คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 9
บทที่ 9
โครม!! เพล้ง!!
เสียงข้าวของบนโต๊ะทำงานไม้ตัวใหญ่ถูกกวาดลงไปกองรวมกันที่พื้นด้วยแรงอารมณ์ของชายหนุ่มผู้มีสีหน้าโกรธขึ้ง ทั้งนาฬิกาแก้วประดับทองตั้งโต๊ะเรือนสวย แฟ้มเอกสารกองใหญ่ ต่างลงไปแตกหักอยู่บนพื้นทั้งสิ้น คนอื่นๆ ในห้องพากันหลบตาวูบเมื่อป๊อปปี้กวาดสายตากราดเกรี้ยวมา มีเพียงเขื่อนและแก้วใจเท่านั้นที่มองตอบด้วยสายตาเครียดขมึงพอกัน
“ใครมันกล้าขนาดนี้!! แก้ว! จำทะเบียนรถมันได้มั้ย” ป๊อปปี้หันมาซํกเอากับร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะทำงาน
“แก้วเช็คแล้วฮะ แต่มันเป็นทะเบียนปลอม...” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด มือทั้งสองข้างล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง
ป๊อปปี้ถอนหายใจพรูออกมาอย่างแรง ก่อนจะกระแทกตัวนั่งลงบนเก้าอี้หนัง
“เขื่อน...ช่วยเช็คอีกแรง ชั้นจะลากคอมันมาให้ได้!” ชายหนุ่มหันไปสั่งเสียงเข้ม เขื่อนก้มศีรษะก่อนจะก้าวยาวๆ ออกจากห้องไป
“คุณฟางเป็นยังไงบ้าง” ประโยคต่อมาของชายหนุ่มทอดเสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อได้ระบายความโกรธออกไปบ้างใบหน้าสวยหวานของฟางก็ผุดขึ้นมาแทนที่...ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาที่ฉายชัดในความทรงจำ
ป๊อปปี้ไม่รอคำตอบแต่กลับผุดลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไป ในใจร้อนรุ่มด้วยความเป็นห่วง...ซากสิ่งของหักพังถูกทิ้งไว้เบื้องหลังอย่างไม่ใยดี
..................................................................................................................................
บานประตูสีขาวขลิบทองเปิดออกอย่างแรง ป๊อปปี้ก้าวรวดเดียวมาประชิดเตียงสีหวานที่ฟางนอนหลับอยู่ ร่างบางลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกว่ามีคนนั่งลงบนเตียง ดวงตากลมโตกะพริบถี่ก่อนจะยันตัวลุกขึ้น แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นคนๆ หนึ่งที่นานๆ ครั้งจะเข้ามาหาเธอถึงในห้องนั่งอยู่ข้างตัว...
“คุณป๊อป...”
“ฟาง...ฟางเป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนมั้ย” ป๊อปปี้จับแขนคนตรงหน้าขึ้นมาพลิกคว่ำพลิกหงายอย่างรวดเร็ว ร่างบางตกใจได้แต่มองชายหนุ่มอย่างตื่นๆ
“คุณป๊อปคะ ฟางไม่ได้เป็นอะไร...ฟางปลอดภัยดีค่ะ” ฟางจับมือป๊อปปี้ไว้แล้วปลดออกจากแขนเบาๆ...
แต่ทว่าชายหนุ่มกลับดึงร่างบางเข้ามากอดไว้...วงแขนกว้างโอบรอบเอวหญิงสาวไว้แน่น ป๊อปปี้กอดกระชับร่างเล็กๆ นั้นไว้ในอ้อมกอดอย่างหวงแหน...
“คุณป๊อปคะ...” ฟางตกใจพยายามขืนตัวออกแต่ชายหนุ่มไม่ยอมปล่อย...ป๊อปปี้รัดวงแขนแน่นเข้าราวกับกลัวว่าหากปล่อยมือแล้วคนตรงหน้าจะโบยบินหายไป...
แก้วใจเดินผ่านประตูเข้ามาเงียบๆ ร่างสูงชะงักมองภาพที่อยู่ตรงหน้าด้วยแววตานิ่งสนิท แต่คนตัวเล็กที่เงยหน้าขึ้นมาจากบ่ากว้างของป๊อปปี้นั้นรับรู้ได้ถึงแวววูบไหวที่ซุกซ่อนอยู่...แม้เพียงวูบเดียวแต่มันทำให้หัวใจของเธอถึงกับเต้นผิดจังหวะ ฟางดันตัวออกจากอ้อมกอดของป๊อปปี้ช้าๆ...แก้วใจหลบตาเธอแล้วหมุนตัวเดินกลับออกไปจากห้อง ก่อนจะปิดประตูตามหลัง
เพียงเท่านั้น หัวใจของฟางที่เต้นผิดจังหวะเมื่อครู่ก็กลับมาเต้นตามปกติและปรารถนาจะวิ่งตามคนของเธอออกไปเหลือเกิน...จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม หญิงสาวไม่สบายใจที่เห็นแววตาตัดพ้อคู่นั้น แก้วใจไม่มีสิทธิ์มาทำสายตาแบบนี้ใส่เธอ...ไม่มีสิทธิ์ทำร้ายเธอด้วยสายตา...แบบนั้น
“ฟาง...”
ป๊อปปี้ยกมือขึ้นลูบศีรษะที่มีเส้นผมสีน้ำตาลทองนั้นเบาๆ
“แน่ใจนะ ฟางไม่ได้เจ็บ ไม่ได้ปวดตรงไหนใช่มั้ย...” ชายหนุ่มถามย้ำด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ร่างบางส่งยิ้มให้เพียงจางๆ ก่อนจะมองออกไปทางประตูห้องสีขาวขลิบทอง
“ไม่ค่ะ...ไม่ได้เจ็บตรงไหนเลย”
.........
.......
อีกด้านหนึ่งของบานประตู แก้วใจหันหลังพิงแผ่นไม้สีขาว...ร่างสูงหลับตาลงช้าๆ ก่อนจะสะบัดศีรษะแล้วเดินไปตามโถงทางเดินที่ทอดยาวไปสู่บันไดโค้งที่สุดทางด้วยหัวใจหนักอึ้ง....
..........................................................................................................................
รถยนต์มินิคูปเปอร์สีแดงสดแล่นโฉบเข้ามาตามถนนที่นำสู่ตัวคฤหาสน์หลังใหญ่ด้วยความเร็วราวกับพายุก่อนจะจอดฉับลงหน้าโรงรถ หญิงสาวร่างโปร่งในชุดกระโปรงรัดรูปคาดทับด้วยเข็มขัดเส้นโตก้าวลงมาอย่างกระฉับกระเฉงและหอบถุงกระดาษใบใหญ่หลายใบไว้เต็มสองมือ เฟย์ก้าวฉับๆ ไปทางบันไดเล็กข้างตึก หญิงสาวไม่ทันได้ระวังเมื่อมาถึงหัวมุมเชิงบันไดจึงชนเข้ากับใครคนหนึ่งที่เลี้ยวมาพอดี
“อุ๊ย!” ถุงที่อยู่ในมือร่วงลงไปอยู่ที่พื้น พร้อมๆ กับที่ใครคนนั้นคว้าเอวเธอไว้ทันก่อนที่จะล้ม
“คุณเฟย์! ขอโทษครับ” น้ำเสียงห่วงใยนั้นคุ้นหูจนไม่ต้องเงยหน้ามองก็รู้ว่าใคร
“ระวังหน่อยสิคะคุณเขื่อน...” หญิงสาวตวัดเสียงใส่ด้วยความเคยชินก่อนจะขืนตัวออกจากแขนที่คว้าเธอไว้ เขื่อนหลบตาแล้วก้มลงหยิบถุงที่หล่นอยู่ที่พื้นมาถือไว้ก่อนจะเอื้อมมือมาคว้าของที่เหลือในมือเฟย์มาถือไว้เองทั้งหมด
“เฟย์ก็ ขอโทษ...ละกันค่ะ พอดีรีบ” ร่างโปร่งมีน้ำเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ตอบโต้
“ไม่เป็นไรหรอกครับ...แล้วนี่จะเอาไปไว้ที่ไหนครับ เดี๋ยวผมถือไปให้” ชายหนุ่มเผยยิ้มกว้างเมื่อสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงเชิงรู้สึกผิดนั้น...หัวใจพองโตแทบล้นออกมานอกอก
“ไม่เป็นไรค่ะ เฟย์ถือเองได้” เฟย์พยายามจะแย่งถุงทั้งหมดคืนแต่เขื่อนก็เอามือไพล่หลังเสียก่อน
เสียงนกตัวเล็กๆ ร้องเป็นเพลงดังแว่วมาตามสายลมที่พัดผ่านบันไดข้างตึก...หญิงสาวตวัดสายตาใส่คนตรงหน้านิดหนึ่งอย่างขัดใจ
“เอาไว้ที่ไหนครับ” ชายหนุ่มถามซ้ำด้วยน้ำเสียงสุภาพ เส้นผมสีทองสว่างปลิวตามลม
ร่างโปร่งยักไหล่แล้วชะโงกไปข้างหลังหวังจะคว้าถุงทั้งหมดกลับมาเป็นจังหวะเดียวกับที่เขื่อนก้าวถอยหลังเพื่อหลบพอดี เฟย์จึงเสียหลักล้มทับลงไปบนร่างชายหนุ่ม ริมฝีปากอุ่นๆ ของเขื่อนสัมผัสเข้ากับแก้มที่มีลักยิ้มโดยไม่ตั้งใจ ดวงตาสองคู่มองสบกันเพียงเสี้ยววินาที...หัวใจเต้นแรงจนต่างฝ่ายต่างสัมผัสได้
“ตายแล้ว อะไรกันคะเนี่ยคุณเฟย์” เสียงแหลมๆ ของหวายดังขึ้นจากโถงทางเดินในบ้าน เฟย์รีบยันตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ใบหน้าสวยเก๋นั้นเปลี่ยนเป็นสีกุหลาบ ในขณะที่เขื่อนเก็บถุงทั้งหมดขึ้นมาอีกครั้ง
“นี่อะไรยังไงกันคะถึงได้มาสวีทกันตรงนี้เนี่ย” หญิงสาวใบหน้ากลมสวยเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย ดวงตามองคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างนึกสนุก ไม่บ่อยนักที่เธอจะได้เห็นคุณเฟย์ผู้มั่นใจมีอาการไปไม่เป็นแบบนี้
“คุณหวาย!” ร่างโปร่งหันขวับมาตวัดเสียงใส่คนที่เพิ่งมาถึงด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว เฟย์ใช้สายตาแบบเดียวกันนั้นตวัดกลับไปที่ชายหนุ่มผมทอง
“คุณหวายอย่าเข้าใจผิดครับ...คือผมจะช่วยคุณ...”
“ไม่ต้องพูดแล้วค่ะคุณเขื่อน ขอถุงให้เฟย์” หญิงสาวพูดสวนขึ้นมาพลางแบมือ ดวงตาคู่สวยฉายแววขุ่นเคืองชัดเจน เขื่อนจำใจส่งถุงทั้งหมดให้เธอ
“ครับ...”
“คราวหลังไม่ต้องทำเกินคำสั่งนะคะ...เฟย์ไม่ชอบ” เฟย์เน้นเสียงสามพยางค์สุดท้ายอย่างจงใจก่อนจะเดินสะบัดเข้าไปในตึก หัวใจยังคงเต้นไม่เป็นส่ำ...รอยสัมผัสบนผิวแก้มยังอุ่นไม่จาง....
“คุณเฟย์ ไม่ ชอบ...เข้าใจมั้ยคะ คุณเขื่อนขา” หวายทำเสียงล้อเลียนก่อนจะเดินลงบันไดไปอย่างสบายอารมณ์
เขื่อนมองตามร่างโปร่งที่เดินจ้ำเข้าไปในตึกจนลับสายตา รอยยิ้มจางๆ ปรากฎบนริมฝีปาก...ริมฝีปากที่ประทับลงบนผิวแก้มหอมเนียน...
To be continue
สวัสดีค่ะรีดเดอร์ บทที่ 9 มาแล้วววว
มาตามสัญญาเลยกับคู่คุณเขื่อนกับคุณเฟย์
ถึงแม้แก้วใจกับคุณฟางจะอึมครึม แต่ก็ยังมีเขื่อนเฟย์มาแทน
หวังว่าจะทำให้ใครหลายๆ คนอมยิ้มกันได้บ้างนะคะ
คิดถึงมาก
ความคิดเห็น