ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Photograph memor -ส่งท้าย-
Photograph memor -ส่งท้าย-
'ปรี๊นๆ'
เสียงแตรรถดังขึ้นหน้าบ้านเดี่ยวสองชั้นขนาดกลาง ร่างเล็กกระทัดรัดที่งัวอยู่กับการจัดแต่งกระถางดอกไม้เล็กๆอยู่ในสวนย่อมหน้าบ้าน ใบหน้าหวานมีเหงื่อเล็กน้อยแต่ก็ยังประดับรอยยิ้มเอาไว้
ร่างเล็กลุกขึ้นเต็มความสูงก่อนจะเดินไปยังประตูรั้ว รถยนต์คันคุ้นตาจอดรออยู่หน้าประตูรั้วรอยยิ้มเล็กกวาดกว้างขึ้นมือบางเปิดล็อคประตูและเคลื่อนมันเปิดให้รถยนต์ขับเคลื่อนมาจอดยังโรงรถข้างตัวบ้าน
ร่างสูงที่แสนคุ้นตาลงมาจากรถเดินมาหาร่างเล็กที่ยืนรอก่อนที่ริมฝีปากหยักจะประทับบนหน้าผากมน มือกว้างปาดเม็ดเหงื่อให้ออกจากใบหน้าน่ารัก
"กลับมาเร็วจังไหนนอกจะกลับพรุ่งนี้เช้า"
"เผอิญมันมีปัญหานิดหน่อยน่ะเลยโดดกลับมาก่อน"
"ไม่ใช่คุณช่างภาพจงแดก่อเรื่องหรอกนะ?"
"พวกนางแบบต่างหาก อีกอย่างคิดถึงเมียด้วย"
"บ้าจงแดพูดอะไรเนี่ย"
มือบางตีลงบนอกผมก่อนจะหัวเราะชอบใจออกมา ผมโอบเอวบางแล้วพากันเดินไปยังสวนย่อมหน้าบ้านคนตัวเล็กเดินนำผมไปยังกระถามดอกไม้ที่วางเรียงรายกันอยู่
"ดูสิจงแด สวยไหม?"
ผมมองภาพตรงหน้าอย่างต้องมนต์ มินซอกยังคงเป็นมินซอกดูดีท่ามกลางแสงอาทิยต์รำ่ไร "สวยสิ"
คนตัวเล็กยิ้มร่าให้ผมก่อนจะย่อตัวลงและจัดการกับกระถางดอกไม้ให้เข้าที่เข้าทาง ผมเดินไปว่างกระเป๋ากล้องลงกับโต๊ะกลมกระจกข้างตัวบ้านก่อนจะเดินกลับมาช่วยมินซอกจัดแต่งสวน
"จงแดไปพักก็ได้นะ นอนมั่งไหมหืม?"
มือบางยื่นมาแตะลงเบาๆที่ข้างแก้มสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความห่วงใยถูกส่งผ่านดวงตาคู่งามนั่น พลันความเมื่อยเหนื่อยล้าจากการทำงานตลอดสามวันติดก็หายไป
"มินซอกต่างหาก สอนเสร็จแล้วเหรอบ้านเงียบจัง?"
ผมยกมือขึ้นลูบศีรษะมินซอกอย่างเบามือขยี้ให้หายหมั่นเขี้ยวก่อนจะหันไปมองรอบตัวบ้านที่ปกติจะมีเด็กต่างวัยมาเรียนภาษาจีนกับมินซอกที่บ้าน
"กลับหมดแล้ว"
พยักหน้ารับอีกคนก่อนจะขอตัวไปนั่งพักที่โต๊ะกระจกกลมข้างตัวบ้าน ทอดมองแผ่นหลังของคนตัวเล็กที่ดูจะมีความสุขกับการจัดแต่งสวนซะเหลือเกิน
พลันเรื่องราวในอดีตตลอดสองปีก็ลอยเข้ามาในหัวผม เรื่องราวที่ทั้งทุกข์และสุขล้วนเกิดกับคนตรงหน้าทั้งนั้น ผมยังจำได้ดีว่าหลังจากที่รับปฏิญาบัตรกันแล้วผมและมินซอกตกลงจะซื้อบ้านอยู่ด้วยกัน
ใช้ชีวิตธรรมดาไปด้วยกันสร้างสมความทรงจำที่มิอาจลืมได้ขึ้นมาอีกครั้ง ปรับทุกข์เปิดใจเข้าหากันมาขึ้นมันเป็นความทรงจำที่ผมไม่อาจลืมมันลงได้
เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์แผดร้องดังลั่น ผมล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะหยิบมันออกมาและกดรับสาย
"มีอะไร"
'พูดกับเพื่อนก็ให้มันเพราะหน่อยสิครับคุณเฉิน'
ผมยิ้มให้กับปรายสายเสียงกวนประสาทของเลย์ยังคงเหมือนเดิมต่อให้มันจะไปใช้ชีวิตที่จีนแล้วก็เหอะ เลย์ขยันโทรมาหาทั้งผมและชานยอลเสมอ
"ขอโทษครับคุณจางอี้ชิงแล้วคุณมีธุระอะไรครับ?"
ปรายสายสเสียงหัวเราะร่วนออกมาก่อนจะเอ่ยประชดผม 'โหยมีมารยาทขึ้นเยอะนะมึงอ่ะเมียสอนมาดีเหรอ?'
"เรื่องของกูครับเพื่อน ตกลงมีอะไรไม่งั้นจะวางแล้วนะ"
'แหมๆเออๆไม่เล่นแล้วแค่จะโทรมาจ้างงานหน่อย'
"จ้างงาน? มึงจะกูทำไม?"
เลย์หัวเราะออกมาอีกครั้งแลไปอยู่จีนแล้วจะอารมณ์ดีนะทีเมื่อก่อนเรียนล่ะทำไม่อยากกลับจีน มินซอกยืนขึ้นก่อนจะเดินตรงเข้ามานั่งข้างๆผมสืงสายตาเป็นเชิงถาม ผมเลยตอบปากลมๆไปว่าคนที่โทรมาคือเลย์
'ก็คนมันไม่พอนี่เว๊ยจะเอาตังค์ไหม? กูมีจัดฟรีเวดดิ้งที่เกาหลีน่ะ'
"งานแต่งมึงกับพี่คริสเหรอ 5555"
เอ่ยแซวมันก่อนจะได้เสียงบ่นตามมาคุยตกลงกับเลย์เรื่องงานก็พาไปเรื่องส่วนตัวที่ถามไถ่ถึงกันได้ไม่นานก็วางสาย คนตัวเล็กส่งสายตาสงสัยมายังผมไม่ต้องบอกกล่าวอะไรก็รู้ว่าเจ้าตัวอยากรู้แค่ไหน
"เลย์โทรมาชวนไปถ่ายรูปเวดดิ้งน่ะ"
"ของใครล่ะ?" มินซอกพยักหน้ารับพรางเอ่ยถามผม ผมยิ้มออกมาให้กับความใสซื่อของคนตรงหน้าก่อนจะเอ่ยตอบ
"ลูกค้ามันแหละ ชานยอลกับเซฮุนก็มานะ"
มินซอกตาลุกวาวทันทีคงจะคิดถึงเพื่อนตัวเองเหมือนกันสินะ คนตัวเล็กยิ้มกว้างก่อนจะเคลื่อนเก้าอี้มาใกล้และเกาะเเขนผมไว้พรางซบหน้าลงกับไหล่อย่างออดอ้อน
"ไปด้วยนะ น้า~ คิดถึงลู่หานกับแบคฮยอน"
ผมยิ้มหัวเราะออกมาก่อนจะใช้นิ้วมือตัวเองจิ้มลงบนจมูกรั้นและบีบเบาๆ "รู้ได้ไงว่าสองคนนั้นจะมาหืม?"
"งือ ถ้าสองคนนั้นมายังไงเพื่อนฉันอีกสองคนก็ต้องมา"
ว่าอย่างมันใจก่อนจะเชิดหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยัน ผมยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้คนอวดดีรับรู้ถึงลมหายใจและแววตาประหม่าของคนตัวเล็ก ใกล้เข้าไปอีกใกล้จนจมูกสัมผัสกันเพียงแผ่วเบา
"โฮ่งๆ"
ก่อนที่ผมและมินซอกจะเข้าสู่โหมดโรแมนติกเสียงเห่าของเจ้าเฉินหมาบีเกิ้ลที่มินซอกเลี้ยงไว้ก็วิ่งตรงมายังโต๊ะที่พวกผมนั่งอยู่ก่อนมันจะกระโจนใส่ผมเต็มๆ
"แกนี่มันขัดฉันตั้งแต่เด็กจริงๆนะ"
ผมอุ้มมันขึ้นมานั่งบนตักและลูบหัวมัน มินซอกหัวเราะชอบใจกลบเกลื่อนใบหน้าที่ขึ้นสี อดนึกอยากจะแกล้งอีกคนไม่ได้จึงเคลื่อนใบหน้าไปชิดริมหูอีกฝ่ายก่อนจะกระซิบและพ่นลมหายใจให้เบารดรินใบหูขาวนั่นให้เสียวเล่น
"ไม่ต้องห่วงนะยังไงคืนนี้ก็โดนแน่ๆ"
ใบหน้าที่ขึ้นสีอยู่แล้วยิ่งชัดขึ้นเมื่อผมเอ่ยจบมือบางยกขึ้นมาตบหน้าผมเบาๆ ส่งเสียงหัวเราะชอบใจให้กันก่อนที่ผมจะอุ้มเจ้าเฉินและยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนจะเดินไปรถของตัวเอง พยักหน้าให้อีกคนได้เดินมาหา
"จงแดจะไปไหนเหรอ?"
"พาเฉินไปเดินเล่นกันเถอะ"
บรรยากาศของสวนสาธารณะข้างมหาลัยยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนสายลม แสงแดด ไม่มีสิ่งใดที่เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้กระทั่งความรู้สึกที่มีต่อคนตัวเล็ก
ผมนั่งอยู่ริมสระน้ำของสวนปล่อยให้มินซอกและเจ้าเฉินเล่นกันอย่างหนำใจ มินซอกเดินมาและทิ้งตัวนั่งลงข้างผมใบหน้าน่ารักขึ้นสีและมีเม็ดเหงื่อประปรายบอกให้รับรู้ได้ว่าคงจะเหนื่อยมาก
"ไม่ได้ที่นี่ซะนานเลยเนอะ"
ผมยิ้มตอบและส่งน้ำให้กับคนตัวเล็ก มินซอกรับน้ำจากผมไปก่อนจะเปิดและดื่มพรางสายตาก็จับจ้องไปยังบรรยากาศรอบๆสวน
"คิดถึงวันแรกทีเจอกันจริงๆ"
ใบหน้าน่ารักหันมาทางผมก่อนจะได้ยกยิ้มเมื่อนึกออกถึงเหตการณ์ในตอนนั้น "เฮ้อ เบื่อจริงๆเลย"
ผมทิ้งตัวลงนอนไปกับพื้นหญ้าทอดมองท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้ม มินซอกเคลื่อนดวงหน้ามาบดบังทิวทัศน์คิ้วสวยขมวดเขัาหากันก่อนจะเอ่ยถาม
"เบื่ออะไรล่ะ?"
ผมแค่นยิ้มให้อีกคนเห็นก่อนก่อนจะยกมือขึ้นไปแตะข้างแก้มเนียนนั่น "เบื่อที่ต้องถ่ายเวดดิ้งของคนอื่นไง อยากถ่ายของตัวเองบ้าง"
คิ้วสวยยิ่งขมวดเข้าหากันไปใหญ่ก่อนที่จะคลายและเปลี่ยนสีหน้าเป็นเคอะเขิน "จงแดพูดแบบนี้...ม..หมายความว่า..."
ผมยิ้มให้กับกับอากัปกิริยาของอีกคนก่อนจะลุกและเท้าข้อศอกไว้กับพื้น ใช้นิ้วโป้งเกลียไปมาบนพวงแก้มนุ่น
"ก็หมายความว่า..เราแต่งงานกันเถอะมินซอก"
มินซอกเบิกตากว้างอ้าปากค้างก่อนจะเม้นริมฝีปากเข้าหากันแน่นใบหน้าน่ารักแดงเปล่งปลังจนผมอดไม่ได้ที่จะฝังจมูกลงกับแก้มนั่น มือบางยกขึ้นมาปิดยังบริเวณที่โดนขโมยหอมแก้มไป
"มันเร็วไปไหม?"
"อีกและ มันไม่เร็วไปหรอกนะเพราะฉันจองตัวมินซอกตั้งแต่สองปีที่แล้วแล้ว"
ผมกุ้มมือบางขึ้นมาก่อนจะนิ้วโป้งเกลียบนแหวนเงินที่ประดับอยู่บนนิ้วนางข้างขวา "ถึงคร่าวที่มันจะต้องเป็นข้างซ้ายสักทีล่ะมั้ง"
มินซอกเม้นริมฝีปากแน่นก่อนจะยกมืออีกข้างมาปิดริมฝีปากของตัวเอง ดวงตากลมใสมีหยาดน้ำเอ่อรอบ
"ว่าไงครับคุณมินซอก ให้เกียรติแต่งงานกับผมนะครับ"
มินซอกทาโถมตัวลงมากอดผมจนผมตั้งหลักไม่ทันเลยทำให้เราทั้งคู่ล้มไปกับพื้นหญ้า 'เหมือนเหตการณ์วันที่เข้าใจกัน' แรงพยักหน้าจากคนตัวเล็กทำให้ผมรับรู้ว่าเจ้าตัวพร้อมที่จะใช้ชีวิตร่วมกับผมไปตลอด
"ตกลงตั้งแต่จงแดสวมแหวนให้ฉันแล้วล่ะ"
ผมหลับตาจดจำบรรยากาศและกระแสเสียงที่มินซอกเอ่ยออกมา เขาว่าคนเราจะจำเรื่องราวได้นานสุดเพียง 180 วัน แต่สำหรับผมถ้ามีม้วนฟิล์มที่สำคัญอยู่ในมือต่อจะให้วันเวลาผ่านไป 365 วันหรือ 730 วัน ผมก็จะไม่มีวันลืมความทรงจำดีๆได้
แล้วคุณล่ะครับมีสิ่งที่ชอบจนอยากถ่ายรูปเก็บไว้ไหม? ส่วนผมน่ะมีจนสาบานว่าจะถนอนสิ่งนั้นไปจนชีวิตจะหาไม่เลยล่ะ
---------------------------- END ---------------------------
-----------------------------
จบไปแล้วนะคะหนึ่งเรื่องมีรออีกเพียบ
เพราะว่าบนจริงๆแต่ก็สนุกดีนะ
ชอบไม่ชอบยังไงบอกได้นะฮ้าปปปปปปปปป
พบกันเรื่องหน้าแน่นอนๆ #cminorช่างกล้อง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น