คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : Tell me the truth : บอกความจริงทั้งหมดมาเดี๋ยวนี้! 100%
[Special TaeTae Talk*]
“เธอมาทำอะไรที่นี่”
เพียงแค่คำพูดของชายที่อยู่ตรงหน้าก็ทำเอาฉันสะอึก ท่าทีและแววตาที่เย็นชาทำไมมันถึงได้ต่างจากเมื่อกี้เหลือเกิน เอาล่ะ การที่ฉันมายืนอยู่หน้าห้องเขา ไม่ใช่เพราะว่าพิศวาสอะไรหรอก ฉันแค่จะมาเอาของที่ลืมไว้เท่านั้น เท่านั้นจริงๆ
“ฉันมาเอาสมุดโน้ตของฉันคืน”
“ของเธอ?”
“เล่มที่ฉันมักจะแต่งเพลงเอาไว้น่ะ” พายุครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะพยักหน้าและเปิดประตูให้ฉันเข้ามาในห้องที่คุ้นตา บรรยากาศก็ยังเหมือนเดิม เฮ้อ~ ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนตัดสินใจก้าวออกมาแท้ๆ ทั้งๆ ที่วันนั้นเขาเป็นคนหยิบยื่นโอกาสให้แต่ฉันกลับปฏิเสธไป แล้วทำไมหัวใจมันเกเรแบบนี้นะ ทำไมต้องคิดถึงผู้ชายใจร้ายที่จับปลาสองมือแบบเขา
“แตแต ฉันรักเธอกลับมาคบกับฉันนะ” พายุพูดกับฉันด้วยแววตาแน่วแน่จนฉันอดที่จะสับสนไม่ได้ หัวใจพองโตอย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่มันก็ต้องฟีบลงทันใดเมื่อนึกถึงผู้หญิงข้างกายเขา...กวากวา
“แล้วกวากวาล่ะ นายจะทำยังไงกับเธอ”
“ก็ปล่อยไว้แบบนั้น” ใบหน้าของเขายังคงนิ่งเฉยจนฉันรู้สึกกลัวผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า เขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ชอบจับปลาสองมืออย่างงั้นเหรอ ฉันคิดพลางเปลี่ยนสีหน้าตัวเองให้นิ่งเฉยและพูดกับเขาว่า
“แล้วถ้าเรากลับไปเป็นเหมือนเดิม ฉันกับกวากวาคืออะไรสำหรับนาย ทำไมนายไม่เลือกสักคนไปเลยล่ะ”
“ฉันเลือกไม่ได้” สีหน้าของเขาสับสนอย่างเห็นได้ชัด เลือกไม่ได้อย่างนั้นเหรอ? นี่เขาเห็นฉันเป็นตัวอะไรกัน!
“งั้นความสัมพันธ์ของเราที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็ดีที่สุด อย่าทำแบบนี้อีกเลยนะ...อย่าเป็นผู้ชายเห็นแก่ตัวอีกเลยพายุ”
บทสนทนาตอนที่ฉันกับเขายังเป็นรูมเมทกันไหลเวียนเข้ามาในหัวอย่างห้ามไม่อยู่ขณะที่มองแผ่นหลังของพายุก้าวผ่านเข้าไปในห้องของเขา ว่าแต่...ทำไมสมุดฉันถึงได้ไปอยู่ในห้องเขาได้ล่ะ? ไม่ต้องถามให้มากความ ฉันสาวเท้าเข้าไปในห้องเขาอย่างถือวิสาสะและไม่สนใจเสียงตะโกนทัดทานของกวากวาที่ดังตามมาจากข้างหลัง
ปัง!
ฉันกระแทกประตูอย่างแรงเพื่อเข้าไปในห้องของพายุ แต่ดูเหมือนว่าฉันจะหยุดได้แค่หน้าห้องเพราะร่างสูงใหญ่ของเขากำลังยืนตระหง่านอยู่หน้าประตูจนฉันไม่สามารถมองเห็นห้องเขาได้
“นี่ไงของๆ เธอ” เขายื่นสมุดโน้ตเล่มหนาสีชมพูมาให้ ฉันคว้ามันไว้ด้วยความรวดเร็วก่อนจะเปิดไล่ดูทีละหน้าเพื่อเช็คความสมบูรณ์ของสมุด ทว่าสิ่งที่ฉันพบก็คือเพลงหรือความรู้เกี่ยวกับดนตรีที่ฉันเขียนเป็นบทความมักจะมีปากกาสีดำเขียนคำแนะนำไว้ทุกๆ บทความเสมอ หรือว่าจะเป็นเขา...ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าและส่งสายตาเป็นเชิงถาม ทว่าเขากลับไม่สนใจสายตาที่ฉันส่งมาให้ มิหนำซ้ำกลับผลักไล่ให้ฉันหลีกทางและเดินไปหากวากวาที่กำลังนำกับข้าวมาวางไว้บนโต๊ะกินข้าว
ฉันมองภาพเหล่านั้นด้วยความเจ็บปวด ทั้งๆ ที่หลายวัน หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาเป็นห่วงเป็นใยฉันจนออกนอกหน้าจนอดที่จะคิดไม่ได้ว่าเขาจะกลับมาหา แต่ภาพตรงหน้ามันทำให้ฉันรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองคิดมันไม่จริงเลย บางทีฉันอาจจะเข้าข้างตัวเองมากจนเกินไป ยังไงพายุก็ยังเป็นเหมือนเดิม ยังไงเขาก็ยังเป็นผู้ชายเห็นแก่ตัว
“ฉันไปล่ะนะ”
“อืม” พายุตอบฉันโดยไม่แม้แต่จะหันมามองด้วยซ้ำ นายมันใจร้ายพายุ! นายมันใจร้าย! ฉันเก็บความเสียใจทั้งหมดไว้ข้างในก่อนจะหันหลังไปปิดประตูห้องเขาที่เปิดค้างไว้ แต่สายตาของฉันกลับไปสะดุดเข้ากับสมุดเล่มหน้าปกแดงที่ดูคุ้นตา...นั่นมันไดอารี่คู่ที่ฉันซื้อให้เขานิ่ ทำไมเขายังเก็บไว้อยู่?
ฉันเก็บความสงสัยไว้ภายในและหันหลังมาดูพายุว่าทำอะไรอยู่ โอเค เขากำลังตั้งใจกินอาหารของกวากวาและหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน ดี! ฉันจะได้เข้าไปดูสมุดเล่มนั้นอย่างไม่ต้องคิดอะไรมาก ดังนั้นฉันจึงค่อยๆ ย่องเข้าไปในห้องเขาอย่างแผ่วเบาและคว้าสมุดเล่มที่อยู่บนเตียงมาเปิดดู หน้าแรกยังคงเป็นไดอารี่ที่เขาเขียนตอนที่ฉันซื้อสมุดเล่มนี้ให้ หึ สงสัยจะเอาไปทิ้งล่ะมั้ง โอเค ลองเปิดไปดูหน้าสุดท้ายดีกว่า เมื่อฉันไล่เปิดไปดูหน้าสุดท้ายก็ถึงกับชะงัก วันที่เขียนตอนที่ฉันซ้อมบาสนี่หน่า แต่อะไรมันก็คงไม่ช็อกไปกับคำที่ลงท้ายว่า ‘
‘ฉันรักเธอนะแตแต...ทุกสิ่งที่ฉันทำก็เพื่อเธอและฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ’
ประโยคนี้มันหมายความว่ายังไง นายกำลังสื่ออะไรกันแน่? คนอย่างแตแตไม่มีทางปล่อยให้ความสับสนอยู่ในใจได้นานหรอก ดังนั้นฉันจึงเปิดไล่อ่านหน้าก่อนหน้านั้นไปเรื่อยๆ พออ่านจบเท่านั้น ตัวและใจของฉันก็ชา น้ำตาค่อยๆ ไหลอาบแก้มอย่างชา ไม่นานเสียงสะอึกสะอื้นก็ดังไปทั่วห้อง
ทำไมนายต้องเสียสละเพื่อฉันแบบนี้พายุ...ทำไมนายต้องเลือกวิธีที่ทำร้ายจิตใจของเราได้มากขนาดนี้!
ฉันต้องไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง เมื่อคิดได้ดังนั้นฉันก็รีบปิดไดอารี่แล้วออกไปหาเขาทันที ตอนนี้เขากำลังนำจานที่กินเสร็จไปล้าง
“บอกความจริงทั้งหมดมาเดี๋ยวนี้นะพายุ! ว่าที่นายเขียนมาทั้งหมดมันเรื่องจริงใช่มั้ย!!!!!” ฉันแผดเสียงดังลั่นห้องโดยไม่สนใจว่าห้องข้างๆ จะได้ยินด้วย เขาเงยหน้าจากการล้างจานแล้วมามองหน้าฉันอย่างงงๆ แต่พอเขาเห็นไดอารี่ที่ฉันถือ ตาของเขาก็เบิกโพลงและสีหน้าของเขาก็ตกใจ หลังจากนั้นเขาก็คว้าไดอารี่ที่อยู่ในมือฉันและก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรออกมากวากวาก็เดินมายังพวกเราและคว้าไดอารี่เล่มนั้นแล้วเควี้ยงออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนจะหันหน้ามาพูดกับฉัน
“ถ้าอยากอยู่อย่างสงบก็ลืมเรื่องนี้ไปซะ! ยังไงความจริงที่พี่พายุเป็นของกวากวาก็จะไม่มีวันเปลี่ยน!!!” /> /> />
“เธอทำอะไรน่ะกวากวา รู้ตัวบ้างมั้ย!” ฉันตะโกนใส่หน้ากวากวาอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน สีหน้าเธอตกใจเล็กน้อย ก่อนที่ฉันจะพยายามวิ่งออกไปนอกห้องเพื่อไปหาไดอารี่เล่มนั้น ทว่าเธอกลับกระชากข้อมือฉันและเหวี่ยงไปชนกับตู้เก็บจานที่อยู่ใกล้ๆ จนตู้เปิดออกและจานที่อยู่ทั้งในและนอกตู้ต่างร่วงกรูลงมา ฉันปิดตายอมรับความจริงเนื่องจากสภาพของฉันตอนนี้มันเจ็บจนไม่อยากจะขยับเขยื้อน
“…”
ไม่มีเสียงจานตกลงพื้น เนื้อตัวของฉันก็ไม่เจ็บเลย แต่ทำไมพอฉันลืมตาทุกอย่างถึงได้มืดมิดและรู้สึกอบอุ่นในคราเดียวกัน พอฉันตั้งสติจึงรู้ได้ทันทีว่าความมืดมิดที่ว่าคืออ้อมกอดของพายุ...เขาคว้าตัวฉันมากอดและใช้ตัวเองเป็นโล่กำบัง...นายทำแบบนั้นไปทำไมในเมื่อหัวใจของนายไม่มีฉัน
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” เสียงหวีดร้องของกวากวาดังลั่นไปทั้วห้องพร้อมๆ กับที่เธอพยายามแกะอ้อมกอดของพายุให้หลุดจากตัวฉัน แต่ดูเหมือนว่ายิ่งแกะ พายุก็ยิ่งกอดฉันแน่นขึ้นเรื่อยๆ
“พี่พายุปล่อยพี่แตแตเดี๋ยวนี้นะ กวากวาบอกให้ปล่อยไง!!!!!!!!” กวากวาแผดเสียงลั่นไปทั่วห้องพร้อมกับหยิบของที่อยู่ใกล้ตัวขว้างปาใส่พายุอยู่เรื่อยๆ จนฉันชักทนไม่ไหวเลยพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดของเขา ทว่าพายุกลับกระซิบคำพูดที่ข้างหูฉันว่า
“ถ้าไม่อยากเป็นอันตรายก็อยู่เฉยๆ...ฉันจะปกป้องเธอเอง”
เพียงประโยคสั้นๆ จากเขา ทำนบน้ำตาของฉันก็แตกและเสียงสะอึกสะอื้นก็ตามมาพร้อมๆ กับที่ฉันกอดเขาตอบอย่างไม่สนใจผู้หญิงอีกคนที่อยู่ในห้อง...ฉันรักผู้ชายคนนี้ ฉันรักเขาจริงๆ
“พี่พายุ!!! ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่ฟังกวากวาแล้ว พี่พายุอยากให้มันซ้ำรอยเดิมใช่มั้ย!!!!!! อยากนักใช่มั้ย!!!” กวากวายังคงแผดเสียงดังลั่นห้องจนฉันทนไม่ไหวเลยใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักตัวพายุออกเพื่อจะเดินไปคุยกับกวากวาให้รู้เรื่อง ทำไมกวากวาต้องฟังพายุ? แล้วเรื่องรอยเดิมคืออะไร? ทว่าเมื่อฉันมองหน้ากวากวาให้ชัดก็ถึงกับตกใจ เพราะตอนนี้ตาของเธอเหลือกเหมือนคนเสียสติ ผมเผ้าแลดูยุ่งเหยิง ซึ่งฉันพอเดาได้ว่าเธอต้องทึ้งผมตัวเองแหงๆ เนื่องจากพอสังเกตไปยังมือที่วางอยู่ข้างลำตัวก็พบว่ามีเศษผมติดอยู่ด้วย
“ถ้าไม่มีเธอ พี่พายุก็ต้องรักฉัน!!!” กวากวาชี้หน้าฉันอย่างเอาเรื่อง ดวงตาฉายแววความแค้นอย่างเห็นได้ชัด ต่อจากนั้นเธอก็สาวเท้ามายืนอยู่ข้างหน้าและพูดกับฉันว่า
“ทั้งๆ ที่ฉันเจอพี่พายุก่อน ทั้งๆ ที่พี่พายุก็เจอฉันก่อน แต่เป็นเพราะเธอ เพราะเธอ นังผู้หญิงแพศยา! แย่งได้แม้แต่คนที่น้องตัวเองรัก เธอมันสารเลว!!!!!!!!!!!!!” หมายความว่าไง? กวากวาเจอพายุก่อนอย่างนั้นเหรอ มันจะเป็นไปได้ยังไง...นอกจากตอนนี้กวากวาเสียสติ ใช่! ตอนนี้กวากวาเสียสติไปแล้ว!
“ฉันอุตส่าห์ทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดเธอให้พ้นทาง อุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อนฉันก็เป็นคนทำเพื่อให้คนที่ควรจะเป็นของฉันกลับคืนมา แต่เธอก็ยังให้ท่าพี่พายุอยู่ได้! ก็รู้ว่าเขาเป็นของฉัน ก็รู้อยู่แก่ใจว่าเขารักฉัน!!!!”
“ฉันไม่เคยรักเธอเลยนะกวากวา!!!! เลิกคิดเองเออเองได้แล้ว!!!!” อยู่ดีๆ พายุก็ตะโกนสวนกลับกวากวา ฉันหันไปมองหน้าเขาเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจเดินไปยืนข้างๆ เขา บางทีความจริงที่สงสัยอาจถูกเฉลยในวันนี้ก็เป็นได้
“ไม่จริง!!!!!!!! พี่พายุรักกวากวา พี่พายุรักกวากวา!!! ก็เมื่อก่อนพี่พายุยังบอกรักกวากวาต่อหน้าพ่อกับแม่อยู่เลย พี่พายุสัญญากับท่านว่าจะดูแลกวากวา พี่พายุใจร้าย พี่พายุใจร้าย!!!!!!!!” แววตาของกวากวาเลื่อนลอยขณะที่พูดพร้อมกับที่เธอทึ้งหัวตัวเองอย่างกับคนเสียสติ ฉันได้แต่มองภาพเหล่านั้นด้วยความปวดใจ น้องสาวที่แสนดีของฉันทำไมถึงได้เป็นแบบนี้ ทำไมเธอถึงได้เป็นแบบนี้!!!
“เธอก็รู้ว่าฉันทำแบบนั้นไปทำไม เพราะเธอทำให้ฉันต้องทำแบบนั้นและฉันก็จะไม่ทำอีกแล้ว เหตุการณ์บ้าๆ ในวันนี้มันทำให้ฉันคิดได้ว่า ฉันจะไม่ยอมเธออีกแล้ว!!!! ฉันจะพูดให้มันรู้ดำรู้ดีไปเลย ฉันไม่ได้รักเธอนะกวากวา ฉันไม่เคยรักแล้วก็ไม่เคยคิดจะรักด้วย!!!!!!!!”
“แต่พี่พายุเจอกวากวาก่อนมัน พี่พายุต้องรักกวากวาสิ!!!”
“ฉันไปเจอเธอตอนไหนกันกวากวา เลิกเสียสติได้แล้ว พอกันที!!!”
“ไม่จริง ไม่จริง พี่พายุรักกวากวา พี่พายุรักกวากวา พี่พายุต้องรักกวากวา ได้ยินมั้ยว่าพี่พายุต้องรักกวากวา!!!” กวากวาพูดพึมพำคนเดียวก่อนที่เธอจะตะโกนใส่พายุด้วยเสียงที่ฉันคิดว่าทั้งหมดที่เธอมี
“ไม่อีกแล้ว ฉันไม่ยอมเธออีกแล้ว ต่อไปนี้ฉันจะทำตามความต้องการและปกป้องผู้หญิงที่ฉันรักด้วยตัวของฉันเอง ฉันรักแตแตไม่ใช่เธอกวากวา ได้ยินมั้ยว่าฉันรักแตแต!!!!”
“ไม่จริง ไม่จริง ไม่จริงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง” กวากวาแผดเสียงดังลั่นห้องอีกครั้งก่อนที่เธอจะสลบลงไปกองกับพื้น
“กวากวา!!!” ฉันกระโจนไปหาเธอและคว้าตัวเธอมากอดเอาไว้ อย่างน้อยเธอก็เป็นน้องของฉัน ถึงแม้สิ่งที่เธอทำมันจะร้ายแรงแต่ฉันก็ไม่อาจทนเห็นเธอเป็นแบบนี้ได้
“พายุ พากวากวาไปห้องพยาบาล เดี๋ยวเรื่องทั้งหมดค่อยคุยกันอีกที” พายุทำสีหน้าลังเลเล็กน้อยจนฉันอดที่จะโมโหไม่ได้ ถึงเขาจะเกลียดกวากวายังไงแต่ตอนนี้เธอก็ไม่สบายอยู่นะ!
“พากวากวาไปห้องพยาบาลเดี๋ยวนี้!” ฉันออกเสียงสั่งพายุ เขาดูตกใจเล็กน้อยก่อนจะเข้ามาช้อนร่างกวากวาและพาไปยังห้องพยาบาล ส่วนฉันก็ได้แต่ภาวนาว่า
อย่าเป็นอะไรไปเลยนะ...ถึงเธอจะร้ายยังไงก็ยังเป็นน้องฉันและอีกอย่าง
ความจริงทั้งหมดของเรื่องนี้ฉันจะต้องรู้ให้ได้!
ตอนนี้ฉันกับพายุยืนอยู่หน้าห้องพยาบาลได้ครู่ใหญ่แล้ว ก่อนที่ทางคุณหมอประจำห้องพยาบาลของโรงเรียนจะเดินมาบอกฉันว่าต้องส่งกวากวาไปยังโรงพยาบาลที่เธอรักษาประจำ รักษาประจำอย่างนั้นเหรอ? กวากวามีโรคประจำตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย แต่นี้ไม่ใช่เวลามาคิดมาก ดังนั้นฉันจึงคว้าแขนพายุและกระชากให้เดินไปยังรถที่นำกวากวาไปยังโรงพยาบาล
เวลาผ่านไปสักพักพวกเราก็มาถึงโรงพยาบาล ฉันกับพายุรอหมอตรวจกวากวาอยู่สักพัก ก่อนที่จะหมอจะเดินออกมาบอกพวกเราว่า กวากวาเป็น ’โรคเดิมๆ’
แล้วโรคเดิมๆ มันคืออะไรกัน!
ถึงจะอยากรู้มากแค่ไหนฉันก็ไม่ได้ถามออกไป สิ่งที่ทำได้คือเดินตามพยาบาลที่นำร่างกวากวามานอนอยู่ที่ห้องพิเศษ โดยมีแม่ของกวากวารออยู่ก่อนแล้ว พอท่านเห็นฉันเดินเข้ามาในห้อง ท่านก็โผเข้ามากอดฉันและร้องไห้เสียยกใหญ่
“โรคเดิมๆ ของกวากวากลับมาอีกแล้ว ฮึกๆ น้าเสียใจ น้าเสียใจที่ไม่สามารถรักษากวากวาจนหายสนิท ฮึก และสุดท้าย ฮึก กวากวาก็มาทำร้ายหลานนะแตแต ฮือๆ” คุณน้าส่งเสียงสะอึกสะอื้นขณะที่พูดเป็นระยะๆ คำว่าโรคเดิมๆ เป็นคำที่ฉันได้ยินบ่อยสุดในวันนี้ บางทีคุณน้าอาจจะตอบคำถามคาใจได้
“คุณน้าคะ โรคเดิมๆ ที่คุณหมอพูดถึงกวากวานั้นมันหมายความว่ายังไงคะ”
“กวากวามีอาการทางประสาทน่ะจ้ะ...เป็นตั้งแต่เสียคุณย่าไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ทั้งๆ ที่ตอนนั้นอายุแค่ 12 ขวบเท่านั้นเอง ว่าแต่แตแตยังจำเหตุการณ์วันนั้นได้ใช่มั้ยจ๊ะ”
ทำไมฉันจะจำไม่ได้ล่ะ ก็ในเมื่อวันนั้น ฉันเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ปลอบใจเธอ เหตุการณ์วันนั้นก็เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันคาดไม่ถึง เนื่องจากคุณย่าของกวากวาโชคร้ายที่โดนโจรฆ่าชิงทรัพย์ แล้วกวากวาก็สนิทกับคุณย่ามาก เรียกได้ว่าสนิทกว่าพ่อ แม่และใครๆ ทั้งหมดบนโลกใบนี้เพราะท่านเลี้ยงดูกวากวามาตั้งแต่เด็กก่อนที่เธอจะย้ายมาอยู่กับแม่ได้เพียง 1 ปีเท่านั้น หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ฉันรู้แค่เพียงว่ากวากวาเป็นโรคซึมเศร้า แต่ไม่เคยรู้เลยว่าต่อมาจะกลายเป็นแบบนี้...
“แต่กวากวาก็อาการดีขึ้นเมื่อได้มาเจอพายุ ตอนนั้นกวากวาน่าจะอายุ 13 ขวบนะ เธอดีใจใหญ่เลยแถมมีการวิ่งมาบอกน้าว่าเจอเจ้าชายขี่ม้าขาวที่มาช่วยเธอจากนักเรียนหญิงใจร้ายที่ชอบแกล้งกวากวาเพียงเพราะว่าเธอมีใบหน้าที่ดูหยิ่งๆ” ฉันตกใจเป็นอย่างมากเมื่อได้ฟังสิ่งที่คุณน้าพูด ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่กวากวาพูดเมื่อครู่ก็เป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ! ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองพายุเพื่อค้นหาคำตอบจากเขา ทว่าสีหน้าของเขาก็ไม่ต่างไปจากฉันเช่นกัน มันทั้งครุ่นคิดระคนตกใจ แต่เมื่อผ่านไปสักพักสีหน้าของพายุก็เต็มไปด้วยความตกใจ ตัวของเขาเซไปยังผนังและค่อยๆ ทรุดลงอย่างช้าๆ จากนั้นเขาก็ทึ้งผมตัวเองและตะโกนออกมาจนทั้งฉันและคุณน้าตกใจ
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
“พายุ! นายเป็นอะไรไป” ฉันถลาเข้าไปประคองร่างของเขาที่ตอนนี้ดูเหมือนคนเสียสติไปอีกคน
“ฉันลืมมันไปได้ยังไง ฉันลืมมันไปได้ยังไง ฉันลืมมันไปได้ยัง!!!!!!!!!” พายุแผดเสียงดังลั่นห้องพยาบาลจนฉันต้องกระชับอ้อมแขนที่กอดเขาอย่างหลวมๆ เมื่อครู่ให้แน่นขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะถามเขาออกไป
“นายลืมอะไรเหรอพายุ นายลืมอะไร”
“ฮึก ฮึก ฉันลืมสัญญาที่ให้ไว้กับกวากวาเมื่อตอนฉันอายุ 14 ฉัน ฮึก ตอนนั้นฉันไปช่วยกวากวาที่กำลังโดนนักเรียนหญิงแกล้ง เราสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะทั้งฉันและเธอต่างก็ไม่มีเพื่อน แต่เมื่อฉันต้องย้ายบ้าน ฉันก็ขาดการติดต่อกับเธอ แต่ก่อนไปฉันได้สัญญากับเธอว่า ถ้าฉันอายุ 16 ฉันจะกลับมา จะกลับมาดูแลเธอ อาจเป็นเพราะว่า 2 ปีให้หลัง เธอโตขึ้นและหน้าตาเปลี่ยนไปจนฉันจำไม่ได้ ฉันมันเลว! ฉันมันเลวที่ผิดสัญญากับกวากวาทั้งๆ ที่ตอนนั้นฉันบอกว่าจะดูแลเธอให้ดี ทั้งๆ ที่สัญญาว่าจะดูแลน้องแตงกวาที่มีอาการโรคซึมเศร้าในตอนแรก ทั้งๆ ที่ฉันเป็นคนฉุดกวากวาที่ดูเหมือนคนตายทั้งเป็นให้ดีขึ้น แต่สุดท้ายก็เป็นคนทิ้งเธอให้กลับไปอยู่ก้นเหวอีกครั้ง ฮือออ น้องแตงกวา พี่พายุขอโทษที่ไม่ได้ทำหน้าที่พี่ชายให้ดี ฮืออออออ” พายุร้องไห้คร่ำครวญราวกับคนเสียสติจนฉันทำตัวไม่ถูก แต่อะไรมันก็ไม่ทำให้ฉันตกใจเท่ากับเรื่องที่พายุเล่าให้ฟัง สุดท้ายคนที่พายุรักมาก่อนก็คือกวากวาอย่างนั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันมันก็เป็นแค่ส่วนเกินสินะ...
“พี่พายุช่วยแตงกวาด้วย เขามาแกล้งแตงกวาอีกแล้ว ฮือออ เขามาแล้ว เอาไม้ออกไป เอาไม้ออกไป ฮืออ” กวากวาละเมอออกมาพร้อมกับพยายามใช้มือปัดป่ายอากาศ เมื่อพายุเห็นเขาก็รีบถลาไปจับมือกวากวาและกระซิบข้างหูกวากวา
“พี่พายุมาแล้วนะน้องแตงกวา ไม่มีใครมาทำร้ายน้องแตงกวาแล้ว” เมื่อได้ยินเสียงพายุ กวากวาก็สงบลงทันที เธอนอนยิ้มราวกับพายุได้เข้าไปช่วยเธอในฝัน
ฉันได้แต่มองภาพเหล่านั้นด้วยความสับสน ฉันควรเดินออกมาสินะ เมื่อคิดได้ดังนั้น ฉันจึงเดินไปเปิดประตูออกและตั้งใจจะเดินออกไป ทว่าพายุกลับปล่อยมือกวากวาและคว้าแขนฉันไว้
“จะไปไหนน่ะแตแต” พายุถามฉันด้วยแววตาใคร่รู้
“ไปตามทางของฉัน นายอยู่กับกวากวานั่นแหละดีแล้ว ทั้งๆ ที่คิดว่าพี่สาวอย่างฉันจะรู้ทุกเรื่องของกวากวา แต่เปล่าเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่ฉันไม่รู้ และอีกอย่างนายก็รักกวากวามาก่อนฉัน อยู่ดูแลเธอดีกว่านะ” ฉันพยายามแกะมือพายุออก ทว่าเขากลับบีบมันแน่นและใช้มือข้างที่ว่างอยู่จับใบหน้าฉันให้มาเผชิญกับเขา
“แต่ฉันกับกวากวาเป็นได้แค่พี่น้องกันเท่านั้นนะ ฉันรักกวากวาแบบน้อง แต่คนที่ฉันรักแบบคนรักคือเธอนะแตแต” เราทั้งคู่จ้องตากันราวกับจะสื่อความในใจออกไปทั้งหมด ฉันรู้ได้ในทันทีว่าเขารักฉัน แต่ฉันก็ไม่อยากให้เขาผิดสัญญาและทิ้งกวากวาให้เดียวดายแบบนี้ บางทีถ้ามีเขา กวากวาอาจจะหายเป็นปกติ
“แต่กวากวาขาดนายไม่ได้ นายก็เห็น”
“แต่ฉันก็ขาดเธอไม่ได้ ฉันทนเห็นเธอไปกับไอ้ชาเย็นไม่ได้!”
“ไม่ต้องห่วงหรอกพายุ ฉันจะไม่คบกับชาเย็น” พายุยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของฉัน แต่ยิ้มของเขาก็ต้องหุบลงเมื่อได้ยินคำพูดต่อจากนั้น
“และฉันก็จะไม่กลับไปคบกับนายเช่นกัน ต่อแต่นี้ไปฉันจะอยู่ตัวคนเดียว จะไม่มีทั้งพายุ จะไม่มีทั้งชาเย็น แต่จะมีแค่เพียงแตแต เพื่อนที่ดีของทั้งคู่ แต่ไม่ใช่คนที่ทั้งคู่สมควรจะรัก ได้โปรดทำตามที่ฉันบอกเถอะนะ เพื่อความสุขของทุกคน” ฉันยิ้มให้พายุอย่างเศร้าๆ ก่อนที่จะแกะมือเขาและเดินจากมา
ทั้งๆ ที่คิดว่าการตัดสินใจของฉันครั้งนี้จะทำให้ทุกคนมีความสุข แต่ทำไมน้ำตามันถึงได้ไหลออกมาแบบนี้ การที่คนจะมีความสุขมันต้องยิ้มและรู้สึกอิ่มเอิบไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมตอนนี้ฉันถึงรู้สึกเจ็บแปลบและมีแต่น้ำตากับเสียงสะอึกสะอื้นล่ะ
ทำไมความสุขมันถึงได้เจ็บปวดแบบนี้...
ความคิดเห็น