คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 6
บทที่ 6
สองข้างทางที่รถตู้สีดำคันใหญ่ราคาร่วมล้านแล่นผ่านเริ่มมีบ้านเรือนหนาแน่น รถยนต์วิ่งกันขวักไขว่เมื่อเข้าสู่เขตเมืองหลวงอันศิวิไลซ์ แดดยามเย็นทอแสงเป็นประกายสีส้มสะท้อนบานกระจกของอาคารสูงตระหง่านนับสิบนับร้อย
หญิงสาวร่างบางนั่งพิงกระจกรถ ดวงตากลมโตภายใต้แว่นกันแดดสีชาทอดมองไปไกล
“ฟาง เดี๋ยวคืนนี้ชั้นจะออกไปประชุมงานที่ออฟฟิศแล้วจะเลยไปดูที่ดินแถวชลบุรี ฟางอยู่บ้านนะ อยากทานอะไรก็บอกให้ป้าอุ่นเตรียมให้ ไม่ต้องรอ” ชายหนุ่มผิวขาวรูปร่างสันทัดที่นั่งอยู่ข้างๆ พูดขึ้นพลางเอื้อมมือมาจับมือเธอไว้หลวมๆ
ฟางเบือนหน้ากลับมามองคู่สนทนาพลางพยักหน้ารับ แล้วหันกลับไปทางเดิม หญิงสาวลอบถอนหายใจเบาๆ กับอิสระเสรีที่เธอจะได้รับเพียงไม่กี่ชั่วโมง และเธอต้องใช้เวลาเหล่านั้นไปกับการอยู่ในคฤหาสน์หลังงาม
“ให้หวายไปด้วยมั้ยคะคุณป๊อป” เสียงแหลมๆ ดังมาจากด้านท้ายรถที่หญิงสาวหน้ากลมนั่งเอกเขนกอยู่อย่างสบายใจ
“ไม่เป็นไร ชั้นจะไปกับเขื่อน..” ป๊อปปี้ตอบโดยไม่หันมามองหน้าแล้วพยักเพยิดไปทางชายหนุ่มผมทองที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งตอนหน้า
“ไปช้อปปิ้งกับเฟย์แทนมั้ยคะคุณหวาย” เฟย์ที่ยึดที่นั่งตอนกลางไว้คนเดียวหันกลับมาส่งยิ้มหวานให้หวาย แล้วยักคิ้ว ลักยิ้มสองข้างแก้มนั้นกวนอารมณ์ของคนถูกชวนจนหวายต้องส่งสายตาค้อนขวับอย่างลืมตัว
“ไม่ล่ะค่ะ ขอบคุณ หวายพักผ่อนดีกว่า กลัวไปแล้วแขนขามันจะเหวอะหวะหมด” หญิงสาวสะบัดเสียงตอบพลางยักไหล่
ร่างโปร่งหันกลับมาเบะปากและพูดลอยๆ
“อย่างคุณหวายนี่ยังต้องกลัวอีกหรอคะ นึกว่าพวกเดียวกันซะอีก”
หวายทำท่าจะอ้าปากเถียงกลับแต่ก็ต้องหยุดเมื่อเห็นว่าป๊อปปี้ชำเลืองมองมาทางหางตา หญิงสาวจึงทำได้เพียงกระฟัดกระเฟียดใส่อารมณ์เอากับข้าวของรอบๆ ตัว
“อ่อ แก้ว...ดูแลคุณฟางด้วยนะคืนนี้ แล้วบอกคนที่เหลือให้ดูแลคุณเฟย์กับคุณหวายให้ดี” ป๊อปปี้พูดต่อกับหญิงสาวร่างสูงที่นั่งติดกับเขื่อนตรงที่นั่งตอนหน้าข้างคนขับ
แก้วใจชำเลืองผ่านกระจกมองหลังมาสบกับดวงตาภายใต้แว่นกันแดดของร่างบางที่เหลือบมองมาเพียงแวบเดียวแล้วตอบรับคำด้วยน้ำเสียงนิ่งสนิท
“ฮะ คุณป๊อป”
ทั้งรถตกอยู่ในความเงียบจนท้องฟ้าเริ่มมืดและรถตู้คันโตก็แล่นผ่านประตูรั้วสูงทาสีทอง มุ่งตรงสู่คฤหาสน์หลังใหญ่...บานประตูเหล็กที่เปิดกว้างปิดตามหลังอัตโนมัติราวกับจะกักขังคนที่ล่วงล้ำเข้าไปไม่ให้หนีออกไปไหนได้
.............................................................................................................................................................................
“ราตรีสวัสดิ์นะคะคุณฟาง” เสียงคุณอุ่นดังออกมาจากในห้องนอนใหญ่ แก้วใจที่ยืนอยู่นอกประตูมองสำรวจโถงทางเดินบนชั้นสองของคฤหาสน์หลังนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วหันกลับมามองเข้าไปในห้องพอดีกับที่คุณอุ่นเดินออกมา
“แก้ว ป้าฝากด้วยนะ รอจนคุณฟางเธอหลับสนิทสักพักแล้วค่อยไปนอน ป้าจัดห้องเล็กข้างๆ ไว้ให้แล้ว” คุณอุ่นกำชับเบาๆ พลางเดินออกจากห้องไป
ร่างสูงค่อยๆ ก้าวเข้าไปในห้องนอนกว้าง สายตากวาดไปทั่วบริเวณทั้งผ้าม่านหนาหนักสีชมพูอ่อน โต๊ะข้างเตียงสีขาวขลิบทอง โคมไฟสีหวานลายกามเทพตัวน้อยและมาหยุดลงที่กล่องดนตรีรูปนกน้อยเตรียมโผบินที่วางอยู่ข้างหมอน มือเรียวเอื้อมไปหมายจะหยิบขึ้นมาดู
“อันนั้นของคุณแม่...สวยใช่มั้ยล่ะ” เสียงหวานๆ ของร่างบางที่เดินออกมาจากห้องน้ำดังขึ้นข้างหลัง แก้วใจลดมือลงแล้วหันกลับไปมอง คนตัวเล็กอยู่ในชุดนอนสีขาวยาวคลุมเข่าแขนยาวที่คอเป็นระบายรูดผูกเป็นโบว์เส้นเล็กๆ น่ารัก
“ใช่ฮะ...สวย” ร่างสูงกระซิบตอบแผ่วเบา ดวงตาไม่ละไปจากใบหน้าหวานที่ฉายแววหม่นเศร้า ฟางหยิบกล่องดนตรีขึ้นมาแล้วนั่งลงบนขอบเตียง มือเล็กๆ หมุนลานจนเกือบสุดแล้วปล่อยให้นกตัวเล็กร้องเพลงเป็นทำนองแสนหวาน...
“เป็นนกนี่ก็ดีนะว่ามั้ย อยากจะบินไปไหนก็ได้ไป...” หญิงสาวพูดเสียงเบา แล้วค่อยๆ วางกล่องดนตรีลงบนโต๊ะข้างเตียงก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“แก้วใจคงคุ้นเคยกับอิสระสินะ ไม่ต้องมีใครมาบังคับ ไม่ต้องมาคอยคิดว่าใครจะมองเรายังไง” ฟางส่งยิ้มเศร้าๆ ให้ร่างสูง แก้วใจยิ้มตอบแล้วเดินผ่านเตียงที่คนตัวเล็กนั่งอยู่ไปรูดม่านหน้าต่างบานสูงให้เปิดออก เผยให้เห็นท้องฟ้ายามค่ำคืนที่พราวไปด้วยแสงดาว
“คุณฟาง...ไปเที่ยวกันมั้ย” ร่างสูงยืนหันหลังให้ท้องฟ้าสีดำนั้นแล้วส่งยิ้มกว้างและสายตาที่แน่วแน่มั่นคงมาให้คนที่นั่งอยู่บนเตียง มือที่มีนิ้วเรียวยาวยื่นออกมาข้างหน้า
“แก้วใจ...” ฟางเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
เสียงดนตรีหวานๆ จากนกร้องเพลงบนโต๊ะสีขาวข้างเตียงดังขึ้นเล็กน้อยราวกับมีเวทมนต์................
………………………………………………………………………………………….
เสียงดนตรีและเพลงจังหวะสนุกสนานจากมหรสพที่จัดขึ้นในบริเวณลานวัดชานเมืองเรียกความตื่นเต้นให้กับคนตัวเล็กในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นที่ยืนมองไปรอบๆ ได้เป็นอย่างดี ดวงตากลมโตเบิกกว้างมองซุ้มเกม และแสงสีต่างๆ อย่างชอบใจ ธงสามเหลี่ยมหลากสีแขวนห้อยจากต้นไม้เป็นทางยาว ฟางทำท่าจะออกเดินแต่ก็โดนร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ คว้าแขนเสียก่อน
“เดี๋ยว คุณฟาง...จับมือแก้วไว้ คนมันเยอะ เดี๋ยวจะหลง” แก้วจับมือเล็กไปกุมไว้หลวมๆ พลางขยับหมวกแก๊ปที่ตนสวมอยู่ให้กระชับมากขึ้น ฟางก้มลงมองมือตัวเอง แก้มเปลี่ยนเป็นสีชมพู
“ไปกันเถอะ คุณฟางอยากไปตรงไหนก่อน” ร่างสูงถามขึ้นแล้วมองคนตรงหน้าที่สอดส่ายสายตาไปรอบๆ งาน
“แก้วใจ ฟางอยากได้...” ร่างบางลากเสียงพลางกวาดตาไปตามซุ้มเกม
“อันนั้น!!” ฟาง ชี้ไปที่ตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวเล็กๆ หน้าตาน่ารักที่วางอยู่ในซุ้มยิงลูกโป่ง ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองคนตัวสูงอ้อนๆ รอยยิ้มหวานประดับอยู่บนใบหน้าสวย
แก้วมองตามมือนั้นแล้วก็ก้มลงส่งยิ้มกลับให้คนข้างๆ ร่างสูงจูงมือฟางให้เดินตามไป
“ตาละสิบบาทครับพี่ ยิงได้สามครั้ง ถ้ายิงโดนลูกโป่งแตกทั้งสามครั้งเลือกรางวัลได้เลยครับ” เด็กคุมร้านส่งปืนอัดลมกระบอกสั้นๆ ให้แก้วใจที่ส่งเหรียญสิบบาทให้ หญิงสาวรับมาแล้วยกขึ้นเล็งไปที่ลูกโป่งลูกใหญ่ที่แขวนอยู่บนฝากระดานไม้อัด
ปัง!! ปัง!! ปัง!!
เสียงกระสุนสามนัดเจาะลูกโป่งแถวบนสุดสามลูกเรียงกัน ร่างสูงลดกระบอกปืนลงส่งคืนให้เด็กคุมร้านแล้วชี้ไปที่ตุ๊กตาสีน้ำตาลที่วางอยู่บนชั้น
“ขอตุ๊กตาหมีตัวนั้นได้มั้ย….”
……………………………………………………………………………………….
ห้านาทีต่อมาคนตัวเล็กก็หย่อนตุ๊กตาหมีตัวเล็กลงในกระเป๋าสะพายใบใหญ่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ร่างบางเดินฮัมเพลงตามที่ได้ยินอย่างนึกสนุกแล้วดวงตากลมโตก็สะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง ฟางหันมาพูดกับร่างสูงอย่างรวดเร็วด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“แก้วใจ รอแป๊บนึงนะ” พูดจบก็วิ่งออกไปทันที
“คุณฟาง!! จะไปไหน เดี๋ยวก่อน” แก้วใจไม่ทันตั้งตัว ร่างสูงชะเง้อคอมองหาร่างเล็กๆ ที่หายเข้าไปในกลุ่มคน
เพียงครู่เดียวขนมไหมฝันสีหวานอันใหญ่ก็โผล่ขึ้นมาตรงหน้าตามมาด้วยเสียงหัวเราะสดใส
“แต่นแต๊นน...คุณฟางซื้อขนมมาฝากกก”ร่างบางชูขนมพองฟูก้อนโตสองก้อนขึ้นอวดแล้วส่งก้อนหนึ่งให้แก้วใจ
“ไหมฝัน...คุณฟางรู้จักหรอ” ร่างสูงรับมาแล้วถามขึ้นอย่างแปลกใจ คนตัวเล็กที่กำลังเพลิดเพลินกับน้ำตาลที่ละลายในปากเงยหน้าขึ้นสบตา
“คุณแม่เคยซื้อให้บ่อยๆ...นานแล้ว” เสียงหวานแผ่วลงตอนท้ายประโยค เสียงอึกทึกที่ดังอยู่รอบตัวเหมือนจะเงียบลงเมื่อนึกไปถึงอดีตที่เหมือนจะผ่านมานานแสนนาน
“คุณแม่ขา... ฟางอยากกินไหมฝัน” เสียงเด็กน้อยตัวกลมวัยไม่เกินห้าขวบร้องขึ้น ขาป้อมๆ ซอยถี่ยิบไปยังร้านขายขนมที่ตั้งอยู่ในงานออกร้านการกุศล ผู้คนเดินกันขวักไขว่
สตรีรูปร่างเล็กแบบบางในชุดกระโปรงสีสดใสยิ้มแล้วเดินตามลูกสาวไปจนถึงหน้าร้าน เด็กหญิงตัวกลมถือขนมก้อนใหญ่ไว้ในมือพลางส่งยิ้มกว้างอวดฟันซี่เล็กๆ ให้ผู้เป็นมารดา
“ไปลูก เราเอาขนมไปอวดคุณพ่อกันดีกว่าเนอะ” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เธอจูงมือลูกสาวตัวเล็กให้เดินตามไปขึ้นรถยนต์คันใหญ่ราคาแพงที่จอดรออยู่บริเวณหน้างาน...เสียงหัวเราะสดใสของเด็กคนนั้นดังก้องอยู่ในกาลเวลา
“คุณฟาง...คุณฟาง” เสียงทุ้มๆ ที่เรียกอยู่ข้างตัวเหมือนดังมาจกาที่ไกลแสนไกล ดวงตาคู่สวยที่มีน้ำตาคลอกะพริบถี่ๆ
“ฮะ อะไรนะ...” ร่างบางสะดุ้งแล้วหันมาตามเสียงเรียกแล้วก็ต้องเบิกตากว้าง
แก้วใจพาเธอเดินมาหยุดอยู่หน้าชิงช้าสวรรค์อันใหญ่ที่ประดับด้วยแสงไฟหลากหลายสี ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ต่อแถวสั้นๆ อยู่ตรงทางขึ้น
“ไปกันเถอะ” ร่างสูงดึงมือเบาๆ
ชิงช้าสวรรค์หมุนขึ้นข้างบนช้าๆ และหยุดเป็นพักๆ เพื่อให้คนที่อยู่ข้างล่างสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้น ฟางมองไปรอบๆ อย่างตื่นเต้น แสงไฟ เสียงเพลง และท้องฟ้าสีดำช่างเข้ากันได้อย่างลงตัว หญิงสาวส่งยิ้มสดใสให้คนที่นั่งอยู่ตรงข้าม ระยะห่างระหว่างเธอกับแก้วใจนั้นใกล้นิดเดียว
“คุณฟาง...ทำไมคุณฟางถึงมาอยู่กับคุณป๊อปปี้”
เสียงต่ำๆ ถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจ ฟางหันมาสบตากับดวงตายาวรีที่จับจ้องเธออยู่เพียงแวบเดียว ร่างบางหลบตาแล้วทอดสายตาออกไปนอกชิงช้าเนิ่นนาน
ความเงียบปกคลุมคนสองคนไว้แผ่วเบา ชิงช้าสวรรค์ยังคงหมุนต่อไปจนคนโดนถามเริ่มพูดอีกครั้ง
“ฟางก็ไม่รู้...คุณป๊อปเป็นลูกชายคนโตของคุณลุงเพื่อนคุณพ่อ ตั้งแต่คุณพ่อคุณแม่เสียไป ฟางก็ได้ครอบครัวคุณป๊อปเลี้ยงดูมาตลอด…คุณป๊อปมีพระคุณกับฟางมาก”
ดวงตากลมโตเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า ร่างสูงที่นิ่งฟังอยู่นานจึงถอดหมวกแก๊ปที่สวมอยู่ออกไปวางบนศีรษะที่มีเส้นผมสีน้ำตาลทอง
“นี่น้องชาย เป็นผู้ชายห้ามร้องไห้สิ” แก้วใจดึงปีกหมวกลงมาให้กระชับ แล้วส่งยิ้มบางๆ ให้คนตรงหน้า
“น้องชาย...” ฟางขมวดคิ้วกับสรรพนามแปลกหูนั้นแล้วก็ยิ้มออกเมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์ที่ชายหาด ตอนที่หนุ่มน้อยร่างเล็กสวมหมวกแก๊ปโดนรุมแล้วพี่สาวตัวสูงก็มาช่วยเอาไว้ หญิงสาวยิ้มกว้าง
“สนุกจังเลย....คุณฟางอยากนั่งอีกรอบ ได้มั้ยแก้วใจ” ฟางเหลียวมองไปรอบๆ ตัว ชิงช้าสวรรค์เริ่มลดระดับลงช้าๆ เสียงเพลงกระหึ่มดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งชิงช้าลงมาจนถึงชั้นล่างสุด
ร่างสูงเปิดประตูออกแล้วลงไปยืนก่อนจะหันกลับมาส่งมือให้คนที่นั่งอยู่ในชิงช้า
“ได้เวลากลับวังแล้ว เจ้าหญิง...”
ร่างบางถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะก้าวลงจากชิงช้า หมดเวลาร่อนเร่พเนจรกับองครักษ์รูปงามแล้ว เจ้าหญิงของคุณป๊อปปี้ต้องกลับเข้าคฤหาสน์กรงทองอีกแล้วสินะ........
..........................................................................................................................................................................
รถตู้สีดำคันใหญ่แล่นฝ่าความมืดมาจอดลงตรงผืนที่ดินรกร้างว่างเปล่ากว้างใหญ่ที่อยู่ติดชายทะเล ลมแรงๆ พัดเอากลิ่นเกลือลอยมาปะทะจมูก ชายหนุ่มผิวขาวก้าวลงจากรถแล้วกวาดตามองไปรอบๆ ชายในชุดดำอีกสองคนเดินตามลงมาประกบอยู่ข้างๆ พร้อมด้วยท่าทางระแวดระวัง
“เขื่อน จัดการด้วย ที่ตรงนี้ชั้นจะเอาไว้ทำรีสอร์ท อย่าให้ใครตัดหน้าไปได้” ป๊อปปี้พูดเสียงเฉียบขาด
เขื่อนที่ยืนอยู่ทางขวามือก้มศีรษะรับคำ พร้อมๆ กับที่รถตู้สีเทาคันใหญ่ราคาแพงอีกคันแล่นเลยขึ้นไปจอดไม่ห่างกันนัก ป๊อปปี้หันไปมองทันที ในขณะที่เขื่อนชำเลืองมองทางหางตา
ประตูรถเลื่อนเปิดออกช้าๆ ตามมาด้วยช่วงขายาวๆ ของชายหนุ่มรูปร่างสูงที่ก้าวลงมาจากรถแล้วชำเลืองมาทางคนที่ยืนอยู่ก่อนด้วยท่าทางไม่สนใจ ลูกน้องอีกสองคนที่ตามมาด้วยยืนประกบเจ้านายของตน ชายหนุ่มคนนั้นหันไปกระซิบอะไรบางอย่างกับคนที่อยู่ทางซ้ายแล้วทั้งหมดก็กลับขึ้นรถไป
แต่ก่อนที่จะก้าวพ้นขอบประตู สายตาคมสองคู่ก็ประสานกันเข้าอย่างจัง...เพียงครู่เดียวรถตู้สีเทาคันนั้นก็แล่นหายไปในความมืด
“เขื่อน รีบจัดการเรื่องที่ดิน แล้วสืบมาด้วยว่ารถคันนั้นมันเป็นของใคร จำทะเบียนได้ใช่มั้ย” ป๊อปปี้พูดด้วยท่าทางเคร่งขรึม สายตามองตามรถของผู้มาเยือนจนลับสายตา
“ครับ” เขื่อนรับคำแล้วเปิดประตูรถให้เจ้านายหนุ่ม
ป๊อปปี้ก้าวขึ้นไปนั่ง...หากจะทำธุรกิจ...การแข่งขันแย่งชิงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับเขาเท่าใดนัก และถึงแม้จะเห็นเพียงแวบเดียว แต่ชายหนุ่มก็สัมผัสแววแห่งการแก่งแย่งชิงดีในสายตาคมกล้าคู่นั้นได้ ขอเพียงให้รู้ว่ามันเป็นใคร...ถ้าคิดจะมาขวางทางธุรกิจของเขา...ก็คงต้องเจอปัญหาใหญ่แน่นอน
To be continue
เบื้องหลังกองถ่าย
สวัสดีค่ะรีดเดอร์ ไรท์เตอร์หายไปนานเพราะคราวนี้เราต้องยกกองไปถ่ายทำฉากงานวัดกัน สนุกสนานกันมากเลยเพลินไปหน่อย แต่ไรท์เตอร์ก็ไม่ลืมเก็บบรรยากาศเบื้องหลังกองถ่ายมาฝากรีดเดอร์กันด้วยนะคะ
ฟาง : ฮัลโหลล สวัสดีค่า ตอนนี้ฟางอยู่บนชิงช้าสวรรค์ แต่นแต๊นนน อยู่กับแก้วด้วย เป็นไงบ้างคะแก้ว (หันไปหาแก้วที่นั่งอยู่ข้างๆ)
แก้ว : โห สนุกมากเลยค่ะ ไรท์เตอร์จัดเต็มมากกับงานวัดวันนี้ (แก้วใจผายมือให้ดูบรรยากาศจากบนชิงช้า)
ฟาง : จัดเต็มนี่หมายถึงอะไรคะแก้ว
แก้ว : แน่นอนเลยว่า ของกินแน่ๆ!! อ่ะ ไม่ช่ายยย จัดเต็มความสนุกสนานมาให้รีดเดอร์ต่างหากค่ะฟาง
ฟาง : ใช่ค่ะ เสียดายมากที่เฟย์ไม่ได้มาด้วย แต่ยังไงฟางซื้อขนมกลับไปฝากแน่นอน 5555
แก้ว : 55555 รอก่อนนะเฟย์
ไรท์เตอร์ : หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ ส่วนใครที่สงสัยว่าหนุ่มในรถตู้สีเทาคันนั้นเป็นใครขอให้อดใจรอค่ะ แล้วเราจะได้พบกับเค้าแน่นอน
คิดถึงนะคะ
ความคิดเห็น