ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Photograph memory (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #4 : Photograph memory -4-

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 57



    Photograph memory -4-
     
     
     
     










     
     




     
     
     
     
     "นี่เราจะไปไหนกันเหรอจงแด?"
     
     มินซอกหันมองซ้ายมองขวาบริเวณนอกรถอย่างตื่นตาตื่นใจเพราะที่ที่ผมพาคนตัวเล็กมาน่ะมันคือ...
     
     "สวนสนุก!"
     
     มินซอกร้องออกมาอย่างดีใจเหมือนเด็กที่พ่อพามาเที่ยวไม่มีผิด อ่าถ้าผมเป็นพ่อก็ขอเป็นพ่อทูนหัวแล้วกันนะ -///-
     
     ผมเลี้ยวรถเข้ายังบริเวณลานจอดรถของสวนสนุกดับเครื่องยนต์แล้วลงจากรถวิ่งเหยาะๆไปเปิดประตูรถให้อีกฝ่าย
     
     มินซอกลงมาพร้อมมองไปรอบๆอย่างตื่นตา คนตัวเล็กตรงหน้าผมดูมีความสุขเสียจนปิดไม่มิด มินซอกไม่ได้เอ่ยอะไรกับเพียงหันมาส่งยิ้มแล้วคว้าแขนผมให้เดินเข้าไปในสวนสนุกเร็วๆ
     
     "เล่นอะไรดีล่ะ"
     
     มินซอกกวาดสายตามองไปรอบพรางทำหน้านึกคิดจนผมต้องหลุดยิ้มออกมาเพราะเอ็นดูเลยล่ะ
     
     "มินซอกอยากเล่นอะไรล่ะ"
     
     มินซอกหันหน้ามาหาผมแล้วทำหน้านึกอย่างชั่งใจ ผมเลิกคิ้วมองไปยังรถไฟเหาะแลัวหันมาคว้ามือมินซอกให้เดินไปทางเครื่องเล่นเพราะดูแล้วถ้าปล่อยให้คนตัวเล็กคิดคงอีกนาน
     
    .
    .
    .
     
     เป็นเวลากว่าครึ่งวันที่ผมและคนตัวเล็กใช้เวลาในสวนสนุกจนตอนนี้เราทั้งคู่อยู่บนชิงช้าสวรรค์ มินซอกดูถ้าจะชอบและตื่นเต้นมากๆเพราะตั้งแต่มาถึงที่นี่คนตัวเล็กทั้งพูดไม่หยุดและไม่ยอมหุบยิ้มเลย
     
     "ขอบคุณมากๆเลยนะจงแด ฉันมีความสุขมากเลยล่ะเดี๋ยวเรามาหารค่าเครื่องเล่นที่จงแดออกกันนะ"
     
     ผมส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธแทบจะทันทีเพราะที่ผมพาคนตัวเล็กมาก็เพราะเต็มใจและอยากจะไถ่โทษที่พาไปเจอเรื่องซวยๆแบบนั้น
     
     "ไม่ต้องหรอกแค่วันนี้ฉันได้เห็นมินซอกยิ้มได้รู้จักมินซอกมากขึ้นก็พอแล้ว ถือว่าไถ่โทษที่พาไปเจอแย่ๆนะ"
     
     "ไม่ต้องหรอกๆยังไงก็ต้องหารกันงั้นฉันก็เอาเปรียบจงแดซิแล้วเรื่องเมื่อตอนเช้าน่ะก็ชั่งมันเถอะตื่นเต้นดี"
     
     มินซอกเอ่ยพร้อมหันไปมองวิวรอบๆเป็นจังหวะเดียวกับที่ชิงช้าสวรรค์หยุดค้างบนจุดสูงสุดพอดี คนตัวเล็กคว้าเอาโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาพยายามจะถ่ายรูปคู่ตัวเองกับวิว
     
     "ฉันถ่ายให้ดีกว่า"
     
     ผมหลุดยิ้มกับพฤติกรรมของคนตรงหน้าเพราะเจ้าตัวเองเอาแต่ถ่ายและทำหน้ายู่เพราะพอใจแล้วถ่ายใหม่อยู่เรื่อยๆ มินซอกหันมาพยักหน้าให้ผมและส่งโทรศัพท์ตัวเองมาให้ผม
     
     "1 2 3!"
     
     ผมนับและกดชัตเตอร์ส่งโทรศัพท์คืนมินซอก เจ้าของโทรศัพท์รับและมองดูรูปตัวเองพร้อมระบายยิ้มกว้างออกมา 
     
     "โหยจงแดถ่ายสวยจังเลยอ่ะ สมแล้วที่เรียนนิเทศน์ขนาดกล้องโทรศัพท์ยังสวยเลย"
     
     ผมยิ้มตอบมินซอกก่อนจะหันออกไปมองบรรยากาศรอบๆบ้าง แสงอาทิยต์สีส้มที่บ่งบอกเวลาเย็นพร้อมสายลมที่พัดอ่อนๆมันทำให้รู้สึกผ่อนคลายจนเผลอหลับตารับลมนั่น
     
     'แชะ'
     
     ผมลืมตาแลัวหันไปตามต้นเสียงที่ได้ยิน มินซอกยื่นโทรศัพท์มาตรงหน้าผมพร้อมยิ้มกว้างอวดฝืมือของตัวเอง
     
     "ดูสิๆ ฉันถ่ายสวยไหม รูปนี้จงแดหล่อมากเลยนะ"
     
     ว่าแล้วคนตัวเล็กก็พูดชมผลงานของตัวเองอยู่คนเดียว ผมคว้าโทรศัพท์ของตัวเองออกมาพร้อมเข้าโปรแกรมกล้องก่อนจะเดินนั่งฝั่งเดียวกับมินซอก ยกโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นก่อนจะเอ่ยเรียกคนข้างๆ
     
     "มินซอก"
     
     'แชะ'
     
     มินซอกเงยหน้าขึ้นมาตามเสียงเรียกผมกดชัตเตอร์ลงไปทันที่ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเมื่อเห็นรูปคู่รูปแรกของผมและมินซอก 
     
     "โหยลบเลยนะจงแดตลกอ่ะ"
     
     "น่ารักดีออก 55555"
     
     "เอาใหม่ๆจะถ่ายก็บอกดีๆสิ"
     
     มินซอกว่าพร้อมกับจับมือของผมให้ยกขึ้นก่อนจะเขยิบเข้ามาใกล้ๆผมจนผมได้กลิ่นตัวของเขา มินซอกยิ้มให้กับกล้องก่อนจะหุบลงเพราะผมเอาแต่มองเขาและไม่ยอมถ่ายสักที
     
     "ยิ้มเหงือกแห้งแล้วนะจงแด"
     
     ผมละจากใบหน้าน่ารักนั่นก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นแล้วจัดการกดชัตเตอร์ลงไปใหม่
     
     'แชะ'
     
     "ดูดีอ่ะ"
     
     คนตัวเล็กว่าพร้อมกับก้มดูรูปในโทรศัพท์ ใกล้...ใกล้จนปลายจมูกของผมเฉียดแก้มของมินซอกใกล้จนผมมองเห็นใบหน้านั้นได้เต็มตาใกล้จน...หัวใจผมสั่น
     
     'ตึก ตึก'
     
     ผมรีบลุกจากฝั่งมินซอกและกลับไปนั่งฝั่งของตัวเองเพราะกลัวว่าเสียงหัวใจที่มันเต้นแรงมันจะทำให้มินซอกได้ยิน กระเช้าชิงช้าสวรรค์มาหยุดอยู่ข้างล่างเมื่อหมดรอบของมัน มินซอกเดินนำผมออกมาก่อนจะยกข้อมือที่มีนาฬิกามาดูเวลา
     
     "มินซอกจะไปไหนอีกไหม?"
     
     คนตัวเล็กเงยหน้ามาปฏิเสธผมก่อนจะเหลือบมองท้องฟ้าที่เริ่มหมดแสงของวัน
     
     "ไม่ดีกว่า ฉันว่าจะกลับเลย"
     
     "งั้นเดี๋ยวฉันไปส่งนะ"
     
     "เฮ้ย ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวฉันขึ้นรถเมล์กลับเองก็ได้รบกวนจงแดเปล่าๆ"
     
     ผมเดินไปคว้ามือเรียวแล้วพาไปยังลานจอดรถทันที จัดการปลดล็อดรถแล้วเปิดประตูให้อีกฝ่าย มินซอกทำท่าเกรงใจแต่ก็ถูกผมดันตัวให้เข้าไปในรถปิดประตูให้เรียบร้อยก่อนจะตามขึ้นมานั่งฝั่งคนขับ
     
     "มินซอกอยู่แถวไหนล่ะ?"
     
     "ฉันอยู่ในซอยข้างมหาลัยน่ะ แต่ฉันเกรงใจจงแดนะฉันกลับเองก็ได้"
     
     "เหอะน่าให้ฉันไปส่งมินซอกนะ"
     
     ผมสตาทเครื่องยนต์รถพร้อมขับออกไปยังถนนมุ่งหน้าไปตามสถานที่ที่มินซอกบอกทันที




     
    .
    .




     
     รถยนต์ขอผมขับมาจอดยังบริเวณหน้าหอของมินซอก คนเล็กเตรียมจะเปิดประตูเพื่อลงจากรถแต่ก็ถูกผมคว้าข้อมือเอาไว้ก่อน มินซอกหันมาทางผมก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่ามีอะไร
     
     "คือ....."
     
     มินซอกผ่อนลมหายใจพร้อมส่งยิ้มมาให้ผม "มีอะไรก็พูดมาเถอะฉันไม่ว่าอะไรสักหน่อย"
     
     ผมสูดหายใจเข้าจนเต็มปอดรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างที่จุกอยู่ลำคอ ทำไมมันถึงอึดอัดขนาดนี้นะกลับพวกบรรดาแฟนเก่าหรือจะจีบใครผมไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อนรู้สึกกากอย่างที่เพื่อนมันว่าจังแฮะ
     
     "ถ้าไม่มีอะไรงั้นฉัน..."
     
     "ฉันอยากรู้จักมินซอก!...ให้มากกว่านี้ได้ไหม?"
     
     ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะเอ่ยจบผมก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน ผมค่อยๆคลายมือออกจากข้อมือบางเสหน้ามองไปทางอื่นรู้สึกถึงความร้อนที่หน้าที่มันมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
     
     "จงแด...จะ..จีบฉันเหรอ?"
     
     เงียบ ผมถีงกับไปไม่เป็นเหมือนเสียงและความมั่นใจของตัวเองมันขาดหายไปได้แต่พยักหน้ารับช้าๆ
     
     'ก๊อกๆ!'
     
     มินซอกที่นิ่งไปสักพักกลั้นใจทำท่าเหมือนจะเอ่ยอะไรสักอย่างแต่ก็ต้องหยุดไปเพราะมือปริศนาที่เคาะมาบนกระจกรถของผมแรงๆ มินซอกหันไปตามเสียงก่อนจะเปิดประตูรถลงไปทำให้ผมเห็นเจ้ามือชัดๆ ไอ้เพื่อนหน้ามึนนี่เองว่าแล้วทำไมหอมันคุ้นๆ
     
     "ไงมึงแอร์รถเสียเหรอ?หน้าแดงเชียว"
     
     ผมยกมือขึ้นมาจับหน้าตัวเองก่อนจะเหลือบมองไอ้เพื่อนตัวดีที่ยืนอุ้มลูกหมาบีเกิ้ลอยู่
     
     "ว่าไงฉะ....ฉิน"
     
     มินซอกที่ทำท่าจะทักทายเข้าลูกหมานั่นด้วยชื่อที่มันเหมือนจะคุ้นหูแต่ก็ถูกสายตาดุๆของไอ้เลย์ส่งมาให้เสียก่อน
     
     "ว่างมากเหรอมึงหอเหอไม่กลับ"
     
     ไอ้เลย์ว่าพร้อมส่งลูกหมานั่นให้มินซอก ผมหยักไหล่อย่างไม่สนใจสายตาเหลือบไปมองมินซอกที่กำลังอุ้มเจ้าลูกหมานั่นเข้าหอก่อนจะเรียกคนตัวเล็กให้หันมา  
     
     "มินซอก"
     
     มินซอกมาตามเสียงเรียกก่อนจะเดินกลับมายืนข้างๆไอ้เลย์อีกครั้ง
     
     "เมื่อกี๊ก่อนจะลงจากรถ..มินซอกจะพูดว่าอะไรเหรอ?"
     
     "เปล่าสักหน่อยไม่มีอะไรหรอก แค่จะบอกให้กลับบ้านดีๆน่ะ"
     
     มินซอกว่าพร้อมส่ายหน้าปฏิเสธ ผมเลยได้แต่พยักหน้ารับอย่างจำใจแต่ผมว่าสิ่งที่มินซอกจะเอ่ยมันไม่ใช่แบบนี้แน่นอน
     
     "ได้กำลังใจแล้วก็กลับไปสิ"
     
     ไอ้เลย์พูดพร้อมกับปิดประตูรถให้ผม แต่ผมมีสิ่งที่อยากจะพูดมากกว่าการถามมินซอกเรื่องนั้นผมกดเปิดกระจกรถของตัวเองก่อนจะเอ่ยดักมินซอกที่กำลังเดินเข้าหอไปอีกครั้ง
     
     "ที่พูดไปฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ!"
     
     มินซอกหยุดชะงักก่อนจะหันมาหน้ามาพยักหน้ารับพร้อมสีระเรื่อ คนตัวเล็กรีบวิ่งขึ้นบันไดของหอไปทันที ผมมองตามจนแผ่นหลังเล็กๆนั่นหายไป ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาเปิดดูรูปที่ถ่ายวันนี้
     
     ผมมองดูรูปคู่ของผมและมินซอกก่อนจะเลื่อนกลับไปยังรูปก่อนหน้านี้ที่มีมินซอกในอริยาบทต่างๆในสวนสนุก ใช่แล้วจังหวะที่มินซอกเผลอผมแอบถ่ายรูปของเขาเก็บไว้มากมาย รูปของคนตัวเล็กมันยังคงทำให้ผมยิ้มตามได้ไม่หยุดตั้งวันแรกเห็นจนตอนนี้
     
     "แฮร่!!"
     
     "เฮ้ย!"
     
     ยังไม่ทันที่สติจะหลุดลอยไปสู่ห้วงแห่งความหอมหวานผมก็ต้องผวาเพราะไอ้เพื่อนหน้ามึนที่ไม่ยอมปล่อยผมไปไหนดันมาเกาะกระจกรถฝั่งผมพร้อมทำหน้าอุบาทโชว์อีก
     
     มันเอ่ยปากพูดอะไรสักอย่างที่ผมจับใจความได้ว่ากลับหอมึงซะ เพราะผมไม่ได้ลดกระจกรถลงเลยได้แต่สรุปว่ามันไล่ผม ผมเลยตอบกลับมันไปแบบปากลมๆว่า 'เรื่องของกูครับ!' เน้นย้ำทีละตัวให้มันอ่านออกเลย์พยักหน้ารับก่อนจะเอ่ยแบบผมบ้าง แต่มันพูดว่าอะไรนะกล้วยเหรอ?อยากกินแลัวมาบอกผมทำไมวะ
     
     ผมกัดฟันฉีกยิ้มให้มันก่อนจะเจอมือไล่ปัดๆของมันที่ให้ผมไปๆสักที ผมหมุนพวงมาลัยขับรถออกมาเพื่อกลับหอของตัวเองบ้าง อ่าวันนี้ผมมีความสุขจังเลยแฮะนี่ขนาดอยู่ด้วยกันแค่วันเดียวนะถ้ามีมินซอกอยู่ด้วยกันไปทุกวันมันจะมีความสุขขนาดไหนนะ :)



     
    .
    .



     
     ผมโผล่หน้าออกมาจากหลังกำแพงทางขึ้นบันไดก็เจอเข้ากับเลย์ที่เดินเข้ามาพอดี เลย์เงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์ก่อนจะยิ้มให้ผมแล้วเลิกคิ้วถาม
     
     "ขอบคุณนะที่พาเฉินไปเดินเล่นแทนน่ะ"
     
     เลย์พยักหน้ารับพร้อมส่งผมมาให้ผมอีกทีพร้อมเตรียมจะเดินขึ้นบันไดไป
     
     "...จงแดกลับแล้วเหรอ?"
     
     เลย์หยุดเดินแล้วหันมามองผมอย่างมีเลศนัย ให้ตายสิผมล่ะเกลียดการถูกมองด้วยสายตาแบบนี้จริงๆมันทำให้หน้าผมร้อนจนต้องยกมือขึ้นมาพัดเลยล่ะ
     
     "กลับแล้ว"
     
     ผมพยักหน้ารับเตรียมจะเดินขึ้นบันไดเพื่อกลับห้องบ้างเลยกลายเป็นว่าผมเดินบันไดคู่ไปกับเลย์ เดินขึ้นมาได้สองสามขั้นเลย์ก็เอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาแต่มันกลับทำให้เลือกที่อยากจะเงียบมากจริงๆ
     
     "มินซอกจะบอกอะไรจงแดมันเหรอก่อนลงจากรถน่ะ?"
     
     ผมได้แต่เลิกลั่กไม่รู้จะตอบยังไงดียิ่งคิดถึงตอนที่จงแดบอกว่าจะจีบผมมันยิ่งทำให้ใบหน้าของผมร้อนขึ้นไปเป็นเท่าตัว นั่นแสดงว่าจงแด..ชอบผมใช่ไหม
     
     ผมส่ายหน้าปฏิเสธไปก่อนจะเดินนำไปยังชั้นที่ผมอยู่เอ่ยทิ้งท้ายให้เลย์ก่อนจะจากไป
     
     "ขืนบอกเลย์ไปเลย์ก็เอาไปบอกจงแดสิ"
     
     เลย์ได้แต่ส่งหน้าเอือมๆมาให้ผมพร้อมพยักหน้ารับอย่างจำได้แล้วโบกมือลาผมก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นสามที่เลย์อยู่ ผมหันเดินมาตามทางเดินก็ได้แต่ยิ้มเมื่อนึกถึงประโยคที่กลั้นใจจะบอกกับจงแดไป
     
     แต่มาคิดๆดูแล้วเก็บไว้ดีกว่าเนอะก็ใครจะไปบอกล่ะว่าต่อให้จงแดจีบผมแค่ไหนก็ไม่ติดเพราะว่าจงแดน่ะ..
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    'ได้หัวใจของผมไปตั้งนานแล้ว'




















    ---------------------------------------------------------

    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะซึ้งใจจังไม่คิดว่าจะมีคนสนใจด้วย
    การแก้บนของซีไมเนอร์ไม่ได้มีแค่นี้แน่ๆค่า 55555
    สำหรับเรื่องนี้ไม่ชอบยัวไงคอมเมมต์ได้เลยนะเราอ่านจริงๆนะ
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×