ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กรมธรรม์ประกันรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 เส้นทางแห่งโชคชะตา 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 158
      0
      14 ม.ค. 53

    กรมธรรม์ประกันรัก

    ตอนที่ 1 เส้นทางแห่งโชคชะตา

               

                เชื่อเถอะว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรจีรังยั้งยืน ทุกอย่างล้วนเป็นอนิจจัง พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ฯลฯ ในขณะที่หลานรักของน้ากำลังถือจดหมายฉบับนี้อยู่ในมือ นั้นอาจหมายถึงว่าน้าไปหายหัวไปจากบ้านพร้อมเงินทุนก้อนนึงที่เพิ่งไปกู้เขามาเมื่อไม่กี่นาทีก่อน

    ...แปดแสนจ๊ะ น้าตั้งใจว่าจะไปลงทุนทำธุรกิจเล็กๆ กับเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อที่ชื่อไอซ์ ฉะนั้นระหว่างที่น้าไม่อยู่ช่วยผ่อนค่าดอกเงินกู้ให้น้าด้วยนะจ๊ะไม่มากไม่มายร้อยละยี่ คิดดูดีๆ ต่อเดือนก็ไม่เท่าไหร่มั้ง คงไม่เยอะไปใช่มั้ยจ๊ะ สำหรับสาวไฮเปอร์ที่ขยันทำงานพิเศษมิได้หยุดหย่อนอย่างหลาน

              สุดท้าย...ไม่ว่าหลานจะคิดอย่างไรเมื่อได้อ่านจดหมายฉบับนี้ของน้า น้าอยากบอกแค่ว่าน้ารักเรามากนะศศิ และขอให้ศศิของน้าจงมีแต่ความสุขความเจริญตลอดไปด้วยเทอญ สาธุ

              ลาก่อนหลานสาวที่รัก เปลี่ยมมุมมองใหม่ในชีวิตและใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่านะจ๊ะ โฮะๆ

              ป.ล.

              น้าจะกลับมาเมื่อน้าพร้อมและรวยแล้ว ฉะนั้นไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตามไม่ต้องพยายามติดต่อให้เมื่อยตุ่มนะหลานรัก อยากบอกแค่นี้แหล่ะ

    รักนะจุ๊บๆ บายจร้า...

             

                แกร๊บ!

                จดหมายที่ถูกเขียนขึ้นจากกระดาษลายสวยถูกขย้ำขยี้ด้วยมือบางของหญิงสาวคนหนึ่ง

    น้าเมย์... หลังจากที่ได้อ่านจดหมายที่คุณน้าสาวตัวดีทิ้งไว้ให้พร้อมกับหนี้ก้อนโต ศศิประภาก็ถึงกับเป็นอึ้ง เมื่อตอนนี้นักศึกษาที่กำลังเรียนปีสี่ถูกทิ้งให้หางานทำเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเทมอเอง แถมยังต้องใช้หนี้ที่น้าสาวกู้แล้วหนีไปอีกด้วย

    หนี้เก่ายังไม่เคลียร์ หนี้ใหม่ก็พอกเร็วยิ่งกว่าดินพอกหางหมูอีก

                โอ้ย! อยากจะบ้า นี่มันอะไรกันเนี่ย!”

                ใบหน้าหวานของสาวรุ่นอย่างศศิประภาเปลี่ยนจากสีชาวอมชมพูสุขภาพดีเป็นแดงระเรื่อและมันก็ยิ่งจะเปล่งปลั่งขึ้นทุกวินาที เมื่อความโกรธที่ได้รับหลังจากการอ่านจดหมายที่น้าสาวทิ้งไว้ให้ทำให้ศศิประภาได้รู้ถึงชะตากรรมใหม่ที่แสนจะตกอับ

                สาวไฮเปอร์ที่ขยันทำงานงั้นเรอะ!

                ศศิประภาได้แต่ทวนข้อความในจดหมายที่น้าสาวทิ้งไว้ให้อย่างโกธรเคือง ที่เธอต้องทำงานหนักก็เพราะเธออยากจะเรียนให้จบ การที่เธอต้องไปเป็นพนักงานตามร้านอาหารหรือตามห้างก็เพื่อที่เธอจะได้มีเงินมาจ่ายค่าเทมอกับค่าใช้จ่ายส่วนตัวและยังค่าใช้จ่ายเรื่องเรียน แต่ทำไมน้าสาวตัวดีถึงได้เห็นเรื่องความลำบากของเธอเป็นเรื่องสนุก แถมยังทิ้งภาระเรื่องการเงินที่แสนหนักหนาไว้ให้เธออีก

                ปังๆๆๆ

                เสียงทุบประตูราวกับฟ้าถล่มทำให้ศศิไม่มีเวลามาพอจะมานั่งบริภาษหน้าสาวตัวแสบ ขนาดเวลาจะให้วิจารณ์ผู้ที่เลี้ยงดูอุปการะเธออย่างเสียๆ หายๆ ยังหามาให้แทบไม่ได้ ศศิได้แต่นึกด่าสวรรค์ว่าทำไมถึงได้ลำเอียงกับชีวิตของเธอหนัก

                ปังๆๆๆๆ

                เสียงทุบประตูยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่อง ศศิปลายหางตาไปมองปานประตูที่จะหลุดติดมือคนทุบด้วยความไม่พอใจ หญิงสาวได้แต่คิดว่าเมื่อไหร่ชีวิตเธอจะมีวันที่สงบสุขหนอ

    เฮ้ย! มีคนอยู่มั้ยวะ!”

    เสียงทุบประตูกับเสียงตะโกนที่อยู่ๆ ก็ดังขึ้นทำเอาศศิประภาถึงกับสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ จากใบหน้าที่เคยแดงก่ำกลายเป็นขาวซีดและไร้สีเลือดราวกับกระดาษขาวเกรดเอไม่มีผิด

    ตายล่ะ อย่าบอกน่ะว่าเจ้าหนี้ ศศิประภาตาโตทันทีเมื่อคิดได้ว่า ณ เวลานี้ใครกันที่จะมาพังบ้านเธออย่างเอาเป็นเอาตาย

    เปิดเซ่! รู้นะว่ามีคนอยู่น่ะ เสียงตะโกนโวกเหวกโวยวายดังขึ้นไม่หยุดหย่อนที่หน้าประตูไม้สุดบอบบางของบ้านเช่าหลังเล็ก

                ทุบให้ตายไปเถอะ จ้างก็ไม่เปิด!”

                ศศิแว้ดใส่ประตูที่ยังคงโดนประทุษร้ายก่อนจะเหลือกตามองเพดานอย่างอ่อนใจหนักหนา

                เปิดนะโว้ย! ไม่เปิดพ่อจะพังเข้าไปเดี๋ยวนี้เลย

                เสียงหัวหน้านักเลงที่ศศิคุ้นเคยดีทำเอาหญิงสาวหัวหด หลังจากที่ได้อ่านจดหมายของหน้าสาวสุดที่รักศศิก็คิดมาตลอดว่าใครกันหนาโง่ยอมให้น้าเธอหลอกเงินไปได้ แต่พอศศิคิดไปคิดมาสงสัยคงจะหนีไม่พ้นไอ้หัวหน้านักเลงประจำหมู่บ้านที่กำลังตะโกนป่าวๆ อยู่ตอนนี้เป็นแน่

                คนอะไรโง่ยิ่งกว่าควายอีก คราวก่อนน้าเมย์ยังไม่ได้ใช้หนี้คืนสักบาทยังยอมให้ยื่มอีก ไปกินหญ้าเสียเถอะไป๊!” ศศิเอ่ยขึ้นอย่างมีน้ำโห เรื่องนี้จะโทษว่าน้าเมย์เธอผิดฝ่ายเดียวไม่ได้แล้ว ไอ้คนตัวใหญ่แต่ไร้สมองที่ยืนอยู่หน้าประตูนั้นก็ผิด

    ไม่เปิดใช่มั้ย พังมันเลย!”

    เสียงทุ้มห้าวของพวกนักเลงดังขึ้น

    เมื่อถึงภาวะคับคันเข้าตาจนจริงๆ ศศิก็เลือกหาทางเอาตัวรอดด้วยทางลับที่เธอใช้เป็นประจำนั้นคือการกระโดดออกหน้าต่างแล้วหนีไปทางหลังซอยแทน

                สงสัยคราวนี้กลับบ้านไม่ได้อีกเป็นอาทิตย์แหงเลยเรา ให้ตายซวยชะมัด

                ศศิบ่นกระปอดกระแปดในขณะที่ร่างบางของเธอกำลังห้อยโหนอยู่ที่หน้าต่างบานหนึ่งของตัวบ้าน

                โครมมมม!!!

                ในที่สุดประตูบ้านไม้หลังเล็กก็ถูกกระแทกเปิดออก ชายร่างสูงใหญ่สามคนเดินเข้ามาในตัวบ้านพร้อมกับกวาดสายตามองหาลูกหนี้หน้าดำคร่ำเครียด แต่ทว่าพวกเขาก็หาได้เจอคนที่ต้องการเพราะว่าตอนที่ประตูบ้านถูกกระแทกเปิดออก ศศิก็กระโดนแผ่วหยิบเอากระเป๋าเสื้อผ้ากับของใช้สวนตัวบางอย่างติดตัวก่อนกระโจนออกจากบ้านไปเป็นที่เรียบร้อย

                กลับมานะโว้ย! ไอ้น้าหลานจอมลวงโลก!”

                เสียงโหยหวนของหัวหน้านักเลงที่เพิ่งเสียเงินไปฟรีๆ แปดแสนดังก้องไปทั่วในขณะที่ศศิเดินสะพายเป้ก้าวทะลุหลังซอยออกไปด้วยความไวแสง

                จะอยู่ให้โง่เรอะ ไอ้บักบัพฟาโร่เอ๊ย!”

     

                ค้างด้วย

                คำพูดนั้นหลุดออกมาจากปากบางๆ ที่แดงระเรื่อของหญิงสาวที่หอบแฮกๆ

                จะบ้าเรอะ!”

                คืนเดียวก็ได้ พรุ่งนี้จะไปหาที่อยู่ใหม่

                ไม่ว่าจะรับคำหรือปฏิเสธศศิก็จัดการหยัดของทุกอย่างใส่มือแว่น เพื่อนสาวที่อยู่มหาลัยเดี๋ยวกันไปเป็นที่เรียบร้อย

                ต้องไปทำงาน คืนนี้เจอกัน

                ศศิโบกมือลาแว่นเพื่อนสาวร่วมมหาลัยก่อนจะวิ่งไปยังป้ายรถเมย์ท่ามกลางสายตาตื่นตะลึงของเพื่อน

                เฮ้ยไอ้ศศิ! เฮ้ยๆ

                เพื่อนสาวของศศิยืนตาโตตะโกนเรียกตัวสร้างเรื่องอย่างโง่งม เพราะนอกจากตะโกนไปศศิจะไม่รับฟังแล้ว ยังมีหน้ามาโบกมือบายบ่ายแล้วฉีกยิ้มให้อีก

     

                หลังจากที่หาที่อยู่ให้ตัวเองในคืนนี้ได้ศศิประภาก็นั่งรถเมย์สายประจำไปทำงานในช่วงดึกของเธอต่อ เวลานี้ศศิต้องไปเป็นพนักงานชงเหล้าให้ไนต์คลับแห่งหนึ่ง เสื้อยืดกับกางเกงยีนที่สวมใส่ต้องถูกถอดออกและเปลี่ยนเป็นยูนิฟอร์มของทางร้านที่จัดเตรียมไว้ให้

                มาสายนะเรา

                เสียงทักทายของหัวหน้าดังขึ้นเมื่อศศิเปลี่ยนชุดพนักงานเสิร์ฟออกมาเสนอหน้าที่หลังเคาร์เตอร์บาร์เป็นที่เรียบร้อย

                หยวนๆ นะคะ กว่าจะมาได้เล่นเอากระดูกไหปลาร้าแทบหลุด

                การเปรียบเปรยของศศิเล่นเอาหัวหน้าเด็กเสิร์ฟขำก๊าก แต่ศศิไม่ได้พูดเท็จแม้แต่คำเดียวเพราะวันนี้เธอวิ่งหนี้เจ้าหนี้จนร่างกายแทบจะแยกชิ้นส่วนออกจากกันได้

                เอาเถอะ ตั้งใจทำงานแล้วกัน

                คร้า

                ศศิรับคำเสียงใส ก่อนจะหันไปจัดชั้นวางแก้วเพื่อรอร้านเปิดต้อนรับแขกไฮโซทั้งหลายที่จะเข้ามาดื่มด่ำหาความสำราญในร้านหรู

     

    >>>>>>>>>>>>>>>>>>50%

     

                ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ใจกลางกรุงเทพมหานคร

                คุณย่าหาย!”

                เกิดเสียงร้องดังขึ้นระงม เมื่ออยู่ๆ ผู้อาวุโสประจำบ้านของตระกูลคาร์เตอร์กลับหายตัวอย่างลึกลับ

                มันเกิดขึ้นได้ยังไง เมื่อเช้าใครมีได้เห็นคุณท่านบ้าง!”

                เสียงของหัวหน้าแม่บ้านดังลั่นขึ้นเพื่อหาตัวผู้เห็นเหตุการณ์ลำดับสุดท้าย

                ไม่เลยค่ะ เมื่อเช้าไม่มีใครเห็นคุณท่านเลยค่ะ

                เหล่าบรรดาแม่บ้านสาวเล็กสาวใหญ่พากันส่ายหน้าดิกก่อนจะปฏิเสธพัลวันว่าไม่มีใครเห็นคุณย่าขาใหญ่ประจำบ้านที่หายตัวอย่างไร้ร่องรอย

                เป็นไปได้ยังไงคนทั้งคนกลับไม่มีใครเห็น เสียงของเจ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่ดังขึ้น ในตอนนี้อีริค ลาร์ คาร์เตอร์ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวและเจ้าของบ้านกำลังทำหน้าเครียดขรึม เมื่อข่าวเช้าที่เขาได้รู้ก่อนอ่านหนังสือพิมพ์คือแม่ของเขาหายตัวไป(อย่างลึกลับ)

                คุณพ่อครับ

                น้ำเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มคนหนึ่งเรียกสายตาคมเข้มของอีริคให้หันไปมอง ร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีเทาเข้มขับเน้นให้ชายหนุ่มที่เพิ่งเดินลงบันไดมาจากชั้นสองของตัวบ้านดูสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาที่ละม้ายไปทางหนุ่มอเมริกันได้รับการสืบทอดมาจากปู่แท้ๆ ที่เป็นชาวอเมริกันแต่กำเนิด จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาคมเข้มสีดำดุจรัตติกาลทอแสงได้รับจากพ่อที่เป็นลูกครึ่งและมารดาแท้ๆ ที่เป็นคนไทย ทุกองค์ประกอบที่ผสมผสานได้สร้างงานศิลป์ที่สมบูรณ์แบบขึ้นบนใบหน้าอันหล่อเหลาของทายาทแห่งคาร์เตอร์คนนี้

    ยูริ...

    อีริค ลาร์ คาร์เตอร์ประธานบริหารแอลสาขาเอเชียในวัย 50 จ้องมองลูกชายคนเดียวที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะถอนหายใจออกมา

                เฮ้อ...พ่อผิดเอง

    อีริคจ้องมองลูกชายวัย 22 ปีของเขาอย่างอ่อนใจ

                ไม่ต้องห่วงครับ เรื่องคุณย่าผมจัดการเอง

                ยังไงก็ฝากด้วยนะ

                อีริคมองหน้าลูกชายที่ละม้ายคลายไปทางพ่อของเขาเสียมากด้วยสายตาเป็นกังวล เรื่องของเรื่องเป็นเขาเองที่ผิดใจกับผู้เป็นแม่จนทำให้เธอหนีไป ส่วนคนที่จะไปตามหาคุณย่าเอาแต่ใจที่หนีออกจากบ้านไปได้คงหนีไม่พ้นหลานชายสุดที่รัก หรือก็คือ ยูริ เฟรดเดอร์ริค คาร์เตอร์คนนี้

                ครับ

                ยูริรับคำผู้เป็นพ่อจากนั้นก็ออกจากบ้านไปทันที

                ร่างใหญ่ในชุดสูทสีเทาก้าวเท้าออกจากตัวบ้านพร้อมกับรับกุญแจรถสปอร์ตคันโปรดที่พ่อบ้านส่งให้ รถคันหรูที่จอดคอยท่าอยู่ถูกยูริเปิดประตูและพุ่งตัวเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ มือขวาของยูริลวงเอามือถือของเขาขึ้นมาและกดเพียงครั้งเดียว เครื่องโทรศัพท์ของเขาก็ส่งสัญญาณต่อไปยังปลายสายที่เขาตั้งระบบติดต่อเอาไว้ทันที

                ครับ คุณเฟรดเดอร์ริค

                เสียงของบอดี้การ์ดที่อยู่ทางปลายสายตอบรับเมื่อสัญญาณติดต่อดังขึ้น

                หานักสืบมือดีแล้วสืบหาให้ได้ว่าคุณย่าของฉันหนีไปไหน

                ยูริกรอกเสียงใส่โทรศัพท์

                ครับคุณเฟรดเดอร์ริค

                เมื่อยูริได้ยินบอดี้การ์ดที่อยู่ทางปลายสายรับคำเขาจึงกดวางสายและสตาร์ทเครื่องยนต์ก่อนจะพุ่งทะยานออกสู่ท้องถนนด้วยความเร็ว

               

                อย่ามองกันอย่างนั้นสิ ฉันเห็นใจแกนะ แต่แม่กับพ่อฉันเขาไม่เห็นดีเห็นงามที่แกจะหอบผ้าหอบผ่อนหนีมาอยู่บ้านฉัน แกเข้าใจมั้ย?”

                ไม่เห็นเข้าใจเลย เพื่อนมานอนค้างด้วย พ่อแม่แกจะหวงอะไรนักหา ฉันไม่เคยคิดจะปล้ำแกนะ          

                ฉันก็ไม่เอาแกเหมือนกันไอ้ศศิ!”

                อย่ารีบตอบได้มั้ย แกช่วยคิดสักนิด

                ศศิประภายืนทำหน้าน่าสงสารใส่เพื่อนคนดีที่เหลืออยู่เป็นรายสุดท้ายในกลุ่มที่ศศิพึ่งจะขอมานอนด้วย หลังจากที่หอบผ้าผ่อนหนีออกจากบ้านเช่าที่อยู่กับน้าสาวมากว่าหนึ่งอาทิตย์ศศิก็เวียนนอนค้างบ้านเพื่อนเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายมาตลอด แต่ทว่าอยู่นานมันก็ไม่งามเพราะเพื่อนๆ แต่ละคนของเธอล้วนอยู่กับพ่อแม่ และทุกครอบครัวก็มักจะมองศศิแปลกๆ เพราะว่าศศิต้องไปทำงานกลางคืนกลับทีเกือบเช้า พ่อแม่ของเพื่อนๆ เลยพากันเข้าใจว่าศศิประภาเป็นพวกชอบเที่ยว

    ด้วยเพราะกลัวว่าลูกๆ ของตนจะเสียเด็กตามศศิไป พ่อแม่เพื่อนทุกคนจึงกดดันลูกๆ ของตัวเองให้ไล่ศศิออกจากบ้าน แม้จะพยายามอธิบายยังไงศศิที่กลายเป็นเด็กใจแตกในสายตาคนอื่นเรียบร้อยไปแล้วก็ไม่อาจร้องเรียกความบริสุทธิ์ให้ตัวเองได้ ฉะนั้นศศิจึงต้องร่อนไปนอนบ้านอื่นๆ ของเพื่อนในกลุ่มต่อไปเรื่อยๆ และสุดท้ายก็คือเหมียวที่ตอนนี้ออกมายืนคุยกับศศิอยู่หน้าบ้านและกำลังบอกข่าวร้ายกับศศิอยู่

    เหมียวแกเป็นที่พึ่งสุดท้ายของฉันจริงๆ นะ ศศิบีบน้ำตาสุดฤทธิ์ในขณะที่เพื่อนก็ร้อนรนจนนั่งแทบจะไม่ติดเก้าอี้

    ไอ้ศศิแกอย่างทำแบบนี้ได้มั้ยวะ

    ไอ้เหมียว! แกอยากอ่านข่าวหน้าหนึ่งของเพื่อนพรุ่งนี้ใช่มั้ย

    ข่าวไร?”

    ก็ข่าวเพื่อนแกโดนฆ่าหมกส้วมอ่ะดิ

    ไม่ขนาดนั้นม้าง แกกลับไปคุยกับเขาดีๆ เดี๋ยวเขาก็ใจอ่อน

    ขอโทษนะเหมียวนั้นนักเลงนะคะ ไม่ใช่สามเณรแถวบ้านแกจะได้คุยกันรู้เรื่อง!”

    เล่นถึงพระเจ้า บาปนะคะ

    แกก็บาป แกกล้าไล่เพื่อนที่ไม่มีที่ซุกหัวนอนได้ยังไง ฮือๆ แกมัน มัน...ฮือๆ

    ศศิบีบน้ำตาเม็ดโตออกมาก่อนจะแกล้งร้องห่มร้องไห้ยกใหญ่

    ไอ้ศศิ! แกอย่าทำแบบนี้สิ โธ่เอ๊ย!”

    เหมียวมองเพื่อนที่ไร้ที่พึ่งอย่างสงสารจับใจ แต่ทว่าแม่กับพ่อสั่งไว้เธอเองก็ไม่กล้าขัด

    แกอยากเห็นฉันกลายเป็นศพจริงๆ ใช่มั้ย ฮือๆ

    เมื่อเห็นแววตาลังเลของเหมียว ศศิก็แกล้งบีบน้ำตาเพิ่มเข้าไปอีกจะได้สมบทบาท

    ยอมแล้วๆ ค้างด้วยก็ได้ ไม่ร้องๆ คืนนี้แกนอนกับฉันไปก่อนแล้วกัน แต่พรุ่งนี้ไม่ได้แล้วนะ

    โอเช! คืนนี้พรุ่งนี้ไปหาที่อยู่ใหม่ก็ได้ แต่คืนนี้...

    รักแกที่สุดเลยเหมียว ฮือๆ แกเป็นเพื่อนแท้ของฉัน

    ใบหน้าของศศิปรากฏรอยยิ้มหวานขณะที่เดินตามเหมียวเพื่อนสนิทเข้าบ้าน ในที่สุดคืนนี้ศศิก็หาที่นอนให้ตัวเองได้ แต่ทว่าไม่รู้ว่าคืนพรุ่งนี้สำหรับเธอจะเป็นอย่างไร เพราะต่อจากนี้ไปศศิจะไม่มีที่พึ่งอีกแล้ว ความลำบากที่แท้จริงกำลังรอคอยเธออยู่ บททดสอบของพระเจ้าที่แสนโหดร้ายกำลังเกิดขึ้นกับเธอ

    เฮ้อ! พรุ่งนี้จะเป็นยังไงต่อไปนะ...

     

    ยังไม่เจอครับ

    ยูริกดตัดสายโทรศัพท์ในมือก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ เป็นเวลาดึกมากแล้วหลังจากที่ยูริใช้เวลาและคนมากมายเพื่อตามหามาด้ามคาร์เตอร์ที่หายตัวออกไปจากบ้าน ทั่วพื้นที่เขตกรุงเทพที่กว้างใหญ่เขาไม่รู้ว่าจะไปตามหาคนในครอบครัวที่หายไปได้ที่ไหน เวลาและนาทีช่างเดินเร็วจนในที่สุดวันหนึ่งวันก็ผ่านพ้นไป ชายหนุ่มไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้เขาจะหาตัวคุณย่าพบรึเปล่า ยูริได้แต่นึกขัดใจที่อยู่ๆ พระเจ้าก็เล่นตลกให้บททดสอบอันแปลกประหลาดกับเขา

                เฮ้อ! พรุ่งนี้จะเป็นยังไงต่อไปนะ...



    >>>>>>>>>>>>>>>>>>
    มีแต่คนทวงเลยเอามาลงให้แล้วคร้า...
    โหวดๆ เมนต์ๆ ด้วยนะคะ....^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×