ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : 'เป็ดน้อยของพี่'
ความวุ่นวายโกลาหนของสตูดิโอถ่ายภาพกำลังวุ่นวายกันเสียยกใหญ่ เพราะดันมีงานยักษ์เข้ามาทำให้วันนี้วุ่นวายสุดๆ ไม่มีใครว่างเลยแม้กระทั่งผมเอง ผมเดินไปทั่วสตูดิโอเพื่อหยิบจับส่งสิ่งของนู่นนี่นั่นเรียกได้ว่าปวดหัวสุดๆ ถึงจะไม่ได้จับกล้องแบบที่อยากทำแต่หน้าที่ของผมก็แทบไม่ได้นั่งเลย
"เขาบอกว่ามันยังไม่ได้น่ะครับ"
"จริงหรอ? ขอบใจจงแดมากนะที่เดินงานให้"
ผมยิ้มให้กับพี่คนสวยฝ่ายภาพศิลป์ประจำกองก่อนจะขอตัวเดินเลี่ยงมานั่งพักเมื่องานของตัวเองเสร็จ อ่าปวดขาจังนั่งสักพักคงไม่เป็นไรมั้ง ผมบีบๆนวดๆขาของตัวเองเรื่อยๆแต่สายตากลับโฟกัสไปยังคนที่ดูวุ่นที่สุดในกองวันนี้ คนที่รับหน้าที่สำคัญที่สุดของกอง
"มินซอกดูท่าจะต้องถ่ายใหม่แล้วล่ะทางฝ่ายนั้นดูท่าจะไม่ชอบ"
เสียงของพี่ผู้หญิงที่ไหว้วานผมให้เดินงานให้เอ่ยกับพี่มินซอกที่กำลังก้มหน้าก้มตากับกล้องตัวโปรด วันนี้ทั้งวันผมแทบจะไม่ได้คุยกับพี่เขาเลยเพราะงานที่รัดตัว ผมเองก็ไม่อยากกวนพี่เขาด้วย ยิ่งอายุเยอะอยู่ด้วยไม่รู้ปานนี้จะปวดขาหรือเมื่อยตัวเมื่อยไหล่หรือเปล่าก็ไม่รู้ สายตาผมยังคงจับจ้องคนเป็นพี่ที่ยังง่วนอยู่กับการถ่ายภาพ
แค่วันนี้ไม่ได้คุยผมก็รู้สึกแย่แล้วแต่วันนี้กลับเป็นกองถ่ายแบบของไอ้นายแบบตัวดำอีก บอกเลยเฟลสุดๆ ดูมันสิมีการส่งสายตาเล้าโลมพี่มินซอกซะด้วย เหอะอีกคนก็ไม่รู้อะไรเลยว่าโดนโลมเลียอยู่ รู้สึกขัดลูกหูลูกตามาก พี่มินซอกยังคงก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป จงอินเองก็ทำหน้าที่แต่ผิดตรงสายตาเวลามองกล้องนั่นแหละ มันก็หมายความว่าไอ้ดำนั่นมองพี่มินซอกแถมสบตาด้วย เหอะผมจะท่องไว้ว่างานแล้วทำไมผมต้องมานั่งอารมณ์เสียด้วยเนี่ย
"ว่างมากหรือไงวะจงแด"
ผมที่นั่งอารมณ์เสียอยู่คนเดียวก็ต้องดับลงเมื่อเสียงของชานยอลดังขึ้นข้างตัวพร้อมตัวมันเป็นๆที่แทบจะเหยียบตีนผม อะไรจะมายืนชิดขนาดนั้น แต่ชานยอลไม่ได้มาตัวเปล่ามาพร้อมแก้วกาแฟในมือทั้งสองข้างก่อนจะยื่นข้างนึงมาให้ผม ผมรับเอาแก้วกาแฟมาพร้อมกับดื่มและมองภาพตรงหน้าไปอย่างเบื่อหน่าย เหมือนชานยอลเองจะรู้ว่าผมมองเลยอะไรเลยหัวเราะหึๆในลำคอออกมา
"แล้วแบคฮยอนล่ะวะ?"
"ไม่ว่างหรอก ต้องไปช่วยเตรียมชุดให้ไอ้บ้านั่น"
"ก็ดีจะไม่ได้มาโดนอีกาจิกตามอง"
ทั้งผมและชานยอลหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเฝ้าสังเกตการไปเงียบๆ กองถ่ายยังคงวุ่นวายอยู่ถ้าผู้จ้างไม่พอใจแต่มันก็จบลงด้วยดี ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มแล้วทุกคนในกองต่างเอ่ยอำลาแยกกันไป จะว่าไปวันนี้ก็น่าเพลียมากเพราะตั้งแต่เช้าก็เริ่มกองกันแล้ว และกว่าจะเลิกก็เกือบเที่ยงคืน ผมแยกตัวจากแบคฮยอนและชานยอลก่อนจะเดินมาหน้าบริษัทเพียงคนเดียว แต่สายตาเจ้ากรรมดันไปเห็นคนสองคนเดินมาด้วยกัน คนสองคนที่จำหน้าได้ดี
'พี่มินซอกกับจงอิน'
ทั้งสองคนกำลังเดินมาที่หน้าบริษัทผมที่ยืนอยู่ก่อนเลยเดินไปแอบมุมมืดของกระถางต้นไม้ขนาดใหญ่ที่วางเรียงตามแนวกำแพงของบริษัท พยายามทำตัวให้กลมกลืนและเงียบที่สุดเพื่อฟังคนสองคนที่เดินคุยกันออกมา
"พี่มินซอกโชคร้ายจังเลยนะครับที่รถเสีย ผมเองวันนี้ก็มากับพี่เมเนฯเสียด้วย รู้อย่างนี้ผมน่าจะเอารถมาจะได้ไปส่งพี่มินซอกนะครับ"
"ชั่งมันเหอะเดี๋ยวพี่หาแท็กซี่กลับเองได้ เอ่อแล้วก็เรื่องเมื่ออาทิตย์ที่แล้วพี่ขอโทษแทนจง..."
"พี่มินซอก"
ผมเดินออกมาจากเงามืดก่อนจะเข้าไปคว้าแขนคนตัวเล็กพร้อมเอ่ยเรียก ออกแรงฉุดกระชากให้พี่มินซอกออกห่างจากไอ้มืดนี่ก่อนจะวางแขนบนไหล่ลาด จงอินมองผมตาเขม็งแต่ก็ไม่แสดงท่าทีอะไรหนำซ้ำมันกลับทำเหมือนผมไม่มีตัวตน มองเลยผ่านหัวผมไปคุยกับพี่มินซอกอีกครั้ง
"เอางี้มั้ยครับพี่มินซอก เดี๋ยวพี่เมเนฯผมก็จะมารับแล้วเรากลับด้วยกันนะเดี๋ยวผมแวะไปส่ง"
"เสือก!"
จบคำพูดของไอ้ดำผมก็สวนขึ้นทันที สายตาจากทั้งคู่หันมามองผมเป็นตาเดียว โดยเฉพาะพี่มินซอกที่ส่งสายตาดุๆมาให้ ผมจึงรีบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงข้างตัว ก้มมองโทรศัพท์ที่หน้าจอดำสนิทพร้อมกับบ่นลอยๆ "เสือก!...ไม่ยอมโทรมาซักทีวะชานยอล"
ผมเงยหน้าไปมองจงอินพร้อมกระแทกคำแรกใส่แล้วเปลี่ยนมามองโทรศัพท์ในประโยคหลังแทน และดูเหมือนคนที่อยู่ข้างๆผมจะไม่พอใจเพราะมือบางนั่นยกมาหยิกหลังผมเอาๆ ประนึงว่ามันเป็นเสื้อธรรมดาไม่มีเนื้อหนังสามัญ แสบนะครับบอกเลย พี่มินซอกละความสนใจจากผมก่อนจะหันไปมองจงอินและเตรียมที่จะเอ่ยตอบ แต่ไม่ทันผมที่เร็วกว่าเอามือตัวเองไปตะครุบปิดปากบางนั่นเสียก่อน
"พี่มินซอกจะกลับกับกูมีไรแมะ?"
"ใครจะกลับกับนาย พูดจาหยาบคายนะ!"
ผมเอ่ยตอบแทนพี่มินซอกแต่ก็ต้องยอมปล่อยปากบางให้เป็นอิสระเพราะพี่ท่านเล่นกัดมือผมเต็มๆคำ ผมจึงได้แต่ทำหน้าเจ็บปวดแบบไม่มีเสียงปล่อยให้พี่มินซอกมาด่าซ้ำเติม "งั้นผมไปส่งนะครับ"
รอยยิ้มกระชากใจส่งผ่านมาให้พี่มินซอกจนผมหมั่นไส้อยากจะเอามือไปรับรอยยิ้มนั่นมาแล้วปาลงพื้นพร้อมกับขยี้ๆๆ!!! คนตัวเล็กแสดงท่าทีอึกอักในการตอบแต่ก็เอายิ้มมากลบความรู้สึก ผมเลยคว้าเข้าที่ข้อมือบางและออกแรงลากให้พ้นๆไปจากตรงนั้น แต่ไม่วายหยุดเดินหันมามองมองจงอินพร้อมเหยียดยิ้ม
"คนเป็นแฟนกันเขาก็ต้องกลับด้วยกันสิต่อให้ต้องกลับรถเมล์พี่มินซอกก็ต้องกลับกับกูจำไว้!"
ว่าพร้อมเลื่อนสายตาตัวเองลงต่ำไปยังมือที่จับกันและเลยลงไปยังพวงกุญแจตุ๊กตาเป็ดสีเหลืองที่ห้อยคู่กันอยู่ที่กระเป๋ากล้องของพี่มินซอกและกระเป๋าสะพายข้างของผม แหมมันช่างเป็นภาพที่เหมาะจริงๆ สองกระเป๋าสะพายเข้าหากันพร้อมกับโชว์ตุ๊กตาที่ดูก็รู้ว่าทำคู่กันให้เห็น ผมละสายตาจากคนข้างหลังก่อนจะหันมากุมมือพี่มินซอกและเดินออกไปให้พ้นจากหน้าบริษัทด้วยกัน
ผมเดินลากพี่มินซอกมาจนถึงป้ายรถเมล์แถวบริษัทก่อนจะปล่อยมือคนข้างหลังให้เป็นอิสระ พี่มินซอกใช้มืออีกข้างจับเข้าที่ข้อมือที่ผมจับก่อนจะลูบมันเบาๆ ผมสังเกตุเห็นรอยแดงจากข้อมือนั่น นี่ผมโมโหจนออกแรงบีบไปขนาดนั้นเชียว พี่มินซอกเงียบไม่เอ่ยอะไรเพียงแค่ยืนมองถนนข้างหน้า กวาดสายตามองไปเรื่อยๆก่อนจะโบกมือเรียกแท็กซี่ที่กำลังมา
"พี่จะทำอะไร?"
"กลับบ้านสิโง่เปล่า?!"
"ผมไม่ได้โง่ งั้นก็ได้...แท็กซี่"
ผมตอบพี่มินซอกก่อนจะมองไปข้างหลังคนข้างหน้าและโบกมือเรียกรถแท็กซี่ที่กำลังขับมาใกล้ให้จอด รถแท็กซี่จอดเทียบกับฟุตบาท ผมเปิดประตูหลังพร้อมฝายมือให้พี่มินซอกขึ้นไปก่อน พี่มินซอกยอมขึ้นไปง่ายๆแต่พอผมจะเข้าไปนั่งพี่มินซอกก็ทำหน้าเลิกลั่กพร้อมกับดึงประตูรถให้ปิด ผมยื้อประตูรถไว้พร้อมย่นคิ้วให้กับคนในรถ
"นายจะทำอะไร?!"
"กลับบ้านไง"
"จะกลับก็ไปเรียกคันอื่นสิทำเหมือนบ้านฉันมัน..."
"มันห่างจากบ้านผมแค่ร้านกาแฟคั่น อย่าเล่นตัวน่าผมง่วงจะแย่แล้วเขยิบไปๆ"
ผมเอ่ยสวนพี่มินซอกทันทีที่เขากำลังจะบอกว่าบ้านผมและพี่เขามันไกลกัน ซึ่งผมว่าพี่มินซอกต้องสมองเลอะเลือนไม่ก็ความจำเสือมแน่ๆ ผมดันตัวเองเข้าเบียดพี่มินซอกให้เขยิบไปอีกฝั่งก่อนจะปิดประตูและบอกปลายทางให้คนขับรู้ รถแท็กซี่เคลื่อนออกไปตามท้องถนนปกติแต่ที่ไม่ปกติเป็นหน้าตาคนข้างๆมากกว่า หน้าบูดเป็นตูดลิงเชียว พี่มินซอกหันหน้าออกไปมองนอกกระจกรถฝั่งตัวเอง ยกมือขึ้นท้าวคางซึ่งมันเป็นข้างที่โดนผมจับ รอยแดงจากแรงบีบยังคงเด่นหลาให้เห็นถึงมันจะจางลงไปบ้าง
"ทำอะไร?"
คนนั่งข้างๆเอ่ยขึ้นทันทีที่มือผมเอื้อมไปจับมือข้างที่ท้าวคางอยู่ พี่มินซอกหันมาขืนตัวเองไว้ แต่ก็สู้แรงผมไม่ได้ ผมคว้าเอามือพี่เขามาดูรอยตรงข้อมือใกล้ๆ มันเป็นรอยมือเด่นชัดมาก ผมเป่าไปที่รอยนั่นเบาๆประหนึ่งว่าบรรเทาความเจ็บปวดให้กับเด็กตัวน้อยๆ พอข้อมือพี่เขาโดนลมเย็นจากปากผมก็รีบชักข้อมือกลับพร้อมกับใช้ข้างซ้ายมาผลักหัวผม
"ผมขอโทษนะ เจ็บมากมั้ย?"
"ทำไม? เป็นห่วงฉันหรอ"
ผมไม่ได้เอ่ยตอบพี่มินซอกแต่กลับไถลตัวลงไปกับเบาะรถพร้อมกับแบะปาก แต่แล้วจู่ๆมือของพี่มินซอกก็ยื่นมาจับเข้าที่ปากผม พร้อมกับใช้อีกข้างมาคว้าเอาพวงกุญแจตุ๊กตาเป็ดจากกระเป๋าผมไป รอยยิ้มสดใสกว่าที่เคยเห็นถูกส่งมาให้ ผมได้แต่เลิกคิ้วพร้อมมองมือทั้งสองข้างของพี่มินซอกที่จับปากผมและตุ๊กตาเป็ดไว้
"ดูสิๆเหมือนนายเลย เวลานายทำปากแบะๆนะเหมือนเป็ดมากๆ ต่อไปนี้ฉันเรียกนายว่าเป็ดดีกว่าน่ารักดีนะว่ามั้ย"
ผมสะบัดหน้าหนีเพื่อให้ปากเป็นอิสระก่อนจะคว้าเข้าที่ตุ๊กตาเป็ดแล้วเอามันมาเพ่งพิจารณาว่ามีความเหมือนผมตรงไหน พี่มินซอกยังไม่ยอมหยุดเล่นกับหน้าผม คร่าวนี้มือบางทั้งสองข้างยื่นมาดึงแก้มผมให้ยืดออก เพราะความเจ็บปวดมันจึงทำให้ผมต้องขมวดคิ้วพร้อมกับแบะปาก เสียงหัวเราะสดใสดังออกมาจากริมฝีปากบาง ผมปล่อยให้พี่มินซอกเล่นจนพอใจอยู่อย่างนั้น แต่แล้วก็ต้องปรับสีหน้าเพราะคำพูดของพี่มินซอกที่มันทำให้ผมไปไม่เป็น
"นายนี่มันเหมือนเป็ดชะมัด เป็ดน้อยของพี่ :) "
---------------------------------------
เริ่มจะหวานเกินหน้าเกินตาแล้วค่า 555555
แล้วแบบนี้ยังจะกัดกันต่อมั้ยหนอ??
#ficaction
@Cminor2199
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น