ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Photograph memory (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #9 : Photograph memory -9-

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ย. 57



    Photograph memory -9-
     
     
     



     
     
     




     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     เราสองคนเดินออกมาจากโรงหนังเมื่อภาพยนต์ที่ดูจบลงแต่อารมณ์คนข้างๆยังไม่จบ "โหยหนังอะไรอ่ะดูไม่เห็นรู้เรื่องเลย"
     
     ผมเดินกุมมือของมินซอกไปตามทางพรางเลิกคิ้วขึ้นมองอีกคน แล้วใครกันที่เอ็ดผมแล้วบอกว่าหนังกำลังสนุก อยากจะเอ่ยล้อเลียนใจแทบขาดแต่ดูจากคดีที่ทำในโรงหนังคนตัวเล็กคงได้งอนผมแน่ๆ
     
     ผมก้าวเท้าลงมายังบันไดเลื่อนโดยมีมินซอกยื่นอยู่ด้านข้าง สายตาเหลือบมองเห็นร้านค้าที่สะดุดตาเข้าจนคนข้างๆต้องดึงแขนเสื้อเพื่อให้ผมหันกลับมามองทางข้างหน้า
     
     "จงแดอยากกินไอติมอ่า"
     
     มินซอกเกาะแขนของผมพร้อมกระตุกแขนเสื้อแล้วชี้ไปยังร้านไอศครีม ผมส่งยิ้มให้คนน่ารักแล้วยกมือขึ้นขยี้ศรีษะของมินซอกอย่างหมั่นเขี้ยว
     
     "อายุเท่าไรแล้วครับ? ร้องจะกินไอติมเนี่ย"
     
     "ไม่เกี่ยวสักหน่อย น่านะ"
     
     ดวงตากลมโตส่งประกายระยิบระยับมาให้ผม ลูกอ้อนมินซอกนี่มันร้ายจริงๆแล้วใครจะไปทนไหวล่ะ "โอเคๆ แต่มินซอกเข้าไปสั่งก่อนนะเดี๋ยวฉันมา"
     
     ผมเอ่ยทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินห่างออกมาจากคนตัวเล็ก รีบเดินจ้ำอ้าวไปยังร้านที่หมายตาไว้ตั้งแต่แรก ร้านขายกล้อง มันจะไม่พิเศษอะไรเลยถ้าไม่ได้ขายเฉพาะกล้องฟิล์มและแน่นอนว่าต้องมีฟิล์ม
     
     ครั้งแรกที่เห็นร้านนี้มันทำให้ผมนึกถึงกล้องฟิล์มของพ่อที่มักจะพกติดรถไว้ตลอด ตั้งแต่ผมเริ่มขึ้นปีสี่กล้องนั่นผมก็แทบไม่ได้แตะเลยเพราะงานที่ยุ่งและบวกกับนวัตกรรมใหม่ๆที่เกิดขึ้น
     
     ผมเลยแทบไม่สนใจกล้องนั่นเลยเพราะข้อจำกัดของมันเยอะเกินกว่ากล้องสมัยใหม่แต่ก็ให้อารมณ์ที่แตกต่างออกไป
     
     "รับอะไรดีครับ"
     
     พยักงานของร้านเดินออกมายิ้มต้อนรับผมอย่างเป็นเอง ผมกวาดสายมองไปยังฝ่ายในร้านที่ตกแต่งสไตร์คลาสสิคแถมร้านนี้ยังขายแค่กล้องฟิลม์รุ่นเก่าซะด้วยสงสัยต้องมาบ่อยๆ
     
     "ขอฟิล์มที่ใส่กับกล้องตัวVoigtlander Vitomatic iiaได้ครับ"
     
     พนักงานพยักหน้ารับผมก่อนจะเดินเข้าไปหลังร้านและออกมาพร้อมสิ่งที่ผมต้องการ ผมจ่ายตังค่าฟิล์มนั่นแล้วเดินออกจากร้านตรงไปยังร้านไอศครีมที่มินซอกนั่งรออยู่
     
     คนตัวเล็กของผมกำลังตักไอศครีมกินอย่างเอร็ดอร่อยผมเดินตรงไปยังโต๊ะของมินซอกทันทีแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม "อร่อยไหม?"
     
     "จงแดมาช้าจังฉันจะสั่งถ้วยที่สองแล้วนะ"
     
     ผมยิ้มหัวเราะให้กับคนตรงหน้าจนโดนมินซอกส่งค้อนมาให้ มินซอกเลิกให้คาวมสนใจผมแล้วเปลี่ยนมาเป็นสิ่งของที่ผมซื้อมาแทน
     
     "จงแดซื้ออะไรมาเหรอ?"
     
     ผมล้วงลงไปในถุงของร้านหยิบกล้องใส่ฟิล์มถ่ายภาพขึ้นมาให้อีกคนดู มินซอกรับไปดูอย่างสนอกสนใจมือบางยกกล่องข้างหูแล้วเขย่าเบาๆเหล่ากับเด็กน้อยก่อนจะส่งคืนผม
     
     "ฟิล์มถ่ายรูปน่ะ"
     
     "จงแดจะใช้กล้องนั่นเหรอ?"
     
     ผมยิ้มให้กับคนตรงหน้าและท่าทางราวกับเด็กน้อยพรางทำหน้านึกคิด "ก็ไม่เชิง มินซอกสนใจมาเป็นแบบให้ฉันอีกไหมล่ะ?"
     
     ใบหน้านวลนั่นดูจะมีสีขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากที่ผมเอ่ยถึงเหตุการณ์ครั้งก่อน ส่ายหัวปฏิเสธอย่างรวดเร็วก่อนที่มือบางจะตักไอศครีมขึ้นมาแต่ก็โดนผมยื่นมือไปจับมือบางไว้แล้วส่งไอศครีมเข้าปากตัวเองแทน
     
     "มือพิการหรือไงจงแด?"
     
     ผมยักคิ้วให้อีกฝ่ายก่อนจะหยิบลูกเชอร์รี่สีสดแล้วยื่นไปที่อีกคน มินซอกมองลูกเชอร์รี่สลับกับผมไปมาจนน่าเอ็ดดู
     
     "ฉันป้อนคืนไง จะได้หายกัน"
     
     คนตัวเล็กงับเข้าที่ลูกเชอร์รี่ทันทีที่ผมเอ่ยจบก่อนจะก้มหน้าก้มตาตักไอศครีมกินต่อไป "มินซอกรู้ไหมว่ากล้องฟิล์มดียังไง?"
     
     มินซอกเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมเสี้ยววินาทีก่อนจะเสสายตาไปทางอื่น "ฉันไม่ได้เรียนมานี่จะไปรู้เหรอ"
     
     ว่าพร้อมเอียงหัวตามสไตร์ตัวเองจนผมต้องยื่นมืออกไปบีบแก้มนุ่มนั่น มินซอกตีเข้าที่มือของผมผมเลยลดมือลงจากแก้มนุ่มเปลี่ยนเป็นมือบางแทน โน้มตัวเข้าไปใกล้อีกคนแล้วตอบคำถามนั้น
     
    "มันดีตรงที่เราสามารถเก็บไว้ได้แต่สิ่งสำคัญไง และมินซอกก็คือสิ่งสำคัญของฉันเสียด้วยสิ"
      


     
    .
    .
    .





     
     "โอ้โหหหหหหห ท่านจงแดนี่เก่งจริงๆทำข้อสอบเสร็จคนแรกเลยว่ะ"
     
     เสียงกวนตีนของชานยอลที่เอ่ยล้ออยู่ด้านหลังผมตลอดทางที่เดินออกมาจากห้องสอบ สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์แห่งการสอบนั่นก็หมายถึงว่าเวลาแห่งการเป็นนักศึกษาของผมกำลังจบลง..
     
     "เลิกประชดกูสักทีกูรำคาญ มึงทำเหมือนเสียงมึงสดใสน่าฟังเนอะ"
     
     "แหมก็มึงมันขั้นเทพนี่หว่า"
     
     ชานยอลว่าพร้อมนั่งลงกับโต๊ะนั่งกลางสวนของคณะ ผมนั่งตามลงฝั่งตรงข้ามมันไม่วายหยิบเอาเศษใบไม้บนโต๊ะปาใส่มัน
     
     "เลย์อ่ะ"
     
     "เฮ้ยกูไม่ได้ซื้อมา ยังไม่ได้ไปมินิมาร์ทเลย"
     
     "ไอ้คุณหูกางครับคุณจางอี้ชิงไปไหน กูไม่ได้อยากแดกขนมควาย!!"
     
     มันทำปากลมแบบเข้าใจก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์จากกระเป้ของมันออกมาโทรหาเพื่อนอีกคนที่ชอบหายไปอย่างลับๆ คุยอยู่สองสามคำมันก็กดวางสายไป
     
     "ว่าไงอยู่ไหน?"
     
     "อาจาร์ยเรียกมันเดี๋ยวก็มา"
     
     ก็แค่เนี้ยไม่เข้าใจมันจะเอาฮาไปถึงไหนบ้านเป็นตลกเหรอวะ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นบ้างแต่ก่อนที่จะได้เล่นอะไรข้อความจากโปรแกรมแชทของมินซอกก็เข้ามาเสียก่อน
     
     'ตั้งใจสอบนะ ถ้าฉันเสร็จแล้วจะโทรหา สู้ๆ :) ❤'
     
     ท่าทางคนตัวเล็กจะไม่รู้เลยว่าผมสอบเสร็จแล้ว ผมก้มตอบข้อความโปรแกรมแชทของมินซอกพร้อมยิ้มไปด้วย อ่ากำลังใจล้นหลามยังไงไม่รู้สิ
     
     "ฮั่นแน่ ยิ้มอะไรครับเพื่อนเป็ดไหนดูดิ๊"
     
     ชานยอลยื่นมือมันมาหมายจะคว้าโทรศัพท์ของผมไปแต่ผมเอี้ยวหลบมันได้เสียก่อน รีบตอบรีบล็อคหน้าจอพร้อมเก็บลงกระเป๋ากางเกงทันทีและดูเหมือนไอ้ชานยอลจะไม่ละความพยายามมันย้ายตัวเองมานั่งข้างผมทั้งจี้เอวทั้งเอามือล้วงในกระเป๋ากางเกงผมไปด้วย
     
     อ้ากกกคคนหล่อโดนทารุณเฮวมีพลีสสสสสส ~
     
     "เล่นอะไรของพวกมึงเนี่ย?"
     
     เสียงสวรรค์เอ่ยขึ้นเพื่อหยุดการกระทำอันแสนรุนแรง(?)ของไอ้เพื่อนกูกาง ไอ้เลย์เดินเข้ามาพร้อมทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามอย่างเซ็งกะตาย
     
     ผมและชานยอลหันมองหน้ากันสลับกับเพื่อนหน้ามึนจนโดนมันส่งสายตาอาฆาตมาให้ "เป็นไรวะ?" แล้วเป็นชานยอลที่เป็นหน่วยกล้าตายถามถึงสภาพอารมณ์มัน
     
     "อาจารย์บอกให้เวลาสามอาทิตย์เพื่อส่งโปรเจกจบ"
     
     "อ๋อ ~ ห๊ะ!/ห๊ะ!"
     
     "มึงจะประสานเสียงกันทำไมเนี่ยรำคาญ"
     
     ไอ้บ้าไม่ให้ประสานเสียงก็บ้าแล้วอีกสามอาทิตย์กับการจัดแกลลอรี่ของตัวเองนะเว๊ยบ้าไปแล้ว อ่าผมล่ะอยากจะไปโดดทะเลให้ตายแล้วขึ้นมาโดดใหม่ อาทิตย์สอบก็ยังไม่พ้นไหนจะต้องไปจัดแกลลอรี่ภาพถ่ายแล้วไหนจะไหนจะ....
     
     อีกบาน - -
     
    "กูอยากจะบ้าโหดมหาหินไปแล้ว"
     
     แต่ดูเหมือนไอ้ชานยอลมันจะไปก่อนผมแล้วล่ะครับ มันว่าพร้อมทิ้งหัวลงบนโต๊ะแรงๆแล้วใช้กระเป๋าผมลองหน้ามันก่อนจะตะโกนระบายใส่กระเป๋า ถ้ามันติดน้ำลายมึงล่ะก็น่าดู - -
     
     "มึงเลิกโวยสักทีโปรเจกมึงไปทำเสร็จๆก่อนไหม"
     
     ไอ้เลย์ทุบโต๊ะดังจนโต๊ะรอบๆเริ่มหันมามองผมได้แต่หันไปขอโทษแทนไอ้เพื่อนบ้าทั้งสองที่สติมันเริ่มไปไกลแล้ว อีกคนก็ลืมกินยาประสาทอีกคนก็เมนไม่มาหล่อล่ะเครียด
     
     "เอ่อพูดถึงโปรเจกแล้วไอ้หัวข้อที่ถ่ายอะไรก็ได้ที่มีความสุขอะไรเนี่ย พวกมึงถ่ายอะไรมา?"
     
     ชานยอลที่ดูจะได้ระบายแลัวก็มีสติเงยหน้าจากกระเป๋ามาถามถึงผลงานโปรเจกของพวกผม "กูก็เอารูปฟรีเวดดิ้งมาดิ คนอย่างกูความสุขไม่มีหรอก"
     
     เลย์เอ่ยตอบเป็นคนแรก ชานยอลหันหน้ามาทางผมพร้อมส่งสายตาหมาหงอยเป็นเชิงบอกให้ผมตอบมัน "กูไม่บอก แต่พวกมึงต้องช่วยกูทำแน่นอน"
     
    "เฮ้ยๆไม่บอกไม่ช่วยนะ"
     
     ชานยอลนั่งตัวตรงพร้อมส่งนิ้วของมันมาจิ้มที่หน้าผากของผมเล่น ผมใช้มือปัดออกพร้อมยกเท้าขึ้นมาทำท่าจะถีบมันให้
     
     "เรื่องของกู"
     
     แล้วก็มีแค่ผมกับมันที่ส่งเสียงหัวเราะร่าอยู่สองคน ก็ไอ้เลย์น่ะเอาแต่นั่งท้าวคางทำอย่างกับหมาตาย
     
     "มึงจะไปไหนกันไหม จงแด? เลย์?"
     
     "กูจะไปรับมินซอกแต่รอให้สอบเสร็จอยู่เนี่ย" 
     
     ยังไม่ทันที่ชานยอลขะตอบอะไรเสียงเตือนจากโปรแกรมแชทในโทรศัพท์ผมก็ดัง ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงเป็นมินซอกที่ส่งมาบอกว่าสอบเสร็จแล้ว
     
     ผมรีบเก็บของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะลุกขึ้นโบอกมือลาไอ้พวกนี้แต่ก็โดนชานยอลมันคว้ากระเป๋าเป้เอาไว้ซะก่อน "กูไปด้วยจะไปหาแบคฮยอน มึงล่ะเลย์"
     
     "กูไม่ไปไหนทั้งนั้นแน่ะ!! กูเบื่อ!กูอยากกลับบ้าน!"
     
     มันว่าอย่างงอแงพร้อมลุกแล้วจ้ำอ้าวเดินออกไปทันที ทิ้งให้ผมและชานยอลมองหน้ากันสลับไปมากับเพื่อนอารมณ์ที่อารมณ์ขึ้นๆลงๆอย่างมัน ชานยอลตะโกนไล่หลังถามมันไปแล้วดูมันตอบกลับสิครับ - -
     
     "มึงเป็นไรเนี่ย?"
     
     "เมนมามั้งสัส"



     
    .
    .




     
     รถยนต์ของขับเข้ามาภายในลานจอดรถหน้าคณะมนุยษ์ศาสตร์ ผมดับเครื่องยนต์ของรถแล้วรถจากรถพร้อมชานยอล
     
     "มินซอกสอบตึกนี้เหรอ?"
     
     ผมหันไปพนักหน้ารับมันพร้อมมองขึ้นไปยังตัวตึกที่คนตัวเล็กอยู่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะเข้าโปรแกรมแชทไปหาอีกคนว่ามาถึงแล้ว
     
     "งั้นกูไปนะแบคฮยอนไม่ได้สอบตึกนี้อ่ะ"
     
     ผมเงยหน้าจากโทรศัพท์ก่อนจะเก็บลงกระเป๋ากางเกง เผลออุทานอ้าวออกมาไม่มีเสียง "เฮ้ยเดี๋ยวกูไปส่งก็ได้"
     
     ชานยอลหันมามองผมพร้อมเดินมาหาและส่งยิ้มกรุ้มกริ่ม มือหนาของมันยกขึ้นมาเชยคางผมขึ้น "เป็นห่วงผัวเหรอจ๊ะเมียน้อย?"
     
     แทบอ้วกผมสะบัดหน้าออกทันทีพร้อมยกขาเตะไปที่ก้นของมันอย่างงามๆหนึ่งที ไอ้บ้านี่ดูจะโรคจิตมันวิ่งหนีผมไปอีกทางพร้อมยิ้มร่าแล้วแลบลิ้นส่งมาให้ก่อนจะเดินจากไป
     
     ผมยิ้มส่ายหัวให้กับความสดใสของเพื่อนตัวสูงก่อนจะหันไปทางด้านตัวตึกอีกครั้งก็เจอกับคนตัวเล็กที่ลงมาจากตึกพร้อมเพื่อนอย่างลู่ห่านพอดี
     
     คนตัวเล็กดูเหมือนจะสังเกตเห็นผมพอดี ผมเดินไปหามินซอกที่ด้านหน้าตัวตึกส่งยิ้มทักทายให้กับลู่หานก่อนจะหันมองคนตัวเล็ก
     
     "งั้นฉันให้เซฮุนมารับดีกว่าไม่รบกวนมินซอกและ"
     
     ผมเลิกคิ้วสูงมองไปยังทางลู่หานแล้วหันกลับมาที่มินซอกอีกครั้ง คนตัวเล็กส่งยิ้มให้เพื่อนของตัวเองก่อนจะส่ายหน้าไปมา
     
     "ไม่เป็นไปด้วยกันก็ได้"
     
     "ไม่เอาหรอกขี้เกียจเป็นก้างเอ้ยขี้เกียจรบกวนจงแดน่ะ เนอะ"
     
     ท้ายประโยคลู่หานหันมาพยักหน้าใส่ผมก่อนที่เจ้าตัวจะโบกมือให้คนอีกกลุ่มแล้วยกมือลามินซอกและผมก่อนจะเดินไปทางกลุ่มนั้น
     
     "รอนานไหม?"
     
     "เพิ่งถึงเอง"
     
     ผมตอบพร้อมยกมือขึ้นปัดผมที่ปรกหน้าให้มินซอก คนตัวเล็กหดคอจากการกระทำของผมเล็กน้อยก่อนจะเชิดหน้าขึ้นมาเหมือนเดิม ผมเอื้อมมือไปคว้าเอากระเป๋าเป้ของมินซอกมาถือเอง
     
     ใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่กุมกระชับมือบางพร้อมออกแรงดึงให้อีกคนเดินตามไปยังรถของผม ปล่อยมือขากมือบางแล้วเปิดประตูรถให้อีกฝ่ายก่อนจะเดินไปยังฝั่งคนขับ
     
     สตาทเครื่องยนต์แล้วขับออกไปทันทีโดยมีสายตาสงสัยส่งมาให้ รถยนต์หยุดจอดลงที่สวนสาธาราณะแห่งหนึ่ง ที่นี่ห่างจากตัวมหาลัยและสวนข้างมหาลัยพอสมควร
     
     มินซอกเปิดประตูลงมาเองโดยที่ผมไม่ต้องไปเปิดให้เหมือนครั้งก่อนๆ สถานที่ตรงหน้าเป็นสนามพื้นหญ้าที่ร่มรื่นกว้างออกไป ข้างๆมีกำแพงไม้ขึ้นอย่างสวยงามพร้อมทุ่งดอกไม้ขนาดย่อมๆ 
     
     ผมว่ามันสวยมากๆเลยล่ะแล้วหวังว่าคนตัวเล็กจะชอบ
     
     มินซอกเดินไปยังสนามหญ้าช้าๆกวาดสายตามองไปรอบๆ คนตัวเล็กหมุนตัวช้าๆหลับตาลงซึมซับกับบรรยากาศของสวนสาธาระณะแห่งนี้
     
     'แชะ'
     
     มินซอกลืมตาขึ้นส่งสายตาตำหนิมาให้ผมที่ยืนถือกล้องฟิมล์ค้างไว้อยู่ที่ตาของตัวเอง "จงแดอ่า เอาอีกแล้วนะ"
     
     มินซอกยกมือขึ้นกอดอกพร้อมพองลมเข้าแก้มอย่างน่ารักน่าชัง ผมลดกล้องลงก่อนจะเดินไปหาอีกคน ยกหมวกในมือที่หยิบติดลงมาจากรถใส่ให้มินซอกก่อนจะใช้หลังมือปาดเหงือบนหน้าน่ารักให้อย่างทะนุถนอม
     
     "แดดร้อนนะ"
     
     มินซอกยังคงอยู่ท่าเดิมเผลอๆจะตีหน้างอนมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ แต่หารู้ไม่มันไม่ได้ทำให้ผมกลัวสักนิดแต่มันกลับทำให้ผม'รัก'มินซอกมากขึ้นต่างหาก
     
     "โอ๋ๆงอนเหรอ นี่เดี๋ยววันนี้ฉันสอนถ่ายรูปนะ"
     
     ผมยกกล้องในมือให้อีกฝ่ายดูรอยยิ้มน่ารักเริ่มปรากฏออกมาที่ล่ะน้อยจนกลายเป็นยิ้มกว้าง มินซอกยกมือขอกล้องจากผมแบบเด็กน้อย ผมส่งกล้องใหักับมินซอกเจ้าตัวถือกล้องแล้วจับโฟกัสไปรอบๆ
     
     "มินซอกจะถ่ายอะไรล่ะ?"
     
     คนตัวเล็กเอียงคอทำหน้านึกพร้อมกวาดสายตาไปรอบๆสวนก่อนจะหยุดที่ทุ่งดอกไม้เล็กๆ นิ้วเรียวชี้ไปยังทางทุ่งดอกไม้พร้อมหันมาส่งยิ้มให้ผม ผมพยักหน้ารับก่อนจะเดินนำอีกคนไป
     
     "มินซอกมายืนนี่สิ"
     
     มินซอกมาอย่างว่าง่ายผมแตะลงไปที่กล้องเพื่อให้อีกคนยกมันขึ้นมาจับโฟกัส มินซอกยกกล้องขึ้นมาส่ายไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้ตำแหน่ง
     
     "ถ่ายยังไงอ่ะ"
     
     ผมลอบยิ้มออกมาก่อนจะเดินไปซ้อนด้านหลังอีกคนยกมือขึ้นประคองมือเรียวให้อยู่นิ่ง วางมือซ้อนลงกับมินซอกเคลื่อนใบหน้าไปชิดริมหู
     
     "มองแล้วใช้นิ้วแตะชัตเตอร์ถ้าคิดว่าดีที่สุดให้แตะลงไปนะ"
     
     'แชะ'
     
     ผมลดมือของตัวเองเพื่อให้มินซอกให้ถือกล้องและกดชัตเตอร์ถนัดขึ้น มินซอกกดชัตเตอร์ลงไปพร้อมลดกล้องลง "แล้วมันจะสวยไหมอ่ะ?"
     
     คนตัวเล็กเหลียวหลังมาพูดกับผมด้วยใบหน้าติดจะง่อเล็กๆ ผมไม่ได้ตอบอะไรไปแต่กลับยกมือขึ้นมาโอบรอบเอวของมินซอกวางใบหน้าลงกับไหล่ลาดซบและหลับตาลงอย่างเป็นที่พึง
     
     "สอบยากขนาดนั้นเชียวเหรอ?"
     
     มินซอกวางมือทับกับมือผมอีกทีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่ม ผมรู้สึกผ่อนคลายจังเลยแฮะ "ไม่หรอก"
     
     ผมตอบมินซอกทั้งๆที่ยังคงกอดอยู่ มินซอกทำท่าจะขยับตัวให้หลุดจากอ้อมกอดของผม ผมเลยกระชับกอดให้แน่นขึ้นกว่าเดิม
     
     "ขออยู่อย่างนี้สักพักนะ"
     
     คนตัวเล็กยอมอยู่นิ่งๆให้ผมกอด เวลาผ่านไปผมจึงคลายอ้อมกอดลงมินซอกหันหน้ามาหาผมมือเรียวยกขึ้นปัดผมตรงหน้าออกให้อย่างเบามือ
     
     "มันมีอะไรให้เหนื่อยขนาดนั้นเลยเหรอ?"
     
     ผมจับมือเรียวไว้ก่อนจะสวมกอดอีกฝ่ายอีกที ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ผมเหนื่อยขนาดนี้แต่พอเจอคนตรงหน้าทุกอย่างมันก็มลายหายไปทันที
     
     มินซอกยกมือขึ้นตอบกอดผมพร้อมลูบหลังอย่างให้กำลังใจ ผมยิ้มออกมาแล้วซบหน้าลงกับไหล่ของมินซอกอีกครั้ง ไม่รู้สินะแค่รู้สึกว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้ด้วยกันแบบนี้ก็เท่านั้นเอง...
     
     























    -------------------------------------------------------------------


     ขอบอกว่าถ้าไม่ดราม่าก็ไม่ใช่สูตรนิยายสิ 555555555555555







     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×