ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Photograph memory -8-
Photograph memory -8-
นิ้วแกร่งไล่ไปใบกระดาษเคลือบมันของปฏิทินตั้งโต๊ะ ใช้สายตาเหลือบมองสีของปากกาที่ถูกกาลงบนปฏิทิน ผ่านไปวันแล้ววันเล่า สัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า เดือนแล้วเดือนเล่า
สีของปากกาถูกกาลงด้วยผมเองผมเฝ้ามองดูปฏิทินไล่นับไปเรื่อยจนรู้ว่าเป็นเวลากว่าสามเดือนนับตั้งแต่ที่ผมได้เจอมินซอก สามเดือนที่ผมกับเขารู้จักกัน สามเดือนที่ผมกับเขาไปไหนมาไหนด้วยกัน สามเดือนที่ความสัมพันธ์ของเรา....
ก็ยังไม่คลืบหน้า -..-
ผมทิ้งหัวตัวเองลงกับโต๊ะเขียนหนังสือภายในหอของตัวเองอย่างแรง โขกกับโต๊ะอยู่อย่างนั้นไปมาก็มินซอกน่ะถึงจะยอมให้ถึงเนื้อถึงตัวแต่ก็ได้แค่จับมือหรือกอดมากสุดก็แอบเนียนหอมแต่ก็ไม่ยอมตกลงใช้คำว่าแฟนกับผมสักที คนตัวเล็กเอาแต่พูดว่า'มันเร็วเกินไป'
มันเร็วไปตรงไหนคร้าบ T[]T ถึงเราจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้นแต่มันไม่ทำให้เราใกล้กันเลยผมรู้สึกว่ามันมีอะไรที่ผมยังไม่รู้ ผมเงยหันหน้ามองโทรศัพท์ตัวเองเพราะจู่ๆมินซอกก็นัดผมไปเที่ยวเฉย
แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมให้ผมไปนั่งเฝ้าที่หอบอกแค่เสร็จแล้วจะโทรมา จุดนี้นี่แหละที่มันทำให้ผมสงสัยแค่ไปนั่งรอยังไม่ได้หรือหนทางความรักของผมมันจะหมดหวัง? รอไม่นานหลังจากที่ผมฟุ้งซ่านเสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นผมรีบคว้ามันขึ้นมาก่อนจะกดรับ
"ฮัลโหลมินซอกเหรอ?เสร็จแล้วใช่ไหมฉันออกไปเลยนะ"
เร็วดั่งแสงไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายเอ่ยอะไรผมพูดเองเอ่อเองเสร็จสรรพ ลุกจากโต๊ะเขียนหนังสือไปคว้ากุณแจจัดการล๊อคห้องให้เรียบร้อยกึ่งเดินกึ่งวิ่งเพื่อให้มาถึงรถให้เร็วที่สุด
ผมปลดล๊อครถแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งทันปิดประตูเช็คความพร้อมของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะสตารทรถออกไป ขับรถออกมายังถนนด้วยใจที่ชื่นบานถึงเราจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยแต่ช่วงนี้เราสองคนก็ไม่ได้ไปเพราะอีกฝ่ายไม่เคยจะว่างเพราะงั้นครั้งนี้ผมเลยไม่ปล่อยโอกาศให้หลุดไป
.
.
ใช้เวลาไม่นานผมก็มาถึงหอของมินซอกเรียบร้อย ใช้สายตากวาดมองไปทั่วบริเวณข้างล่างแต่ก็ไม่พบคนตัวเล็กของผม ผมดับเครื่องยนต์ก่อนลงจากรถเดินตรงไปยังบันไดของหอทันทีอาศัยว่าเคยมาทำงานที่ห้องไอ้เลย์มันเลยได้เดินเข้ามาง่ายๆแต่....
มินซอกอยู่ห้องไหนล่ะ?
ผมยกมือขึ้นมาเกาหัวตัวเองมองไปบรรยากาศของชั้นสองแหมวิวมันดีจริงเงียบสงบ ผมค่อยๆเดินถอนหลังหมายจะลงไปถามเจ้าของหอแต่เพราะผมไม่มีตาหลังเลยชนเข้ากับคนคนหนึ่งจังๆ
"โอ๊ะขอโทษครับ"
"โอย ขอโทษกูทำห่าไรเนี่ย"
ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใครผมถอนหายใจเซ็งๆหันไปมองเจ้าของเสียงกวนประสาทนั่นมีคนเดียวแหละครับที่ปากดีใส่ผมเก่งๆแบบนี้
"ไอ้เลย์ - -"
"เห็นเป็นมินซอกหรือไง"
เจริญเหอะมึงมันยืนยักคิ้วกวนประสาทใส่หน้าผมก่อนจะทำหน้าเหมือนนึกอะไรได้ "มึงมาทำอะไร?"
ผมยักไหล่ไม่ตอบมัน แต่มันก็อยู่หอนี่ผมถามมันก็คงได้ไปรับไปส่งแฟนผมขนาดนั้นมันคงรู้ว่าอยู่ไหนอีกอย่างผมไม่มีอะไรต้องปิดบังมัน
"มินซอกอยู่ห้องไหนวะ"
มันลอบยิ้มเจ้าเหล่ออกมาพยักหน้าเข้าใจก่อนจะชี้ไปยังห้องที่สี่ของชั้น ผมหันไปมองตามมันก่อนจะเดินไปตามที่มันบอกแต่ยังไม่ทันจะก้าวเดินก็ต้องหันกลับมาดีดหน้าผากมันที
"นั่นห้องลู่เก่อ...โอ๊ย!เจ็บนะเว๊ย"
"เลิกกวนตีนกูสักที"
มันยกมือขึ้นมาลูบบริเวณที่โดนดีดพร้อมยู่หน้าลง น่ารักตายล่ะมึงไม่ได้ครึ่งมินซอกเพราะฉะนั้นกูไม่สงสารครับ ยังไม่ทันที่จะได้เถียงกับมันอีกสักยกเจ้าของห้องที่สี่ก็เปิดประตูห้องออกมาพร้อมเสียงโวยวาย
"ย่าห์!! ออกไปเลยนะเฉิน!ซนมากัดรองเท้าฉันอีกแล้วอย่าหนีสิ"
ผมหันไปทางเสียงพอดีก็เห็นเจ้าลูกหมาบีเกิ้ลวิ่งมาหลบหลังผมและลู่หานก็วิ่งออกมาพร้อมเซฮุนแต่หน้าที่ผมนี่สิอย่างกับเจอผี
"ชิบหายแล้วตัวเอง"
เซฮุนรั้งแขนของลู่หานให้หยุดวิ่งก่อนจะกระซิบกันสองคนแต่มันก็ดังพอที่ผมจะได้ยิน เฉิน?งั้นเหรอ
ผมอุ้มเจ้าลูกหมาบีเกิ้ลขึ้นมาไว้กับตัวเองก่อนจะหันมองบุคคลทั้งสามคนที่ดูเหมือนจะกลายเป็นก้อนหินไปแล้ว เป็นจังหวะเดียวกันกับที่บานประตูห้องที่ห้าเปิดออกพร้อมร่างเเสนคุ้นเคย
"ลู่หานเห็นเฉินไหมไม่รู้ไปซนที่...ไหน...."
มินซอกเดินออกมาพร้อมตรงเข้ามาหาลู่หานแต่เมื่อดวงตากลมโตมองเห็นผมท้ายประโยคก็ดูติดขัดไปทันที "หาเจ้านี่อยู่หรือเปล่ามินซอก?"
ผมเดินไปหามินซอกพร้อมส่งเจ้าลูกหมาไปให้ มินซอกรับมาด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคลายไม่ออกบรรยากาศรอบๆดูกดดันไปทันทีแล้วก็เป็นเลย์ที่เอ่ยทำลาย
"เอ่อ...เออนั่นไงเฉิน...หลง แหมมินซอกเรียกชื่อหมาก็ให้มันเต็มๆสิ"
ทั้งลู่หานและเซฮุนหันมองไอ้เลย์เป็นตาเดียวก่อนจะยิ้มและหัวเราะเห็นด้วยกับประโยคของเลย์เมื่อกี๊ ผมจ้องมองคนตัวเล็กที่อุ้มเจ้าลู่หมาไว้มินซอกเงยหน้ามาพยักรับคำพูดของไอ้เลย์ก่อนจะเปลี่ยนประเด็น
"...จงแดมานานแล้วเหรอ?"
ผมพยักหนัารับอีกฝ่ายแล้วก็เป็นไอ้เลย์ที่เดินมาพร้อมแย่งเจ้าลูกหมาไปจากมินซอก "จะไปเที่ยวกันไม่ใช่เหรอไปสิเดี๋ยวฉันดูแลให้ไปๆ"
"มึงเป็นไรเนี่ยอยู่ๆก็มาไล่กู"
"ก็มึงจะไปเดทนี่กูก็ไม่อยากขวางเพื่อนรีบไปดิ"
ลู่หานพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะดันมินซอกให้เดินนำผมไปแล้วโบกมือเป็นเชิงให้ผมตามไป ผมหันตัวเดินตามมินซอกที่เดินไปทางบันไดแลเวแต่ตาก็ยังมองเจ้าลูกหมาบีเกิ้ลนั่นจนเดินลงบันไดไป
"ชิบแล้วเกือบซวยแล้วไหมล่ะ"
.
.
บรรยากาศในรถดูจะอึดอัดกว่าที่คิดเพราะคนตัวเล็กข้างๆผมเอาแต่นั่งหันหน้าไปนอกกระจกรถแล้วเงียบอย่างเดียว
"มินซอกจะไปไหนล่ะ?"
มินซอกหันมองผมอย่างเนื่อยๆพรางทำหน้านึกคิดก่อนจะเอ่ยออกมา
"ไปห้างก็ได้"
ผมพยักหน้ารับอีกฝ่ายคนตัวเองส่งยิ้มมาให้ก่อนจะหันไปาางกระจกรถอีกครั้ง ผมลอบมองอีกฝ่ายเป็นระยะแอบถอนหายใจกับคนข้างๆ มันเงียบเกินไป
"หมาตัวนั้น.."
คนตัวเล็กหน้ากลับมาอีกครั้งแต่ก็รีบหันหน้ากลับไปมองตรงยังเบื้องหน้าเมื่อดวงตากลมโตสบเข้ากับผมพอดี "ชื่อแปลกดีนะ"
มินซอกเลิกคิ้วเอียงหน้ามองผมเล็กน้อยจนผมต้องหลุดหัวเราะออกมา "มินซอกรู้ไหมฉันก็มีชื่อจีนนะ ชื่อเหมือนหมาของมินซอกเลยแต่ไม่มีหลง"
"ฉ..เฉินน่ะเหรอ" ผมพยักหน้ารับพร้อมยิ้มให้กับอีกฝ่าย มินซอกก้มหน้าลงเล็กน้อยยกมือขึ้นมาเกาแก้มแก้เก้อ "รู้ไหมถ้ามีคนบังเอิญตั้งชื่อหมาเหมือนชื่อฉันฉันว่ามันคงแปลกนะ"
"จงแดไม่ชอบเหรอ?"
ผมส่ายหน้าช้าๆก่อนจะละมือจากพวงมาลัยรถขัางหนึ่งแล้วเอื้อมไปลูบหัวของมินซอกเบาๆ คนตัวเล็กเอียงหัวให้หลบจากมือของผมก่อนจะส่งสายตาไม่พอใจมาให้
"ไม่หรอกแต่ถ้ามีนะฉันก็คงอยากจะรู้เหตุผลน่ะสิ มันตลกดีนะว่าไหม?"
"เขาก็..คงมีเหตุผลของเขามั้ง"
มินซอกเม้นริมฝีปากเข้าหากันเหมือนคนตัวเล็กตะเริ่มอยู่ไม่สุขมือบางเปิดลิ้นชักรถของผมหยิบนำแผ่นซีดีเพลงขึ้นมาดู "แต่ฉันว่านะ.."
"จงแดมีกล้องฟิลม์ด้วยเหรอ?"
ยังไม่ทันจบประโยคดีมินซอกก็เอ่ยขึ้นมาก่อนพร้อมเปลี่ยนประเด็นไปยังกล้องฟิลม์ของผมแทน ผมพยักหน้ารับมือบางหยิบมันขึ้นมาก่อนจะปิดลิ้นชักรถแล้วเอี้ยวตัวมาทางผมพร้อมยกกล้องขึ้นมาทำเป็นถ่าย
"กล้องของพ่อฉันเองแหละ"
มินซอกวางกล้องลงกับตักของตัวเองพร้อมทำปากลมๆเป็นเชิงเข้าใจ ผมหมุนพวงมาลัยเข้ามายังภายในลานจอดรถของห้างสรรสินค้าเลี้ยวรถเข้าไปยังบริเวณที่วาง จอดรถให้เรียบร้อยก่อนจะดับเครื่องยนต์
ผมเปิดประตูรถลงก่อนจะเดินไปเปิดให้กับคนตัวเล็ก มินซอกยิ้มขอบคุณให้กับผมก่อนที่มือบางจะเอื้อมมาคว้ามือของผมไว้ ผมก้มมองมือของอีกก่อนจะเงยหน้ามาเจอกับรอยยิ้มสดใส
ผมกระชับมือของเราให้แน่นก่อนจะเดินนำเพื่อให้มินซอกเดินตาม เราสองคนเดินมายังหน้าโรงหนัง ผมยืนมองโปรแกรมหนังต่างๆก่อนจะหันไปถามถามคนตัวเล็กข้างๆที่ดูจะคิดหนักกับการเลือกหนังสักเรื่องจริงๆ
"ดูเรื่องไหนล่ะ?"
"อืมมม เรื่องนั้น"
มินซอกใช้มืออีกข้างที่วางชี้ไปยังหนังรักเรื่องหนึ่ง ผมหันไปมองตามปลายนิ้วของอีกฝ่ายก่อนจะพยักหน้ารับจำใจก็เพราะหนังเรื่องนี้น่ะมันดูน้ำเน่ามากซึ่งผมไม่ชอบเอาสักเลย - -
"จงแดไม่อยากดูเหรอ? เปลี่ยนเรื่องก็ได้นะ"
ผมส่ายหน้าแต่สายตากลับเหลือบไปมองดูหนังเรื่องอื่นๆที่ขึ้นตามโปรแกรมของมัน คนตัวเล็กปล่อยมือจากผมแล้ววิ่งเยาะไปทางตู้ขายบัตรอัตโนมัติ ผมมองไปยังร่างเล็กที่ยื่นจิ้มๆบนหน้าจอของตู้ใช้เวลาไม่นานมินซอกก็กลับมาพร้อมบัตรสองใบ
"อ่ะ อีกตั้งนานแน่ะกว่าหนังจะเข้า"
ผมรับบัตรจากมินซอกเพ่งดูชื่อหนังที่ปรากฏ ผมว่าชื่อมันดูแปลกๆนะมันเหมือนชื่อหนังแอคชั่นมากกว่าหนังรักเสียอีก ผมเหลือบมองคนตรงหน้าสลับกับบัตรในมือมินซอกส่งยิ้มกว้างพร้อมยักคิ้วมาให้ผม
"อ่า เราไปเดินดูของกันเหอะนะ"
มินซอกว่าพร้อมเดินมาคล้องแขนผมแล้วซบใบหน้าลงกับไหล่กว้าง ผมเก็บบัตรลงกระเป๋าก่อนจะส่งยิ้มและพยักหน้ารับ ยกมือขึ้นมากกอดรอบเอวคอดแล้วออกแรงดันให้อีกคนเดินไป
"จงแดว่าสีไหนสวย?"
ผมมองปากสีที่อยู่ในมือของมินซอกทั้งสองข้างก่อนจะชี้ไปยังปากกาสีส้มที่อยู่ในมือขวาของมินซอก คนตัวเล็กวางปากกาอีกด้ามลงเหมือนเดิมก่อนจะหยิบสีใหม่ขึ้นมาเปรียบเทียบอีกครั้ง
"แต่ฉันว่าสีนี้เหมาะกับมินซอกดีนะ"
ผมหยิบปากกาสีชมพูขึ้นมาก่อนจะยื่นไปตรงหน้ามินซอก คนตัวเล็กยู่หน้าลงเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ
"ฉันไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อยถึงจะได้เหมาะกับสีชมพูน่ะ"
ผมหัวเราะออกมาเล็กพร้อมวางปากกาในมือลงเปลี่ยนเป็นหยิบเอาสีอื่นขึ้นมาดูแทน "ฉันก็แค่คิดว่าสีนี้มันเหมาะกับคนน่ารักแบบมินซอกนี่"
เป็นการเอ่ยกับตัวเองที่จงใจให้คนข้างๆได้ยิน มินซอกหยุดชะงักแล้วรีบก้มหน้าก่อนที่ใบหน้าน่ารักจะเริ่มขึ้นสีอ่อน
"บ้า"
เอ่ยเพียงเสียงแผ่วเบาแต่มันก็รอดหูผมให้ได้ยินจนต้องหลุดยิ้มออกมาแต่ จากยิ้มน้อยๆกลายเป็นยิ้มกว้างเมื่อคนตัวเล็กเดินไปเคาร์เตอร์เพื่อจ่ายตังแต่ในมือบกับมีปากกาสองสีที่ผมเลือก
เราสองคนเดินออกมาจากร้านเครื่องเขียนเดินดูของต่างๆไปเรื่อยๆจนถึงเวลาฉายหนัง ผมพามินซอกมาหยุดอยู่ตรงเคาร์เตอร์ขายอาหารเลือกป๊อปคอร์นขนาดกลางก่อนจะยื่นให้อีกคน
"ไม่เอาหรอกอ้วน"
"ตามใจนะ"
หนังแอคชั่นฉายอยู่บนจอภาพยนต์ ผมถือป๊อบคอร์นที่ซื้อมาจากหน้าโรงหนังโดยมีมือจากคนข้างๆหยิบไปกินอย่างไม่ขาด ไหนบอกว่าอ้วน -..-
"มันอ้วนไม่ใช่เหรอ?"
ผมก้มไปกระซิบกับอีกฝ่ายมินซอกส่งค้อนวงโตมาให้ผมใบหน้าน่ารักติดงอลเล็กน้อยแต่ก็หยิบป๊อบคอร์นไปกินอย่าไม่หยุดปาก "กินมั่งสิ"
มินซอกหันมาทางผมขมวดคิ้วเข้าหากัน มือบางยื่นมาดันหน้าของผมให้ออกห่างก่อนจะเอ็ดเบาๆ "เงียบหน่อยสิหนังกำลังสนุกนะ"
ผมจำใจหันหน้าไปมองจอภาพยนต์อีกครั้ง มือบางยังคงหยิบป๊อบคอร์นไปไม่หยุดผมเหลือบมองมือบางก่อนจะใช้มือของตัวเองจับมืออีกฝ่ายไว้ งับป๊อบคอร์นที่อยู่ในมือมินซอกเข้าปากหน้าตาเฉย
มินซอกชะงักกับการกระทำของผมใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อเมื่อผมเปลี่ยนจากจับมือบางเป็นกอบกุมประสานแทน "นี่ไม่ใช่หนังรักสักหน่อย"
มินซอกเอ่ยพร้อมยกมืออีกข้างที่วางมาเกาหัวของตัวเอง ผมยิ้มออกโดนละสายตาจากจอภาพยนต์ เอ่ยตอบคำถามของมินซอกลอยๆแต่ก็จริงจัง
"แค่อยู่กับมินซอกบรรยากาศรอบข้างมันก็โรแมนติกแล้ว"
----------------------------------------------------
งื๊ดคอมเมนต์คือกำลังใจ 555555555555
ขอบพระคุณที่หลงเข้ามาอ่านกันนะฮะ ฝากฟิคเรื่องนี้ไว้ด้วยเน้อ #cminorช่างกล้อง
ปล.ซีใหญ่ซีเล็กได้หมด 55555555555
----------------------------------------------------
งื๊ดคอมเมนต์คือกำลังใจ 555555555555
ขอบพระคุณที่หลงเข้ามาอ่านกันนะฮะ ฝากฟิคเรื่องนี้ไว้ด้วยเน้อ #cminorช่างกล้อง
ปล.ซีใหญ่ซีเล็กได้หมด 55555555555
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น