คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : โอบกอดฉันเอาไว้....ไม่นะ
หลังจากที่จัดเตรียมงานมาทั้งวัน ผมก็ก้ต้องนั่งถอนหายใจอยู่หน้าเต้นท์ รู้สึกอึกอัดใจชะมัดที่ต้องมานอนร่วมเต้นท์กับโอเบย์ คนที่ผมไม่ชอบขี้หน้าสุดๆ ยิ่งเวลาที่คิดถึงเรื่องพรีมทีไรผมแทบอยากจะตั้นหน้าไอ้โอเบย์สักทีสองที ให้มันออกห่างว่าที่หวานใจของผม.....แต่ก็ทำได้แค่คิด =,.=^
“นั่งทำจมูกบานอะไรอยู่ข้างนอก เข้ามาได้แล้ว ดูเหมือนฝนจะตกแล้วนะ” เสียงโอเบย์เรียกผมอยู่ในเต้นท์ ให้ตายเซ่ มองแค่ข้างหลังผมมันยังรู้ว่าผมทำจมูกบานอีกเรอะ….ไม่ได้ทำนะเฮ้ยยยยย >Oo<!!!!
“รีบเข้ามาสิ” โดเบย์เรียกซ้ำเพราะเห็นผมยังนั่งเฉย แถมยังฮัมเพลงต่อเหมือนไม่ได้ยิน เรื่องอะไรล่ะ กะว่ามันหลับผมถึงจะยอมเข้าไป ไม่อยากไปเจอสายตาเย็นชาของมัน ไร้ความรู้สึกชะมัด
“ใครนั่งอยู่ข้างนายอ่ะ นัดสาวมาจู๋จี๋อะไรกลางดึก ตามสบายละกัน ฉันจะนอนละ”
“เฮือก!!!” สาวบ้าไรฟระ ผมไม่ได้นัดใครมาซะหน่อย แถมตอนนี้ ไม่มีใครนั่งอยู่ข้างๆด้วย ….ระ…รึว่า.....จะเป็น
ฟิ้วววววววววววววววววววว เสียงลมพัดแรงขึ้นรอบๆตัวผม อ้ากกกก ขนลุก แต่ผมก็ยังนั่งนิ่งไม่อยากเสียฟอร์ม พลางคิดเรื่องฝนจะตกขึ้นมา ลมเลยพัดแรงแบบนี้ ไม่น่าจะใช่….หรอกนะ
ตุ๊บ!!! อ้ากกก เสียงไรฟระ
ผมรีบวิ่งเข้าไปนั่งในเต้นท์ให้ตายเซ่ เสียงไรฟะ หรือว่าจะเป็นกิ่งไม้หักอ่ะ ลมคงแรงไปหน่อย แต่ถ้าไม่ใช่….ต้นไม้ แล้วมันเป็นเสียงอาไร…..
“แบร่”
“เอ้ยยยย” ผมตกใจแทบหงาย ก็ไอ้โอเบย์มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมแถมยังทำเสียงบ้านั่น ไอ้บ้าเอ้ย ตกใจหมด =,.=
“นายนี่มัน….” คิดหาคำด่ามันไม่ออกอ่า
“มันหล่อใช่ไหม อืม ใช่ ฉันยอมรับว่าฉันหล่อ ไม่ต้องชมกันซึ่งๆหน้าก็ได้นะ” โอเบย์มันพูดได้หน้าตาเฉย คำพูดมันเนี่ยดูจะหลายอารมณ์นะ แต่หน้ามันเนี่ยอารมณ์เดียวตลอด มองหน้ามันแล้วเสียอารมร์ชะมัด
“>oo<”
“ทำจมูกบานอีกแล้ว เป็นอะไร ว่าแต่นี่นายยังใส่ชุดเดิมอยู่เลย อย่าบอกนะว่ายังไม่อาบน้ำ” โอเบย์มองผมต้องแต่หัวจรดเท้า
“งั้นมั้ง” พูดจบผมก็เอนตัวลงนอน โดยไม่สนใจโอเบย์
“นี่นายมัวทำอะไรอยู่ ทุกคนเขาอาบน้ำเสร็จกันหมดตั้งแต่กินข้าวเย็นเสร็จ”
“.......”
“หลังกินข้าวเย็น นายหายไปไหนมา.....”
“......”
“ฉันถามว่านายหายไปไหนมา” โอเบย์เริ่มทำเสียงเครียดใส่ผม ให้ตายเถอะน่ารำคาญชะมัด
“.....”
“ออ สงสัยนายจะมัวแต่ไปจีบสาว ไม่สิ หน่อมแน้มอย่างนายคงมัวแต่แอบมองผู้ชายอาบน้ำ” หน่อมแน้ม เหรอ โอเบย์ว่าผมหน่อมแน้ม แอบดูผู้ชายงั้นเหรอ….จี้ดเลย
“นายหุบปากไปเลย แล้วมองหน้าฉัน มองให้ชัดๆ” ผมกัดฟันพูดกับโอเบย์ แถมยังลุกขึ้นจับหน้ามันให้หันมาจ้องหน้าผม เผื่อว่ามันจะรู้บ้างว่าผมกำลังไม่พอใจ
“ทำไมฉันต้องมอง” โอเบย์ทำสีหน้าเย็นชา แล้วแกะมือผมออกจากหน้าตัวเอง
“ทำไมต้องมองเหรอ นายจะได้รู้ไงว่าฉันเป็นใคร” ผมไม่ยอมปล่อยโอเบย์ง่ายๆแต่ยังออกแรงจับหน้าโอเบย์มากขึ้น ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ทำสีหน้าเดือดดาลสุดๆ
ส่วนโอเบย์น่ะเหรอ ทำหน้าเลิกลั่ก เหมือนทำอะไรไม่ถูก
“ฉันไม่ได้หน่อมแน้ม ฉันไม่จำเป็นต้องแอบดูผู้ชาย ฟังนะ ฉันไม่ใช่เกย์ ไม่มีทางที่จะเป็น ฉันชอบผู้หญิง ชอบแค่ผู้หญิงเท่านั้น!!!” ผมปล่อยมือจากโอเบย์แล้วนั่งหันหลังให้ พยายามสงบอารมณ์โกรธที่มันกำลังเดือดพล่าน ผมโกรธมากถ้าพูดเรื่องเกย์ ผมไม่ชอบพวกรักข้ามเพศ และถ้ามีใครมาว่าผมเป็นเกย์ ผมแทบอยากต่อยหน้ามันให้น่วมไปเลย โธ่เอ้ย แมนๆอย่างผมมันเหมือนเกย์ตรงไหนฟระ ไอ้โอเบย์ ไอ้ปากหมา
“ผู้หญิงที่นายว่า….พรีมใช่ไหม” อยู่โอเบย์ก็ถามผมขึ้นมา
“.......”
“ใช่ไหมมีน” เฮ้ย นี่มันเรียกชื่อผมในรอบร้อยยี่สิบปีเลยนะเนี่ย >,.<! เวอร์ละ
“ชะ...ใช้แล้วไง” ผมตอบไปแบบอึกๆอักๆ รู้สึกเหมือนออร่าสีดำทะมึนกำลังกระจายอยู่ทั่วหลังผม ไอ้โอเบย์มันจะกระชากวิญญาณผมออกไปไหมเนี่ย โทษฐานที่ชอบผู้หญิงคนเดียวกับมันอ่ะ
“................”
“นายจะรู้ไปทำไม” ผมพูดเพื่อที่จะทำลายความเงียบ เพราะรู้สึกอึดอัด บวก กลัว เต็มทีละ
“......”
“นะ...นาย....” อ้าว เอ้ยมันหายไปไหนวะ มิน่าเงียบมานานสองนาน หันไปไม่เจอโอเบย์ซะแล้ว ไอ้บ้านี่ปล่อยให้ผมพุดคนเดียวอยู่ได้
“ออกมาสิ ไม่อาบน้ำเหรอ” เสียงโอเบย์อยู่ด้านนอก เรียกผมให้ออกไป
เออว่ะ ลืมเรื่องอาบน้ำไปเลยแฮะ พอนึกขึ้นได้ผมก้รีบหยิบผ้าเช็ดตัวกับอุปกรณ์อาบน้ำออกมาจากกระเป๋า เสร็จแล้วก็หยิบไฟฉายจะเดินออกจากเต้นท์ แต่ทว่าผมสะดุดกับอะไรบางอย่างเข้าแล้วล่ะ
ผมหยิบกระเป๋าสตางค์ของโอเบย์ขึ้นมา เพราะเห็นมันวางอยู่ตรงที่โอเบย์นั่งเมื่อกี้ และผมคงไม่สะดุดหรอกถ้าไม่เห็นรูปตัวเองอยู่ในนั้น ไม่สิไม่ใช่รูปผมแต่เป็นรูป ‘มินนี่’ รูปตอนอยู่ที่โรงหนัง โอเบย์แอบถ่ายเอาไว้ ตอนที่ผม เอ้ย มินนี่นั่งกินป๊อปคอร์น สายตาจ้องไปที่จอภาพยนตร์ใหญยักษ์นั่น จำได้ว่าตอนนั้นผมอึดอัดแทบแย่ที่ต้องไปนั่งดูหนังกับหมอนั่น ไม่คิดว่าโอเบย์จะแอบถ่ายไว้แฮะ….เห็นแบบนี้แล้วอดที่จะอมยิ้มไม่ได้ เอ้ย นี่มันมินนี่ ไม่ใช่ผม มินนี่ที่เป็นผู้หญิง ไม่ใช่ผม…..ไม่ใช่มีนที่เป็นผู้ชายซะหน่อย…..
แต่ตอนที่ผมกำลังสับสนกับ “เพศ” ตัวเองผมก็ต้องอึ้งกิมกี่ เพราะอะไรน่ะเหรอ ผมเจออีกรูปที่ซ้อนทับกันอยู่ มันคือรูปพรีม ที่ถ่ายคู่กับโอเบย์ ถึงจะดูเด็กกว่าตอนนี้ไปหน่อย ผมก็ดูออกว่าเป็นพรีม ดูสองคนนี้จะสนิทกันมากกว่าที่ผมคิดซะอีก คงรู้จักกันมานานก่อนหน้าที่ผมจะรู้จักกับพรีมซะอีก….เซ็งว่ะ
แต่เอ่อมมมม นี่มันรูปใครอีกฟระเนี่ย ผมนั่งจ้องรูปเด็กผู้ชายคนนึง อายุราวๆ 10 ขวบได้ น่าตาน่ารักชะมัด มองดีๆหน้าตาคล้ายๆโอเบย์ด้วยอ่ะ
“ทำอะไร” ยังไม่ทันไรผมก็ต้องอึ้งกิมกี่ซ้ำเป็นครั้งที่สอง เมื่อโอเบย์โผล่หน้าเข้ามาในเต้นท์และเห็นภาพที่ผมกำลังละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวอยู่ อ้ากกกกกกก โดนแน่ๆ โดนแน่ๆเลยตรู =,.=^
“วางกระเป๋าลง แล้วตามฉันออกมา” พูดจบโอเบย์เดินออกไปหน้าเต้นท์ทิ้งให้ผมอึ้งอยู่ในเต้นท์คนเดียว พลางคิดถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ โอเบย์มันต้องจับผมหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วโยนให้ปลากินแน่ๆ โอ้ววววจอร์จ
“คือ….ฉัน......” ผมก้มหน้าเดินเข้าไปหาโอเบย์ มือถืออุปกรณ์สำหรับอาบน้ำ ส่วนมืออีกข้างถือไฟฉาย มีผ้าเช็ดตัวพาดบนบ่า กับเสื้อผ้าที่จะเอาไปเปลี่ยนหลังอาบน้ำ …นี่ถ้ามันจะฆ่าผม ผมจะเอามือไหนไปสู้มันละเนี่ย
“ไปอาบน้ำได้แล้วก่อนที่ฝนจะตก ฉันจะไปเป็นเพื่อน” พูดจบโอเบย์ก็เดินนำหน้า ตรงไปยังลำธาร อ้าว เฮ้ย นี่มันจะไม่ว่าอะไรผมเลยเหรอ …งงอ่ะ การที่มันไม่พูดอะไรแบบนี้มันน่ากลัวกว่าการที่มันจะว่าผมสักคำเลยแฮะ แต่ชั่งเหอะ รีบวิ่งตามหลังมันไปดีกว่า กลัวว่ามันจะเปลี่ยนใจทิ้งให้ผมไปอาบน้ำคนเดียวมันน่ากลัวกว่าอีกอ่ะ >,,<!
“ฉันจะนั่งรอนายตรงนี้ รีบอาบละกัน” โอเบย์พูดพร้อมกับส่องไปฉายมาที่หน้าผม แล้วนั่งลงบนโขดหินข้างๆลำธาร
ส่วนผมอ่ะเหรอ ไม่ต่อปากต่อคำ เดินออกมาห่างโอเบย์ แล้วจัดการถอดเสื่อผ้า แล้วค่อยๆย่องลงไปในน้ำ …จะไม่ให้ย่องได้ไงอ่ะ มันมืดดดดดมาก ไม่มีแม้แสงดาวหรือแสงจันทร์ส่องลงมาซักนิด ท้องฟ้ามืดมิดเต็มไปด้วยเมฆฝนมืดครึ้ม บรรยากาศก็น่ากลัวพอแล้ว ในน้ำยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่ ผมไม่อยากเปิดไฟฉายด้วยอ่ะ กลัวไอ้โอเบย์มันเห็น…>,.<!! ถึงจะหล่อก็ไม่อยากโชว์ของสงวนหรอกนะเฮ้ย
ผมรีบอาบน้ำแบบลุกลี้ลุกลน ผมเอื้อมมือไปคว้าสบู่ที่วางอยู่บนก้อนหินบนฝั่ง สงสัยจะรีปไปหน่อย มันหลุดมือแล้วตกลงไปในน้ำเฉยเลย โธ้เอ้ยยยยยยยยย คนยิ่งรีบๆอยู่ กลัวแทบเป็นบ้าอยู่แล้วเนี่ย
ผมเอาเท้าควานหาสบู่ที่อยู่ใต้ผืนน้ำ แต่ อ้ากกกกกกกกกกกกกก ลื่น!!!! สงสัยผมจะเหยียบสบู่เข้า จนลื่นดิ่งพสุธาจมลงไปในน้ำ ทรงตัวไม่อยู่ ตายแน่เลยตรู >,.<! ผมพยายามคว้าน้ำรอบตัวเพื่อดันตัวเองขึ้นไปให้ได้ แต่บ้าเอ้ย ทรงตัวไม่ได้เลย ช่วยด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ในสมองของผมมันคิดอยากจะพุดคำนี้สุดๆแต่….จะทำได้งายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ในเมื่อผมอยู่ใต้น้ำ มืดมิดนี่
“เฮือกกกกก” ผมหอบหายใจถี่ๆ เมื่อได้สัมผัสกับอากาศบนบกอีกครั้ง เพราะความช่วยเหลือของโอเบย์ ที่ตอนนี้มันประคองเอวผมอยู่ ส่วนผมกอดคอมัน….เอ้ยยยยยย ตั้งแต่เมื่อไหร่ฟระ พอตั้งสติได้ผมก็รีบปล่อยมือจากคอโอเบย์ทันที หวังจะออกห่างจากมันให้มากที่สุด แต่มันก็ไม่ง่ายแบบนั้นเพราะผมเหมือนจะจมลงไปอีกครั้ง เท้าไม่แต่พื้นเลยเว้ยเห้ยยยยยยยยย
“เลิกดิ้นได้แล้ว เดี๋ยวก็จมลงไปอีกหรอก”
โอเบย์คิ้วขมวดใส่ผม ส่วนมือยังกอดอยู่ที่เอวผมแน่น ส่วนตัวผมอะเหรอ เปลี่ยนจากกอดคอมาจับไหล่โอเบย์แทน พร้อมกับเบือนหน้าหนี ให้ตายเหอะ เพราะความสะเพร่าของตัวเองแท้ๆทำให้ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายนี่
“ทำไมลงมาอาบน้ำลึกแบบนี้” โอเบย์ไม่วายตำหนิผม
“จำได้ว่าตอนแรกไม่ได้ลงมาลึกขนาดนี้” ก็จริงอ่ะ ตอนแรกยังอยู่ใกล้ฝั่งอยู่เลย สงสัยจะโดนพัดมาตอนที่จมน้ำ ตอนนี้เท้าไม่แตะพื้นเลย สงสัยจะลึกจริงอ่ะ
“นายนี่มันจริงๆเลย ว่ายน้ำไม่เป็นแล้วยังจะมา…”
“ใครบอกนาย เมื่อก่อนฉันว่ายน้ำเก่งที่สุดในโรงเรียนประถมเลยนะจะบอกให้”
“=,.=^”
“ไม่เชื่อนายก็ปล่อยสิ ฉันจะว่ายขึ้นฝั่งเอง” ผมพูดพร้อมกับดันตัวโอเบย์ออก (แต่ความจริงผมว่ายน้ำไม่เป็นหรอก ฟอร์มไปงั้นแหละ เพราะมันคงไม่ทิ้งให้ผมตายหรอก ใช่ไหม)
“เลิกดิ้นได้แล้วน่า ตัวนายลื่นยังกะปลาไหล …โดยเฉพาะ…” โอเบย์ลดสายตาต่ำลงไป อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ลืมไปว่าผมกำลังเปลือยล่อนจ้อนอ่ะ งือๆๆๆๆไม่ได้ใส่บ็อกเซอร์ด้วยยยยยยย
“อยู่นิ่งๆนะ ฉันจะพานายขึ้นฝั่ง” ไม่ต้องบอกผมก็นิ่งแล้วคับ ตกใจ บวกอึ้ง ไม่กล้าขยับตัวไปไหน นี่มันน่าอายชะมัด โธ่ชีวิตผม
และเพียงชั่วอึดใจเดียวโอเบย์ก็พาผมมาถึงฝั่งลำธาร แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขึ้นจากน้ำ ก็เห็นแสงไปเคลื่อนเข้ามาไกล้ๆ พร้อมกับมีเสียงคนเดิน
ผมกับโอเบย์นิ่งฟังเสียงของคนที่อยู่ใกล้ๆ รู้สึกว่าจะมีสองคน
“เฟิร์ส นายเลิกโกรธได้แล้ว จะไปไหน มันดึกแล้วนะ” เสียงไอ้แม็ซกับไอ้เฟิร์สงั้นเหรอ มันสองคนมาทำไรดึกๆดื่นๆฟระ
“ฉันจะไม่หยุด จนกว่านายจะรับปากฉัน” ไอ้เฟิร์สพูดเสียงเกรี้ยวกราด…มันสองคนมีเรื่องไรกันอ่ะ
“แค่นั้นเองนะ” ไอ้แม็ซพูดเสียงอ่อย
“สำหรับนายมันก็แค่นั้นเหรอ” ไอ้เฟิร์สพูดพร้อมกับเดินมาทางผม อ้ากกก ให้ตายเหอะ จะทำไง ถ้าพวกมันเห็นผมกับโอเบย์ในตอนนี้ มันคงคิดว่าผมเป็นเกย์แน่ๆ
“มีวิธีเดียวเท่านั้นแหละ” ในขณะที่ผมลุกลี้ลุกลน โอเบย์ก็พูดพร้อมกับจ้องหน้าผม
“อะไร…อุ๊ปปป” โอเบย์คว้าเสื้อผ้าของผมที่วางอยู่บนโขดหินใกล้ๆแล้วกดหัวผมลงใต้น้ำ อ้ากกกกก พึ่งจะได้สูดอากาศเมื่อกี้แท้ๆ >O<!!!
แต่ผมก็เข้าใจนะว่ามันเป็นทางเดียวที่สองคนนั่นจะไม่เห็นพวกผม แต่ให้ตายเถอะ โอเบย์มันจะให้เวลาผมเตรียมใจหน่อยก็ไม่ได้รึไงเล่า
ผมกับโอเบย์ดำดิ่งอยู่ใต้น้ำ มองไม่เห็นอะไรเพราะมันมืดชะมัด เห็นแค่แสงไปจางๆจากด้านบนผิวน้ำ สองคนนั่นมันจะทะเลาะกันอีกนานไหมเนี่ย ผมจะขาดอากาศหายใจตายอยู่แล้ววววววว
เฮือกสุดท้ายของชีวิตผม ทำให้ผมฉุกคิดขึ้นได้ว่า จะเป็นยังไงก็ได้ อะไรจะเกิดก็เกิด มันจะเข้าใจผมยังไงก็ช่าง แต่ตอนนี้ผมขออากาศหายใจก่อนละกัน ก่อนที่จะตายอยู่ในป่านี่
ผมออกแรงดันตัวเองขึ้นสู่ผิวน้ำ แต่เหมือนมีก็ไรเกี่ยวขาผมไว้ อ้ากกกกกก ผีหลอกตรูอีกแล้วเรอะนี่ >O<!!!
“อุ๊บส์” คะ…คงไม่ใช่ผีแล้วล่ะ เพราะผีมันคงไม่จูบปากผมหรอก….ใช่ไหม…..โอเบย์….ให้อากาศผมทาง….ปาก…อ้ากกกกกกกกกกก
ผมอึ้งกิมกี่เป็นรอบที่สาม อยากดิ้นเต็มทีแต่หมดแรงหูอื้อไปหมด แต่เพียงไม่นาน ดูเหมือนว่าสองคนนั่นจะเคลียกันเรียบร้อย เพราะตอนนี้แสงไปจากด้านบนห่างออกไปแล้ว โอเบย์เลยปล่อยผมให้เป็นอิสระ
“นี่นายทำอะไรของนาย” ทันทีที่โผล่พ้นน้ำ ผมก็ต่อยหน้าโอเบย์ไปหนึ่งหมัด
หมอนั่นกลับไม่พูดอะไร แต่เดินขึ้นไปบนฝังแล้วโยนผ้าเช็ดตัวเปียกๆในมือให้ผม
“นายทำบ้าอะไร” ตลอดเวลาที่เดินกลับมาที่เต้นท์ผมเอาแต่ถามโอเบย์ เพราะความโมโห แต่กลับได้เพียงความเงียบจากหมอนั่นตอบมาแทน
“.....”
“.......ทำทำไม” ผมวิ่งไปยืนขวางหน้าโอเบย์ หมอนั่นเลยส่องไปฉายใส่หน้าผม แล้วเลื่อนลงไปถึงเท้า แล้วเลื่อนขึ้นมาส่งหน้าผมอีกครั้ง นี่มันยังไม่อารมณ์สำรวจตัวผมอีกเหรอเนี่ย แต่ชั่งประไร ถึงตอนนี้ผมจะใส่แค่ผ้าเช็ดตัวเปียกๆผืนเดียว….มันก็ไม่น่าอายเท่าการกระทำที่ผมเจอมาเมื่อกี้
“อะไรของนาย” โอเบย์ยอมปริปากออกมาหลังจากที่เงียบมาตั้งนาน
“นายทำบ้าอะไรของนายวะ” ผมตะคอกโอเบย์ ท่ามกลางความเงียบรอบข้าง เสียงของผมยิ่งดังมากขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น
“ฉันมีแค่สองเหตุผลที่ทำ”
“อะไร”
“ทำเพื่อช่วยนาย ไม่อยากให้นายตายอยู่ในน้ำนั่น เพราะมนุษยธรรม และ ทำเพื่อช่วยตัวเอง เพราะถ้าเกิดสองคนนั้นเข้าใจผิดขึ้นมา คิดว่าฉันทำอะไรกับนาย มันคงเป็นเรื่องน่าอายที่สุดในชีวิตฉัน” พูดจบโอเบย์ก็สาวท้าวเดินกลับเต้นท์ ทิ้งให้ผมอ้าปากพะงาบๆคิดหาคำที่จะด่ามันไม่ได้……
ความคิดเห็น