ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LOVE ACTION!!

    ลำดับตอนที่ #2 : 'ผมคิมจงแดครับ'

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 58














     
     
     
     
     
     
     
     







     
     
     
     
     
              ท้องฟ้าสดใสที่แสนเป็นใจกับการออกจากบ้านของผม อากาศสดชื่นในยามเช้าจนอยากจะสูดเข้าเต็มปอด ตึกสูงสิบสามชั้นตั้งเด่นสง่าอยู่เบื้องหน้าของผม ผมมองดูตึกตรงหน้าอย่างภาคภูมิใจแต่ถึงจะไม่มากเพราะมันบริษัทของลูกพี่ลูกน้องผมก็เหอะ
     
     
     
     
              ผมกระชับมือกับสายสะพายกระเป๋าข้างตัวเองก่อนจะจัดแต่งชุดให้เรียบร้อยเหมาะกับการฝึกงานครั้งแรกของตัวเอง เมื่อเช็คเรียบร้อยดีแล้วก็ออกก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ
     
     
     
     
                   'ปรี๊นนนน!!!'
     
     
     
     
              แต่ดูเหมือนโชคชะตาจะไม่เข้าใจในวันที่ท้องฟ้าเป็นใจแบบนี้ เพราะรถยนต์เจ้ากำนายเวรที่ไม่รู้จะรีบไปจองเวรจองกรรมที่ไหน เล่นบีบแตรรถเอาตอนที่ขาขวาของผมก้าวล้ำหน้ามาเพียงเล็กน้อย รถคันนั้นแล่นผ่านไปพร้อมน้ำขังที่อยู่ริมฟุตบาทฝั่งผมที่สาดเข้าเต็มเสื้อเชิ้ตสีขาวของผม
     
     
     
     
              ผมเอามือลูบหน้าให้น้ำเน่านั่นหายไปจากหน้าก่อนจะรีบมองตามรถยนต์คันเวรนั่นที่เลี้ยวเข้าไปจอดในใต้ถุนของบริษัท แว้บแรกที่เห็นคือเจ้าของรถลดกระจกลงและหันมามองอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะหายเข้าไปภายใต้ตัวตึก
     
     
     
     
              ผมไม่คิดเลยว่าคำกล่าวที่ว่าขวาร้ายซ้ายดีมันจะไม่ได้ส่งผลแค่ตาที่กระตุกแต่ยังรวมถึงเท้าด้วยอีกหน่อยก็เป็นแขนไม่ก็นิ้วล่ะมั้ง นี่แค่เริ่มฝึกงานวันแรกนะยังจะซวยขนาดนี้ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าหากยังคงฝึกงานที่ MY Productions ต่อไปชีวิตผมจะชิบหายบรรลัยแค่ไหนกันนะ
     
     
     
     
              ผมเดินตัวเปียกโชกไม่พอยังมีกลิ่นพิลึกเข้ามายังภายในบริษัท โดนประชาสัมพันธ์ของบริษัทมองด้วยสายตาสงสัยระคนแปลกใจ แต่ถามว่าผมแคร์ไหมคงตอบได้เต็มปากว่าไม่ ผมยืนรอประชาสัมพันธ์ที่กำลังยกหูโทรศัพท์ขึ้นต่อสายห่าเหวอะไรนักก็ไม่รู้ก่อนจะโดนมือของใครบางคนบีบเข้าที่ไหล่ขวา
     
     
     
     
                   "จงแด...จงแดใช่ไหม?"
     
     
     
     
              ผมหันไปตามเสียงข้างหลังก่อนจะเจอเข้าผู้ชายตัวผิวขาวที่แต่งตัวโคตรจะชิวกับผู้ชายตัวสูงผิวเข้มนิดหน่อยที่ใส่สูทเรียบร้อบผิดกับคนที่ทักผมลิบลับ ผมยิ้มตอบเจ้าของมือขาวที่ยังวางบนไหล่ผมไม่คลาย รอยยิ้มถูกส่งมาให้แค่เพียงครู่เดียวก่อนจะเป็นยิ้มเหยเกและชักมือกลับไปปิดจมูกของตัวเอง 
     
     
     
     
                   "อะไรกันพี่จุนมยอนแค่นี้ทำเป็นรังเกียด"
     
     
     
     
                   "ก็...ไม่อยากจะทำอย่างนั้นหรอกนะ...แต่ว่าเสื้อนายไปโดนอะไรมา?"
     
     
     
     
                   "โดนน้ำแร่มั้งพี่ก็เห็นอยู่ว่าเป็นน้ำเน่า"
     
     
     
     
              ผมตอบกลับไปยังคุณลูกพี่ลูกน้องขิงผมที่ยืนหัวเราะเหะๆอยู่ตรงหน้า พี่จุนมยอนหรือคิมจุนมยอนนักธุรกิจไฟแรงหัวกล้าแห่งวงการสื่อมัติมิเดีย ที่บอกว่าหัวกล้าคงเพราะอายุยังน้อยแถมยังปีกกล้าออกมาเปิดบริษัทของตัวเองจนมีชื่ออยู่ทุกวันนี้
     
     
     
     
              พี่จุนมยอนเป็นคนง่ายเช่นเดียวกับผมแต่ดูท่าจะง่ายกว่าเพราะการแต่งตัวที่ไม่สมกับเป็นประธานบริษัทเลยสักนิด พี่จุนมยอนเป็นคนปริปากชวนผมให้มาฝึกงานที่บริษัทของพี่เขาเมื่อรู้ว่าผมกำลังใกล้จะเรียนจบและต้องฝึกงานเพื่อเก็บหน่วยกิจในการจบ
     
     
     
     
               แถมพี่เขายังจะรับผมเข้าทำงานเลยเพราะผมมีฝีมือพอเตะตาพี่เขา แต่ถึงอย่างไรผมก็จะไม่ทำอย่างนั้น ผมเองก็ต้องการพิสูจน์ว่าผมมีฝีมือมีความสามารถในเรื่องที่เรียนมา ผมไม่อยากให้ใครมองว่าผมเป็นพวกลูกคุณหนูมีทุกอย่างรองรับ
     
     
     
     
               ซึ่งพี่จุนมยอนก็เห็นดีด้วยและพี่เขาก็เอาจริงอย่างแน่นอนเพราะนิสับแบบนี้ของพี่จุนมยอนนี่แหละที่ทำให้ผมสนิทกับพี่ แต่ผมก็รู้กาละเทศะนะว่าอะไรควรไม่ควร 
     
     
     
     
             ยิ่งจะมาฝึกงานด้วยแล้วผมก็รู้จักวางตัวในฐานะเด็กฝึกงานกับประธานแน่ๆ แต่คนที่ดูจะไม่รู้เห็นทีคงเป็นคนตรงหน้าผมเองนี่แหละ
     
     
     
     
                   "อ๋อเหรองั้นฉันวานจื่อเทาหาเสื้อให้จงแดเปลี่ยนด้วยนะเหม็นไปทั่วบริษัทแบบนี้มีหวังฉันต้องทนไม่ได้จนโดดงานแน่"
     
     
     
     
                   "ครับคุณจุนมยอน"
     
     
     
     
              พี่จุนมยอนหันไปสั่งกับผู้ชายที่ยืนอยู่ด้านหลังพี่เขา จื่อเทาหรือหวงจื่อเทา เลขาส่วนตั๊วส่วนตัวของพี่จุนมยอนทำไมถึงต้องเน้นคำว่าส่วนตัวน่ะเหรอ ก็สองคนนี้เป็นมากกว่าเจ้ากับลูกน้องน่ะสิข้อนี้ผมและคนที่บ้านรู้ดี แล้วก็รวมถึงพนักงานทุกคนในบริษัทเช่นกัน
     
     
     
     
              จื่อเทาเดินเข้ามาหาผมก่อนจะผายมือให้ผมเดินไปและเขากับพี่จุนมยอนก็เดินตามมาอีกที พวกเราเข้าไปในลิฟต์ก่อนที่นิ้วเรียวของจื่อเทาจะกดลงเลือกชั้นที่จะไป จื่อเทามีอายุเท่ากับพี่จุนมยอนผมเองก็เคารพเขาแต่ไม่ใคร่จะเรียกพี่และเขาเองก็ไม่ได้สนใจ
     
     
     
     
              ประตูลิฟต์เปิดเมื่อชั้นที่เป็นจุดหมายของเรา พี่จุนมยอนและจื่อเทาก้าวออกจากลิฟต์เดินนำผมไปตามทางเดินก่อนจะหยุดอยู่หน้าห้องๆหนึ่ง 
     
     
     
     
              ดูจากรอบตัวแล้วเดาได้ไม่อยากเลยว่าชั้นนี้มันคือชั้นของสตูดิโอเอาไว้ถ่ายแบบ จื่อเทาเดินเข้าไปยังในห้องนั้นตามพี่จุนมยอนที่ส่งสายตาเป็นเชิงให้รออยู่ตรงนี้
     
     
     
     
              รอไม่นานจื่อเทาก็เดินออกมาพร้อมเสื้อยืดสีขาวที่าน่าจะเข้าไปจากใยสตูฯนี้ที่มีการถ่ายอะไรอยู่สักอย่างเพราะตอนที่จื่อเทาเปิดประตูผมแอบดูแว้บๆ จื่อเทายื่นเสื้อมาให้ผมได้รับก่อนขะเป็นพี่จุนมยอนที่ชี้ติ้วไปยังห้องประตูไม้เล็กๆตรงหัวมุมทางเดินออกมาจากลิฟต์
     
     
     
     
              ผมเดินไปอย่างว่าง่ายก่อนจะบิดลูปบิดเปิดประตูและเดินเข้าไป กลิ่นอับภายในห้องสื่อให้ผมรู้ว่านี่คือห้องเก็บของ แต่ผมไม่ใคร่จะสนใจหรือคิดที่เปิดไฟด้วยซ้ำ แค่เปิดประตูเข้าไปเงียบๆและเอากระเป๋าสะพายข้างวางไว้ข้างตัวก่อนจะปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ดอย่างไม่รีบ
     
     
     
     
             แต่ปลดได้แค่สามเม็ดก็มีเสียงของคนสองที่คุยอย่างกระหนุงกระหนิงลอยมาจากด้านในสุดของมุมห้องเก็บของ ผมแอบเดินเข้าไปอย่างเงียบเชียบยิ่งเดินเข้าไปใกล้มากเท่าไรบทสนทนายิ่งดังให้ได้ยินชัดยิ่งขึ้น
     
     
     
     
                   "อ๊ะมินซอกอย่าแกล้งกันสิคะ"
     
     
     
     
                   "ก็ช่วยไม่ได้คุณสวยเกินห้ามใจนี่น่า"
     
     
     
     
              ผมเดินเลียงแอบไปกับกองกล่องที่สูงท่วมหัวก่อนจะแอบชะโงกหน้าไปมองภาพมืดๆ เสียงหยอกล้อยังคงดังให้ได้ยินไม่ขาดหูผมแอบมองดูเงาตะครุมสองเงาที่กำลังหยอกล้อกันในเชิงชู้สาวอย่างสนุกสนาน 
     
     
     
     
              ถึงจะอยากแค่ไหนแต่ก็ไม่ควรใช้ที่ทำงานนะผมว่า ถอนหายใจเบาๆกับพวกที่ไม่รู้เรื่องก่อนจะค่อยๆถอยออกไปแต่ตีนเจ้ากรรมดันไปแตะเข้ากับพวกแท่งเหล็กอะไรสักอย่างจนมันหล่นดังไปทั่ว ผมมองภาพตรงหน้าอย่างเว๋อก่อนจะหันไปมองสองเงาที่เริ่มผละออกจากกันและกำลังเดินมา
     
     
     
     
              เผ่นสิครับรออะไรพี่น้องผมสาวเท้าเกือบจะวิ่งไปคว้าเอากระเป๋าตัวเองและเปิดประตูวิ่งตรงไปหาพี่จุนมยอนและจื่อเทา พี่จุนมยอนมองหน้าผมก่อนจะรีบตะครุบเสื้อที่หมิ่นเหมของผมและติดกระดุมให้
     
     
     
     
                   "เป็นอะไรจงแดทำไมวิ่งออกมาสภาพนี้ล่ะ?"
     
     
     
     
                   "ก็ในห้องเก็บของน่ะในห้องเก็บห้องมี..."
     
     
     
     
                   "มีอะไรกันจุนมยอน?"
     
     
     
     
         
     

























    ------------------------------------


     มาแบบสั้นๆเหนือเฆมนะคะ 55555555555555
     ฝากฟิคเรื่องให่ไว้ด้วยเน้อ จุ๊บๆ


     #ficaction





     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×