ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ten Song for ChenMin

    ลำดับตอนที่ #13 : หน้าเสาธง

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 58






































    หน้าเสาธง
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     








     
     
     
     
     
     






















     
     
     
     
     
     
     
     
                   "หยุดนะเว๊ย!!กูบอกให้มึงหยุดไงวะ!!"
     
     
     
     
                   "หยุดกูก็ควายแล้วเว๊ย!!"
     
     
     
     
                   "จะตายแล้วยังปากดีนะมึง!! หยุดเดี๋ยวนี้!!"
     
     
     
     
              พวกนี้มันโง่หรือมันโง่วะครับคนเขาบอกไม่หยุดแล้วจะวิ่งไล่ทำไมให้เหนื่อยทั้งสองฝ่ายนี่ผมก็เริ่มจะหอบเล็กน้อยแล้วนะเนี่ยถึงจะบ้าพลังแต่ก็เหนื่อยเป็นเว๊ย!!
     
     
     
     
                  "ไอ้บ้าจงแดมึงหยุดนะเว๊ย!!!"
     
     
     
     
               ใครใช้ให้เรียกชื่อวะ ผมหันไปแลบลิ้นใส่พวกจิ๊กโก๋ต่างโรงเรียนพร้อมก้มมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองให้ตายสิมีเรื่องแต่เช้าเลยเว้ยนี่ก็สายแล้วด้วยไหนจะใกล้ถึงโรงเรียนตัวเองแล้ว ผมติดสปรีดในการวิ่งให้เร็วขึ้นเหลียบมองเห็นรั้วของโรงเรียนในมุมอับ
     
     
     
     
              ไม่รอช้าครับวิ่งสุดชีวิตพร้อมวิ่งไต่กำแพงกระโดดข้ามไปอย่างเท่ๆตามด้วยเสียงกรนด่าสารพัดของพวกแม่งนั่น เฮ้อคนอะไรหล่อแล้วยังเก่งอีกแต่นี่มันไม่ใช่การ์ตูนนะครับผมโดดข้ามได้ก็จริงแต่...
     
     
     
     
               ลงไม่เป็นโว้ยเจ็บชิบหายก้นกระแทกพื้นเต็มๆแต่นอกจากผมก็เห็นจะมีผู้เคาระห์ร้ายที่โดนผมทับอยู่เนี่ยแหละครับ ผมรีบลุกขึ้นทันทีที่ตั้งสติได้ยืนมองคนที่โดนตัวของผมทับเข้าเต็มๆ ชิบหายไอ้ปลอกแขนแบบนี้ที่แขนของเขามันเป็นของพวกสภานักเรียนนี่หว่าเอาไงดีวะชิ่งหนีหรือจะทำดีช่วย
     
     
     
     
              แต่ไม่ทันที่ผมจะคิดอะไรมือของคนที่นอนอยู่ก็ยื่นมาจับแขนผมไว้พร้อมเงยหน้ามามองด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ชิบหายหนักกว่าเก่าอีกครับก็นี่น่ะ...
     
     
     
     
                   "แฮ่ๆ...หวัดดีมินซอก"
     
     
     
     
                   "ย๊า!!!!คิมจงแดดดดดดดดดดดดดดดด!!!"
     
     
     
     
                   "คร้าบๆ"
     
     
     
     
              วันนี้มันวันซวยอะไรของผมครับนี่ตื่นมาก็ดันไปเหยียบเท้าไอ้พวกนั้นจนมีเรื่องโดดเข้ามาในโรงเรียนก็พลาดท่าล้มไม่เป็นท่าแล้วยังโดนมินซอกจับส่งปกครองว่ามาสายจนต้องมายืนกลางแดดให้ร้อนเล่นอยู่กลางสนามบอลแบบนี้อีก!!
     
     
     
     
                   'จำไว้คิมมินซอก!!'
     
     
     
     
                   "อยู่นี่เองกูก็นึกว่าโดนยืนกลางสนามบาส"
     
     
     
     
              ผมที่ยืนกางแขนอยู่ก็รีบหุบลงทันทีพร้อมเดินไปหาชานยอลที่ยืนรออยู่ใต้ต้นไม้ริมสนามบอล จะมาหาทั้งทีก็กลัวร้อนนะไอ้เวร ชานยอลยื่นขวดน้ำเปล่าเย็นจัดมาให้ผมพร้อมผ้าเย็น ผมยื่นมือไปรับมาและแกะถุงผ้าเย็นทันทีเปิดขวดน้ำดื่มรวดเดียวครึ่งขวดใช้อีกครึ่งขวดล้างหน้า อ่าสวรรค์ล่ะครับเย็นขึ้นเป็นกอง
     
     
     
     
                   "เลิกเรียนแล้วเหรอ?"
     
     
     
     
                   "เปล่ากูโดด พอรู้เรื่องจากมินซอกกูก็โดดมาดูมึงเลยเนี่ย"
     
     
     
     
              มันว่าพร้อมยักไหล่อย่างไม่แยแสในคำตอบมึงตัดสินใจง่ายมากครับเพื่อน ผมเดินไปทิ้งตัวนั่งลงกับอัตถจรรย์ทำให้ชานยอลต้องเดินมานั่งตาม มันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกมส์อย่างสบายใจแต่คนอย่างผมกลับร้อนใจมากกว่ายืนกลางแดดเสียอีก คิมมินซอกแล้วเราจะได้เห็นดีกันแน่
     
     
     
     
              เวลาพักเที่ยงได้มาเยือนผมนี่หิวเป็นบ้าก็โดนทำโทษตั้งสองชั่วโมงไหนจะโดดเรียนไปสงบสติอารมณ์อีกสองชั่วโมงเผลอแป๊ปเดียวก็เที่ยงล่ะครับ อาจจะดูว่าผมเป็นคนไม่ดีแต่ผมก็ตั้งใจเรียนนะครับบอกไว้ก่อนเลย ในขณะที่ผมกับชานยอลกำลังเดินเลือกร้านอาหารที่จะฝากท้องไว้สายตาก็ดันไปเห็นตัวต้นเหตุของวันนี้เข้า
     
     
     
     
                   "เฮ้ยๆมึงจะเดินไปไหนวะจงแด"
     
     
     
     
              ชานยอลว่าพร้อมเดินเข้ามาจับไหล่ผมให้เดินไปทางร้านขายอาหารแต่ผมไม่ยอมหรอกหมดอารมณ์กินข้าวตั้งแต่เห็นหน้ามินซอกแล้ว ผมแสยะยิ้มออกมาให้ชานยอลมันเห็นพร้อมสะบัดไหล่ให้มือมันหลุดก่อนจะเดินไปโต๊ะของรุ่นน้องที่รู้จักและยืมของ
     
     
     
     
              หลังจากแวะโต๊ะของรุ่นน้องผมก็เดินตรงไปยังเป้าหมายที่เล็งไว้แต่แรกแผ่นหลังของมินซอกค่อยๆใหญ่ขึ้นในสายตาจนกระทั่งผมมาหยุดอยู่ข้างหลังมินซอกและดูเหมือนเจ้าตัวจะยังไม่รู้สึกตัวมันก็เป็นโอกาสทองของผมทักทายหน่อยดีกว่า
     
     
     
     
                   "ว่าไงมินซอก"  ผมยกมือที่เอาไขว้หลังไว้มาแตะหลังทักทายมินซอกพร้อมส่งยิ้มให้แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะไม่สนใจผมสักนิดหนำซ้ำยังเอาหูฟังที่พาดไหล่ไว้มาใส่หูอีกต่างหาก ปิดกั้นโดยสมบูรณ์แบบสินะแต่ไม่เป็นไรผมเดินไปนั่งลงฝั่งตรงข้ามพร้อมส่งยิ้มให้เหมือนเดิม
     
     
     
     
              มินซอกดูจะไปพอใจกับการกระทำของผมอย่างมากแค่ผมนั่งไม่ถึงสามนาทีมินซอกก็เก็บของลงกระเป๋าและเดินจากไปแต่จุดประสงค์ของผมมันไม่ใช่การมานั่งส่งยิ้มแอปให้มินซอกหรอกนะเพราะน้ำจิ้มที่เยาะไปเมื่อกี้กำลังจะเกิดผลใน
     
     
     
     
                   3
     
     
     
     
                   2
     
     
     
     
                   1!!
     
     
     
     
                   "เฮ้ยทำบ้าอะไรวะปล่อยฉันนะโว้ยมากอดทำบ้าอะไรห๊ะ!!"
     
     
     
     
              ผมแสยะยิ้มให้กับเสียงโวยวายของมินซอกก่อนจะหันไปดูผลงานของตัวเอง แหมลายมือผมนี่สวยจังเลยนะอ๊ะๆผมน่าจะเปลี่ยนจาก 'กอดฟรีไม่คิดตังค์' เป็น 'กอดได้แม่ไม่ว่า' แต่ไม่ว่าคำไหนๆผลลัพธ์มันก็เหมือนกัน ใครๆก็รู้ว่าในโรงเรียนชายล้วนอย่างนี้น่ะมินซอกฮอตไม่เบานะ
     
     
     
     
              มินซอกเอื้อมมือไปข้างหลังของตัวเองและหยิบแผ่นกระดาษโพสอิทที่ติดหลังให้หลุดออก ใบหน้านวลขึ้นสีเพราะโกธรจัดก่อนจะมองมาทางผมและเดินออกจากโรงอาหารไปอย่างไม่สบอารมณ์บอกแล้วว่านี่แค่น้ำจิ้ม
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     























     
     
     
     
     
     
                   "จะทำจริงๆเหรอวะมันเกินไปป่าวแค่ทั้งวันนี่ยังไม่พออีกเหรอวะ?"
     
     
     
     
              ผมไม่น่าลากมันมาเลยจริงๆ ตั้งแต่ลากมันจากห้องเรียนจนถึงโรงรถของโรงเรียน ไอ้ชานยอลยังพูดไม่เสร็จเลย แค่ผมจะเอาคืนนิดๆหน่อยมันจะบ่นอะไรกันนักกันหนาวะ  "บลาๆหยุดพล่ามได้แล้วมึงเพื่อนใครกันแน่วะ?"
     
     
     
     
                   "เพื่อนมึงไงแต่ก็แหมมึงก็สงสารมินซอกมั่งสิมึงแกล้งมาทั้งวันแล้วนะเว๊ย"
     
     
     
     
              ชานยอลว่าพร้อมจับไหล่ผมให้เตรียมหมุนกลับแต่ผมไม่ยอมหรอกไม่ได้แกล้งทุกวันสักหน่อยมั้งแต่ก็มีแค่วันนี้ที่หนักสุด บอกตามตรงก็ได้ตั้งแต่มินซอกย้ายมาโรงเรียนนี้กลางเทมอผมก็แค่หยอกล้อนิดๆหน่อยๆนับๆดูแล้วก็แค่สองปีเองนะก็มินซอกน่ะเงียบซะเหลือเกินเพื่อนสนิทก็ไม่มี
     
     
     
     
     
              แต่วันนี้มินซอกเองก็ทำเกินไปนะผมก็แค่ขอแก้มือแค่นั้นเอง ผมเปิดกระเป๋าสะพายข้างของตัวเองก่อนจะหยิบเอาพวกต้นแทแด็กที่โรงเรียนปลูกไว้ประดับรั้วออกมา อยู่ไหนนะนั่นไงๆเจอแล้วผมมุ่งตรงไปยังจักรยานสีน้ำตาลอ่อนมองพิจารณาอยู่สักครู่ว่าไม่ผิดคันแน่ๆ สมกับเป็นมินซอกขนาดจักรยานยังเนี๊ยบเลยแฮะงั้นก็ลงมือเลยแล้วกัน
     
     
     
     
              ผมเอาต้นแทแด็กมาพันรอบจักรยานของมินซอกแต่มันก็ไม่แย่อะไรนะออกจะดูสวยด้วยซ้ำ เพราะพันทั้งคันมันเลยคงนึกสภาพออกกันนะครับจักรยานที่มีต้นไม้พันทั้งคันไม่ที่ว่างของคำว่าสีน้ำตาลเลยหวังว่ามินซอกคงจะชอบลายจักรยานที่ผมทำนะ
     
     
     
     
                   "เสร็จแล้วใกล้จะเลิกเรียนแล้วด้วยแยกย้ายเหอะว่ะ"
     
     
     
     
              ผมก้มมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือก่อนจะตบไหล่ชานยอลและเดินแยกออกมาหน้ามันดูสำนึกผิดแทนผมซะงั้นแต่ช่างเหอะพรุ่งนี้ก็ลดดีกรีแล้วจะกลัวอะไร หลังจากแยกกับชานยอลผมก็มานั่งอยู่มุมประจำคือรั้วมุมอับของโรงเรียนที่โดดเข้ามาเมื่อเช้ามันมีต้นไม้ใหญ่พอที่จะให้ปีนไปนั่งบนกิ่งมันได้และที่สำคัญมันสูงจนมองเห็นไปหน้าโรงเรียนได้เลย
     
     
     
     
                   'กริ๊งงงงงงงง'
     
     
     
     
              ออดของโรงเรียนดังเป็นสัญญาณว่าเวลาเรียนของวันนี้ได้จบลงแล้วแต่มันก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับคนที่จากบ้านมาอยู่ในเมืองหลวงคนเดียวแบบผมหรอกกลับไปก็เจอแต่ห้องเช่าเดิมๆนั่งเล่นตรงนี้ก่อนก็แล้วกัน ผมกำลังทิ้งตัวลงนอนแต่ก็ดันเห็นมินซอกเดินออกไปจากหน้าโรงเรียนท่าทางดูเร่งรีบเดินไม่สนใจใครเลยแฮะ
     
     
     
     
                    "มึงอยู่นี่เองลงมาเดี๋ยวนี้จงแด"
     
     
     
     
              ผมมองลงไปยังพื้นดินก็เห็นชานยอลยืนจ้องเขม็งอยู่ข้างล่างทำให้ผมจำใจต้องปีนต้นไม้ลงไปหามัน เมื่อเท้าผมแตะพื้นมันก็ลากผมไปทางโรงรถของโรงเรียนทันที จักรยานคันคุ้นตายังคงปรากฏให้เห็นมันไม่มีร่องรอยของการแกะต้นไม้หรือทำอะไร งั้นที่เห็นเมื่อกี้ก็หมายความว่ามินซอกเดินกลับบ้านงั้นเหรอ
     
     
     
     
                   "สนุกไหมล่ะมึงบ้านมินซอกไม่ใช่ใกล้ๆนะเว๊ยสมองมีไว้ขั้นหูเหรองามหน้าแล้ว!"
     
     
     
     
              ชานยอลยังคงบ่นผมไปเรื่อยแต่ในหัวผมกลับกำลังคิดว่ามินซอกจะเป็นอย่างไงบ้างความคิดตีกันยุ่งเหยิงแต่ร่างกายผมมันกลับขยับไปเอง ผมดึงเอาต้นแทแด็กออกให้พ้นจักรยานของมินซอกและปัดทำความสะอาดให้เรียบร้อยด้วยเสื้อของตัวเองเมื่อมองว่ามันสะอาดดีแล้วผมจึงขึ้นคร่อมจักรยานและปั่นออกไปหาเจ้าของมันทันที
     
     
     
     
                   "เฮ้ยมึงจะทำบ้าอะไรวะจงแด"
     
     
     
     
                   "กูจะไปง้อมินซอก"
     
     
     
     
              ตอบคำถามของชานยอลเสร็จผมก็รีบปั่นจักรยานไปหน้าโรงเรียนทันทีพอถึงหน้าโรงเรียนผมก็หยุดปั่นและมองทางว่ามินซอกเดินไปทางไหนถ้าจำไม่ผิดมินซอกเดินไปทางซ้ายเอาวะ ผมออกแรงปั่นจักรยานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้สายตากวาดมองไปตามทางหาเจ้าของจักรยาน เจอแล้ว
     
     
     
     
              ผมปั่นจักรยานไปทางคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ริมถนนใบหน้าดูเหนื่อยอ่อนแต่มาคิดดูนี่มันก็ไกลจากโรงเรียนมากขนาดปั่นจักรยานยังเหนื่อยนับประสาอะไรกับเดิน ผมชะลอจักรยานให้อยู่ระยะห่างจากมินซอกพอสมควรก่อนจะลงจากจักรยานและจูงมันเดินไปหาเจ้าของ
     
     
     
     
                   "มานั่งทำอะไรตรงนี้ไม่ทราบ"
     
     
     
     
              มินซอกเงบหน้าขึ้นมามองผมก่อนจะคว้ากระเป๋าเป้และลุกเดินไปอย่างเร็วผมขึ้นคร่อมจักรยานพร้อมออกแรงปั่นให้ไปดักหน้ามินซอก เจ้าตัวพยายามเดินเลี่ยงไปแต่ก็ถูกผมดักไว้เสียก่อน
     
     
     
     
                   "ขึ้นมาจะไปส่ง"
     
     
     
     
                   "นั่นจักรยานฉัน"
     
     
     
     
              ผมยักไหล่อย่างไม่แยแสก่อนจะลงจากจักรยานและดึงตัวมินซอกให้มาใกล้พรางรวบเอวมินซอกไว้และออกแรงยกอีกคนให้นั่งบนจักรยาน มินซอกนี่เอวบางเป็นบ้าถ้าไม่มองหน้านึกว่าอุ้มผู้หญิงเหอะ มินซอกส่งสายตาไม่พอใจมาให้แต่มีหรือที่คนด้านๆอย่างผมจะรู้สึกผมออกแรงจูงจักรยานทั้งๆที่ยังมีมินซอกนั้งบนเบาะก็ใครใช้ให้มินซอกซื้อแบบเบาะเดี่ยวนี่
     
     
     
     
              เพราะออกแรงโดยที่มินซอกยังดิ้นที่จะลงจากจักรยานเลยทำให้มินซอกเซลงมาซบอกผมแต่นึกออกไหมครับเบาะจักรยานก็สูงเวลาที่มินซอกอยู่บนจักรยานทำให้ความสูงพอๆกับผมมันเลยทำให้เอ่อ....
     
     
     
     
                   'ผมจุ๊บกับมินซอก -///- '
     
     
     
     
              สาบานว่าแค่นั้นจริงๆไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้เพราะทั้งผมและมินซอกดูจะอึ้งไม่ต่างกัน คนตัวเล็กยอมนั่งนิ่งและเสหน้าไปทางอื่นมินซอกยกมือขึ้นถูหน้าที่เริ่มแดงปรั่ง  "นั่งนิ่งๆแต่แรกก็จบแล้ว"
     
     
     
     
              ผมออกแรงจูงจักรยานให้เคลื่อนแต่มินซอกที่เอาแต่นิ่งไม่ทันระวังตัวทำให้เจ้าตัวเผลอโอบรอบคอผม มินซอกผละตัวออกจากผมเล็กน้อยแต่ก็ยังจับไหล่ผมเอาไว้เป็นที่ยึดผมจูงจักรยานไปตามทางอย่างเงียบๆแต่ในใจนี่กรีดร้องอย่างกับคนบ้า
     
     
     
     
                   "ขอโทษนะ"
     
     
     
     
              ผมเอ่ยทำลายความเงียบทำให้มินซอกที่หันมองไปอื่นหันมามองผมก่อนจะพยักหน้ารับ  "เสื้อนายไปเลอะอะไรมา?"
     
     
     
     
              ผมก้มมองดูเสื้อตัวเองที่เลอะตั้งแต่ชายเสื้อจนถึงกลางตัวก่อนจะยิ้มแยะออกมา มินซอกกำเบรกของจักรยานเอาไว้และลงจากจักรยานก่อนจะใช้มือถูกับเสื้อผม
     
     
     
     
                   "ก็เช็ดจักรยานให้นายไง"
     
     
     
     
                   "บ้า!สติดีหรือป่าวจงแด?!"
     
     
     
     
                   "ก็ช่วยไม่ได้นี่ฉัน...มาง้อนาย"
     
     
     
     
              ใบหน้าของมินซอกขึ้นสีแดงระเรื่อจนเจ้าตัวต้องหันหลังให้ผมก่อนจะหันกลับมาและปั้นสีหน้าให้ปกติ มินซอกแย่งจักรยานไปจากผมและจูงนำหน้าผมไปปล่อยให้ผมยืนเกาหัวด้วยความงุนงงนี่ตกลงจะไม่หายโกธรกันใช่ป่ะ ในขณะที่ผมกำลังน้อยใจมินซอกอยู่ในใจคนตรงหน้าก็หยุดจูงจักรยานก่อนจะหันมาบอกกับผม
     
     
     
     
                   "ยืนบื้ออะไรอยู่ตามมาสิจะหาเสื้อให้เปลี่ยนจะถึงหอฉันแล้ว"
     
     
     
     
              วิ่งตามตั้งแต่บอกให้ตามแล้วคร้าบ ผมวิ่งเยาะๆมาอยู่ข้างๆมินซอกก่อนจะเดินไปด้วยกันใช้เวลาไม่นานก็มาถึงหอของมินซอก คนตัวเล็กเดินไปข้างๆของหอก่อนจะจอดจักรยานและเดินนำผมให้ขึ้นบันไดตามไป เดินเลยห้องจากบันไดไปสองสามห้องก็ถึงห้องของมินซอกคนตรงหน้าล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าสะพายของตัวเองก่อนจะขมวดคิ้วให้ผมได้ขมวดตาม
     
     
     
     
                   "มีอะไรเหรอ?"
     
     
     
     
              ผมเอ่ยถามมินซอกก่อนจะมองเจ้าตัวที่ยังคงวุ่นอยู่กับกระเป๋าสะพายจนแทบจะมุดเข้าไปอยู่ในนั้น ผมเดินเข้าไปใกล้มินซอกมากขึ้นก่อนจะแย่งกระเป๋าของมินซอกมาแลิวลิวงมือเข้าไปช่วยหากุญแจที่ผมเดาว่ามินซอกน่าจะหาไม่เจอแต่มินซอกก็ยื้อกระเป๋าไว้กับตัวเองทำให้ผมต้องมองหน้าอย่างเอาเรื่อง
     
     
     
     
                  'ไม่ได้กวนตีนแต่แค่อยากช่วย -///- '
     
     
     
     
                    "ไม่ต้องช่วยหรอกน่ายืนเฉยๆก็พอ"
     
     
     
     
              มินซอกว่าพร้อมเบี่ยงตัวหลบผมและรื้อกระเป๋าของตัวเองต่อไปปากก็บ่นอยู่คนเดียวว่าอยู่ไหนวะ แล้วชาติไหนมันจะเจอวะครับมินซอกผมเริ่มอารมณ์เสียเลยแย่งกระเป๋าของมินซอกมาไว้เหมือนเดิมและเทของทุกสิ่งทุกอย่างออกจากกระเป๋าจนเจ้าของกระเป๋าต้องอ้าปากค้าง
     
     
     
     
              เจอแล้วนั้นไงกุญแจผมกำลังก้มลงไปหยิบแต่ดูเหมือนมินซอกเองก็คิดแบบนั้นทำให้มือของเราสองคนสัมผัสกันก่อนจะเป็นมินซอกที่ชักมือกลับและยืนขึ้นหันไปไขประตูห้องและสั่งผมเสียงแข็ง
     
     
     
     
                   "รื้อแล้วเก็บด้วยนะ!...เสร็จแล้วก็เข้ามาล่ะ"
     
     
     
     
              ท้ายประโยคดูจะอ่อนเสียงลงผมยิ้มออกมาก่อนจะมองตามมินซอกที่เดินเข้าไปในห้องอย่างเร่งรีบแล้วก้มเก็บของลงกระเป๋ามินซอกให้เหมือนเดิม เมื่อเก็บเสร็จผมก็เดินเขัามาในห้องถอดรองเท้าไว้ที่ชั้นวางรองเท้าเล็กๆริมผนังประตูก่อนจะเดินสำรวจห้องของคนตัวเล็ก
     
     
     
     
              พรันรอยยิ้มก็ฝุดขึ้นมาบนใบหน้าท้องทั้งเรียบร้อยและสะอาดต่างจากห้องของผมโดยสิ้นเชิงอีกอย่างข้าวของภายในห้องยังกับห้องของผู้หญิงมันทำให้ผมคิดว่าบางทีมินซอกอาจเป็นผู้หญิงปลอมตัวมาแบบในละครหรือเปล่า
     
     
     
     
                   "มายืนมองห้องคนอื่นนี่ไม่มีมารยาทเลยนะ อ่ะเอาไป"
     
     
     
     
               มินซอกเดินมาพร้อมยื่นเสื้อตัวใหม่มาให้ผมและดึงกระเป๋าของตัวเองในมือผมไปว่างไว้บนเตียงริมผนังห้อง ผมยักไหล่ให้มินซอกก่อนจะถอดกระเป๋าของตัวเองว่างลงกับพื้นแกะกระดุมที่ละเม็ดอย่างใจแต่แดได้แค่ครึ่งตัวมินซอกก็รีบตะครุบเสื้อผมให้ปิดสนิทก่อนจะว่าเอ่ยพร้อมใบหน้าขึ้นสี
     
     
     
     
                   "ทำบ้าอะไรห๊ะ!จะเปลี่ยนก็ไปห้องน้ำดีๆสิ"
     
     
     
     
                   "อะไรกันก็ผู้ชายเหมือนกันจะอายอะไรฉันไม่ใช่ผู้หญิงนายก็ไม่ใช่สักหน่อยเปลี่ยนตรงนี้แหละดีแล้วไปห้องน้ำมันยุ่งยาก"
     
     
     
     
              ผมว่าพร้อมแกะกระดุมเสื้อของตัวเองต่อมินซอกที่เห็อย่างนั้นจึงรีบหันหลังให้ผมอย่างโดยเร็วเห็นแล้วมันน่าหมั่นเขี้ยวน่าแกล้งจริงโว้ย ผมเดินเข้าไปใกล้มินซอกที่ยืนตัวเกร็งหันหลังให้ผมอยู่ก่อนจะเอ่ยกระซิบริมใบหู  "เสร็จแล้ว"
     
     
     
     
              มินซอกหันมาตามคำบอกก่อนจะฟาดมือลงกับอกผมจนเป็นรอยแดงรูปมือและรีบผลักผมให้ออกห่าง  "ทำบ้าอะไรห๊ะ!ออกไปเลยนะใส่เสื้อให้มันดีๆสิเว๊ย!"
     
     
     
     
              ผมไม่สนใจเสียงกรนด่าของมินซอกสักนิดหนำซ้ำยังรวบมือบางไว้และดันตัวให้เข้าใกล้มินซอกมากขึ้น สงสัยผมจะเล่นมากไปหน่อยจนมินซอกดิ้นเดินถอยหลังไปจนถึงเตียงและสะดุดขอบเตียงล้มลงไปพร้อมดึงผมให้ล้มทับไปอีกทีมันเลยกลายเป็นภาพที่ผมดูจะทำมิดีมิร้ายมินซอกยังไงอย่างนั้นเลยล่ะ
     
     
     
     
                   'แกร็ก'
     
     
     
     
                    "พี่มินซอกกกกกขา"
     
     
     
     
              เสียงเปิดประตูห้องดังเข้ามาพร้อมเสียงเล็กๆของเด็กผู้หญิงวัยห้าขวบตัวอวบอั๋นเดินมายังเตียงก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากและมองมาทางผมกับมินซอกอย่างตกตะลึง  "ยูจิน!!!"
     
     
     
     
     
              ทั้งผมและมินซอกรีบผละออกจากกันโดยอัตโนมัติมินซอกรีบลุกขึ้นไปหาเด็กน้อยที่ยืนมองตาปริบๆก่อนจะหันมาสั่งทางสายตาให้ผมแต่งตัวให้เรียบร้อย ผมรีบถอดเสื้อนักเรียนของตัวเองออกและสวมเสื้อยืดที่มินซอกเอามาให้ก่อนจะเดินคว้ากระเป๋านักเรียนของตัวเองและเดินไปทางประตู
     
     
     
     
              แต่ก็ถูกเด็กน้อยคนนี้เดินมาขว้างพร้อมส่งสายตาสำรวจผมและวิ่งไปหามินซอก ชูแขนขึ้นเป็นเชิงให้มินซอกอุ้มและคนตัวเล็กก็ทำตามเด็กคนนั้นกอดคอมินซอกและมองมาทางก่อนจะเอ่ย
     
     
     
     
                   "พี่เป็นอะไรกับพี่มินซอกเหรอคะ?"
     
     
     
     
              เอาแล้วไงแล้วผมจะบอกว่าอะไรดีวะแต่ยังไม่ทันอ้าปากตอบอะไรมินซอกก็ส่งสายตาดุเป็นเชิงห้ามไม่ให้ผมพูดออกมาก่อนหลังหันให้ผมและตอบคำถามนั่นเสียเอง บอกไว้เลยนะยิ่งมินซอกทำอย่างนี้ผมยิ่งอยากแกล้ง  "คนนี้ชื่อพี่จงแดเป็นเพื่อนของพี่มินซอกเองนะคะยูจิน"
     
     
     
     
                   "ใครบอกว่าเพื่อน"  ผมเดินเข้ามาใกล้มินซอกและยกมือขึ้นโอบไหล่ก่อนจะส่งยิ้มกรุ่มกริ่มให้ทั้งมินซอกและหนูน้อยนั่น  "พี่จงแดเป็นแฟนพี่มินซอกต่างหากล่ะ"
     
     
     
     
              ว่าพร้อมโน้มตัวไปหอมแก้มมินซอกเป็นการยื่นยันให้เด็กน้อยในอ้อมกอดมินซอกมั่นใจ เด็กน้อยหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจก่อนจะดิ้นตัวลงจากมินซอกและวิ่งไปทางประตูห้องก่อนจะเอ่ยทิ้งท้ายและปิดประตูห้องไป
              
     
     
     
                     "งั้นยูจินไม่อยู่รบกวนดีกว่าไว้วันอื่นมาเล่นกันใหม่นะคะพี่มินซอกพี่จงแด"
     
     
     
     
              ผมโบกมือบ๊ายบายให้กับยูจินพอประตูปิดสนิทลงมินซอกก็ใช้ศอกกระทุ้งผมซะจนเต็มแรงหนำซ้ำยังลากผมให้มาหน้าประตูห้องก่อนจะเปิดและชี้นิ้วไล่ผมไปข้างนอก
     
     
     
     
                   "มาทางไหนก็ไปทางนั้นเลยนะ!"
     
     
     
     
                   "แหมพูดกับแฟนดีๆสิมินซอก"
     
     
     
     
                    "ย๊าห์!! คิมจงแด"
     
     
     
     
              ผมยกมือขึ้นยอมแพ้มินซอกก่อนจะเตรียมหมุนตัวออกจากห้องไปแต่ก็ไม่อยากจากไปอย่างง่ายๆหรอกนะผมเหลือบมองมินซอกที่กำลังจะปิดประตูห้องใช้ฝ่ามือของตัวเองดันประตูห้องไว้และใช้มืออีกข้างดึงตัวมินซอกให้มาอยู่ใกล้พร้อมกั้นแขนไว้กับพนังห้องก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้มินซอกแต่ก่อนที่จะได้แกล้งอะไรยูจินก็ออกมาจากห้องของตัวเองและเดินตรงมาทางมินซอกพอดี
     
     
     
     
                    "พี่มินซอกคุณแม่ให้....ขอโทษค่ะ"
     
     
     
     
                   "คิมจงแด!!!!!!!!"
     
     
     
     
                    "คร้าบๆ"
















































    --------------------------------------------------------------



         ว้ากกกกกกกกกกกลับมาแล้วบอกแล้วจะมาอัพ 555555555
        ช่วงนี้ชีวิตมันก็ยุ่งสามประสานะคะอย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมาอย่างเราเลย
        มีใครรอเราอยู่ไหมหนอ 555555 เดี๋ยวดึกๆจะมาส่งตอนสองแบบเร็วฉับไวเลยคร้าบ


      อ่อถ้าใครไม่รู้จักต้นแทแด็ก(ไม่รู้พิมพ์ถูกหรือ)มันก็คือต้นตีนตุ๊กแก
      และถ้าใครไม่รู้จักตีนตุ๊กแกก็นึกสภาพพวกไม้เลื้อนตามผนังสวยๆเล็กๆที่ประดับสวนนะคะ
     จงแดอุสาห์ไปแงะมาแกล้วมินซอกว่าหวังว่าคนอ่านคงเห็นใจจงแดและอ่านกันเยอะๆนะคะ
     ถ้าฟิคสนุกฝากแชร์ต่อด้วยนะ จุ๊บๆ >3




         #CMหน้าเสาธง














     
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×