ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : คนเหงาที่ไม่เคยเหงา
คนเหงาที่ไม่เคยเหงา
'ฝันดีนะมินซอก :) '
'ฝันดีนะครับพี่มินซอก'
'ฝันดีนะคะพี่มินซอก'
'ฝันดีนะน้องมินซอก'
ฝันดีพี่มินซอกกก >0< '
'ฝันดีคิมมินซอก'
ข้อความบอกฝันดีมากมายหลั่งไหลมาไม่หยุดเมื่อกดรีเซตหน้าจอ ผมไล่สายตามองไปตามข้อความจากผู้คนมากหน้าหลายตาที่ขยันพิมพ์ แต่ดูถ้าคนที่ขยันพิมพ์คงจะเป็นเจ้าของโซเชียวเสียมากกว่า ตอบทุกโพสต์ที่เห็น
จุดสีเขียวๆยังคงสว่างให้ได้เห็นสลับกับนาฬิกาบนหน้าจอโน้ตบุ๊ค 00.50 น. ดึกใช่เล่นแฮะแต่ดูยังไงก็ไม่มีผลอะไรกับเจ้าของโซเชียวที่ผมเฝ้าดูอยู่เลย ข้อความยังคงทยอยมาไม่ขาดสาย ผมตัดสินใจเลื่อนเมาส์ไปยังกล่องข้อความ คลิกลงไปให้ขึ้นเป็นสัญลักษณ์ของการพิมพ์
ผมก็คงเหมือนคนอื่นๆที่อยากจะบอกฝันดีกับเขาบ้าง นิ้วพิมพ์ไปตามสิ่งที่หัวสมองคิดแต่ก็ต้องลบและคลิกปิด ผมมองไปยังหน้าจอโน้ตบุ๊คที่แสดงภาพหน้าจอเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังยืนหันหลังและหันหน้ามายิ้มแย้มน่ารักท่ามกลางผู้คนมากมาย
มันเป็นภาพที่ผมถ่ายมากับมือเพราะความบังเอิญ บังเอิญกดชัดเตอร์โดนเขาคนนั้น บังเอิญหลงใหลใบหน้าน่ารักของเขา บังเอิญหลงรักเขาเสียแล้ว ผมจูบซับไปที่ระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลางของตัวเองก่อนจะยื่นไปแตะกับหน้าจอตรงบริเวณริมฝีปากของคนในรูป
"ฝันดีนะครับพี่มินซอก"
'ก๊อกๆ'
'ก๊อกๆๆ'
ผมแง้มประตูห้องของตัวเองออกเบาๆเพราะกลัวคนที่มาเคาะประตูยามเช้าตรู่จะรู้ตัว ถุงขนมและโจ้กร้อนๆมากมายถูกแขวนไว้บนลูกบิดประตูห้องข้างๆผม ผมยกถุงน้ำเต้าหู้ของตัวเองดูก่อนจะตัดสินใจถือมันไว้อย่างนั้น อุสาห์ตื่นตั้งแต่ตีสี่เกือบตีห้าไปซื้อมาสุดท้ายก็มาไม่ทันอยู่ดี
ประตูห้องข้างๆถูกเปิดออกพร้อมกับเจ้าของห้องที่มองไปยังลูกบิดประตูและเก็บบางส่วนจากพื้นหน้าห้อง รอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าน่ารักจนผมเคลิ้มไปกับรอยยิ้มนั่น อ่ายังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะพี่มินซอก ใช่ครับเจ้าของห้องข้างๆผมคือพี่มินซอกที่ผมแอบบอกฝันดีเมื่อคืน
ผมเพิ่งรู้ได้ไม่นานว่าจริงๆแล้วผมอยู่ห้องข้างๆพี่เขามานานแล้ว คงเพราะผมเป็นพวกเรียนภาคพิเศษส่วนพี่เขาเรียนภาคปกติเลยทำให้ไม่ค่อยเจอกันหรือเดินสวนกันเท่าไร ต่างคนต่างเก็บตัวแต่คนที่เก็บตัวมากกว่าเห็นทีคงจะเป็นผมมากกว่า
ผมเฝ้ามองคนห้องข้างๆจ้องมองทุกกริยาของเขา ไม่ว่าจะหยิบถุงอาหารหรือยืนอ่านกระดาษโพสต์อิทหรือยิ้ม น่ารักจริงๆพี่มินซอกเนี่ย ในระหว่างที่ผมกำลังเคลิ้มไปกับรอยยิ้มน่ารักนั่นอีกรอบ ดวงตากลมของพี่มินซอกก็มองมาที่ผมพอดี
ผมเสหน้ามองไปทางอื่นอย่างเลิกลั่กยืนเท้าประตูห้องทำเป็นไม่สนใจ แต่ดันพลาดท่าเพราะมือของผมมันดันลื่นจากลูกบิดประตูทำให้ผมล้มลงหน้าห้องและทุกเหตุการณ์มันถูกบันทึกด้วยสายตาของพี่มินซอก
'ชิบหายแล้วไอ้จงแดเอ้ย'
"หึๆ"
เสียงหัวเราะในลำคอทำให้ผมหันไปมองทั้งๆที่ยังคงนอนกับพื้น รอยยิ้มน่ารักถูกส่งมาให้ผมโดยตรงก่อนที่เจ้าของห้องจะเดินกลับเข้าไป เมื่อกี้พี่มินซอกยิ้มให้ผมใช่ไหมๆใครก็ได้มาตอบผมที T^T
"จงแดๆ!!"
เสียงทุ้มหวานเอ่ยข้างหูผมเสียงดังทำให้ผมต้องนิ่วหน้าและหันไปหาคนที่ตะโกน พี่ลู่หานญาติของผมมองผมก่อนจะดึงเข้าที่ใบหูและดึงมันลงอย่างแรง "โอ๊ย!เจ็บๆๆๆ เจ็บนะพี่ลู่ดึงหูผมทำไมเนี่ย?!"
"ก็หมาตัวไหนล่ะที่บอกให้ฉันมาติวให้น่ะแดดก็ร้อนน้องก็ไม่ตั้งใจเรียนมัวแต่ส่องเพื่อนชาวบ้านเขาอยู่ได้"
พี่ลู่หานว่าพร้อมทำน้ำเสียงประชดประชันและหันหน้าไปทางโต๊ะที่อยู่เยื้องๆกับโต๊ะที่ผมและพี่ลู่หานนั่งอยู่ และผมจะไม่มองเลยถ้าไม่ใช่พี่มินซอกและพี่ลู่หานจะไม่ประชดเลยถ้าพี่มินซอกไม่ใช่เพื่อนพี่ลู่หาน เพราะรู้ว่าพี่ลู่มีเรียนเมื่อชั่วโมงที่และว่างหนึ่งชั่วโมงแล้วมีเรียนต่อ
ผมเลยขอร้องญาติผู้ใจดีให้มาช่วยติว(ซะที่ไหน)ให้หน่อยและก็รู้ว่าสองคนนี้ตัวติดกันไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆเลยทำให้เป็นว่าเห็นพี่ลู่หานที่ไหนต้องเห็นพี่มินซอกที่นั่นและมันก็ใช่ "โถ่น้อยใจหรือยังไงผมตั้งใจเรียนจริงๆนะเนี่ย"
พี่ลู่หานยู่ปากใส่ผมก่อนจะส่งปึกชีทขนาดหนามาให้ผม พยักหน้าเป็นเชิงบอกให้หยิบมันมาดูซะ ผมจำใจหยิบชีทปึกหนามาก่อนเปิดดูสลับกับใบหน้าน่ารักของพี่มินซอกยามฟังเพลงและก้มอ่านหนังสือ ภาพนี้มันสวยและน่ารักมากๆในสายตาของผมเลยล่ะ
ผมเผลอยิ้มให้กับภาพตรงหน้าจนหลงลืมไปว่าในวันหยุดของผมแบบนี้ผมมาทำอะไรที่ตึกคณะของตัวเอง ผมแอบดีใจนะที่ตัวเองเรียนคณะเดียวกับพี่มินซอกและคงเสียใจที่เรียนคณะเดียวกับญาติของตัวเอง
'โป้ก!'
"โอ๊ย!มันเจ็บนะพี่ลู่มือหรือขาหน้าเนี่ยหนักชิบหาย"
พี่ลู่หานถลึงตาใส่ผมก่อนจะใช้มือฟาดเข้าหลายทีๆตามตัวของผมไม่พอยังหนำซ้ำยังหยิกผมอีกด้วย "ย่าห์!!ไอ้เด็กนี่ฉันเป็นพี่นายนะจงแดพอเลยๆมันน่าตีให้ตายจริงๆ!"
ผมหัวเราะให้กับท่าทางงอนเป็นเด็กของพี่ชายตัวเล็กจากเสียงโอดโอยก็กลายเป็นเสียงหัวเราะ จากภาพที่พี่น้องนั่งทะเลาะกันเลยกลายเป็นภาพพี่น้องหยอกกันเสียมากกว่า
"ลู่หานไปเรียนกันเหอะ"
และแล้วสงครามเล็กๆของผมกับพี่ลู่หานก็หยุดลงเพราะเสียงพี่มินซอก พี่ลู่หานหยุดตีผมและหันหน้าไปพยักรับพี่มินซอกก่อนจะเก็บของลงกระเป๋า พี่ลู่หานลุกจากโต๊ะไปไม่วายแลบลิ้นใส่ผมอีกด้วย ผมถอนหายใจกับพฤติกรรมของญาติตัวเองก่อนจะเผลอหันไปสบตากับพี่มินซอก
พี่มินซอกยิ้มน้อยให้ผมก่อนจะพาพี่ลู่หานเดินไปยังลิฟต์ของตัวอาคารและเดินเข้าลิฟต์ไป อ่าวันนี้ผมคงจะมีความสุขไปอีกนานเลยล่ะครับก็มินซอกน่ะเล่นยิ้มให้ตั้งสองรอบแน่ะ
บรรยากาศตอนเย็นในรั้วมหาลัยมันก็ไม่แย่เท่าไร ผมเดินเลียบทางจากฟุตบาทมายังสวนริมสระน้ำใจกลางมหาลัย นั่งลงกับม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ริมสระ ดื่มด่ำกับบรรยากาศของยามเย็นสายลมพัดเบาๆให้พอรู้สึก
ผมหลับตาลงซึมซับบรรยากาศไปเรื่อยๆจนกระทั่งมีมือของใครสักคนมาปิดบังดวงตาของผม ผมคลี่ยิ้มให้กับความขี้เล่นของคนข้างหลังก่อนจะวางมือตัวเองทาบลงกับมืออีกคน บีบเข้ากับมือนั้นก่อนจะเปลี่ยนเป็นจับและดึงมือของอีกคนให้ตัวของเขาเข้ามาใกล้ชิดยิ่งขึ้น
"งื้อ จงแดอ่ารู้ใช่ไหมเนี่ย"
น้ำเสียงติดจะน้อยใจเอ่ยขึ้นข้างหูผมมันเรียกรอยยิ้มของผมได้ไม่ยากเย็นนัก ผมหันไปฝังจมูกกับแก้มนิ่มๆของคนที่โน้มตัวมากอดผมจากทางด้านหลัง จับมือของอีกคนให้เดินมานั่งเคียงข้างกันก่อนจะโอบไหล่ไว้
"ผมรู้เสมอแหละครับว่าเป็นพี่มินซอก"
คนข้างตัวยิ้มให้ผมก่อนจะซบลงกับไหล่ของผม ผมอิงซบทับพี่มินซอกอีกทีสอดมือเข้าประสานกันกับมือบาง พี่มินซอกเอียงตัวเข้าหาผมเพื่อให้อยู่ในอ้อมกอดได้มากกว่าเดิม ผมจูบที่หน้าผากพี่เขาเบาๆก่อนจะอิงหัวซบ
"จงแด จงแดรักพี่ไหม?"
"ทำไมถึงถามแบบนี้ล่ะครับ?ผมก็ต้องรักพี่อยู่แล้วสิ"
จู่ๆคนข้างตัวก็ผละตัวออกจากอ้อมกอดของผมก่อนจะจ้องผมด้วยสายตาเป็นประกายพร้อมกับใบหน้าที่ติดจะงอนเล็กน้อยชวนให้ดูแล้วน่ารักจริงๆ ผมกอดไหล่พี่มินซอกให้แน่นขึ้นและบีบที่จมูกรั้นนั่นจนพี่มินซอกต้องยู่หน้าและผละออกห่าง
"จริงเหรอ? ถ้างั้น..."
พี่มินซอกทำตาโตดีใจก่อนจะเป็นฝ่ายเขยิบเข้ามาใกล้ผม ใบหน้าของพี่เขาเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ริมฝีปากบางระเรื่ออมชมพูนั่นเผยเล็กน้อยช่างเย้ายวนให้ผมลิ้มลอง แต่ก่อนที่จะได้ทำอย่างใจปราฏนาพี่มินซอกก็หยุดก่อนจะเอ่ยกระซิบออกมา
"ถ้างั้นก็รู้ใช่ไหมว่านี่มัน...สายแล้ว"
'สายแล้ว?!'
สายแล้ว...
สายแล้ว...
'กริ๊งงงงงง!!!'
ผมลืมตาขึ้นทันทีเมื่อโสตประสาทการรับรู้ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกที่แผดเสียงลั่นไปทั่วห้อง ผมรีบเด้งขึ้นจากที่นอนก่อนจะหยิบมันมาปิดอย่างทุลักทุเลก่อนจะดูเวลาที่ปรากฏบนหน้าปัด
'ชิบหายแล้วไอ้จงแดเอ้ยมีเรียนเช้าแต่เหลือเวลาแค่สิบห้านาที!'
'Rrrrrrrrrr'
ยังไม่ทันที่ผมจะได้ขยับตัวไปไหนเสียงโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือก็แผดเสียงดังลั่นไปทั่วห้องจนผมต้องรีบไปหยิบมาดู แต่ยังไม่ทันที่จะกดรับปรายสายก็ตัดใจเลิกโทรเข้ามาเสียก่อน ชิบหายร้อยสายผมจะไม่ตกใจเลยถ้ามันไม่มาจากพี่ลู่หาน
ชิบและเพิ่งนึกได้ว่าวันนี้พี่ลู่หานจะติดรถไปด้วยนี่น่า และสายแรกมันก็ถูกโทรมาตั้งแต่หกโมงเช้า ชิบหายหนักกว่าเก่าอีกไอ้แดเอ้ย แต่ยังไม่ทันที่ผมจะฟุ้งซ่านหนักกว่านี้โทรศัพท์ของผมก็มีสายเข้าเข้ามาอีกครั้งและมากจากคนเดิม
ผมทำใจกล้ากดรับสายไปกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอและค่อยๆยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู ยังไม่ต้องเอ่ยรับคนปรายสายเสียงดังลั่นก็แผดเข้ามาสู่โสตประสาทการได้ยินของผมเต็มๆจนต้องเอาโทรศัพท์ให้ห่างจากหู
"ย่าห์!!!!!!!! ไอ้เด็กบ้าคิมจงแดทำบ้าอะไรอยู่ห๊ะฉันโทรหาตั้งแต่หกโมงมารับสายทำบ้าอะไรตอนนี้!!!!!!!! สิบโมงมารับฉันด้วยถ้าไม่มาแกตายแน่!!! แล้วรีบๆออกจากคลาสเรียนให้มันเร็วๆด้วย!!!!!"
'ตู๊ดดๆๆ'
ผมโยนโทรศัพท์ลงกับเตียงก่อนจะแคะหูตัวเองเพราะรู้สึกมันอื้อหลังจากที่ได้ยินเสียงพี่ลู่หานที่พูดอยู่แต่ฝ่ายเดียว ผมไม่ผิดสักหน่อยแล้งอีกอย่างผมน่ะออกจากห้องเรียนเร็วจะตาย เดี๋ยวนะ...
'ห้องเรียนเหรอ?'
ชิบหายไอ้จงแดแกสายแล้ววววววววววววววว
---------------------------------------
กรุ๊งกริ๊งๆกลับมาอัพล่ะค่าหายไปนานตามแบบเมื่อก่อนเลย
5555555555 แต่เราสัญญาว่าจะมาอัพให้จบและเปิดเรื่องใหม่เร็วๆนี้แน่ค่ะ
เรื่องนี้จงแดดูเป็นผู้ชายขี้มโนจังเลยนะ 55555555555
จะมโนสำเร็จไหมต้องติดตามนะค้า
@cminor2199
#CMคนเหงาที่ไม่เคยเหงา
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น