ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ten Song for ChenMin

    ลำดับตอนที่ #12 : มีอยู่จริงหรือเปล่า -2-

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 58








































     
     
     
    มีอยู่จริงหรือเปล่า -2-
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     














     
     
     
     
     
     
     
     
              สายน้ำใสที่เรืองเเสงสีฟ้าสวยงามบวกกับธรรมชาติรอบตัวดอกไม่นาๆพันธุ์สีสดใสทำให้ดวงตากลมไม่สามารถละไปไหนได้เลย มินซอกมองเห็นฝูงผีเสื้อปีกเรืองแสงสีขาวบินอยู่รอบๆดงดอกไม้สีงามมือบางยื่นออกไปทักทายกับราวผีเสื้อสีสวยแต่เมื่อนำมาดูใกล้ๆก็ต้องตะลึงเมื่อแท้จริงแล้วนั่นคือนางฟ้าตัวน้อยๆ นางฟ้าตัวน้อยก้มโค้งคำนับให้กับจงแดก่อนจะบินจากไป
     
     
     
     
                   "ที่นี่...ที่ไหนเหรอ?"
     
     
     
     
                   "ที่นี่ก็คือวันเดอร์ฟูลแลนด์ไง"  ว่าพร้อมรอยยิ้มอบอุ่มที่ส่งมาให้ทำให้ใบหน้าของมินซอกขึ้นสีระเรื่อกับรอยยิ้มนั้น พรันความทรงจำเกี่ยวกับหนังสือที่อ่านก็ฝุดขึ้นมา ดินแดมมหัศจรรย์ พลังเหนือธรรมชาติ ดินแดนที่มีธรรมชาติ เจ้าชายจงแด อย่าบอกนะว่าเขามาอยู่ในโลกนิยายที่ซื้อมาในวันนี้น่ะ
     
     
     
     
              มือบางยกขึ้นมาตบหน้าตัวเองพร้อมหลับตาลงหวังว่าลืมตาขึ้นมาแล้วเรื่องทุกอย่างจะเป็นแค่ฝัน แต่เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าจงหน้าของเขายังคงเป็นเจ้าชายเหมือนเดิมการกระทำของมินซอกทำให้จงแดต้องหลุดหัวเราะออกมา มินซอกส่งสายตาไม่พอใจกับจงแดนั่งหันหน้ามองคนตรงข้ามที่นั่งอมยิ้มให้กับเขา
     
     
     
     
                   "นายหัวเราะอะไร?"
     
     
     
     
                   "ก็เจ้าตลกน่ะสิทำอะไรของเจ้าน่ะ"
     
     
     
     
              จงแดว่าพร้อมทำท่าเลียนแบบมินซอกที่หลับตาและตบหนัาตัวเองพร้อมพองลงที้แก้มและตบเบาๆอย่างล้อเลียน มินซอกตวัดน้ำใส่จงแดจนอีกคนต้องเลิกทำร่างสูงยกมือขึ้นมาบังน้ำจากมือบางมองคนตรงหน้าที่ตวัดน้ำใส่ตนเองก่อนจะกอดอกและพองลมใส่แก้ม
     
     
     
     
                   "นี่เจ้าโกธรข้าเหรอ?"  ว่าพร้อมยกนิ้วขึ้นมาจิ้มที่แก้มใสจนมินซอกต้องสะบัดมือหนาให้พ้นจากแก้มของตนเอง จงแดเห็นท่าว่าอีกคนยังทำคงทำไม่เลิกจึงยกมือขึ้นเหนือศีรษะพรันดอกไม้ก็ยื่นก้านให้ยาวมาพอดีกับมือหนาและสลัดดอกให้ล่วงสู่มือของจงแด
     
     
     
     
              ดอกไม้สีสวยถูกยื่นให้กับมินซอกร่างบางหันมามองอีกคนที่ยื่นดอกไม้มาพร้อมส่งยิ้มทำให้มินซอกต้องยกมือไปรับมาไว้กับตัว ก้มมองดอกไม้ในมือพร้อมลอบยิ้มออกมากับตนเองแต่ก็ไม่พ้นสายตาคมอยู่ดี
     
     
     
     
              จงแดคว้าดอกไม้มาไว้ในมือตนเองอีกครั้งทำให้มินซอกต้องเงยหน้ามามองแต่แล้วมือหนาก็นำดอกไม้มาทัดไว้กับหูของมินซอกเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าให้พ้นทาง เมื่อรู้ตนเองทำอะไรลงจงแดจึงลดมือลงและแสร้งทำไปหันมองที่อื่น  "นาย...ก็ไม่ได้เย็นชาเหมือนในนิยายเลยนี่"
     
     
     
     
                   "หืม นิยาย?"
     
     
     
     
                    "เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอก"
     
     
     
     
              สงสัยว่าเรื่องทั้งหมดมันคือเรื่องจริงสำหรับจงแด มินซอกเก็บความสงสัยว่าตนเข้ามายังโลกภายหนังสือได้อย่างไรมันเกิดอะไรขึ้นความสงสัยตีกันยุ่งเหยิงอยู่ในหัวจนมินซอกเผลอขมวดคิ้วกับตนเอง จงแดเห็นอย่างนั้นจึงชี้นิ้วไปยังคิ้วที่ขมวดของมินซอกจนร่างบางต้องเลิกทำและเอียงคอมองอีกฝ่ายอย่างสงสัย
     
     
     
     
                   "ว่าแต่เจ้าชื่ออะไรเหรอ?"
     
     
     
     
                   "ฉันชื่อมินซอก...ส่วนนายก็...เจ้าชายจงแดสินะ"
     
     
     
     
                   "เรียกข้าว่าจงแดก็ได้ไม่ต้องมีเจ้าชายหรอก"
     
     
     
     
                   "แล้วเจ้ามาจากไหนรึมินซอก?"  จงแดทำมือต้านลมให้เรือหยุดลงแล้วมองอีกคนที่เท้าคางกับเข่าตนเองแล้วทำท่าคิดกับคำตอบ  "ถ้าเจ้าไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไรหรอกนะ"
     
     
     
     
                   "ไม่หรอกฉันกลัวนายไม่เข้าใจกับสิ่งที่ฉันจะพูดน่ะ"  จงแดขมวดคิ้วให้กับคำพูดของมินซอกทำให้ร่างบางต้องส่งยิ้มให้กับจงแด มินซอกเขยิบตัวให้เข้าใกล้จงแดก่อนจะยกมือขึ้นนวดที่คิ้วหนาให้คายลงก่อนจะเอ่ยตอบ
     
     
     
     
                   "ก็คือเมืองที่ฉันอยู่น่ะมีแต่ตึกตระการฟ้าเต็มไปหมดน่ะเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับไหลมีแต่แสงสีเต็มไปหมด"
     
     
     
     
                    "เจ้าอยู่ที่เมืองแห่งแสงงั้นรึ?ข้าไปส่งเจ้าที่เมืองนั้นได้นะ"  คำตอบของจงแดทำให้มินซอกต้องอมยิ้มออกมา คนตัวเล็กส่ายศีรษะปฏิเสธอีกคนไป  "ไม่ใช่หรอกมันอยู่ไกลมากๆเลยล่ะไกลมากจนนายอาจจะคิดว่าเมืองที่ฉันอยู่เป็นเมืองแห่ง...ความฝัน"
     
     
     
     
              ท้ายประโยคเสียงเอื้อนเอ่ยออกมาแผ่วเบาก่อนที่มินซอกจะมองขึ้นไปบนท้องฟ้า จงแดมองตามอีกคนเฝ้ามองดวงตากลมที่ระยิบระยับตามแสงดาวบนฟากฟ้าที่ส่องแสงเป็นประกาย ถ้าคนตรงหน้านี้เป็นผู้หญิงจงแดจะไม่ลังเลเลยที่จะเอ่ยวาจาขออีกคนแต่งงานให้เป็นคู่ชีวิต
     
     
     
     
              แต่สิ่งที่เป็นอยู่ตรงหน้าก็ไม่สามารถทำให้จงแดละสายตาไปจากร่างบางได้เลย ความเป็นตัวของตัวเองรอย ยิ้มสดใส ดวงตาเป็นประกาย ใบหน้าที่หวานล้ำ มันช่างดึงดูดสายตาของจงแดได้เป็นอย่างดี
     
     
     
     
                   "เจ้าอยากขึ้นไปเห็นดาวชัดๆไหมล่ะ"
     
     
     
     
              มินซอกหันมามองอีกคนพร้อมพยักหน้าเหมือนเด็กอยากรู้อยากเห็นไม่มีผิด จงแดยืนขึ้นก่อนจะตวัดมือให้กิ่งใบได้โน้มลงจงแดก้าวขึ้นไปกิ่งไม้ก่อนจะยื่นมือให้กับมินซอก คนตัวเล็กปัดมือหนาให้พ้นทางเขาไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อยที่จะต้องทำแบบนี้แต่ดูเหมือนว่าการที่คว้ามือไว้คงจะดีกว่า
     
     
     
     
              มินซอกก้าวเท้าตามลงแดไปแต่รองเท้าเจ้ากรรมดันลื่นซะได้ทำให้จงแดต้องคว้าไปที่เอวของมินซอกและดึงให้มาแนบชิดกับอกแกร่ง มินซอกผละออกมาจากจงแดแต่มือหนาก็คว้าไว้ที่เอวของมินซอกอีกครั้งมือบางตีลงบนมือหนาแต่ก็ได้รับรอยยิ้มอบอุ่นมาให้
     
     
     
     
                   "เกาะข้าไว้ดีกว่าระวังตกนะ"  กิ่งไม้ใหญ่ยกสูงขึ้นลอยไปข้างบนมินซอกเซเล็กน้อยทำให้จงแดกระชับเอวบางให้เข้าใกล้ตนมากขึ้นใช้เวลาไม่นานกิ่งไม้ที่โน้มต่ำอยู่กับพื้นก็พาคนสองคนมาสู่งสองฟ้าที่กว้างใหญ่ แสงดาวส่องประกายทำให้ท้องฟ้าไม่มืดสลัวมองไปทางไหนก็เห็นธรรมชาติโอบล้อมสายลมที่พัดพาความสดชื่นให้ชื้นใจดีกว่าเห็นค่ำคืนที่สวยงามแต่วุ่นวายเป็นไหนๆ
     
     
     
     
                   "เจ้าชอบงั้นเหรอ?"  มินซอกหันมาพยักหน้ารับอีกคนพร้อมฉีกยิ้มมองความประทับใจรอบๆตัวก็ท้องฟ้าแบบนี้น่ะโซลมีให้เห็นซะที่ไหนแล้วไหนจะยังอากาศที่บริสุทธิ์แบบนี้เรียกได้ว่าหายเครียดเป็นปริทิ้งเลยล่ะ  
     
     
     
     
                   "เมืองที่ฉันอยู่น่ะถึงจะไม่ได้ย่ำแย่อะไรมากแต่ผู้คนต่างอยู่ด้วยสิ่งที่เรียกว่าความเห็นแก่ตัว
     
     
     
     
              จู่ๆร่างบางก็เอ่ยขึ้นมาพร้อมทิ้งตัวนั่งกับกิ่งไม้ทำให้จงแดต้องนั่งตาม มินซอกหันมายิ้มให้กับจงแดก่อนจะถอนหายใจกับโลกที่แสนวุ่นวายของตนเอง  "เจ้าคงไม่ชอบใจเมืองของเจ้ามากเลยสินะ"
     
     
     
     
                   "ไม่หรอกถึงมันจะวุ่นวายเห็นแก่ตัวหรือไม่ดียังไงแต่สิ่งที่เยี่ยมที่สุดสำหรับเมืองฉันคงเป็นรอยยิ้มล่ะมั้ง เพราะรอยยิ้มเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่างทั้งมิตรภาพการค้าหรือแม้กระทั่งความรัก"
     
     
     
     
              เอ่ยพร้อมส่งยิ้มให้อีกคน ได้เห็นภาพแต่ใครจะรู้ว่าการกระทำของมินซอกมันทำให้หัวใครที่เคยนิ่งเฉื่อยราวกับไม่มีอยู่ให้เต้นรัวได้ จงแดชายตามองรอยยิ้มของอีกคนมันเป็นภาพที่จงแดไม่สามารถละสายตาไปไหนได้เลย
     
     
     
     
                   'มินซอก...ข้าว่าข้าคง ตกหลุมรัก เจ้าเสียแล้วล่ะ'
     
     
     



























     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
              กี่วันแล้วเนี่ยกี่วันแล้วที่คิมมินซอกต้องอยู่ที่นี่ดินแดนที่มหัศจรรย์ถึงมินซอกจะชอบมากแค่ไหนแต่ก็อดคิดถึงโลกของตนเองเป็นไม่ได้แต่มันก็ไม่แย่ขนาดนั้นทุกวันนี้มินซอกเองมีความสุขที่อยู่ที่นี่กลายเป็นที่รู้จักของชาวเมืองทุกคนและที่สำคัญดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของเขากับจงแดจะดู...
     
     
     
     
                   'คืบหน้าไปมากกว่าที่คิด'
     
     
     
     
                   "เจ้าอยู่นี่เองข้าตามหาเจ้าซะทั่วเลยนะ"
     
     
     
     
              เสียงเรียกทางด้านหลังเรียกให้คนที่ยืนอยู่ริมรั้วของปราสาทหันมามอง รอยยิ้มอบอุ่นถูกส่งมาให้พร้อมมือหนาที่ขยี้เส้นผมของมินซอกอย่างเอ็นดูบางครั้งการที่จงแดมีมินซอกมันดูจะส่งผลดีไปทุกอย่างเพราะมินซอกเปลี่ยนเจ้าชายที่เย็นชาให้กลับมาเป็นเจ้าชายที่แสนดีของประชาชน เขาว่าถ้าลูกมีความสุขพ่อแม่ก็สุขไปด้วยอะไรจะดีกว่าการได้กลับมาเห็นรอยยิ้มและท่าทางสดใสของเจ้าชายไม่ว่าจะมาจากใครมันก็ดีใช่ไหมล่ะ
     
     
     
     
                   "ฉันไม่ใช่เด็กนะจงแด"
     
     
     
     
                   "ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแต่ข้าว่ามันก็น่ารักดีนะ"  ว่าพร้อมขยี้เส้นผมเรื่อยๆจนมินซอกต้องตีเข้ากับอกแกร่งเรียกเสียงหัวเราะได้อย่างดี มือบางยกขึ้นถูกับแขนตนเองเมื่อสายลมพัดพาความหนาวเย็นมาเยือน จงแดถอดผ้าคลุมของตนเองออกก่อนจะใช้มันคลุมไหล่ให้กับอีกคน
     
     
     
     
              มินซอกส่งยิ้มขอบคุณก่อนจะอิงซบกับไหล่กว้างให้ร่างสูงได้โอบไหล่ไว้คลายความหนาว  "กลับเข้าปราสาทเถอะอากาศเย็นแล้วเดี๋ยวเจ้าจะไม่สบายนะ" 
     
     
     
     
              มือหนาเอื้อมไปคว้ามือบางมากอบกุมไว้พร้อมกับออกแรงให้อีกคนเดินตามเข้ามายังภายในตัวปราสาท เมื่อเดินทางห้องโถงใหญ่สายคมเหลือบไปเห็นผู้เป็นบิดาและมารดายืนปรึษาหารือกันอย่างเคร่งเครียดพร้อมมองมาทางตนและมินซอก
     
     
     
     
              จงแดมองเห็นบิดาของตนผยักหน้าให้กับมารดาก่อนจะเดินเข้ามาทางตนพร้อมรอยยิ้ม ราชินีกุมมือของจงแดและมินซอกเอามองไปยังดวงตาของทั้งสองคนและเอ่ยในสิ่งที่ปรึกษามาอย่างดีแล้วกับสามีของเธอเอง
     
     
     
     
                   "คืองี้นะจงแด แม่และพ่อมีความคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่ลูกจะต้องแต่งงานและขึ้นปกครองเมืองในฐานะผู้ปกครองคนใหม่"
     
     
     
     
                   "ท่านแม่หมายความอย่างไงกัน?"  ทั้งจงแดและมินซอกต่างมองหน้ากันในคำพูดของราชินี ดวงตากลมดูหมองลงเมื่อได้ยินคำบอกกล่าวทำใหัราชินีระบายยิ้มออกมาเอามือแตะปลายคางร่างบางให้เงยมองตนพร้อมส่งยิ้มอบอุ่นให้
     
     
     
     
                   "แม่ก็หมายความว่าจะให้เจ้าทั้งสองแต่งกันยังไงล่ะ"
     
     
     
     
                    "ท...ท่านแม่ว่าอย่างไรนะ จริงหรือเปล่าข...ข้าดีใจมากๆเลยนะ"
     
     
     
     
              จงแดหันมายิ้มให้กับมารดาของตนและมองคนข้างกายที่มีสีหน้าตกตะลึงอยู่ไม่น้อย ร่างสูงรวบเอวบางเข้ามาใกล้ตัวและอุ้มมินซอกขึ้นพร้อมหมุนไปรอบๆตัวดวงตาสองคู่สบประสานกันก่อนที่ใบหน้าคมจะเคลื่อนเข้าใกล้พร้อมกดจูบที่ริมฝีปากบางเบาๆ ความสุขพรั่งพรูเข้ามาทำให้ลืมไปว่าที่แห่งนี้ไม่มีแค่จงแดและมินซอก
     
     
     
     
                   "เกินหน้าไปมั้ยเจ้าลูกชาย"  ราชินีว่าพร้อมเดินจากไปทิ้งให้จงแดและมินซอกมองตามตาปริบๆจนมินซอกต้องตีลงที่อกแกร่งให้ปล่อยตนลง สองสายตายังมองสบกันไม่ลดละไม่ใครเอ่ยสิ่งใดออกมา  "ข้าว่าเรากลับไปข้างบนกันดีไหม?"
     
     
     
     
              มือบางตีลงอกแกร่งอีกครั้งใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อเรียกรอยยิ้มจากจงแดได้เป็นอย่างดี มือหนารวบเอวบางไว้พร้อมออกแรงดันให้เดินไปพร้อมกันแต่ยังไม่ทันที่จะก้าวขึ้นบันไดไปแรงเปิดประตูจากอีกฝั่งของห้องโถงก็ถูกเปิดออกด้วยฝีมือของจุนมยอน
     
     
     
     
              จงแดหันไปมองยังคนที่ตรงเข้ามาหาพร้อมสีหน้าตื่นตะหนกเล็กน้อย จุนมยอนมองหน้าของจงแดและมินซอกสลับกันเหมือนพยายามจะเอ่ยสิ่งใดแต่ก็ไม่กล้าจนร่างสูงทนไม่ไหวจึงพยักหน้าให้จุนมยอนเอ่ยในสิ่งที่คาใจออกมา
     
     
     
     
                    "คือข้าของคุยกับมินซอกได้ไหมพะยะค่ะ"
     
     
     
     
              ดวงตามองไปยังร่างบางข้างตัวก่อนจะได้รับการพยักหน้ายอมรับ มือหนาละจากเอวบางหันหลังให้ก่อนจะก้าวขึ้นบันไดไปพล่อยหลังจงแดเดินไปแล้วจุนมยอนมือสีหน้าวิตกกังวลมากกว่าเดิมเมื่อมองหน้ามินซอก ทำให้ร่างบางต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างอยากลำบาก
     
     
     
     
                   "จุนมยอนมีอะไ..."
     
     
     
     
                   "มินซอกต้องไปจากเจ้าชายนะ!!"  มือขาวของจุนมยอนยื่นมาจับไหล่บางไว้พร้อมเอ่ยขัดมินซอก ดวงตากลมเบิกกว้างทันทีที่ได้ยิน "มันเกิดอะไรทำไมล่ะทำไมฉันต้องไป?"
     
     
     
     
              จุนมยอนหลับตาอย่างเคร่งเครียดพร้อมทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรง มินซอกย่อตัวลงตามจุนมยอนมองสีหน้าอีกคนที่เครียดไม่หายลมหายใจถูกสูดเข้าจนเต็มปอดก่อนที่จุนมยอนจะมองใบหน้านวลและเอ่ยสิ่งที่ตนพบเจอมาจากการค้นคว้า
     
     
     
     
                   "มินซอกเจ้าฟังข้านะ เจ้ากำลังทำเรื่องผิดมหัตเจ้ากำลังทำให้หัวใจของเจ้าชายจงแดกลับมา"
     
     
     
     
                    "ล...แล้วมันไม่ดีต...ตรงไหนเหรอ??"
     
     
     
     
                   'เมื่อหัวใจของเจ้าชายกลับมาเจ้าจะหายไปตลอดกาลไม่มีวันได้กลับมาพบเจอเจ้าชายได้อีก'
     
     
     
     
              คำพูดของจุนมยอนยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของมินซอกร่างบางก้าวเดินไปตามทางอย่างหมดเรี่ยวแรง หายไปงั้นเหรอ?หมายความว่าเขาจะไม่ได้พบเจอกับคนที่รักอีกแล้วอย่างงั้นเหรอ? มินซอกเดินเข้ามายังภายในห้องนอนของจงแดมองเห็นร่างสูงยืนรับลมอยู่ริมระเบียงของห้อง
     
     
     
     
              หยาดน้ำใสไหลจากดวงตากลมมือบางยกขึ้นปิดปากของตนไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมาให้จงแดได้ยิน แต่เขาทำไม่ได้มันเกินขะกักเก็บไว้จริงๆเสียงสะอื้นดังไปทั่วห้องทำให้จงแดหันมามองร่างบาง
     
     
     
     
              จงแดรีบวิ่งมาหามินซอกพร้อมโอบกอดอีกคนไว้ดวงตาคมฉายแววความวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด ริมฝีปากกระจับเตรียมจะเอ่ยแต่ก็ถูกมือบางป้องเอาไว้จงแดปล่อยให้มินซอกได้ร้องไห้อย่างเต็มทีทำเพียงแค่กอดปลอบร่างบางไว้อย่างนั้น
     
     
     
     
                   "เจ้าจะบอกข้าได้หรือยังว่าสิ่งใดที่ทำให้เจ้าต้องเสียน้ำตา"
     
     
     
     
               มินซอกผละออกจากอ้อมกอดของจงแดมือบางยกทาบกับใบหน้าคมไว้ก่อนจะส่ายศีรษะปฏิเสธช้าๆพร้อมรอยยิ้ม มือหนายกขึ้นทาบใบหน้านวลเช่นกันก่อนจะใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาให้
     
     
     
     
                     "ม...มัน ฮึก ไม่มี...ไม่มีใครทำอะไรทั้งนั้นฉ... ฮึก ฉันก็แค่ดีใจ"
     
     
     
     
               จงแดระบายยิ้มอย่างโล่งอกแต่ในหัวยังไม่เชื่อคนตรงหน้าเขาจะร้องไห้เพราะดีใจ จงแดประคองมินซอกให้ลุกขึ้นยื่นและเดินไปยังระเบียงห้องด้วยกัน สวมกอดร่างบางจากด้านหลังรัดแน่นเหมือนกลัวจะสูญเสียคนข้างหน้าไปยิ่งสร้างน้ำตาให้กับมินซอก มือบางวางทับแขนหนาจับแน่นไม่ต่างจากคนด้านหลังของตน
     
     
     
     
                   "จงแด.."
     
     
     
     
              เสียงเรียกแผ่วเบาทำให้จงแดคลายอ้อมกอดและหันคนข้หน้าให้มามองตนก่อนจะส่งรอยยิ้มอบอุ่นให้กับมินซอก ดวงตากลมยังคงล่องรอยของคราบน้ำตาเอาไว้มือบางยกขึ้นโอบรอบคอของร่างสูงเอาไว้ทิ้งศีรษะลงซบกับหน้าอกแกร่ง มือหนาโอบรอบเอวบางไว้พร้อมซบลงกับศีรษะของมินซอกขานรับในคอให้มินซอกรู้ว่าเขารับฟังอยู่
     
     
     
     
                   "จูบ...จูบฉันหน่อยได้ไหม..."
     
     
     
     
                   'ตึกๆ'
     
     
     
     
     
              สิ้นคำขอจากมินซอกริมฝีปากกระจับก็ประกบลงกับริมฝีปากบางทันที จงแดละมือข้างหนึ่งขึ้นมาจับปลายคางของมินซอกให้เอียงเอนเพื่อปรับองศาในการมอบรสจูบ สายลมพัดโหมกระหน่ำมายังคนสองคนพัดพาร่างบางให้ล่องลอยขึ้นจงแดผละจูบออกจากมินซอกพร้อมกับยื้อร่างบางไว้แน่น
     
     
     
     
              มินซอกจับแขนเสื้อของจงแดไว้มั่นก่อนจะโอบรอบคอและกอดร่างสูงไว้ ริมฝีปากบางประทับกับริมฝีปากกระจับแผ่วเบาก่อนจะเคลื่อนไปหน้าผากของจงแดมอบจุมพิตสุดท้ายไว้ให้ก่อนที่แสงสว่างจะส่องแสงรอบตัวคนสองคนให้ได้หลับตา ความรู้สึกสุดท้ายที่ได้รับสัมผัสสุดท้ายที่ได้ลอง...
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
         
     
     
     
     
     
























     
     
              ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้นก่อนที่เจ้าของห้องจะลุกจากการฟลุบโต๊ะมองสำรวจสิ่งรอบๆตัวให้แน่ใจว่าที่นี่คือที่ไหน แสงแดดทอแสงส่องลงมากระทบทำให้ดวงตากลมปรับโฟกัสได้ชัดขึ้นมินซอกมั่นใจว่าที่นี่คือห้องของเขาเอง
     
     
     
     
              มือบางยกขึ้นจับศีรษะก่อนจะสะบัดไล่ความมึนหัวออกไป พาตัวเองลุกจากโต๊ะเขียนหนังสือมองดูนิยายที่จำได้ว่าอ่านเมื่อหลายคืนถูกเปิดหน้าสุดท้ายเอาไว้แต่กลับจำไม่ได้ว่าตนไปอ่านตอนไหนก็ในเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมานี้มินซอกอาศัยอยู่ดินแดนแห่งหนึ่งแท้ๆ เจอผู้คนมากมายและเจอกับ...
     
     
     
     
                   'ความรัก'
     
     
     
     
                   "ฝันหรอกเหรอ?"  มินซอกพร่ำเพ้อถึงความฝันที่เหมือนจริงจนน่ากลัวแต่ร่างบางก็ขับไล่ความสับสนออกไปก่อนจะมองไปที่นาฬิกาบนผนังพรันดวงตากลมก็เบิกกว้างขึ้นอีกเมื่อเหลือบไปเห็นปฏิทินและมันจะไม่ตกใจเลยถ้าวันนี้ไม่วงด้วยปากกาเคมีสีแดงเด่นชัดและเขียนว่าประชุมด่วน
     
     
     
     
                   "เฮ้ย!สายปานนี้แล้วเหรอวะบ้าๆไปๆมินซอกไปอาบน้ำ"
     
     
     
     
              บอกกับตัวเองพร้อมเดินวุ่นหาเอกสารในการประชุมและหยิบข้าวของในการอาบน้ำมาด้วยมินซอกที่วุ่นเดินผ่านกระจกบานใหญ่ก็ต้องหยุดลงทิ้งข้าวของในมือให้ล่วงสู่พื้นพร้อมน้ำตาที่ไหลรินออกมา
     
     
     
     
              ทั้งชุดและผ้าคลุมยังคงอยู่บนตัวเขาทุกอย่างเป็นความจริงและมันจริงยิ่งขึ้นเมื่อคำพูดของจุนมยอนเป็นจริง หายไปคืออย่างนี้สินะหายไปจากโลกของจงแดแต่กลับมาสู่โลกของตนเองเขาควรจะดีใจใช่ไหมอะไรมันน่าดีใจและเสียใจมากกว่ากันระหว่างกลับมาสู่โลกของตัวเองและไม่มีคนรักหรืออยู่ในโลกที่ไม่ใช่ของตนเองแต่มีคนให้รัก
     
     
     
     
              มินซอกค่อยๆปลดทุกสิ่งทุกอย่างให้พ้นจากร่างกายก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัวหวังให้สายน้ำพัดพาความเศร้าให้หายไปและพร้อมเผชิญโลกแห่งความเป็นจริงแทน
     
     
     
     
                   "มาช้านะมินซอกรู้ไม่ใช่เหรอว่าวันนี้มีประชุมน่ะ!?"
     
     
     
     
                   "แฮ่ๆขอโทษนะเทาฉันตื่นสายน่ะก็มัวแต่หาแนวเรื่องตามนายบอกไงเล่า"  เข้ามาถึงบริษัทก็โดนบอกอคนสนิทอย่างเทาเล่นงานเข้าให้ก็นายนี่ไม่ใช่เหรอที่ทำให้เขาต้องอ่านนิยายแฟนตาซีตั้งเยอะแยะ เทาถอนหายใจพร้อมกุมขมับของตนเองและพามินซอกเดินไปยังห้องประชุม
     
     
     
     
                   "วันนี้นายต้องเจอกับบอกอคนใหม่ของนายนะ"
     
     
     
     
                   "เดี๋ยวสิแล้วนายล่ะ!"  ก่อนที่เทาจะหมุนกรประตูเข้าห้องประชุมไปมินซอกก็ดึงชายเสื้อไว้เพื่อยื้อให้อีกคนหันมาคุยกันแต่เทากับทำเพียงแค่ส่งยิ้มและเปิดประตูเดินเข้าไป มินซอกถอนหายใจกับการกระทำของบอกอคนสนิทก่อนจะเดินตามไปอย่างอารมณ์เสีย
     
     
     
     
                   "ขอโทษที่ทำให้รอนะจงแด"
     
     
     
     
                   "อ่า ไม่เป็นไรครับ"  มินซอกรีบเดินมาอยู่ข้างเทาทันทีที่ได้ยินชื่อของคนที่อยู่ในห้องก่อนแล้ว สองสายตาสบประสานกันไม่มีสิ่งใดเอ่ยออกมา เหมือนทุกอย่างทุกสัดส่วนทำให้คนสองคนต้องตกอยู่ภวังค์ของตนเอง เทามองคนสองคนที่สบตากันพร้อมทำหน้าตะลึงอย่างกับเจอผีจนต้องกระแอมไอให้สติของมินซอกและจงแดกลับมา
     
     
     
     
                   "เอ่อมินซอกนี่คุณจงแดตั้งแต่วันนี้ไปเขาจะมาเป็นบอกอให้การ์ตูนของนาย"  
     
     
     
     
              มินซอกพยักหน้ารับช้าๆแต่สายตายังคงตะลึงกับสิ่งที่เจอก็จงแดคนนี้น่ะเหมือนจงแดคนนั้นมากๆผิดแค่ชุดตามกาลเวลาแค่นั้นเองและดูเหมือนจงแดเองก็จะตกตะลึงกับการที่ได้เห็นใบหน้าของมินซอกอยู่เหมือนกัน  "ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวนะจะไปพบนักเขียนใหม่เหมือนกันงั้นพวกนายก็เริ่มงานเลยนะ"
     
     
     
     
                   "เดี๋ยวๆ น....นายจะไปไหนเทา นักเขียนอะไรชื่ออะไร?"
     
     
     
     
                   "แลนายจะรักฉันเหลือเกินนะวันนี้ ก็วันนี้มีนักเขียนมาใหม่และฉันก็ต้องรับผิดชอบถ้าจำไม่ผิดชื่อจุนมยอนมั้ง งั้นฉันไปนะ"
     
     
     
     
              เทาว่าอย่างนั้นก็จะเดินออกจากห้องไปทิ้งให้มินซอกยืนเกร็งอยู่กับจงแด ดวงตากลมพยายามเสมองไปทางอื่นและทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้ในห้องประชุม  "ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ"
     
     
     
     
                   "งั้นเรามาเริ่มงานเลยไหมครับ? คือ..."  
     
     
     
     
              จงแดเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาทุกอย่างและเว้นระยะไว้ให้มินซอกได้เงยมามองรอให้อีกคนเอ่ยออกมาแต่ก็ไม่ มินซอกเลยพยักหน้ารับพร้อมลุกจากเก้าอี้  "งั้นเดี๋ยวไปที่โต๊ะฉันดีกว่างานอยู่ตรงนั้นน่ะ"
     
     
     
     
              จงแดพยักหน้ารับพร้อมลุกตามมินซอกไปแต่ดูจากอาการเกร็งของคนตรงหน้าแล้วทำให้จงแดไม่อยากคิดไปเองว่าสิ่งที่เขาคิดมันจะใช่ มินซอกเดินตัวเกร็งจนไม่ทันระวังว่ามีเก้าอี้ขว้างทางอยู่ร่างบางสะดุดเข้าอย่างจังกับขาเก้าอี้แต่มือหนาเอื้อมไปคว้าไว้ได้ทันเสียก่อนทำให้มินซอกอยู่ในอ้อมกอดของอีกคน
     
     
     
     
                   "เอ่อ.../เอ่อ..."
     
     
     
     
              มินซอกพยักหน้าเป็นเชิงให้จงแดเอ่ยขึ้นก่อนตนเองร่างสูงมองคนในอ้อมกอดอย่างชั่งใจแต่ก็เอ่ยออกไปในที่สุด  "เรา...เคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าครับ?"
     
     
     
     
                   "อย่าบอกนะว่านาย"
     
     
     
     
                   "ครับคือเมื่อคืนก่อนจะมาทำงานที่นี่ผมฝันแปลกประหลาดว่าตัวเองเป็นเจ้าชายและเจอคนรักที่หน้าตาเอ่อ...คล้ายคุณแล้วก็ชื่อด้วย"
     
     
     
     
              ว่าพร้อมประคองให้มินซอกยืนตัวตรงตามเดิมจงแดตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ามีหยาดน้ำตาใสไหลรินจากดวงตากลม มินซอกพุ่งตัวเข้าหาอีกคนพร้อมกอดเอาไว้แน่นน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ใครพร้อมพยักหน้ารับทั้งน้ำตา
     
     
     
     
                   "ใช่ฉันเองนั่นฉันเอง!!!"
     
     
     
     
              รอยยิ้มอบอุ่นระบายออกมาพร้อมมือหนาที่ยกกอดปลอบมินซอกเอาไว้ก่อนจะเปลี่ยนเป็นกอดรัดแน่น รอยยิ้มยังคงประดับอยู่บนใบหน้าคมก่อนจะเอ่ยออกมา
     
     
     
     
                   "คร่าวนี้ผมจะไม่ปล่อยคุณให้หายไปต่อหน้าอีกแล้วนะมินซอก"
     
     
     
     
              ไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ก็ในเมื่อความรักยังคงติดตรึงอยู่ในใจของพวกเขาความรักนี่เป็นเรื่องน่าประหลาดนะพวกเจ้าว่ามั้ย? แต่ทำยังไงได้ล่ะในเมื่อนั่นมันคืองานของข้าอู๋อี้ฟานกามเทพสุดหล่อคนนี้และดูเหมือนงานข้าจะเสร็จไปอีกหนึ่งงาน อ่อพวกเจ้าสนใจรับนิยายเรื่องนี้ไปอ่านไหมล่ะไม่แน่พวกเจ้าอาจจะเจอมากกว่าสิ่งที่ตามหาอยู่ก็เป็นไปได้นะ
     
     
     
     
                   'ข้ารับประกัน'



































































































    -----------------------------------------------



    กลับมาแล้วค่าสมองตันมากๆช่วงนี้ 5555555555555
    ขอบคุณทุกคอมเมนต์มากนะฮ้าป


    #CMมีอยู่จริงหรือเปล่า
    @Cminor2199
     
     
     










     
     
     
     
     
     
     
              
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×