ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ten Song for ChenMin

    ลำดับตอนที่ #5 : นักเลงคีย์บอร์ด

    • อัปเดตล่าสุด 13 ม.ค. 58





















    นักเลงคีย์บอร์ด
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     'ตึ๊ง'
     


     
     'ตึ๊งๆๆ'
     


     
     เสียงเตือนข้อความจากโปรแกรมแชทดังต่อเนื่องจนผู้คนรอบข้างต้องหันมามองกันเป็นแถบ


     
     
     "แฮ่ๆ ขอโทษนะครับ"


     
     
     เสียงหวานต่ำเอ่ยขอโทษขอโพยเพื่อนร่วมงานในบริษัทที่หันมาทางตนก่อนที่มือบางจะหยิบเจ้าตัวต้นต่อมาไว้ในมือ


     
     
     นิ้วเรียวกดเข้าไปยังโปรแกรมแชทในโทรศัพท์ของตนเอง รอยยิ้มบางผุดประการขึ้นที่มุมปากบาง ดวงตากลมโตไล่อ่านข้อความถูกส่งมาอย่างเชื่องช้า
     



     
     ไม่รออะไรนิ้วเรียวก็กดตอบกลับไปทันทีก่อนที่จะยกโทรศัพท์ขึ้นมาและกดอัดบันทึกเสียงส่งไปยังอีกฝ่ายในโทรศัพท์


     
     
     "มินซอกก็คิดถึงเฉินเหมือนกันแหละน่า"
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     








     
     
     รอยยิ้มถูกวาดที่มุมปากกระจับมือกร้านพิมพ์ลงบนหน้าจอทัชสกรีนของโทรศัพท์เครื่องสวยก่อนจะเก็บลงกระเป๋ากางเกงของตัวเอง
     


     
     ขายาวก้าวเดินไปตามทางแต่รอยยิ้มยังคงไม่จางหาย ร่างสูงผอมเดินเข้ามายังภายในสตูดิโออัดเพลงของบริษัท รอยยิ้มบนใบหน้าคมสร้างความแปลกใจให้กับผู้คนที่อยู่ในห้องไม่น้อย


     
     
     "ตบตากูทีสิจงแดมันยิ้มเหรอวะ?"


     
     
     เสียงทุ้มต่ำจากเพื่อนสนิทของเขาเอ่ยอย่างล้อเลียนจงแดเปลี่ยนทิศทางจากทางตรงที่จะเดินไปยังเครื่องมิกซ์เสียงแล้วเดินไปหาเพื่อนของตนเองแทน


     
     
     "เดี๋ยวกูตบให้"
     


     
     มือกร้านจัดการตีลงบนใบหน้าหล่อของชานยอลเสียงหัวเราะดังระงมไปทั่วห้อง ก็ใครจะไปคิดล่ะว่าโปรดิวเซอร์เพลงสุดเนี๊ยบอย่างคิม จงแดน่ะจะยิ้มออกมาเวลาทำงาน
     


     
     "เออๆกูขอโทษคร้าบเมื่อไรจะเริ่มอัดเพลงสักที"


     
     
     ร่างสูงยักไหล่อย่างไม่แยแสก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้หน้ามิกซ์ ทุกคนในสตูดิโออัดเพลงประจำที่ทำหน้าที่ของตนอย่างแข็งขันจากบรรยากาศที่แสนครื้นเครงค่อยๆแปรเปลี่ยนไปตามสภาพงานเว้นแต่คนหนึ่งล่ะมั้ง 
     


     
    ที่ต่อให้งานเครียดแค่ไหนเจ้าตัวก็ยิ้มไม่คลาย
     
     
     
     
     
     
     
     
     






     
     
     ร่างผอมบางเดินโซซัดโซเซออกจากที่ทำงานในเวลาเกือบค่ำความเหนื่อยล้าจากการประชุมงานสามชั่วโมงติดไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยไหนจะงานที่ได้รับมอบหมายให้ทำ


     
     
     การเป็นครีเอทีฟนี่ไม่ง่ายเลยนะมินซอก


     
     
     'ติ๊ง'


     
     
     มือบางล้วงไปในกระเป๋าสะพานข้างของตนเองก่อนจะหยิบโทรศัพท์เครื่องสวยที่ส่งเสียงร้องเตือนจากโปรแกรมแชทขึ้นมา
     


     
    'ว่างหรือเปล่าครับ?'
     


     
     ข้อความโปรแกรมแชทจากคนคุ้นเคยทำให้ใบหน้านวลผุดประกายรอยยิ้มขึ้นมา นิ้วเรียวพิมพ์ตอบอีกคนไปโดยไม่ลังเล
     
     


    'ว่างแล้วล่ะเพิ่งประชุมเสร็จเหนื่อยมากๆเลยล่ะเฉิน :( '
     


     
     รอไม่นานเสียงเตือนข้อความก็ดังขึ้นอีกครั้ง ขาเรียวก้าวไปพร้อมกับพิมพ์ข้อความตอบอีกฝ่าย มินซอกเดินตรงไปยังร้านกาแฟเล็กๆที่อยู่ใกล้กับที่ทำงานของตนเอง
     



     
     เลือกสั่งกาแฟและเดินไปนั่งรอแต่ดวงตากลมโตยังคงจับจ้องที่หน้าจอโทรศัพท์ไม่ว่างตา
     


     
    Chen: นี่ก็เย็นแล้วทานอะไรหรือยังครับ?


     
     
     
     Minsok: ยังเลยว่าจะรอให้เฉินมาเลี้ยงอยู่ -3


     
     
     
     Chen: งั้นวันนี้มินซอกคงไม่ได้ทานอะไรแน่ๆเลย


     
     
     
     Minsok: เฉินอ่าอย่างนี้ตลอดนี่คุยกันมาตั้งนานแล้วนะเฉินไม่เคยส่งข้อความเสียงหรือมาเจอกันเลยนะ


     
     
     
     เงียบ มีเพียงสัญญาณที่ขึ้นมาอ่านแล้วจากอีกคน มินซอกนึกหวั่นในใจว่าตนเองพิมพ์อะไรที่ไม่เข้าตาอีกคนไหมดวงตากลมจ้องมองหน้าจอพร้อมอมลมเข้าแก้ม


     
     
     
     กาแฟถ้วยโปรดถูกพนักงานของร้านนำมาเสริฟให้ ส่งยิ้มขอบคุณให้พนักงานก่อนจะกลับมามองหน้าจอทันทีเป็นจังหวะเดียวกับที่ข้อความเข้า
     


     
     Chen: ดูหนังเรื่องที่เข้าใหม่หรือยังครับสนุกมาเลยนะผมไปดูมาแล้ว


     
     
     อีกแล้ว เฉินชอบเปลี่ยนเรื่องอีกทุกทีที่มินซอกพยายามจะชวนให้เขาทั้งสองออกมาเจอกัน ตั้งแต่อาทิตย์แรกที่คนแปลกหน้าทักมาคุยจนกลายเป็นคนสนิทเขาไม่เคยเห็นหน้าหรือแม้แต่ได้ยินเสียง
     


     
     รับรู้จากอีกฝ่ายว่าเป็นผู้ชายเพราะคำขานที่ลงท้ายว่าครับ แม้แต่รูปขึ้นโชว์ให้ดูก็ไม่มี
     


     
     Minsok: ยังเลยสนุกมากไหมฉันจะได้หาเวลาไปดู


     
     
     Chen: สนุกสิครับดึกแล้วนะไม่นอนเหรอปกติมินซอกไม่นอนดึกนี่?


     
     
     
     ดวงตากลมเหลือบมองตัวเลขที่บ่งบอกเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองก่อนจะคว้าแก้วกาแฟและลุกขึ้น มืออีกข้างก็กดพิมพ์ตอบอีกข้างก็ถือแก้วกาแฟ


     
     
     
     Minsok: กำลังเดินกลับบ้านน่ะ


     
     
     Chen: ระวังตัวด้วยนะครับดึกมากแล้วผมเป็นห่วง


     
     
     Minsok: รู้น่า -//-
     


     
     รอยยิ้มถูกแทนที่ความวิตกกังวลต่อให้เขาจะนึกน้อยใจยังไงคนคนนี้ก็สามารถหาเรื่องมาคุยให้เขาสบายใจได้เสมอ
     


     
     Chen: ฝันดีนะครับ คิดถึงมินซอกนะ :) ❤️
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     











     
     
     "จงแดวันนี้ไปคุมดนตรีในรายการแข่งให้หน่อยสิ"


     
     
     
     คิ้วหนาเลิกขึ้นสูงเมื่อชานยอลเดินมาหาที่โต๊ะทำงานของเขาพร้อมส่งใบตารางเวลาของรายการแสดงประกวดดนตรี มือกร้านรับใบกระดาษจากเพื่อนของเองมาไว้กับตัวแล้วพลิกดูคร่าวๆ


     
     
     
     "แล้วทำไมมึงไม่ไปเอง?"


     
     
     
     ชานยอลยักไหล่ตอบจงแดอย่างไม่แยแสก่อนจะทิ้งตัวนั่งบนโต๊ะทำงานของเพื่อนตัวเอง "กูมีอัดเพลงตอนบ่ายแล้วรายการนี้ก็เริ่มอัดบ่ายเหมือนกัน"


     
     
     
     มือหนาของชานยอลวางบนไหล่ลาดแล้วบีบๆก่อนที่เจ้าตัวจะลุกและเดินจากไป จงแดส่ายหัวให้กับเพื่อนที่ชอบรับงานมาเกินกำลังสุดท้ายก็มาโบ้ยให้กับเขาเสมอ



     
     
     'ติ๊ง'


     
     
     
     สายตาคมเหลือบมองโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะก่อนจะหยิบขึ้นมาและเปิดเข้าโปรแกรมพรันรอยยิ้มก็ผุดขึ้นมา
     


     
     Minsok: บ่ายนี้ต้องทำงานยาวไม่ว่างคุยแน่ๆเลยฉันคงขาดใจ ;(


     
     
     รอยยิ้มคมกว้างขึ้นเมื่ออ่านข้อความจากอีกฝ่ายก่อนจะเหลือบเห็นเวลาที่บ่งบอกว่าต้องไปทำงานแทนชานยอลแล้ว ร่างสูงเก็บเข้าของที่จำเป็นก่อนจะลุกขึ้นไปพร้อมรอยยิ้ม
     
     
     
     
     












     


     
     ร่างสูงเดินเข้ามายังภายในสตูดิโอเอ่ยทักทายผู้คนภายในห้องพรางตอบคำถามว่าทำไมตนถึงมาอยู่ที่นี่ได้


     
     
     "เฮ้พี่จงแด!!"
     



     
     เสียงทุ้มเอ่ยดังฟังชัดจากทางด้านหลังจงแดหันไปตามเสียงเรียกก่อนจะเจอกับรุ่นในคนสนิทอย่างเซฮุนที่กำลังวิ่งมาทางตนเอง
     


     
     "โผล่มาได้ไงเนี่ยพี่ปกติเห็นวันๆอุดอู้อยู่แต่ในห้องอัด"
     


     
     เสียงหัวเราะทุ้มต่ำหลุดออกมาจากกลีบปากกระจับก่อนจะว่างมือลงบนศีรษะของรุ่นน้องและขยี้เต็มมือ "พี่มาแทนชานยอลพอดีมันไม่ว่าง"


     
     
     เซฮุนพยักหน้าเข้าใจก่อนจะสะบัดศีรษะให้หลุดจากมือรุ่นพี่คนสนิทจัดแต่งทรงผมให้เข้าที่และเดินนำรุ่นพี่ของตนเองไปยังส่วนที่อัดรายการ


     
     
     พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตที่ไม่ได้เจอกันนานพรางสายตาคมก็เหลือบไปเห็นใครบางคนที่ยืนอยู่บนเวทีที่ใช้ประกวด จ้องมองจนคนเป็นน้องต้องมองตาม รอยยิ้มมีเลศนัยถูกส่งมาให้คนเป็นพี่ก่อนที่มือหนาจะตบลงบนบ่า
     
     
     "สนใจอะไรพี่ เวที แสงสีหรือครีเอทีฟรายการ?"
     
     
     ใบหน้าคมหันมามองรุ่นน้องของตนทันทีก่อนจะนิ้วไปยังร่างบางที่ยืนอยู่บนเวที ดูแล้วเจ้าตัวคงง่วนกับการดูแลความเรียบร้อยของรายการจนไม่ได้สนใจรอบข้างสักเท่าไร
     
     
     "ถ้าอยากรู้จักพี่มินซอกผมพาไปรู้จักได้นะ ผมกับพี่เขามักทำรายการด้วยกันบ่อยๆ"
     
     
     ไม่รู้ว่าจะอิจฉาหรืออย่างไรดีในเมื่อมินซอกน่ะเขารู้จักดีอยู่แล้วดีตั้งแต่ก่อนที่เซฮุนจะได้รับเลือกให้เข้ามาเป็นช่างกล้องของบริษัทค่ายเพลงที่เขาทำงานอยู่ซะอีก
     
     
     "ไม่ล่ะฉันรู้จักดีเว้ย เพื่อนร่วมมหาลัยฉันเอง"
     
     
     "โหยไรอ่ะ"
     
     
     เสียงหัวเราะขบขันสไตร์พี่น้องดังทั่วไปทั้งสตูดิโอเป็นเหตให้ครีเอทีฟของรายการต้องหันมามองต้นต่อของเสียง 
     
     
     ขาเรียวก้าวลงจากเวทีตรงมายังต้นเสียงก่อนจะเอ็ดคนเป็นรุ่นน้องจนลืมมองว่ามีอีกคนยืนอยู่ด้วย "เบาๆเป็นไหมเซฮุน? บอกเป็นครั้งที่ล้านแล้วนะ"
     
     
     เซฮุนยู่หน้าลงอย่างล้อเลียนคนตัวเล็กก่อนจะได้รับฝ่ามือที่ตีลงบนศีรษะเขาเข้าอย่างจัง "ไปเตรียมกล้อง"
     


     
     "คร้าบแม่ ไปนะพี่"
     


     
     ท้ายประโยคเอ่ยร่ำลากับรุ่นพี่ของตนร่างเล็กหันด้านข้างตัวช้าๆ ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อเห็นชัดๆว่าเป็นใคร "จงแดนี่"
     


     
     รอยยิ้มน่ารักถูกส่งมาทักทายจงแดยิ้มตอบรับอีกคนไปก่อนจะพยักหน้ายืนยันตัวตนของตนเอง ปากกระจับเตรียมที่เอ่ยทักทายเพื่อนร่วมมหาลัยแต่ยังไม่ทันที่เสียงจะถูกเปล่งออกมาเสียงเรียกคนตัวเล็กจากทางด้านหลังก็ดังขึ้นซะก่อน


     
     
     มินซอกหันมาโบกให้ร่างสูงก่อนจะวิ่งไปทางที่เรียกตน จงแดล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเข้าโปรแกรมแชท พิมพ์อยู่ไม่นานก็เก็บมันลงอย่างเดิมและเดินไปทำหน้าที่ของตนเองบ้าง


     
     
     คนตัวเล็กชี้แจ้งลำดับการถ่ายรายการและบอกคอนเซ็ปให้กับผู้ร่วมรายการก่อนที่จะรู้สึกถึงแรงสั่นจากกระเป๋ากางเกง มือบางหยิบโทรศัพท์ออกมาก่อนจะอ่านข้อความถูกส่งมา
     


     
     รอยยิ้มน่ารักฝุดขึ้นบนใบหน้านวลแก้มเนียนใสเริ่มแต้มสีแดงระเรื่อความเหนื่อยล้าจากการทำงานหายไปหมดสิ้นก่อนจะเก็บโทรศัพท์ไว้ดังเดิมและเริ่มทำงานพร้อมกำลังใจที่ล้นหลาม
     




     
    Chen: ตั้งใจทำงานนะครับคุณครีเอทีฟมินซอกผมเป็นกำลังใจให้ ❤️
     
     
     

































    ------------------------------------------------

    #CMนักเลงคีย์บอร์ด


    จุ้บๆ    <3










    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×