ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Photograph memory (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #5 : Photograph memory -5-

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 57




    Photograph memory -5-
     
     
     
     
     
     












     
     
     
     
     
     
     เช้าวันที่แสงแดดเจิ่ดจ้าผมเดินงัวเงียๆเข้ามายังภายในบริเวณคณะของตัวเองเดินตรงมายังม้านั่งกลางสวนก่อนจะทิ้งตัวลงอย่างหมดแรงจนเพื่อนอีกสองคนต้องหันมามอง
     
     "ไปทำอะไรมาวะจงแด? เดินซะเหมือนหนอนตายซากเลย"
     
     ชานยอลเอ่ยถามผมเมื่อเห็นว่าผมเอาแต่ก้มหนัาลงกับโต๊ะ โหยนี่ผมง่วงมากเลยนะเนี่ยผมจำใจเงยหน้าขึ้นมานั่งท้าวคางกวาดสายตามองเพื่อนสองคนยังอย่างเซ็งๆ
     
     "ก็เมื่อคืนอ่าดิพอกลับหอมาก็มีแต่คนโทรมาทั้งคืนไม่รู้ไปสรรหาเบอร์กูมาจากไหน"
     
     ผมว่าอย่างเซ็งๆก็มันจริงนะครับทั้งคืนผมไม่ต้องทำอะไรได้แต่รับโทรศัทพ์จากใครนักก็ไม่รู้ที่โทรมามีใจความเดียวว่าอยากจะชวนผมมางานประกวดดาวเดือนมหาลัยคืนนี้ นี่ผมปีสี่แล้วนะต้องมางานแบบนี้อีกเหรอ
     
     "แหมก็พี่จงแดหล่อซะขนาดนี้เป็นใครใครก็อยากชวน ถ้าควงมึงมาได้หญิงทั้งมหาลัยคงฉิจฉาคนนั้นแน่ๆ"
     
     ชานยอลยังคงเอ่ยแนวประชดผมต่อไปเรียกเสียงหัวเราะจากพวกมันสองคนได้อย่างกระหึ่มชนิดไม่กลัวใครมองว่าบ้าเลย นี่ผมใช้อะไรคิดตอนจะเป็นเพื่อนพวกมันเนี่ย
     
     "โอ๊ะงั้นคืนนี้พี่จงแดมางานกับหนูนะคะ คนคงอิจฉาหนูทั้งมหาลัยเลย"
     
     เลย์เอ่ยล้อเลียนเหล่าบรรดาผู้หญิงที่โทรมาชวนผมไปงาน ผมเลยพลักหน้ามันไปแมร่งทำซะขนลุกเลยเว๊ย
     
     "แหมเธอคงจะไม่ได้ล่ะนะดูนั่นสิ"
     
     ชานยอลทำตัวเป็นผู้หญิงแล้วชี้นิ้วไปยังน้องผู้หญิงสองคนที่ทำท่าเขอะเขินเดินเข้ามาทางพวกผม
     
     "คือ....พ...พี่จงแดคะ.....ค...คืนนี้...พี่ว่างไหมคะ?"
     
     ผมหันไปตามเสียงเรียกก่อนจะเลิกคิ้วแล้วหันไปหาเพื่อนทั้งสองคนอย่างขอความช่วยเหลือแต่ก็ได้รับการเมินกลับมาแทน ผมเลยหันมาพยักหน้ารับน้องเขาเธอดูเขินจนอยากจะกรี๊ดแต่ก็ต้องเก็บไว้ก่อนจะเอ่ยกับผมอีกที
     
     "งั้น....คืนนี้หนูจะรอพี่อยู่ตรงทางเข้านะคะ"
     
     เอ่ยจบน้องเขาก็รีบออกไปพร้อมเพื่อนอีกคนทัน ผมส่ายหน้าอย่างเอือมระอาเพราะไม่รู้จะปฏิเสธยังไง
     
     "เฮ้ยชานยอลน้องเขาจะรู้เปล่าวะว่าพลาดแล้ว ไอ้หน้าเป็ดนี่ก็แค่รับไปส่งๆเท่านั้นน่ะ"
     
     "อืมนั่นสิ กูว่าน้องเขาพลาดอย่างแรงเลยล่ะ"
     
     ไอ้เพื่อนสองตัวทำตัวเป็นผู้ประการข่าวที่กำลังวิเคาระห์เนื้อข่าวกันอย่างเข้มข้นจนผมทนไม่ไหวเลยยกมือฟาดไปยังศีรษะของพวกมันอย่างงามๆคนล่ะที
     
     "โอ๊ยเจ็บนะเว๊ย/เฮ้ยเจ็บนะเว๊ย"
     
     ที่นี้ล่ะสามัคคีประสานเสียงเชียวนะพวกมึง ผมเลิกสนใจพวกมันสองคนก่อนจะหยิบหูฟังออกมาจากกระเป๋าสะพายตัวเองแล้วเสียบต่อกับโทรศัทพ์เตรียมที่จะเข้าสู่โหมดส่วนตัวเต็มที่ แต่ยังไม่ทันที่หน้าจะฟุบโต๊ะมือของชานยอลก็จับหน้าผมพร้อมพลักให้เงยขึ้นแล้วดึงหูฟังออก
     
     "อะไรของมึงเนี่ย"
     
     ผมว่าอย่างหัวเสียก็พวกมันเล่นมองหน้ากันอย่างมีเลศนัยแล้วหันมาส่งยิ้มร้ายให้ผม พวกมันจะเล่นพิเรนอะไรอีกล่ะ
     
     "พวกกูน่ะไม่มี"
     
     "แต่มินซอกน่ะมี"


     
     
    .
    .
    .



     
     พวกผมสามคนเดินเข้ามายังภายในตึกอธิการบดีเดินเข้ามาเรื่อยๆก็เจอเข้ากับคนที่ผมคุ้นตา มินซอกยืนอ่านแผ่นกระดาษอยู่กับลู่หานสีหน้าดูเคร่งเครียดแต่ก็เป็นลู่หานที่เงยหน้าขึ้นมาทักพวกแทนก่อนที่คนตัวเล็กจะเงยหน้าขึ้นมาบัาง 
     
     "กำลังเสริมมาแล้วฮ้าปลู่เก่อ ~ <3 "
     
     เลย์เดินเข้ากอดแขนลู่หานแล้วทำหน้าอ้อนใส่ก่อนจะโดนม้วนกระดาษในมือลู่หานเคาะลงบนหัว
     
     "เป็นงานเป็นการหน่อย ขอบใจนะที่มากัน"
     
     ลู่หานหันมาพูดพร้อมส่งยิ้มให้ผมและชานยอล ชานยอลพยักหน้ารับรัวๆและฉีกยิ้มตามสไตร์ของคนที่ไม่เคยทุกข์
     
     "มีอะไรให้ช่วยเหรอ?"
     
     ผมเอ่ยพร้อมมองมินซอกและลู่หานเพราะเลย์มันบอกว่ามินซอกโทรมามีเรื่องจะให้ช่วย คนตัวเล็กทำหน้าสงสัยพรางเอียงคอมองผม  
     
     "เลย์ไม่ได้บอกจงแดเหรอ?"
     
     มินซอกว่าแล้วก็หันมาทางเลย์ที่ยังยืนกอดแขนลู่หานไว้อยู่ ไอ้เพื่อนหน้ามึนส่ายหน้ารัวก่อนจะเอ่ยขึ้นแล้วเบนหน้าไปทางอื่นแทน
     
     "บอกไปมันอาจจะไม่มาก็ได้นี่ -3-"
     
     "ใช้ไม่ได้เลย"
     
     ลู่หานว่าพร้อมกับเคาะม้วนกระดาษลงบนหัวเลย์อีกครั้งก่อนจะหันมาชี้แจ้งให้พวกผมฟัง
     
     "คืองี้นะ พวกเราได้รับหนัาที่ให้เป็นทีมงานคืนนี้น่ะแต่คนมันขาดเลยอยากจะให้ช่วย เฮ้ยแต่ไม่อยากช่วยก็ไม่เป็นไรนะ"
     
     ลู่หานสารยายยาวๆถึงจุดประสงค์ในการตามพวกผมมา ผมพยักหน้ารับลู่หานช้าๆพรางเหลือบมองคนตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหน้าพอเงยขึ้นมาสบตาก็เอาแต่หลบหนี
     
     "แล้วมันขาดอะไรล่ะ?"
     
     ชานยอลเอ่ยถามขึ้นมาหลังจากที่ฟังมาเงียบๆ
     
     "ก็คนถ่ายรูปงานเนี่ยแหละ อยากได้จากหลายมุมเลยวานเยอะหน่อยน่ะ"
     
     ชานยอลพยักหน้ารับคำของลู่หานก่อนจะหันมองผมและเลย์สลับไปมา
     
     "ถ้าพวกมึงทำกูก็ทำเว๊ยตัดสินใจเลยไปและเดี๋ยวแบคฮยอนรอนาน"
     
     ชานยอลคว้าโทรศัพท์ออกมากระเป๋ากางเกงกดล็อคดูเวลาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยทิ้งท้ายแล้วเดินจากไป ผมเลยหันหน้ามามองไอ้เพื่อนหน้ามึนแทน
     
     "กูยังไงก็ได้ไม่ทำก็ต้องทำแล้วแต่มึงเลย"
     
     มันว่าพร้อมมองลู่หานอย่างเอือมระอาเป็นนัยว่ายังไงก็ต้องบังคับทำ ผมพยักหน้ารับคำชวนของลู่หานก่อนที่เจ้าตัวจะยิ้มกว้างออกมา
     
     "ขอบใจนะจงแด งั้นเดี๋ยวคุยรายละเอียดกับซิ่วหมินเลยนะ"
     
     ลู่หานเอ่ยขึ้นรัวๆก่อนจะหันไปดันไหล่ให้เลย์เดินไปแต่ไอ้เพื่อนตัวดีตอนแรกดูจะโวยวายแต่พอกระซิบกระซาบกับลู่หานก็หันมายิ้มอย่างมีเลศนัยทางผมและมินซอกและยิ้มเดินไปโดยดี
     
     คนตัวเล็กข้างๆผมเอาแต่ก้มหน้ามองกระดาษแผ่นหนาแล้วพลิกอ่านไปมาดูก็รู้ทำเพื่อไม่ให้ตัวเองว่าง
     
     "ขอหน่อย"
     
     มินซอกเงยหน้าจากกระดาษแล้วหันมามองผมหน้างงๆ ผมหลุดหัวเราะแล้วส่ายหน้าเบาๆให้กับคนน่ารักก่อนจะเอ่ยถึงจุดประสงค์ของตัวเอง
     
     "กำหนดการน่ะ"
     
     มินซอกพยักหน้าเข้าใจแล้วยื่นแผ่นกระดาษที่ตนเองมาให้ผม ผมเปิดอ่านกำหนดการคร่าวๆขมวดคิ้วเข้าหากันแกล้งตีหน้า
     
     "จงแดไม่เข้าใจเหรอ?"
     
     ผมพยักหน้ารับอีกคนแล้วเขยิบตัวให้เข้าใกล้มินซอกมายิ่งขึ้นยื่นแผ่นกระดาษไปตรงหน้าอีกฝ่ายก่อนจะชี้ไปยังบรรทัดหนึ่งของกำหนดการ
     
     "จงแดจะเข้าไปถ่ายรูปตอนน้องเขาเปลี่ยนเสื้อกันหรือไง?"
     
     ผมย่นคิ้วเข้าหากันก้มมองไปยังที่ตัวเองชี้ปรากฏว่าผมชี้ไปยังเวลาที่บอกให้ผู้เเข่งขันเตรียมตัว
     
     "อ่อ..เออคือฉันอยากรู้ไงต้องไปเก็บภาพหลังเวทีหรือเปล่า?"
     
     มินซอกพยักหน้ารับเข้าใจก่อนจะหยิบปากกาขึ้นมาวงสถานที่ที่ผมต้องทำ
     
     "ก็ดีเหมือนกันนะแล้วก็มีตรงนี้ เวลานี้ที่จงแดต้องเก็บภาพ สงสัยอะไรอีกไหม?"
     
     ผมแสร้งตีหน้าไม่เข้าใจพยักหน้าแสดงให้รู้ว่าผมยังมีเรื่องสงสัย คนตัวเล็กเลิกคิ้วเป็นเชิงถามผมอมยิ้มก่อนจะก้มไปกระซิบชิดหูของอีกฝ่าย
     
     "แล้วถ้าจะให้มินซอกเป็นแฟนต้องไปที่ไหนเวลาไหนเหรอ?"
     
     ใบหน้าน่ารักรีบถอยห่างออกไปก่อนที่สีแดงระเรื่อจะเริ่มปรากฏให้เห็นจนมันกลายเป็นสีแดงสด มินซอกเม้นริมฝีปากเข้าหากันเแน่นก้มหน้าลงมองพื้นก่อนเอ่ยเรียกรอยยิ้มจากผมแล้วจากไป
     
     "จะไปรู้เหรอ....อยากทำอะไรก็ทำ"




     
    .
    .




     
     
     เวลาหกโมงเย็นของวันผมและเพื่อนอีกสองคนเดินเข้ามาภายในบริเวณจัดงานประกวดดาวเดือนของมหวิทยาลัย พวกผมเดินตรงมายังหลังเวทีจัดงานเหลือบมองเห็นลู่หานที่ยกมือขึ้นโบกมาให้
     
    เจ้าตัววิ่งมาทางพวกผมอย่างรวดเร็วพร้อมกับยื่นป้ายสตาร์ฟมาให้
     
     "อุปกรณ์พร้อมนะ?"
     
     ชานยอลพยักหน้ารับพร้อมกับรับป้ายมาให้พวกผม ลู่หานจัดแจงแจ้งสถานที่ที่พวกผมต้องไปอยู่ซึ่งแต่ล่ะคนไม่ได้อยู่ใกล้กันเลยอย่างชานยอลงี้ไปหน้างานเลย์นี่หนักหน่อยขึ้นไปอยู่บนตึกส่วนผมก็เดินเตรๆแถวเวที เมื่อบอกถึงหน้าที่ของพวกผมเสร็จลู่หานก็ขอตัวไปทำงานต่อผมหันซ้ายหันขวาทีมองหาเป้าหมายของผมที่น่าจะอยู่
     
     "หันขนาดนี้ก็เดินหาเลยไหม นู่นไอ้ห่าอยู่นู่น"
     
     มือหนาของชานยอลจับเข้าที่หน้าของผมแล้วผลักให้หันไปทางข้างเวที มินซอกกำลังง่วนกับการเตรียมงานเจ้าตัวดูจะยุ่งมากๆเล่นเดินไปมาสลับกับกับสั่งงานเห็นแล้วเหนื่อยแทน
     
     "พวกกูไปนะ"
     
     ยังไม่ทันที่จะหันมาดีๆไอ้สองคนนั้นก็เดินแยกออกไปก่อนเสียแล้วผมหันมองบรรยากาศรอบๆผู้คนเริ่มทยอยเข้ามาในงานกันมากพอสมควร ผมเริ่มลงมือถ่ายรูปบ้างละสายตาจากกล้องมามองข้างเวทีก็ไม่พบมินซอกเสียแล้ว คนหล่อล่ะเซ็ง
     
     บรรยากาศในงานเริ่มมีแสงสีงานในช่วงแรกจบลงพรัอมเสียงที่อึกทึบมากขึ้น เพราะเนี้ยแหละถึงไม่อยากมาไงล่ะ ผมเดินเลี่ยงออกมาจากหน้าเวทีผู้คนเริ่มหลั่งไหลเข้ามากันจนแทบไม่มีที่ยืน 
     
     ร่างเล็กๆที่แสนคุ้นตาของผมกำลังเดินจ้ำอ้าวไปหลังเวทีไม่รอช้าผมรีบตามเข้าไปแทบจะทันที ภายในหลังเวทีทุกคนกำลังง่วงกับการแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อรอแข่งในรอบแสดงความสามารถ
     
     ผมที่เริ่มกลายเป็นเป้าสายตาของผู้คนก็ทำเนียนยกกล้องขึ้นมาถ่ายเก็บภาพหลังเวทีแทน "หมดเวลาเตรียมตัวแล้วนะครับน้องๆเดี๋ยวเดินไปสแตนท์บายข้างเวทีเลยนะครับ"
     
     ผมหันไปตามเสียงที่แสนคุ้นเคยก็เห็นคนตัวเล็กเดินเข้ามา ดวงตากลมโตเหลือบมองมาที่ผมเล็กน้อยก่อนจะหลบสายตาไป ผู้เข้าแข่งขันทั้งหลายต่างทยอยลุกขึ้นตามเสียงเรียกของมินซอกจนหลังเวทีเหลือเพียงผมและมินซอกเท่านั้น
     
     "เหนื่อยไหม?"
     
     หลังจากเงียบไปนานคนตัวเล็กก็เอ่ยขึ้น ผมหันซ้านขวาเพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อกี้เขาพูดกับผม มินซอกลอบยิ้มออกมาเล็กน้อยส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้
     
     "ฉันถามจงแดนั่นแหละ"
     
     "ก็ถ้าตายังไม่รวมกับเลนล์กล้องก็ไหวอยู่"
     
     มินซอกหัวเราะเล็กๆให้กับคำตอบของผมเจ้าตัวเดินเข้ามาหาก่อนจะยื่นขวดน้ำมาให้ผม 
     
     "อ่ะน้ำ"
     
     "รู้อยู่หรอกน่ามันคงไม่ใช่ไก่หรอก"
     
     มือเล็กตีลงบนไหล่ของผมเบาๆพร้อมเสียงหัวเราะจากคนตรงหน้า ผมมองลงไปยังฝาขวดเป็นเชิงขอให้อีกฝ่ายช่วยเปิดให้ มินซอกส่ายหน้าอย่างเอือมระอาให้ผมก่อนจะจัดการเปิดขวดให้ตามคำขอ
     
     "ป้อนหน่อยสิ"
     
     "มือก็ยังใช้การได้ไม่ใช่เหรอจงแด?"
     
     ผมยู่ปากทันทีกับประโยคนั้นของมินซอก แกล้งหันหน้าไปอีกทางแล้วไม่ยอมรับน้ำจากอีกฝ่ายจนมินซอกเดินยื่นขวดเข้ามาให้ใกล้กว่าเดิม
     
     "ก็ถ้าได้มินซอกป้อนมันคงจะสดชื่นกว่านี้น่ะสิ"
     
     ผมแกล้งเอ่ยออกมาลอยๆแต่กลับจงใจให้ใครบ้างคนได้ยิน รอยยิ้มเล็กเล็กๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าน่ารักพร้อมพยักหน้าอย่างเข้าใจ
     
     "ก็หันมาดีๆสิแล้วก็ไม่บอก"
     
     มินซอกเสียบหลอดลงในขวดน้ำแล้วยื่นมาจ่อที่ปากของผมยกขวดขึ้นเล็กน้อยเป็นการเร่ง ผมดูดน้ำลงไปในลำคอโดยมีมินซอกค่อยถือขวดให้
     
     "อ่า~ สดชื่นที่สุดเลยล่ะ"
     
     คนตัวเล็กหัวเราะกับการกระทำของผม จัดการปิดขวดน้ำให้เรียบร้อยพร้อมเอ่ยขึ้น "เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยนี่ จะให้ทำแบบนี้ทำไม"
     
     เหมือนเป็นการเอ่ยกับตัวเองเบาๆแต่มันกลับได้ยินเต็มสองหูของผม ผมหันตัวเข้าหาทางมินซอกยกมือขึ้นท้าวกับกำแพงกั้นไม่ให้คนตัวเล็กหนีไปไหนได้ มินซอกดูตกใจกับการกระทำของผมถอยตัวจนแนบชิดกับกำแพงแทบทันที
     
     "แล้วอยากเป็นไหมล่ะ?"
     
     ผมก้มหน้าลงไปหาคนตัวเล็กใช้มือเชยคางให้อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้น มินซอกหลับตาลงทันทีใบหน้าของเราอยู่ห่างกันเพียงลมหายใจกลั้นปลายจมูกสัมผัสซึ่งกันและกันก่อนที่ผมจะ...
     
     "ไว้รอมินซอกเป็นแฟนฉันก่อนดีกว่า 555555"
     
     ผมหยุดทุกการกระลงแค่นั้นพร้อมละใบหน้าออกมา คนตัวเล็กลืมตาแทบจะทีที่ผมเอ่ยยังไม่จบประโยคมือบางตีลงบนอกของผมด้วยแรงที่มากกว่าตอนแรกจนเจ็บ ใบหน้านวลเปลี่ยนสีแทบจะทันที่
     
     "บ้า!จงแดคนบ้า หลอกฉันให้กลัวแทบแย่"
     
     มือบางยังคงตีอกผมไม่ยั้งจนต้องรวบมือบางนั่นเข้าด้วยกัน ออกแรงกระตุกเพียงนิดเดียวร่างทั้งร่างของมินซอกก็อยู่ในอ้อมกอดของผม
     
     "อยากให้ฉันทำหรือไง?"
     
     มินซอกหยุดทุกการกระทำใบหน้าที่แดงอยู่แล้วยิ่งแดงมากขึ้นไปอีกจนล่ามมาที่หู "มะ...ไม่สักหน่อย" ผมเลิกคิ้วมองจับผิดกับใบหน้าและเสียงกระตุกนั่นจนมินซอกต้องเสหน้าหนีไปทางอื่นเผลอตระโกนขึ้นมาอย่างลืมตัว
     
     "ก็ไหนบอกจะจีบไง....จงแดไม่เห็นทำอะไรเลย"
     
     ท้ายประโยคดูจะเบาลงแต่ผมก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน ผมหลุดยิ้มให้กับประโยคที่ดูเอาแต่ใจนั่นมันทำให้ผมอจากจะกอดร่างบางนี้ให้แตกไปเลยล่ะ
     
     "ก็นี่แหละวิธีจีบของฉัน"
     
     ใบหน้าน่ารักรีบหันมามองพร้อมสีหนัาสงสัย เคยมีใครบอกมินซอกไหมว่าเวลามินซอกสงสัยน่ะมันน่ารักแค่ไหน ผมอดใจไม่ไหวที่จะก้มลงไปฝังจมูกกับแก้มเนียนนั่น มินซอกผลักผมทันทีพร้อมจับที่แก้มใบหน้าที่คลายสีแล้วกลับมีสีขึ้นมาใหม่แทน
     
     "จงแดคนบ้า!"
     
     มือเล็กเตรียมจะตีผมอีกครั้งแต่ผมเอียงตัวและหลบ มินซอกแสดงสีหน้าไม่พอใจจึงเดินออกห่างจากผมแต่ก็ต้องหันกลับมาเมื่อเอือมมือไปคว้าไว้
     
     'แชะ'
     
     "จงแด! ทำไมชอบถ่ายตอนเผลอนักห๊ะ"
     
     เจ้าตัวว่าพร้อมกับพุ่งเข้ามาหมายจะแย่งกล้องไปจากผม แต่มีหรือที่ผมจะยอมรูปเมื่อกี้น่ารักจะตาย ผมวิ่งอ้อมมินซอกพร้อมตรงไปยังทางออกแลบลิ้นล้อเลียนอีกฝ่ายก่อนจะออกไป  
















     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×