ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Photograph memory (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #14 : Photograph memory -14-

    • อัปเดตล่าสุด 1 ธ.ค. 57



    Photograph memory -14-
     


























     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     'ห้าทุ่มแล้วเหรอ' ผมมองบัตรเชิญในมือและนาฬิกาสลับกัน ผมกำลังตกอยู่ในห้วงของความยุ่งเหยิงใจหนึ่งบอกให้ไปอีกใจบอกอย่า
     
     'นายมันแย่สิ้นดีมินซอก'
     
     ถ้าผมไปแล้วเจอเขาล่ะ? ผมควรจะทำอย่างไรดียิ้มทักทายหรือทำเป็นไม่รู้จัก เสียงเคาะประตูห้องดังอยู่สักครู่ก่อนจะเป็นลู่หานและเซฮุนที่เดินเข้ามา
     
     "นายจะไม่ไปเหรอ?"
     
     ผมเงยหน้ามองเพื่อนสนิทของตัวเองส่งสายตาเหมอลอยให้อีกคนได้หนักใจ "มินซอกนายไม่ออกไปไหนมาหนึ่งอาทิตย์แล้วนะ"
     
     "ฉัน...ไม่พร้อม"
     
     ลู่หานถอนหายใจก่อนจะเดินจ้ำอ้าวมาหาผม มือเรียวยกขึ้นมาก่อนจะตบลงข้างแก้มผมอย่างไม่เบามือนัก หน้าทั้งหน้าของผมหันไปตามแรงตบก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา
     
     ไม่ได้ร้องไห้ที่ลู่หานตบแต่ร้องไห้ให้กับความงี่เง่าของตัวเอง "เฮ้ย!ตัวเองไม่เห็นต้องลงมือเลย"
     
     "จะให้เขาทนไว้ได้ยังไงตัวเอง!! เพื่อนเขามันบ้าไปแล้วโง่!โง่ที่จมอยู่กับสิ่งที่ตัวเองยึดติด!!!"
     
     "แต่ไม่เห็นต้องใชัความรุนแรงเลย"
     
     "มันจะได้ตาสว่างสักทีไงตัวเอง!!!!"
     
     "เขาว่าตัวเองไปพักเถอะเดี๋ยวเขาคุยกับมินซอกเอง"
     
     ลู่หานหันมามองผมอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องผมไปทิ้งไวัเพียงผมและเซฮุน เซฮุนดึงผมให้นั่งลงกับพื้นดัวยกัน
     
     "นายก็รู้ความจริงแล้วไม่ใช่เหรอ?"
     
     ผมพยักหน้าเซฮุนปล่อยใหน้ำตาไหลต่อไป ความเจ็บที่แก้มยังคงตราตรึงไม่หายไปไหนราวกับเป็นเครื่องเตือนใจตัวเอง
     
     'ผมคงโง่อย่างที่ลู่หานบอก'
     
     "จงแดมันจะคลั่งตายแล้วนะรู้ไหม?"
     
     ผมยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกก่อนจะเอ่ยตอบเซฮุน "ฉัน ยังไม่พร้อมเจอ"
     
     "เอางี้นะฉันมีเรื่องจะเล่าใหัมินซอกฟังแล้วมินซอกก็ลองเอาไปคิดดูนะ"
     
     ผมเงยหน้ามองเซฮุนก่อนจะเจอกับรอยยิ้มอบอุ่นที่ส่งมาให้ เซฮุนเดินไปหยิบหมอนอิงจากโซฟามาให้ผมและบอกให้ผมนั่งสบายที่สุด
     
     "เรื่องมันมีอยู่ว่า แม่มดได้เสกให้กล้องถ่ายรูปและฟิลม์มีชีวิตเพื่อเก็บเรื่องราวต่างๆ ทั้งคู่ออกเดินทางเพื่อเก็บความทรงจำดีๆไว้ แต่แล้ววันหนึ่งขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินทางได้เกิดอุบัติเหตขึ้น กล้องถ่ายรูปตกลงไปในหุบเขาลึกซึ่งสิ่งที่ช่วยไว้คือฟิลม์ถ่ายรูปที่เกี่ยวพันกับกิ่งไม้จนกล้องถ่ายรูปสามารถปืนกลับขึ้นมาได้แต่โชคร้ายที่ฟิลม์ม้วนนั้นกลับขาด"
     
     "ฟิลม์ขาดแล้วเป็นยังไง ก็ซื้อใหม่ได้นี่?" ผมเอ่ยถามเซฮุนแต่กลับได้รอยยิ้มกลับมาแทน
     
     "กล้องถ่ายรูปก็รีบนำฟิลม์ม้วนนั้นไปหาแม่มดวิเศษเพื่อหวังให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิม แม่มดถามถึงจุดประสงค์ที่กล้องถ่ายรูปอยากให้ฟิลม์ม้วนเดิมกลับมาเป็นเหมือนเดิม กล้องถ่ายรูปตอบแม่มดไปว่าฟิลม์ม้วนนี้มีความทรงจำที่ไม่อาจลืมได้อยู่ ต่อให้ได้ฟิลม์ม้วนใหม่มาก็ไม่เหมือนเดิม แม่มดรับปากจะช่วยทำให้ฟิลม์เป็นเหมือนเดิมแต่แม่มดบอกว่าฟิลม์จะกลับมาเหมือนเดิมแต่ไม่ใช่จุดเดิม"
     
     ผมสงสัยในคำพูดของเซฮุนจนเอียงคอมองอีกคน เซฮุนปล่อยเสียงหัวเราะออกมาไม่ดังไม่เบามากนัก "ก็ฉันไม่เข้าใจนี่"
     
     "คิดดูนะถ้าฟิลม์ม้วนนั้นไม่รักกล้องถ่ายรูปมันคงไม่ยอมเสียสละตัวมันเพื่อช่วยกล้องถ่ายรูปหรอก ก็เหมือนจงแดกับมินซอก มินซอกคือฟิลม์ที่เก็บความทรงจำดีๆกับกล้องถ่ายรูป จงแดคือกล้องถ่ายรูปแต่ฟิลม์จะไม่มีความทรงจำถ้าไม่มีกล้อง คิดดูให้ดีนะมินซอกพวกนายมาเติมเต็มให้กันจะยอมแยกแค่เพราะหุบเขาแค่นั้นเหรอ? ยังทันนะ"
     
     เซฮุนใช้สายตามองไปยังบัตรเชิญในมือผม ผมมองไปตามเซฮุนยกมือที่ถือบัตรไว้ขึ้นมาดูก่อนได้รับแรงจากมือกว้างที่ตบลงบนบ่าผมอย่างให้กำลัง
     
     เซฮุนลุกขึ้นเต็มความสูงตั้งท่าเตรียมจะเดินออกจากห้องไป ผมมองตามแผ่นหลับของเซฮุน พรางคิดถึงเรื่องที่เซฮุนเล่าก่อนลุกขึ้นและเดินไปหยิบกระเป๋าตังออกไปจากห้อง
     
     "ฝากดูเฉินด้วยนะเซฮุน"
     
     คล้อยหลังผมใครจะรู้ว่าเซฮุนยิ้มออกมาและหยิบโทรศัพท์ก่อนจะต่อสายไปยังใครบางคน 
     
     "จงแดเหรอ? มึงอย่าเพิ่งกลับนะเว๊ยฟิลม์ม้วนใหม่กำลังกลิ้งไปหามึงแล้ว"
      






     
     
    .
    .
    .
     
     








     
     
     อะไรของมันวะฟิลม์ม้วนใหม่กลิ้งมาหา? ผมยืนมองโทรศัพท์อย่างสงสัยก็ไอ้เซฮุนที่ชาติหนึ่งจะโทรเข้ามาแล้วจู่ๆก็บอกปริศนากับผม
     
     "ใครวะ"
     
     เลย์เดินเข้ามาข้างผมก่อนจะชะโงกหน้าทามองหน้าจอโทรศัพท์อย่างถือวิสาสะตามด้วยชานยอลที่เดินเข้ามาได้ยินบทสนทนาพอดี
     
     "ฟิลม์เหรอ? มันหมายถึงนิทานที่ชอบเอามาง้อลู่หานหรือป่าว เรื่องน้ำเน่ามากแต่กูก็เคยเอามาง้อแบคฮยอนนะ 55555"
     
     ชานยอลรายยาวก่อนจะแทรกระหว่างผมและเลย์พาดแขนของมันลงบนไหล่ของผมทั้งสองคนคนล่ะข้าง "แล้วยังไงลู่หานจะมาหากูอย่างนั้นเหรอ?"
     
     "กูจะไปรู้เหรอ ไปเหอะตึกจะปิดแล้ว"
     
     "กูว่าอาจจะเป็นมินซอก"
     
     ทั้งเลย์และชานยอลหันมองผมเป็นตาเดียว มันเหมือนมีความรู้สึกบางอย่างแทรกเข้ามาตั้งแต่ได้ยินประโยคนั้นจากเซฮุน ใบหน้าน่ารักก็ลอยเข้ามาทันที
     
     "ถ้าเป็นมินซอกแล้วมึงจะทำไม?"
     
     ผมแค่นยิ้มออกมาให้กับประโยคของเลย์ ไม่ว่าต่อใหัอะไรจะเกิดขึ้นผมจะขอรับมันเอาไว้เอาความหวังครั้งสุดท้ายมาเสี่ยงดู
     
     "เหมือนเดิม"
     
     
               










     
    .
    .
    .
     















     
     
     ผมวิ่งออกจากหอด้วยความเร็วพอตัวมองดูหมายเลขอาคารตามในบัตรเชิญ ตึกนั้นสินะแต่ไฟมันกลับปิดสนิทตึกทั้งตึกถูกความมืดเข้าปกคุม ผมเดินตรงไปยังตึกนั้นแตะมือลงบนประตูเบาๆ มันคงล็อคแล้ว
     
     ผิดคลาดเมื่อผมออกแรงดันประตูพร้อมกับกับแง้มเปิดออก ผมเดินเข้าตามทางที่มืดล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหวังหยิบโทรศัพท์ออกมาให้แสงสว่างแต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า แย่ล่ะลืมเอาโทรศัพท์มา
     
     อาศัยแสงจากดวงจันทร์ที่ส่องผ่านหน้าต่างให้นำทาง แสงไฟหริบหรี่สว่างขึ้นจากจุดหนึ่งของห้อง ผมเดินตามแสงไฟนั่นไปมันนำทางไปสู่ใจกลางห้อง
     
     แสงสว่างที่มาจากโคมไฟดวงเล็กติดผนังใต้โคมไฟนั้นมีรูปๆหนึ่งมันเป็นรูปของผู้ชายคนหนึ่งกำลังเล่นกับลูกหมาบีเกิ้ลตัวน้อยผมจะไม่สนใจเลยถ้ามันไม่ใช่...
     
     'รูปผม'
     
     ใต้ภาพมีคำบรรยายสั้นๆให้ชวนยิ้ม 'วันแรกที่เราเจอกัน' แต่แล้วโคมไฟตรงหน้าก็ดับลงก่อนที่ดวงถัดไปจะสว่างขึ้น ผมเดินไปยังโคมไฟดวงนั้นมันเป็นภาพที่ผมเล่นกับเฉินในสวนข้างมหาลัย
     
     ดวงไฟเปิดสลับกับดวงถัดไปเรื่อยๆมันจะสว่างพร้อมปรากฏรูปภาพของผมและคำบรรยายสั้นๆทั้งรูปที่ผมไปเป็นนายแบบทั้งรูปที่ผมไปสวนสนุกรูปตอนงานประกวดดาวเดือนรูปตอนผมนั่งทำงานหรือกระทั่งรูปตอนที่ผมกำลังฝึกถ่ายรูปในสวนสาธารณะ
     
     จนเมื่อผมเดินมาถึงภาพสุดท้ายโคมไฟก็ดับลง ทุกอย่างถูกความมืดเข้าปกคุมอีกครั้งผมหันมองซ้ายมองขวาก่อนที่โคมไฟจะสว่างขึ้นมาอีกครั้ง
     
     แสงสว่างส่องลงมายังบุคคลหนึ่งที่ยืนอยู่กลางแสงไฟ รอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์และสายตาที่อบอุ่นทอดมองมายังผม ผมเดินตรงเข้าไปหาคนเบื้องหน้าอย่างเชื่องช้า
     
     "จ..จงแด"
     
     "ชอบไหม?"
     
     น้ำตาเริ่มไหลออกมาอีกครั้งผมพยายามกลั้นไม่ให้มันไหล จงแดเดินเข้ามาใกล้ผมก่อนจะเกลียน้ำตาให้อย่างเบามือ
     
     "อย่าเอาแต่ร้องไห้สิ"
     
     รอยยิ้มอบอุ่นถูกส่งมาให้ "ฉันขอโทษนะที่เอารูปมินซอกมาทำโปรเจกจบของฉันแต่นี่มันก็คือเหตุผมที่ฉันไปหามินซอกไม่ได้"
     
     ผมปล่อยให้น้ำตาไหลอีกครั้งรู้สึกถึงฝ่ามืออุ่นมือวางลงบนศีรษะของผม ความรู้สึกมันประดังประเดเข้ามามันไม่โกธรจงแดแต่มันกลับเป็นสิ่งที่บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้
     
     'รัก..จนไม่รู้จะโกธรยังไง''
     
     "ฉันไม่ได้จะเซอร์ไพร์มินซอกแค่นี้นะ"
     
     มือกว้างของจงแดล้วงลงไปในกระเป๋าเสื้อของตัวเองก่อนจะหยิบแหวนวงหนึ่งขึ้นมา ถ้าจำไม่ผิดมันเป็นแหวนที่จงแดซื้อในวันนั้น
     
    "แหวนวงนี้ฉันตั้งใจซื้อให้มินซอกแต่ฉันไม่รู้ว่านิ้วมินซอกมันขนาดแต่น่าจะเท่าพี่ลี่อินเลยขอให้พี่ลี่อินลองให้น่ะ"
     
     จงแดจับมือของผมขึ้นมาก่อนจะบรรจงสวมแหวนนั่นลงบนนิ้วนางข้างขวาของผม บนนิ้วนางข้างขวาของจงแดก็มีแหวนวงหนึ่งที่เหมือนกันวงนี้เหมือนกัน
     
     "ฉันขอโทษสำหรับทุกเรื่องนะ"
     
     จงแดประทับริมฝีปากลงกับนิ้วนางที่มีแหวนอยู่จุมพิตเบาๆอย่างอ่อนโยน ก่อนที่ร่างสูงจะคุกเข่าลงตรงหน้าผม
     
     "มินซอก...เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะ ไม่สิเรามาเริ่มต้นกันใหม่นะในฐานะ....'คนรักกัน' "
     
     หยาดน้ำตาไหลออกมาไม่หยุดผมทิ้งตัวทาโถมกอดร่างสูงจนเราทั้งคู่ล้มไปกับพื้น จงแดสวมกอดผมกลับมือกว้างยกขึ้นลูบศีรษะของผม
     
     "ตกลงไหมมินซอก?"
     
     ผมพยักหน้ารับอีกฝ่ายทั้งน้ำตา หยดน้ำตาคร่าวนี้ไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจแต่มันเป็นน้ำตาแห่งความดีใจ ถ้าผมเป็นม้วนฟิลม์ที่ถูกเสกสร้างขึ้นมาใหม่ผมก็พร้อม...
     
     















     
     พร้อมที่จะเดินทางและสร้างความทรงจำกับกล้องถ่ายรูปที่ชื่อจงแดอีกครั้ง
     
     
     
     
     
     


















































    ------------------------------------------------

    มาลงพร้อมกับเดือนใหม่พอดี 5555555555
    ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
    จบเรื่องนี้ยังมีอีกเพียบเพราะคำว่าแก้บน 55555






















     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×