ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : 'ได้เรื่อง'
"นี่เก็บของเร็วๆสิ!"
เสียงหวานแผดดังลั่นเร่งให้ผมที่กำลังก้มหน้าเก็บเสื้อผ้าข้าวของใส่กระเป๋าอยู่คนเดียวให้เสร็จเร็วๆ ผมหันไปผงกหัวรับพี่มินซอกที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้องพร้อมดิ้นเร้าๆ ตอนนี้พี่มินซอกหายจากอาการป่วยแล้วก็งอแงอยากจะออกจากโรงพยาบาลเร็วๆ ผมรูดซิปกระเป๋าก่อนจะหยิบมันมาถือและเดินไปหาคนที่อยู่หน้าประตูห้อง
พี่มินซอกเดินนำผมไป ผมรีบก้าวขาให้ทันคนข้างหน้าก่อนจะย้ายกระเป๋าจากที่ถือมือซ้ายมาเป็นมือขวาและใช้ข้างที่ว่างจับมือบางนั่นและกุ้มเอาไว้ล้วมๆ พี่มินซอกหันมามองก่อนจะเสหน้ามองไปทางอื่น แต่มันกลับทำให้ผมยิ้มออกมาเพราะครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งไหนๆ ก็เพราะคนที่ผมจับมือเขาเอาไว้อยู่เจ้าตัวไม่ได้สะบัดทิ้งเหมือนครั้งก่อนๆไงล่ะ
'แค่นี้ก็สุขใจแล้ว <3 '
เราเดินกุมมือกันมาจนถึงลานจอดรถของโรงพยาบาล ผมละมือจากมือเขาก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและหยิบกุญแจรถออกมากดรีโมทให้มันปลดล็อคอัตโนมัติ วิ่งนำหน้าพี่มินซอกไปเล็กน้อยก่อนจะเปิดประตูรถให้ พี่มินซอกเข้าไปนั่งให้รถเรียบร้อยผมจึงปิดประตูและเดินไปเปิดประตูหลังเอากระเป๋าเสื้อใส่เข้าไปและปิดมัน วิ่งเยาะๆมาฝั่งคนขับก่อนจะทำหน้าสารภีให้คนที่นั่งเบาะข้างๆ
"จงแดๆ เดี๋ยวเข้าไปบริษัทก่อน"
ผมเลี้ยวรถออกมาจากโรงพยาบาลได้ไม่นานพี่มินซอกก็ร้องทักบอกให้ผมเปลี่ยนเส้นทาง ผมขมวดคิ้วเหลือบมองเสี้ยวหน้าของพี่เขาสลับกับถนนก่อนจะเอ่ยถามถึงจุดประสงค์ "เข้าไปทำไมครับ วันนี้วันหยุดของบริษัทหยุดนี่?"
"ขับๆไปเหอะน่า ก่อนมาโรงพยาบาลฉันไม่ได้เอากระเป๋ากล้องมานี่!"
ผมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเปลี่ยนเส้นทางจากบ้านให้ไปอีกทาง พอมานึกดูแล้ววันนั้นที่พี่มินซอกเป็นลมผมก็ไม่ได้คว้าอะไรมา เลยขนาดกระเป๋าของตัวเองยังต้องให้แบคฮยอนวิ่งไปเอามาให้ทีหลัง และกว่าพี่มินซอกจะออกจากโรงพยาบาลก็กินเวลาไปเกือบอาทิตย์กว่า ผมจึงจำต้องขับรถไปส่งคนที่เพิ่งหายป่วยให้เจ้าตัวได้ไปเอาของแสนรักมาก่อนกลับบ้าน
ใช้เวลาไม่นานรถยนต์คันที่ผมขับมาก็จอดแทบฟุตบาทหน้าบริษัทที่ว่างเปล่ามีเพียงยามที่นั่งเฝ้าตึกไม่กี่คน พี่มินซอกปลดเข็มขัดนิรภัยก่อนจะเปิดประตูรถ ผมดับเครื่องยนต์ก่อนจะเตรียมปลดเข็มขัดนิรภัยที่คาดตัวเองอยู่ พี่มินซอกที่เงยหน้ามาเห็นพอดีก็ร้องห้ามเอาไว้
"เฮ้ย! ไม่ต้องลงเดี๋ยวฉันขึ้นไปเอาเองนายรออยู่นี่แหละ"
"ไม่เอาอะ ผมไปด้วยดีกว่าเผื่อเกิดอะไรขึ้น"
"มันจะเกิดอะไรได้เล่า!"
ผมยื้อแขนคนที่เตรียมจะลงจากรถเมื่อพูดประโยคสุดท้ายเสร็จ จ้องมองดวงตากลมด้วยแววตาไม่พอใจจนอีกคนต้องถอนหายใจก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและชูโทรศัพท์ของตัวเองขึ้น "ถ้ามีอะไรฉันจะโทรหานายทันทีโอเค๊?"
ผมคิดสักพักก่อนจะยอมปล่อยมือและพยักหน้ารับแต่ก็ปลดเข็มขัดนิรภัยและลงไปรอข้างนอกรถแทน ก่อนที่มินซอกจะเดินไปผมรีบคว้าแขนขาวนั่นและยื่นหน้าไปหอมแก้มนุ่มเร็วๆหนึ่งที พี่มินซอกใช้มือข้างที่ไม่ได้โดนจับจับเข้าที่แก้มข้างที่โดนหอม ผมยิ้มให้การกระทำของพี่เขาก่อนจะเอ่ยเตือนอีกคน "กลับมาเร็วๆนะครับ ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลโทรหาผมทันทีนะ"
พี่มินซอกพยักหน้ารับช้าๆผมเลยปล่อยแขนอีกคนให้พี่เขาเดินเข้าไปบอกยามและหายเข้าไปในตัวตึก ผมยืนพิงรถพร้อมกับกอดอก ก่อนที่เหลียวสายตาไปมองเป้าหมายที่เป็นเหตุให้ผมหอมแก้มนุ่มนั่น จะใครซะได้ล่ะนอกจากพ่อนายแบบผิวแทนเกินคนนี่แหละ ผมดันเหลือบไปเห็นมันลงมาจากรถตู้พอดีเลยรีบแสดงความเป็นเจ้าของใหัมันรู้ จงอินสาวเท้าเข้ามาใกล้กับบริเวณผมก่อนจะยืนเว้นระยะห่างอยู่ข้างๆ
"หึ!"
มันส่งเสียงไม่พอใจก่อนจะออกเดินไปช้าๆ ผมยกยิ้มมุนปากก่อนจะเปลี่ยนท่ายืนมาเป็นท้าวเอวและก้มมองพื้น เอ่ยเสียงดังที่ฟังก็รู้ว่าจงใจกระแทกกระทั้นใคร "เฮ้อ! เบื่อจังเลยพวกชอบหาเศษหากินกับแฟนชาวบ้านเนี่ย!..เป็นนาย นายชอบมั้ยวะจงอิน?"
"ไม่รู้สินะ ถ้าเขาเต็มใจมาหาพวก!หาเศษหากินมากกว่า มันก็ช่วยไม่ได้" จงอินหันมาเผชิญหน้ากับผมตรงๆก่อนจะตอบคำถามพร้อมกระแทกเสียง สายตาแข็งกร่าวที่ไม่ได้ต่างจากผมกำลังจ้องมองมา มันเหมือนสัญญาณระวังว่ามวยคู่เอกกำลังจะเริ่ม "แต่อย่างน้อยมันก็ได้แค่หาเศษๆ!ล่ะวะ อย่างว่าคนเราบางที่มันก็ควรจะรู้ตัวบ้างนะว่าอะไร!มันคืออะไร!แล้วใคร!อยู่ตรงไหน!"
"ถ้าจะมาหาเรื่องก็อย่าเลยดีกว่าเดี๋ยวหน้ามันมีสีนะ"
"กูไม่ได้หาเรื่องเว้ย! แค่อยากจะบอกว่าให้รู้ว่ามึง!อยู่ตรงไหน แล้วกู!อยู่ตรงไหน"
"ก็ที่มึงพูดอยู่มันหาเรื่องไงเล่าเว้ย! มึงจะเอาไงวะแด!!"
จงอินที่ฟิวส์ขาดเดินเข้ามากระชากคอเสื้อผมพร้อมกับกูกำปั้นและต่อยเข้าที่มุมปาก ผมรับรู้ถึงแรงที่เจ็บแปล็บๆแต่ไม่ถึงกับได้กลิ่นเลือดมันคงยั้งมือเพื่อให้หน้าช้ำมมากกว่าเลือดกกปาก ผมเองก็ไม่ยอมกระชากคอเสื้อมันก่อนผลักให้มันออกไปพ้นๆตัว "กูไม่อยากมีเรื่องว่ะเดี๋ยวหน้าช้ำละแฟนกูจะเป็นห่วง"
ยกยิ้มมุมปากก่อนจะมองข้ามหัวมันไปยังคนที่เดินออกมาจากบริษัทพร้อมกระเป๋ากล้องใบโปรด พี่มินซอกทำตาโตก่อนจะรีบเดินมาและหยุดอยู่หน้าผม มือบางยกขึ้นมาแตะเบาๆที่มุมปาก มันคงจะแดงไม่ก็ช้ำจนพี่มินซอกสังเกตุเห็นแน่ๆ คนตัวเล็กหันไปมองทางจงอินก่อนจะยกยิ้มให้เพียงชั่วครู่และดันผมไปทางรถเป็นเชิงให้รีบขึ้นรีบไป
ผมทำตามอย่างว่าง่ายก่อนจะปลดล็อครถให้อีกคนเข้าไปนั่งก่อน ผมยืนยักคิ้วให้จงอินมันก่อนจะเข้ามาในรถและสตาทเครื่องก่อนจะขับออกไปจากบริเวณบริษัท ยกนี้ผมชนะอีกตามเคยเพราะสายตาที่ดูตกใจของพี่มินซอกนั้นมันสื่อและแสดงชัดว่าห่วง แล้วแบบนี้จะไม่ให้ผมชนะได้ยังไงล่ะ :]
ผมขับรถมาจอดใต้คอนโดของพี่มินซอกก่อนจะลงจากรถไปเปิดประตูให้อีก พูดตามตรงรถที่ใช้อยู่ก็ของพี่มินซอกนั่นแหละ ผมแทบไม่ได้แตะของตัวเองเลยตั้งแต่คนๆนี้เข้ามาในชีวิต ผมหิ้วกระเป๋าลงจากรถก่อนจะเดินไปเคียงข้างคนที่ยืนรออยู่ เราออกเดินไปพร้อมกันจนถึงห้องของพี่เขา พี่มินซอกแตะคีย์การ์ดที่ประตูก่อนจะเดินหายไปในห้องนอน ผมวางกระเป๋าเสื้อผ้าลงกับโซฟาแล้วทิ้งตัวนั่ง
ยกมือขึ้นแตะบริเวณที่โดนต่อยเพราะอาการมันเริ่มออกฤทธิ์ เจ็บใช้ได้แฮะ ผมถอนหายใจก่อนจะยืดตัวบิดขี้เกียจแต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อความรู้สึกเย็นมันแตะโดนตรงแผล ผมหันไปมองก่อนจะเห็นเป็นพี่มินซอกที่ยืนถือผ้าเย็นเอาไว้ มือบางจับหัวผมก่อนจะหันให้มุมปากตรงที่โดนต่อยหันเขัามาหาพี่เขา ใช้มือข้างที่ถือผ้าแตะมันลงไปตรงแผล
"ดูซิเนี่ยช้ำเลย ไปกวนตีนอะไรจงอินอีกล่ะ?!" เสียงหวานเอ็ดผมก่อนจะถือผ้าประครมไว้อย่างนั้น ผมเหลือบมองคนที่ขมวดคิ้วก่อนจะพยายามยิ้มออกมาและตอบ "ป่าวซะหย่อย มันมาหาเรื่องผมเอง"
เพราะว่าโดนผ้าอุดปากไว้เลยทำให้ผมพูดเหมือนคนลิ้นไก่สั้น พี่มินซอกยิ้มออกมาบางๆก่อนจะเอาผ้าเย็นมาปรกหน้าผมและเดินไปที่ห้องครัว ผมดึงผ้าเย็นออกมาจากหน้าก่อนจะกระโดดข้ามโซฟาและเดินไปหาอีกคน "ว่างมากหรอ กลับบ้านไปมั่งป่ะ"
"ก็บ้านมันไม่มีพี่แล้วผมจะกลับไปทำไม..เอางี้พี่ไปนอนบ้านผมมั่งมั้ย?ตกลงใช่ไหมครับดีเลยป่ะๆ"
"ย๊าห์ๆ!! ทะลึ่งแล้ว"
ผมคว้ามือพี่มินซอกพร้อมออกแรงดึง คนที่โดนคว้าทำตาโตก่อนจะตีเข้าที่มือผมที่จับมือพี่เขารัวๆ ผมหัวเราะออกมาก่อนะเปลี่ยนเป็นกุมมือพี่เขาทั้งสองข้าง พี่มินซอกสงบลง ดวงตากลมนั่นกรอกไปมาอย่างไร้จุดหมาย ผมยื่นหน้าไปกระซิบข้างใบหู "ไปนะครับนะ"
จนแล้วจนรอดอีกคนก็ต้องยอมมาด้วยกับ ผมเดินนำพี่มินซอกขึ้นมาคอนโดเดินนำอีกคนไปตามทางเดินก่อนจะหยุดอยู่หน้าห้องนึง ผมรอให้พี่มินซอกเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะแตะคีย์การ์ดกับประตูและเปิดนำอีกคนเข้าไป พี่มินซอกดูเงอะงะเมื่อเดินตามเข้ามา แต่เอาเข้าจริงๆห้องผมมันแทบจะไม่ได้แตกต่างจากห้องพี่มินซอกเลยสักนิด ไม่อย่างนั้นคืนนั้นผมจะเดาถูกได้ไงว่าห้องไหนคือห้องนอนของพี่มินซอก ก็มันอยู่ตำแหน่งเดียวกับห้องผมนี่
"ตามสบายนะครับ พี่อาบน้ำก่อนก็ได้นะเดี๋ยวเอาเตรียมเสื้อผ้าให้"
"เดี๋ยวเสื้อผ้าใคร?!" พี่มินซอกยื่นมือมาจับชายเสื้อของผมก่อนจะทำตาโต ผมยิ้มขำก่อนจะชี้มาที่ตัวเองและเดินเข้าห้องนอน เปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาตัวที่คิดว่าพี่มินซอกน่าจะใส่ได้เพราะเราสองคนก็ไซต์ใกล้เคียงกัน เสียงปิดประตูดังมาให้ยินแสดงว่าคนตัวเล็กกำลังอาบน้ำ ผมหยิบเอาเสื้อยืดกับกางเกงฟุตบอลมาไว้กับตัวก่อนจะเดินไปเคาะประตูห้องน้ำ
"ผมวางเสื้อผ้าไว้หน้าห้องนะครับ ผ้าเช็ดตัวอยู่ในนั้นแล้วนะ"
พี่มินซอกขานรับในลำคอแข่งกับเสียงน้ำที่ไหลกระทบพื้นไม่ขาดสาย ผมเดินกลับไปนั่งที่โซฟาห้องนั่งเล่นพรางเปิดโทรทัศน์ดูเพื่อฆ่าเวลา เสียงน้ำกระทบเงียบลงก่อนทีอีกสักพักคนตัวเล็กจะเปิดประตูเดินออกมา ผมหันไปมองคนที่กำลังเดินก่อนจะตบเบาะโซฟาข้างตัวให้พี่เขามานั่ง
พี่มินซอกทิ้งตัวลงพร้อมกับใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กขยี้ผมไปด้วย ผมปล่อยให้อีกคนเช็ดเส้นผมที่เปียกปอนพร้อมกับสำรวจพิจารณาไปด้วย ผมว่าผมเลือกเสื้อตัวที่เล็กแล้วนะขนาดผมใส่มันยังรัดๆเลยแต่พี่มินซอกใส่มันกลับดูล้วมๆและดูยาวจนปิดกางเกงไปครึ่งตัว และมันก็ดูน่ารักมากๆ "มองอะไร!"
พี่มินซอกถามเสียงดุพร้อมกับตีหน้ายุ่ง ผมส่ายหัวปฏิเสธก่อนจะหันกลับไปสนใจโทรทัศน์เหมือนเดิม เสียงรายการโทรทัศน์ดังทำลายความเงียบที่เริ่มมาคุขึ้นเรื่อยๆ ทั้งผมและพี่มินซอกไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา เหตุการณ์มันดูเหมือนกับในค่ำคืนนั้น "ผมว่าเรามาเล่นเกมกันดีกว่า"
ผมเอ่ยทำลายความเงียบพร้อมกับหันไปนั่งสบตากับพี่มินซอก คนตัวเล็กดูจะตะลึงกับคำว่าเลันเกมของผม แต่ก็เก็บอาการไว้ไม่ก่อนจะเริ่มเขยิบห่างและหันมานั่งสบตากับผม "เกมอะไรอีกล่ะ"
"ถามตอบ"
"ไม่เล่น!"
"พี่มีแฟนมาแล้วกี่คน!"
"ไม่เล่น!"
"มีมาแล้วกี่คน"
"ก็บอกว่าไม่เล่น!"
"กี่! คน!" ผมเน้นย้ำคำถามของตัวเองจนพี่มินซอกถอนหายใจกับการกระของผมแล้วชูนิ้วชี้ขึ้นมา ผมยิ้มออกมาน้อยๆก่อนจะเขยิบตัวเข้าไปใกล้พี่เขามาขึ้นและถามต่อ "แล้วเลิกกันเพราะอะไร?"
จู่ๆใบหน้าที่ติดจะลำราณก็แสดงท่าทีตกใจแทน ริมฝีปากเม้นเข้าหากันแน่น ใบหน้ากลมทำท่านึกคิดไม่สิต้องบอกว่าไม่อยากเอ่ยมากกว่าถึงจะถูก ผมส่งสายตาเป็นเชิงถามให้อีกคนเห็น ดวงตากลมกลับเสไปทางอื่นแทน "ตอบมาเถอะครับผมอยากรู้ทุกเรื่องของพี่ จะได้ไม่ทำมันถ้าพี่ไม่ชอบ"
ดวงตากลมหันมาสบตากับผมก่อนที่เจ้าของดวงตานั่นจะถอนหายใจอย่หนักหน่วงและยอมเอ่ยออกมา "เรา...เลิกกันเพราะเขาจะไปเรียนต่อ..เรารักกันมาก เขาเป็นรุ่นพี่ในมหาลัยของฉัน..ฉันไม่เคยคิดว่าเราจะได้รักกัน"
"..."
"แต่มันก็เป็นเรื่องจริง..ฉันได้รักแรกที่มาครอบครอง เรารักกันมาก..แต่สังคมกับมองมาเราแปลกเพียงเพราะ...พวกเราคือผู้ชาย.."
"ช่วงนั้นมันทั้งสุขล..และทุกข์ เราฝ่าฟันทุกคำนินทาว่าร้ายมาด้วยกัน..ค..ค่อยอยู่เคียงข้าง..ส..เสมอ..ฉันรักเขามาก มากจนไม่อยากจะเสียเขาไป.." น้ำตาหยดแรกไหลลงมาพร้อมกับฝ่ามือบางที่ยกมาปิดหน้าตัวเอง ผมทำท่าจะกอดปลอบแต่ก็โดนพี่เขาห้ามด้วยการส่ายหัว ผมเงียบรอให้พี่เขาโอเคและพร้อมเอ่ยมันต่อหรือหยุดลง
"นายรู้มั้ยสิ่งที่ฉันเกลียดมาที่สุด...คือการรอคอย แต่ฉันก็เลือกที่จะทำมัน..เมื่อพี่เขามาบอกกับฉันว่าให้...รอ ฉันรอ..ตามที่เขาบอก รอจนมันเหมือนเป็น..เพียงความฝัน"
"แต่สุดท้ายเขาก็กลับมา...ข...เขากลับมาพร้อม..ผู้หญิงคนนึง วันนั้น วันที่ฉันไปรอรับเขาที่สนามบิน...ด้วยความดีใจ..แต่เขา..ก..กลับเดินมาบอกฉันว่า ฮึก...เขากำลังจะต..แต่งงานกับเธอ"
"เขาขอให้เรากลับไปเป็นพี่น้อง...เขาบอกกับฉันว่า ค..ความรักของเราสองคน ม...มันไม่มีทาง..เป็นไปได้.."
พี่มินซอกร้องไห้ตัวโยนมือบางกอดแขนตัวเองไว้แน่นพร้อมกับเสียงสะอื้นที่ดังไม่ขาดสาย ผมเข้าไปกอดปลอบอีกคนพร้อมกับลูบหัวและหลังให้พี่เขา พี่มินซอกคลายกอดตัวเองก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นจับเสื้อผมไว้และขย้ำมัน เอ่ยเสียงอู้อี้โดยไม่เงยหน้ามาสบตากับผม "ล..แล้วทีนี้..นายยัง..ยังอยากดูแลฉันมั้ย? นายย..ยังอยากอยู่ข..ข้างฉันมั้ย?"
ผมไม่ตอบอะไรปล่อยให้คนในอ้อมกอดร้องไห้ออกมา พี่มินซอกพยายามกั้นสะอื้น มันทำให้ผมสงสารพี่เขาจับใจ "ถอนตัวซะจงแด ถ..ถอนตัวออกไป ก่อนที่ฉันจะร...รักนาย ไปซะ...ฉันไม่อยาก..จ...เจ็บอีกแล้ว ฉัน...ไม่อยากให้นายมาทิ้ง...อ...อนาคตไว้กับฉัน เพราะฉะนั้นด..ได้โปรด ออกไปจากชีวิตฉันซะ"
ผมกระชับกอดให้แน่นขึ้น พี่มินซอกร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย หัวใจผมกระตุกวูบทันทีที่ได้ยินประโยคก่อนหน้านี้ หยาดน้ำตาใสไหลออกมาหยุดยิ่งผมกอดแน่นมันยิ่งไหล ไหลจนซึมกับเสื้อของผม มือบางดันตัวเราให้ออกจากกันก่อนที่อีกคนจะนั่งกอดเข่าตัวเองและเอ่ยบอกกับผมอีกครั้ง
"ป..ไปซะเถอะนะ นายมันก็เหมือนกับปีเตอร์แพน...ปีเตอร์แพนค..คนที่มีแวนดี้ ค..คนที่คู่ควรกับนายมันคือเธอ ไม่ใช่...ไม่ใช่ฉันที่ป..เป็นแค่ทิงเกอร์เบลล์ ถ..ถึงนายจะขาดฉันม...ไม่ได้ แต่ฉัน..ก็ไม่ใช่คนที่นายจะคู่ควรด้วย"
น้ำตาที่ไหลออกมาของคนตรงหน้ามันทำใจผมกระตุก ผมรู้สึกว่าท้องมันโหว่งๆและจุกในอก ผมไม่ชอบ ไม่ชอบน้ำตาของคนตรงหน้าเสียเลย ผมเอื้อมมือไปคว้าคนที่ร้องไห้มากอดปลอบแน่น พี่มินซอกกำเสื้อไว้แน่น ร้องไห้ออกมาร้องจนไม่มีน้ำตา ผมจูบซับที่ขมับของพี่เขาอย่างปลอบโยน ความเงียบเข้าปกคลุมเราสองคน เสียงสะอื้นยังดังให้ได้ยินเป็นระยะจนผมอดไม่ได้ อดที่บอกสิ่งที่มันจุกในใจ
"ผมไม่ใช่ปีเตอร์แพนหรอกนะ ผมเป็นเพียงเทอร์เรนซ์ คนที่ค่อยอยู่เคียงข้างทิงเกอร์เบลล์ ต่อให้ปีเตอร์แพนจะไปสนใจแวนดี้แค่ไหนแต่ในสายตาของเทอร์เรนซ์มันก็มีเพียงทิงเกอร์เบลล์"
"..."
"เพราะงั้น ให้ผมได้อยู่เคียงข้างพี่..เหมือนที่เทอร์เรนซ์อยู่ข้างทิงเกอร์เบลล์ได้มั้ยครับ??"
------------------------------------------------------
ว้ายดราม่าเฉยเลยยยย
#ficaction
@Cminor2199
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น