คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2
บทที่ 2
แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านรอยแยกของผ้าม่านสีกุหลาบเข้ามาในห้องนอนสวยหรูทำให้เกิดแสงสลัว หญิงวัยกลางคนรูปร่างท้วม ผิวขาว แต่งกายสะอาดสะอ้านค่อยๆ รูดม่านผืนหนักให้เปิดอย่างเบามือ แสงแดดส่องกระทบร่างเล็กๆ ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่สีสวยที่นอนหลับสนิท เส้นผมสีน้ำตาลประกายทองสะท้อนแสงแดด ดวงตากลมโตเริ่มกระพริบถี่ๆ เมื่อรับรู้ได้ถึงแสงที่ส่องเข้ามาในห้อง
“แม่อุ่นขา ขอนอนต่ออีกนิดนะ...” ร่างบางพลิกตัวหนีแสงแดด แล้วคว้าผ้าห่มมาคลุมโปง
คุณอุ่นขยับแว่นสายตา ส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วนั่งลงข้างๆ ก่อนจะดึงผ้าห่มออก
“ไม่ได้ค่ะคุณฟาง ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว ...ไปอาบน้ำค่ะ...” คุณอุ่นดึงแขนหญิงสาวเบาๆ ฟางหรี่ตาขึ้นมองแล้วทำปากยื่น
“โธ่...แม่อุ่นขา...” คนบนเตียงทำเสียงอ้อนแล้วเขยิบตัวมานอนหนุนตักนุ่มๆ ที่คุ้นเคย
“ไม่ต้องโธ่เลย...ลุกขึ้นค่ะทูนหัว เดี๋ยวคุณป๊อปเธอจะรอนะคะ” คนโดนอ้อนยกเอาชื่อผู้ปกครองมาอ้าง
ฟางถอนหายใจแล้วยันตัวขึ้นจากที่นอนทันที
“ก็ได้ค่ะ...ลุกก็ได้” ร่างบางลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ คุณอุ่นมองตามอย่างเอ็นดูก่อนจะสะบัดผ้าผืนใหญ่ขึ้นคลุมเตียง
................................................................................................................................................................
โต๊ะอาหารหรูตัวยาวตั้งอยู่กลางห้องรับประทานอาหาร ป๊อปปี้นั่งตรงหัวโต๊ะโดยมีผู้ร่วมโต๊ะคือหญิงสาวสามคน บอดี้การ์ดสองคนในชุดสูทสีดำยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูห้องด้วยท่าทางระแวดระวังอย่างสงบ โดยมีเขื่อนบอดี้การ์ดผมทองยืนอยู่ข้างหลังเก้าอี้บุนวมของป๊อปปี้
“ตักข้าวเลยค่ะ แม่อุ่น” เสียงใสๆ ของหญิงสาวที่นั่งอยู่ขวามือของป๊อปปี้เอ่ยขึ้น เธอเป็นหญิงสาวรูปร่างโปร่งเพรียวบาง แต่งกายสวยเก๋ทะมัดทะแมง ผิวเนื้อเนียนละเอียด ลักยิ้มสองข้างแก้มเห็นได้ชัดเจนแม้ในขณะที่พูด
“ค่ะคุณเฟย์” แม่อุ่นยิ้มรับแล้วตักข้าวสวยร้อนๆ จากในโถลงในจานของเจ้านายแต่ละคน
“หวายขอน้ำส้ม เช้านี้ยังไม่อยากทานข้าว” เสียงเล็กๆ ของหญิงสาวอีกคนที่นั่งอยู่ด้านซ้ายมือของป๊อปปี้ ดังขึ้นทันควันอย่างคนเอาแต่ใจ เมื่อแม่อุ่นกำลังจะตักข้าวใส่จานให้กับเธอ ชายหนุ่มชำเลืองมองหญิงสาวผมยาวใบหน้าอิ่มที่แต่งแต้มเครื่องสำอางและเสื้อผ้าราคาแพง หวาย...ผู้หญิงอีกคนของคุณป๊อปผู้มั่งคั่ง
เฟย์หันมาสบตากับร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆ เธออย่างรู้กัน ฟางอมยิ้มแล้วก้มลงเขี่ยเม็ดข้าวในจาน มือนิ่มๆ ของเฟย์เอื้อมมาสะกิดขาเธอเบาๆ ก่อนที่เจ้าของมือจะเอนตัวเข้ามากระซิบข้างหู
“เช็คเรทติ้งแต่เช้าเลยยัยนี่” พูดจบหญิงสาวก็หัวเราะคิกคักจนคนฟังอดจะหลุดหัวเราะตามไม่ได้
“เอาน้ำส้มให้คุณหวายด้วยป้าอุ่น” ป๊อปปี้สั่งเรียบๆ ก่อนจะหันกลับมาพูดกับเฟย์
“ยัยเฟย์ พรุ่งนี้พี่จะไปดูงานที่โรงแรมเราที่หัวหิน จะไปด้วยกันมั้ย”
คนโดนถามทำตาโตอย่างตื่นเต้น วางช้อนส้อมลงแล้วลุกไปนั่งบนที่วางแขนเก้าอี้บุนวมหัวโต๊ะของป๊อปปี้ ก่อนจะเอนตัวลงเกาะแขนพี่ชายอย่างสนิทสนม
“ไปสิคะพี่ป๊อป!! เฟย์อยากไปทะเล...พี่ป๊อปใจดีที่สุดเลย ขอหอมหน่อย” พูดจบน้องสาวคนสวยก็หอมเข้าที่แก้มทั้งสองข้างของพี่ชาย ซึ่งเรียกรอยยิ้มจากใบหน้านิ่งๆ นั้นได้ทันที
“ฟาง...เดี๋ยวทานข้าวเสร็จขึ้นไปจัดกระเป๋านะ” ป๊อปปี้พูดพลางโอบเอวน้องสาวไว้หลวมๆ
ร่างบางเงยหน้าจากจานข้าวขึ้นมองสบตากับสายตาคมๆ คู่นั้น ก่อนจะพยักหน้ารับ
“ค่ะ...”
“แล้วหวายล่ะคะคุณป๊อป...หวายก็อยากไปทะเลนะคะ” เสียงแหลมๆ ของหญิงสาวคนสวยอีกคนที่กำลังรับน้ำส้มจากแม่บ้านถามขึ้น
“พี่ป๊อปไม่ได้ชวน คุณหวายก็อยู่บ้านสิคะ” เฟย์ยิ้มหวานจนตาปิดให้หวายอย่างกวนอารมณ์สองแขนยังโอบรอบคอพี่ชาย
“หวายอยากไปด้วยนะคะคุณป๊อป นะๆๆ” หญิงสาวไม่สนใจคำพูดของร่างโปร่ง ป๊อปปี้ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพยักหน้า
“ไปสิ...ตามใจ” ชายหนุ่มพยักหน้าอนุญาต หวายยิ้มออกทันที หญิงสาวหันไปยักคิ้วให้เฟย์และฟางอย่างเหนือชั้นก่อนจะค่อยๆ จิบน้ำส้มในแก้วอย่างวางท่า
“งั้นเฟย์ไม่ไปดีกว่า ท่าทางจะไม่สนุกแล้ว มีคนอื่นไปด้วยแบบนี้” เฟย์ขมวดคิ้วแล้วลุกขึ้นกลับไปนั่งที่ตัวเองอย่างขัดใจ
“ยัยเฟย์…” ป๊อปปี้ลากเสียงเป็นเชิงปราม แต่หญิงสาวยักไหล่และเตรียมจะตักข้าวเข้าปาก
“คุณเฟย์....” เสียงเรียกหวานๆ ดังขึ้นข้างตัว ร่างโปร่งหันไปมองก็พบกับสายตาวิงวอนจากดวงตากลมโต
“คุณเฟย์ไปเถอะ...ถ้าคุณเฟย์ไม่ไปแล้วฟางจะอยู่กับใครล่ะคะ” ฟางเขย่าแขนคุณเฟย์ของเธอเบาๆ สายตาอ้อนๆ นั้นทำให้ร่างโปร่งต้องใจอ่อนเสมอ
“อ่ะๆ...ไปก็ได้ ดีเหมือนกัน เฟย์ไปด้วย คนอื่น จะได้ไม่ต้องมาเกาะแกะวุ่นวายกับพี่ป๊อปให้มากนัก” หญิงสาวเน้นคำว่าคนอื่นก่อนจะปรายหางตาไปทางหวายอย่างจงใจ
คนโดนแขวะยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ การปะทะคารมกันเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างเวลาอาหารเป็นเรื่องปกติสำหรับคฤหาสน์หลังนี้ไปเสียแล้ว
.............................................................................................................................................
วันรุ่งขึ้น
รถตู้คันใหญ่แล่นออกจากความวุ่นวายในเมืองหลวงมุ่งหน้าสู่หัวหิน เมืองแห่งท้องทะเลอันเงียบสงบ ร่างบางในชุดเดรสแขนกุดยาวคลุมตาตุ่มสีสันสดใสเอนหลังพิงพนักเบาะอย่างสบายใจ ดวงตาคู่สวยมองทอดออกไปนอกหน้าต่างรถที่ติดฟิล์มสีเข้ม ที่เบาะหลังสุดนั้นหวายยึดเป็นที่วางของๆ เธอและนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์โดยไม่สนใจใคร
“เดี๋ยวไปถึงแล้วฟางไปพักผ่อนได้เลยนะ แต่อย่าออกไปข้างนอกคนเดียว ถ้าจะไปไหนให้ป้าอุ่นไปเป็นเพื่อน เดี๋ยวเย็นๆ ชั้นจะไปรับ” เสียงป๊อปปี้พูดขึ้นจากเบาะข้างตัว ฟางหันหน้ากลับมาแล้วยิ้ม
“ค่ะคุณป๊อป”
“เดี๋ยวไปถึงนะเฟย์จะไปสปา ฟางไปกับเฟย์มั้ย” เสียงสดใสของเฟย์ดังขึ้นจากเบาะอีกข้างของป๊อปปี้ หญิงสาวเอนศีรษะพิงไหล่พี่ชายอย่างสบายอารมณ์
“ฟางนอนเล่นก่อนดีกว่า คุณเฟย์ไปเถอะ...เดี๋ยวเย็นๆ ค่อยเจอกัน” ร่างบางชะโงกหน้าไปตอบ เฟย์เลิกคิ้วสูงเป็นเชิงรับรู้แล้วไม่ตอบอะไร
รถตู้แล่นเข้าสู่โรงแรมระดับห้าดาวในเครือบริษัทที่คุณป๊อปปี้เป็นหุ้นส่วนใหญ่ในตอนบ่าย พนักงานสาวแต่งกายด้วยชุดสีเหลืองทองออกมายืนต้อนรับเป็นแถวแล้วย่อตัวลงไหว้พร้อมกันเมื่อคนทั้งสี่ก้าวลงจากรถ ป๊อปปี้พยักหน้ารับ พนักงานยกกระเป๋าช่วยกันยกสัมภาระออกมาจากท้ายรถ
“หวายไปพักก่อนละกันนะคะคุณป๊อป...ตอนเย็นเจอกันค่ะ” หญิงสาวร่างเล็กใบหน้าอิ่มพูดเสียงสดใสแล้วก้าวฉับๆ ขึ้นบันไดหินอ่อนไปอย่างมั่นใจ รองเท้าส้นสูงกระทบพื้นดังก้องไปตลอดทาง...เฟย์เบะปากพลางทำท่าล้อเลียนเสียเหมือนก่อนจะหมุนตัวเตรียมออกเดิน
“เดี๋ยวยัยเฟย์” ป๊อปปี้เรียกขึ้นเมื่อเห็นน้องสาวทำท่าจะวิ่งตื๋อไปห้องสปาที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำด้านข้างของโรงแรมตามที่ได้พูดไว้
“ว่าไงคะ รีบนะเนี่ยๆ เฟย์อยากนวดแล้วพี่ป๊อป” หญิงสาวเอียงคอทำตาปริบๆ อย่างน่ารักก่อนจะเดินมากอดเอวพี่ชาย
“เขื่อน...ไปเป็นเพื่อนคุณเฟย์” ป๊อปปี้หันมาสั่งบอดี้การ์ดผมทองในชุดสูทข้างกาย
“ครับ” ชายหนุ่มรับคำแล้วก้าวออกมาก้มหัวให้เจ้านายสาว เฟย์ทำปากยื่นแต่ก็ออกเดินนำโดยมีเขื่อนเดินตามหลังไปห่างๆ ด้วยสีหน้าสงบนิ่ง มือขวาซ่อนอยู่ใต้สาบเสื้อสูทเช่นเคย
“ป้าอุ่นพาคุณฟางไปพักที่ห้องเถอะ แล้วเย็นๆ จะให้คนไปตาม” ป๊อปปี้หันมาพูดกับแม่บ้านเก่าแก่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ร่างบาง
“ค่ะคุณ” คุณอุ่นพยักหน้าแล้วแตะแขนนายสาว
ฟางส่งยิ้มให้ชายหนุ่มตรงหน้าก่อนจะออกเดินเข้าไปสู่ตัวอาคารใหญ่ด้วยท่าทางสง่างาม พนักงานโรงแรมพากันเหลียวมองตามอย่างชื่นชม ป๊อปปี้มองตามด้วยสายตาภาคภูมิใจ ภาพสาวน้อยตากลมอ่อนวัยผุดขึ้นมาในความทรงจำ สาวน้อยคนนั้นนั่งอยู่ในห้องรับแขก ดวงตาสองข้างมีน้ำตาคลอ ป๊อปปี้กะพริบตาไล่ภาพนั้นออกไป
“ดูแลคุณฟางดีๆ” ชายหนุ่มหันมาสั่งกับบอดี้การ์ดอีกสองคนเสียงเข้ม ก่อนจะขึ้นรถกอล์ฟสีขาวที่พนักงานโรงแรมขับเข้ามาเทียบไปพร้อมกับชายชุดดำที่ติดตามมาอีกหนึ่งคน
.....................................................................................................................................................................................
ภายในห้องชุดราคาแพงที่อยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม ภายในห้องมีทั้งห้องรับแขก ห้องนอน ห้องครัว และห้องน้ำ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นหุ้มด้วยกำมะหยี่สีแดงเข้ม เตียงนอนสี่เสามีม่านแพรบางเบาคุลมรอบด้าน ด้านหน้าเตียงคือโทรทัศน์ฝังผนัง และบนพื้นปูพรมขนสัตว์และหมอนอิงใบใหญ่หลายใบ ร่างบางถอดรองเท้าผ้าได้ก็ล้มตัวลงนอนทันที
“คุณฟางขา ไม่ล้างเนื้อล้างตัวซักหน่อยหรอคะ...นั่งรถมาตั้งไกล” แม่อุ่นที่เดินตามเข้ามาจัดแจงเอาเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าเดินทางมาแขวน
“.....”
“คุณฟางขา เรียกแล้วไม่ขานไม่น่ารักเลย” หญิงกลางคนแขวนเสื้อของเจ้านายไว้ในตู้เสื้อผ้าแล้วเดินมาชะโงกมองผ่านม่านแพรเข้าไป คุณฟางของเธอหลับไปแล้วทันทีที่หัวถึงหมอน
“เอ้า แล้วกัน! เอออ คุณฟางนะคุณฟางปล่อยให้อุ่นพูดคนเดียว” แม่อุ่นสายหน้ายิ้มๆ แล้วเดินออกไปเอนหลังอ่านหนังสือบนโซฟาในห้องรับแขก
การเดินทางไกลๆ กับวัยที่ล่วงเลยมาจนถึงกลางคนทำให้แม่บ้านคนเก่งเคลิ้มหลับไปแทบจะทันทีที่พลิกหน้าที่สอง ลมหายใจสม่ำเสมอดังเป็นจังหวะ ร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงเปิดเปลือกตาขึ้นก่อนจะเดินย่องออกมามอง
“โถถ แม่อุ่นของฟาง” หญิงสาวเอามือปิดปากพลางหัวเราะคิกๆ ก่อนจะรีบคว้าเสื้อผ้าในกระเป๋าสะพายวิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างเงียบกริบ
ห้านาทีต่อมาฟางก็ยืนยิ้มมองตัวเองในกระจก ร่างบางเปลี่ยนจากเดรสยาวสีสดมาเป็นกางเกงยีนสีซีดขาดๆ พอดีตัว และเสื้อเชิ้ตลายสก็อตตัวโคร่งกับรองเท้าผ้าใบ ผมยาวสีน้ำตาลทองขมวดเป็นมวยไว้ภายใต้หมวกแก๊ป ดวงตากลมโตหวานซึ้งซ่อนอยู่หลังแว่นกันแดดสีเข้มอันใหญ่
“เรื่องอะไรจะไปกับแม่อุ่น ฟางไปคนเดียวได้สบาย” หญิงสาวยิ้มให้ตัวเองอีกครั้งก่อนจะค่อยๆ ย่องผ่านห้องรับแขกแล้วเปิดประตูออกจากห้องไป
.....................................................................................................................................................................
ร่างบางกดลิฟท์ลงไปชั้นหนึ่ง เมื่อประตูลิฟท์เปิดออกหญิงสาวก็ต้องตกใจเมื่อเจอกับบอดี้การ์ดในชุดสูทสองคนหน้าตาคุ้นๆ ว่าจะเป็นคนของเธอเดินสวนเข้ามา หญิงสาวเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง พยายามทำท่าให้เหมือนผู้ชายที่สุดแล้วก้มหน้าก้มตาเดินผ่านไปอย่างรวดเร็วแต่ทว่า...
“เฮ้ยหนุ่ม!” เสียงเข้มๆ ของหนึ่งในสองคนนั้นดังขึ้น ฟางหัวใจหล่นวูบก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้า
“เงินหล่น”
บอดี้การ์ดคนหนึ่งหยิบธนบัตรใบละหนึ่งพันที่ตกอยู่บนพื้นส่งให้เธอ ฟางรีบยื่นมือไปรับแล้วหมุนตัวเดินจากไปทันที หัวใจที่หล่นวูบไปก่อนหน้านี้กลับเต้นแรงอีกครั้ง
“มารยาทดีฉิบหายเด็กสมัยนี้” ชายหนุ่มทั้งสองสบตากันอย่างเอือมระอาแล้วกดปุ่มปิดประตูลิฟท์
.......................................................................................................................................................................
ริมทะเลยามบ่ายแสงแดดยังคงร้อนแรง ชายหาดส่วนตัวของโรงแรมเงียบเหงาเพราะเป็นวันทำงาน นักท่องเที่ยวส่วนมากก็ยังไม่ลงมาเล่นน้ำ ร่างบางในชุดหนุ่มน้อยเดินทอดน่องมาตามชายหาดอย่างสบายใจ ลมแรงๆ พัดเอากลิ่นอายความเค็มของทะเลมาสัมผัสผิวหน้า ฟางถอดแว่นกันแดดออกเสียบไว้กับคอเสื้อแล้วหยีตามองผืนน้ำสีน้ำเงินที่ส่องประกายล้อแสงแดด หญิงสาวเดินไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมาย
“เฮ้ออออ...โล่งจังเลยยย” ร่างบางกางแขนออกกว้างแล้วสูดหายใจเข้าเต็มปอด แล้วหมุนตัวเป็นวงกลม
ตุบ!
แว่นกันแดดราคาแพงกระเด็นไปตกอยู่ที่พื้นทรายห่างออกไป ฟางหยุดหมุนตัวแล้วเดินไปก้มลงจะเก็บ แต่ยังไม่ทันที่จะสัมผัสก็มีมือหนึ่งคว้าแว่นขึ้นไปถือไว้ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองทันที
“แว่นสวยนี่ ของยี่ห้อซะด้วย” ผู้ชายท่าทางปอนๆ คนหนึ่งกำลังแกว่งแว่นกันแดดของเธออยู่ในมือ ในขณะที่อีกคนหนึ่งก็มองสำรวจการแต่งกายของเธอตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ป้ายยี่ห้อเสื้อผ้าทุกชิ้นของเธอแสดงราคาของตัวมันเองได้เป็นอย่างดี หญิงสาวเหลียวมองรอบตัวก็ได้รู้ว่าเธอเดินเลยเขตโรงแรมออกมาไกลโข ฟางตั้งท่าจะหันหลังกลับแต่ก็โดนคว้าแขนเอาไว้
“จะไปไหนไอ้หน้าหวาน...เอาเงินมาแบ่งกันใช้หน่อยไม่ได้หรอวะ” หนึ่งในผู้คุกคามถามด้วยน้ำเสียงยียวน
“ปล่อย!!” ร่างบางพยายามบิดข้อมือออกจากมือที่บีบเธอเหมือนคีมเหล็ก หัวใจของเธอหล่นวูบอีกครั้งเมื่อชายสองคนนั้นทำท่าจะค้นตัวเธอ
To be continue
สวัสดีค่ะรีดเดอร์ที่รัก
รู้สึกว่าช่วงนี้จะหายๆ ไปหลายคนเลย ที่บ้านยังโอเคกันอยู่มั้ยเอ่ย
ยังไงก็สู้ๆ นะคะ แล้ววิกฤติมันก็จะผ่านไป
ไรท์เตอร์ขอส่งบทที่ 2 ของ The sin มาเป็นเครื่องบันเทิงใจให้ทุกคนละกันนะคะ
เราจะได้อ่านและคิดถึงกัน
รักค่ะ ;)
ความคิดเห็น