ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พันธนาการเสน่หา/Touch Publishing

    ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.พ. 54


      


    White Rose Ti Amo พันธนาการเสน่หา

    ไวท์โรส ติ อโม

     

    บทนำ

    ใครหลายคนต่างเชื่อมั่นในโชคชะตา รอการเดินทางมาถึงของพรหมลิขิตที่ไม่อาจมองเห็น แต่จะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าใช่ใครคนนั้นที่รอคอย จะเชื่อมั่นได้อย่างไรว่า เราคือของกันและกัน

     

    “ไม่จริง!

    เป็นปลายรุ้งที่หลุดปากเสียงดังออกไปอย่างแตกตื่น สิ่งที่ได้ฟังจากปากบิดาทำเอาโลกของเธอแทบพังทลาย รับรู้มาตลอดว่าวันหนึ่งเธอจะเป็นเจ้าสาวของคนที่ปู่หมายหมั้นไว้ให้ รอคอยและเชื่อมั่นโดยไม่เคยคิดเป็นอื่นเพราะเชื่อฟังในคำสั่งสอน ทว่าว่านี้ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่วาดหวัง จะไม่เจ็บปวดเลยถ้าเธอไม่เคยผูกพันและรู้จักว่าที่คู่หมั้นมาก่อน ทว่าสายใยบางๆ ที่เขาสร้างเชื่อมโยงหัวใจของปลายรุ้งเอาไว้มาตลอดหกปี ถ้าเขาไม่ต้องการตัวเธอแล้วทำเรื่องเหล่านั้นทำไม ส่งดอกกุหลาบและของขวัญมาให้ทำไม ถ้าวันนี้เขาจะมาบอกว่าจะไม่มีการแต่งงานเกิดขึ้น

    นัยน์ตาคู่สวยสั่นเทาอย่างรุนแรงรับรู้ว่าม่านสายหนึ่งกำลังคืบคลานเข้ามา และทำให้หญิงสาวไม่สามารถมองสิ่งที่อยู่ในมือได้ชัดเจนเหมือนเช่นดังก่อน หยาดน้ำใสคลอหน่วยด้วยเพราะกำลังนึกน้อยใจ เหตุใดเขาถึงมาตัดสัมพันธ์แล้วของขวัญที่ส่งให้ มันมีความหมายต่อเธอมากทว่าไม่เคยมีความหมายต่อเขาเลยใช่มั้ย

    ดอกกุหลาบขาวที่อยู่ในมือบางถูกวางลงบนตู้โชว์ที่อยู่ใกล้กับปลายรุ้ง ตอนนี้เธอรับรู้แล้วว่าทำไมดอกไม้ทั้งสองดอกถึงได้คล้ายคลึงกันมาก ที่แท้นั้นก็เพราะว่าคนที่มอบมันให้เธอนั้นเป็นคนๆ เดียวกัน เขาคือเจ้าของดอกกุหลาบขาวที่ส่งให้ปลายรุ้งมาตลอดห้าปี และเขาก็มอบมันให้เธอกับมือเมื่อตอนที่ได้เจอหน้ากันครั้งแรก

    “ปลายรุ้ง! ลูกจะไปไหน” พิทยาร้องเรียกบุตรสาวเสียงดัง เมื่ออยู่ๆ ปลายรุ้งก็หันหลังแล้ววิ่งพรวดพราดออกไปจากห้อง เขาไม่ทันสังเกตสีหน้าลูกสาวไม่ได้เห็นความปวดร้าวที่ฉายชัดอยู่ในดวงตาคู่สวยของเธอ

    ส้นรองเท้าคู่งามกระแทกพื้นกระเบื้องดังเป็นจังหวะ เมื่อยามที่หญิงสาววิ่งตรงออกไปยังทางเดินด้านนอก พบเห็นกลุ่มคนในชุดสูทสีดำกำลังยืนรายล้อมผู้เป็นนายอยู่ที่หน้าลิฟต์ และปลายรุ้งก็ไม่รีรอเลยที่จะก้าวเท้าตามพวกเขาไป อยากถามว่าเพราะอะไรเขาถึงได้มาทิ้งเธอตอนนี้ หรือเห็นว่าเธอไม่เหมาะสมกับเขา จึงบอกเลิกพันธะสัญญาในอดีตที่ปลายรุ้งยึดมั่นมาตลอด

    ประตูลิฟต์เปิดกว้างออกตรงหน้าชายหนุ่ม อัลก้าวเท้าเข้าไปด้านในพร้อมกับผู้ติดตาม ซึ่งเป็นเหล่าบอดี้การ์ดคอยทำหน้าที่ปกป้องทายาทคนเดียวของตระกูลวาเรนติโน่ ร่างสูงสง่ายืนนิ่งรอคอยให้ประตูอัตโนมัติของลิฟต์ปิดเข้าหากัน ทว่าขณะที่แผ่นเหล็กหนาหนักกำลังจะเข้ามาปิดกั้น ร่างบางของหญิงสาวที่อัลได้พบเจอ และทำความรู้จักอย่างเป็นทางการแล้วกลับปรากฏตัวขึ้นที่ตรงหน้า

    “ทำไม” คำถามดังขึ้นพร้อมกับนัยน์ตาคู่สวยที่เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใส ใบหน้าหวานเรื่อสีแดงอ่อนทว่าครานี้ไม่ใช่เพราะเธอกำลังเขินอาย แต่เป็นเพราะกำลังจะร้องไห้ออกมาต่อหน้าเขา

    ภาพที่ได้เห็นทำให้อัลยืนนิ่งตะลึงงันไปกับความรู้สึกบางอย่างที่ก่อเกิด เขาได้เห็นแล้วเมื่อยามที่รอยยิ้มหวานประดับอยู่บนใบหน้า ได้เห็นท่าทางเขินอายของสาวน้อยแรกรุ่น ได้สัมผัสและโอบกอดเธอแม้จะไม่ได้ตั้งใจ ทว่าสิ่งที่เขาไม่ปรารถนาเลยคือนัยน์ตาคู่งามที่เคยสดใส ต้องเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำแห่งความเสียใจจากความผิดที่เขาสร้าง

    มือใหญ่ยื่นออกไปขว้างทางประตูลิฟต์ที่กำลังจะปิดเข้าหากัน มันเป็นสิ่งที่เขาตั้งใจไม่ใช่การลืมตัวเหมือนครั้งแรกที่ส่งดอกกุหลาบขาวให้ อัลหันไปสั่งลูกน้องของตัวเองด้วยน้ำเสียงปกติ เห็นเหล่าบอดี้การ์ดทั้งหลายพากันทยอยเดินออกจากลิฟต์จนกระทั่งคนสุดท้าย จากนั้นนัยน์ตาสีนิลของเขาจึงค่อยทอดมองไปยังร่างบางของปลายรุ้ง วีรนันทนสกุล สบตาอย่างมีความหมาย รอคอยให้หญิงสาวเดินเข้ามาหา

    ปลายรุ้งยืนนิ่งที่หน้าลิฟต์รับรู้ว่าคนของชายหนุ่มเดินออกมายืนเรียงต่อกันเป็นแถวที่ด้านนอก ทว่าสายตาของหญิงสาวไม่ได้ละไปจากใบหน้าคมคายของเขาเลย นัยน์ตาคู่สวยยังคงจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาและสมบูรณ์แบบ มองอย่างตัดพ้อที่ทำได้ลงคอ ทั้งที่เธอรอวันที่จะได้พบเจอกันกับเขามากว่าหกปี

    หยาดน้ำใสปริ่มๆ ว่าจะรินร่วงนึกน้อยอกน้อยใจทั้งที่เฝ้าอดทนรอคอยมาตลอด ไม่เคยวาดฝันว่าคนที่ได้พบจะต้องหล่อเหลาเลิศเลอ เข้าใจเพียงแค่ว่าเขาคือคนที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางข้างหน้า ใครอีกคนที่จะเดินเคียงข้างไปพร้อมกัน ทว่าวันนี้กลับถูกเขาปฏิเสธทั้งๆ ที่เพิ่งพบเจอกันเพียงครั้งเดียว

    สองเท้าก้าวเดินไปข้างหน้าตามที่หัวใจดวงเล็กเรียกร้อง อยากฟังคำตอบจากปากของคนใจร้าย ว่าทำไมวันนี้เขาถึงมาเพื่อปฏิเสธ ไม่ว่าจะเป็นเพราะในตอนนี้เขามีคนรักอยู่แล้วหรือเพราะเธอไม่คู่ควร หญิงสาวก็อยากจะได้ยินเหตุผลที่เขามาเพื่อขอยกเลิกพันธะสัญญา ทั้งที่ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยผ่านมาถึงหกปีโดยไม่เคยเอ่ยปากบอกหรือส่งข่าว ซ้ำยังส่งของขวัญให้ไม่เคยขาดราวกับจะผูกมัดเอาไว้

    แล้วทำไมวันนี้เขาถึงทิ้งเธอ...

    ร่างบางหยุดยืนนิ่งอยู่เคียงข้างกับร่างสูงสง่าในชุดสูทสีดำเข้มของชายหนุ่ม ประตูลิฟต์เลื่อนปิดลงอย่างช้าๆ และตัวลิฟต์ก็เริ่มเคลื่อนที่ไปสู่จุดหมายปลายทางที่ถูกตั้งตำแหน่งไว้แต่เริ่มต้น ความเงียบเข้าปกคลุมเมื่อไม่มีใครเอ่ยคำพูดใดออกมา รวมทั้งปลายรุ้งที่เอาแต่ก้มหน้ายืนเงียบ ทั้งๆ ที่ในใจมีคำถามมากมายเหลือเกินที่กักเก็บไว้

    ใบหน้าหวานก้มต่ำมองสองมือของตัวเองที่เกาะกุมกันแน่น ราวกับต้องการเรียกพลังใจและความกล้าหาญ รับรู้แล้วว่าผู้ชายที่ยืนอยู่เคียงข้างคนนี้คือคู่หมั้นของเธอ เขาเดินทางไกลจากอิตาลีเพื่อมาบอกยกเลิกข้อตกลงในอดีต มาเพื่อลบล้างความผูกพันหกปีที่สร้างไว้ในหัวใจดวงเล็กของคนที่เฝ้าคอย

    ไม่มีคำถามใดๆ นอกจากความเจ็บช้ำน้ำใจที่กลั่นกรองออกมาเป็นหยาดน้ำใสที่แสนบริสุทธิ์ ปลายรุ้งไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องร้องไห้ เธอไม่เคยพบกันกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นมาก่อนเลยสักครั้งในชีวิตด้วยซ้ำ ทว่าเพราะยึดมั่นคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับปู่ บวกกับของขวัญแทนใจที่เจ้าของแหวนอีกวงคอยส่งให้ เพียงเท่านั้นจริงๆ ที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งปักใจเชื่อมั่น และต้องรู้สึกผิดหวังอย่างมหาศาลเมื่อความฝันทั้งหมดของเธอพังทลายลง

    ประกายวูบไหวบางอย่างทำให้ชายหนุ่มหันไปมองใบหน้าหวานของหญิงสาวที่ยืนเคียงใกล้ ลมหายใจของอัลสะดุดลงแทบทันที เมื่อเขาได้เห็นชัดว่าเจ้าของร่างเล็กนั้นกำลังร้องไห้ แทนที่คำประณามหรือคำถามร้อยพันที่เขาควรได้รับ กลับเป็นหยดน้ำตาที่รินไหลบนผิวแก้มนวล ร่างบางไหวสะท้านคล้ายพยายามกั้นเสียงสะอื้น ทว่าเสียงร้องไห้เบาๆ ของปลายรุ้ง ก็ทำให้อัลไม่สามารถยืนนิ่งข่มใจของตัวเองได้อีก

    ร่างบางของหญิงสาวที่กำลังสะอื้นไห้ถูกจับพลิกให้หันเข้าหา ร่างสูงใหญ่ของคนใจร้ายทอดกายเป็นเงาอยู่เหนือตัวเธอ สัมผัสจากไออุ่นของฝ่ามือใหญ่ที่วางอยู่บนหัวไหล่เล็กทั้งสองข้างทำให้ความรู้สึกหนักอึ้งในใจจางหาย การกระทำที่ไม่คาดฝันทำให้ปลายรุ้งเงยหน้าขึ้นมอง บอกความรู้สึกผ่านสายตาว่าเธอกำลังเสียใจกับการกระทำของเขามากที่สุด

    อัลมองเห็นแววตัดพ้อจากดวงโตกลมโตคู่สวยของหญิงสาว รับรู้ความรู้สึกต่างๆ มากมายที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านทางสายตา เข้าใจดีถึงความน้อยอกน้อยใจต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ทว่าเขาก็ทำได้เพียงลบคราบน้ำตาบนใบหน้าหวานให้ปลายรุ้งได้เท่านั้น

    นัยน์ตาสีดำทอประกายลึกล้ำสะกดร่างบางไว้ราวกับมีเวทมนต์ อัลขยับตัวเข้าหายกมือขึ้นเสมอกับนวลแก้มใส ลากไล้ปลายนิ้วแผ่วเบาเพื่อเช็ดหยาดน้ำตาของหญิงสาวที่พรางพรม ก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาใกล้จนปลายรุ้งรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนของเขา

    สัมผัสของชายหนุ่มที่ทั้งสุภาพและอ่อนโยน โอบกอดดวงใจดวงน้อยที่กำลังร้าวรานของปลายรุ้งไว้ ร่างบางไม่ขยับหนีเมื่อมือใหญ่ข้างหนึ่งยื่นมารั้งเอวเล็กของเธอ ส่วนอีกข้างเชยปลายคางมนขึ้นทำให้ทั้งสองได้สบตากันชิดใกล้ และปลายรุ้งก็ได้เห็นแววความเจ็บปวดสายหนึ่งวูบไหวในดวงตาสีนิลคู่งาม

    ความเย็นจากบางอย่างที่แผงอกกว้าง ภายใต้เสื้อเชิ้ตผ้าไหมแท้เนื้อดีบอกกับอัลว่า เขากำลังก้าวลงไปเดินบนเส้นทางที่ผิด ทว่าชายหนุ่มกับกดสิ่งที่คล้องติดกับสร้อยเงินที่คอของเขาเอาไว้ ให้ความร้อนและไออุ่นจากร่างกายหลอมรวมไอเย็นให้หมดไปจากแหวนทองคำขาวที่ร้อยติดอยู่กับสร้อยคอ

    “มิ ดิสปิอาเช่[1]” เสียงกระซิบดังขึ้นก่อนที่อัลจะแตะริมฝีปากได้รูปสวยของเขาลงบนหน้าผากนวล จุมพิตแผ่วเบาอย่างอ่อนโยน ช่วยปลอบประโลมและลบล้างความเศร้าหมอง พร้อมกับประทับตราตรึงความรู้สึกหนึ่งที่ติดค้างอยู่ในหัวใจของชายหนุ่มลงไป

    ขอโทษ...ที่ต้องผิดสัญญา



    [1] Mi dispiace ผมขอโทษ 



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×