ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : 'ใจมันเต้น'
สามอาทิตย์กว่าแล้วที่ผมมาฝึกงานที่นี่ บางทีมันก็ดีแต่บางทีผมก็เริ่มรู้สึกว่ามันแปลกๆ ที่ว่าแปลกไม่พ้นใครที่ไหนก็พี่มินซอกเสียเองนี่แหละ หมู่นี้พี่เขาเริ่มจะหลบหน้าผมไม่พูดไม่จาเหมือนแต่เก่ามีเพียงแค่ถามคำตอบคำ พูดในสิ่งที่ควรจะพูดเท่านั้น
ตั้งแต่หายไปเมื่ออาทิตย์ก่อนกลับพี่จุนมยอนพอกลับมาก็เริ่มเปลี่ยนไปเลย เอาแต่มองแปลกๆหรือทำท่าทำทางว่าจะกลัวการที่ผมเข้าใกล้ แต่ชั่งเหอะมันตัวของพี่เขาเอง เราไม่สามารถรับรู้ถึงความคิดของใครได้อย่างแท้จริงหรอก
ผมเองก็ไม่ได้จะสนใจเท่าไรมากนักกับเรื่องแบบนี้ ปล่อยให้มันดำเนินของมันไปเหมือนเคยแต่ที่มันทำใหัรู้สึกโล่งๆก็คงเป็นการที่ไม่ได้แหย่พี่เขานั่นแหละ รู้สึกตะหงิดๆใจยังไงชอบกลพูดง่ายๆก็คิดถึงนั่นเอง ผมนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานภายในห้องของพี่มินซอกเท้าคางพรางถอนหายใจทิ้ง วันนี้เป็นวันประชุมใหญ่ของบริษัทพี่มินซอกไปประชุมตั้งแต่เช้ายังไม่กลับมาเลย
ผมเลยต้องมานั่งถอนหายใจเล่นอยู่ในห้องคนเดียวแบบนี้ อันที่จริงการรักษาระยะห่างของพี่เขามันก็ทำให้ผมเห็นด้านใหม่ของพี่มินซอก ด้านที่ดูเหมือนจะเป็นเด็กน้อยในคราบผู้ใหญ่ สุขุม นุ่มลึก ทำเอาผมเกร็งในบางครั้งที่เห็น ประตูห้องถูกเปิดออกโดยคนที่ผมบ่นถึง พี่มินซอกเดินเข้ามาในห้องเหลือบมองผมเล็กน้อยก่อนจะเดินไปทิ้งตัวกับเก้าอี้ที่โต๊ะ
ผมลุกจากโต๊ะของตัวเองคว้าเอาแก้วกาแฟที่ลงไปซื้อมาตอนพี่เขาไม่อยู่มาให้ พี่มินซอกรับเอาแก้วกาแฟไปแต่ไม่ได้ดื่มมัน กลับว่างไว้บนโต๊ะก่อนจะใช้นิ้วบีบไปที่หว่างคิ้ว ผมนั่งลงกับเก้าอี้ตรงข้ามพี่มินซอกมองการกระทำของพี่เขาเงียบๆจนพี่มินซอกหยุดทำและเหลือบสายตามามอง
"มองอะไร?"
"เหนื่อยมากเลยเหรอครับ?"
"ก็ประชุมใหญ่นี่"
ผมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะลุกจากเก้าอี้เดินอ้อมไปหลังเก้าอี้ของพี่มินซอก วางมือนวดไล่จากขมับไปถึงหว่างคิ้วให้พี่เขา ตอนแรกพี่มินซอกดูขัดขืนแต่ก็ยอมให้ผมนวดให้ดีๆ ผมนวดผ่อนคลายให้กับพี่มินซอกจนพี่เขาจับเข้าที่มือของผมให้หยุดลงก่อนจะหมุนเก้าอี้มาทางผม
"ทำแบบนี้ฉันไม่มีอะไรให้หรอกนะ"
ผมโบกมือปฏิเสธพี่มินซอกเดินกลับไปนั่งที่เดิมที่ลุกมา ส่งยิ้มที่คิดว่ากวนที่สุดให้พี่เขา สุดท้ายคนที่ตีหน้าเครียดก็ยอมคลายรอยยิ้มออกมา พี่มินซอกเอื้อมมือมาผลักหัวผม ผมยกมือไปจับเข้ากับมือที่กำลังถอยกลับ สบประสานดวงตากับพี่เขา รอยยิ้มที่ประดับอยู่ใบหน้ากลมค่อยๆลดลง นิ่งค้างอยู่ประมาณนาทีจนเป็นพี่มินซอกที่ถอนมือกลับมาเกาแก้มตัวเอง
"พี่คิดอะไรกับผมเปล่าเนี่ย?"
"บ้า!ฉันจะไปคิดอะไรกับนายสมองดีอยู่หรือเปล่าคนอย่างนายฉันไม่ชายตาไปมองให้ตาเสียหรอก"
พี่มินซอกพ่นคำด่าออกมาทันทีที่ผมพูดจบ หน้าพี่เขาตอนนี้ค่อยเหมือนกับวันที่เจอผมแรกๆขึ้นมาหน่อย ผมลุกจากเก้าอี้ก่อนจะเดินและเต้นไปด้วยกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง นั่งลงแต่ไม่วายส่งจูบไปให้พี่เขา พี่มินซอกก็เล่นกับผมด้วยการทำมือรับมาแล้วปาลงพื้นก่อนจะใช้เท้าขยี้ซ้ำ ผมมองภาพของเด็กอายุสามขวบที่กำลังเล่นอย่างสนุกสนานพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเอ่ยออกไปและเริ่มทำงาน
"เห็นพี่กลับมาเหมือนเดิมก็สบายใจแล้ว"
ถ้าเวลาคุณสนใจอะไรอย่างหนึ่งคุณจะทุ่มเทให้มันสักแค่ไหน? ผมเป็นคนหนึ่งที่ถ้าสนใจอะไรแล้วจะต้องรู้ให้ถึงที่สุด ลุยให้ถึงที่สุด มันเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียแต่ดูเหมือนกับผมแล้วมันก็แบ่งครึ่งได้พอดี ข้อดีของมันคือผมสนิทกับพี่มินซอกมากขึ้นแต่ข้อเสียของมันคือทำให้พี่เขาถอยห่างมากกว่าเดิม ระยะห่างของเราสองคนยังคงเว้นว่างไหวจุดหนึ่งของมัน เหมือนกำแพงตั้งสูงที่ไม่ทีใครใคร่จะสนใจหรือทำลายมัน
ถึงช่วงนี้ผมจะสนใจพี่มินซอกมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนแต่ก็ไม่ฟันธงว่าคำนั้นเรียกว่าอะไร ชอบ? หลง? รัก? ไม่มีคำไหนที่สามารถมาตีความหมายของผมได้แต่สิ่งที่บอกได้อย่างเดียวก็คงเป็นแค่คำว่า อยาก คำที่สุดแสนจะงี่เง่าแต่ก็ตรงกับความรู้สึกของผมตอนนี้มากที่สุด
เวลาพักเที่ยงของการทำงานมาเยือนวันนี้แบคฮยอนและชานยอนชวนผมมาห้างใกล้ๆบริษัทเพื่อหาอะไรลงท้องกัน ระหว่างเดินหาร้านไปผมก็เหมอลอยคิดไปพรางมีเพียงเสียงพูดคุยเล่นกันของแบคฮยอนและชานยอนที่ดังให้ได้ยิน ตอบรับบางในบางครั้งที่เพื่อนถาม แต่หัวมันกลับไปคิดถึงแต่เรื่องพี่มินซอกอยู่รำไป
"เฮ้ยๆนั่นมันจงอินนี่หว่า"
ผมรีบออกมาจากภวังค์ของตัวเองทันทีหันหน้าไปมองบุคคลที่ถูกเอ่ยถึงโดยชานยอล ที่ชานยอลรู้จักจงอินก็เพราะมันเคยมาตอแยแบคฮยอนเหมือนกัน ผมเลยแชร์ประสบการณ์ที่เจอกับชานยอล เราสองคนจับมือเห็นพ้องพร้อมกันว่าไม่ชอบหน้ามันเอาซะเลย ผมมองนายแบบหนุ่มที่เดินกับใครก็ไม่รู้แต่รูปร่างนั้นคุ้นตาผมเสียจริง
"ไหนๆ จริงด้วยเอ๊ะมากับพี่มินซอกนี่"
แบคฮยอนไขข้อข้องใจให้กับผม ผมจับตามองคนสองคนที่เดินเข้าไปในร้านอาหารแห่งหนึ่งของห้าง ก่อนจะยิ้มเหยียดออกมากับตัวเอง หันไปมองเพื่อนทั้งสองคนแต่เน้นสบตากับชานยอลให้เป็นอันรู้กันว่าจะทำอะไร และชานยอลเองก็ยิ้มไม่ต่างกัน ผมและชานยอลคว้าข้อมือของแบคฮยอนไว้ก่อนจะออกแรงลากให้ไปยังร้านเป้าหมาย หันมาเอ่ยพร้อมกับชานยอลให้แบคฮยอนได้คลายความสงสัย
"ได้ร้านกินข้าวแล้วล่ะแบคฮยอน"
พวกผมสามคนเดินตามเป้าหมายเข้ามาในร้าน สบตากับชานยอลให้เป็นอันรู้กันว่าต้องทำอะไร ผมเดินนำเข้าไปมองหาคนที่ผมตามเข้ามาแล้วก็เจอ จงอินและพี่มินซอกนั่งอยู่ริมในสุดของร้านซึ่งข้างๆก็มีโต๊ะว่างสำหรับพวกผมสามคนพอดี แกล้งเดินเข้าไปทำเป็นหาโต๊ะก่อนจะแสดงสีหน้าแปลกใจที่พบเจอสองคนนั้น
"อ้าวพี่มินซอก มากินข้าวหรอครับ?"
คนที่นั่งอยู่โต๊ะก่อนหน้าเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม พี่มินซอกพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะทำสีหน้ากระอักกระอวนเมื่อจงอินเองก็มองมาที่ผมเช่นเดียวกัน เหมือนจะเกิดสงครามย่อยๆระหว่างผมและไอ้นายแบบนี่ ไม่มีใครยอมลดละสายตามองภายนอกคงมองอย่างเป็นมิตรแต่ใครจะรู้ภายใต้ดวงตาใสซื่อนั่นมันจะเป็นน้ำมันที่กำลังราดกองเพลิงกองใหญ่อยู่
"อ้าวพี่มินซอกสวัสดีครับ บังเอิญจังเลยนะ"
ชานยอลเอ่ยทักทายพี่มินซอกพร้อมส่งยิ้มให้ก่อนจะหันมาเล่นครามสายตากับอินแบบผม จงอินเองก็ดูจะตกใจเล็กน้อยที่เห็นหน้าของชานยอลและแบคฮยอน "บังเอิญอะไรชานยอลก็เราตะ...อื้อ!"
ผมและชานยอลรีบเอามือปิดปากแบคฮยอนพร้อมกันก่อนผงกหัวขอตัวไปนั่งโต๊ะข้างๆรอพนักงานมาต้อนรับ ผมปล่อบให้สองคนที่นั่งโต๊ะข้างๆสั่งอาหารไป มองดูจงอินที่พยายามชวนพี่มินซอกคุยแต่ผลตอบรับมันไม่ดีอย่างที่คิด ผมใช้มือจับโต๊ะก่อนจะลากให้มาติดกับโต๊ะของพี่มินซอก เพราะโต๊ะที่พี่เขานั่งอยู่มันเป็นโต๊ะเล็กสำหรับสองคน มันเลยไม่แปลกที่ผมจะลากเอาโต๊ะที่ใหญ่กว่ามาเสริม
เอื้อมมือไปคว้าแบคฮยอนให้นั่งข้างพี่ซอกและลุกเดินอ้อมไปข้างจงอินก่อนจะเบียดให้มันลุกไปและนั่งแทนซึ่งมันคือตรงข้ามพี่มินซอก ชานยอลเองก็ลากเก้าอี้มาประกบข้างอีกด้านเลยกลายเป็นว่าจงอินนั่งกลางระหว่างผมและชานยอล พนักงานที่เดินมารับอาหารกำลังจะเอ่ยทักท้วง แต่ผมไม่ปล่อยไปหรอกนะ หันไปสบตากับชานยอลก่อนจะเอ่ยพร้อมกันและส่งยิ้มให้พนักงาน
"ขอต่อโต๊ะเพิ่มไม่ว่าอะไรนะครับ"
พนักงานสาวทำเพียงแค่พยักหน้ารับหน้าเจื้อน เอ่ยถามถึงเมนูอาหารที่ต้องการสั่ง พวกผมเลยจำต้องมองดูเมนูแต่สายผมก็เหลือบเป็นเห็นจงอินที่กำลังอ้าปากเอ่ยอะไรสักอย่าง ไม่ยอมหรอกรู้เลยว่าเป้าหมายของมันคือพี่มินซอก ข้ามหน้าข้ามตาไปละเฟ้ย ผมชิ่งเอ่ยตัดหน้าพร้อมยื่นมือไปแตะข้างแก้มให้พี่มินซอกที่กำลังสนใจจงอินหันมาสนใจผมแทน
"พี่มินซอกกินอะไรดีครับ?อันนี้ก็น่าอร่อยนะ"
ผมชี้เมนูอาหารให้พี่มินซอกดูพี่เขาเองก็ก้มมาสนใจเมนูที่ผมชี้ เหลียวสายตาไปมองจงอินก่อนจะยกยิ้มมุมปากไปให้ เมื่อสั่งอาหารที่อยากจะทานกันมาแล้วพนักสาวก็ขอตัวไป พี่มินซอกที่นั่งนิ่งไดัสักพักจู่ๆก็ลุกจากโต๊ะเตรียมจะเดินไป ผมเอื้อมมือไปคว้าแขนพี่เขาก่อนจะเอ่ยถาม
"พี่มินซอกจะไปไหนครับ?/พี่มินซอกจะไปไหนครับ?"
แต่นั้นผมก็รีบหันไปมองไอ้คนที่นั่งอยู่ข้างๆก่อนใคร จงอินมันเล่นพูดมาพร้อมผมอย่างนี้ก็สวยน่ะสิ พี่มือแกะมือผมออกจากแขนพี่เขาก่อนจะอมยิ้มขำๆและตอบกลับ "ไปห้องน้ำน่ะสิ ทำไมไปไม่ได้หรอ?"
ทั้งผมและจงอินไม่ได้เอ่ยอะไรต่อปล่อยให้พี่มินซอกเตรียมเดินไปห้องน้ำ ผมส่งสายตาไปมองแบคฮยอนก่อนจะเหลือบมองพี่มินซอก แบคฮยอนมองตามสายตาผมไปก่อนจะชี้เข้าที่ตัวเอง ผมพยักหน้ารับและส่งสายตาเชิงให้รีบลุกตามไป
"อ่า! พี่มินซอกครับผมไปด้วยคนสิ"
แบคฮยอนลุกตามพี่มินซอกก่อนจะเอ่ยยิ้มๆ พี่มินซอกยิ้มตอบพร้อมพยักหน้ารับ เมื่อทั้งสองคนเดินออกไปจากร้านก็เหลือเพียงพวกผมสองคนกับอีกหนึ่งเงามืด จงอินทำท่าจะลุกจากเก้าอี้ตามไปแต่ผมก็ไปปล่อยไปหรอก ทั้งผมและชานยอลเราใช้มือกดไหล่จงอินให้นั่งลงก่อนจะพาดแขนลงกับไหล่ของมันคนละข้าง
"เฮ้ย! จะไปไหน"
ชานยอลเอ่ยพร้อมส่งยิ้มแสยะไปให้จงอิน ไอ้นายแบบหนุ่มทำเพียงส่ายหน้าอย่างเอื้อมระอาจนผมนึกหมั่นไส้และชานยอลเองก็คงนึกไม่ต่างจากผมถึงได้ดีดนิ้วไปใบหูของมัน จงอินย่นคอก่อนจะจับเข้าตรงที่โดนดีด มองขวางไปยังชานยอลแต่ชานยอลเองก็ทำเป็นลอยหน้าลอยตา
นึกหมั่นไส้ขอเอาอีกคน ดีดไปเต็มแรงที่หูของจงอิน มือกว้างนั่นยกขึ้นมาจับตรงที่โดนดีดฝั่งผมก่อนจะถอนหายใจ ไอ้ขี้เก๊กนี่เตรียมจะลุกจากเก้าอี้อีกครั้งแต่ก็โดนแขนของผมและชานยอลกดไว้เหมือนเดิม มองมันด้วยสายตาที่เครียดแค้นเสียเต็มประดา ชานยอลเองก็ยิ้มกวนโทสะไปเรื่อยๆ จงอินทำท่าจะลุกอีกครั้งแต่ผลมันเหมือนเดิม
"เฮ้ยจะเอายังไงวะ?!"
มันเอ่ยเสียงที่ติดจะหงุดหงิดเท่าที่ผมมองดูจงอินมันคงจะโมโหไม่น้อย ผมทำหน้าที่ดูก็รู้ว่าแกล้งกลัวมันไปให้ซึ่งคงจะวอนตีนน่าดูเพราะจงอินมันลุกพรวดพร้อมกับกระชากคอเสื้อผม ผมจับที่มือมันหมายจะสวนมันก่อนแต่สายตาก็กลับเห็นพี่มินซอกและแบคฮยอนกำลังเดินเข้ามา ฮะๆระหว่างโดนผมต่อยกับพี่มินซอกเหวใส่จงอินมันคงจะเข็ดอันหลังมากกว่ามั้ง
"จงอิน!นายใจเย็นก่อนนะฉันกลัวแล้วอย่าทำอะไรฉันเลยฉันจะไม่ยุ่งกับพี่มินซอกแล้ว ขอร้องล่ะฉันกลัวแล้ว"
ผมเอ่ยด้วยเสียงที่ดังพอจะทำให้คนหน้าร้านได้ยิน ชานยอลตอนแรกดูจะแปลกใจกับการกระทำของแต่พอมองตามสายผมไปก็ร้องอ๋อเบาๆออกมา ชานยอลเดินมาทำท่าเหมือนห้ามจงอินไม่ให้ทำร้ายผม ผมยังคงส่งเสียงร้องหวาดกลัวออกไป พี่มินซอกที่ดูเหมือนจะเห็นเหตุการณ์แล้วก็รีบวิ่งมาที่โต๊ะพอดีกับที่พนักงานของร้านวิ่งมาดู
"คิมจงอิน!นายจะทำอะไร..ผมต้องขอโทษด้วยนะครับเชิญไปทำหน้าต่อเถอะครับ"
ท้ายประโยคพี่มินซอกหันไปกับพนักงานที่มาดูเหตุการณ์ เหล่าพนักงานพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนแยกย้าย จงอินปล่อยมือจากคอเสื้อของผมก่อนจะมองหน้าพี่มินซอกพร้อมส่ายหน้าปฏิเสธ ชานยอลผลักจงอินให้ออกไปจากผมก่อนจะเดินเข้ามาดูผมอย่างเป็นห่วงเป็นใย แต่ใครจะรู้ไอ้การกระทำที่แสนดีนี่มันก็แค่เรื่องตอแหลเท่านั้นแหละ
"จงอินฉันไม่คิดเลยนะว่านายจะเป็นคนแบบนี้จงแดทำผิดอะไรหรอ? นายมีอะไรก็พูดกันดีๆสิ"
ชานยอลเอ่ยพร้อมลูบผมของผมปลอบประโลมพร้อมเอ่ยเสียงสั่นเครือที่โคตรจะแสแสร้งสุดๆ พี่มินซอกถอนหายใจก่อนจะนั่งลงกับโต๊ะอาหารเหมือนเดิมทำให้ทุกคนต้องนั่งตาม พี่มินซอกแตะที่แขนแบคฮยอนก่อนจะเอ่ยกันสองคน แบคฮยอนพยักหน้ารับก่อนจะลุกจากที่นั่งตัวเองเดินอ้อมโต๊ะมาทางฝั่งพวกผม พี่มินซอกเอื้อมมือมาดึงแขนเสื้อของผมให้ลุกจากที่นั่งก่อนจะเอ่ยข้อสงสัย
"มีปัญหากันมานักก็แยกกันนั่ง จงแดมานั่งนี่"
ยิ้มหน้าบานสิครับแบบนี้มันคุ้มกว่าที่คิดไว้ซะอีก ผมนั่งลงแทนที่แบคฮยอนตอนที่นั่งแรกๆ แอบแลบลิ้นให้จงอินมันเจ็บใจเล่นๆ เพราะหน้ามันตอนนี้เหมือนหมาหงอยไม่มีผิด จงอินเลือกนั่งที่ชานยอลซึ่งมันตรงข้ามกับผม แบคฮยอนที่กำลังนั่งลงตรงกลางก็ถูกชานยอลดึงไว้และนั่งแทน ไม่นานนักชุดเนื้อย่างที่สั่งก็มาเสริฟ์พนักงานจัดแจ้งวางอาหารลงบนโต๊ะก่อนจะเดินจากไป แว้บแรกที่สบตากับไอ้เงามืดนี่ผมก็รู้ได้เลยสงครามมันยังไม่จบ ผมไม่ยอมไอ้ขี้เก๊กนี้หรอกค่อยดูเจอฤทธิ์ของผมไปวันนี้วันต่อไปมันจะไม่กล้ามายุ่งกับพี่มินซอกหรือคนใกล้ตัวผมอีกได้แน่
ชานยอลที่เริ่มเห็นสงครามย่อยของผมและจงอินก็ตัดปัญหาโดยเริ่มย่างบรรดาเนื้อและชวนพี่มินซอกหรือแบคฮยอนคุย ปล่อยให้ผมและจงอินเล่นสงครามประสาทจนพอใจ แต่ปัญหาก็คือตะเกียบของไอ้คนที่นั่งตรงข้ามผมมันคีบเนื้อที่กำลังสุกมาจานพี่มินซอก ผมหันไปส่งซิกกับชานยอลให้รู้ ตะเกียบของชานยอลคีบเข้าที่เนื้อจากตะเกียบจงอินและเอาเข้าปากไปหน้าตาเฉย
"อืมเนื้อกำลังอร่อยเลยนะ กินให้อร่อยล่ะ"
ชานยอลตบบ่าของจงอินก่อนจะสนใจกับเนื้อในกะทะย่าง จงอินมองชานยอลอย่างไม่พอใจแต่ไม่สนใจเช่นกันเลือกที่จะคีบอย่างอื่นให้กับพี่มินซอกแทน เหอะไม่ยอมหรอกเว้ย "พี่มินซอกคร้าบอยากกินอันนั้นจัง"
"นี่น่ะหรอ?"
พี่มินซอกหันมามองผมก่อนจะใช้ตะเกียบชี้ไปจานที่จงอินคีบอาหารมาให้ ผมพยักหน้ารับพร้อมยิ้มให้ พี่มินซอกคีบมาในจานผมแต่ก็แปลกใจเมื่อผมทำหน้าหงิกงอให้แทนก่อนจะเขี่ยทิ้งและงอแงใส่พี่มินซอก เขยิบเก้าอี้ไปใกล้มากขึ้นทิ้งหัวกับไหล่ของพี่เขาและใช้ตะเกียบชี้ไปยังในจานพี่มินซอก
"ไม่เอาๆจะกินในจานนี้" พี่มินซอกอ้าปากค้างแต่ก็ยอมคีบมาให้แต่โดยดีเมื่อเจอสายตาเว้าวอนของผม ผมเด้งตัวให้ตั้งตรงก่อนจะเบ้ปากอย่างขัดใจ "งืม ป้อนด้วยสิครับ"
พี่มินซอกยอมทำโดยดี ตะเกียบของพี่มินซอกจ่อที่ปากของผม พร้อมกับอ้าปากตัวเองและส่งเสียงว่าอ้ามประหนึ่งป้อนข้าวให้เด็กก็ไม่เชิง ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมพี่มินซอกถึงทำแบบนี้แต่มันก็เป็นผลดีเพราะไอ้เงามืดที่นั่งตรงข้ามนี่แทบจะหักตะเกียบตัวเองทิ้ง ผมอ้าปากรับมาอย่างสบายใจพร้อมทำหน้าพริ้วอารมณ์ก่อนจะส่งสายตาอย่างเหนือให้จงอินเห็น
ผมบอกแล้วว่านับตั้งแต่วันนี้มันจะไม่สามารถโผล่หน้ามาให้พี่มินซอกเห็นได้อีก นี่แค่น้ำจิ้มนะถ้าเจอของจริงขึ้นมาล่ะก็ หึหึ
'น่าดูแน่ไอ้ดำ!!'
--------------------------------------------------------------------------------
เราจะกลับมาอัพทีละสองตอนไปเลยนะแต่ไม่รู้จะทำได้นานเท่าไร 5555555555
สนุกกับคอนกันมั้ยคะเราก็ไปนะสนุกสุดยอดเลย
ไปคอนกลับมาอยู่บ้านเบื่อๆก็อ่านฟิคเรื่องนี้ฆ่าเวลาดีดีกว่าเนอะ 55555
รักนะคะ
#ficaction
@Cminor2199
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น