็นตาใสๆ นั่นทอดมองโหยหาเหมือนลูกสุนัขคอยแม่มาป้อนนม!
“นี่กูเป็นประธานชมรมนะเว้ย!”
“แล้วกูเคยสนใจตำแหน่งของมึงมั้ย!?”
“มึงก็ควรให้เกียรติกูบ้าง น้องเยอะขนาดนี้ ตวาดกูเอาๆ ใครจะเคารพกูครับ!”
“แล้วมึงมาตวาดเมียกูทำไมเนี่ย!!! โอ้ยยยย!!! เค้าเจ็บน๊า!!!”
“สมน้ำหน้า!”
เป็นผมกับแบคฮยอนที่มีความเห็นตรงกันครั้งแรกในรอบวัน ปล่อยให้ชานยอลมันเพ้อลมเพ้อแดดเพ้อออกซิเจนในอากาศไปอย่างนั้นน่ะแหละ! ยืนสมน้ำหน้าเพื่อนได้ไม่เท่าไหร่ เมียเพื่อนที่เคารพของผมก็ตวัดสายตามามองอย่างเอาเรื่อง เอ่อ...
กูผิด? ไรวะครับ!?
“กูขอล่ะจงอิน”
“ไปขอมันทำไมอ่ะที่รัก ขอเค้าสิ! โอ้ยยยย!!! T-T นี่ผัวนะครับไม่ใช่กระสอบทราย แง้!!!”
“เงียบหน่อยน่าชานยอล! ขอเถอะนะ...ซีเรียส!”
มันคงเป็นเวรเป็นกรรมของผมแน่ๆ ที่ไอ้เพื่อนรักก็มาดันกลัวเมียขนาดนี้และผมก็ต้องทำตามเมียเพื่อนที่เคารพอย่างไม่ต้องสงสัย! ให้ตายเถอะ! ผมควรจะโทษความผิดนี้ไปที่บยอน แบคฮยอนหรือปาร์ค ชานยอลมากกว่ากันเนี่ย! ร่างบางตรงหน้าหันไปส่งสายตาดุดันปรามคนในโอวาทให้เงียบสนิท ตวัดมองอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไอ้ชานยอลมันจะไม่แทรกให้เสียกระบวนอีกครั้งแล้วหันกลับมาเผชิญหน้ากับผมแบบจริงจัง
“กูรู้ว่ามึงไม่ได้คิดชอบดีโอแบบนั้น”
“...”
“แต่ก็ขอนะมึง”
“...”
“อย่างน้อยๆ เรียกมันว่า ‘ดีโอ’ แทนคำว่า ‘นาย’ ได้มั้ย?”
“...”
“จงอิน...”
เป็นผมนั่นแหละที่ทนสายตาแบบนี้ของแบคฮยอนไม่ได้ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วยินยอมพยักหน้ารับแต่โดยดี ก็อย่างน้อยมันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนักหนา
“ขอบใจนะมึง”
“อืม”
ผมเลือกที่จะหันไปคว้ากระเป๋าเป้ใบเก่งขึ้นบ่าก่อนจะสั่งเรียกรวมสมาชิกชมรมเพื่อสรุปผลการซ้อมในวันนี้ ตามหน้าที่ของประธานชมรมบาสที่ดีก่อนจะสั่งให้แยกย้ายแล้วหันไปสำทับสำหรับโปรแกรมฝึกซ้อมในการแข่งกระชับมิตรกับโรงเรียนอื่นที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้ากับแบคฮยอนอีกครั้งจึงค่อยมุ่งตรงไปยังคอนโดของผมที่ไม่ไกลจากโรงเรียนนักเหมือนได้ยินแบคฮยอนพูดอะไรกับชานยอลซักอย่าง
...
ที่ถ้าวันนั้นผมตั้งใจฟัง หรือสนใจซักนิดก็คงจะดี...
...
TBC.
ในที่สุดก็ทนฟังเสียงเรียกร้อง((ใครเรียก??? - ของตัวเองย่ะ!)) ไม่ไหว
เข็นมาลงตอนแรกจนได้
สำหรับ "เรื่องเล่า ความรัก กับเราสองคน"
เติ้ดตั้งใจว่าจะให้มันเป็นเหมือนนิยายเรื่องยาว
ที่รวมเอาเรื่องสั้น((เหรอ?))มาเอาไว้ด้วยกันหลายๆ เรื่องค่ะ
แน่นอนว่าคงจะมีทั้งเศร้า เหงา หวาน ซึ้งตามอารมณ์นักเขียนรั่วๆ
ยังไงก็ขอฝากเรื่อง Time ไว้ด้วยนะคะ ^^
ความคิดเห็น