ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทำนายรักgxbfxit9^sy;.0

    ลำดับตอนที่ #14 : กรุ๊ปเลือดกับการรับประทานอาหาร

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.พ. 50


    กรุ๊ป A

    คนที่เลือดกรุ๊ป A จะอ่อนไหวต่อโรคมะเร็งมากกว่า หมู่อื่นๆ เพราะฉะนั้นคนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้ จึงควรหมั่นไปตรวจสุขภาพร่าง กายอยู่เป็นประจำ สำหรับคนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้ เคยสังเกตตัวเองดูบ้างรึเปล่าว่า เวลาที่ดื่มนมเข้าไปบางครั้งอาจมีอาการแน่น ท้องอืดท้องเฟ้อ เรอเปรี้ยวขึ้นได้ เนื่องจากแอนติเจนที่อยู่ในเซลล์ของเลือดกรุ๊ป A จะทำปฏิกิริยากับนม ฉะนั้น อาหารสำคัญ อาทิ ข้าวสาลี เนื้อแดงไม่ติดมัน และการดื่มนม จึงควรหลีกเลี่ยงเป็นพิเศษ ส่วนอาหารที่ควรหันมารับประทานกันเพิ่มขึ้นก็คือ พวกผักใบ เขียว ใบเหลือง รวมทั้งธัญพืช และถั่วต่างๆ ยิ่งถ้าทานเข้าไปเยอะๆ ก็จะยิ่งมีประโยชน์มาก

     

    กรุ๊ป B

    พวกที่อยู่ในกลุ่มเลือดกรุ๊ป B ถือว่าเป็นเลือดที่ถือ กำเนิดขึ้นมาเป็นอันดับสามของมนุษย์ รับประทานอะไรจึงจะดี หมู่เลือดกรุ๊ป B ว่ากันว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคนเรารู้จักเลี้ยงสัตว์ ดังนั้นคนกลุ่มนี้จึงแฮปปี้อย่างมาก กับการดื่มนม และรับประทานผลิตภัณฑ์ที่ ทำจากนม โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าท้องไส้จะปั่นป่วน หรือท้องเฟ้อเรอเหม็น เปรี้ยว อย่างคนกรุ๊ปเลือด A นอกจากนี้ อาหารพวกเนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น กวาง แกะ หรือกระต่าย ก็ล้วนแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งนั้น แต่สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง คือ เนื้อไก่

     

    กรุ๊ป O

    กรุ๊ปเลือดนี้ถือว่าเป็นเลือดกรุ๊ปแรกของมนุษย์เราเลยก็ว่า ได้ ดังนั้นคนที่มีเลือดกรุ๊ป O จะมีสุขภาพแข็งแรงดีมาก เมื่อกินโปรทีนจากเนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น เป็ด ไก่ และปลา (ยกเว้นหมู) แล้วก็ออกกำลังกายหนักๆ เช่น เต้นแอโรบิก เนื่องจากว่าเมื่อ แสนปีที่แล้ว พวกมนุษย์หากินด้วยการล่าสัตว์ และเก็บผักบางชนิดกินบ้าง แต่ไม่มีการกินนมและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม คนที่มีเลือดกรุ๊ป O มีแนวโน้มที่ จะเป็นโรคแผลเน่าเปื่อย หรือเกิดการอักเสบได้ง่ายกว่าคนที่มีเลือดกรุ๊ปอื่นๆ อีกด้วย

     

    กรุ๊ป AB

    มาถึงเลือดกรุ๊ปสุดท้ายที่เกิดขึ้นในหมู่มนุษย์เรา คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้มีเพียงแค่ 2 เท่านั้นเอง จะมีลักษณะคล้ายๆ คนเลือดกรุ๊ป B คือ รับประทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ได้ แต่ก็มีจุดอ่อน คือ ระบบย่อย อาหาร มักจะมีกรดเกิดขึ้นมากในท้องส่วนล่าง หรือลำไส้ใหญ่ ดังนั้นข้อ แนะนำก็คือ ควรรับประทานเนื้อสัตว์ในปริมาณที่น้อยและอย่าบ่อยนัก อาจสังเกตุได้ง่ายๆ ถ้ามีอาการผิดปกติ คือ จะเรอบ่อย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×